“ฉันลืมเรื่องวันนั้นไม่ได้ ถ้าฉันไม่ก้มลงไปเก็บมือถือ เรื่องร้ายคงไม่เกิดขึ้น คุณเดือนกับน้องลูกแก้วคงไม่ตาย และมีความสุขกับครอบครัว แล้วฉันก็ไม่สร้างความเจ็บปวดให้ครอบครัวคุณเดือนด้วย มันยากนะที่จะลืมได้ ฉันพยายามแล้ว แต่ทำไม่ได้” พูดไปน้ำตาไหลไป อุบัติเหตุคืนนั้นเสมือนฝังในสมอง แม้ไม่คิดถึงมัน ทว่าภาพความทรงจำแวบเข้ามาเนืองๆ ราวกับว่าตอกย้ำซ้ำๆ ไม่ให้เธอลืมอย่างไรอย่างนั้น “ที่สำคัญ สามีคุณเดือนแค้นฉันมาก เขาไม่ให้อภัยฉัน ฉันรู้สึกว่ามันเป็นบาปติดตัว บางทีฉันก็คิดว่า คำว่ายกโทษจากปากสามีคุณเดือน อาจปลดเปลื้องความทุกข์ ความรู้สึกผิดที่รัดใจฉันก็ได้”
พิมรดาก้มลงกราบแทบเท้าบิดามารดารัตน์ชนก พร้อมขอโทษกับอุบัติเหตุที่ไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งทั้งสองอโหสิกรรมให้ ทว่ามีเพียงคนเดียวที่ชักเท้าหนี ไม่ยอมให้เธอกราบขอโทษ และไม่ให้อภัย แถมยังสาบส่งให้พิมรดาตายตามลูกเมีย พิมรดาร้องไห้ เข้าใจความเสียใจของณคุณ ไม่ถือโทษโกรธนายหัวผู้สูญเสียไม่ว่าด้วยน้ำเสียง คำพูดและสายตา
ยุพาพรรณกับวิรัญญามองหน้ากัน เข้าใจความรู้สึกพิมรดาดี ไม่มีใครอยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้น ผลกระทบไม่ได้อยู่แค่ตัวต้นเหตุ เกี่ยวโยงถึงญาติผู้เสียชีวิตที่ต่างพากันเสียใจกับการจากไปโดยไม่ทันล่ำลา สองสาวเห็นความเสียใจนั้น เห็นคนหลายคนหลั่งน้ำตา โดยเฉพาะสามีผู้เสียชีวิต เขาร่ำไห้ปานขาดใจ อยากตายตามเมียและลูก ภาพนั้นยังติดตาติดใจไม่หาย แล้วเชื่อว่ามันตรึงในความทรงจำพิมรดา เป็นเหตุให้พิมรดาลืมความประมาทของตนไม่ได้
“ลืมไม่ได้ก็ไม่ต้องลืม ฉันขอแค่แกรักและห่วงตัวเองบ้างก็พอ แล้วขอให้มีผัวเร็วๆ ด้วย ไม่ใช่ทุกข์จนขึ้นคานล่ะ” ยุพาพรรณเปลี่ยนเรื่อง ไม่อยากให้พิมรดาเศร้า
อย่างที่รู้กันว่าพิมรดามีคนรักและขอแต่งงาน แต่หลังจากคืนนั้น พิมรดาบอกเลิกณัฐกิตต์ ให้เหตุผลว่า การจากไปของสองแม่ลูก ทำให้เธอรู้สึกติดอยู่ในกรงบาป ราวกับว่าความสุขในชีวิตถูกปลิดออกจากใจ ไม่อยากทำอะไรทั้งสิ้นหากใจยังไม่ละทิ้งความรู้สึกนั้น แน่นอนว่าณัฐกิตต์ไม่ยอม เขาบอกว่ารอได้ รอให้เธอมีพลังกายและใจ ทว่าพิมรดาตัดสินใจเด็ดขาด เลิกคือเลิก เพราะเกรงว่าหากแต่งงานกับณัฐกิตต์ ความผิดค้างคาในใจอาจทำให้ชีวิตคู่พัง เลิกเพื่อให้เขาพบเจอกับผู้หญิงที่พร้อมเป็นภรรยาและแม่ของลูก ซึ่งเวลานี้ เขาได้พบเจอผู้หญิงคนนั้นแล้ว
“อวยพรคนอื่น อย่างกับแกจะชิ่งมีผัว ฉันว่าห้อยตัวอยู่บนคานมากกว่า” วิรัญญาสวนเพื่อน
“แหม แกก็เหมือนกันนั่นแหละ เลือกมากอยู่ได้ คนนั้นก็ไม่ดี คนนี้ก็ไม่ใช่ อย่างกับว่าผู้ชายสมบูรณ์แบบมันมีเป็นล้านคนไปได้ คนเราน่ะมันมีดีและไม่ดีปะปนกันไปทั้งนั้น ห้อยตัวบนคานไปกับฉันสองคนนี่แหละ ไม่มีผู้ชายเราก็อยู่ได้” ยุพาพรรณเอาเรื่องจริงมาพูด
“อยู่เป็นคานก็ดีนะ เพราะฉันก็ไม่คิดมีแฟน ไม่คิดมีผัว ตราบใดที่ฉันปลดปล่อยความรู้สึกผิดไม่ได้ ฉันคงใช้ชีวิตไม่ได้เต็มที่”
พิมรดาพูดขณะโยนขนมปังลงไปในน้ำ มองดูปลาสวายแย่งอาหารกัน อาหารที่เปรียบเสมือนความสุข เป็นความสุขที่ได้กินอาหาร เพื่อให้มันอิ่มท้อง
พิมรดามีพร้อมทุกอย่าง แต่กลับไม่มีความสุข เพราะเธอตรึงตัวเองอยู่ในความทุกข์ ไม่ก้าวเท้าออกมาจากความเจ็บปวดนั้นเสียที ไม่ต่างกับโบกปูนทับอย่างไรอย่างนั้น
สามสาวเดินกลับมาที่รถตู้ของพิมรดา ที่นับตั้งแต่วันนั้นเธอไม่เคยนั่งอยู่หลังพวงมาลัยอีกเลย หวาดกลัว กังวลและประหม่า กลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาอีกครั้ง น้าบุญจึงทำหน้าที่พลขับให้เจ้านายสาวเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้
สายตาคมกริบอัดแน่นไปด้วยความแค้น ความโกรธและความเจ็บปวด มองไปยังพิมรดาที่กำลังก้าวขึ้นรถอย่างมาดร้าย เขาไม่เคยลืมเรื่องเลวร้ายในคืนนั้น และไม่เคยลืมตัวต้นเหตุที่ทำให้ลูกเมียสุดที่รักจากโลกนี้ไปด้วย
“อย่าคิดว่าบุญจะล้างบาปได้ กฎหมายทำอะไรเธอไม่ได้ ฉันนี่แหละจะลงโทษเธอเอง ให้สาสมกับเรื่องที่เธอทำไว้กับฉัน” ณคุณกำพวงมาลัยแน่น สายตาวาวโรจน์มองพิมรดาอย่างกินเลือดกินเนื้อ อยากฉีกร่างเธอออกมาเป็นชิ้นๆ ให้หายคับแค้นใจ
ทว่าหากณคุณฆ่าพิมรดาให้ตายตกตามเมียและลูกสุดที่รัก มันดูง่ายไปหน่อย คำว่าตกนรกทั้งเป็นต่างหากที่พิมรดาควรได้รับ จะได้อิ่มไปกับความรู้สึกนั้น เหมือนเขาทุกวันนี้ ความเสียใจ เจ็บปวด ทนทุกข์ทรมานไม่หลุดไปจากจิตใจสักวัน กลับมีความคิดถึงบุคคลอันเป็นที่รักเพิ่มขึ้นทุกขณะจิต ความรู้สึกดังกล่าวจึงอยู่ที่เดิม
พิมรดาต้องรับผิดชอบทุกความรู้สึกในใจณคุณ...ในแบบฉบับนายหัวสุดเถื่อน
อีกไม่นานพิมรดา...อีกไม่นาน
สามวันต่อมา
“พรุ่งนี้พ่อจะไประยอง พิมไปกับพ่อไหมลูก ไปเที่ยวบ้าง เปิดหูเปิดตา” บรรพตถามลูกสาวขณะกินมื้อเย็น
“ไปด้วยกันนะพิม บ้านพักที่น้าจองไว้สวยมากเลย อยู่ริมทะเล มีสระว่ายน้ำส่วนตัวด้วยนะ มีครอบครัวน้าศรีกับป้าพรไปด้วย ไปกันหลายๆ คนสนุกดี ตอนเย็นก็ทำบาร์บีคิวกันหรือไม่ก็ปิ้งย่าง” พรแก้ว แม่เลี้ยงพิมรดาที่ดีกับลูกเลี้ยงทั้งต่อหน้าและลับหลัง กล่าวชวนด้วยอีกคน
Chapter29 กลุ่มคนที่บุกขึ้นเกาะนพเก้ามีด้วยกันหกคน แบ่งเป็นสองกลุ่มๆ ละสามคน พวกมันรู้ว่า หากนำเรือมาจอดใกล้เกาะคนเฝ้ายามต้องรู้ มันจึงใช้เรือตกหมึกเป็นยานพาหนะ เนื่องจากเรือนี้ลอยลำใกล้บริเวณนี้ทุกคืน เป็นเรื่องชินตาสำหรับเกาะโดยรอบ เรือตกหมึกจอดอยู่ห่างจากเกาะราวหนึ่งร้อยเมตร คนหกคนใช้เรือยางในการพายเข้าใกล้เกาะกลุ่มแรกนำเรือมาจอดตรงเนินหินตรงป้อมห้า หนึ่งในสามคนปีนขึ้นไปนั่งลนโขดหิน เล็งปืนไปยังตัวป้อมคล้ายยิงเตือน การยิงตอบโต้จึงเริ่มขึ้น ไฟฉายดวงใหญ่ถูกส่องไปยังคนกล้าเหยียบจมูกเสือ เพื่อสะดวกต่อการต่อสู้ เหมือนกลุ่มโจรเตรียมตัวมาดี พวกมันใช้แว่นตาที่สามารถมองเห็นในเวลากลางคืน ทำให้ตอบโต้กลับได้ดี เสียงปืนจึงดังต่อเนื่องอีกกลุ่มหนึ่งลอบไปยังอีกป้อม ทำในลักษณะเดียวกัน ที่น่าผิดสังเกตคือ ทั้งหกคนไม่รุกไปมากกว่า อยู่ตรงจุดเดิม ราวกับว่าพวกมันไม่ได้หวังปล้นรังนก แต่มาเพื่อป่วนคนบนเกาะมากกว่า หรือมุ่งหวังบางอย่างในขณะที่ณคุณ ยศวิน จามรและคนงานคนอื่นวิ่งไปยังป้อมห้ากับป้อมเจ็ด พิมรดาที่นั่งอกสั่นขวัญแขวนในห้องนอนณคุณใจไม่ดีเอาเสียเลย กลัวจับจิตจับใจ หัวใจเต้นกระหน่ำทุกครั้ง
Chapter28“อยู่กับฉันในห้องนี้จะตายหรือไง ถึงได้อยากกลับไปที่ห้องนัก” ตอนนี้ณคุณมีความคิดบางอย่าง “หรือว่าไอ้สองตัวยังไม่กลับ มันรอเธอในห้องใช่ไหม”“ก็แล้วแต่คุณจะคิด ลุกไปสิ ฉันจะกลับห้อง” พิมรดาไม่เข้าใจว่า เหตุใดณคุณถึงได้ย้ำคิดว่า เธอเป็นผู้หญิงหลายใจ หลับนอนกับชายใดก็ได้ แต่ก็ไม่โต้เถียง เธอเลือกเลี่ยงเพื่อไม่ให้ตนเองเจ็บตัว“เธออยากออกจากห้องนี้มากเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งอยากให้เธออยู่ในห้องนี้มากเท่านั้น ให้คนที่คอยเธออยู่ในห้องอกแตกตายไปเลย”“คุณจะบ้าหรือไง คิดอะไรบ้าๆ คุณวินกับคุณเต้ก็รู้ว่า ฉันมาอยู่ที่นี่ในฐานะอะไร แล้วคุณต้องการอะไรจากฉัน คุณคิดว่า เขาสองคนจะทำเรื่องนั้นได้เหรอ ถึงฉันจะเป็นคนไม่ดีในสายตาคุณ แต่ฉันไม่ก็มั่ว ไม่ได้นอนแบให้ผู้ชายเอาง่ายๆ นะ” พิมรดาระเบิดอารมณ์ใส่หน้าณคุณ “คุณเลิกดูถูกฉันได้แล้ว ฉันสัญญาว่า ตราบใดที่ฉันอยู่ที่นี่ ฉันไม่มีใครแน่นอน แต่หลังจากนั้นไม่แน่ คุณ...”คำพูดพิมรดาถูกกลืนลงลำคอ เมื่อปากได้รูปณคุณปิดทับปากช่างเจรจา คล้ายกับว่าไม่อยากได้ยินเสียงเธอ เขาฉกจูบ สอดลิ้นพันรัดลิ้นเล็กที่อยู่ในอาการตกใจกับการถูกจู่โจม แต่เมื่อเวลาผ่านไปชั่วครู่ เธออาจห
Chapter27“ก็เหมือนแมวเฝ้าปลาย่างไง กลัวกูสองคนจะขโมยกินปลาย่างมึง” จามรพูดตรง“ถ้ามึงอยากกินปลาย่างของกูก็เชิญกินตามสบาย กูแดกทีไรติดคอทุกที”ณคุณคว้าวิทยุสื่อสารที่วางอยู่บนโซฟาตัวที่ตนนั่ง หมุนตัวเดินไปยังบันไดบ้านทันทีที่พูดจบ โดยมีคำพูดจามรไล่หลังมาติดๆ“เออ กูจะกินปลาย่างของมึงให้พุงกางเลย” จามรหัวเสียกับณคุณเล็กน้อย “มันจะรู้ไหมว่า ปากกับใจไม่ตรงกัน”“มันไม่รู้ตัวหรอก เพราะความเกลียดความแค้นบังใจมันอยู่” ยศวินหยิบแก้วขึ้นดื่มบรั่นดี เขาเข้าใจณคุณ ไม่แปลกที่ณคุณจะเว้นระยะความรู้สึกห่างขนาดนี้ “กูว่านะ งานนี้ต้องดัน”“ดันอะไรวะ ดันยังไง” จามรรีบถาม“คอยดูล่ะกัน” ยศวินยังไม่ตอบ “มึงต้องรอ”จามรไม่ถาม แม้มีความสงสัยหลายข้อ เวลาผ่านไปราวห้านาที พิมรดาดเดินออกจากห้องน้ำด้วยชุดนอน มีผ้าขนหนูคลุมไหล่ ยศวินลุกขึ้นเดินไปหาสาวสวย“พิมขึ้นไปดูเพชรหน่อยสิ มันเมาน่ะ ฉันกลัวมันอ้วก”“ค่ะ ได้ค่ะ”“ฉันกับเต้ไปก่อนนะ” ยศวินคิดว่าหน้าที่วันนี้หมดลงแล้ว ต่อจากนี้ก็สุดแต่บุญพาวาสนา“มึงคิดจะทำอะไรไอ้วิน ให้พิมขึ้นไปบนห้องไอ้เพชร เดี๋ยวก็ถูกตะเพิดอย่างหมูอย่างหมาออกมาหรอก” จามรเป็นห่วงพิมรดา“ถ้าเรา
Chapter26 ณคุณไม่เคยคิดจูบพิมรดาแบบนุ่มนวล ทุกครั้งคือการลงทัณฑ์ เขาอยากทำเช่นเดิม ทว่าใจกลับถูกต่อต้าน ยั้งความคิด ยั้งการกระทำ ทำในเรื่องสวนทาง มอบจุมพิตหวานล้ำราวกับน้ำผึ้งเดือนห้าที่เคี่ยวบนเตาไฟ ยิ่งเคี่ยวนานยิ่งหวาน เพิ่มความหอมอบอวลหัวใจ เป็นความรู้สึกยากเกินควบคุม ราวกับว่าเวลานี้ณคุณสั่งใจตัวเองไม่ได้ ดอกรักขึ้นกลางใจ... นายหัวเถื่อนไม่เคยคิดปลูกดอกไม้ดอกนี้ในหัวใจ คิดมาตลอดว่า หัวใจเขามีดอกรักเพียงดอกเดียวคือรัตน์ชนก มันผลิบานอยู่ในดวงใจเรื่อยมา วันนี้ก็ยังคงฝากรากแน่นหนา ทว่ากลับมีดอกรักอีกต้นหนึ่งแทรกขึ้นมา เป็นเมล็ดพันธ์ถูกหว่านตอนใดมิทราบได้ ตอนนี้มันกำลังเจริญเติบโตไม่รู้ตัว ณคุณหลงลืมความแค้นชั่วขณะ เขาจูบผู้หญิงในอ้อมกอดอย่างไร้ซึ่งความรู้สึกนั้น มีเพียงความปรารถนาในกายที่มาจากห้วงลึกจิตใจ รสจุมพิตหวานมาก ซาบซ่านสะท้านสรวง เป็นรสชาติของจูบที่เขาอยากสัมผัสอีกครั้ง หลังจากห่างหายมานานสองปี โลกทั้งใบมีเพียงเขาและเธอ สายลมโอบร่างทั้งคู่ให้ลอยขึ้นไปบนท้องนภา โบกโบยบินราวกับนกท่องไปในโลกกว้าง แต่แล้ว... “
Chapter25พิมรดาเพิ่งเคยขึ้นมาบนนี้เป็นครั้งแรก และทันทีที่ได้เห็นวิวเบื้องหน้า เธอถึงกับร้องว้าวในใจ เพราะเป็นธรรมชาติอันสวยงามมาก วิวมองได้แบบหนึ่งร้อยแบบสิบองศา คลื่นม้วนตัวเข้าหาฟัง ระลอกคลื่นดูสวยงาม มองไปไกลๆ มีเรือสองลำแล่นอยู่บนผืนน้ำ ประดับด้วยเกาะน้อยใหญ่สามสี่เกาะ ภาพตรงหน้าเหมือนภาพวาด อบอวลไปด้วยมนต์เสน่ห์จนไม่อยากถอนสายตา “คุณเพชรคะ ทำงานเหนื่อยๆ ดื่มน้ำหวานก่อนนะคะ” เจ้าของเสียงทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ไม้ข้างร่างหนาที่ดูเหมือนไม่สนใจคำพูดเธอ ณคุณมองไปยังภาพเบื้องหน้าราวกับว่า เธอไร้ตัวตน “ดื่มสักหน่อยนะคะ กำลังเย็นชื่นใจค่ะ” “เอาอกเอาใจเพื่อนฉันเสร็จแล้วเหรอ ถึงได้สนใจฉัน” จะว่าน้อยใจก็ไม่ใช่ ไม่พอใจก็ไม่เชิง “ตอนฉันเอาน้ำไปให้คุณวินกับคุณเต้ คุณยังไม่มานี่คะ ฉันก็เลยให้เขาสองคนก่อน” พิมรดาบอกเหตุผล “ฉันไม่ลืมหรอกค่ะว่า ต้องสนใจคุณ คุณทำงานเหนื่อยๆ อาจอารมณ์ไม่ดี ดื่มน้ำหวานก่อนนะคะอารมณ์อาจดีขึ้น” ณคุณหันมองคนพูด หลุบตามองแก้วน้ำหวาน ก่อนรับแก้วน้ำมาดื่มไปเกือบหมด ระหว่างนั้นพิมรดาฉีกซองผ้าเย็น ดึงมันออกมา “ฉันเช็ดหน้าให้
Chapter24 “เธอไม่ต้องสนใจมัน เธอไม่ได้ทำอะไรผิด กินข้าวต่อเถอะ” ยศวินบอกพิมรดา “กินต่อเถอะ กินเสร็จจะได้กินยา ฉันพกมาด้วย” “ขอบคุณค่ะ” พิมรดาเอ่ยเสียงเบา ในใจไม่หายวิตกกังวลเรื่องอารมณ์ของณคุณที่ขึ้นๆ ลงๆ คาดเดาไม่ได้ หลังจากกินมื้อเช้าและยาลดไข้เสร็จ พิมรดาทำหน้าที่ของตนคือล้างจานชามทั้งหมดเหมือนทุกวัน ทว่าวันนี้ต่างออกไปคือ ยศวินกับจามรช่วยเธอล้างจาน ทั้งสองให้เหตุผลว่า กลัวเธอไข้ขึ้น เธออยากค้านแต่ก็คงห้ามความมุ่งมั่นตั้งใจทั้งคู่ไม่ได้ ไม่เพียงแค่ยศวินกับจามรช่วยพิมรดาล้างจาน ไม่ว่าเธอจะทำงานอะไร ทั้งสองก็ช่วยเต็มที่ แม้กระทั่งทำงานบ้านพักนายหัวจอมโหด ทั้งคู่ก็พร้อมใจกันจับไม้กวาดกวาดบ้าน ไม้ขนไก่ปัดฝุ่นตามตู้โชว์ กรอบรูป หน้าที่ถูกบ้านยศวินกับจามรก็ขันอาสา ยศวินทำชั้นล่าง จามรทำชั้นบน ส่วนพิมรดานั่งดูสองหนุ่มทำงาน ทำงานบ้านเสร็จ ยศวินกับจามรแยกตัวไปช่วยณคุณทำงาน วันนี้ช่วงบ่ายจะมีการสร้างป้อมสังเกตการณ์เพิ่มรอบเกาะหกจุด จากเดิมที่มีอยู่เจ็ดจุด การสร้างป้อมดังกล่าวต้องระดมคนงานชายทั้งหมดมาช่วยกันสร้าง ณคุณไม่ประมาทแม้ว่าเ