[โรงแรม...เมืองไบยาร์]
“เจ้ไม่รออะไรทั้งนั้น วันนี้เจ้จะออกตามหาเด็กๆ ของเจ้ด้วยตัวของเจ้เอง ใครจะไปกับเจ้บ้าง”
กัญญาวีร์ถามทีมงานที่เหลือ ความร้อนใจกับการหายตัวไปของเด็กในสังกัดของเธอ ส่งผลให้เธอกินไม่ได้นอนไม่หลับ วันนี้เธอจะต้องออกติดตามด้วยตัวของเธอเอง
“ไปค่ะเจ้ พวกเราจะไปกับเจ้ทั้งหมดนี่แหละค่ะ”
“อืม...ขอบใจมากนะ เจ้จ้างนักสืบที่นี่สองคน คอยช่วยนำทางเจ้แล้ว ยังไงวันนี้อาจจะได้เบาะแสบ้างแหละ เจ้ไม่รอตำรวจหรอกนะ แต่จะช่วยตำรวจอีกแรง จะให้เจ้นั่งรออยู่เฉยๆ เจ้ทำไม่ได้หรอก อกเจ้จะแตกอยู่แล้ว”
“ค่ะ เราจะไปคนละทางกับทีมงานและทางตำรวจนะคะเจ้ ยังไงเพียงขวัญว่าจะต้องเจอแน่ๆ ค่ะ”
“เจ้ก็หวังแบบนั้นแหละ...ถ้าไม่เจอสาวๆ เจ้ก็ไม่กลับเหมือนกัน” ความรับผิดชอบอันใหญ่หลวงนี้ กัญญาวีร์จะจดจำจนวันตายเลยทีเดียว
[ห้องหนึ่ง...ในฮาเร็ม]
“นายต้องการพบเจ้า”
เซริพูดด้วยภาษาพื้นเมืองผสมกับภาษามือของเธอ เพื่อสื่อสารหญิงสาวตรงหน้าเธอ ที่กำลังมึนงงกับคำพูดของเธอ
“นาย ต้องการ ที่จะพบ ฉัน”
อริสาใช้ภาษามือของเธอสื่อสารตอบกลับ
“เจ้าค่ะ”
เซริพยักหน้าเมื่อฝั่งตรงข้ามนั้นเข้าใจในสิ่งที่เธอพูด
“อย่าไปเลยโมนา...ฉันคิดว่าเขาไม่น่าจะทำแค่พบเธอนะ น่ากลัวออก”
“ถ้าฉันไม่ไป เราจะได้เห็นหน้านายท่านหรือตัวการที่จับเรามาเหรอปราง และอีกอย่างมันเป็นโอกาสของฉันที่จะได้ออกไปจากห้องนี้ และฉันจะได้เก็บรายละเอียดเพื่อหาทางหนีไง”
“ทำไมเขาต้องเลือกเธอไปคนเดียวด้วยล่ะ เธอไม่คิดเหรอโมนา เขาอาจจะ...เอ่อ...”
“เธอจะหมายถึงทำอะไรฉันน่ะเหรอปราง”
“ใช่...เธออย่าไปเลยโมนา”
“ฉันจะไป...เพราะฉันคงไม่งอมืองอเท้ารอโชคชะตาแบบเธอหรอกนะ เธออยากอยู่ที่นี่ ก็รอไปเถอะไม่รู้ว่าจะมีใครมาช่วยเธอเมื่อไหร่”
“แต่...” ปรางทิพย์อยากจะห้ามอริสามากกว่านี้ แต่มาคิดดูแล้ว คนอย่างอริสาไม่มีใครที่จะขัดเธอคนนี้ได้อยู่แล้ว คงต้องปล่อย
“ไปเถอะ...นำฉันไป” อริสาหันมาสั่งสาวใช้
“เจ้าค่ะ” เซริให้สาวใช้ทั้งสี่คนประกบหน้าหลัง
ระหว่างทางเดินไปยังจุดหมายที่สาวใช้จะพาอริสาไปนั้น เธอได้สอดส่ายสายตามองไปยังบริเวณรอบๆ ความงดงามอลังการของห้องใหญ่ ที่ตกแต่งด้วยทองคำเหลืองอร่ามทั่วทั้งห้อง ‘น่าจะเป็นปราสาทราชวังที่ไหนสักแห่ง’ อริสาเก็บรายละเอียดและชื่นชมความงดงามของห้องต่างๆ ที่มีผู้คนคอยยืนตามแต่ละจุด เธอเดินผ่านส่วนไหน ผู้คนเหล่านั้นก็ก้มศีรษะให้กับเธอ ช่างดูยิ่งใหญ่เหลือเกิน หรือนี่จะเป็นที่อยู่ของพระราชา!
แกร๊ก!! ประตูบานใหญ่ถูกเปิดโดยสาวใช้
เท้าบางก้าวเข้าไปภายในห้องโถงขนาดใหญ่ ดวงตากลมโตจับจ้องไปกลางห้องที่มีเตียงนอนขนาดใหญ่ มีชายหนุ่มจับจ้องมาที่เธออยู่ก่อนแล้ว ‘นี่คืออะไรกัน ทำไมมีสระน้ำในห้องนอนด้วยเหรอ’ อริสาตื่นตาตื่นใจกับสิ่งที่เธอเห็นเป็นอย่างมาก มันตรงกับสิ่งที่เธอคิดไว้ไม่มีผิด สถานที่แห่งนี้น่าจะเป็นปราสาทราชวังของพระราชาแน่นอน และชายที่นอนแผ่หลาอยู่บนเตียงคือใครกัน
“บอกให้ทุกคนออกไปให้หมด ข้าจะอยู่กับนาง”
“เจ้าค่ะ” เซริโค้งคำนับก่อนที่จะส่งสัญญาณให้สาวใช้ของเธอให้ออกจากห้องนี้โดยด่วน
“จะไปไหน? แล้วฉันมาทำไมที่นี่ เดี๋ยวก่อน!”
อริสาร้องเรียกสาวใช้นับสิบที่กำลังทยอยออกไปจากห้อง
“มานี่สิ!” ฮาซีฟใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารกับหญิงงามตรงหน้าเขา ลำคอของชีคหนุ่มแห้งผาก เมื่อเห็นความงดงามของเธอ ‘สตรีชาวไทยช่างงดงามเหลือเกิน’
“คะ?” อริสาหันขวับไปยังเสียงที่กำลังสื่อสารกับเธอ ดวงตากลมโตเบิกกว้างทันที เมื่อเธอเห็นใบหน้าของชายที่กำลังนอนแผ่หราบนเตียงอย่างชัดเจน ‘เขาคนนั้นนั่นเอง ที่นั่งอยู่หน้าเวที และจ้องเธออยู่ตลอดเวลา’ แต่เดี๋ยวก่อนนะ! ‘นี่คงไม่ใช่พระราชาหรอกนะ’ สิ่งที่เธอจินตนาการนั้น คงเป็นชายที่มีอายุมากกว่านี้ด้วยซ้ำ แต่ทว่าสิ่งที่เธอเห็นนั้นกลับตรงข้ามโดยสิ้นเชิง
“เจ้านั่นแหละ...เดินมาให้ข้าเชยชม เข้ามาใกล้ๆ หน่อย”
ฮาซีฟยังคงออกคำสั่งกับสาวงามชาวไทย ที่กำลังยืนงง เธอคนนี้คงจะยินยอมที่จะถวายตัวกับเขาสินะ
“คุณเป็นใครคะ?”
อริสาเดินเข้าไปใกล้เขา พร้อมกับพูดประโยคภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นภาษาเดียวที่น่าจะสื่อสารเข้าใจมากที่สุดในตอนนี้ เธอหยุดยืนมองเขาในระยะประมาณสองเมตร ยิ่งใกล้เธอก็ยิ่งสังเกตเห็นความคมคายและหล่อเหลาของฝ่ายตรงข้าม ‘ชีคหนุ่มหล่อๆ ที่นี่ร่ำรวยกันทุกคนเลยนะ ถ้าตกได้สักคนก็คงดี’ เสียงของเพียงขวัญเพื่อนนางแบบของเธอดังกึกก้องในหัวของอริสา ‘นี่อาจจะเป็นชีคหนุ่มหล่อ ร่ำรวย ก็ได้นะ’
“ข้าเป็นเจ้าของที่นี่”
เสียงทุ้มแหบพร่าเอ่ยขึ้น เลือดในกายกำยำร้อนฉ่า เมื่อสายตาคมจับจ้องไปยังเรือนร่างงดงามอวบอิ่ม ที่อยู่ในชุดสีแดงยาวกรอมเท้าบางเบาซึ่งไม่สามารถปิดกั้นความอวบอิ่มของวัยสาวที่อยู่ด้านในได้เลย
“ฉันจะกลับบ้าน”
หน้าสวยร้อนผ่าวเมื่อเจอสายตาคมจับจ้องมาที่เรือนร่างของเธออย่างเปิดเผย
“เจ้าอยากได้สิ่งใด ข้าให้เจ้าได้เสมอ ขอเพียงทำให้ข้าพอใจในตัวเจ้าก็พอ”
กายกำยำร้อนรุ่ม เบื้องล่างปวดหนึบ ความต้องการของบุรุษเพศแผ่ซ่านทั่วร่างแกร่ง สายตาคมดุกวาดไล่ไปตามลำคอเรียวระหงขาวผ่อง ก่อนที่จะหยุดอยู่ที่ปทุมถันคู่งามกระเพื่อมขึ้นลงตามการหายใจของเจ้าของโดยไม่รู้ตัว อ่าร์!! ฮาซีฟอยากเชยชมนางผู้นี้เหลือเกิน
“ฉันไม่ต้องการ”
อริสาตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาและสั่นเครือ เมื่อสายตาของเธอเหลือบเห็นบางอย่างที่อยู่ภายใต้ผ้าแพรผืนบางนั้น แก่นกายใหญ่กระตุกขึ้นทำให้อริสาตะลึงกับสิ่งที่เธอเห็น อริสารู้จุดประสงค์ของชายคนนี้เป็นอย่างดี ‘เขาต้องการเธอสินะ’
“แน่ใจนะว่าเจ้าจะไม่มาหาข้าจริงๆ”
มือหนากระชากผ้าแพรนั้นออก ท่อนความเป็นชาย ผงาดสู่สายตาของเธอทันที ความแข็งขืนนั้นตั้งตรง เมื่อร่างสูงดีดตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
“คุณจะทำอะไร!”
อริสาถามออกไปด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ดวงตากลมโตกวาดสายตาไปทั่วร่างสูงเปล่าเปลือยของชายหนุ่ม ที่ไม่ปรากฏความเขินอายใดๆ ใบหน้าของเธอร้อนผ่าว เมื่อเธอไล่ละเรื่อยลงไปที่หน้าท้องเต็มไปด้วยกล้ามมัดใหญ่ ใจของเธอเต้นแรงราวกับจะทะลุออกมานอกอก ก่อนจะหยุดที่แท่งร้อนของชายหนุ่มซึ่งบัดนี้ได้แข็งชูชันพร้อมออกศึกรักนี้แล้ว
[เมืองไบยาร์...ประเทศซาเลวีเนียร์] “ข้าจะส่งคนไปรับครอบครัวของเจ้าในวันพรุ่งนี้...เจ้าได้นัดหมายครอบครัวของเจ้าไว้หรือไม่โมนา”ฮาซีฟมองร่างอวบอิ่มที่กำลังเลือกเครื่องประดับเพชรนิลจินดา กับเหล่าบรรดาสาวใช้ที่ล้อมหน้าล้อมหลัง “ค่ะ...โมนาได้โทรไปบอกเรียบร้อยแล้วค่ะ...ที่รักคะ...โมนา อยากจะขออะไรคุณหน่อยได้ไหมคะ” “อืม...ได้สิ” “ถ้าโมนาต้องอยู่ที่นี่กับคุณตลอดไป โมนาอยากจะขอให้พ่อแม่ของโมนามาอยู่ด้วยกับโมนาที่นี่ได้มั้ยคะ” “ได้สิ...ข้าคิดว่าก็ดีเหมือนกัน เจ้าจะได้ไม่กังวลเป็นห่วงพ่อกับแม่ของเจ้า เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ไม่ได้เป็นปัญหากับข้าเลย บ้านออกกว้างขวางใหญ่โต มีห้องเป็นร้อยๆ ห้อง มีบ่าวรับใช้มากมาย และอีกอย่างท่านพ่อกับท่านแม่ของข้าก็พึงใจเจ้าอยู่ไม่น้อย ที่รู้ว่าเจ้าอาจจะตั้งครรภ์ลูกของข้าในไม่ช้า”ฮาซีฟมองหญิงสาวอันเป็นที่รัก ถึงแม้เธออาจไม่ใช่คนที่เขาเลือกตั้งแต่แรก แต่เมื่อเขาได้สัมผัสทุกอย่างจากเธอแล้ว เธอเหมาะสมกับเขาอย่างที่สุด ทั้งบทรักร้อนแรงทุกค่ำคืน เธอคนนี้สนองให้เขาโดยไม่ขาดตกบกพร่อง โดยไม่ต้องพึ่งสตรีสาวงามคนอื่นเลย เธอร้อน
ความกระสันเข้าครอบงำร่างงาม เมื่อริมฝีปากหนาไล้ลงมาจนถึงเนินอกสวย มือของเขาปลดชุดนอนนุ่มลื่นของเธอออกพร้อมกับปลายลิ้นสากกำลังลากไล้ตามมา มืออีกข้างหนึ่งดึงชุดของเธอพ้นออกจากร่างของเธออย่างรวดเร็ว ร่างอวบอิ่มปรากฎแก่สายตาของชีคหนุ่ม เขาจับจ้องไปที่อกอวบใหญ่ที่มีลูกเชอรี่สีแดงสดปรากฏอยู่ตรงกลาง“เจ้าสวยเหลือเกิน...ข้าอยากกินเจ้าทุกวันเลยรู้ไหม”สายตาคมเข้มจับจ้องไปที่เรือนร่างขาวโพลนที่สะท้อนแสงไฟบนหัวเตียงสาดส่องร่างงามอรชร ราวกับต้องมนต์สะกด “อุ้ย! คุณปิดไฟสิคะ...ฉันอายนะ”ธาริกายกมือขึ้นมาปิดอกอวบของเธอ แต่ทว่าก็ยังไม่ทันกับมือหนาที่มาคว้ามือของเธอออก สายตาคมจ้องอย่างไม่กระพริบราวกับไม่เคยเห็นมาก่อน “ข้าอยากเห็นเจ้าทั้งตัว เจ้าไม่ต้องอาย ข้าคือสามีของเจ้า ข้าจะแต่งงานกับเจ้า เจ้าจงเชื่อใจข้าเถิด...”พูดจบปากร้อนของชายหนุ่มก็ฉกลงมาที่ปลายถันสีชมพูสด ลิ้นสากลากไล้วนเม็ดทับทิมระเรื่อที่แข็งชัน ดุนดัน ดูดเม้มเข้าไปในปากอย่างหิวกระหาย “อาร์...” ร่างบางเอ่ยครางอย่างรัญจวนในสัมผัส เสียงเต้นของหัวใจของเธอถี่รัว มือบางคว้าร่างหนาเอาไว้ “อื้ม...” ปลายลิ้
[อีกด้านหนึ่ง...]บรรยากาศยามเย็นบนโต๊ะรับประทานอาหารมื้อค่ำ... “ทาน-ได้มั้ย-พ่อหนุ่ม”เสียงของหญิงสาววัยกลางคนกำลังสนทนาด้วยภาษามือกับลูกเขยชาวต่างชาติ ที่กำลังรับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย ท่ามกลางสายตาหลายคู่ที่กำลังจ้องมอง เพื่อคอยลุ้นผล “ขะ-ขอรับ” อิลยาสส่งสัญญาณเพื่อบอกให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าเขาเข้าใจประโยคคำถามนั้น “แม่คะ...แม่ลืมลูกสาวคนนี้ไปแล้วเหรอคะ”ธาริกาอดไม่ได้ที่จะแซะ ตอนนี้ทั้งบ้านกำลังเห่อลูกเขยกันยกใหญ่จนลืมเธอคนนี้จนหมดสิ้น “พี่นับดาวพูดเหมือนตัวเองอิจฉาเลยครับ”ภัคพลน้องชายคนรองเอ่ยแซวพี่สาว “อะไรเต้...พี่ไม่ได้อิจฉาซะหน่อย ก็แค่เตือนคนบางคนก็เท่านั้น ได้ลูกเขยลืมลูกสาวตัวเองซะงั้น” “พ่อว่าที่น้องพูดก็ถูกนะนับดาว ลูกทำไมต้องคอยต่อว่าเขานัก พ่อก็เห็นว่าเขาไม่เคยโต้แย้งอะไรลูกเลยสักครั้ง ลูกต้องปรับตัวนะนับดาว เราเป็นเมียเค้า ก็ต้องคอยเอาใจสามี” “พ่อก็อีกคน...สรุปไม่มีใครอยู่ข้างนับดาวเลยสิคะเนี่ย” “เมย์ไงคะพี่นับดาว จะอยู่ข้างพี่เองค่ะ”เมวิกาน้องสาววัยสิบหกปีเอ่ยขึ้นอย่างเอาใจ “พ
“อ๊ะ!” ร่างบางสะท้านตกใจกับสัมผัสนั้น ปากหนาทำงานอย่างหนัก ความเสียวซ่านก่อวนทั่วร่างบาง มือเล็กขยุ้มกลุ่มผมเอาไว้แน่น เมื่อความซาบซ่านเล่นงานร่างงามราวกับผีเสื้อนับล้านบินวนตรงช่องท้องของเธอ รินลดารู้สึกราวกับว่าร่างของเธอกำลังล่องลอยไปในอากาศ “ข้ารักเจ้า เจ้าต้องเป็นของข้าแต่เพียงผู้เดียว อื้ม...”เสียงทุ้มแหบพร่าครางกระเส่า บทรักเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นตามลำดับ มือหนาแยกเรียวขาสวยออกจากกัน แก่นกายใหญ่ผงาดตั้งชันปวดหนึบ ร่างกำยำแทรกเข้าหาร่างบาง กดดุ้นใหญ่ไล้ไปมากับร่องกุหลาบสวยที่มีน้ำหวานเคลือบชื้นแฉะเต็มร่องรู “อ๊ะ! คุณ! อ๊าร์!!”ความเสียวซ่านเล่นงานร่างบางอย่างหนักจนทำให้ร่างของเธอเบียดเด้งโหนกนูนเข้าหาแท่งร้อนอย่างอัตโนมัติ ใบหน้าสวยแดงกล่ำเพราะความก๋ากั่นของตัวเอง รินลดาต้องการเขา เธออยากให้เขาเข้าไปอยู่ในร่างกายเธอ “โอวว์ เจ้า! ช่างร้อนแรงนัก!! อ่าร์!!!” เสียงครางของชายหนุ่มมาพร้อมกับแท่งใหญ่โตกดดันเข้ากับช่องทางรักของเธอ เอวหนาเด้งเข้า เพื่อดันดุ้นใหญ่ให้ลึกจนสุดลำ! ความคับแน่นโอบรัดแท่งร้อนจนร่างกำยำสั่นเทา! “อาร์...อื้อ...”ความเสียวซ
“แต่งงานกันหรือ? แล้วเขาจะอยู่บ้านของเราได้มั้ยนับดาว เขาทำงานอะไร?”อดุลย์มองว่าที่ลูกเขยอย่างพินิจพิจารณาตั้งแต่หัวจรดเท้า “เขามีธุรกิจอยู่ที่ประเทศเขาค่ะพ่อ” “ธุรกิจอะไรช่วยขยายความให้พ่อฟังหน่อย” “น่าจะเยอะค่ะพ่อ นับดาวพูดตรงๆ นะคะ เขารวยระดับมหาเศรษฐีพันล้านหมื่นล้านเลยค่ะพ่อ บ้านของเขาก็เป็นปราสาทคฤหาสน์มีคนรับใช้เป็นร้อยค่ะ นับดาวก็อธิบายไม่ถูกค่ะ แต่ประมาณนี้แหละค่ะ” “แล้วเขาจะมาอยู่บ้านหลังเล็กๆ ของเราได้เหรอนับดาว ครอบครัวเราพ่อแม่ และน้องอีกสามคน พ่อว่าเขาจะอึดอัดเอานะ” “นับดาวก็ไม่ทราบค่ะพ่อ ถ้าเขาอยากอยู่กับนับดาวจริงๆ เขาก็คงจะซื้อบ้านอยู่ที่นี่ค่ะ เขาจะซื้อคฤหาสน์ยังได้เลย พ่อไม่ต้องห่วงเขาหรอก นับดาวบอกเขาแล้วว่าไม่ต้องมา เขาก็ไม่เชื่อยังดื้อดึงที่จะมาอีก”ธาริกาหันไปทำตาเขียวใส่ชีคหนุ่ม ถ้าไม่ใช่เพราะเขา เรื่องวุ่นวายเหล่านี้คงไม่เกิดขึ้นแน่นอน และเธอก็คงไม่ต้องยุ่งยากมาอธิบายพ่อกับแม่เธออีก “ลูกจะพูดแบบนั้นได้ยังไง...นับดาว แม่ว่าเขาต้องชอบลูกมากเลยแหละ ถึงได้ตามมาขนาดนี้ คนนี้เป็นน้องชายคนเล็ก และคนกลางก็เป
“ฉันจะบอกแม่ฉันยังไงดีคะ?”รินลดาหันไปถามเขา เธอรู้สึกเก้อเขินเป็นอย่างมากที่จะต้องบอกความเป็นจริงกับแม่ของเธอ “ก็บอกว่าข้าเป็นสามีของเจ้า กำลังจะแต่งงานกับเจ้าสิ” “แล้วแม่ฉันจะไม่ตกใจเหรอคะ” “ข้าว...ลูกพูดอะไรกัน จะบอกแม่ได้หรือยังว่าพ่อหนุ่มนี่เป็นใคร และไหนจะคนที่ยืนคุมข้างนอกนั่นอีก บอกแม่มาเดี๋ยวนี้นะ” “เอ่อ...แม่ฟังข้าวให้จบก่อนนะคะ...คือว่าคุณคนนี้ชื่อ คาริสค่ะแม่...เขา...เอ่อ...เขาเป็นแฟนของข้าวค่ะแม่ และเขาจะมาสู่ขอข้าวกับแม่ เราจะแต่งงานกันค่ะ” “อะไรนะ! แฟนของข้าว! และจะแต่งงานกัน! ข้าวไปเจอเขายังไง และทำไมแม่ไม่เคยรู้เลย...โอย...นี่แม่งงไปหมดแล้วข้าว”วรีรัตน์ยกมือทาบอกราวกับจะเป็นลมหมดสติลงตรงนั้น “คือ...คุณคาริสเป็นเจ้าของงานที่จ้างข้าวกับนับดาวไปทำงานค่ะแม่...และ...เอ่อ...เขาชอบข้าว ก็เลยตามข้าวมา และจะมาขอข้าวแต่งงานค่ะแม่”รินลดาจำเป็นต้องกุเรื่องของเขากับเธอ ถ้าแม่รู้ว่าเกิดเหตุการณ์ที่เธอโดนลักพาตัวไปล่ะก็ คงต้องเป็นเรื่องใหญ่อีกแน่นอน “ข้าวไปทำงานยังไม่ถึงเดือนเลยด้วยซ้ำ ไปชอบกันตอนไหนลูก...มันเร็