“โอ๊ย!” เธอร้องเจ็บ นำมือไปคลำสะโพก เงยหน้ามองณคุณ ชายหน้ายักษ์ที่แยกเขี้ยวใส่ “คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม”
“พามาลงโทษไงล่ะ กฎหมายทำอะไรเธอไม่ได้ ฉันก็เลยจับเธอมาลงโทษในแบบของฉัน” พิมรดากลัวใบหน้าขึงขังเขาไม่พอ เธอยังกลัวคำพูดเขาอีกด้วย “ทั้งที่ฉันอยากฆ่าเธอให้ตายตามเดือนและลูกแก้ว ให้ครอบครัวเธอได้รับรู้ถึงความสูญเสีย แต่ฉันมาคิดๆ ดู ความตายมันไม่ทำให้เธอเจ็บปวด เท่ากับบทเรียนที่ฉันจะมอบให้เธอ”
หนาวสั่นทั้งตัว หัวใจสั่นหนักมากขึ้นไปอีก แววตา น้ำเสียงและใบหน้าเข้มขึงของณคุณน่ากลัวมาก ราวกับซาตานหลุดออกมาจากนรก ทว่าเธอกลับเห็นความเจ็บปวดในแววตาคู่นี้
“แล้วคุณจะลงโทษฉันยังไง คุณถึงพอใจ คุณถึงอภัยให้ฉัน”
พิมรดาเข้าใจความรู้สึกคนสูญเสีย การจากไปของภรรยาและลูกสร้างความเจ็บปวดให้ณคุณมาก เสมือนฟ้าผ่าลงมากลางใจ เป็นเรื่องไม่คาดฝันไม่ทันตั้งตัว ความโกรธแค้นในตัวคนกระทำย่อมเกิดขึ้น พิมรดารับรู้ถึงพลังนั้น ขนาดเธอยังไม่ให้อภัยตัวเอง แล้วเขาล่ะ จะให้อภัยเธอได้อย่างไร
“เธอพูดแบบนี้ ทำให้ฉันคิดว่า เธอยอมทำตามทุกอย่างที่ฉันบอกใช่ไหม”
“ไม่ใช่แค่คุณที่เจ็บปวดกับการสูญเสีย ฉันเองก็เจ็บปวดไม่แพ้คุณ นับตั้งแต่คืนนั้น มันเหมือนเป็นฝันร้ายตามหลอกหลอน ฉันไม่เคยนอนหลับสนิทเลยสักคืน ฉันทำบุญทุกวัน หวังว่าบุญจะทำให้ฉันปลงและปล่อยวาง แต่ไม่เลย มันกลับแน่นอยู่ในใจฉัน ถ้าการที่ฉันถูกคุณลงโทษและฉันได้รับการให้อภัย ฉันยินดี บางทีฉันอาจปลดจากห่วงนี้ก็ได้” พิมรดาพูดไปร้องไห้ไป ทุกคำพูดล้วนมาจากใจ
“ฉันยกโทษให้เธอแน่ ถ้าฉันได้ในสิ่งที่ต้องการ” น้ำเสียงราบเรียบ แต่ทรงพลัง
“คุณต้องการอะไร จะลงโทษฉันยังไงคะ” พิมรดายอมทำทุกอย่าง เธออยากจบเรื่องนี้ ต้องการกลับไปเป็นพิมรดาคนเดิม ที่ใจไม่วกวนอยู่กับเรื่องนี้
“เธออยู่ที่นี่ในฐานะคนใช้ ฉันจะโขกสับเธอเยี่ยงทาส และอีกหนึ่งหน้าที่คือ เป็นนางบำเรอของฉัน จนกว่าเธอจะมีลูกให้ฉัน เธอคลอดลูกเมื่อไหร่ ฉันจะปล่อยเธอให้เป็นอิสะ ความโกรธแค้นที่ฉันมีต่อเธอเป็นอันจบ” ลงโทษอย่างแรกพิมรดาไม่ตกใจเท่าอย่างหลัง เธอมองหน้าเขาทั้งน้ำตา หัวใจเต้นด้วยอัตราความเร็วเช่นเดิม เธอพรากลูกเขาไปก็ต้องมอบลูกคืนให้ เป็นเรื่องที่ยุติธรรม แต่ก็มีคำถามในใจเกิดขึ้น
“ลูกที่เกิดจากผู้หญิงที่คุณเกลียดและแค้น คุณจะรักลูกคนนี้หรือคะ”
“รักสิ เพราะลูกที่เกิดมาเป็นลูกของฉัน เป็นลูกที่ฉันตั้งใจให้เกิดมา ฉันไม่มีวันเกลียดลูกตัวเองได้แน่นอน แม้ว่าแม่ของลูกคือคนที่ฉันเกลียดเข้ากระดูกดำก็ตาม” ณคุณตอบชัดเจน “เธอไม่มีทางเลือกพิมรดา ยอมไม่ยอมเธอก็ต้องทำตามคำสั่งฉัน ทุกอย่างฉันเป็นคนกำหนด บนเกาะนี้ฉันคือผู้พิพากษา แล้วฉันบอกเธอเอาบุญไว้อย่างหนึ่งว่า ถ้าเธอคิดหนีหรือขัดใจฉันล่ะก็ ฉันจะจับตัวน้องสาวเธอมาลงโทษแทน”
“ไม่นะ อย่าทำอย่างนั้น น้องสาวฉันไม่รู้เรื่องอะไรด้วย คนที่คุณควรลงโทษคือฉัน ฉันยอมทุกอย่าง คุณเอาความโกรธ ความเกลียดมาลงที่ฉันได้เลย” พิมรดาร้องขอเสียงสั่น ยอมรับการลงทัณฑ์แต่โดยดี
“ต่อไปนี้คำสั่งฉันคือประกาศิต ห้ามขัดคำสั่ง ห้ามโต้แย้ง ถ้าไม่อยากเจ็บตัว อย่าทำ” เขาเตือน เธอพยักหน้าช้าๆ “งานแรกที่เธอทำคือ ทำความสะอาดบ้าน ทรายที่ติดตามตัวเธอทำบ้านฉันสกปรก เธอต้องจัดการเม็ดทรายทุกเม็ดให้บ้านฉันสะอาด ถ้าฉันสัมผัสเม็ดทรายสักเม็ดล่ะก็ ฉันจะจับตัวเธอไปแช่น้ำทะเล”
“แล้วอุปกรณ์ทำความสะอาดอยู่ที่ไหนคะ”
“ก็หาเอาเองสิ ตาก็มีไม่ใช่เหรอ ใช้ตาให้เป็นประโยชน์ไม่ใช่มีไว้ร้องไห้อย่างเดียว แล้วจะบอกเอาไว้นะว่า น้ำตาเธอไม่ช่วยอะไรหรอก ต่อให้ร้องไห้เป็นสายเลือด ฉันก็ไม่มีวันยกโทษให้เธอ” เสียงเขาเข้มห้วน ใบหน้าดุดัน พิมรดาไม่กล้าสบตามอง ก้มหน้างุด “หาของแค่นี้หาไม่ได้ ก็เตรียมตัวไปแช่ในน้ำเล่นๆ ได้เลยฉันกลับมาแล้วบ้านไม่เรียบร้อยล่ะก็ เธอเจอดีแน่”
มิวายขู่ซ้ำ ก่อนเดินออกไปจากห้อง พิมรดาน้ำตาร่วง ปาดน้ำตาทิ้งราวกับเด็กน้อย เธอมองไปรอบห้องที่มีเพียงฟูกขนาดสามฟุตครึ่งเปล่าๆ ไร้ผ้าปูที่นอน พัดลมขนาดสิบสี่นิ้วกลางเก่ากลางใหม่วางอยู่ปลายฟูก ชั้นไม้สามชั้นวางตรงหัวมุม หน้าต่างสองบานพร้อมเหล็กดัดแน่นหนา ผ้าม่านสีเทาติดอยู่บนขอบหน้าต่าง ภายในห้องมีเท่านี้จริงๆ
ขณะที่กำลังสำรวจห้อง บัญชาเดินเข้ามาด้านในพร้อมกับกระเป๋าเดินทาง เขาวางมันลงใกล้ๆ ร่างเจ้านายสาวที่รู้ดีว่า นิสัยดีแค่ไหน ทว่าเขาเป็นคนของณคุณ ก็ต้องรักและเคารพนายหัวจอมเถื่อนมากกว่าสาวตรงหน้า
“ในกระเป๋ามีเสื้อผ้าของคุณพิมครับ ผมเก็บมาให้” บัญชาบอกพิมรดาที่ใบหน้าเหมือนมีเครื่องหมายคำถามแปะอยู่ “ผมเป็นคนของนายหัวที่ถูกส่งเข้าไปในบ้านคุณพิม คอยดูความเคลื่อนไหวแล้วรายงานให้นายหัวทราบ และลงมือจับตัวคุณพิมมาที่นี่ด้วยการวางยานอนหลับ พร้อมเก็บเสื้อผ้าคุณพิมมาด้วยครับ”
บัญชาเฉลยให้พิมรดารู้
คลื่นใต้น้ำ...
Chapter29 กลุ่มคนที่บุกขึ้นเกาะนพเก้ามีด้วยกันหกคน แบ่งเป็นสองกลุ่มๆ ละสามคน พวกมันรู้ว่า หากนำเรือมาจอดใกล้เกาะคนเฝ้ายามต้องรู้ มันจึงใช้เรือตกหมึกเป็นยานพาหนะ เนื่องจากเรือนี้ลอยลำใกล้บริเวณนี้ทุกคืน เป็นเรื่องชินตาสำหรับเกาะโดยรอบ เรือตกหมึกจอดอยู่ห่างจากเกาะราวหนึ่งร้อยเมตร คนหกคนใช้เรือยางในการพายเข้าใกล้เกาะกลุ่มแรกนำเรือมาจอดตรงเนินหินตรงป้อมห้า หนึ่งในสามคนปีนขึ้นไปนั่งลนโขดหิน เล็งปืนไปยังตัวป้อมคล้ายยิงเตือน การยิงตอบโต้จึงเริ่มขึ้น ไฟฉายดวงใหญ่ถูกส่องไปยังคนกล้าเหยียบจมูกเสือ เพื่อสะดวกต่อการต่อสู้ เหมือนกลุ่มโจรเตรียมตัวมาดี พวกมันใช้แว่นตาที่สามารถมองเห็นในเวลากลางคืน ทำให้ตอบโต้กลับได้ดี เสียงปืนจึงดังต่อเนื่องอีกกลุ่มหนึ่งลอบไปยังอีกป้อม ทำในลักษณะเดียวกัน ที่น่าผิดสังเกตคือ ทั้งหกคนไม่รุกไปมากกว่า อยู่ตรงจุดเดิม ราวกับว่าพวกมันไม่ได้หวังปล้นรังนก แต่มาเพื่อป่วนคนบนเกาะมากกว่า หรือมุ่งหวังบางอย่างในขณะที่ณคุณ ยศวิน จามรและคนงานคนอื่นวิ่งไปยังป้อมห้ากับป้อมเจ็ด พิมรดาที่นั่งอกสั่นขวัญแขวนในห้องนอนณคุณใจไม่ดีเอาเสียเลย กลัวจับจิตจับใจ หัวใจเต้นกระหน่ำทุกครั้ง
Chapter28“อยู่กับฉันในห้องนี้จะตายหรือไง ถึงได้อยากกลับไปที่ห้องนัก” ตอนนี้ณคุณมีความคิดบางอย่าง “หรือว่าไอ้สองตัวยังไม่กลับ มันรอเธอในห้องใช่ไหม”“ก็แล้วแต่คุณจะคิด ลุกไปสิ ฉันจะกลับห้อง” พิมรดาไม่เข้าใจว่า เหตุใดณคุณถึงได้ย้ำคิดว่า เธอเป็นผู้หญิงหลายใจ หลับนอนกับชายใดก็ได้ แต่ก็ไม่โต้เถียง เธอเลือกเลี่ยงเพื่อไม่ให้ตนเองเจ็บตัว“เธออยากออกจากห้องนี้มากเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งอยากให้เธออยู่ในห้องนี้มากเท่านั้น ให้คนที่คอยเธออยู่ในห้องอกแตกตายไปเลย”“คุณจะบ้าหรือไง คิดอะไรบ้าๆ คุณวินกับคุณเต้ก็รู้ว่า ฉันมาอยู่ที่นี่ในฐานะอะไร แล้วคุณต้องการอะไรจากฉัน คุณคิดว่า เขาสองคนจะทำเรื่องนั้นได้เหรอ ถึงฉันจะเป็นคนไม่ดีในสายตาคุณ แต่ฉันไม่ก็มั่ว ไม่ได้นอนแบให้ผู้ชายเอาง่ายๆ นะ” พิมรดาระเบิดอารมณ์ใส่หน้าณคุณ “คุณเลิกดูถูกฉันได้แล้ว ฉันสัญญาว่า ตราบใดที่ฉันอยู่ที่นี่ ฉันไม่มีใครแน่นอน แต่หลังจากนั้นไม่แน่ คุณ...”คำพูดพิมรดาถูกกลืนลงลำคอ เมื่อปากได้รูปณคุณปิดทับปากช่างเจรจา คล้ายกับว่าไม่อยากได้ยินเสียงเธอ เขาฉกจูบ สอดลิ้นพันรัดลิ้นเล็กที่อยู่ในอาการตกใจกับการถูกจู่โจม แต่เมื่อเวลาผ่านไปชั่วครู่ เธออาจห
Chapter27“ก็เหมือนแมวเฝ้าปลาย่างไง กลัวกูสองคนจะขโมยกินปลาย่างมึง” จามรพูดตรง“ถ้ามึงอยากกินปลาย่างของกูก็เชิญกินตามสบาย กูแดกทีไรติดคอทุกที”ณคุณคว้าวิทยุสื่อสารที่วางอยู่บนโซฟาตัวที่ตนนั่ง หมุนตัวเดินไปยังบันไดบ้านทันทีที่พูดจบ โดยมีคำพูดจามรไล่หลังมาติดๆ“เออ กูจะกินปลาย่างของมึงให้พุงกางเลย” จามรหัวเสียกับณคุณเล็กน้อย “มันจะรู้ไหมว่า ปากกับใจไม่ตรงกัน”“มันไม่รู้ตัวหรอก เพราะความเกลียดความแค้นบังใจมันอยู่” ยศวินหยิบแก้วขึ้นดื่มบรั่นดี เขาเข้าใจณคุณ ไม่แปลกที่ณคุณจะเว้นระยะความรู้สึกห่างขนาดนี้ “กูว่านะ งานนี้ต้องดัน”“ดันอะไรวะ ดันยังไง” จามรรีบถาม“คอยดูล่ะกัน” ยศวินยังไม่ตอบ “มึงต้องรอ”จามรไม่ถาม แม้มีความสงสัยหลายข้อ เวลาผ่านไปราวห้านาที พิมรดาดเดินออกจากห้องน้ำด้วยชุดนอน มีผ้าขนหนูคลุมไหล่ ยศวินลุกขึ้นเดินไปหาสาวสวย“พิมขึ้นไปดูเพชรหน่อยสิ มันเมาน่ะ ฉันกลัวมันอ้วก”“ค่ะ ได้ค่ะ”“ฉันกับเต้ไปก่อนนะ” ยศวินคิดว่าหน้าที่วันนี้หมดลงแล้ว ต่อจากนี้ก็สุดแต่บุญพาวาสนา“มึงคิดจะทำอะไรไอ้วิน ให้พิมขึ้นไปบนห้องไอ้เพชร เดี๋ยวก็ถูกตะเพิดอย่างหมูอย่างหมาออกมาหรอก” จามรเป็นห่วงพิมรดา“ถ้าเรา
Chapter26 ณคุณไม่เคยคิดจูบพิมรดาแบบนุ่มนวล ทุกครั้งคือการลงทัณฑ์ เขาอยากทำเช่นเดิม ทว่าใจกลับถูกต่อต้าน ยั้งความคิด ยั้งการกระทำ ทำในเรื่องสวนทาง มอบจุมพิตหวานล้ำราวกับน้ำผึ้งเดือนห้าที่เคี่ยวบนเตาไฟ ยิ่งเคี่ยวนานยิ่งหวาน เพิ่มความหอมอบอวลหัวใจ เป็นความรู้สึกยากเกินควบคุม ราวกับว่าเวลานี้ณคุณสั่งใจตัวเองไม่ได้ ดอกรักขึ้นกลางใจ... นายหัวเถื่อนไม่เคยคิดปลูกดอกไม้ดอกนี้ในหัวใจ คิดมาตลอดว่า หัวใจเขามีดอกรักเพียงดอกเดียวคือรัตน์ชนก มันผลิบานอยู่ในดวงใจเรื่อยมา วันนี้ก็ยังคงฝากรากแน่นหนา ทว่ากลับมีดอกรักอีกต้นหนึ่งแทรกขึ้นมา เป็นเมล็ดพันธ์ถูกหว่านตอนใดมิทราบได้ ตอนนี้มันกำลังเจริญเติบโตไม่รู้ตัว ณคุณหลงลืมความแค้นชั่วขณะ เขาจูบผู้หญิงในอ้อมกอดอย่างไร้ซึ่งความรู้สึกนั้น มีเพียงความปรารถนาในกายที่มาจากห้วงลึกจิตใจ รสจุมพิตหวานมาก ซาบซ่านสะท้านสรวง เป็นรสชาติของจูบที่เขาอยากสัมผัสอีกครั้ง หลังจากห่างหายมานานสองปี โลกทั้งใบมีเพียงเขาและเธอ สายลมโอบร่างทั้งคู่ให้ลอยขึ้นไปบนท้องนภา โบกโบยบินราวกับนกท่องไปในโลกกว้าง แต่แล้ว... “
Chapter25พิมรดาเพิ่งเคยขึ้นมาบนนี้เป็นครั้งแรก และทันทีที่ได้เห็นวิวเบื้องหน้า เธอถึงกับร้องว้าวในใจ เพราะเป็นธรรมชาติอันสวยงามมาก วิวมองได้แบบหนึ่งร้อยแบบสิบองศา คลื่นม้วนตัวเข้าหาฟัง ระลอกคลื่นดูสวยงาม มองไปไกลๆ มีเรือสองลำแล่นอยู่บนผืนน้ำ ประดับด้วยเกาะน้อยใหญ่สามสี่เกาะ ภาพตรงหน้าเหมือนภาพวาด อบอวลไปด้วยมนต์เสน่ห์จนไม่อยากถอนสายตา “คุณเพชรคะ ทำงานเหนื่อยๆ ดื่มน้ำหวานก่อนนะคะ” เจ้าของเสียงทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ไม้ข้างร่างหนาที่ดูเหมือนไม่สนใจคำพูดเธอ ณคุณมองไปยังภาพเบื้องหน้าราวกับว่า เธอไร้ตัวตน “ดื่มสักหน่อยนะคะ กำลังเย็นชื่นใจค่ะ” “เอาอกเอาใจเพื่อนฉันเสร็จแล้วเหรอ ถึงได้สนใจฉัน” จะว่าน้อยใจก็ไม่ใช่ ไม่พอใจก็ไม่เชิง “ตอนฉันเอาน้ำไปให้คุณวินกับคุณเต้ คุณยังไม่มานี่คะ ฉันก็เลยให้เขาสองคนก่อน” พิมรดาบอกเหตุผล “ฉันไม่ลืมหรอกค่ะว่า ต้องสนใจคุณ คุณทำงานเหนื่อยๆ อาจอารมณ์ไม่ดี ดื่มน้ำหวานก่อนนะคะอารมณ์อาจดีขึ้น” ณคุณหันมองคนพูด หลุบตามองแก้วน้ำหวาน ก่อนรับแก้วน้ำมาดื่มไปเกือบหมด ระหว่างนั้นพิมรดาฉีกซองผ้าเย็น ดึงมันออกมา “ฉันเช็ดหน้าให้
Chapter24 “เธอไม่ต้องสนใจมัน เธอไม่ได้ทำอะไรผิด กินข้าวต่อเถอะ” ยศวินบอกพิมรดา “กินต่อเถอะ กินเสร็จจะได้กินยา ฉันพกมาด้วย” “ขอบคุณค่ะ” พิมรดาเอ่ยเสียงเบา ในใจไม่หายวิตกกังวลเรื่องอารมณ์ของณคุณที่ขึ้นๆ ลงๆ คาดเดาไม่ได้ หลังจากกินมื้อเช้าและยาลดไข้เสร็จ พิมรดาทำหน้าที่ของตนคือล้างจานชามทั้งหมดเหมือนทุกวัน ทว่าวันนี้ต่างออกไปคือ ยศวินกับจามรช่วยเธอล้างจาน ทั้งสองให้เหตุผลว่า กลัวเธอไข้ขึ้น เธออยากค้านแต่ก็คงห้ามความมุ่งมั่นตั้งใจทั้งคู่ไม่ได้ ไม่เพียงแค่ยศวินกับจามรช่วยพิมรดาล้างจาน ไม่ว่าเธอจะทำงานอะไร ทั้งสองก็ช่วยเต็มที่ แม้กระทั่งทำงานบ้านพักนายหัวจอมโหด ทั้งคู่ก็พร้อมใจกันจับไม้กวาดกวาดบ้าน ไม้ขนไก่ปัดฝุ่นตามตู้โชว์ กรอบรูป หน้าที่ถูกบ้านยศวินกับจามรก็ขันอาสา ยศวินทำชั้นล่าง จามรทำชั้นบน ส่วนพิมรดานั่งดูสองหนุ่มทำงาน ทำงานบ้านเสร็จ ยศวินกับจามรแยกตัวไปช่วยณคุณทำงาน วันนี้ช่วงบ่ายจะมีการสร้างป้อมสังเกตการณ์เพิ่มรอบเกาะหกจุด จากเดิมที่มีอยู่เจ็ดจุด การสร้างป้อมดังกล่าวต้องระดมคนงานชายทั้งหมดมาช่วยกันสร้าง ณคุณไม่ประมาทแม้ว่าเ