แชร์

บทที่ 5

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-25 16:16:07

“กินช้าๆ หน่อยก็ได้ ไม่กลัวติดคอตายรึไงเหม่ยลี่”

            คุณหนูแห่งตระกูลหยางเงยหน้ายิ้มแหยๆ ให้พี่ชายสุดที่รัก แล้ววางช้อนส้อมลงรวบเข้าหากันบอกว่าอิ่มแล้ว

            “เหม่ยลี่อิ่มแล้วค่ะพี่โจวหมิง พอดีวันนี้มีนัดกับครูที่โรงเรียนว่าจะต้องรีบไปทำตารางสอบให้นักเรียน เดี๋ยวไม่ทันเวลาสอบที่จะมาถึงในอีก 1 เดือนข้างหน้า”

            เธอเป็นครูสอนหนังสือเด็กมัธยมของโรงเรียนมีชื่อแห่งหนึ่ง หน้าที่การงานนี้เองที่ทำให้พี่ชายพูดไม่ออก เพราะหากให้บอดี้การ์ดสวมสูทครบชุดไปยืนเรียงอยู่ในโรงเรียน เพื่อคุ้มครองคุณครูหยางเหม่ยลี่ จะทำให้น้องสาวของเขากลายเป็นจุดศูนย์กลางของความสนใจ จนแทบจะกลายเป็นตัวประหลาดที่น่าจับตามองก็ได้ ด้วยเหตุนี้ทำให้บอดี้การ์ดเฝ้าอารักขาแต่เพียงรอบนอก แต่โรงเรียนใหญ่และห้องเรียนเยอะแยะ ช่องทางการหนีมีมากมายจนสอดส่องตามองไม่ไหว แม้เป่าปงจะรายงานได้ว่าคุณหนูของตนหายไปตอนกี่โมง นานแค่ไหน และกลับมาเมื่อไหร่ แต่เป่าปงก็ไม่รู้ว่าเธอไปไหนและไปกับใคร

            “รีบขนาดนั้นเลยเหรอ ไปเร็วก็ต้องกลับบ้านเร็วสินะ”

            ถ้วยชาร้อนๆ ถูกประคองขึ้นจิบเบาๆ เรียวปากบางเฉียบได้รูปสีระเรื่อของหยางโจวหมิง เม้มเข้าหากันเล็กน้อย ก่อนจะยกผ้าขึ้นมาซับปาก ท่าทีถามเรื่อยๆ อย่างไม่ต้องการคำตอบเท่าใดนัก แต่น้องสาวรู้ดีว่าพี่ชายจริงจังกับคำถามนั้นแค่ไหน

            “ก็เสร็จเมื่อไหร่ ก็กลับเมื่อนั้นค่ะ”

            “พี่จะให้เป่าปงไปเฝ้าหน้าห้องพักครูนะ”

            “เอ๊ะ! นี่พี่โจวหมิงไม่ไว้ใจน้องแล้วหรือคะ ทำแบบนั้นจะทำให้เหม่ยลี่ดูเป็นตัวตลกในสายตาของนักเรียนนะคะ” หยางเหม่ยลี่ยอมไม่ได้เด็ดขาด เธอชักสีหน้าใส่คนเป็นพี่ทันควัน

            “เหม่ยลี่ พี่มีเหตุผลนะ พี่รู้มาว่าเรามักจะหายหน้าไปนานๆ ไม่รู้ว่าไปไหนหลายชั่วโมงบ่อยๆ”

            “แล้วไงคะ เหม่ยลี่เบื่อที่พี่โจวหมิงทำเหมือนน้องคนนี้เป็นนักโทษ น้องอยากมีอิสระบ้างจึงต้องแอบแว่บบ่อยๆ แต่เหม่ยลี่ก็กลับบ้านทุกวันนะคะ”

            “พี่เป็นห่วง”

            “เป็นห่วงจนถึงต้องให้เป่าปงไปเฝ้านักโทษหน้าห้องขังเลยรึไงคะ พี่โจวหมิงใจร้ายมาก แค่นี้เหม่ยลี่ก็ถูกครูบางคนและบรรดานักเรียนไม่อยากคุยด้วยแล้ว เพราะเขากลัวว่าถ้าทำอะไรผิด พี่ชายของน้องจะทำร้ายเขาเข้าให้ น้องเป็นคนนะคะไม่ใช่สัตว์หรือนักโทษของพี่”

            หยางโจวหมิงถอนใจยาว เขารักน้องและตามใจน้องเสมอ ทุกอย่างที่หยางเหม่ยลี่อยากได้เขาจะหามาให้ไม่เกี่ยง ยกเว้นแต่...อิสระที่เธอต้องการ มันมากเกินกว่าที่เขาจะมอบให้ได้ ความเจ็บปวดจากการสูญเสียบิดาและมารดายังติดตรึงอยู่ในใจของพญามังกรดำเสมอ ทั้งหลับและตื่น เขาจะมองเห็นภาพในอดีตได้ชัดเจน เขาจึงคิดว่าป้องกันไว้ดีกว่าแก้ ไม่ให้น้องต้องพานพบกับเหตุการณ์เช่นนั้นอีกคน จนนึกว่าบางทีที่ทำมันเกินไปหรือเปล่า

            “อย่าเข้าใจพี่ผิดแบบนั้น ถ้าพี่ไม่รัก ไม่ห่วง พี่คงปล่อยให้เหม่ยลี่ทำทุกอย่างที่อยากทำ โดยไม่สนใจว่าจะดีหรือเปล่า”

            “งั้น...” หยางเหม่ยลี่สาวเท้าเร็วๆ อ้อมโต๊ะไปออดอ้อนพี่ชาย “ขอให้เหม่ยลี่ได้เป็นอย่างเดิมนะคะ น้องขอแค่นี้และพี่ชายก็เคยให้ได้มาตลอด นะคะ”

            “แล้วถ้าเกิดอันตรายขึ้นกับเราล่ะ ใครจะรับผิดชอบ”

            “เหม่ยลี่สัญญาค่ะ ว่าจะดูแลตัวเอง แม้แต่มดสักตัว น้อยคนนี้ก็จะไม่ยอมให้ไต่ให้ตอมตัวเองเลย ถ้าเกิดอะไรขึ้น เหม่ยลี่จะรับผิดชอบตัวเองค่ะ พี่โจวหมิงต้องไว้ใจเหม่ยลี่นะคะ”

            “ก็ได้ แต่ถ้าเหม่ยลี่ทำไม่ได้อย่างที่พูด พี่คงจะต้องให้เหม่ยลี่ออกจากการเป็นครู พี่จะไม่ยอมให้เกิดอันตรายใดๆ กับเหม่ยลี่เหมือนที่พ่อกับแม่เจอ” หยางโจวหมิงบอกเสียงเข้ม ทั้งเสียงและดวงตาฉายชัดว่าเขาพูดจริงทำจริง

            “ค่ะพี่โจวหมิง”

            คำตอบรับคล้ายยินยอมเชื่อฟังคำพี่ทุกอย่างไม่ได้ทำให้หยางโจวหมิงเบาใจขึ้นสักนิด เช่นเดียวกับหยางเหม่ยลี่ที่กำลังครุ่นคิดอย่างเงียบๆ

           

            ร่างสูงเพรียวของธัชชัย อัคราบริรักษ์ นั่งกระสับกระส่ายอยู่ในรถคันเก่าๆ คร่ำครึคันหนึ่ง ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีปัญญาขับรถใหม่กว่านี้ แต่เพราะจำเป็นต้องใช้รถคันนี้เพื่อมารอคอยใครบางคนอยู่ในสถานที่นัดพบ ไม่นานนักก็เห็นร่างโปร่งบางของหยางเหม่ยลี่กึ่งวิ่งกึ่งเดินเข้ามาหา เธอเปิดประตูรถของคนรักแล้วสอดตัวเข้าไปอยู่ทางเบาะหลัง แต่ไม่ได้นั่งบนเบาะอย่างที่ควร เธอย่อตัวลงให้เตี้ยที่สุด ซุกตัวอยู่กับพื้นรถแล้วบอกคนรักเสียงระรัว

            “คุณธัชออกรถเดี๋ยวนี้”

            ธัชชัยไม่ถาม เขาเหยียบคันเร่งพุ่งรถไปข้างหน้า สายตาสอดส่องผ่านกระจกมองหลังและมองข้างทั้งซ้ายขวา เมื่อไม่เห็นว่ามีใครตามมาจึงเอ่ยขึ้น

            “มีอะไรรึเปล่าที่รัก”

            “เราต้องไปให้พ้นจากเกาะฮ่องกง เหม่ยลี่เอาพาสปอร์ตมาแล้ว คุณธัชล่ะเตรียมมาด้วยหรือเปล่า”

            “ผมพกติดกระเป๋าเสมอ เกิดอะไรขึ้น หรือว่า...”

            “พี่โจวหมิงกำลังสงสัยในตัวเหม่ยลี่ ถ้าเขารู้ว่าเราแอบคบกันล่ะก็ เขาจะให้เหม่ยลี่ออกจากการเป็นครู และต้องอยู่ในบ้านตลอดเวลา” เธอหยัดตัวขึ้นนั่งบนเบาะ เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครตามมาแน่ๆ “ฉะนั้นถ้าคุณรักเหม่ยลี่จริง คุณต้องพาเหม่ยลี่หนี”

            ธัชชัยเป่าลมหายใจออกจากปาก เขาบอกไม่ถูกว่าจะทำอย่างที่เธอว่าดีไหม ไม่ใช่เพราะไม่รักเธอ แต่เขายังไม่แน่ใจเลยต่างหากว่ารู้สึกยังไงกับน้องสาวมาเฟียคนนี้

            ใช่...เขาพอใจเธอ รักในเรือนร่างและความเร่าร้อนของเธอ ที่สำคัญเขารู้สึกกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจ ที่ได้ลอบกัดศัตรูของอัคราบริรักษ์ได้ การทำให้พญามังกรดำรู้สึกกระอักเลือดเป็นสิ่งที่ธัชชัยคาดหวัง แม้ในอดีตเขาจะไม่ได้เห็นภาพของแม่ก่อนท่านจะสิ้นลม แต่การเล่าขานปากต่อปาก ว่าหยางเฟ่ยหลงเป็นชู้กับแม่ของเขา ทั้งคู่อยู่ในอ้อมกอดของกันและกันก่อนตาย ทำให้เขาไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนจนปัจจุบัน

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทาสรักพญามังกร   บทที่ 86

    “โอวววว” พร้อมกับครางเสียงแหลมเล็ก“ฉันไม่เคยคิดจะมีคนอื่นหรือหาเศษหาเลยนอกบ้านเลยนะตันหยง เธอกับลูกคือทุกสิ่งทุกอย่างของฉัน รอยลิปสติคก็แค่จากเด็กสาวหน้าโง่คนหนึ่งที่อยากอ่อยให้ท่าฉัน แต่ฉันไม่สนใจหรอกนะที่รัก ฉันจะออกไปกินข้าวข้างนอกทำไมในเมื่อกับข้าวที่บ้านอร่อยเด็ดกว่าเยอะ”“จริงเหรอคะ อ๊ะ” อารมณ์คุกรุ่นขึ้นเรื่อยๆ สรัญรัตน์ก็สะบัดกระทั้นกระแทกสะโพกสวมครอบท่อนลึงค์เต็มอารมณ์อ่อนไหว“จริงที่สุดทูนหัว สายตาของฉันไม่เคยมีเงาใครในนั้นนอกจากเธอกับลูก หัวใจก็เช่นกัน มีลูกให้ฉันอีกหลายๆ คนนะที่รัก นานแล้วที่ฉันไม่ได้ยินเสียงเด็กร้องกินนมจากเต้าของเธอ ฉันอยากเห็นอีก อยากได้ยินอีกหลายๆ ครั้ง นะที่รัก”“คุณไม่ได้คิดจะขังฉันไว้ที่บ้าน เพื่อออกไปเสวยสุขข้างนอกหรอกนะคะ”“สาบานได้” เขายกมือขึ้น“ไม่ค่ะ อย่าพูดคำนั้น แค่คุณบอก ตันหยงก็เชื่อค่ะ แต่ที่งอนเพราะคุณแยกลูกไปจากฉัน”สรัญรัตน์กระทั้นกายขย่มลำสามีอย่างบ้าคลั่งอย่างไร้ซึ่งความอับอาย เวลานี้เธออยากมอบความสุขให้เขา อยากให้เขารู้สึกว่าข้างนอกไม่มีอะไรดีไปกว่าคนในบ้าน สรัญรัตน์เชื่อใจเขาแต่ไม่ไว้ใจคนอื่น ทว่าเรื่องนี้ก็ยังไม่ใช่ปัญหามากกว่าเร

  • ทาสรักพญามังกร   บทที่ 85

    “อ๊ะ!” สรัญรัตน์สะดุ้งเฮือก“คุณนายหยางตกใจอะไรหรือครับ” อี้ผิงเห็นสีหน้าของสรัญรัตน์แล้วครุ่นคิด หรือเขาจะทำให้เธอตกใจ จะด้วยสาเหตุอะไร สีหน้าของคุณนายหยางจึงแดงๆ ซีดๆ สลับกันเช่นนี้“เปล่า เปล่าจ้ะ มีอะไรอีกหรือเปล่า” เธออยากให้อี้ผิงไปไกลๆ เพราะไม่อาจหยุดการกระทำของสามีจอมหื่นได้“ไม่...”“นายแกะซองให้ทีสิอี้ผิง มือฉันไม่ว่าง”เธออยากกรี๊ดใส่หูทวนลมของเขานัก เอาให้แก้วหูแตกกันไปเลย ยอมหามสามีเข้าโรงพยาบาลด้วยโรคบ้าๆ ก็ยังดีกว่าต้องอับอายให้คนเอาไปนินทาเล่นสนุกปากอี้ผิงแกะซองสีน้ำตาลส่งกระดาษสีขาวให้เจ้านาย แต่หยางโจวหมิงไม่ยอมรับ แถมยังให้อี้ผิงอ่านรายละเอียดต่างๆ ให้ฟังเสียเอง“เอ่อ...” อี้ผิงตะขิดตะขวงใจ เพราะเหมือนคุณนายกับเจ้านายของเขากำลังมีปัญหากัน แต่เขาเป็นแค่ลูกน้องเจ้านายสั่งให้ทำอะไรก็ต้องทำอี้ผิงอ่านรายงานอย่างละเอียดตามคำสั่งสรัญรัตน์ไม่มีกระจิตกระใจฟัง เวลานี้กลีบเนื้อของเธอถูกปลายนิ้วใหญ่รุกเร้า นิ้วใหญ่ที่แทรกอยู่กลางร่องหลืบถูไถไปมา เธอเสียวกระสันทั้งที่พยายามสกัดกั้นอารมณ์นั้นไว้ด้วยความขุ่นข้องหมองใจในเรื่องเมื่อวาน รอยลิปสติคบนอกเสื้อของสามี แม้เขาจะออกตัวตั้

  • ทาสรักพญามังกร   บทที่ 84

    สรวงสุดามองเงินจำนวนมากตรงหน้าด้วยใจที่ระทึก เกิดมาเธอไม่เคยมีเงินมากขนาดนี้มาก่อน มือสั่นๆ ยื่นออกไปหยิบขึ้นมาปึกหนึ่ง แล้วยกขึ้นจรดจมูกสูดดมกลิ่นธนบัตรสีเทาเข้าปอด“นี่เป็นสินสอดของผม ขอมอบให้คุณผู้เป็นแม่ของตันหยง”“โอย...เงินทองตั้งมากมาย ขอบคุณนะคะคุณหยาง”“เงินและทองจำนวนนี้ มันจะงอกเงยขึ้น ถ้าคุณแม่เลิกเล่นการพนันแล้วหันมาเลี้ยงหลานแทน แต่ถ้าคุณยังมีข้อกังขาที่ว่า ผมเองก็เป็นนายบ่อน คุณแม่จะเข้าไปเล่นที่บ่อนผมก็ได้นะ แต่เงินจำนวนนี้ หมดแล้วหมดเลย”สรัญรัตน์ในชุดกี่เพ้าสีแดง ตามธรรมเนียมประเพณีของคนที่มีเชื้อสายจีน นั่งเคียงข้างกับเจ้าบ่าวที่สวมชุดสีเดียวกัน ทำจากผ้าไหมจีนปักลายมังกร และมีช่อบูเก้คาดเฉียงบนหน้าอก วันนี้เป็นวันแต่งงานที่ถือเอาฤกษ์งามยามดีเป็นฤกษ์สะดวก ด้วยเจ้าสาวกลัวจะสวมชุดแต่งงานไม่ได้ เนื่องจากครรภ์ที่เริ่มใหญ่ขึ้นทุกวัน จะเลื่อนงานออกไปหลังคลอด เจ้าบ่าวก็ยืนยันหนักแน่นว่ารอไม่ไหว ดังนั้นหลังจากการขอแต่งงานผ่านไปได้เพียง 1 สัปดาห์ งานแต่งงานตามธรรมเนียมก็ถูกจัดขึ้น“คุณหมายความว่า ฉันจะได้มากกว่านี้งั้นเหรอ”“คุณแม่ไม่ต้องทำอะไรหรอกครับ ถือว่าผมขอ มีสิ่งแลกเปล

  • ทาสรักพญามังกร   บทที่ 83

    ร่างสูงพาตัวเองมายืนห่างจากร่างอวบอัดของคนท้องแค่ 1 ช่วงแขน ดวงตาสีสนิมกวาดมองไปทั่วร่างงามเหมือนทุกครั้ง ครั้งนี้จับจ้องอยู่ที่หน้าท้องนูนเด่น ที่ตั้งของลูกในท้อง เขาจะดีใจไหมนะที่พ่อมาหา“ลูกของฉัน เอ่อ...” อยากจะลดตัวลงจูบหน้าท้องนูนๆ แต่ก็กลัวช่อดอกไม้จะถูกแกะแย่งไป ทำไมเขาถึงทำอะไรไม่ถูกแบบนี้ ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง ไม่รู้ว่าจะเริ่มที่ตรงไหน ไม่รู้ว่าจะพูดกับเธอยังไง ทุกอย่างมันดูติดขัดไปหมด ไม่เรียบลื่นเหมือนที่เคยเลยสักนิด“นี่...ช่อดอกไม้ของเธอ รับไว้สิตันหยง”สรัญรัตน์มองอาการเงอะงะติดๆ ขัดๆ ไม่สมกับเป็นมาเฟียใหญ่อย่างพญามังกรดำเลยสักนิด แต่ก็น่าเอ็นดูใช่หยอกเสียเมื่อไหร่ เธอยิ้มทั้งน้ำตายื่นมือออกไปรับช่อดอกไม้จากเขา“ขอบคุณค่ะ”“ฉัน...มีเรื่องจะพูดคุยกับเธอหลายอย่าง แต่...ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี”“ก็แค่พูดความจริงไงคะ ความจริงที่คุณกำลังรู้สึกอยู่”“ฉัน...อยากขอเธอแต่งงาน เธอจะรังเกียจฉันมั้ย”หญิงสาวเกือบจะยิ้มออกมากว้างๆ ถ้าใจไม่สั่งให้เธอค้นหาคำตอบที่พอใจเสียก่อน การจะขอแต่งงานเกิดขึ้นกับเธอบ่อยครั้ง และทุกครั้งทุกคนก็ถูกเธอปฏิเสธจนหมด คราวนี้ผู้ชายตรงหน้าเป็นคนเดียวที่เ

  • ทาสรักพญามังกร   บทที่ 82

    “...” สถานการณ์ก็ยังเงียบอยู่เช่นเดิม คราวนี้สรัญรัตน์ตัดสินใจจะเปิดประตูรถ เธอไม่คิดจะกระโดด แต่แค่ขู่เผื่อเขาจะนึกสงสารลูกในท้องของเธอบ้าง แต่ประตูรถถูกล็อกจากคนขับเสียนี่“นายเป็นใคร ฉันบอกให้จอดรถนะ นายต้องการอะไร”“...” ความเงียบกำลังทำให้หญิงสาวสติแตก เขาจะจับตัวเธอมาเรียกค่าไถ่หรือเปล่า แล้วเฉวงรู้เห็นกับเรื่องนี้ด้วยหรือไม่ คำถามวนเวียนอยู่ในหัวจนรู้สึกมึนไปหมด“นี่นาย! ถ้านายต้องการเงินจากฉันล่ะก็ ฉันมีให้ไม่มากหรอกนะ แต่...ถ้านายร่วมมือกับลุงเหวงจะจับฉันไปเรียกค่าไถ่ นาย...นายน่าจะสงสารเด็กที่อยู่ในท้องฉันบ้างนะ เอ่อ...จับคนท้องไปเรียกค่าไถ่ไม่สนุกหรอกนะ ถ้านายต้องการเงินจริงๆ ส่งฉันกลับไปหาคุณพ่อสิ แล้วฉันจะบอกให้ท่านเอาเงินมาให้นาย”“...”“นี่นายฟังที่ฉันพูดบ้างหรือเปล่าน่ะ”เขาไม่ตอบ ไม่พูด ไม่ถามอะไรทั้งสิ้น แถมยังเปิดเพลงหวานให้เธอฟังเป็นการตอบแทน“หรือว่า...นายเป็นใบ้ นายพูดไม่ได้ใช่มั้ย คนเป็นใบ้ต้องหูหนวกด้วยนี่ ฉันเคยได้ยินมาอย่างนั้น แล้ว...แล้วฉันจะสื่อสารกับนายได้ยังไง”ในขณะที่สรัญรัตน์กำลังว้าวุ่น คนขับรถก็แอบอมยิ้มอยู่เพียงลำพัง“นาย” เธอเรียกหลังจากนิ่งคิดสัก

  • ทาสรักพญามังกร   บทที่ 81

    หญิงสาวเดินลงไปยังรถซึ่งเฉวงคนขับรถได้เปิดประตูรออยู่ เขายิ้มให้คุณหนูตันหยง นึกชื่นชมว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนจะสวยสู้คุณหนูของเขาได้ วันนี้เขาได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่สำคัญอย่างหนึ่ง เป็นหน้าที่ที่ไม่อาจจะพูดหรือบอกใครได้ โดยเฉพาะคุณหนูตันหยง“ตันหยง” นางสรวงสุดาเดินลงมาทันก่อนบุตรสาวจะก้าวขึ้นรถ เธอเรียกเอาไว้เพราะมีเรื่องบางอย่างต้องการพูดด้วย“คุณแม่ มีอะไรกับตันหยงหรือเปล่าคะ”“แต่งตัวซะสวย มีนัดกับใครที่ไหนล่ะ” มารดาไม่ตอบ แต่ถามกลับแทน“ตันหยงมีนัดกับคุณพ่อค่ะ คุณแม่มีอะไรคะ”“เอ่อ...มีเงินให้ฉันยืมสัก...แสนนึงมั้ย”“คุณแม่!! ตันหยงจะเอาที่ไหนมาให้คุณแม่คะ ตันหยงไม่ได้ทำงาน ที่มีกินมีใช้ก็เพราะคุณพ่อให้ทั้งนั้น แต่ตันหยงไม่มีเงินเก็บมากมายขนาดนั้นหรอกค่ะ คุณแม่จะเอาไปทำอะไรคะ”“ไม่รู้สักเรื่องจะได้มั้ย” มารดาเกิดอาการฉุนเฉียว แต่บุตรสาวก็เดาได้ไม่ยากว่ามารดาจะเอาเงินไปทำอะไร“คุณแม่จะเอาเงินไปเข้าบ่อนหรือคะ ตันหยงขอได้มั้ยคะ คุณแม่อย่าเล่นอีกเลย” หญิงสาวพยายามอ้อนวอน หวังว่าคำขอของเธอจะทำให้แม่กลับตัวกลับใจ“ฉัน...ก็พยายามอยู่ แต่ว่า...เมื่อวานนี้ฉันเสียไปมาก ก็กู้เงินเขามากะว่าจะถ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status