 LOGIN
LOGIN[ห้องเก็บไวน์]
“เตยกลับก่อนนะข้าว”
“เดี๋ยวข้าวไปส่ง เตยรอข้าวก่อนนะ”
“ไม่เป็นไรข้าว เตยกลับเองได้สบายมาก”
“แล้วคุณนนท์เธอไปไหนล่ะ”
“ข้าวออกมาได้ไม่นาน พี่นนท์ก็หัวเสียอะไรก็ไม่รู้ บอกให้เตยกลับบ้านเอง แล้วพี่เขาก็ขับรถออกไปข้างนอกแล้ว”
“อ่าว ไหนคุณนนท์ทำแบบนั้นล่ะ”
“แหม...ก็พี่นนท์เขาสนใจข้าวนี่ ไม่ได้สนใจเตย ไม่มีข้าวพี่นนท์ก็ไม่จำเป็นจะต้องอยู่นี่ เฮ้อ อิจฉาข้าวจังเลยนะ พี่นนท์ต้องชอบข้าวมากๆ เลยนะ เตยอยากจะสิงร่างข้าวจริงๆ”
“พูดอะไรแบบนั้นเตย ถ้าเตยรู้ว่าชีวิตข้าวตอนนี้เป็นยังไงล่ะก็ เตยจะไม่พูดอย่างนี้แน่ ข้าวรับรอง”
“ต่อให้เตยทำงานหนักแค่ไหน เตยก็ยอมนะข้าว ถ้าแลกกับการที่พี่นนท์ชอบน่ะ”
“อืม...ข้าวคงพูดอะไรไม่ได้แล้วสินะ ก็คนมันชอบอ่ะนะ”
“โอเค งั้นเตยกลับก่อนนะข้าว วันจันทร์เจอกันนะ ไม่ต้องไปส่งเตยหรอก ข้าวทำงานต่อไปเลย แล้วอย่าทำงานหนักจนลืมกินข้าวล่ะ ว่าแต่ห้องไวน์นี้ทำไมดูมืดๆ เทาๆ น่ากลัวจัง”
“ข้าวทำความสะอาดที่นี่เป็นประจำ เดี๋ยวอีกสักพักก็จะเสร็จแล้ว เตยกลับเองได้แน่นะ”
“แน่นอนจ้า ไปแล้วนะ แล้วเจอกันนะข้าว”
“โอเค”
[เวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง]
ขวัญข้าวเก็บข้าวของเรียบร้อย วันนี้คุณๆ ของบ้านไม่อยู่กัน น้องชายของเธอก็เข้าห้องทำการบ้านของตัวเอง พรุ่งนี้วันเสาร์ขวัญข้าวจะชวนน้องชายไปใส่บาตรให้แม่ของเธอ
“เฮ้อ...” ร่างบางทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาใหญ่กลางห้องอย่างหมดแรง ‘ขอนั่งพักสักหน่อยนะ’ ดวงตากลมโตปิดลงพร้อมกับเอนกายพิงเบาะโซฟานุ่ม ความเย็นของเครื่องปรับอากาศทำให้เด็กสาวรู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูก
นี่ก็เป็นเวลาเกือบสามเดือนแล้วสินะ ที่เธอเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ การจากไปของแม่ทำให้ชีวิตของขวัญข้าวและน้องเปลี่ยนไปค่อนข้างมากเลยทีเดียว โดยเฉพาะชีวิตของขวัญข้าวเอง เธอต้องมีบาดแผลในใจที่ต้องจดจำไปตลอดชีวิต การเสียความบริสุทธิ์ไปให้กับชายที่มีแต่ความแค้นอยู่ในอกตลอดเวลา โดยที่เธอเองก็ไม่ได้รู้เรื่องราวความแค้นนั้นเลย ชีวิตของเธอจะวนเวียนอยู่ในกรงกรรมนี้อีกนานแค่ไหนกันนะ เมื่อไหร่ที่เธอจะชดใช้กรรมให้กับท่านชายอคิราห์ได้หมด กี่วันกี่ปีกันนะ...ยัยขวัญข้าว
“...” ขวัญข้าวรู้สึกเหมือนมีบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ใกล้เธอ เสียงแปลกๆ คล้ายเสียงลมหายใจของคน เธอค่อยๆ เปิดเปลือกตาอย่างช้าๆ และภาพที่เธอเห็นเบื้องหน้านั้น ทำให้ขวัญข้าวตกตะลึงชั่วขณะ เขา กำลังยืนจ้องเธอเขม็ง
“ทะ-ท่านชาย”
ขวัญข้าวรีบทะลึ่งพรวดทันที
“มารอฉัน หรือว่ามารอนายนนท์กันแน่”
น้ำเสียงทุ้มห้าวเย็นเยียบแฝงโทสะขึงเครียดจากการข่มใจเอาไว้เอ่ยขึ้น สายตาคมจับจ้องไปยังเรือนร่างของเด็กสาว เขากวาดมองเธอไปทุกส่วน ราวกับต้องการสำรวจบางอย่างจากเธอ
“เปล่าค่ะท่านชาย หนูมาทำความสะอาดห้องนี้ค่ะ แล้ว เอ่อ พอดีหนูทำเสร็จแล้วเลยนั่งพักค่ะ”
ขวัญข้าวเตรียมที่จะลุกขึ้นยืนและกำลังจะรีบก้าวออกไปจากที่ตรงนี้ แต่ทว่า...
“วันนี้เธอทำอะไร เธอมีแผนการอะไรอีก หือ ขวัญข้าว”
“คะ??”
ขวัญข้าวหันมองกลับไปที่เขาด้วยความงงงวย
“ฉันถาม! ว่าเธอคิดที่จะทำอะไร กับ! น้องชายฉัน!”
น้ำเสียงเหี้ยมเกรียมแฝงอยู่ในถ้อยคํา
“คุณนนท์เหรอคะ หนูไม่ได้ทำอะไรค่ะ”
“แล้วที่ฉันเห็นเธอ กับเพื่อนของเธอ เข้ามาในบ้านทำไม ทั้งที่รู้ว่าคนในบ้านไม่อยู่ เธอจงใจเลือกวันนี้เป็นพิเศษเลยนะ”
“หนูไม่ได้ทำอะไรอย่างที่ท่านชายคิดหรอกค่ะ”
“แล้วเธอกำลังทำอะไรล่ะ ถ้าไม่ได้คิดที่จะจับน้องชายฉัน”
“หนูไม่ได้คิดที่จะจับคุณนนท์นะคะ คุณนนท์เองต่างหากล่ะคะที่คิดไม่ดีกับหนู ทำไมท่านชายถึงชอบคิดว่าต้องเป็นหนูทุกครั้งคะ ทั้งที่หนูไม่ได้ทำอะไรเลยอย่างที่ท่านชายคิดเลยสักครั้ง”
ขวัญข้าวโต้กลับอย่างเหลืออดทันที ไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็ดูจะผิดไปเสียหมด ไม่เคยจะดีในสายตาของเขาเลยสักครั้งเลย
“เธอคิดว่านายนนท์ชอบเธอสินะ ก็เลยเข้าทางของเธอเลยงั้นสิ...ขวัญข้าว เธอนี่ไม่ธรรมดาจริงๆ”
“หนูไม่ได้ทำอะไรค่ะ ท่านชายจะคิดอะไรก็ตามใจท่านชายเลยค่ะ หนูไม่มีสิทธิ์พูดหรืออธิบายอยู่แล้วนี่คะ ความจริงหนูก็ไม่ได้ทำอะไรผิดตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว ท่านชายก็คิดว่าหนูทำตลอด เรื่องของคุณนนท์ท่านชายต้องไปถามน้องชายตัวเองค่ะ ว่าเคยทำอะไรกับหนูไว้บ้าง”
ขวัญข้าวอยากจะพูดต่อจริงๆ เลยว่า ความจริงท่านชายเองต่างหากที่ร้ายกาจกว่าน้องชายของตัวเองนัก ทำไมไม่คิดถึงความผิดของตัวเองบ้าง
“เธอจะบอกฉันว่า เธอมีอะไรกับน้องฉันแล้วงั้นซิ”
น้ำเสียงกระแทกกระทั้นแสดงออกถึงความไม่พอใจเป็นอย่างมาก เพลิงโทสะกำลังค่อยๆ ทะยานขึ้นตามลำดับ
“ตอนไหนล่ะคะ ถ้าครั้งแรกคงไม่ใช่หรอกค่ะ เพราะครั้งแรกของหนู ท่านชายได้ทำมันไปแล้วนี่คะ ท่านชายจำไม่ได้เหรอคะว่าทำอะไรกับหนูไปบ้าง”
ทันทีที่จบประโยคมือเขาก็คว้าข้อมือเธอแล้วกระชากอย่างแรง จนร่างของเด็กสาวปลิวตามแรงอันทรงพลังของเขา ร่างอวบอิ่มปะทะกับอกกว้างกระแทกอย่างจัง เสียงลมหายใจของคนทั้งคู่ดังแข่งกันราวกับเสียงหอบหายใจที่ผ่านการวิ่งนับสิบกิโลเมตร เด็กสาวแหงนหน้ามองคนตัวใหญ่ทันที
“เธออย่าเก่งกับฉันให้มากนัก! ลืมไปแล้วหรือไง ว่าฉันเคยบอกเธอไปว่าอะไร หือ ขวัญข้าว ฉันมีสิทธิ์ในตัวเธอทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นร่างกาย หรือแม้กระทั่งเส้นผม!”
คําเตือนด้วยน้ำเสียงดุดันดังข้างหูของเธอ สายตาคมกริบจ้องไปที่เธอเขม็ง กรอบดวงหน้าเรียวรูปไข่เด่นเป็นสง่า ใบหน้าขาวสวยเรียบเนียน ปากบางเผยอค้างไว้ จมูกเชิดรั้นบ่งบอกตัวตนของเจ้าของเป็นอย่างดี สิ่งนี้เองที่ทำให้อคิราห์ติดแหง็กไม่ไปไหน ทั้งที่เขาเองก็แก้แค้นทุกอย่างจนจบไปแล้ว
“ไม่เคยลืมค่ะ และไม่คิดจะลืมด้วยค่ะว่าท่านชายทำอะไรกับหนูไว้ค่ะ”
“อืม เก่งนี่ ฉันสอนเธอไม่ทันไร เดี๋ยวนี้กล้าที่จะต่อปากกับฉันแล้วหรือ...ขวัญข้าว”
น้ำเสียงของเขาเจือไปด้วยความหยิ่งผยองและเย้ยหยันในตัวเด็กสาว ความรู้สึกท้าทายเกิดขึ้นเฉียบพลัน ริมฝีปากหนายกยิ้มที่มุมปาก บางอย่างบอกเขาว่า ถึงเวลาที่ต้องสั่งสอนเธอคนนี้เสียแล้ว
 ทรายแมว
ทรายแมวกดหัวใจ คอมเมนท์ = หนึ่งกำลังใจนะคะ ฝากกดติดตาม เพิ่มเข้าชั้น และรับแจ้งเตือนตอนใหม่ เรื่องใหม่ค่ะ ทรายแมว : เขียน

“พักเรื่องงานไว้ก่อนครับ วันนี้ผมขอดื่มฉลองมิตรภาพของเราก่อนนะครับ”วิลเลี่ยมยกแก้วเครื่องดื่มชูขึ้น สายตาคมสีฟ้าของเขามองไปยังเลขาแสนสวยที่อยู่ในชุดเดรสสีแดงที่มีความเซ็กซี่อย่างที่สุด“อ่อ ครับ ผมนี่แย่จริงๆ นะครับ ต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่พูดเรื่องงานซะเยอะเลย ความจริงวันนี้ผมก็พาคุณมาผ่อนคลายครับ”ธนนท์รีบยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นเพื่อเป็นการขอโทษ“สองสาวนี่ไม่ต้องห่วงนะครับ วันนี้พักเรื่องงานสักวัน เดี๋ยวผมขออนุญาตเจ้านายคุณเองครับ...โอเค มั้ยครับคุณธนนท์”“ได้ครับ หมดเวลางานแล้วครับ” ธนนท์หันไปพยักหน้าให้กับสองสาวเพื่อยืนยันในสิ่งที่เขาพูด“ค่ะ/ค่ะ”“อืม ขออนุญาตถามเรื่องส่วนตัวคุณ...เขม หน่อยนะครับ ไม่ทราบว่าคุณมีครอบครับหรือยังครับ”วิลเลี่ยมเปิดประเด็นคำถามในสิ่งที่เขาสนใจทันที เขารู้สึกถูกใจหญิงไทยคนนี้มาก“ยังค่ะ ดิฉันยังโสดค่ะ” เขมมิกาตื่นเต้นอย่างที่สุด สุดท้ายแล้วเธอก็เข้าตาหนุ่มสายฝอเข้าแล้ว ^^“ไหนๆ คุณเขมก็ถูกท่านประธานถามเรื่องนี้ไปแล้ว จริงๆ ผมก็อยากรู้เหมือนกันนะครับ ว่าคุณชมพูนุทตอนนี้คุณยังโสดเหมือนกับคุณเขมหรือเปล่าครับ”ปรเมศยิงคำถามต่อจากเจ้านายของตัวเองทันที“เอ่อ
“ค่ะ...” “ฉันอยากจะขอโทษเธอ...ขวัญข้าว ขอโทษในสิ่งที่ฉันทำไม่ดีกับเธอและน้องของเธอ อภัยให้ฉันเถอะนะ...” “ค่ะคุณผู้หญิง ดิฉันให้อภัยคุณผู้หญิงค่ะ และดิฉันเชื่อว่าแม่ของดิฉันก็คงจะคิดเหมือนกันค่ะ เรื่องราวในอดีต ดิฉันไม่ได้เก็บเอามาคิดอีกแล้วค่ะ คุณผู้หญิงไม่ต้องคิดมากนะคะ” “ขอบใจเธอมากนะขวัญข้าว ฉันขอบใจเธอจริงๆ บ้านหลังนี้เธออยู่ได้สบายเลยนะ ไม่ต้องย้ายออกไปอยู่ที่ไหนแล้ว นอกเสียจากเธอจะแต่งงานมีครอบครัวไป นั่นก็แล้วแต่เธอนะ ฉันไม่ได้มีอำนาจที่จะตัดสินใจ อย่างที่บอก ชายคินน์ต่างหาก ที่เป็นคนตัดสินใจเรื่องนี้ และในตอนนี้ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไม ทั้งชายคินน์กับนนท์ลูกชายของฉัน ทำไมถึงยังไม่แต่งงานมีครอบครัวกันอีก เรื่องนี้ก็ทำให้ฉันกลุ้มใจอยู่พอสมควร” “ท่านชายคินน์กับคุณนนท์อาจจะมีแล้วก็ได้นะคะ คุณทั้งสองอาจจะยังไม่เปิดตัวก็ได้ค่ะคุณผู้หญิง” “ไม่มีหรอก...ฉันตามสืบมาหมดแล้ว” “ห๊ะ! อะไรนะคะ คุณผู้หญิงตามสืบเหรอคะ”คำพูดของคุณหญิงบงกชเพชรทำให้ขวัญข้าวตกใจเป็นอย่างมาก หัวใจเธอเต้นแรงแทบจะทะลุออกจากอก ขวัญข้าวกังวลเรื่องเธอกับท่านชายในอดีต
[บ้านวรารักษ์เมธานนท์...ในเวลายามเย็น] “นั่นลูกจะออกไปไหนอีกล่ะ พึ่งกลับเข้ามาไม่ใช่เหรอ”คุณหญิงบงกชเพชรมองบุตรีของตัวเองที่อยู่ในชุดพร้อมที่จะออกจากบ้าน “แพรนัดเพื่อนไว้ค่ะคุณแม่ วันนี้วันเกิดมิ้นท์ค่ะ เราจะไปฉลองกันค่ะ” “เรื่องเรียนของลูกไปถึงไหนแล้ว ตามแก้รายวิชาครบแล้วหรือยัง แล้วเทอมนี้จะจบหรือเปล่าลูก” “ยังค่ะคุณแม่ คงต้องจบเทอมหน้าค่ะ เพราะเหลืออีกแค่สองตัวค่ะ ยังไงแพรก็ต้องเรียนจบอยู่แล้วค่ะ คุณแม่ไม่ต้องห่วงค่ะ” “อะไรนะ! ไหนลูกบอกว่าเทอมนี้จะจบ แล้วนี่เลื่อนไปเทอมหน้าอีกเหรอ ตายแล้วยัยแพร ทำไมเรียนแค่นี้ ถึงไม่จบซะที ดูพี่นนท์เราสิ ถึงแม้จะเกเรยังไงแต่ก็ยังเรียนจบ ทำไมลูกถึงไม่เอาอย่างพี่นนท์บ้างล่ะลูก” “ก็อาจารย์ที่ ‘มหาลัยสิคะคุณแม่ แกล้งแพรค่ะ ความจริงแพรก็จะจบเทอมนี้แหละค่ะ”แพรพิไลกุเรื่องเพื่อโกหกผู้เป็นแม่ ความเป็นจริง เธอเองต่างหากที่ไม่อยากเรียนจบ เพราะถ้าเธอเรียนจบแล้ว แม่ของเธอจะต้องจับเธอยัดเข้าทำงานที่บริษัทพี่ชายของเธอเป็นแน่ “แม่ไม่เชื่อที่ลูกบอกหรอกนะแพร ครั้งที่แล้วลูกก็บอกว่าอาจารย์แกล้งแบ
“อึก! อึก!” ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างขึ้นมาด้วยความตกใจที่จู่ๆ ริมฝีปากของชายหนุ่มก็ฉกวูบลงมาด้วยความเร็วแสงประกบจูบปากของเธออย่างรวดเร็ว ขวัญข้าวพยายามสะบัดหน้าหนี แต่ทว่าก็ถูกมือใหญ่บีบปลายคางของเธอเอาไว้ ลมหายใจปัดผ่านข้างใบหน้าใกล้ชิด ลิ้นหนาเกี่ยวกวัดลิ้นเล็กไว้ในปากอย่างหิวกระหาย อีกมือก็เกี่ยวกระหวัดร่างบางเข้ามาแนบร่างแกร่งราวกับงูใหญ่กำลังรัดเหยื่ออย่างหิวโหย“อึ้ม...” ขณะที่ริมฝีปากของเขาแนบสนิทก็ไม่อาจซ่อนรอยยิ้มอันพึงใจไว้ได้ ความหวานที่เคยลิ้มลองไม่เคยลดน้อยลงไปเลยสักนิด ชายหนุ่มตะโบมจูบอย่างร้อนแรงและหนักหน่วงจนได้ยินเสียงอู้อี้ในลําคอของอีกฝ่าย“ไม่! อึก!” ขวัญข้าวพยายามดิ้นเพื่อหนีริมฝีปากร้อน แต่เธอก็ไม่สามารถจะหลบหลีกริมฝีปากความเร็วแสงนั้นได้ มือทั้งสองข้างของเธอผลักอกแกร่งจนสุดแรง แต่ทว่ามันก็เหมือนกับผลักหินผาก็ไม่ปาน สะโพกมนเกยอยู่บนโต๊ะทำงานในสภาพกึ่งนั่งกึ่งยืน โดยที่ตัวของชายหนุ่มใช้ร่างของเขากันเธอเอาไว้ ไม่ให้หนีออกไปได้สำเร็จ“อืม...หวานเหมือนเดิมนี่”อคิราห์ถอนริมฝีปากของตัวเองออก พร้อมกับก้มมองใบหน้าของเธอ ที่ตอนนี้มีสภาพแดงเห่อไปทั่วทั้งหน้า ชายหนุ่มยกยิ้มอย
[อีกด้านหนึ่ง...ห้องทำงานบริษัทวรารักษ์เมธานนท์] “ฉันก็ไม่เห็นว่ามันจะยุ่งยากตรงไหนเลย เธอมาสมัครงานตามที่นายนนท์บอกเธอไว้แล้วนี่ เธอก็รู้อยู่แล้ว ทำไมจะต้องทำเรื่องนี้ให้วุ่นวายไปอีก ฉันไม่เข้าใจ”หม่อมราชวงศ์อคิราห์มองคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขา และต้องการที่จะพบเขาในเวลานี้ เหตุผลของเธอเพียงเพื่ออยากสมัครงานตามระบบแค่นั้นหรือ เขาไม่เข้าใจเลย “ดิฉันคิดว่ามันไม่ถูกต้องค่ะ ดิฉันไม่อยากจะใช้เส้นค่ะ ดิฉันแค่ต้องการได้สอบและสัมภาษณ์ตามปกติเหมือนคนทั่วไป ก็แค่นั้นเองค่ะท่านชาย” “แล้วเธอได้อะไร จากสิ่งที่เธอกำลังเรียกร้องอยู่ตอนนี้” “ดิฉันไม่ได้เรียกร้องค่ะ แค่ต้องการทำให้มันถูกต้องตามระบบก็เท่านั้นเองค่ะท่านชาย”ดวงตากลมโตจ้องกลับใบหน้าคม เอาจริงๆ วันนี้เป็นครั้งแรกของขวัญข้าวเลยก็ว่าได้ ที่เธอได้มองหน้าเขาได้ชัดเจนและเต็มตามากขนาดนี้ เธออยู่ห่างจากเขาไม่ถึงเมตรเลยด้วยซ้ำ ลมหายใจร้อนเป่ารดมาที่เธอ จนเธอสัมผัสได้ และทำให้เธออดนึกถึงความรู้สึกบางอย่างเมื่อเจ็ดปีที่แล้วไม่ได้... “ผลสุดท้าย เธอก็ต้องเข้าทำงานอยู่ดี ทำไมต้องเรื่องมาก” “นี่
[บริษัทวรารักษ์เมธานนท์] “ขอโทษนะคะ คือว่าดิฉันยังไม่ได้สอบข้อเขียน และสัมภาษณ์เลยนะคะ คุณจะให้ดิฉันเริ่มงานวันพรุ่งนี้เลยเหรอคะ”ขวัญข้าวมาสมัครงานที่บริษัทวรารักษ์เมธานนท์ในวันรุ่งขึ้น ในตำแหน่ง Sales Engineer ตามที่บริษัทได้ประกาศรับ เธอพึ่งจะกรอกใบสมัครไปใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที ขวัญข้าวก็ทราบผล เธอรู้สึกไม่โอเคกับสิ่งที่คุณธนนท์ทำมากนัก เธอไม่อยากเป็นเด็กเส้นในสายตาของคนอื่น สังคมการทำงานของเธอก็จะลำบากมากขึ้น “คุณธนนท์เธอได้บอกไว้แล้วค่ะ ว่าถ้าคุณขวัญข้าวมา ก็รับได้เลยแค่กรอกใบสมัครก็พอค่ะ รายละเอียดต่างๆ ในการทำงานอยู่ซองกระดาษนี่นะคะ ดิฉันเตรียมเรียบร้อยแล้วค่ะ” “ดิฉันขอคุยกับคุณธนนท์หน่อยได้มั้ยคะ” “คุณธนนท์ไม่อยู่ค่ะ เธอไปจังหวัดระยองกับเลขา และฝ่าย Sales Engineer คนใหม่ตั้งแต่เมื่อเช้าค่ะ” “Sales Engineer คนใหม่เหรอคะ เอ่อ ไม่ทราบว่าเธอชื่อชมพูนุทหรือเปล่าคะ”เมื่อเช้าเพื่อนของเธอได้แชทหาเธอตั้งแต่เช้า ว่าจะรีบออกไปทำงาน วันแรกของชมพูนุทก็ดูจะรีบร้อนไปหมด “ใช่ค่ะ คุณชมพูนุทพึ่งมาทำงานวันนี้วันแรกค่ะ เผอิญมีลูกค้าใหญ่ที








