Masuk“อึก! อื้อ!” เสียงร้องของปุณณดาถูกปิดกั้น เมื่อเธอได้สติหญิงสาวก็ดิ้นสุดฤทธิ์ จนทำให้เอกสารบนโต๊ะทำงานเขาร่วงหล่นบนพื้นกระจัดกระจาย คนที่อยู่ด้านนอกตกใจ พร้อมกับวิ่งกรูเข้าไปยืนลุ้นหน้าประตูใหญ่ด้วยความตื่นตระหนกและกระวนกระวายใจ
“คุณจะเข้าไปไม่ได้นะคะ ถ้าท่านประธานไม่เรียก”
เลขาแสนสวยเข้ามาขวางกันยกรทันที
“แต่เพื่อนดิฉัน...”
“ท่านประธานไม่ทำอะไรเพื่อนคุณหรอกค่ะ ท่านเป็นถึงประธานบริษัทนะคะ จะทำเรื่องไม่ดีอย่างที่คุณคิดได้ยังไง”
“คุณก็พึ่งจะทำงานกับท่านประธานไม่กี่วัน คุณรู้ได้ยังไง”
กันยกรกระชากเสียงใส่เลขาหน้าห้อง
ด้านใน...
เพี๊ยะ! ฝ่ามือบางฟาดลงบนใบหน้าคม เมื่อร่างกายของเธอเป็นอิสระจากการพยายามทำตัวเองให้หลุดพ้นจากอ้อมแขนอันแข็งแกร่งนั่น
“อุ๊บ!” ปากบางถูกบดขยี้อีกครั้งด้วยความรุนแรงและดุเดือดกว่าครั้งเก่า ลิ้นเล็กถูกตวัดด้วยลิ้นหนาของเขา ดูดเม้มเอาแต่ใจ ราวกับหิวโหยมานานแรมปี จูบร้อนนั้นดุเดือดกินเวลาไปหลายนาที จนร่างบางเริ่มอ่อนระทวย
พรึ่บ! ร่างกำยำผละออกจากร่างบางทันที เมื่ออารมณ์ของเขาตอนนี้ค่อนข้างจะเตลิดไปไกลกว่าที่คิด ถ้ามากกว่านี้บทรักคงต้องเกิดขึ้นบนโต๊ะทำงานของเขาแน่นอน!
“เลือกเอา...จะมาทำงานกับผมดีๆ หรือจะลาออก ผมให้คุณกลับไปคิดสามวัน ถ้าไม่ตอบกลับมาผมถือว่าคุณเลือกลาออกก็แล้วกัน...มิลิน!”
“คุณมันบ้า!”
ปุณณดารีบตะลีตะลานออกจากจุดนั้นทันที มือบางลูบไปยังริมฝีปากเธออัตโนมัติ มันน่าจะบวมเจ่อไปหมดแล้ว ออกไปคนด้านนอกจะต้องรู้แน่ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น
“ใช่! ผมมันบ้า! คุณก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่หรือ...ผมทำได้ทุกอย่างเท่าที่ผมอยากจะทำ!”
สายตาเขาจ้องไปที่เธอ ที่สภาพตอนนี้ราวกับแมวน้อยโดนขย้ำจากเสือร้าย แม็กซ์เวลยกยิ้มที่มุมปาก เมื่อเห็นความโกรธของอีกฝ่ายจนทำให้ใบหน้าสวยแดงกล่ำอย่างเห็นได้ชัด
“คุณจะไม่ได้ในสิ่งที่คุณอยากได้แน่นอน!”
ปุณณดาทิ้งท้ายก่อนจะหมุนตัวและวิ่งออกไปจากที่ตรงนั้นทันที ‘เธอไม่สามารถทนรับความเผด็จการบ้าๆ แบบนี้ได้อีกแล้ว’
แกร๊ก! ปึ่ง! เสียงประตูเปิดและถูกกระแทกในเวลาเดียวกัน
“มิลิน! แกเป็นยังไงบ้าง”
กันยกรที่รออยู่ก่อนแล้ว รีบเข้าไปหาเพื่อน เมื่อเห็นสภาพของเพื่อนเธอพอจะเดาได้ว่า ด้านในนั้นเกิดอะไรขึ้น
“ไปเถอะ เดี๋ยวฉันจะเล่าให้ฟัง”
“โอเค”
...................
@ โรงแรม...ประเทศสิงคโปร์
“คุณมาเวลาขนาดนี้ ก็เท่ากับว่าคงไม่ต้องเตรียมตัวซักซ้อมกันเรื่องการพบลูกค้าวันนี้เลยสินะ”
กันต์ธีพยายามระงับอารมณ์โกรธสุดขีด ที่วันนี้เขาต้องมารอเธอที่จุดนัดพบ และก็เหลือเวลาไม่กี่นาทีก็พบลูกค้าตามนัด ซึ่งจริงๆ แล้วเธอจะต้องมาก่อนเวลา เพื่อที่จะคุยเรื่องคิวงานหรือการซักซ้อมจะได้เป็นทิศทางเดียวกัน แต่ว่าเธอกลับเอาความรู้สึกมาปนกับงานมากจนเกินไป มันทำให้กันต์ธีไม่พอใจและโมโหอย่างที่สุดกับการกระทำเอาคืนบ้าๆ ของเธอ...
“แล้วไง! หน้าที่ของฉันคือนำเสนอแผนการตลาด ส่วนเธอก็ทำหน้าที่ตัวเองไปสิ! ไม่เห็นจะต้องมาซักซ้อมอะไร!”
ดวงตากลมโตมองเหยียดออกมาทันที ถ้าณิศราไม่ชอบคือจะต้องเอาคืนทุกครั้งที่มีโอกาส เธอจะสั่งสอนให้ผู้ชายคนนี้รู้จัก ว่าไม่ควรมาเล่นกับคนอย่างเธอ
“โอเค...เข้าไปเลย ลูกค้าทยอยไปกันหมดแล้ว แล้วแต่คุณเลยอยากทำอะไรก็เรื่องของคุณ ทำตัวไม่มืออาชีพ! แบบนี้เด็กเขาเอาไว้เล่นกัน!”
กันต์ธีทิ้งบอมบ์เสร็จก็เดินเข้าไป โดยไม่สนใจเสียงกรีดร้องของเธอแต่อย่างใด
“แก! เก่งให้ตลอดเถอะ!”
หน้างาน...
“การวางระบบเครื่องจักรอุตสาหกรรมของเรา มีคุณภาพได้มาตรฐานค่ะ โดยมีทีมวิศวกรที่คอยตรวจเช็คดูแลตลอดอายุการใช้งาน และอีกทั้ง #%*&$@#!”
เสียงการพรีเซนต์เป็นภาษาสากลของณิศรามีความฉะฉานและชัดเจน ลูกค้าชาวต่างชาติสนใจการนำเสนอที่มีสีสันบวกกับท่วงท่าพลิ้วไหวทั้งมือและริมฝีปากบางสีแดงสดที่กำลังยิ้มอย่างสวยงามทุกครั้งที่มีการอธิบาย
และ...
“โครงสร้างหลักของเครื่องจักรจะถูกควบคุมด้วยระบบ AI ทำให้อุปกรณ์ทุกชิ้น #%*&$@#!$”
กันต์ธีทำหน้าที่ในการอธิบายในส่วนของวิศวกรได้เป็นอย่างดีด้วยเช่นกัน ทำให้ลูกค้าเข้าใจง่ายต่างพากันชื่นชมความสามารถของหนุ่มวิศวกรคนนี้
เวลา 20.00 น.
งานเลี้ยงถูกจัดขึ้นภายในโรงแรมที่มีกลุ่มลูกค้าและนักธุรกิจหลากหลายประเทศต่างเข้าร่วมกันเป็นจำนวนมาก ‘ณิศรา’ และ ‘กันต์ธี’ ต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงครั้งนี้ตามแผนงานที่วางไว้ และก็เหมือนเดิม ทั้งคู่ไม่กินเส้น! เลยทำให้งานเลี้ยงวันนี้ต่างคนต่างมา และไม่ได้สนใจกันด้วยซ้ำ
‘เชอะ! นึกว่าฉันจะสนใจแกล่ะสิ ไม่มีทาง!’ ณิศราเหลือบมองร่างสูงใหญ่ของคู่ปรับกำลังยิ้มแย้มและทักทายกับนักธุรกิจต่างชาติ ‘เก่งนี่! ภาษาก็ฉะฉาน!’ ณิศรารู้สึกทึ่งในความสามารถของชายหนุ่ม ที่ไม่ได้มีดีแค่หน้าตาแต่กลับทำงานได้คล่องแคล่ว ภาษาก็เป็นเลิศ แต่ณิศราก็ไม่ชอบอยู่ดี!
‘แต่งตัวเหมือนจะมาล่าเหยื่อ!’ กันต์ธีมองเหยียดไปที่หญิงสาวคู่ปรับ ชุดสีแดงเพลิงเว้าหน้าเว้าหลัง อกอวบขาวแทบจะทะลักออกมากองอยู่ตรงหน้า เป็นจุดสนใจกับหนุ่มๆ เป็นอย่างมาก และบางคนก็ได้แต่มองตาละห้อย แต่มันไม่ใช่กับเขาแน่นอน กันต์ธีไม่ชอบผู้หญิงที่แสดงความจัดจ้านเกิดเหตุ!
เวลาผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมง...
เสียงร้องเรียกของหญิงสาวคู่ปรับดังมาแต่ไกล
“นะ-นี่! นาย!”
ณิศราเดินโซซัดโซเซมายังที่ชายหนุ่มคู่ปรับยืนอยู่ เธอรู้สึกไม่สบายกะทันหัน ไม่รู้ว่าร่างกายของเธอเกิดอะไรขึ้น
“อะไรกันคุณ! เมาก็ไปนอนสิ”
กันต์ธีมองร่างอรชรกำลังเดินตรงมาที่เขาด้วยท่าทีราวกับคนเมา ร่างบางเซไปมาเกือบจะล้ม
“ชะ-ช่วย ฉะ-ฉันหน่อย! พะ-พาฉันกลับห้องด้วย”
ลำคอของเธอแห้งผากฉับพลัน ร่างกายเธอร้อนวูบวาบไปทั่วทั้งร่างกาย ณิศราไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร อยู่ดีๆ เธอก็รู้สึกมึนงงร้อนไปหมด เธอดื่มไวน์ไปแค่สองแก้วเท่านั้น ทำไม? เธอเมาอย่างนั้นหรือ?
“ขอร้องผมสิ! แล้วผมจะพาไป”
“ไอ่!....อุ้ย!”
ณิศรากำลังจะพ่นคำด่าออกไป แต่ทว่ามีบางอย่างกลับตีเข้ามาในร่างกายของเธออีกระรอก
“ปากเก่งดีนะ” กันต์ธีมองณิศรา ประกายประหลาดฉายวาบในแววตาของเขา
“ดะ-ได้โปรด พะ-พาฉันกลับห้องที ฉะ-ฉันขอร้อง...”
ด้วยความร้อนที่แผ่ซ่านไปทั่วเรือนร่างของณิศรา ทำให้เธอต้องร้องขอเขาในที่สุด โดยตอนนี้ความเย่อหยิ่งทุกอย่างถูกพับเก็บไปหมดแล้ว เธออาการค่อนข้างหนัก กับอะไรก็ไม่รู้ที่โจมตีเธออย่างฉับพลัน
“อึก! อื้อ!” เสียงร้องของปุณณดาถูกปิดกั้น เมื่อเธอได้สติหญิงสาวก็ดิ้นสุดฤทธิ์ จนทำให้เอกสารบนโต๊ะทำงานเขาร่วงหล่นบนพื้นกระจัดกระจาย คนที่อยู่ด้านนอกตกใจ พร้อมกับวิ่งกรูเข้าไปยืนลุ้นหน้าประตูใหญ่ด้วยความตื่นตระหนกและกระวนกระวายใจ “คุณจะเข้าไปไม่ได้นะคะ ถ้าท่านประธานไม่เรียก”เลขาแสนสวยเข้ามาขวางกันยกรทันที “แต่เพื่อนดิฉัน...” “ท่านประธานไม่ทำอะไรเพื่อนคุณหรอกค่ะ ท่านเป็นถึงประธานบริษัทนะคะ จะทำเรื่องไม่ดีอย่างที่คุณคิดได้ยังไง” “คุณก็พึ่งจะทำงานกับท่านประธานไม่กี่วัน คุณรู้ได้ยังไง”กันยกรกระชากเสียงใส่เลขาหน้าห้อง ด้านใน... เพี๊ยะ! ฝ่ามือบางฟาดลงบนใบหน้าคม เมื่อร่างกายของเธอเป็นอิสระจากการพยายามทำตัวเองให้หลุดพ้นจากอ้อมแขนอันแข็งแกร่งนั่น “อุ๊บ!” ปากบางถูกบดขยี้อีกครั้งด้วยความรุนแรงและดุเดือดกว่าครั้งเก่า ลิ้นเล็กถูกตวัดด้วยลิ้นหนาของเขา ดูดเม้มเอาแต่ใจ ราวกับหิวโหยมานานแรมปี จูบร้อนนั้นดุเดือดกินเวลาไปหลายนาที จนร่างบางเริ่มอ่อนระทวย พรึ่บ! ร่างกำยำผละออกจากร่างบางทันที เมื่ออารมณ์ของเขาตอนนี้ค่อนข้างจะเ
@ โรงแรมสุดหรู ประเทศสิงคโปร์... “ทำไมห้องที่ฉันจองมาต้องติดกับนายคนนี้ด้วย”ณิศรากำลังเกรี้ยวกราดใส่พนักงานต้อนรับ เธอสื่อสารภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี โดยที่อีกฝ่ายก็พยายามที่จะอธิบาย “ห้องมันเต็มคุณก็เห็นอยู่ และอีกอย่างโรงแรมนี้ เป็นสถานที่จัดงานด้วย คุณจะยกเลิกและไปพักที่อื่นก็ได้นะ และถ้าคุณมาไม่ทันนัดของลูกค้าแต่ละครั้งล่ะก็ คงต้องให้พ่อของคุณมาจัดการล่ะมั้ง”สายตาเหยียดๆ ของกันต์ธีส่งถึงณิศราทันทีโดยไม่เกรงกลัวใดๆ “ฉันไม่ได้คุยกับแก ไม่ต้องออกความคิดเห็น”ณิศราตอบกลับทันทีเช่นกัน ทำยังไงเธอถึงจะจัดการไอ่บ้านี้ได้นะ “อืม...ก็แล้วแต่ อย่าให้ปัญหามันลามมาหาผมแล้วกัน”กันต์ธีหยักไหล่แบบไม่สนใจ เขาเบื่อหน่ายผู้หญิงแบบนี้มากๆ นอกจากเธอจะกรี๊ดกร้าดหนวกหูแล้ว ยังน่าเบื่ออีกต่างหาก “สรุปฉันขอเปลี่ยนห้องได้ไหมคะ”ณิศราหันไปต่อรองกับพนักงานของโรงแรม แต่คำตอบที่ได้คือ “ห้องเต็มครับ” “โอเค...”ณิศราหันมาถลึงตาใส่คนข้างหลังทันที นั่นมันเพราะนายนั่นแหละ ไม่งั้นฉันคงไม่เป็นแบบนี้แน่ๆ “อย่ามาพาลไม่เข้าเรื่อง อายุก็ไม
@ บ้านหลังใหญ่สไตล์โมเดิร์น... “กายลูกจะไปกี่วัน แม่จะได้เตรียมเสื้อผ้าให้ถูก”ธีรยาเอ่ยขึ้นในเช้าวันหนึ่ง เธอและลูกทั้งสองกำลังนั่งรับประทานอาหารเช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ “ต้องเตรียมไปสิบวันก่อนครับแม่ ผมยังไม่แน่ใจเลยครับ คือว่า...มีปัญหานิดหน่อยครับ”สิ่งที่นายท่านอดัมโทรมาบอกกันต์ธีเมื่อคืน มันทำให้เขารู้สึกไขว้เขวเป็นอย่างมาก อย่างหนึ่งคือบุณคุณ ‘ฝากริต้าหน่อยนะ คนนี้เอาแต่ใจตัวเองไปหน่อย ยังไงลุงขอให้กายอดทนกับเธอสักหน่อย ถูกตามใจจนเคยตัว’ อีกอย่างหนึ่งก็คือ ‘ความแค้นที่รอการเอาคืนอย่างสาสม’ “มีอะไรเหรอกาย?” ปุณณดาเอ่ยถามอย่างสงสัย “นิดหน่อยครับพี่มิลิน ไปหลายวันผมคิดถึงแม่ครับ”กันต์ธีหลีกเลี่ยงคำตอบที่แท้จริง เขาไม่อยากให้แม่และพี่สาวทุกข์ใจกับเรื่องที่เขาคิดจะทำต่อจากนี้ “กายจะไปสิงคโปร์วันไหน เดี๋ยวพี่ไปส่งที่สนามบิน” “วันจันทร์ครับ” “แล้วไปกับ...เอ่อ...หัวหน้าฝ่ายการตลาดใช่ไหม?”ปุณณดารู้อยู่ก่อนแล้ว ว่าน้องชายเธอกำลังมีปัญหากับณิศราลูกสาวของบ้านนั้น กันต์ธีมักจะเล่าเรื่องราวให้เธอได้ฟังตลอด ปุณณดาห้ามน้องแ
@ แผนกไอที... “มิลิน แกเป็นยังไงบ้าง”กันยกรร้องเรียกเพื่อนสาวทันที เมื่อเห็นใบหน้าสวยแดงกล่ำ ย่ำเท้าก้าวเข้ามาภายในห้องทำงาน ที่ตอนนี้มีกันยกรนั่งรอปุณณดาอยู่ในห้องเพียงคนเดียว เนื่องจากเป็นเวลาพักกลางวัน “สักครู่...ตัง”ปุณณดานั่งลงบนเก้าอี้อย่างหมดแรง สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่มันทำให้ปุณณดาเกิดภาวะแพนิคชั่วขณะ เธอไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ ทำไมเขาถึงต้องการที่จะขอโทษเธอ เขาไม่แค้นเธอแล้วหรือ? เขารู้สึกผิดขนาดนั้นเชียวหรือ? “...” กันยกรมองหน้าเพื่อนสาวด้วยความรู้สึกลุ้นระทึกเช่นกัน เมื่อเธอได้ทราบข่าวเม้าท์จากแผนกประชาสัมพันธ์โดยหัวหน้าแผนก ‘มิลินไปทำอะไรให้ท่านประธานไม่พอใจหรือเปล่าไม่รู้...แต่ที่รู้คือตอนนี้โดนเรียกเข้าไปห้องท่านประธานแล้วแก...’ นี่คือสิ่งที่ขาเม้าท์กำลังแพร่กระจายข่าว จนเกิดเป็นวงกว้างในวงการสายนินทาโดยมีหัวข้อ ‘แจ๊คพอตมิลิน!’ “เขาเรียกฉันเข้าไปคุย...ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องงาน”ปุณณดาเริ่มเล่าเรื่องราวเมื่อครู่ให้เพื่อนฟัง กันยกรผ่านทุกเรื่องราวทั้งหมดของเธอมาตลอด เธอจึงไม่คิดที่จะปิดบังเพื่อนรักของเธอเลยแม้แต่นิด
“แต่เขามองแรงจริงๆ นะมิลิน พี่ชักกลัวแล้วสิ...พี่ก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนะ...รางวัลพนักงานดีเด่นของปีที่แล้วก็การัณตีอยู่...เธอล่ะมิลิน...ไปทำอะไรผิดมาหรือเปล่า...ลองนึกดูสิ ไม่ใช่เรื่องดีเลยนะถ้าท่านประธานจะไม่ชอบหน้าเราน่ะ” “ไม่มีอะไรหรอกค่ะพี่...มิลินว่าเขาน่าจะมองเราสองคน ที่พูดกันไม่หยุด รบกวนที่ประชุมมากกว่านะคะ”ปุณณดาหาเหตุระงับเสียงพูดของอีกฝ่าย “อืม...น่าจะใช่...^^” เวลาผ่านไปราว 30 นาที... “คุณปุณณดาคะ...เสร็จจากประชุมท่านประธานเชิญคุณที่ห้องทำงานนะคะ” “คะ? เอ่อ...เรื่องอะไรหรือคะ คือว่าดิฉันไม่น่าจะมีงานที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายบริหารขนาดนั้นนะคะ”ปุณณดาตกใจอย่างที่สุด ที่อยู่ดีๆ เลขาของท่านประธานเดินเข้ามากระซิบบอกเธอ “ดิฉันไม่ทราบค่ะ ท่านให้ดิฉันมาบอกคุณค่ะ เดี๋ยวถ้ายังไงเชิญตามดิฉันมาเลยนะคะ” “อุ้ย! นั่นไง! พี่บอกแล้วไงว่าท่านประธานจะต้องมีอะไรแน่ๆ มิลินเธอทำอะไรผิดไว้หรือเปล่าเนี่ย เธอต้องใจเย็นๆ นะค่อยๆ คิดก่อนพูดนะ...ตายแล้ว! พี่ก็คิดว่าเป็นพี่ซะอีก รอดตัวไป...ขอให้โชคดีนะจ๊ะน้องสาว” “พี่ไปกับมิลิ
อีกด้านหนึ่ง...“เธอแวะทักทายใครเหรอไลลา...เธอรู้จักคนในบริษัทฉันด้วยเหรอ?”“น้องที่ฉันรู้จักมานานแล้ว เราเป็นเพื่อนกันน่ะ”“ฉันไม่ยักรู้นะ...ว่าเธอมีเพื่อนคนอื่นอีก นอกจากฉัน”“ฉันสนิทสนมกันมานานหลายปีแล้ว แต่เผอิญน้องเขาดันมาทำงานที่บริษัทของเธอด้วย”“อืม...”“หนูไลลา...ทำไมไม่ไปยืนข้างๆ ตาแม็กซ์ล่ะลูก ตอนนี้หนูควรจะเปิดตัวได้แล้วนะ”“เอ่อ...หนู”สิ่งที่กิริฎาไม่ชอบมากที่สุดก็คือ ‘การเป็นหุ่นเชิด’ เธอเหนื่อยหน่ายกับสิ่งแบบนี้เหลือเกิน กิริฎาต้องตามใจคนทุกคน เพื่ออะไรกัน? กิริฎาอยากเป็นตัวของตัวเอง เธอไม่ได้ต้องการแบบนี้เลยสักนิด...“เธอต้องฝึกไว้นะไลลา...อีกหน่อยถ้าเธอแต่งงานกับแม็กซ์แล้ว เธอเองก็ต้องออกงานสังคมบ่อยๆ เผลอๆ ฉันว่าเธอจะต้องลาออกจากการเป็นหมอด้วยซ้ำ”“เอาไว้ก่อนเถอะริต้า...การเป็นหมอคือสิ่งที่ฉันรักนะ”น้ำเสียงของกิริฎาเริ่มแข็งขึ้น เธอไม่ชอบให้ใครมาแตะเรื่องอาชีพของเธอเลย ‘กิริฎาจะทนกับผู้คนเหล่านี้ได้มากแค่ไหนกัน’“บ้านเรามีเงินมากพอที่จะเลี้ยงหนูไปทั้งชาติเลยนะ เพราะฉะนั้นแม่ว่า หนูควรจะวางแผนที่จะสร้างครอบครัว และมีลูกกับแม็กซ์ให้พ่อกับแม่ได้ชื่นใจดีกว่านะคะ อีกอย่







