“ไปนะพี่พิม ไปเที่ยวกัน เราสองคนจะได้ดำน้ำด้วยกันไง ไม่ได้ดำมาสองปีกว่าแล้ว” พิมรพีน้องสาวต่างมารดาชวนอีกคน “นะพี่พิม ไปด้วยกันนะ”
“พิมอยากอยู่บ้านค่ะ” ไม่ใช่ครั้งแรกที่บรรพตกชวนพิมรดาไปเที่ยว เขาชวนทุกครั้งที่ไปเที่ยวต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ ทว่าลูกสาวคนโตปฎิเสธทุกครั้ง “พิมกลัวว่า จะทำให้ทุกคนหมดสนุก พิมอยู่บ้านดีแล้วค่ะ”
ทุกคนที่กล่าวชวนพิมรดารู้เหตุผล ทว่าทั้งสามอยากให้เธอปล่อยวาง เพราะเรื่องนั้นผ่านมานานสองปีแล้ว เรื่องคดีความก็จบลงด้วยดี มันเป็นอุบัติเหตุอย่างแท้จริง
“ถ้าพิมอยากอยู่บ้านพ่อก็ไม่บังคับ พิมพร้อมเมื่อไหร่ค่อยไปกับพ่อนะลูก” บรรพตรักลูกเท่ากัน แม้ว่าเกิดกับภรรยาคนละคน “กินต้มยำกุ้งนะลูก น้าแก้วทำให้พิมกินโดยเฉพาะ”
ก่อนตักกุ้งและน้ำต้มยำใส่ถ้วยแบ่ง วางลงใกล้จานข้าวลูกสาวคนโต
“ผัดคะน้าหมูกรอบด้วยค่ะ อร่อยมากๆ เลย ตอนคุณแม่ทำ รพีชิมไปตั้งหลายช้อน” พิมรพีตักอาหารดังกล่าวใส่จานข้าวพิมรดาอย่างเอาใจ พิมรดายิ้มตักอาหารใส่ปากแล้วเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย
ในความทุกข์เกาะกินจิตใจ พิมรดามีครอบครัวที่รักและเอาใจใส่ บางครั้งบางเวลาความรู้สึกติดค้างในใจปัดเป่าออกไปชั่วขณะ
“พรุ่งนี้บุญจะขับรถให้พ่อนะ เพราะบุญขับรถไปไกลๆ คล่องกว่าบัญชา”
ปกติบัญชาขับรถให้บรรพตและพรแก้วที่เก่งขับรถในกรุงเทพ ปริมณฑลมากกว่า หากไปต่างจังหวัดจะเรียกใช้งานบุญ
“ค่ะคุณพ่อ” พิมรดาไม่ขัดข้องเรื่องนี้ “ว่าแต่คุณพ่อจะไปกี่วันคะ”
“สามคืนสี่วันน่ะลูก ถ้าอยากได้อะไรโทรบอกพ่อนะ หรือถ้าเปลี่ยนใจก็บอก”
“ค่ะคุณพ่อ” การสนทนาเรื่องไปเที่ยวหยุดลงแค่นี้ เพราะพูดไปก็ไม่อาจเปลี่ยนใจพิมรดาได้ บรรพต พรแก้วและพิมรพีหวังว่า สักวันหนึ่งจะได้พิมรดาคนเดิมกลับมา
น้ำเมาคือสิ่งเดียวที่เยียวยาจิตใจชอกช้ำของคนเสียลูกเสียเมีย ไม่มีวันไหนที่ณคุณไม่เสียใจ คล้ายกับว่ามันฝังลึกแน่นหนาอยู่ในใจ ยิ่งวันนี้เป็นวันครบรอบสองปีกับการจากไปของลูกเมีย ณคุณยิ่งเศร้าหนักมากขึ้น เพราะมันควรเป็นวันที่เขามีความสุข เนื่องจากตรงกับวันคล้ายวันเกิดของชนกนันท์ แก้วตาดวงใจของเขา
แทนที่วันนี้จะได้เห็นลูกสาวเป่าเค้ก เห็นรอยยิ้ม และได้ยินเสียงหัวเราะของคนในครอบครัว เขากลับทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้เจ้าของวันเกิด เป็นความเศร้าที่ยากเกินบรรยาย เขาพูดไม่ออก เจ็บแล้วเจ็บอีก ร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือด ความแค้นเคืองจึงปักหลักในหัวใจอยู่เช่นนี้ทุกเมื่อเชื่อวัน
ย้อนกลับไปคืนนั้น ณคุณจัดงานวันคล้ายวันเกิดให้ลูกสาวในบ้านพ่อตาแม่ยายย่านลาดพร้าว เดิมทีตั้งใจให้สองแม่ลูกนอนค้างที่นั่นเพราะเห็นว่าดึกมากแล้ว และอีกเหตุผลหนึ่งคือ เขาต้องขับรถไปส่งบิดามารดาที่บ้านย่านประตูน้ำ เนื่องจากคนขับรถเกิดท้องเสีย อ่อนเพลียเกินกว่าจะขับรถได้ ทว่ารัตน์ชนกยืนกรานจะกลับบ้าน เหตุผลคือมีการเดินทางไปภูเก็ตในช่วงเช้า หากค้างบ้านหลังนี้จะต้องตื่นตั้งแต่ตีสี่เพื่อไปบ้านย่านประชาชื่น สู้กลับตอนนี้ดีกว่า ณคุณไม่ขัดใจเมียรัก จึงให้สมชายทำหน้าที่ขับรถพารัตน์ชนกกับชนกนันท์กลับบ้าน หากเขาไม่ตามใจ บังคับให้นอนบ้านพ่อตาแม่ยาย เรื่องร้ายคงไม่เกิดขึ้น
“พี่คิดถึงเดือนเหลือเกิน คิดถึงลูกแก้วด้วย คิดถึงจนใจแทบขาด...ฮือ” ณคุณร้องไห้ น้ำตาไหลอาบแก้ม ขณะนั่งมองภาพถ่ายครอบครัว ตอนอยู่กันพร้อมหน้าพ่อแม่ลูก มือใหญ่สั่นเทาลูบไปบนภาพถ่ายใบนั้น ลูบทั้งน้ำตา น้ำตาแห่งความคิดถึงจับขั้วหัวใจ น้ำตาแห่งความเสียใจที่พลั่งพลูตามความรู้สึก ก่อนนำภาพนั้นมาแนบตรงหัวใจ แล้วร้องไห้เช่นเดิม “ทำไม...ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทำไม...ฮือ”
ณคุณยังระบายความเสียใจไม่ผ่อนพัก เขาร้องไห้หนักมาก ร้องไห้อย่างไม่กลัวน้ำตาจะหมด หัวใจเขาสลายเป็นผุยผง จนไม่อยากมีชีวิตอยู่ อยากตายตามลูกเมียสุดที่รัก ทว่าเขายั้งความคิดได้ทัน เพราะต้องการดูผลสรุปของคดี
พิมรดารอดจากการติดคุก แม้ว่าพิมรดารับผิดทุกข้อกล่าวหา เนื่องจากคำให้การกับหลักฐานในรถสอดคล้องกัน รองเท้าส้นสูงอยู่ใต้เบรก ทำให้เบรกไม่สามารถหยุดรถได้ตามตั้งใจ โทษที่ได้รับคือ ชดเชยค่าเสียหายให้กับญาติผู้เสียชีวิตรวมเป็นเงิน ห้าล้านสามแสนบาท และให้ผู้บาดเจ็บหนึ่งล้านบาท ความที่พิมรดาไม่เคยทำผิดมาก่อน ศาลเมตตาให้รอลงอาญาสองปี
แน่นอนว่าณคุณไม่พอใจกับคำตัดสิน ทว่าเขาไม่อุทรณ์ปล่อยให้เรื่องนี้จบลงตามนั้น แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่ทำอะไร เขาปล่อยให้เวลาผ่านไปจนคนคิดว่า ณคุณปล่อยวางเรื่องนี้จริง อดทนรอด้วยใจร้าวราน อดทนอย่างใจเย็น รอเวลาปิดบัญชีพิมรดา
“เธอจะต้องได้รับโทษที่พรากเดือนกับลูกแก้วไปจากฉัน เธอจะต้องตายทั้งเป็น ต้องเจ็บปวดทรมานมากกว่าฉัน”
ความเสียใจก่อนหน้าแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธแค้น มือข้างหนึ่งจับกรอบรูปไว้ มืออีกข้างกำแน่น นัยน์ตาเขาน่ากลัวมาก ราวกับมีกองไฟกองเล็กๆ สุมอยู่นับพัน วาวโรจน์อย่างน่ากลัว เป็นความแค้นที่ยากดับได้ มันจะสลายก็ต่อเมื่อ แผนเขาสำเร็จดั่งหวัง
Chapter29 กลุ่มคนที่บุกขึ้นเกาะนพเก้ามีด้วยกันหกคน แบ่งเป็นสองกลุ่มๆ ละสามคน พวกมันรู้ว่า หากนำเรือมาจอดใกล้เกาะคนเฝ้ายามต้องรู้ มันจึงใช้เรือตกหมึกเป็นยานพาหนะ เนื่องจากเรือนี้ลอยลำใกล้บริเวณนี้ทุกคืน เป็นเรื่องชินตาสำหรับเกาะโดยรอบ เรือตกหมึกจอดอยู่ห่างจากเกาะราวหนึ่งร้อยเมตร คนหกคนใช้เรือยางในการพายเข้าใกล้เกาะกลุ่มแรกนำเรือมาจอดตรงเนินหินตรงป้อมห้า หนึ่งในสามคนปีนขึ้นไปนั่งลนโขดหิน เล็งปืนไปยังตัวป้อมคล้ายยิงเตือน การยิงตอบโต้จึงเริ่มขึ้น ไฟฉายดวงใหญ่ถูกส่องไปยังคนกล้าเหยียบจมูกเสือ เพื่อสะดวกต่อการต่อสู้ เหมือนกลุ่มโจรเตรียมตัวมาดี พวกมันใช้แว่นตาที่สามารถมองเห็นในเวลากลางคืน ทำให้ตอบโต้กลับได้ดี เสียงปืนจึงดังต่อเนื่องอีกกลุ่มหนึ่งลอบไปยังอีกป้อม ทำในลักษณะเดียวกัน ที่น่าผิดสังเกตคือ ทั้งหกคนไม่รุกไปมากกว่า อยู่ตรงจุดเดิม ราวกับว่าพวกมันไม่ได้หวังปล้นรังนก แต่มาเพื่อป่วนคนบนเกาะมากกว่า หรือมุ่งหวังบางอย่างในขณะที่ณคุณ ยศวิน จามรและคนงานคนอื่นวิ่งไปยังป้อมห้ากับป้อมเจ็ด พิมรดาที่นั่งอกสั่นขวัญแขวนในห้องนอนณคุณใจไม่ดีเอาเสียเลย กลัวจับจิตจับใจ หัวใจเต้นกระหน่ำทุกครั้ง
Chapter28“อยู่กับฉันในห้องนี้จะตายหรือไง ถึงได้อยากกลับไปที่ห้องนัก” ตอนนี้ณคุณมีความคิดบางอย่าง “หรือว่าไอ้สองตัวยังไม่กลับ มันรอเธอในห้องใช่ไหม”“ก็แล้วแต่คุณจะคิด ลุกไปสิ ฉันจะกลับห้อง” พิมรดาไม่เข้าใจว่า เหตุใดณคุณถึงได้ย้ำคิดว่า เธอเป็นผู้หญิงหลายใจ หลับนอนกับชายใดก็ได้ แต่ก็ไม่โต้เถียง เธอเลือกเลี่ยงเพื่อไม่ให้ตนเองเจ็บตัว“เธออยากออกจากห้องนี้มากเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งอยากให้เธออยู่ในห้องนี้มากเท่านั้น ให้คนที่คอยเธออยู่ในห้องอกแตกตายไปเลย”“คุณจะบ้าหรือไง คิดอะไรบ้าๆ คุณวินกับคุณเต้ก็รู้ว่า ฉันมาอยู่ที่นี่ในฐานะอะไร แล้วคุณต้องการอะไรจากฉัน คุณคิดว่า เขาสองคนจะทำเรื่องนั้นได้เหรอ ถึงฉันจะเป็นคนไม่ดีในสายตาคุณ แต่ฉันไม่ก็มั่ว ไม่ได้นอนแบให้ผู้ชายเอาง่ายๆ นะ” พิมรดาระเบิดอารมณ์ใส่หน้าณคุณ “คุณเลิกดูถูกฉันได้แล้ว ฉันสัญญาว่า ตราบใดที่ฉันอยู่ที่นี่ ฉันไม่มีใครแน่นอน แต่หลังจากนั้นไม่แน่ คุณ...”คำพูดพิมรดาถูกกลืนลงลำคอ เมื่อปากได้รูปณคุณปิดทับปากช่างเจรจา คล้ายกับว่าไม่อยากได้ยินเสียงเธอ เขาฉกจูบ สอดลิ้นพันรัดลิ้นเล็กที่อยู่ในอาการตกใจกับการถูกจู่โจม แต่เมื่อเวลาผ่านไปชั่วครู่ เธออาจห
Chapter27“ก็เหมือนแมวเฝ้าปลาย่างไง กลัวกูสองคนจะขโมยกินปลาย่างมึง” จามรพูดตรง“ถ้ามึงอยากกินปลาย่างของกูก็เชิญกินตามสบาย กูแดกทีไรติดคอทุกที”ณคุณคว้าวิทยุสื่อสารที่วางอยู่บนโซฟาตัวที่ตนนั่ง หมุนตัวเดินไปยังบันไดบ้านทันทีที่พูดจบ โดยมีคำพูดจามรไล่หลังมาติดๆ“เออ กูจะกินปลาย่างของมึงให้พุงกางเลย” จามรหัวเสียกับณคุณเล็กน้อย “มันจะรู้ไหมว่า ปากกับใจไม่ตรงกัน”“มันไม่รู้ตัวหรอก เพราะความเกลียดความแค้นบังใจมันอยู่” ยศวินหยิบแก้วขึ้นดื่มบรั่นดี เขาเข้าใจณคุณ ไม่แปลกที่ณคุณจะเว้นระยะความรู้สึกห่างขนาดนี้ “กูว่านะ งานนี้ต้องดัน”“ดันอะไรวะ ดันยังไง” จามรรีบถาม“คอยดูล่ะกัน” ยศวินยังไม่ตอบ “มึงต้องรอ”จามรไม่ถาม แม้มีความสงสัยหลายข้อ เวลาผ่านไปราวห้านาที พิมรดาดเดินออกจากห้องน้ำด้วยชุดนอน มีผ้าขนหนูคลุมไหล่ ยศวินลุกขึ้นเดินไปหาสาวสวย“พิมขึ้นไปดูเพชรหน่อยสิ มันเมาน่ะ ฉันกลัวมันอ้วก”“ค่ะ ได้ค่ะ”“ฉันกับเต้ไปก่อนนะ” ยศวินคิดว่าหน้าที่วันนี้หมดลงแล้ว ต่อจากนี้ก็สุดแต่บุญพาวาสนา“มึงคิดจะทำอะไรไอ้วิน ให้พิมขึ้นไปบนห้องไอ้เพชร เดี๋ยวก็ถูกตะเพิดอย่างหมูอย่างหมาออกมาหรอก” จามรเป็นห่วงพิมรดา“ถ้าเรา
Chapter26 ณคุณไม่เคยคิดจูบพิมรดาแบบนุ่มนวล ทุกครั้งคือการลงทัณฑ์ เขาอยากทำเช่นเดิม ทว่าใจกลับถูกต่อต้าน ยั้งความคิด ยั้งการกระทำ ทำในเรื่องสวนทาง มอบจุมพิตหวานล้ำราวกับน้ำผึ้งเดือนห้าที่เคี่ยวบนเตาไฟ ยิ่งเคี่ยวนานยิ่งหวาน เพิ่มความหอมอบอวลหัวใจ เป็นความรู้สึกยากเกินควบคุม ราวกับว่าเวลานี้ณคุณสั่งใจตัวเองไม่ได้ ดอกรักขึ้นกลางใจ... นายหัวเถื่อนไม่เคยคิดปลูกดอกไม้ดอกนี้ในหัวใจ คิดมาตลอดว่า หัวใจเขามีดอกรักเพียงดอกเดียวคือรัตน์ชนก มันผลิบานอยู่ในดวงใจเรื่อยมา วันนี้ก็ยังคงฝากรากแน่นหนา ทว่ากลับมีดอกรักอีกต้นหนึ่งแทรกขึ้นมา เป็นเมล็ดพันธ์ถูกหว่านตอนใดมิทราบได้ ตอนนี้มันกำลังเจริญเติบโตไม่รู้ตัว ณคุณหลงลืมความแค้นชั่วขณะ เขาจูบผู้หญิงในอ้อมกอดอย่างไร้ซึ่งความรู้สึกนั้น มีเพียงความปรารถนาในกายที่มาจากห้วงลึกจิตใจ รสจุมพิตหวานมาก ซาบซ่านสะท้านสรวง เป็นรสชาติของจูบที่เขาอยากสัมผัสอีกครั้ง หลังจากห่างหายมานานสองปี โลกทั้งใบมีเพียงเขาและเธอ สายลมโอบร่างทั้งคู่ให้ลอยขึ้นไปบนท้องนภา โบกโบยบินราวกับนกท่องไปในโลกกว้าง แต่แล้ว... “
Chapter25พิมรดาเพิ่งเคยขึ้นมาบนนี้เป็นครั้งแรก และทันทีที่ได้เห็นวิวเบื้องหน้า เธอถึงกับร้องว้าวในใจ เพราะเป็นธรรมชาติอันสวยงามมาก วิวมองได้แบบหนึ่งร้อยแบบสิบองศา คลื่นม้วนตัวเข้าหาฟัง ระลอกคลื่นดูสวยงาม มองไปไกลๆ มีเรือสองลำแล่นอยู่บนผืนน้ำ ประดับด้วยเกาะน้อยใหญ่สามสี่เกาะ ภาพตรงหน้าเหมือนภาพวาด อบอวลไปด้วยมนต์เสน่ห์จนไม่อยากถอนสายตา “คุณเพชรคะ ทำงานเหนื่อยๆ ดื่มน้ำหวานก่อนนะคะ” เจ้าของเสียงทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ไม้ข้างร่างหนาที่ดูเหมือนไม่สนใจคำพูดเธอ ณคุณมองไปยังภาพเบื้องหน้าราวกับว่า เธอไร้ตัวตน “ดื่มสักหน่อยนะคะ กำลังเย็นชื่นใจค่ะ” “เอาอกเอาใจเพื่อนฉันเสร็จแล้วเหรอ ถึงได้สนใจฉัน” จะว่าน้อยใจก็ไม่ใช่ ไม่พอใจก็ไม่เชิง “ตอนฉันเอาน้ำไปให้คุณวินกับคุณเต้ คุณยังไม่มานี่คะ ฉันก็เลยให้เขาสองคนก่อน” พิมรดาบอกเหตุผล “ฉันไม่ลืมหรอกค่ะว่า ต้องสนใจคุณ คุณทำงานเหนื่อยๆ อาจอารมณ์ไม่ดี ดื่มน้ำหวานก่อนนะคะอารมณ์อาจดีขึ้น” ณคุณหันมองคนพูด หลุบตามองแก้วน้ำหวาน ก่อนรับแก้วน้ำมาดื่มไปเกือบหมด ระหว่างนั้นพิมรดาฉีกซองผ้าเย็น ดึงมันออกมา “ฉันเช็ดหน้าให้
Chapter24 “เธอไม่ต้องสนใจมัน เธอไม่ได้ทำอะไรผิด กินข้าวต่อเถอะ” ยศวินบอกพิมรดา “กินต่อเถอะ กินเสร็จจะได้กินยา ฉันพกมาด้วย” “ขอบคุณค่ะ” พิมรดาเอ่ยเสียงเบา ในใจไม่หายวิตกกังวลเรื่องอารมณ์ของณคุณที่ขึ้นๆ ลงๆ คาดเดาไม่ได้ หลังจากกินมื้อเช้าและยาลดไข้เสร็จ พิมรดาทำหน้าที่ของตนคือล้างจานชามทั้งหมดเหมือนทุกวัน ทว่าวันนี้ต่างออกไปคือ ยศวินกับจามรช่วยเธอล้างจาน ทั้งสองให้เหตุผลว่า กลัวเธอไข้ขึ้น เธออยากค้านแต่ก็คงห้ามความมุ่งมั่นตั้งใจทั้งคู่ไม่ได้ ไม่เพียงแค่ยศวินกับจามรช่วยพิมรดาล้างจาน ไม่ว่าเธอจะทำงานอะไร ทั้งสองก็ช่วยเต็มที่ แม้กระทั่งทำงานบ้านพักนายหัวจอมโหด ทั้งคู่ก็พร้อมใจกันจับไม้กวาดกวาดบ้าน ไม้ขนไก่ปัดฝุ่นตามตู้โชว์ กรอบรูป หน้าที่ถูกบ้านยศวินกับจามรก็ขันอาสา ยศวินทำชั้นล่าง จามรทำชั้นบน ส่วนพิมรดานั่งดูสองหนุ่มทำงาน ทำงานบ้านเสร็จ ยศวินกับจามรแยกตัวไปช่วยณคุณทำงาน วันนี้ช่วงบ่ายจะมีการสร้างป้อมสังเกตการณ์เพิ่มรอบเกาะหกจุด จากเดิมที่มีอยู่เจ็ดจุด การสร้างป้อมดังกล่าวต้องระดมคนงานชายทั้งหมดมาช่วยกันสร้าง ณคุณไม่ประมาทแม้ว่าเ