Beranda / โรแมนติก / พระชายาตำหนักเย็น / ตอนที่ 02 ระบบปลูกผัก

Share

ตอนที่ 02 ระบบปลูกผัก

Penulis: Jiraiyajung
last update Terakhir Diperbarui: 2024-12-06 14:36:05

จางเสี่ยวหลงได้ยินเสียงระบบก็รู้สึกมีความหวังขึ้นมาเล็กน้อย อย่างไรเสียเธอก็ไม่ได้ถูกทิ้งตามลำพัง แล้วระบบนี้จะช่วยให้เธอกลับบ้านได้หรือเปล่านะ 

(ระบบไม่สามารถทำได้ค่ะ แต่สามารถช่วยเหลือ และ มอบหมายภารกิจให้ได้ ถ้าทำสำเร็จจะได้รับคะแนนเพื่อแลกเปลี่ยนของใช้ที่จำเป็นได้) 

ไม่คิดว่าระบบจะใช้วิธีสื่อสารแบบนี้ เธอเคยเห็นแค่ในซีรีส์ ที่จะมีระบบแนวนี้มาช่วยเหลือ ถ้าอย่างนั้นเธอจะใช้งานระบบนี้ได้อย่างไร 

(ผู้ใช้สามารถเข้ามาในระบบได้อย่างอิสระ เพียงแค่พูดว่าเข้าสู่ระบบ ร่างกายของผู้ใช้จะเข้ามาในมิติของระบบโดยอัตโนมัติ แต่ไม่สามารถนำสิ่งมีชีวิตเข้ามาได้)

แบบนี้เองเหรอ จางเสี่ยวหลงรู้สึกทึ่งกับระบบนี้มาก เธออยากลองเข้าไปดู แต่ไม่อยากให้บ่าวรับใช้สองคนของตนต้องตื่นตระหนก ถ้าเห็นว่าเธอหายวับไปกับตาจะเป็นยังไงนะ

“พวกเธอ.. เออไม่สิ พวกเจ้าสองคนไปพักเถอะ ข้าอยากพักผ่อนเช่นกัน” จางเสี่ยวหลงพูดกับสองคน นางอยู่ในร่างของหลานเสวี่ย และจะเป็นหนึ่งเดียวกันกับร่างนี้ นางจึงจะต้องกลมกลืนกับสถานที่แห่งนี้เสียก่อน

“ท่านหายดีจริง ๆ ใช่ไหมเจ้าคะ” หยางหยาง พูดด้วยสีหน้าเป็นห่วง

“ถ้าท่านยังไม่หาย ข้าจะไปตามหมอมาให้นะ” เหมยเหมย พร้อมที่จะลุกไปทันที

แม้ว่าเธอจะรู้ตัวดีว่าไม่มีใครยอมช่วยเหลือ และเท่าที่สองบ่าวรับใช้เล่าให้ฟัง จางเสี่ยวหลงก็พอเข้าใจสถานการณ์อย่างดี พวกเธอสามคนพูดได้เต็มปากว่า จะอยู่ก็ได้จะตายก็ไม่มีใครว่า ใครจะยื่นมือเข้าไปช่วยพวกเธอ

“ข้าไม่เป็นอะไรแล้ว พวกเจ้าไปพักเถอะเหนื่อยมาหลายวันแล้วเดี๋ยวจะล้มป่วยเอาได้” หลานเสวี่ยยิ้มอ่อนให้สองคน ทำให้ทั้งสองรู้สึกอุ่นใจขึ้นมา ถึงจะรู้สึกว่าคุณหนูของตนเปลี่ยนไปแล้วก็ตาม

“พวกเราสองคนไปพักก่อนนะเจ้าคะ หากคุณหนูต้องการอะไรเรียกพวกเราได้เลย” 

“เข้าใจแล้ว ไปพักเถอะ” 

สองคนก้มคำนับก่อนจะเดินออกไปจากห้อง พอเห็นแบบนี้จางเสี่ยวหลงก็รู้สึกได้ถึงความห่วงใย ของทั้งสองคน ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าต้องเข้าไปสำรวจระบบ เข้าสู่ระบบ 

(ยินดีต้อนรับผู้ใช้ นี้คือระบบของท่าน) 

เพียงแค่แวบเดียวนางก็เข้ามาในห้องมิติที่เป็นเหมือนโลกอีกใบหนึ่ง สายตาคมจับจองทิวทัศน์สวยงามสุดลูกหูลูกตา ท่ามกลางท้องฟ้าที่สดใส แต่ทว่าเธอไม่สามารถเดินออกไปได้ไกลนักเหมือนมีกำแพงที่มองไม่เห็นขัดขวางเธออยู่ 

เธอเดินสำรวจจนพอเข้าใจได้ว่าพื้นที่ที่สามารถใช้ได้มีแค่ขนาดห้าตารางเมตรเท่านั้น 

(ได้รับ 100 คะแนนสำหรับเข้าสู่ระบบครั้งแรก)

(ได้รับ 10 คะแนนสำหรับการสำรวจพื้นที่) 

ระบบแจ้งเตือนอีกครั้ง ทำให้เธอเห็นว่า มีเมนูร้านค้า และ จำนวนแต้มที่มีแสดงอยู่มุมขวาบน อย่างกับในเกม

“ระบบ ฉันสามารถใช้แต้มทำอะไรได้บ้าง” 

(สามารถแลกเปลี่ยนสินค้าในร้านค้าได้ แต่ดิฉันขอแนะนำให้ซื้อเมล็ดพันธุ์พืชสำหรับเพาะปลูก เพื่อให้ได้รับแต้มเพิ่ม และถุงมิติเพื่อเอาไว้เก็บเกี่ยวผลผลิต) 

ระบบนี้มีประโยชน์เหมือนกันไม่ใช่เหรอ จางเสี่ยวหลงกดเข้าเมนูก็มีรายการสินค้ามากมาย ตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ มีครบหมดเลย ขอแค่มีแต้มเพียงพอก็สามารถใช้ชีวิตอย่างสุขสบายได้แล้ว

แต่ว่าจะใช้คุณหนูอย่างเธอมาปลูกผัก ไม่รู้ว่าจะเห็นยอดอ่อนของมันหรือเปล่า ชีวิตก่อนเธอไม่เคยลำบากใช้ชีวิตสุขสบาย เล่นเที่ยวซื้อของ ดูซีรีส์ จะลำบากหน่อยก็แค่เรื่องเรียนอย่างเดียว มาถึงตอนนี้เธอต้องกลายมาเป็นคนปลูกผักเสียแล้ว

(ระบบขอแนะนำว่าผู้ใช้ สามารถใช้ 4 แต้มเพื่อปลูก และ เก็บเกี่ยวอัตโนมัติ) 

“แบบนี้ก็ดีเลย ถ้างั้นก็ปลูกเลยแล้วกัน” 

ก่อนอื่นต้องเลือกแนวพันธุ์เสียก่อน ปลูกอะไรดีนะ เธอเห็นรูปผักกาดขาวหัวใหญ่ก็เลยเลือกมา มันฝรั่ง สองอย่างก็เต็มสวนของเธอตอนนี้แล้ว

ผักกาดขาว 5 คะแนน มันฝรั่งใช้ไป 5 คะแนนเช่นกัน แล้วก็ปลูกกับเก็บเกี่ยวอัตโนมัติ 4 คะแนนทำให้เหลือ 96 คะแนน

หลังจากที่สั่งให้ปลูกอัตโนมัติ เธอก็ต้องตกใจเมื่อเห็นข้าวของเครื่องใช้กำลังทำงานเอง อย่างกับในเกมปลูกผักเลย ก่อนที่เธอจะสนใจบ่อน้ำพุที่ใสสะอาดราวกับว่าเป็นน้ำวิเศษ

“น้ำพุที่นี่ดื่มได้หรือเปล่า”

(ดื่มได้ค่ะ จะทำให้ร่างกายแข็งแรง และเพิ่มการเจริญเติบโตของพืชได้อีกด้วย) 

จางเสี่ยวหลงไม่รอช้ารีบใช้มือสองข้างตักน้ำขึ้นมาดื่ม ทันทีที่น้ำพุซึมเข้าไปในร่างกายเธอก็รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลง ราวกับว่าร่างกายตอนนี้เบาสบายมาก ๆ รู้สึกเหมือนจะมองเห็นชัดกว่าเดิมเสียอีก 

แต่สิ่งที่ทำให้เธอตกใจเห็นทีจะเป็นส่วนผักที่กำลังมียอดอ่อนของผักกาดขาว และ มันฝรั่งผุดขึ้นมาจากพื้น 

“เติบโตเร็วมาก ๆ เลยเจ้าผักกาด เจ้ามันฝรั่งก็เหมือนกัน แบบนี้ไม่นานก็เก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้วใช่ไหม คงจะดีกว่านี้ถ้าสามารถกินได้” 

(พืชที่ปลูกที่นี่สามารถรับประทานได้ตามปกติ แล้วดีต่อร่างกายมากกว่าพืชที่ปลูกข้างนอกหลายสิบเท่า)

“แบบนี้จะดีมากเลย ต่อไปไม่ต้องอดอยากอีกแล้วนะหลานเสวี่ยข้าจะดูแลร่างกายนี้ให้ดี และดูแลบ่าวรับใช้ของเจ้าด้วย” ใบหน้างามยิ้มด้วยความดีใจ

(ได้รับ 20 คะแนนสำหรับการเพาะปลูกผักกาดขาวครั้งแรก)

(ได้รับ 20 คะแนนสำหรับการเพาะปลูกมันฝรั่งครั้งแรก) 

(ได้รับ 20 คะแนนสำหรับการใช้การเพาะปลูกอัตโนมัติ) 

“ทำอะไรครั้งแรกจะได้รับคะแนนสินะ ตอนนี้มี 156 คะแนนแล้ว วันนี้พอแค่นี้ก่อนดีกว่ารู้สึกง่วงขึ้นมาแล้วสิ ออกจากระบบ” 

ทันทีที่สั่งเธอก็มาอยู่ที่ห้องเหมือนเดิม ร่างแบบบางกอดตัวเองอย่างช่วยไม่ได้ ร่างกายรู้สึกหนาวมาก ๆ อากาศที่นี่หนาวขนาดนี้ ทำไมผ้าห่มถึงได้บางจังเลบ

(ระบบอัพเดทความทรงของเจ้าของร่าง) 

“หมายความว่าไง ทำไม...ปวดหัวจังเลย” 

จางเสี่ยวหลงรู้สึกปวดหัวก่อนจะหลับไป เธอตื่นมาในความฝันที่เป็นเหมือนเรื่องราวต่าง ๆ ของหลานเสวี่ย เรื่องราวสำคัญของเธอถูกอัพโหลดเข้ามาในหัวของจางเสี่ยวหลงทีละนิด

คุณหนูตระกูลขุนนางจวนเสนาบดี ใช้ชีวิตสุขสบายตั้งแต่เด็กจนกระทั่งวันที่นางต้องออกเรือนเพราะครอบครัวบีบบังคับ ตอนแรกคนที่ต้องแต่งออกไปคือ พี่สาวของหลานเสวี่ย แต่เพราะเหตุใดไม่รู้กลายเป็นว่านางต้องเข้าพิธีกับ หลงเยี่ยนองค์ชายสาม แห่งแคว้นต้าเหยียนเมื่อสี่ปีก่อน 

ทว่าเขากับไม่สนใจไยดีนางแม้แต่นิดเดียว คืนเข้าหอไม่เห็นแม้แต่หน้าของเขา ผ้าปิดหน้าสีแดงของสตรีผู้งดงามยังคงอยู่เช่นเดิมจนถึงเช้า ต่อจากนั้นแม้ชีวิตจะอยู่ในจวนองค์ชาย แต่ก็เป็นแค่ในนาม ทั้งสองไม่เคยเดินสวนกันด้วยซ้ำ 

หลานเสวี่ยต้องใช้ชีวิตแบบนั้นทุก ๆ วันจนกระทั่งมีเหตุการณ์ครั้งใหญ่ที่ทำให้นางมาอยู่ในตำหนักเย็น เพราะตอนนั้นฮ่องเต้องค์ก่อนสวรรคต ทำให้หลายคนเคลื่อนไหว จนเกิดความวุ่นวาย และสุดท้าย หลงเยี่ยนก็ขึ้นครองราชย์กลายเป็นฮ่องเต้องค์ใหม่

ทว่าตระกูลหลานที่สนับสนุนองค์รัชทายาทได้ถูกขับไล่ไปอยู่ทางใต้เพราะเป็นผู้พ่ายแพ้ ส่วนนางก็ติดร่างแหไปด้วย เดิมที่เขาก็ไม่ชอบนางเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เกิดเรื่องขึ้นแบบนี้เขาจึงส่งนางไปอยู่ในตำหนักเย็น 

ตลอดเวลาสามปี หลานเสวี่ยดิ้นรนเอาชีวิตให้รอดในแต่ละวัน โดยมีหยางหยาง กับเหมยเหมยช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ทั้งสองคนอดอยากปากแห้งมาตลอดสามปี เพราะไม่มีใครยำเกรงพระชายาตำหนักเย็น

พวกข้ารับใช้ในวังก็ไม่เห็นหัว แถมยังแอบตัดเบี้ยเลี้ยงของนางไปเป็นของพวกตัวเอง ทำให้ชีวิตของหลานเสวี่ยยิ่งลำบากกว่าเดิม จนกระทั่งล้มป่วย และเสียชีวิต

จางเสี่ยวหลงร้องไห้เมื่อรับรู้เรื่องราวทุกอย่าง เรื่องพวกนี้ราวกับว่ามันเกิดขึ้นกับตัวเธอจริง ประสบการณ์ทั้งหมดเหมือนว่าเธอเคยผ่านมาด้วยตนเอง เธอสงสารผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้จับใจ

“หลานเสวี่ยฉันสัญญาว่าจะใช้ชีวิตที่เหลือให้สุขสบาย รวมถึงจะดูแลคนของเธอให้อยู่ดีกินดี เธอไม่ต้องห่วงหรอกนะ สักวันฉันจะออกไปจากที่นี่ ไปใช้ชีวิตข้างนอกอย่างมีความสุขให้ได้”

จางเสี่ยวหลงพูดกับตัวเองในความฝัน ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่แล้วก่อนที่เธอจะรับรู้ถึงความหนาวอีกครั้งหนึ่ง  ดวงตากลมโตขยับไปมาเพื่อปรับแสงที่ส่องผ่านเข้ามา ร่างเพรียวยันตัวลุกขึ้นสำรวจร่างกายตัวเอง 

แม้จะรู้เรื่องราวมากมายแต่เธอก็คิดว่าทุกอย่างเป็นเพียงความฝัน เธอแทบไม่อยากเชื่อว่าต้องทะลุมิติมาอยู่ในร่างคนอื่น แม้จะรู้สึกว่าเธอเป็นหลานเสวี่ยจริง ๆ ก็ตาม

ผู้หญิงคนนี้งดงามเหลือเกิน ใบหน้าสวยได้รูป หุ่นเพรียวผิวพรรณผุดผ่อง ดูดีจริง ๆ ขนาดเธอที่ชีวิตก่อนก็สวยอยู่แล้วยังต้องอิจฉา แม้จะอยู่ในชุดผ้าไหมสีขาวเก่า ๆ ยังดูดีขนาดนี้เลย จางเสี่ยวหลงคิดในใจว่า ฮ่องเต้องค์นั้นคงตาบอดไปแล้วที่ไม่ทะนุถนอมนางเอาไว้

ผู้หญิงที่งดงามทั้งนอกและในแบบหลานเสวี่ย ต่อให้เขาหาผู้หญิงแบบนี้ทั้งแผ่นดินก็คงไม่มีใครเทียบได้ ช่างเถอะต่อไปต้องยืนด้วยลำแข้งของตัวเองให้ได้ก่อน 

“แต่ตอนนี้หิวจังเลย มีอะไรกินบ้างไหมเนี่ย” 

“คุณหนู ท่านล้างหน้าก่อนเถิดเจ้าค่ะ เสร็จแล้วบ่าวจะให้เหมยเหมยยกอาหารมาให้” หยางหยางยกถังน้ำมาให้ 

จางเสี่ยวหลงสามารถจดจำสิ่งที่ร่างนี้เคยทำมาก่อน เธอเลยทำทุกอย่างได้อย่างดี 

“คุณหนู ทำไมท่านดู... เหมือนจะอวบอิ่มขึ้นมานะเจ้าคะ ผิวพรรณสดใสขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน สวยมากเลยเจ้าค่ะ” 

จางเสี่ยวหลงแทบจะไม่อยากเชื่อว่านั้นคือเรื่องจริง เธอก็คิดว่าตัวเองรู้สึกเพียงคนเดียวเท่านั้น 

“ข้าเป็นแบบนั้นจริงหรือ เอากระจกมาให้หน่อยสิ” 

เมื่อมองตัวเองในกระจกก็รับรู้ว่าเป็นอย่างที่นางบอกจริง เพราะอะไรกันนะทำไมถึงดูดีผิดหูผิดตาแบบนี้ ก่อนยิ้มดีใจให้กับตัวเอง คนอะไรสวยขนาดนี้

“อาหารมาแล้วเจ้าคะ” 

เมื่ออาหารเข้ามาเธอก็หันไปให้ความสนใจ เพราะกำลังหิวอยู่พอดี แต่ทว่าตรงหน้าเรียกว่าอาหารได้หรือเปล่าเนี่ย ทำไมมันเหมือนอ้วกแทนที่จะเป็นอาหาร เธอขยี้ตาดูอีกรอบก็คงเป็นเหมือนเดิม

หลานเสวี่ยเธอต้องกินอาหารพวกนี้ทุกวันสินะ แต่จางเสี่ยวหลงไม่มีวันที่จะตักอาหารแบบนี้เข้าปากแน่ ยอมตายดีกว่า ถ้าให้กินของแบบนี้

“ข้ากินไม่ลงหรอกนะ มันน่า.... ไม่มีอย่างอื่นแล้วเหรออย่างเช่น หมูผัดพริก ไก่ย่าง หรือซาลาเปาไส้หมูก็ได้” 

ทั้งสองคนก้มหน้ารู้สึกผิดที่รับใช้ให้คุณหนูของตนได้ทานอาหารดี ๆ ไม่ได้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนจวนตระกูลหลาน ไม่มีทางให้คุณหนูของพวกเธออดอยากแน่นอน

“เอาละ ไม่ต้องทำหน้าแบบนี้หรอกข้าไม่โทษพวกเจ้า แต่ว่านะต่อไปเราจะไม่กินอาหารพวกนี้อีกแล้ว ข้าจะทำอาหารให้พวกเจ้ากินเอง” เธอพูดด้วยท่าทางมั่นใจ เพราะฝีมือทำอาหารของเธอไม่ได้ด้อยไปกว่าเชฟมิชลินเลย

“แต่เราไม่มีข้าวของอะไรเลยนะเจ้าคะ” 

“พวกเขาให้เราแค่นี้ ข้าขอโทษคุณหนู”

แน่นอนว่าเธอรู้ดี เพราะเธอเพิ่งคิดออกว่าตัวเองปลูกผักกาดขาวเอาไว้อยู่

“รอดูได้เลย เดี๋ยวข้าจะใช้เวทมนตร์ให้พวกเจ้าดู” จางเสี่ยวหลงพูดหาข้ออ้างไปตามสถานการณ์ เธอคิดว่าให้พวกเขาเข้าใจว่าเธอมีเวทมนตร์ดีกว่าต้องปิดบัง ถึงจะไม่รู้ว่าเวทมนตร์มีจริงหรือเปล่า

ทั้งสองคนมองหน้ากันอย่างงุนงง พวกเธอก็พอรู้ว่ามีหลายคนใช้วิชาเวทมนตร์ได้ แต่คุณหนูของเธอเคยเรียนตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 53 แม่น้ำสองสายไม่มีทางบรรจบกัน

    หลานเสวี่ยเหนื่อยล้าจากการทำงานทั้งวัน แต่นางยังคงเป็นกังวลเรื่องหลงเยี่ยน แม้จะพยายามบอกตัวเองว่าไม่ควรสนใจ แต่ภาพของเขายังคงวนเวียนอยู่ในใจ ตลอดเวลาหลายวัน นางนอนพลิกไปพลิกมา เพราะเรื่องเขา ถ้าเป็นเมื่อก่อนป่านนี้คงกลับโลกเดิมไปแล้ว เพราะคะแนนเพียงพอ แต่นางยังคงรอให้เขากลับมาก่อน “หวังว่าเขาจะปลอดภัย” นางพึมพำก่อนหลับตาลงวันรุ่งขึ้นก็มีข่าวจากสนามรบมาถึงเมืองหลวง โดยมีทั้งข่าวดีและข่าวร้าย ได้ยินว่าท่านแม่ทัพบาดเจ็บ ก็ทำเอาหลานเสวี่ยใจคอไม่ดี รีบเตรียมน้ำวิเศษเอาไว้รอเขา ร่างเพรียวบางสวมอาภรณ์สีน้ำเงินอ่อน เดินไปมาหน้าจวนตั้งแต่ที่รู้ข่าวว่าได้รับชัยชนะนางก็มารอ แม้ทหารยามจะบอกว่าอีกสี่ห้าวันถึงจะมาถึงแต่นางไม่อาจอยู่นิ่งได้ ราวกับมีก้อนไฟที่สุมอยู่ในอกข้างซ้าย นางถึงขั้นนั่งรอตั้งแต่เช้ายันฟ้ามืด โดยหารู้ไม่ว่าหลงเยี่ยนมาถึงแล้ว แต่ใช้ประตูมิติไปที่ห้องหนังสือแทน พอรู้ว่านางรอเขาก็ได้แต่หัวเราะออกมา “ต่อให้ทำดี ข้าก็ไม่ใจอ่อนหรอกนะ” เขาได้แต่มองนางอยู่ข้างในจวนราวกับว่าทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด ความรู้สึก และความต้องการที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น ทำให้เ

  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 52 ออกรบอย่างเร่งรีบ

    เช้าตรู่ของวันใหม่ เสียงฝีเท้าหนักแน่นของทหารดังสะท้อนไปทั่วจวน ก่อนที่ทหารคนหนึ่งจะเดินเข้ามาในห้องหนังสือ ท่าทีเร่งรีบของ แม่ทัพเฉินพร้อมใบหน้าเคร่งขรึมเดินเข้ามา “กราบทูลท่านแม่ทัพ! ทัพศัตรูจากแคว้นกุ้ยโจว กับแคว้นหานโจวได้เคลื่อนพลประชิดชายแดนแล้วขอรับ!”หลงเยี่ยนที่กำลังอ่านรายงานอยู่ เงยหน้าขึ้นทันที ดวงตาคมปลาบแสดงถึงความมุ่งมั่นที่เด็ดเดี่ยว ก่อนจะออกคำสั่ง “จัดเตรียมกองกำลัง ข้าจะออกไปบัญชาการศึกด้วยตัวเอง”แม่ทัพเฉินคำนับและออกไปอย่างรวดเร็ว เมื่อหลงเยี่ยนลุกขึ้นและเดินผ่านห้องโถง หลานเสวี่ยที่เพิ่งตื่นและได้ยินข่าวลือในจวน รีบตรงไปหาหลงเยี่ยน นางเอกก็แปลกใจอยู่หลายส่วน เพราะต้าเหยียนไม่ใช่เมื่อก่อนที่ขาดแคลนเสบียง แถมตอนนี้กำลังทหารน่าจะเพิ่มขึ้นอีกหลายส่วนกุ้ยโจว กับ หานโจ คิดทำอันใดอยู่ถึงกล้าทำเช่นนี้ นางเดินมาส่งหลงเยี่ยนอย่างจำใจ ถ้าหากเขาออกไปแล้วนางก็จะไม่ขออยู่จวนแม่ทัพอีก “ท่านแม่ทัพ ข้าได้ยินว่าศัตรูมาประชิดชายแดน ท่านจะไปออกศึกหรือเจ้าค่ะ” น้ำเสียงของหลานเสวี่ยเจือความกังวล แม้จะพยายามปกปิดความดีใจของตน“เจ้าคงดีใจ และสาปแช่งให้ข้ามีอันเป็นไปกระมัง ถึงยิ้มออกน

  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 51 บทรักต้องห้าม

    หลานเสวี่ยถูกกักบริเวณไว้ในจวนของแม่ทัพ นางไม่สามารถออกไปได้เพราะมีทหารเฝ้าอยู่ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะคะแนนความดีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่ที่แปลกคือเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ราวกับว่านางเปิดร้านเป็นร้อยสาขาไม่นานก็ตกเย็นยังไม่เห็นเงาของหลงเยี่ยนเลย แต่ก็ดีนางคิดในใจ ก่อนจะเดินไปมาในจวน แล้วนึกขึ้นได้เมื่อเห็นทหารยาม“ข้าถามอะไรได้หรือไม่” นางเดินมาถามทหารยาม เมื่อเห็นว่าเป็นหลานเสวี่ย ทหารยามก็ทำความเคารพอย่างเคร่งครัด สงสัยคงไม่ได้รู้เรื่องของนาง นับว่าฮ่องเต้บ้าอำนาจยังเป็นคนดีอยู่บ้าง“มีอันใดให้ข้าน้อยรับใช้หรือขอรับ” ทหารยามก้มศีรษะลงเล็กน้อยเป็นการทำความเคารพ“แค่อยากถามเท่านั้นเอง แล้วท่านแม่ทัพหายไปไหนหรือ มืดค่ำเช่นนี้ยังไม่กลับมาอีก” สงสัยคงไม่อยากเจอหน้านางหรือ“ท่านแม่ทัพออกไปแจกเสบียงขอรับ” “เสบียงอะไรหรือ” “แม่นางคงยังไม่รู้ ท่านแม่ทัพเอาเงินส่วนตัวมาซื้อเสบียงแจกจ่ายให้กองทัพ เห็นที่ร้านสะดวกซื้อของท่านสินค้าคงไม่เหลือแล้ว” ทหารยามพูดไปยิ้มไป หลานเสวี่ยจึงพอเข้าใจ ที่แท้เป็นเขาเองหรือที่อยากให้นางกลับโลกเดิมเร็ว ๆ จนใช้วิธีนี้ ชิงชังกันขนาดนั้นเชียวหรือ นางกัดฟันแน่นคิดแล

  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 50 เข้าหอย้อนหลัง

    ร่างเพรียวถอยห่างแต่ก็ถูกมือหนาคว้าเอาไว้ ไม่ยอมให้ริมฝีปากหวานหนีพ้น มือเล็กอ่อนระทวยไร้เรี่ยวแรงต่อต้าน เสียงหัวใจพลันเต้นโครมครามราวกับกลองศึก เลือกในกายสูบฉีด ไปต่างจากคนตัวโตที่ทุบกำแพงสูงใหญ่ข้ามความกลัวของตัวเอง เพียงแค่ริมฝีปากสัมผัสกัน เขาก็สัญญากับตัวเองว่าจะไม่ปล่อยนางไปอีกครั้ง ต่อให้นางยอมตรอมใจตายตามคนอื่น เขาก็จะชุบชีวิตนางขึ้นมา หลงเยี่ยนกอดรัดร่างแบบบางให้แนบชิดแผ่นอก ริมฝีปากหนักหน่วงดันลิ้นร้อนเข้าไปสำรวจโพรงปากหวาน หลานเสวี่ยตาเบิกกว้างเมื่อสัมผัสลิ้นนุ่ม ทว่าทุกอย่างราวกับสายฟ้าแลบ เพียงชั่วอึดใจ นางก็ถูกหลงเยี่ยนดูดดึงลิ้นเล็กอย่างเอาแต่ใจ ความหิวโหยหนักหน่วงไม่ลดละ เข้าไม่ปล่อยให้นางได้หลีกหนี ร่างสูงรวบตัวยาวขึ้นก่อนจะเดินไปที่ห้องนอน หลานเสวี่ยอายจนหน้าแดงก่ำ แต่นางกลัวมากเมื่อรู้ว่าถูกพาเข้ามาในห้อง“ฝ่าบาทจะมำอันใดหรือเพคะ...” นางพูดเสียงสั่นเครือ เรียกด้วยสถานะจริงของเขา “ทำเช่นนี้ไม่เหมาะกระมัง” หลานเสวี่ยไม่อยากฉวยโอกาส ใช้ร่างกายของคนอื่น แม้ว่าหัวใจนางจะปลิวละล่องไปตามเขาแล้ว“วันนี้เรามาเข้าหอกันใหม่ ข้าไม่ปล่อยเจ้าอีกแล้ว เป็นของข้าทั้งตัวทั้งใจเถิด

  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 49 จับไม่ได้ไล่ไม่ทัน

    หลงเยี่ยนกระชากแขนเรียวดึงเข้าหาตัว สายตาพลันจับจ้องดวงหน้าสวย ทั้งคู่มองตาไม่กะพริบ มือเรียวดันแผ่นอกเอาไว้ หลงเยี่ยนมองนางด้วยสายตาสับสน เหมือนความคิดของเขาที่ไม่ตรงกัน ยิ่งหลานเสวี่ยบ่ายเบี่ยงไม่ยอมบอกความจริง หัวใจของเขาพลันเจ็บแปลบขึ้นมา ใบหน้าคมสวยไม่กล้าสบตาคู่นั้น หันไปมองโคมไฟข้างฝาแทน แต่มือหนาประคองแก้มนวลให้หันมาสบตาเช่นเดิม“เจ้าไม่ไว้ใจข้าหรือ ถึงขนาดนี้เจ้ายังมองข้าเป็นคนอื่นหรือไร บอกความจริงเถิด” หลงเยี่ยนคิ้วขมวดเข้าหากันจนเป็นปม ใบหน้าแสดงออกถึงความสับสนและร้อนรุ่มในใจ แต่จะให้หลานเสวี่ยทำอย่างไร หากบอกไปชีวิตนางจะยังเหลือให้กลับบ้านอีกหรือ นางกลัวจนหัวใจเต้นระรัว ร่างกายแบบบางสั่นเทา “ข้าน้อยบอกไม่ได้...ข้าน้อยไม่มีทางคิดเป็นอื่น” นางกล่าวตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ สายตาคู่งามยามจ้องมองฉายแววเศร้าหมอง คิ้วสวยหักลงยามที่นึกถึงชะตากรรมตัวเอง เขารักหลานเสวี่ยมากเท่าใดไม่ใช่ว่านางจะไม่รู้ หากทุกอย่างเปิดเผยถึงคราวนั้นชีวิตจางเสี่ยวหลงจะเป็นยังไง “เหตุใดถึงปากแข็งนัก แค่เจ้าพูดมาข้าก็ช่วยเจ้าได้ หรือที่เจ้าไม่พูดเพราะเกี่ยวกับกวนเหยาหมิง” หลงเยี่ยนพูดพลางบีบมือเรียวสุด

  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 48 ปากแข็งยิ่งนัก

    หลังจากเดินทางมายาวนานก็มาถึงเมืองหลวง หลานเสวี่ยที่ไม่มีอะไรทำมาหลายวันก็ตรงไปที่หอการค้าร้านสะดวกซื้อทันที ทว่าเมื่อนางมาถึงก็ทำให้ผู้คนตามสองข้างทางมองตามไม่กะพริบตา สตรีที่งดงามเช่นนี้มีในเมืองหลวงด้วยหรือ ทุกสายตาต่างสงสัยผู้คนรายล้อมมองดู ต่างก็ไม่รู้ว่านางเป็นคนตระกูลไหน การมาถึงของหลานเสวี่ยทำให้พ่อสื่อแม่สื่อมีงานล้นมือเป็นแน่ เพราะเหล่าชายโสดต่างติดต่อถามไถ่ถึงนางกันทั่วหน้า หลานเสวี่ยเดินไปไม่สนสายตาของผู้คน เหล่าชายหนุ่มตระกูลสูงศักดิ์หรือสามัญชนคนธรรมดาก็ไม่อยู่ในสายตา เพียงแค่นางก้าวเดินคนก็พร้อมจะเปิดทางให้อย่างเต็มใจ จนมาถึงหอการค้าของตน คนคุ้มกันก็ยืนทำหน้าที่อย่างทุกวันแต่วันนี้คนคุ้มกันตกตะลึงจนหันไปมองตาม แค่นางเข้ามาในร้านยิ่งดูโดดเด่น เสี่ยวเอ้อร์ในร้านต่างก็มาให้การบริหารอย่างเต็มใจ ใบหน้ายิ้มแย้ม พวกเขาถามกันไปมาว่าแม่นางผู้นี้เป็นคุณหนูบ้านไหนกัน เพราะไม่เคยเห็นมาก่อนเลย“แม่นางต้องการสิ่งใดบอกข้าน้อยได้เลยขอรับ” หลานเสวี่ยยิ้มอย่างเบาบางแต่ไม่ตอบอะไร เพราะเป็นหน้าที่ของหยางในการเปิดเผยเรื่องนี้ “ทุกคนมารวมตัวกันตรงนี้ ข้ามีเรื่องจะแจ้ง” หยางได้ส่งจดหมายใ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status