Home / รักโบราณ / ทาสราคะองค์ชายใบ้ / 4 ได้โปรดยั้งมือ (2)

Share

4 ได้โปรดยั้งมือ (2)

last update Huling Na-update: 2024-12-02 17:12:37

“หรือเป็นเพราะเจ้ารังเกียจที่พี่ต่ำต้อย” ชายหนุ่มแสร้งเอ่ยอย่างตัดพ้อ เขารู้ว่าม่านซือซือจิตใจเมตตาและมีหัวก้าว หน้า นางจึงไม่อาจทนฟังคำพูดเช่นนี้จากเขา

“ขะ ข้าเปล่า ใครจะกล้ากระทำเยี่ยงนั้น พี่ถังคือชายที่ข้าปรารถนาครองคู่กันไปจนแก่เฒ่า” นางเอ่ยจบจึงอายม้วน

เอี๊ยะถังยิ้มพึงใจ ซึ่งเขาไม่อาจปล่อยให้สตรีที่ลักลอบมาพบกันที่สวนแปะก๊วยรอดพ้นมือไปได้ คืนนี้เขาเตรียมการไว้แล้ว นางต้องตกเป็นเมียเขาเท่านั้น!

น่องเรียวขาวนวลถูกมือใหญ่หยาบกร้านลูบไล้ ก่อนเคลื่อนสัมผัสต้นขานางอย่างรวดเร็ว ความอุ่นซ่านเหมือนจะร้อนลวกมือเขา ร่างกายนางสั่นระริก ดวงตาดอกท้อมองเขาด้วยความสงสัยแกมอยากรู้ อีกทั้งริมฝีปากอิ่มสวยเผยออ้า ส่งลมหายใจที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ รดเรือนกายแกร่ง

นางงามเช่นนี้ เขายิ่งหลงใหลจนอยากร่วมรักให้เร็วขึ้น เขาอยากกอด อยากทิ่มแทงนางด้วยท่อนเนื้อร้อนที่มีพิษร้ายกาจ

“พี่ถัง ทะ ท่าน...หยุดมือก่อน”

ชายหนุ่มดึงสติตนกลับ กระนั้นมือของเขาก็เจียนแตะลงบนกลีบสวาทที่อยู่ใต้ร่มผ้าของนาง ซึ่งเขาคะเนว่าพื้นที่ของนางคงอวบอูมและงดงามเหนือสตรีนางอื่น

“เจ้าไม่ต้องการพี่รึ” เขาถามเสียงทุ้มๆ จงใจออดอ้อนนาง

“ข้าเพียงแต่อยากให้มันถูกต้อง หากท่านพ่อรู้ข้าคงถูกตีตาย ไม่ก็คงถูกขายออกไปเป็นสาวใช้แน่แท้”

เอี๊ยะถังนึกขำที่นางกลัวเรื่องพรรค์นี้อย่างไม่เข้าท่า ก่อนที่ชายหนุ่มจะเอ่ยว่า “เยี่ยงนั้น เรามาไหว้ฟ้าดินด้วยกัน พี่เตรียมเหล้ามงคลไว้ด้วย ดื่มแล้วเราก็เป็นสามีภรรยากัน”

เขาบอกแล้วก็ตั้งท่าจะทำจริงอย่างที่กล่าว เอี๊ยะถังเตรียมสุรามาจริงๆ จึงเทใส่จอกส่งให้นาง

ม่านซือซือถือจอกเหล้าเอาไว้ และนางลังเล ไม่กล้าทำตามที่เขาบอก อีกทั้งสังหรณ์ใจในทางร้าย นางมองเหล้าในจอก มองแล้วก็ไม่พบความผิดปกติ ทว่ากลิ่นของมันคล้ายถูกผสมสมุนไพรที่ช่วยเรื่องอุ่นเตียงลงไป นางศึกษาเรื่องนี้มาบ้าง ถึงยังไม่ล่วงรู้ทั้งหมด แต่นางก็ต้องระวังตัว

“ดื่มเหล้าจอกนี้แล้ว เราก็เป็นสามีภรรยากัน และครองรักหวานชื่น ผมขาวไม่ทอดทิ้ง”

ถึงคำพูดที่เขาเกี้ยวนางฟังแล้วหัวใจก็พองโต ทว่ามันมีบางสิ่งไม่ถูกต้อง นางควรให้เกียรติตนและบิดา ที่สำคัญม่านซือซือไม่ใช่สตรีโง่เขลา หรือใจง่ายถึงขั้นร่านสวาทให้เอี๊ยะถังข่มเหงนางกลางสวนต้นแปะก๊วยถึงอย่างนั้นใจนางกลับเต้นโครมคราม ร่างกายผะผ่าวร้อน แน่ละ...นางอยากเป็นของเขา อยากกอด อยากลูบไล้กายแกร่ง ทว่าสิ่งที่แม่นมสั่งสอน หรือคำเหยียดหยามจากฮูหยินใหญ่ภรรยาของม่านเจิ้นก็ลอยเข้ามาในหัวพอดี

“โถๆ ให้ลูกอนุแสนเกียจคร้านอย่างมันเรียนหนังสือเพื่อการใด นับวันงานเย็บปักไม่สนใจ แต่คิดอยากเป็นหมอหญิงในสำนักการแพทย์ ลูกสาวเช่นนี้เกิดมาเพื่อให้คนดูถูก คงอยากจับมือถือแขนผู้ชายไปทั่ว นางก็เป็นส้วมหน้าบ้านดีๆ นี่เอง”

“ฮูหยินใหญ่ ข้าเพียงแต่ตรวจคนไข้ มันเป็นวิธีการเดียวที่จะรู้ถึงอาการป่วยของเขา” นางบอกกับม่านฮูหยิน

“ฮึ ต่อไป เจ้าคงขวัญกล้า ขอตรวจของลับผู้ชายด้วยกระมัง ถึงจะรู้ว่าเขามีน้ำยาทำให้สตรีตั้งครรภ์หรือไม่” ม่านฮูหยินต่อว่านางอย่างรุนแรงและไม่ไว้หน้า

“ฮูหยินใหญ่เข้าใจผิด ข้าเพียงแต่อยากรักษาผู้คน เพื่อให้คนหายป่วย ไม่ต้องทนทุกข์ทรมาน”

“ประเสริฐแท้ คุณหนูห้าแห่งสกุลม่านอยากเป็นโสเภณีจนตัวสั่น แต่แสร้งเล่นสวมชุดหมอหญิง น้ำหน้าอย่างเจ้าคงไม่ต่างจากมารดา”

ม่านฮูหยินเอ่ยแล้วก็หัวเราะใส่หน้าม่านซือซือ อีกฝ่ายเกลียดนางหญิงสาวพอเข้าใจ แต่การพยายามให้ร้ายมารดาม่านซือซือที่ล่วงลับมันเป็นการกระทำที่สร้างแผลในใจต่อหญิงสาวตลอดมา

“มารดาข้าทำสิ่งใดให้ท่านโกรธแค้นนัก ถึงได้พูดจาให้ร้ายนางไม่หยุด”

ม่านฮูหยินวางสีหน้าราวกับสตรีร้ายกาจ นางสมเพชลูกอนุคนนี้อยู่บ้าง แต่สวรรค์ก็เข้าข้างม่านฮูหยินมาตลอดเพื่อนางจะได้ดูแลสกุลนี้ให้คงอยู่ อีกทั้งเป็นนางที่บีบบังคับให้อนุของสามีฆ่าตัวตาย มิอย่างนั้นภัยคงมาถึงครอบครัวนี้ ทุกคนควรยกย่องนางที่ช่วยให้สกุลม่านพ้นภัย

“ฮึ สิ่งที่นางผู้หญิงชั้นต่ำผู้เป็นเชลยศึกทำนั้น ข้าไม่อาจกล่าวถึงด้วยถือเป็นเสนียดปาก แต่ก็ดีแล้วที่นางฆ่าตัวตายไปเสีย มิเช่นนั้นคงทำให้ท่านพี่ต้องมัวหมองไปด้วย”

สุดท้าย ม่านซือซือก็ไม่อาจรู้เรื่องราวของมารดานอก จากคำดูหมิ่นของม่านฮูหยิน แต่นางยังเชื่อมั่นอยู่ลึกๆ ว่า สตรีที่ให้กำเนิดนางย่อมเป็นคนที่วิเศษหาหญิงใดเทียบได้ในแผ่นดินไม่

“ซือซือเจ้ามัวแต่คิดสิ่งใด ดื่มสิ” เอี๊ยะถังคะยั้นคะยอนางและแย่งจอกเหล้าไป เขานำไปจ่อที่ริมฝีปากอิ่มสวยที่แต้มสีชาดแดงยั่วใจ

“ข้าจะยอมพี่ถังทุกอย่าง เพียงแต่เราควรเข้าหอกันอย่างถูกต้อง เช่นนี้นับว่าประเสริฐที่สุด”

นางตัดสินใจเอ่ยออกไป และอดเสียดายอยู่ลึกๆ ไม่ได้ ทั้งยังกลัว กลัวเอี๊ยะถังจะไม่ชอบใจที่นางปฏิเสธเขา

ดวงตาของเอี๊ยะถังมีประกายวาบขึ้น และมีเสียงหายใจแรงๆ พ่นออกมา จากนั้นเขาก็ดื่มเหล้าจอกนั้นรวดเดียวหมด ราวกับทำเพื่อประชดนาง

“พี่ถัง...”

“ข้าทำเพื่อเจ้าทุกอย่าง!” ชายหนุ่มกลายเป็นเด็กน้อยเอาแต่ใจ

“ข้าสำนึกผิดแล้ว เพียงแต่ข้าก็ยึดมั่นสิ่งที่ถูกต้องมิต่างจากพี่ถัง  ได้โปรดเข้าใจซือซือ”

เอี๊ยะถังรู้สึกว่าตนคงหักหาญน้ำใจนางเกินไปจึงนิ่งขรึมลงแต่ความต้องการของเขายังมากล้น อีกทั้งสุราจอกเมื่อครู่ที่ดื่มได้เพิ่มกำหนัดของเขาอย่างมหาศาล

“หากเจ้าประสงค์เช่นนั้น พี่ก็ไม่อาจฝืนใจ เพียงแต่พี่ขอให้เจ้าเมตตาสักหน่อยเถิด ขอพี่ชิมปากเจ้าและโอบกอดสักเล็กน้อย เพื่อส่งไออุ่นถึงกันได้หรือไม่”

ม่านซือซือมองเอี๊ยะถังด้วยสายตาฉ่ำปรือ ไฉนนางจะกล้าขัดใจเขาอีก เขาเคยจับมือนางมาแล้ว ได้หอมแก้มบ้าง ดังนั้นแค่ชิมริมฝีปากและกอดเพื่อให้คลายความหนาว เหตุใดนางจะให้ชายที่นางพึงใจกระทำไม่ได้

“แค่กินปากและกอด ข้ายินดี แต่หากมากกว่านี้ ข้าจะโกรธพี่จริงๆ ด้วย”

สิ้นคำนั้น มือใหญ่จึงจับปลายคางของนางเชิดขึ้น และทาบริมฝีปากร้อนลวกลงไป

จุมพิตของเอี๊ยะถังอ่อนหวาน หากไม่ได้เร่าร้อนอย่างที่หญิงสาวคาดคิด ซึ่งน่าประหลาดใจมิน้อย นางเคยฝันว่าถูกร่างกายอุ่นซ่านของบุรุษล่วงล้ำความบริสุทธิ์ ทั้งทางปาก กลีบบุปผา ปลายลิ้นร้อนๆ แทรกผ่านเข้ามาในโพรงปาก ตวัดรัดเย้าหยอกกัน นางถูกกินปากบ่อยครั้งในฝันพอตื่นเช้าความรู้สึกแสนหวานล้ำก็ไม่ได้จางหายไป อีกทั้งบางครานางรับรู้ได้ว่า แอ่งเนื้อนางถูกกระตุ้นอย่างหนักด้วยลิ้นและนิ้วมือใหญ่ๆ

ในภาพฝัน นางมีความต้องการไม่สิ้นสุด อยากโอบกอด อยากสนองทุกสิ่งเพื่อชายคนนั้น ทว่าห้วงเวลานี้ ทั้งที่ถูกเอี๊ยะถังคนที่นางพึงใจจูบ แต่นางกลับรู้สึกว่างเปล่า

ม่านซือซือได้แต่นิ่งค้าง กระทั่งเขาพยายามเปิดปากนางด้วยการแทรกลิ้นใหญ่ๆ เข้าไป หญิงสาวจึงต่อต้าน

“พะ พี่ถัง...ยะ อย่า” นางส่งเสียงร้องบอกเขา และไม่ยินยอมที่ถูกล่วงเกิน

“พี่ถัง อ่าส์!”

ม่านซือซือไม่ได้ซาบซ่านต่อรสสวาทของเอี๊ยะถัง นางกลัวและตื่นตระหนกมากกว่า

กระนั้นมือใหญ่อีกข้างของเอี๊ยะถังก็รุกนางไม่หยุด เขาลูบคลำเอวคอดก่อนเลื่อนสูงขึ้น และหมายจะนวดเฟ้นและเคล้นคลึงหน้าอกอวบสวยซึ่งเขาถวิลหามานาน

หัวใจหญิงสาวเต้นระทึก นางอยากยุติโมงยามนี้ แต่ก็กลัวเอี๊ยะถังจะขัดเคืองใจ จึงฝืนอดกลั้นความรู้สึกกระอักกระอ่วนเอาไว้ ปล่อยให้เขากระทำในสิ่งที่ปรารถนา

กระทั่งเขาถอนจูบและส่งสายตาสานสบกับดวงตานาง ความโล่งใจจึงทำให้นางยิ้มออก

“พี่ถัง ข้าอยากกลับเรือน” นางบอกเขาตรงๆ

เอี๊ยะถังนิ่งเงียบ สีหน้าเขาเหมือนดำคล้ำขึ้นถึงสามส่วน และเอ่ยเสียงเข้มราวกับต้องการสั่งนาง

“ยอดรักของพี่ เจ้าช่วยคลายกำหนัดให้พี่ได้หรือไม่”

ม่านซือซือไม่อาจเข้าใจสิ่งที่เอี๊ยะถังกล่าวทั้งหมด แต่นางยังมีความคิดโง่เขลาอยากเอาใจเขา บุรุษผู้นี้ช่วยเหลือนางมาตลอดระยะเวลาที่รู้จักกัน และเขามุ่งหวังอยากให้นางไปเป็นฮูหยินที่เรือน เลี้ยงดูบุตรชายหญิงของเขาด้วย หญิงสาวบีบมือตนเอง ถึงนางใจกล้าบ้าบิ่นอยู่มาก แต่เรื่องเร้นลับระหว่างชายหญิงกลับทำให้นางเหงื่อตก

“ข้าเกรงว่ายังไม่ถึงเวลาเหมาะสม” นางบอกทั้งเขาและตนเอง

“แต่พี่ปวดเหลือเกิน ทรมานมานานแล้ว เจ้าไม่รักพี่เลยหรือไร ช่วยพี่สักคราแล้วพี่จะไม่กวนใจเจ้าอีกกระทั่งเราเข้าหอด้วยกัน”

ม่านซือซืออ่านตำรามาบ้าง นางรู้ว่าชายหญิงไม่จำเป็น ต้องร่วมรักกันอย่างเนื้อแนบเนื้อเสมอไป หากการทำให้ฝ่ายชายหลั่งข้างนอกก็เป็นอภิรมย์ที่กระทำได้ไม่ยาก

“พี่ถังอยากให้ซือซือช่วยเยี่ยงไร” นางถามเสียงตื่นเต้นอยู่สักหน่อย ชายหนุ่มจึงยิ้มตอบด้วยดวงตาพราวระยับ

จากนั้นเอี๊ยะถังก็หัวเราะอย่างครึ้มอกครึ้มใจ เขากล่าวอย่างขัดเขินสักหน่อยว่า “ด้วยริมฝีปากเจ้าและสองมือนุ่มนิ่มนี้ พี่คงหลั่งน้ำวิสุทธิ์จนแทบหมดตัว”

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ทาสราคะองค์ชายใบ้   99 ราชันย์ใบ้ (จบบริบูรณ์)

    อิ่นสิงอี้อยากร้องประท้วงคนตัวโต ทั้งซักถามสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นมากมาย แต่เขายังเล่นบทคนใบ้เฉกเช่นเดิม “ท่านคืออาหลุน... องค์ชายรอง... เป็นเหรินอ๋องอีกด้วย” ถานป๋อหยางไม่สนใจเสียงนางสักนิด เขาเหนื่อยกับการไล่ล่าคนของรัชทายาท และกำจัดพวกคิดก่อกบฏไปมิน้อย พอได้พบหน้าอิ่นสิงอี้ สิ่งเดียวที่อยากทำคือกอดนาง และขบเม้มร่างบอบบางนี้ให้หายคิดถึง “อย่าทำเป็นไขสือ แม้พูดไม่ได้ แต่ท่านสื่อสารได้ และเข้าใจสิ่งที่ข้าบอกใช่หรือไม่” ชายหนุ่มจูบหลังตนคอนางไปแรงๆ ก่อนทำมือทำไม้ส่งข้อความที่นางเข้าใจเพียงแค่ครึ่งเดียว “ล้วนเป็นข้าทั้งหมด แล้วอาอี้เล่า... ยังเป็นคนเดิมที่ชอบกลืนน้ำหวานของคนใบ้หรือไม่”นางไม่เข้าใจทั้งหมดที่เขาพยายามสื่อสารหรอก แต่คาดเดาได้ว่า เป็นเรื่องสัปดนของคนไร้ยางอายแน่นอน “ทะ ท่าน... หลอกลวงข้ามาโดยตลอด กี่ครั้งแล้วที่ทำให้สตรีผู้หนึ่งเสี่ยงอันตราย เพื่อให้ท่าน จับผู้ร้ายได้” ชายหนุ่มเลิกคิ้วสูง เขาหรือจะไร้มนุษย์ธรรม และทำสร้างเรื่องที่น่ารังเกียจเช่นนั้น “อาอี้ ล้วนเข้าใจผิด ข้าไม่เคยทำสิ่งอย่างที่เจ้ากล่าวหา

  • ทาสราคะองค์ชายใบ้   98 ราชันย์ใบ้

    กระทั่งจู่ๆ ขบวนรถม้าของอิ่นสิงอี้ ที่มุ่งตรงไปยังเรือนของเจ้าบ่าวก็หยุดชะงัก “คุณหนูรอง... มาหลบข้างหลังข้า” แม่สื่อผู้นั้น เป็นห่วงอิ่นสิงอี้ และอย่างที่กล่าว นางต้องส่งอีกฝ่ายให้ถึงมือเจ้าบ่าว นี่คือคำสั่งที่ต้องทำให้สำเร็จ เสียงโห่ร้อง เสียงการใช้อาวุธดังอยู่หลายอึดใจ ก่อนที่ประตูรถม้าจะถูกเปิดเข้ามา แต่แม่สื่อใช้เท้าถีบคนที่มุ่งร้ายหมายชิงตัวอิ่นสิ่งอี้ ฝ่ายแม่สื่อนางเป็นวรยุทธ์อยู่บ้าง และคนว่าจ้างบอกให้นางอารักขาชีวิตของอิ่นสิงอี้ ห้ามให้ผู้ใดเข้าใกล้เป็นอันขาด “อย่ากังวล นอกจากพวกรับจ้างดูแลรถม้า ยังมีกำลังเสริมที่ติดตามเราอยู่ไม่ไกล ตอนนี้สัญญาณถูกส่งออกไปแล้ว อย่างไรพวกเขาย่อมมาช่วยทัน” แม่สื่อกล่าวอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใด พลอยให้อิ่นสิงอี้สบายใจได้เปลาะหนึ่ง สุดท้ายอิ่นสิงอี้ต้องอึ้งมาก นางเห็นบุรุษที่ขี่ม้าตัวโต เขาโดดเด่นสง่างามกว่าใคร และทั้งที่ผู้อื่นสวมชุดเกราะ แต่เขากลับสวมเสื้อผ้าสีแดง ไม่ต้องอธิบายก็รู้ว่าเป็นชุดของเจ้าบ่าว “ทุกคน จะให้เสียฤกษ์ไม่ได้ งานนี้อย่างไรต้องส่งเจ้าสาวเข้าหอกับเหรินอ๋อง”

  • ทาสราคะองค์ชายใบ้   97 ราชันย์ใบ้

    อิ่นสิงอี้เดินเข้าไปในเรือนของตน ยามนั้นซูซินดีใจมาก และร้องไห้ไม่หยุด ส่วนตงหย่วนไม่ได้ถูกทำร้าย เนื่องจากนางยอมเปิดปากเล่าเรื่องอาหลุนที่ทำหมั่นโถว ไม่ใช่ฝีมือนางหรืออิ่นสิงอี้ ทว่ายามนี้มีเรื่องให้ต้องปวดหัวหนัก ด้วยก่อนหน้านั้น ลู่เหวยให้แม่สื่อมาช่วยจัดแจงสิ่งต่างๆ และบอกว่า อีกสามวันจะส่งตัวอิ่นสิงอี้ไปเป็นฮูหยินของคุณชายที่ร่ำรวยคนหนึ่ง หญิงสาวไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้อีก หลายวันที่ผ่านมานางได้มอบร่างกายและใจให้กับอาหลุนแล้ว ซึ่งตอนที่มาถึงจวนอิ่น นางได้รับคำมั่นสัญญาจากเขาว่า จะมาให้คนมารับตัว ไปอยู่ในที่ปลอดภัย ก่อนออกไปงานเลี้ยงลู่เหวย และอิ่นหลิวหลิงวางแผนชั่วร้าย เนื่องจากสืบรู้ว่าอิ่นสิงอี้ ต้องการหลบหนีออกจากจวนอิ่น และเพื่อตัดไฟเสียตั้งแต่ต้นลมจึงขังอิ่นสิงอี้ไว้ที่เรือนสำนึกตน ซ้ำร้ายซูซินถูกขายออกไป ส่วนตงหย่วน นางล้มป่วยลงไม่ทราบสาเหตุ เมื่อคนของตนไม่ได้อยู่รับใช้ ทั้งมีชะตากรรมน่าสงสาร อิ่นสิงอี้ก็ทุกข์ใจ นางไม่กินข้าวหลับแทบไม่ลง จนเช้าวันใหม่ นางถูกปลุกด้วยการสาดน้ำเย็นๆ ใส่ร่าง ก่อนจับแต่งตัว ฝ่ายอิ่นหลิวหลิงเข้ามาเผช

  • ทาสราคะองค์ชายใบ้   96 ราชันย์ใบ้

    อิ่นสิงอี้ได้พบคนของตนในอีกเกือบสิบวันต่อมา ระยะเวลาดังกล่าวทำให้นางเปลี่ยนความคิดไปอีกด้านหนึ่ง หญิงสาวเข้าใจโลกนี้มากกว่าเดิม นางตายแล้วฟื้นกลับมา เรื่องนี้คือสิ่งที่ตระหนักถึงเสมอ และอิ่นสิงอี้คนเดิม ที่แสนดี โง่เขลา ได้สาบสูญไปแล้ว ยามนี้ ร่างกายขับพิษออกหมด สุขภาพดีขึ้นเป็นลำดับ โดยภายหลัง นางมาอยู่ที่กระท่อมนายพรานซึ่งอาหลุนพามาอาศัย อีกทั้งมีคนรับใช้คอยช่วยเหลืองานทั่วไป ส่วนอาหลุนได้บอกว่า มีเรื่องสำคัญต้องไปจัดการ และเขาให้สัญญากับนางไว้ “จงอยู่ที่นี่สักพัก อย่ากังวลเรื่องใด อาอี้ย่อมปลอดภัยแน่นอน” นางพยักหน้าเข้าใจ ก่อนเอ่ยถามเขา “มีสิ่งหนึ่งที่อยากกระจ่างใจ อาหลุนของข้าเป็นผู้ใดกันแน่” และนี่คือสิ่งที่นางสมควรรู้ สตรีที่มอบกายและใจให้เขา และนางไม่อาจหันเหไปทางใดอีก ในสายตาอิ่นสิงอี้ ยามนี้มีแต่อาหลุน แม้เขาจะแสดงตนว่าไร้แซ่ เป็นเพียงคนใบ้ ทว่านางกลับไม่คิดรังเกียรติ แต่ปรารถนาให้เขาอย่าหลอกลวงกัน นางไม่อยากเป็นแค่สตรีซึ่งทำหน้าที่อุ่นเตียงให้ชายใด “อาอี้ เมื่อวันนั้นมาถึงสามีจะบอกเจ้าเอง ตอนนี้ขอเจ้า มี

  • ทาสราคะองค์ชายใบ้   95 ราชันย์ใบ้

    หลี่ซือซิงแทบจะเต้นรอบโรงเตี๊ยมเล็กๆ แห่งนั้น นางแค่อยากอยู่อย่างสงบ ทว่าเหตุใดทหารพร้อมองครักษ์เกราะเหล็กถึงได้โผล่มาที่นี่ “เปิดประตูเถิดอย่าได้ขัดขวางการทำงาน จงรู้ไว้ แค่ข้าหายใจแรงสักหน่อย ที่นี่ก็พังราบเป็นหน้ากองแล้ว” เสียงที่ดังก้องอยู่ด้านนอกจะเป็นใครได้ เขาคือโหวเจียกวงนั่นเอง คนผู้นี้หลี่ซือซิงชังน้ำหน้ายิ่งกว่ากิ้งกือไส้เดือน พบเขาหลายหน และดวงตาของอีกฝ่าย แจ้งชัดว่าอยากได้นางไปเป็นฮูหยินของตน ทว่าเขาเป็นเพียงแค่แม่ทัพจับดาบออกรบเก่งกาจ ได้เลื่อนขั้นเร็ว เพราะเป็นพวกกระหายสงคราม และเถรตรงไม่เอาพวกพ้อง ฆ่าได้ฆ่า และไฉนเขาจะอยากกินเนื้อหงส์ คนอย่างเขา เป็นได้แค่ทหารเฝ้าหน้าประตูจวนหลี่ก็เท่านั้น “ข้ามาพักผ่อน และอยากอยู่อย่างสงบ เหตุใด พวกปัญญาหาทึบ มือเปื้อนเลือดถึงต้องมารบกวน” “ฮึๆ ๆ หากท่านหญิงยังพยายามถ่วงเวลาอยู่เช่นนี้ และตัวข้า ตามน้องสาวของสหายไม่พบ เกรงว่าจะกลายเป็นเรื่องใหญ่แน่!” “บัดซบ แม่ทัพโหว... ถือว่ามีกำลังทหารในมือ ท่านจะใช้วาจาพล่อยๆ กับข้าได้หรือ ข้าถ่วงเวลาอันใด ในเมื่อที่นี่ข้ากำลังใช้เวลาพักผ่อนอย่างเป็นส่

  • ทาสราคะองค์ชายใบ้   94 ราชันย์ใบ้

    ดวงตาก็พร่าเบลอ รับรู้เพียงแต่บุรุษตรงหน้ามีกลิ่นกายหอมจางๆ ช่วยให้นางผ่อนคลาย ยามนั้นนางจึงผุดลุกขึ้นยืน แล้วเป็นฝ่ายโน้มศีรษะเขาลงมาช้าๆ แรกเริ่มอาหลุนขัดขืน ทำท่าเหมือนหวงเนื้อตัว แต่นางหรือจะยอมให้เขาทำเช่นนั้น อิ่นสิงอี้ ส่งเสียงคำรามพร้อมกับสายตาดุกร้าวให้เขา “คนใบ้ย่อมพูดไม่ได้ เช่นนั้น ท่านคงเก็บความลับระหว่างเราได้ดีที่สุด” นางเอ่ยจบ จึงประกบริมฝีปากบดเบียดกับอีกฝ่าย คราแรกมันจืดชืด กระทั่งเขาเผยอริมฝีปากขึ้นเล็กน้อย นางก็อาศัยโอกาสดังกล่าว แทรกลิ้นเข้าไปกวาดโพรงปากด้านในเขา ทั้งคู่แลกลิ้นกัน ส่งความหวานเย้าหยอกต่ออีกฝ่าย หัวใจนางสั่นไหวระรัวแรง ปรารถนาเรือนกายของอาหลุนยิ่งนัก อยากตกเป็นของเขา อยากครอบครอง ต้องการรุกอีกฝ่ายให้หนัก และทั้งหมดคือแรงพิศวาสที่เกิดจากพิษร้ายที่สะสมในร่างกายบอบบาง แต่ใจนางก็ปรารถนาเช่นนั้นไม่ต่างกัน กระทั่งนางปล่อยริมฝีปากเขาให้เป็นอิสระ ก็เห็นว่า เขากำลังสื่อสาร โดยไม่มีท่าทียั่วล้อ หากจริงจัง “คุณหนูรองแซ่อิ่น ช่างขวัญกล้าเทียมฟ้า...แต่ก่อนที่จะมีสิ่งที่ข้ามขั้นไปมากกว่านี้ คนต่ำต้อย

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status