จนเวลาผ่านล่วงเลยไปสักพัก เมิ่งเจียวซินที่เห็นว่า ทั้งตนเอง และบุรุษข้างกายเริ่มสงบใจได้แล้ว เธอจึงกล่าวว่า
“กุยกุย เมื่อครู่เจ้าล้มแรงมาก ข้าว่า...”
“ข้าไม่เป็นอะไร” หลี่อวิ้นกุยเอ่ยแทรก พร้อมกับใช้มือข้างหนึ่งเชยคางของเมิ่งเจียวซินขึ้นมาสบตา จากนั้นก็ค่อย ๆ โน้มใบหน้าเข้าหา...
“ในที่สุดเจ้าก็พาคู่รักหยินหยางกลับมาอยู่คู่กันได้สำเร็จนะท่านระบบ” เทพชะตาเอ่ยเย้าเซียนสตรีผู้ช่วย พร้อมกับมองภาพเคลื่อนไหวในวงแหวนมิติตรงหน้า
“เจ้าค่ะ แต่กว่าจะสำเร็จทำเอาข้าลุ้นแทบแย่”
“แล้วหลังจากนี้ เจ้าจะเล่นเป็นระบบกับคู่อื่นอีกหรือไม่?”
เซียนสตรีผู้ช่วยครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนจะตอบว่า
 
“ซินซิน ข้าเข้าไปอยู่ในโลกนิยายมาเกือบแปดปี ภาษาของโลกใบนี้แม้ข้าจะฟังออก พูดได้ และอ่านเข้าใจ แต่ก็ยังพูดไม่ค่อยคล่องนัก เจ้าช่วยตอบคำถามแทนข้าก่อนนะ” เมิ่งเจียวซินหันไปมองคุณใหญ่หลี่อวิ้นกุยที่ขยับเข้ามากระซิบข้างหู เวลานี้ตัวเธอกับอีกฝ่ายย้ายลงมานั่งที่โซฟารับแขกฝั่งซ้าย ส่วนโซฟาฝั่งขวาคือ คุณยายใบบัวกับท่านเจ้าสัวหลี่อวิ้นเจียง ซึ่งผู้สูงวัยทั้งสองกำลังนั่งจ้องหน้า และรอฟังคำตอบจากคำถามที่พวกท่านเอ่ยถามออกมาอย่างรัว ๆ ว่า พวกเธอตกลงเป็นอะไรกัน? ไปรู้จักกันตอนไหน? แล้วความสัมพันธ์ของพวกเธอไปถึงขั้นไหนกันแล้ว? แต่ละคำถาม...ทำเอาเมิ่งเจียวซินคิดหนัก จะเล่าเรื่องราวระหว่างเธอกับหลี่อวิ้นกุยในโลกนิยายให้ผู้สูงวัยทั้งสองฟังคงไม่ได้ เพราะมันเหลือเชื่อ และมหัศจรรย์จนเกินไป แล้วเธอก็ไม่มีหลักฐานใด ๆ มายืนยันนอกจากความรู้สึกระหว่างเธอกับบุรุษหนุ่มข้างกาย
จนเวลาผ่านล่วงเลยไปสักพัก เมิ่งเจียวซินที่เห็นว่า ทั้งตนเอง และบุรุษข้างกายเริ่มสงบใจได้แล้ว เธอจึงกล่าวว่า “กุยกุย เมื่อครู่เจ้าล้มแรงมาก ข้าว่า...” “ข้าไม่เป็นอะไร” หลี่อวิ้นกุยเอ่ยแทรก พร้อมกับใช้มือข้างหนึ่งเชยคางของเมิ่งเจียวซินขึ้นมาสบตา จากนั้นก็ค่อย ๆ โน้มใบหน้าเข้าหา... “ในที่สุดเจ้าก็พาคู่รักหยินหยางกลับมาอยู่คู่กันได้สำเร็จนะท่านระบบ” เทพชะตาเอ่ยเย้าเซียนสตรีผู้ช่วย พร้อมกับมองภาพเคลื่อนไหวในวงแหวนมิติตรงหน้า “เจ้าค่ะ แต่กว่าจะสำเร็จทำเอาข้าลุ้นแทบแย่” “แล้วหลังจากนี้ เจ้าจะเล่นเป็นระบบกับคู่อื่นอีกหรือไม่?” เซียนสตรีผู้ช่วยครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนจะตอบว่า 
เมิ่งเจียวซินพยายามรวบรวมสติ ปรับลมหายใจ จากนั้นเธอก็นึกไปถึงผลตรวจร่างกายครั้งล่าสุดของคุณใหญ่ เมื่อเห็นพ่อบ้านเจิ้งเดินออกจากห้องพักผู้ป่วยไปแล้ว เมิ่งเจียวซินจึงหันกลับมาเผชิญหน้ากับบุรุษหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียง ซึ่งในขณะนี้เจ้าตัวกำลังก้มอ่านหนังสือ ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเธอ พอเห็นท่าทีเช่นนั้นของอีกฝ่าย เมิ่งเจียวซินจึงตัดสินใจหลับตาลง เพื่อข่มกลั้นอารมณ์หลากหลายที่มันกำลังพลุ่งพล่านอยู่ในใจ! เมื่อวานเธอเล่าเรื่องราวในโลกใบนั้นให้คุณใหญ่หลี่อวิ้นกุยฟังแบบคร่าว ๆ เท่านั้น ซึ่งเรื่องที่เธอกินส้มไม่ได้ เธอไม่ได้เอ่ยถึงเลยด้วยซ้ำ แล้วก็เพราะเรื่องนี้... เมิ่งเจียวซินลืมตา แล้วเดินเข้ายืนข้างเตียงของบุรุษหนุ่มตรงหน้า จากนั้นจึงเอ่ยถาม “คุณใหญ่ทราบได้อย่างไรว่า...หมอกินส้มไม่ได้?”&n
หลังจากนั้นหลี่อวิ้นกุยก็ค่อย ๆ โน้มตัวลงไปจุมพิตที่ริมฝีปากม่วงซีด พอผละออกมาเจ้าตัวก็ขยับเข้าไปนั่งพิงหัวเตียง เอื้อมมือเข้าไปโอบกอด แล้วดึงร่างไร้วิญญาณเข้ามาซบลงที่บ่า “ซินซิน เจ้ากับข้ายังไม่ได้ปลูกต้นท้อ ยังไม่ได้เปิดโรงหมอ...พวกเรายังไม่ได้ไปทำอะไรด้วยกันอีกตั้งหลายอย่าง แล้วที่สำคัญเจ้ายังไม่ได้สอนข้าเขียนภาษาของ...” เมิ่งเจียวซินเห็นหลี่อวิ้นกุยชะงัก หลังจากเปิดสมุดบันทีกของเธอ จากนั้นสีหน้าของเจ้าตัวก็ราวกับกำลังตั้งใจอ่านสิ่งที่เธอเขียนเอาไว้ในนั้น “ระบบเช่นนั้นหรือ?” เวลานี้ไม่เพียงบุรุษในภาพเคลื่อนไหวที่ขมวดคิ้ว เพราะเมิ่งเจียวซินก็ตกตะลึงที่อีกฝ่ายอ่านภาษาที่เธอเขียนออก! หลังจากนั้นเมิ่งเจียวซินก็เห็นหลี่อวิ้นกุยกระอักเลือดอ
เมิ่งเจียวซินมองหลี่อวิ้นกุยกระอักเลือดอึกใหญ่ออกมาเป็นครั้งที่สาม ทั้ง ๆ ที่มือและขาทั้งสองข้างเริ่มสั่น แต่ทว่าก็ไม่ยอมให้องครักษ์เข้ามาช่วยประคอง เจ้าตัวทำเพียงส่งคืนธนูกับกระบอกใส่ลูกธนูให้กับองครักษ์ที่ยืนอยู่ข้างตัว จากนั้นก็ใช้ดาบประจำกายยันพื้นเอาไว้ พอกระอักเลือดออกมาหมด หลี่อวิ้นกุยก็ใช้ชายเสื้อคลุมเช็ดเลือดที่มุมปาก แล้วค่อย ๆ ก้าวเดินเข้าไปหาราชาปีศาจ เมื่อเดินไปถึง...หลี่อวิ้นกุยคุกเข่าลงตรงหน้าผู้เป็นบิดา เจ้าตัวยังไม่ทันจะได้เอ่ยปาก โจวหลิวอิงก็ถามขึ้นมาว่า “องค์ชายสามเพคะ เรื่องที่ซือกุ้ยเฟยตรัสเมื่อครู่...”โจวหลิวอิงกล่าวยังไม่ทันจบ ก็เห็นหลี่อวิ้นกุยพยักหน้าขึ้นลงเบา ๆ จากนั้นเมิ่งเจียวซินก็เห็นโจวหลิวอิงพร่ำกล่าวขอโทษเธอ พร้อมกับกล่าวโทษตัว
หลี่อวิ้นกุยพุ่งเข้าไปกระชากตัวหลี่อวิ้นเหมย แล้วเหวี่ยงไปกระแทกกับผนังห้อง จากนั้นร่างของเด็กหญิงก็ร่วงตกลงมาที่พื้น “พี่สามมา...” หลี่อวิ้นเหมยได้กล่าวออกมาเพียงเท่านั้น เพราะหลี่อวิ้นกุยซัดดาบในมือเสียบผ่านต้นคอของเด็กหญิง แล้วปักเข้าไปที่ผนังห้อง “รีบไปตามท่านหมอซางมาที่นี่! ประเดี๋ยวนี้!!” หลี่อวิ้นกุยตะโกนสั่งองครักที่ติดตามเข้ามาด้วย จากนั้นเจ้าตัวก็ค่อย ๆ ยื่นมืออันสั่นเทาเข้าไปจับดูชีพจรของร่างไร้วิญญาณบนเตียง... “ซินซิน...ไม่! ไม่นะ...ซินซิน! ซินซิน ข้ากลับมาแล้ว ซินซิน! ตื่นสิ...ตื่นขึ้นมา! ได้โปรด... อย่าทิ้งข้า อย่าทิ้งข้าไป...” หลี่อวิ้นกุยโอบกอดร่างไร้วิญญาณของเธอไว้แ