หลังจากรถลิมูซีนสีขาววิ่งเข้ามาจอดสนิทหน้าอาคารผู้โดยสารอากาศยานส่วนบุคคล ของท่าอากาศยาน อัล อัคดาห์ สนามบินแห่งชาติรัฐสุลต่าน บาลาห์ จาเบลุซ ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีน้ำเงินก็เปิดประตูด้านหลังก้าวลงมาก่อน ในขณะที่มือข้างหนึ่งยังจับข้อมือหญิงสาวอีกคนเอาไว้แน่น ร่างเพรียวบางในชุดราตรียาวจึงจำเป็นต้องรีบขยับตัวตามเขาลงจากรถ ก่อนจะถูกอีกฝ่ายเดินกึ่งลากกึ่งจูงเข้าไปภายในตัวอาคาร
ทันทีที่เสร็จสิ้นงานเลี้ยงมงคลสมรสของเจ้าชายโฮร์มุซ บิน ฮาเร็บ อัล อลาวี ผู้เป็นเพื่อนสนิทเมื่อเกือบครึ่งชั่วโมงก่อน หม่อมราชวงศ์พิษณุนเรศวร์ก็ตัดสินใจพาเชลยสาวของเขาเข้าไปอำลาเจ้าภาพ แล้วปลีกตัวมาเพื่อจะขึ้นเครื่องบินเดินทางออกจากประเทศอย่างกะทันหัน
“ถึง ตม.แล้วก็ปล่อยมือฉันซะทีเถอะค่ะ ฉันเจ็บจะแย่อยู่แล้วนะ” หญิงสาวพูดไม่เต็มเสียง ตาก็เหลียวมองไปรอบๆ ตัวด้วยความรู้สึกกระดากใจมากกว่าจะรู้สึกอย่างอื่น เพราะถึงแม้ว่าเธอจะมีอาชีพเป็นแอร์โฮสเตสก็จริง แต่ก็ไม่เคยเดินเข้าออกสนามบินในชุดราตรีที่ปักเลื่อมระยิบระยับไปทั้งตัวอย่างนี้
“ปล่อยไม่ได้ ผู้หญิงดื้อด้านอย่างคุณเผลอเป็นต้องหาโอกาสหนี ผมไม่มีเวลาไปไล่ตามหรอก” บอกพลางกระชากอีกฝ่ายเข้าไปชิด
“พาสปอร์ตฉันก็อยู่กับคุณ เงินก็ไม่มีติดตัวสักบาท ที่นี่มองไปทางไหนก็มีแต่ทะเลทราย แล้วฉันจะมีปัญญาหนีไปไหนได้อีกล่ะคะ” เธอพยายามโต้แย้งเสียยาวยืด ใบหน้าขาวนวลเนียนดูบึ้งตึงอยู่บ้าง หากก็ยังไม่กล้าแสดงความขุ่นเคืองทางน้ำเสียง
“อันที่จริงนะ ศศิวลัย...” พิษณุนเรศวร์หยุดเหมือนนิ่งคิดไปชั่วอึดใจหนึ่งจึงพูดต่อ “ถึงจะหนีคุณก็หนีไม่รอดหรอก เพราะที่นี่เป็นประเทศของเพื่อนผม... อย่าคิดทำอะไรโง่ๆ ก็แล้วกัน ไม่อย่างนั้นคุณคงรู้นะว่าผลจะเป็นยังไง” ว่าแล้วก็ยอมปล่อยข้อมือของเธอ ไม่วายจ้องมองเธอด้วยดวงตาคมกริบดุดันเป็นเชิงข่มขู่
“ฉันรู้หรอกค่ะ” เจ้าของชื่อศศิวลัยตอบห้วนๆ “ตอนอยู่ที่งานแต่งงาน คุณสั่งไม่ให้ฉันคุยกับใคร ไม่ให้ฉันลุกไปไหน ฉันก็ทำตามที่คุณสั่งทุกอย่างไม่ใช่เหรอ”
“แต่ก่อนหน้านั้น คุณพยายามหนี จำไม่ได้เหรอ” หม่อมราชวงศ์หนุ่มหันมาย้อน ก่อนจะก้าวนำเธอไปยังเคาน์เตอร์ตรวจหนังสือเดินทางหญิงสาวจำใจต้องเดินตาม ปากก็ลอบขมุบขมิบด่าทอเขาไปด้วย ขณะเดียวกันก็นวดเฟ้นข้อมือตัวเองที่ถูกอีกฝ่ายกุมอยู่นานจนห้อเลือด...
นี่มันเวรกรรมอะไรของเธอกันแน่ ถึงต้องมาอยู่ในสภาพนี้ ทั้งที่เพิ่งจะเริ่มมีชีวิตที่สดใส ได้ทำงานในฝันเมื่อไม่กี่วันแท้ๆ
พิษณุนเรศวร์ยื่นหนังสือเดินทางสองเล่ม พร้อมกับเอกสารขอการอำนวยความสะดวกจากสำนักราชวังที่เขาได้รับจากเพื่อนผู้เป็นเจ้าชายรัชทายาท จากนั้นค่อยหันมาจ้องมองเธออีกครั้งเป็นการคุมเชิง ศศิวลัยไม่มีทางเลือกนอกจากเดินนิ่วหน้าตามเขาไปติดๆ เพื่อไม่ให้คุณชายหนุ่มมีโอกาสค่อนขอดเธอได้อีก
***
เพียงไม่กี่นาทีหลังจากทิ้งตัวลงบนที่นั่งของเครื่องบินส่วนตัว ความอ่อนเพลียที่สะสมมานานหลายวันก็ทำให้หญิงสาวผล็อยหลับไปอย่างง่ายๆ ตั้งแต่ล้อเครื่องบินยังไม่ทันเคลื่อนที่
ในเวลาอย่างนี้ ใบหน้าเรียวเล็กประดับด้วยวงคิ้วโค้ง ผิวขาวละเอียดนวลเนียนราวกับงาช้าง เปลือกตาที่หลับพริ้ม และริมฝีปากชุ่มชื้นแวววาวตามธรรมชาติ ก็ยังคงไว้ซึ่งเสน่ห์ความงดงามอันน่าทะนุถนอม แม้จะมีเค้าของความอิดโรยและเหนื่อยล้าปรากฏอยู่บนรอยย่นน้อยๆ ตรงหว่างคิ้วก็ตาม
ท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบสงัดภายในห้องโดยสารขนาดแปดที่นั่งของเครื่องบินเจ็ต ชาลเลนเจอร์ 350 ซึ่งอยู่ระหว่างการเดินทางกลับสู่ประเทศไทย คนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามยังได้ยินเสียงลมหายใจแผ่วๆ ดังเล็ดลอดจากจมูกของเธอดวงตาคมกริบสีดำสนิทจ้องเขม็งไปยังร่างหญิงสาวผู้ซึ่งกำลังหลับใหลไม่ได้สติ เหลือบมองรอยห้อเลือดเป็นรูปนิ้วจางๆ บนข้อมือซ้ายของเธอ ชั่ววูบหนึ่งเขาก็อดนึกเวทนาเธอไม่ได้
แต่เมื่อหวนคิดถึงสิ่งที่หม่อมราชวงศ์หญิงรัตน์นเรศวร์ น้องสาวเพียงคนเดียวของเขาต้องเผชิญ พิษณุนเรศวร์ก็ได้แต่บอกตัวเองว่าเขาจะไม่ให้อภัยผู้หญิงคนนี้เด็ดขาด จนกว่าเธอจะได้รับบทเรียนที่สาสมที่สุด
แก้วบรั่นดีในมือถูกยกขึ้นดื่มรวดเดียวจนเกือบหมด ลำคอขาวสะอ้านของคุณชายหนุ่มเวลานี้กลายเป็นสีชมพูจัด บ่งบอกถึงปริมาณแอลกอฮอล์ที่ไหลเวียนอยู่ในกระแสเลือด คิ้วคมเข้มขมวดแน่น กล้ามเนื้อบนสันกรามปรากฏเป็นรอยนูนจากการขบฟันเพื่อข่มอารมณ์โกรธในใจ
ผู้หญิงไร้ยางอายคนนี้เป็นสาเหตุให้น้องสาวผู้ร่าเริงและมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าเสมอ ต้องเสียใจจนถึงกับกินยานอนหลับเกินขนาด และหวุดหวิดจะเอาชีวิตไม่รอด
เธอทำให้รัตน์นเรศวร์เสื่อมเสียศักดิ์ศรี ต้องอับอายไปทั่วทั้งวงสังคมในฐานะม่ายขันหมาก ทั้งๆ ที่กำลังจะได้เป็นเจ้าสาวในอีกไม่กี่วันแท้ๆ
และตอนนี้ เขาก็ได้แต่มองคุณหญิงรัตน์ของเขา ระหกระเหินหลบลี้หนีหน้าผู้คนไปดามหัวใจของตัวเองตามลำพังถึงในยุโรปอย่างไม่มีกำหนดกลับ โดยที่พี่ชายแท้ๆ อย่างเขาก็ยังไม่สามารถห้ามปราม หรือส่งใครตามไปดูแลได้ ไม่รู้แม้แต่ข่าวคราวจากเธอเสียด้วยซ้ำ
แล้วจะให้เขาอยู่เฉยๆ ยอมรับชะตากรรมอันน่าเวทนาที่เกิดจากผู้หญิงหน้าใสใจคดคนนี้ได้อย่างไร
ยิ่งไปกว่านั้น...
ไม่สิ! ที่เขาโกรธเกลียดศศิวลัยเป็นเพราะเรื่องของคุณหญิงรัตน์เพียงอย่างเดียว ไม่เกี่ยวกับความผิดหวังส่วนตัวสักนิด... หม่อมราชวงศ์หนุ่มพยายามย้ำกับตัวเอง
คิดพลางนิ้วมือซึ่งกำอยู่รอบแก้วบรั่นดีก็บีบเข้าหากันแน่นอย่างไม่รู้ตัว พร้อมๆ กับเสียงปริแตกที่ดังขึ้นเบาๆ ก่อนจะรู้สึกถึงความแสบร้อนของแอลกอฮอล์ดีกรีสูงที่เหลือติดก้นแก้ว ยามที่มันสัมผัสกับบาดแผลลึกกลางฝ่ามือ
เลือดสีแดงสดไหลย้อย หยดลงบนพื้นพรมข้างที่นั่งโดยสาร สายตาดุดันยังเพ่งมองอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน เหมือนไม่สำเหนียกกับความเจ็บปวดที่ได้รับ มีเพียงคำพูดเย็นเยียบแผ่วเบาลอดจากริมฝีปากของเขา
“คอยดูเถอะ ทุกอย่างที่เธอทำเอาไว้กับรัตน์นเรศวร์ เธอจะต้องรับกลับคืนไปเป็นเท่าตัว... ฉันจะทำให้เธอได้ปีนขึ้นไปจนถึงจุดสูงสุดของชีวิต ให้เธอได้ฝันเพ้อ ละเมอถึงความสุข... แล้วเมื่อถึงวันนั้น ศศิวลัย... ฉันก็จะทำให้เธอฝันสลาย และไม่เหลืออะไรติดตัวอีกเลยแม้แต่วิญญาณ...”
ข่าวการจัดงานแต่งงานอย่างยิ่งใหญ่ระหว่างหม่อมราชวงศ์พิษณุนเรศวร์ โขมพัสตร์ กับซินเดอเรลลาสาวเจ้าของตำแหน่งแบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุด ของ กลามูร์ ไดมอนด์ สร้างความตกตะลึงให้กับบรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ในวงสังคม ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารย์มากมายหลายทางบ้างก็ว่าเพื่อกลบข่าวอื้อฉาวเรื่องการยกเลิกงานแต่งงานของหม่อมราชวงศ์หญิงรัตน์นเรศวร์เมื่อหลายเดือนก่อน บ้างก็ว่าเป็นเคล็ดล้างอาถรรพ์แบรนด์แอมบาสเดอร์ ตำแหน่งสำคัญของบริษัทที่ไม่เคยมีใครเป็นได้นานเกินสามเดือนบ้างก็เจาะประเด็นเรื่องข่าวลือที่ว่าเจ้าสาวท้องก่อนแต่งแต่ไม่ว่าจะเป็นข่าวในแง่ไหนก็ไม่มีผลกระทบใดๆ กับเจ้าบ่าวเจ้าสาวของงาน ซึ่งได้กลายเป็นบุคคลที่มีความสุขมากที่สุดในค่ำคืนนี้ไปเสียแล้วบนขั้นบันไดด้านหน้าของประตูวังโขมพัสตร์ ศศิวลัยกำลังยืนหันหลังพร้อมกับถือช่อดอกไม้ขนาดใหญ่อยู่ในมือทั้งสองข้าง บนใบหน้าที่อ่อนหวานของผู้เป็นเจ้าสาว ถูกแต่งแต้มอย่างเบาบาง เป็นธรรมชาติ อย่างที่สามีหมาดๆ ของเธอชอบ ซึ่งก็ช่วยขับเน้นเสน่ห์และความงดงามให้ยิ่งเปล่งประกายในคืนที่สำคัญที่สุดในชีวิตลูกผู้หญิงหญิงสาวอยู่ในชุดผ้าลูกไม้ฝรั่งเศสสีครีม ตัดเย็บเป็นชุ
“คุณนี่มันรั้นตลอดเลยนะ...” หม่อมราชวงศ์หนุ่มขมวดคิ้วมุ่น แต่ใบหน้าก็ยังประดับด้วยรอยยิ้ม ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจแล้ว ว่าทุกครั้งที่อีกฝ่ายโกรธเคืองคำพูดของเขา มันเป็นเพราะอะไร “ที่ผมบอกว่ารับผิดชอบน่ะ ก็เพราะลูกเมียเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ชายอยู่แล้ว คุณอยากได้แต่ความรัก แต่ไม่ต้องการความรับผิดชอบเลยเหรอ”“ฉันก็ไม่ต้องการจริงๆ นี่คะ” หญิงสาวเม้มริมฝีปากแน่น เบือนหน้าไปทางอื่น แต่ไม่ยอมที่จะสบตาเขา“คุณบอกว่าคุณรักผม รักมาตั้งแต่ไปยุโรปด้วยกัน แต่ทำไมพอผมพยายามแสดงความรักให้คุณรับรู้ คุณกลับปฏิเสธผมตลอด คุณเป็นซาดิสต์เหรอครับ ศิ หือ...”“คะ...ใครบอกคุณ คุณไปฟังมาจากไหนว่าฉันรักคุณ ไม่จริงนะคะ ไม่ใช่!”ได้ยินคำพูดของคุณชายหนุ่ม ดวงตาของศศิวลัยก็เบิกโพลง อ้าปากค้าง หันไปส่ายศีรษะปฏิเสธอย่างเอาเป็นเอาตาย รีบบอกปัดเสียงตะกุกตะกัก ขณะเดียวกันก็รู้สึกร้อนวูบวาบไปทั่วทั้งใบหน้า แทบอยากจะมุดดินหนีไปตรงนั้น ตั้งแต่อีกฝ่ายยังพูดไม่ทันจบประโยค“ก็คุณเขียนบอกเอาไว้ในจดหมายยังไงล่ะครับ”“คุณโกหก! จดหมายนั่นฉันเขียนกับมือเอง ทำไมจะจำไม่ได้!” เธอแหวกลับพิษณุนเณศวร์หัวเราะหึๆ ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋
การใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ตามลำพังไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับผู้หญิงตัวคนเดียวอย่างศศิวลัย เพราะความเหงาและความว้าเหว่ เป็นสิ่งธรรมดาสามัญที่พร้อมจะเข้าจู่โจมมนุษย์ทุกคน ในช่วงเวลาที่อ่อนไหวและเปราะบางที่สุดเดิมทีหญิงสาวอยู่ร่วมกับมารดาและผู้เป็นยายจนเคยชิน แต่เพราะความจำเป็นทำให้ต้องตัดสินใจโง่ๆ ออกมาเผชิญโชคตามลำพัง โดยมีสิ่งยึดเหนี่ยวเพียงอย่างเดียวคือลูกในท้อง แม้จะเคยเข้มแข็งมาตลอด ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหากจะมีคืนใดสักคืนหนึ่งในแต่ละสัปดาห์ ที่เธอจะต้องนอนร้องไห้เพราะความคิดถึงบ้านเช่นเดียวกับคืนนี้ หลังจากได้บังเอิญพบเข้ากับอลงกต ตะกอนความรู้สึกหลายๆ อย่างที่ทับถมอยู่ในจิตใจมาตลอดหลายเดือน ก็เหมือนถูกมือที่มองไม่เห็น ขุดคุ้ย แกว่งกวน จนพากันลอยฟุ้งขึ้นมารบกวนจิตใจเธออีกครั้งโดยเฉพาะเรื่องของหม่อมราชวงศ์พิษณุนเรศวร์...เพราะอลงกตคือจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง เป็นคนเชื่อมโยงให้คุณชายหนุ่มมาพบเธอ ทำให้เธอรักเขา พลัดพรากจากเขา ในขณะเดียวกันก็ได้สิ่งล้ำค่าจากเขามาเป็นพยานของความรัก ศศิวลัยจึงอดไม่ได้ที่จะนอนน้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัวอย่างนี้บ่อยครั้งเหลือเกินที่หญิงสาวนึกเกลียดตัวเองนักทั้งๆ ที่เธ
สวัสดีค่ะ คุณชายพิษณุนเรศวร์ก่อนอื่นต้องขอบคุณและขอโทษพนักงานของ กลามูร์ ไดมอนด์ ทุกคน ที่ให้การดูแลฉันอย่างดีมาตลอด แต่ฉันมีความจำเป็นจริงๆ ที่ต้องทิ้งงานแล้วหายตัวไปอย่างนี้...นั่นก็เพราะความผิดของคุณนั่นแหละค่ะ ไอ้คุณชายเฮงซวย! ขอบคุณคุณมากนะคะ ไอ้คนบ้า ที่จู่ๆ ก็เอาไข้แตงโมมาฝาก!เพราะฉะนั้นคุณก็รับหน้าพวกผู้บริหารเอาเองก็แล้วกัน ส่วนเงินห้าล้านที่ให้ฉันมาแล้ว ฉันขอยืมไปใช้ก่อนนะคะ ถือเสียว่าเป็นเงินค่าเลี้ยงลูกคุณ ไว้ฉันมีเมื่อไหร่จะส่งมาคืนให้เองรักศศิวลัยป.ล. คุณไม่ต้องตามหาฉันหรอกนะคะ ฉันอยู่ไม่เป็นหลักแหล่งป.ล.2 หาเวลาทำบุญบริษัทบ้างเถอะค่ะ รู้สึกว่าตำแหน่งแบรนด์แอมบาสเดอร์ของบริษัทคุณ มันมีอาถรรพ์ยังไงไม่รู้ป.ล.3 ขอบคุณสำหรับทริปยุโรปค่ะ คุณอาจจะไม่เชื่อ แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่นั่นร่วมกับคุณ ฉันจะจดจำมันไว้ในความทรงจำตลอดไปจดหมายที่เต็มไปด้วยร่องรอยยับยู่ยี่จากการถูกอ่านซ้ำไปซ้ำมามากกว่ายี่สิบครั้ง ถูกพับสอดเข้าไปในกระเป๋าเสื้อเชิ้ตอย่างบรรจง ก่อนที่ฝ่ามือหนาจะวางทาบลงไปราวกับต้องการให้มันรับรู้ถึงจังหวะหัวใจของเขาในเวลานี้ผ่านไปสามวันแล้ว นับตั้งแต่ตอนที่หม่อมรา
ขณะที่เจ้าของบริษัทกำลังนั่งคลื่นไส้อาเจียนอยู่ในห้องทำงานที่ชั้นบนสุด ภายในห้องน้ำหญิงชั้นล่างสุดของอาคารบริษัท กลามูร์ ไดมอนด์ คนที่ไม่มีอาการใดๆ เลยกลับนั่งอยู่บนฝาชักโครก รอให้เวลาแต่ละนาทีผ่านไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียดอันที่จริง คนที่เซ็นสัญญาว่าจ้างชั่วคราวในตำแหน่งแบรนด์แอมบาสเดอร์ หรือ ‘ตัวแทนของบริษัท’ อย่างศศิวลัย ไม่จำเป็นต้องเข้าบริษัททุกวันเหมือนพนักงานประจำ แต่เนื่องจากวันนี้เธอมีนัดประชุมกับฝ่ายการตลาด เรื่องที่จะต้องถ่ายทำบทสัมภาษณ์พิเศษเพื่อโปรโมตกิจกรรมของบริษัท จึงเลี่ยงไม่ได้หากในขณะที่กำลังเดินทางออกจากบ้าน หญิงสาวก็บังเอิญนึกขึ้นได้ว่ารอบเดือนของเธอน่าจะมาถึงแล้ว แต่ยังไม่เห็นวี่แววใดๆ จึงตัดสินใจแวะซื้อแบบทดสอบการตั้งครรภ์จากร้านขายยาระหว่างทาง และความกังวลใจก็ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะใช้งานมันทันทีความจริงเธอเองก็นึกเอะใจตั้งแต่เดือนที่แล้ว เมื่อประจำเดือนที่เคยมาเป็นปกติอยู่เสมอเกิดขาดหายไปดื้อๆ แต่ก็ยังอุตส่าห์มองโลกในแง่ดี เพราะในช่วงที่ยังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ ก็มีบ้างบางครั้งที่ประจำเดือนมาๆ ขาดๆ ซึ่งครั้งนี้เธอก็ได้แต่ภาวนาว่าจะเป็นเช่นเดียวกันศศิวลัยไม่กล้าแ
การเตรียมพร้อมเพื่อจะเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของบริษัท กลามูร์ ไดมอนด์ เริ่มต้นตั้งแต่สัปดาห์แรกที่ศศิวลัยเซ็นสัญญาเสร็จสิ้น โดยที่เธอจะต้องเข้าคอร์สเสริมความงาม เพื่อดูแลทั้งเรื่องผิวพรรณ รูปร่าง ทรงผม เป็นประจำทุกสัปดาห์ นอกจากนั้นแล้ว ก็ยังต้องเข้าคอร์สพัฒนาบุคลิกภาพ เรียนรู้วิธีการแต่งหน้าอย่างมืออาชีพ ศึกษาถึงข้อมูลของเพชรและพลอยชนิดต่างๆ พอสังเขป รวมถึงประวัติความเป็นมาของบริษัท วิธีตอบคำถามสื่อ และการประชาสัมพันธ์ขั้นพื้นฐานหลังจากผ่านสัปดาห์ที่สามไปแล้ว ทุกอย่างก็เริ่มเข้าที่ และการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ก็เริ่มชัดเจนขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการถ่ายภาพนิ่งเพื่อนำไปใช้ทำคัตเอาต์ โบรชัวร์ และสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ สำหรับลงโฆษณาในนิตยสารหรือโซเชียลมีเดีย แต่ก็ยังไม่มีการนัดถ่ายทำสื่อที่เป็นภาพเคลื่อนไหวตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา หม่อมราชวงศ์พิษณุนเรศวร์ก็ยังรักษาสัญญา ทำตามข้อแม้ที่หญิงสาวยื่นไว้อย่างเคร่งครัด จนบางครั้งเธอก็ยังเป็นฝ่ายรู้สึกสงสารเขาเสียเองเพราะจากภาพในความทรงจำครั้งที่เขาล่อลวงเธอไปถึงยุโรป คุณชายหนุ่มมักร่าเริงและมีรอยยิ้มอยู่เสมอ แม้ในเวลาที่กำลังวางแผนร้าย