LOGIN[โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง]
“วันนี้ท่านชายต้องนอนดูอาการ ตามที่หมอแนะนำนะครับ เดี๋ยวผมจะเฝ้าท่านชายเองครับ”
“ทำไมต้องให้ฉันนอนด้วยประคิน ฉันไม่ได้เป็นอะไรมากขนาดนั้นนะ นายเองวิตกกังวลมากเกินไปหรือเปล่า”
“ท่านชายรู้มั้ยครับ ว่าโรคที่ท่านชายเป็นอยู่ มันน่ากังวลถึงขั้นวิกฤติเลยนะครับ ผมว่าจะโทรบอกท่านชายคินน์ให้ทราบเรื่องนี้ด้วยนะครับ เพราะผมเดาว่า ท่านชายน่าจะยังไม่บอกท่านชายคินน์แน่นอนครับ”
“นายไม่ต้องบอกหรอกประคิน ฉันไม่อยากให้ลูกชายฉันต้องคิดมาก ตอนนี้เขาพึ่งเริ่มตำแหน่งประธานบริษัทได้ไม่กี่วัน เขาต้องเรียนรู้งานค่อนข้างเยอะ ดูสิบางวันก็ไม่ได้กลับบ้านเลย ฉันเห็นลูกชายฉันแบบนี้ฉันก็ชื่นใจ และนอนตายตาหลับแล้ว จะเหลือก็แต่เด็กสองคนนั่นนะ แต่ก็ไม่เป็นไร ฉันได้ทำพินัยกรรมไว้สำหรับสองคนนั่นแล้ว คงไม่มีปัญหาอะไร”
“แต่ว่า...”
“ถ้าจะทำให้นายสบายใจขึ้นล่ะก็ คืนนี้ฉันนอนดูอาการตามใจนายก็ได้ แต่ช่วยโทรไปบอกทางบ้านให้ฉันหน่อย ว่าฉันนอนที่เพนท์เฮ้าส์ก็แล้วกันนะ”
“ได้ครับ...เอาอย่างที่ท่านชายบอกก็ได้ครับ”
“สบายใจแล้วสิประคิน นายอยู่กับฉันมากี่ปีแล้วนะ”
“22ปีแล้วครับ ผมทันได้เห็นท่านชายคินน์ตอนเล็กๆ ด้วยนะครับ”
“อืม...ถ้าฉันเป็นอะไรไป นายก็ดูแลลูกชายฉันด้วยล่ะกัน”
“ครับ แต่ผมว่าท่านชายไม่เป็นอะไรหรอกครับ เดี๋ยวก็หายครับ ถ้าท่านชายพักผ่อน และทำตามที่หมอบอกครับ”
“นั่นสินะ...”
หม่อมราชวงศ์นวพลรู้ว่า นี่เป็นเพียงแค่คำปลอบประโลมใจเท่านั้น ความเป็นจริงร่างกายของเขาเป็นอย่างไรนั้นเขารู้ดีทุกอย่าง เพียงแต่เจ้าลูกน้องเขาเท่านั้นที่ยังไม่ยอมรับความจริงนี้
....................
[คฤหาสน์วรารักษ์เมธานนท์]
“แกดูอีนังขวัญข้าวกับเพื่อนมันสิชะเอม คุณท่านกับคุณแพรพิไลไม่อยู่ พวกมันเข้าหาคุณหนูนนท์ นังนี่มันร้ายจริงๆ เลยนะ เหมือนแม่มันไม่มีผิด”
“อืม แต่ชะเอมว่า คุณหนูนนท์ต่างหากที่พยายามเข้าหาขวัญข้าวนะ และอีกอย่างแม่ของขวัญข้าวพี่อบเชยรู้จักเหรอ เขามาอยู่ที่นี่แค่ 6 เดือนเองนะ และส่วนใหญ่เขาก็อยู่เรือนคนใช้ ไม่เคยโผล่หน้ามาที่ตึกเลย พี่อบเชยรู้ได้ยังไงกัน”
“แหม ก็คุณท่านบ่นเช้าบ่นเย็นขนาดนั้น ฉันจะไม่รู้จักนังมุกดาได้ยังไงยะ และแกรู้ได้ยังไงว่าคุณหนูนนท์เข้าหานังขวัญข้าว แกอย่าพูดให้คุณท่านได้ยินล่ะ คุณท่านยิ่งเกลียดนังขวัญข้าวอยู่ด้วย”
“ค่ะ เอมก็เห็นแต่พี่นี่แหละที่พูด แล้วนี่พี่จะรายงานคุณท่านผู้หญิงเหรอ ชะเอมว่าอย่าดีกว่านะคะ เพราะถ้าคุณหนูนนท์รู้ ชะเอมว่าไม่ใช่เรื่องดีสำหรับพี่แน่นอนค่ะ”
“แกรู้ได้ยังไงนังเอม”
“รู้ก็แล้วกันน่าพี่อบเชย งั้น พี่ก็ลองบอกคุณนายสิ เกิดเรื่องขึ้นมา อย่าหาว่าชะเอมไม่เตือนพี่นะ”
“จริงเหรอ คุณหนูนนท์เนี่ยนะ”
“จริงแท้แน่นอน อย่าเสี่ยงเลยพี่อบเชย ปล่อยเขาไปเถอะ ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นบ้างก็ดีค่ะ ไม่ใช่เรื่องของเรา”
“โอเค ฉันเชื่อแกก็แล้วกัน ฉันก็ไม่ได้อยากจะยุ่งทุกเรื่องหรอก บางที ก็อาจจะจริงอย่างที่แกพูดก็ได้”
[อีกด้านหนึ่งของคนที่ถูกพูดถึง]
“การบ้านของเธอจะเสร็จกันหรือยัง”
ธนนท์มองสองสาวที่กำลังง่วนอยู่กับตำราอย่างหัวเสีย ทำไมเขาต้องมีมารมาคอยขัดขวางตลอดเวลา แล้วยัยเด็กนั่นก็ช่างไม่รู้เวลาเอาเสียเลย
“อีกสักพักค่ะคุณนนท์ เหลือแต่ของเตยค่ะ เดี๋ยวข้าวให้เตยนั่งทำการบ้านไปก่อนนะคะ ข้าวจะไปทำงานบ้านแล้วค่ะ”
“เตยไปช่วยข้าวทำมั้ย”
“ไม่ต้องหรอกเตย ข้าวทำเองได้ เดี๋ยวเตยนั่งทำกับคุณนนท์ไปก่อนนะ”
“นี่ข้าว! เธอไม่ต้องไปทำงานอะไรนั่นแล้ว แม่ฉันไม่อยู่บ้าน เธอไม่จำเป็นต้องไปทำหรอก”
ธนนท์เริ่มรู้สึกหัวร้อนขึ้นเรื่อยๆ แผนที่เขาวางไว้ คือการเขมือบเด็กสาวในบ้าน แต่นี่อะไร มันผิดไปทุกอย่างที่เขาวางแผนไว้หมดเลย นั่นก็เป็นเพราะยัยเด็กบ้าเพื่อนของขวัญข้าวนี่แหละ ที่ดันมาปลื้มเขาอะไรตอนนี้เนี่ย...
แต่ยังไม่ทันที่ขวัญข้าวจะก้าวออกไปจากตรงนั้น บุตรชายคนโตลูกเจ้าของบ้านก็เดินเข้ามาพอดี เลยทำให้ทุกคนที่อยู่กลางห้องโถงชะงักทันที โดยเฉพาะธนนท์ ซึ่งวันนี้เขาได้คาดการณ์ทุกอย่างไว้หมดแล้ว ว่าพี่ชายของเขาจะไม่เข้าบ้าน แต่ทว่ากลับไม่เป็นอย่างที่เขาคิดเลยสักนิด วันนี้มันเป็นวันอะไรกันวะเนี่ย
“อ้าวพี่คินน์ ทำไมวันนี้พี่กลับมาเร็วจังครับ”
ธนนท์ทักพี่ชายต่างมารดาอย่างไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี เหตุการณ์ที่เขาเองยังไม่สามารถควบคุมได้กลับบานปลายเข้าไปอีก
“ไม่เห็นแปลกอะไรนี่ แล้วนี่นายทำอะไร?”
หม่อมราชวงศ์หนุ่มกวาดสายตาคมดุไปทั่วทั้งห้องโถงรับแขก พร้อมกับสะดุดเข้ากับเด็กสาวที่ยืนนิ่งอยู่บริเวณนั้นด้วย มันทำให้เขาคิดเป็นอื่นไปไม่ได้เลย เพราะภาพทุกอย่างมันฟ้องไปหมด
“ผม...เอ่อ...พาเพื่อนขวัญข้าวมาเที่ยวครับ และเรากำลังทำการบ้านอยู่ครับพี่คินน์”
ธนนท์ไปไม่เป็นเลยทีเดียว เขาจะบอกพี่ชายเขาได้อย่างไร ว่าที่เขาทำแบบนี้ก็เพื่อที่จะเขมือบกวางน้อยของเขา ก็เลยต้องเล่นไปตามน้ำก่อน
“แล้วเธอมาทำอะไร? ไม่มีงานทำหรือไง”
สายตาคมดุสาดมายังร่างของเด็กสาวที่ยืนนิ่งไม่ไหวติง เขาไม่เคยคิดเลยว่าเด็กขวัญข้าวจะกล้าขัดคำสั่งเขา เธอคงต้องการที่จะมาตีสนิทน้องชายของเขาสินะ
“หนูกำลังจะไปทำงานบ้านค่ะท่านชาย”
ขวัญข้าวประมวลผลในหัวแล้วว่า ท่านชายก็คงจะหาว่าเธอมาอ่อยน้องชายของเขาอย่างแน่นอน ไม่ว่าเธอจะทำอะไร ก็มักจะพอเหมาะพอเจาะเสียจริง
“ก็ไปทำสิ ยืนทำอะไร”
“ค่ะ”
.........................
กดหัวใจ คอมเมนท์ = หนึ่งกำลังใจนะคะ ฝากกดติดตาม เพิ่มเข้าชั้น และรับแจ้งเตือนตอนใหม่ เรื่องใหม่ค่ะ ทรายแมว : เขียน
[ณ เวลาหนึ่ง!]“กรี๊ดดดด! ไม่! ปล่อยเตยเดี๋ยวนี้นะพี่นนท์ เตยเจ็บ!”ร่างอวบอิ่มกำลังดิ้นพล่านไปมา เมื่อเจอแท่งร้อนจู่โจมเข้ามาแบบไม่ทันได้ตั้งตัว ความเมามลายหายไปแทบจะทันที เมื่อความเจ็บปวดแทบจะดับสลายนั้นแทรกเข้ามา“มะ-ไม่! พี่ถอยไม่ได้แล้วเตย!”ร่างกำยำสั่นเทาไปทั่วร่าง เมื่อเจ้าแท่งร้อนของเขากำลังโดนบีบรัด เริ่มจากความเมา ตามมาด้วยการท้าทาย และกำลังจะจบด้วยบทรักอันแสน...“อ๊ะ! ตะ-เตยเจ็บค่ะพี่นนท์” ปากบางสั่นระริก“เตยอยู่นิ่งๆ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ”“แต่มันเจ็บนี่คะ อุ้ย!”ร่างบางสะดุ้งสุดตัวเมื่อเจ้าแท่งเหล็กใหญ่นั้นกลับดันเข้ามายังร่างของเธออีก ‘ตายแน่เลยยัยเตย ตอนแรกเมา แต่ตอนนี้สิ’“อืม เดี๋ยวก็หายนะ ทำตามที่พี่บอกนะ”สรรพนามแทนตัวเองถูกเปลี่ยนทันทีราวกับอัตโนมัติตั้งไว้ ธนนท์รู้สึกอิ่มเอมอย่างที่สุด ที่ได้เป็นคนแรกของเธอ ความรู้สึก หวงแหนบังเกิดขึ้นทันที“ค่ะ” ชมพูนุทพยักหน้ารับพร้อมทำตามชายหนุ่ม ‘ในที่สุดเธอก็ได้เป็นของเขา ไม่คิดไม่ฝันว่า เธอจะมีวันนี้ด้วยซ้ำ ยัยเตยเอ้ย เขาจะรับผิดชอบหรือไม่รับ โนว์สนโนว์แคร์ค่ะ ขอแค่ได้เป็นของพี่นนท์ก็พอ’“ได้ยินพี่มั้ยเตย พี่บอกให้อ้าขา”“ห๊ะ!
[วอชิงตัน ดี.ซี(Washington DC)...สหรัฐอเมริกา] “เชิญน้องข้าวกับท่านชายตามสบายเลยนะคะ ไม่ต้องห่วงพี่พราวหรอกค่ะ คือมาเกือบสิบวันแถมยังมีพ็อกเก็ตมันนี่ให้พราวอีก...แบบนี้จะเพิ่มอีกเป็นเดือนก็ได้นะคะ พราวอยู่ได้ค่ะท่านชาย” “แหม พี่พราว ข้าวยังไม่ได้มีโอกาสที่จะได้คุยกับพี่เลยนะคะ บัญชีของเรายังไม่ได้สะสางเลยนะคะ” “อุ้ย! ท่านชายคะ ช่วยพราวหน่อยสิคะ เรื่องนี้พราวไม่ได้เป็นต้นเรื่องนะคะ” “โอเค ใจเย็นนะขวัญข้าว เรื่องทั้งหมดที่ฉันกับเลขาของฉันทำมานี้ มันคือเจตนาของฉันเองนะข้าว อย่าไปโทษพราวเขาเลย ถ้าจะโทษก็มาลงที่ฉันได้เลยนะ ฉันพร้อมเสมอ”แววตาเจ้าเล่ห์แฝงรอยยิ้มมองมาที่หญิงสาวแบบไม่สนบุคคลที่สามเลยสักนิด “อ๋อ เรื่องของท่านชายแน่นอนค่ะ ต้องโดนอยู่แล้วค่ะ ข้าวต้องคิดบัญชีกับท่านชายอยู่แล้ว คงหนีไปไม่ได้หรอกค่ะ”ดวงตากลมโตถลึงใส่คนตัวใหญ่อย่างเอาเรื่อง “อุ้ย งั้นพี่คนนอก ขออนุญาตไปเที่ยวล่าหนุ่มหล่อสายฝอก่อนนะคะ อยู่ไปเดี๋ยวตาของพี่จะไหม้ซะก่อน ขอตัวก่อนนะคะ น้องข้าว คิดบัญชีจะทบต้นหรือทบดอกก็ตามสบายเลยค่ะ แต่อย่าลืมทานข้าวบ้างนะคะ พี่
[อีกฝากฝั่ง...ประเทศไทย] “คุณนนท์คะ...” “อืม เรียกใหม่ซิ...ตอนนี้เราอยู่กันสองคนแล้ว”ธนนท์พูดในขณะที่เขากำลังก้มตรวจเอกสาร โดยไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาสนทนากับ Sales Engineer คนเก่งของเขา “ค่ะ พี่นนท์คะ คือเตยอยากจะทราบว่า ไอ่งานที่เตยทำอยู่ทั้งหมดนี่ มันไม่ใช่งานของเตยเลยนะคะ ดูแล้วมันคืองานของพี่เขมเลขาของพี่นะคะ เตยไม่เข้าใจเลยค่ะ ที่พี่จะให้เตยมาทำงานหน้าที่นี้ทำไมคะ”ชมพูนุทหมดความอดทนแล้ว หลายวันมานี้ เขาเฝ้าแต่เรียกหาเธอ ให้เธอเอางาน (ที่ไม่ใช่งานในหน้าที่ของเธอ) มาเสนอเขาถึงห้องทำงาน โดยที่เธอก็ไม่ทราบสาเหตุว่าเขาจะทำแบบนี้ไปทำไม ในเมื่อเลขา (พี่เขม) ก็มี และยังปิดปากเงียบ อีกทั้งยังปล่อยให้เลขาของตัวเองไปลั้ลลากับหนุ่มสายฝอของพี่เขาอีกด้วย “ผมกำลังจะบอกคุณอยู่พอดี ว่าต่อไปนี้ผมจะแต่งตั้งคุณเป็นเลขาของผม” “ห๊ะ! อะไรนะคะ ให้เตยเป็นเลขาคุณ เอ้ย พี่นนท์เหรอคะ แล้วจะเอาพี่เขมไปไว้ตรงไหนคะ” “ก็อยู่เหมือนเดิมไง แต่อนาคตอาจจะไม่แน่ ว่าพี่เขมของคุณอาจจะลาออกจากตำแหน่งเลขาก็ได้นะ” “อย่าบอกนะว่าพี่เขมกับคุณวิลเลี่ยมเขาคบกัน
“ไม่ได้นอยด์อะไรทั้งนั้นค่ะ” “ฟังฉันนะข้าว...” หม่อมราชวงศ์หนุ่มก้มลงกระซิบข้างหู “อะ-อะไรคะ” หัวใจของขวัญข้าวเต้นรัวเมื่อรอคอยคำพูดจากเขา ‘นี่เธอเป็นบ้าอะไรเนี่ยยัยขวัญข้าว หล่อนรอเหมือนมีความหวังอะไรจากเขางั้นแหละ’ “ฉัน...รักเธอ...ขวัญข้าว” “คะ??” เหมือนขวัญข้าวกำลังตกอยู่ในความฝัน นี่เธอได้ยินไม่ผิดใช่ไหม เขาบอกว่ารักเธองั้นเหรอ เป็นไปได้ยังไง ไม่อยากจะเชื่อเลย “หม่อมราชวงศ์อคิราห์...รัก...นางสาวขวัญข้าวคนนี้”นิ้วเรียวยาวจิ้มไปที่อกข้างซ้ายของหญิงสาวเบาๆ เพื่อเป็นการยืนยันในคำพูดของตัวเอง “!!!” ดวงตากลมโตเบิกกว้าง เมื่อได้ยินประโยคต่อมาจากเขาอีกครั้ง ‘ท่านชายรักเธองั้นเหรอ’ “ทำไมเธอต้องตกใจขนาดนั้นด้วยข้าว มันแปลกหรือไง ที่คนอย่างฉันจะหลงรักเด็กสาวอย่างเธอเข้าน่ะ...หืม”อคิราห์ก้มจูบปากบางอีกครั้งเพื่อเป็นสิ่งยืนยันในคำพูดของเขา ปลายลิ้นหนาดูดดูนซับความหวานจากโพรงปากนุ่ม ‘หรือว่าเธอจะไม่รู้ ว่าเขารักเธอ...ให้ตายสิ...เขาปล่อยให้เธอคิดเองตั้งนาน...สุดท้ายเธอก็ยังดูไม่ออกจริงๆ ว่าเขารักเธอ’ “ท่านชายรักข้าว
“ไม่! อ๊ะ!” ขวัญข้าวร้องเสียงหลง เมื่อร่างของเธอถูกหม่อมราชวงศ์หนุ่มจับเอาไว้ เรียวขาสวยทั้งสองข้างถูกแยกออกจากกัน โดยที่เธอพยายามที่จะขืนแรงนั้น แต่มันก็ไม่เป็นผล แท่งร้อนสัมผัสกับช่องทางรักของเธอทันที ขวัญข้าวพยายามดิ้นอีกครั้ง เพื่อไม่ให้เขาทำได้สำเร็จ แต่แรงอันน้อยนิดจะสู้แรงมหาศาลได้อย่างไร “โอวว์ ขะ-ขวัญข้าว!” เสียงครางของชายหนุ่มมาพร้อมกับแท่งใหญ่โตกำลังดันเข้ากับช่องทางรักของเธอ เอวหนาเด้งเข้า เพื่อดันดุ้นใหญ่ให้ลึกจนสุดลำ! โดยไม่สนใจอาการดิ้นรนของร่างงามแต่อย่างใด ความคับแน่นโอบรัดแท่งร้อนจนร่างกำยำสั่นเทา! เจ็ดปียังคงเหมือนคราครั้งแรกไม่มีผิด! “อ๊ะ! ฮึก! ไม่! อ๊ะ!” ขวัญข้าวกำลังต่อสู้กับความรู้สึกดำมืดของตัวเอง เธอพยายามต่อต้าน แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นผล ถึงแม้จะรู้สึกเจ็บแปลบที่ช่วงล่างของเธอ แต่มันก็มีความซาบซ่านปนอยู่ในนั้น ริมฝีปากบางกัดเม้มเข้าหากันแน่น เพื่อต่อสู้กับความรู้สึกนั้น “อืม...”เสียงทุ้มแหบพร่าดังขึ้นด้วยความพึงพอใจในสิ่งที่เขากำลังสัมผัส ดวงตาคมเข้มคู่นั้นเจิดจ้าเต็มไปด้วยประกายแห่งความรักใคร่ อารมณ์ของหม่อมราชวงศ์หนุ่มกระเพื่อมไหว
ขวัญข้าวรู้สึกว่าตัวเองเดินมาติดกับดักเขาเสียแล้ว ไหนจะเลขาของเขาอีก ทุกคนรวมหัวกันเพื่อที่จะหลอกเธอ กำปั้นน้อยรัวๆ ใส่อกกว้างด้วยความโมโหเมื่อปะติดปะต่อเหตุการณ์ทั้งหมดได้แล้ว ขวัญข้าวดิ้นสุดฤทธิ์เธอจะไม่ยอมให้เขามาทำอะไรเธออย่างแน่นอน! “ไม่!” “อุ๊บ!!!!” ปากหนากระแทกลงมาอย่างรวดเร็ว แต่ทว่าก็เจอกับริมฝีปากบางที่ปิดเม้มสนิทเอาไว้แน่น ไม่ยอมให้ลิ้นของเขาได้แทรกเข้าไปในโพรงปากของเธอได้ มือของเธอพยายามดันอกกว้างของเขาไว้ แต่มันก็เหมือนกับผลักแผ่นหินผา ที่ไม่มีทีท่าว่าจะขยับออกเลยสักนิด! “พูดดีๆ ไม่ได้ ก็คงต้องวิธีนี้แล้วแหละ!” เสียงแหบพร่าขู่ “ไม่!” ขวัญข้าวสะบัดหน้าตัวเองหนี และดิ้นเพื่อให้หลุดพ้นจากเขา เธอพยายามแกะมือเหล็กแกร่งที่จับเธอเอาไว้ออก ‘ขวัญข้าวจะไม่ยอมให้เขาทำอะไรเธอได้แน่นอน’ ในระหว่างที่เธอกำลังใช้สมองเพื่อเอาตัวรอดอยู่นั้น มือของเขาที่เร็วยิ่งกว่าหนวดปลาหมึก กำลังดึงทึ้งชุดนอนของเธอออก! “โอ้ย!!!” เสียงร้องของหม่อมราชวงศ์หนุ่มดังขึ้น เมื่อไหล่ของเขาถูกฟันคมงับสุดแรง! ความเจ็บปวดบังเกิดขึ้นทันทีพร้อมด้วยเลือดซึมออกมาทันตาเห็น“ฮึ่ม!!!