Share

3 ได้โปรดยั้งมือ

last update Last Updated: 2024-12-02 17:12:31

หลิวฟ่านหรี่ตามองม่านซือซือ ท่าทางนางเหมือนกำลังประเมินว่า อีกฝ่ายถูกจับขึ้นรถม้าคันนี้ได้อย่างไร

“ตัวเจ้าเล่า เหตุใดถึงถูกจับตัวมา” หลิวฟ่านถาม

“ขะ ข้า...มาเอาจดหมายให้ท่านพ่อที่หอดอกเหมย” ม่านซือซือเอ่ยจบ ก็เหมือนพึ่งพบความผิดปกติบางอย่าง ก่อนมองจดหมายในมือตน

“ซือซือ เจ้าคงถูกบิดาหลอกอย่างมิต้องสงสัย ในมือเจ้าคงไม่ใช่จดหมายอันใด แต่เป็นสัญญาขายตัวเสียมากกว่า โถ... เด็กโง่เอ๋ย”

“เอ จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร ท่านพ่อจะขายข้าให้ใคร!?”

หลิวฟ่านไม่ได้ตอบ และนางปิดปากเงียบคล้ายถูกดึงเข้าสู่เรื่องดำมืด เป็นตอนนั้นที่ม่านซือซือคิดไม่ตก นางทบทวนหลายสิ่งตามลำพัง ก่อนค่อยๆ เปิดซองจดหมายและอ่านข้อความที่อยู่ข้างใน

สิ่งที่นางรับรู้ด้วยสองตาของตนมันคือความจริงเยี่ยงนั้นรึ สวรรค์ไยเล่นตลกกับนางถึงเพียงนี้

ม่านเจิ้นขายนางให้กับคนอื่น เรื่องบัดซบเช่นนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร

“ทะ ท่านพ่อ ขายข้าให้กับคฤหาสน์สัตตบงกช!”

ม่านซือซือเอ่ยจบ นางก็เป็นลมหมดสติ

ม่านซือซือสลบไปนานเท่าไหร่นางไม่แน่ใจนัก แต่ที่สะดุ้งตื่นเพราะถูกทาสหญิงตัวอ้วนกำลังป้อนยาเม็ดกลมๆ สีดำเหมือนถ่านเข้าปากนาง ทั้งที่พยายามขัดขืน แต่นางกลับสู้แรงอีกฝ่ายไม่ไหว

“กลืนลงไป ไม่อย่างนั้น เจ้าได้ตายคามือข้าแน่”

เสียงนางทาสตวาดใส่และทำตาเหลือกถลน ม่านซือซือจึงพยักหน้ายอมให้นางทาสส่งยาเหม็นๆ เข้าปาก แต่นางเรียนรู้เรื่องสมุนไพรและยามามิน้อย ไฉนจะยอมกลืนมันลงท้องเล่า ม่านซือซือเลยดันยาไปที่กระพุ้งแก้ม พร้อมทำท่ากลืนยาอย่างสมจริง

“อยู่กันให้เงียบๆ อีกไม่ถึงหนึ่งร้อยลี้ก็ถึงจุดหมาย”

หลิวฟ่านที่ยามนี้มีสีหน้าไม่สู้ดี มองนางทาสและเอ่ยถาม

“นายของเจ้าต้องการอะไรกันแน่ ถึงได้ให้พวกข้ากินยาบ้าบออะไรเช่นนี้”

“ข้าไม่รู้ แม่นางทั้งหลายเพียงแค่ทำตัวให้ดี และอย่าตายก่อนถึงคฤหาสน์สัตตบงกชก็พอ อีกอย่าง อย่าถามสิ่งใดให้มากความ นอนพักเก็บแรงเอาไว้เสียเถิด เพราะหลังจากลงรถม้า คุณหนูทั้งหลายคงต้องเสียเหงื่อและส่งเสียงร้องเสียงครางระงมทั้งวันทั้งคืนอย่างแน่นอน”

คำข่มขู่ของนางทาสมาพร้อมสีหน้านางที่ดูโหดเหี้ยม และชวนให้ใจฝ่อเหลือเกิน

ม่านซือซือขยับไปอยู่อีกมุมของรถม้า นางไม่พูดกับใคร และพยายามหาทางคายยาเม็ดลูกกลอน ในยามนั้นทั้งปากรู้สึกขมจัด มีกลิ่นเหม็นเอียนๆ ลอยอบอวล นางจึงตัดสินใจที่จะอาเจียนเพื่อให้ตนไม่ถูกมอมยา

“ขะ ข้าไม่ไหวแล้ว ได้โปรดหยุดรถ!” เสียงของนางเหมือนไม่ได้ลอดออกไปข้างนอก แต่นางไม่ยอมแพ้ นางใช้สองมือเอื้อมไปเปิดผ้าม่านด้านหน้า ตั้งใจบอกคนควบคุมรถม้าที่สวมหน้ากากขาว

“หยุดรถได้หรือไม่พี่ชาย”

เป็นตอนนั้นที่นางต้องเอะใจ ยามนี้คนบังคับรถม้ากลับเป็นผู้ชายร่างผอม และมีอีกคนที่สูงชะลูดหน้าแป้น ทั้งคู่ไม่ได้สวมหน้ากาก และหาใช่ชายผิวขาวดุจหิมะคนเดิมที่นางเห็นครั้งแรก

“อย่าก่อเรื่อง ไม่อย่างนั้นข้าจะจับเจ้าโยนลงไปข้างล่าง”

เมื่อถูกตวาดใส่ ม่านซือซือจึงกลั้นใจแล้วโก่งคออาเจียนออกมา  กองใหญ่ นางถูกสตรีคนอื่นในรถม้าตำหนิอยู่บ้าง แต่ไม่นานทุกคนก็เงียบดังเดิม ด้วยพวกนางต่างคิดไม่ตกว่า ต่อจากนี้ชีวิตต้องพบเรื่องเลวร้ายใดบ้าง

ม่านซือซือกอดตัวเองแน่น พลางคิดถึงเรื่องเมื่อสองคืนก่อน ซึ่งมันอาจเป็นสาเหตุที่ม่านเจิ้นขายนางให้แก่คฤหาสน์สัตตบงกช

ในคืนเทศกาลโคมไฟของเมืองเล็กๆ นี้ ม่านซือซือลอบไปพบเอี๊ยะถัง เขาคือบุรุษที่เป็นถึงมือปราบของเมืองกุ้ยโจว อีกฝ่ายมีใจต่อนางและออกปากกับผู้ใหญ่ในสำนักมือปราบให้มาสู่ขอนางกับม่านเจิ้น ซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วยกองอักษรที่ทำงานอยู่ในศาลต้าเหลียง ทว่าม่านเจิ้นไม่ชอบขี้หน้าอีกฝ่าย ด้วยเอี๊ยะถังเป็นคนแข็งกระด้าง พูดจาไม่ไว้หน้าใคร อีกทั้งมักดื่มเหล้าและท้าตีท้าต่อยผู้คนไปทั่ว ในอดีตเขามีภรรยามาสองคนตอนนี้ยังเป็นพ่อม่ายลูกติด กระนั้นม่านซือซือก็ยังหลงคารมอีกฝ่าย นางก็มิต่างกับหญิงสาวแรกรุ่นทั่วไป เมื่อถูกชายเจ้าคารมเกี้ยวเข้าหน่อยใจเลยอ่อนยวบปานขี้ผึ้งถูกไฟลน อีกทั้งเขามักเล่าเรื่องเมืองหลวงให้นางฟังรวมถึงหาหนังสือกับตำราสมุนไพรต่างๆ มาให้นางศึกษามิขาด ม่านซือซือเลยชอบเอี๊ยะถังกว่าใคร

“พี่ถังเป็นคนขยันขันแข็ง ไม่ช้าเขาคงได้เป็นหัวหน้ามือปราบแน่นอนท่านพ่อ”

ม่านเจิ้นส่ายหน้าระอาความคิดตื้นเขินของบุตรสาว การส่งเสริมให้นางอ่านออกเขียนได้เป็นดาบสองคมโดยแท้ แทนที่นางจะเชื่อฟังเขา กลับหาเรื่องมาต่อล้อต่อเถียงและคิดว่าตนเฉลียวฉลาด หากในความจริงลูกสาวคนที่ห้าของเขากลับไม่ประสีประสาต่อโลกนี้

“เหลวไหล คนอย่างมันประจบใครยังไม่เป็น และยังชอบเดินขัดขาขุนนางในเมืองไปทั่ว”

ม่านเจิ้นเอ่ยเช่นนั้นนับว่าถูกต้อง เอี๊ยะถังเป็นชายซื่อ สัตย์ยึดมั่นในคุณธรรม เขาไม่อาจทนเห็นคนเดือดร้อนด้วยการถูกขุนนางกังฉินข่มเหง

“ด้วยเหตุนี้ ข้าจึงคิดว่าเขาไม่เหมือนชายใด”

“ซือซือ จำคำพ่อให้ดี ผู้ชายอย่างเขาหากเจ้าอยู่ใกล้มีแต่จะพบความผิดหวัง พ่อเลี้ยงเจ้ามาไม่เคยให้ลำบาก ไฉนถึงได้คิดน้อย อยากเอาชีวิตไปฝากกับบุรุษอย่างเอี๊ยะถัง”

ม่านซือซือไม่ได้เอ่ยค้านบิดา นางเพียงพยักหน้ารับ แต่ในใจคิดแผนที่จะลักลอบออกไปพบเอี๊ยะถัง

แม้รู้ว่าไม่ถูกต้อง ทว่านางกระทำเรื่องเช่นนี้มาหลายหน และคืนนี้เป็นเทศกาลโคมไฟ เป็นช่วงเวลางดงามเต็มไปด้วยความสว่างไสว  

ม่านซือซือไม่เคยหลงรักชายใดมาก่อน ทว่าหลังจากได้พบกับเอี๊ยะถัง หัวใจสาวจึงไหวโอนต่อคำพูดและน้ำเสียงเขา เรือนกายสูงใหญ่ที่มอบพลังหยางสู่ร่างกายนางเต็มไปด้วยความตื่นเต้นชวนให้หลงใหล

เอี๊ยะถังเป็นชายรูปงาม ผิวเข้ม กล้ามเนื้อแน่น ตลอดระยะเวลา ที่ผ่านมาเขาไม่เคยล่วงเกินนาง ทว่าคืนนี้ดูเหมือนนางจะประมาทเกินไป แต่ม่านซือซือก็อยากริลองเรื่องแปลกใหม่ระหว่างชายหญิง สิ่งเหล่านี้นางได้เห็นจากสมุดภาพ และเรื่องเล่าจากสาวๆ ที่นางนำแป้งทาผิวพอกหน้าไปให้ สตรีบางคนมักพูดถึงเรื่องบนเตียง รวมถึงอวดลึงค์ไม้กับกัวซาหัวเห็ดให้นางดูอยู่บ่อยๆ จึงทำให้ม่านซือซือรู้ว่าความสุขสมระหว่างชายและหญิงมหัศจรรย์เพียงใด

“พี่ชิมปากของเจ้าได้หรือไม่” เอี๊ยะถังกระซิบข้างหูนาง ปลายจมูกโด่งคลอเคลียต้นคอระหงกับใบหูสวยไม่ห่าง

“โอ้ พี่ถัง มันไม่ถูกต้อง ข้าเป็นสตรี อีกอย่าง ใกล้ชิดกันมากถึงเพียงนี้ย่อมเป็นข้าที่เสียหาย” นางบอกเขา หากในใจลิงโลดเหลือเกินจะให้ทำเยี่ยงใดได้ เขารูปงามอีกทั้งป้อนคำหวานแก่นางไม่หยุดหย่อน

“แต่อีกไม่กี่วัน แม่สื่อที่ใต้เท้าแห่งสำนักมือปราบจัดหาไว้จะถูกส่งตัวไป และเจ้าย่อมได้เป็นฮูหยินของพี่เป็นแน่แท้” เขาให้คำสัญญา

“ถึงอย่างนั้น พี่ถังควรให้ทุกอย่างเรียบร้อยก่อนไม่ดีกว่าหรือ”

เอี๊ยะถังเงียบ เขามองสตรีรูปร่างอรชรซึ่งมีเสน่ห์เย้ายวน นางงามมากล้นด้วยแรงสิเน่หาที่ส่งมาให้เขาหลงใหล ซึ่งตั้งแต่แรกพบเขาก็ไม่อาจหันเหหัวใจไปทางอื่น พ่อม่ายลูกติดอย่างเขาไม่ได้ฝันเกินเอื้อม นางเป็นลูกของอนุที่ตายไปแล้ว การได้ตบแต่งกับชายที่มีหน้าที่การงานดีนับว่า เป็นเกียรติ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทาสราคะองค์ชายใบ้   99 ราชันย์ใบ้ (จบบริบูรณ์)

    อิ่นสิงอี้อยากร้องประท้วงคนตัวโต ทั้งซักถามสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นมากมาย แต่เขายังเล่นบทคนใบ้เฉกเช่นเดิม “ท่านคืออาหลุน... องค์ชายรอง... เป็นเหรินอ๋องอีกด้วย” ถานป๋อหยางไม่สนใจเสียงนางสักนิด เขาเหนื่อยกับการไล่ล่าคนของรัชทายาท และกำจัดพวกคิดก่อกบฏไปมิน้อย พอได้พบหน้าอิ่นสิงอี้ สิ่งเดียวที่อยากทำคือกอดนาง และขบเม้มร่างบอบบางนี้ให้หายคิดถึง “อย่าทำเป็นไขสือ แม้พูดไม่ได้ แต่ท่านสื่อสารได้ และเข้าใจสิ่งที่ข้าบอกใช่หรือไม่” ชายหนุ่มจูบหลังตนคอนางไปแรงๆ ก่อนทำมือทำไม้ส่งข้อความที่นางเข้าใจเพียงแค่ครึ่งเดียว “ล้วนเป็นข้าทั้งหมด แล้วอาอี้เล่า... ยังเป็นคนเดิมที่ชอบกลืนน้ำหวานของคนใบ้หรือไม่”นางไม่เข้าใจทั้งหมดที่เขาพยายามสื่อสารหรอก แต่คาดเดาได้ว่า เป็นเรื่องสัปดนของคนไร้ยางอายแน่นอน “ทะ ท่าน... หลอกลวงข้ามาโดยตลอด กี่ครั้งแล้วที่ทำให้สตรีผู้หนึ่งเสี่ยงอันตราย เพื่อให้ท่าน จับผู้ร้ายได้” ชายหนุ่มเลิกคิ้วสูง เขาหรือจะไร้มนุษย์ธรรม และทำสร้างเรื่องที่น่ารังเกียจเช่นนั้น “อาอี้ ล้วนเข้าใจผิด ข้าไม่เคยทำสิ่งอย่างที่เจ้ากล่าวหา

  • ทาสราคะองค์ชายใบ้   98 ราชันย์ใบ้

    กระทั่งจู่ๆ ขบวนรถม้าของอิ่นสิงอี้ ที่มุ่งตรงไปยังเรือนของเจ้าบ่าวก็หยุดชะงัก “คุณหนูรอง... มาหลบข้างหลังข้า” แม่สื่อผู้นั้น เป็นห่วงอิ่นสิงอี้ และอย่างที่กล่าว นางต้องส่งอีกฝ่ายให้ถึงมือเจ้าบ่าว นี่คือคำสั่งที่ต้องทำให้สำเร็จ เสียงโห่ร้อง เสียงการใช้อาวุธดังอยู่หลายอึดใจ ก่อนที่ประตูรถม้าจะถูกเปิดเข้ามา แต่แม่สื่อใช้เท้าถีบคนที่มุ่งร้ายหมายชิงตัวอิ่นสิ่งอี้ ฝ่ายแม่สื่อนางเป็นวรยุทธ์อยู่บ้าง และคนว่าจ้างบอกให้นางอารักขาชีวิตของอิ่นสิงอี้ ห้ามให้ผู้ใดเข้าใกล้เป็นอันขาด “อย่ากังวล นอกจากพวกรับจ้างดูแลรถม้า ยังมีกำลังเสริมที่ติดตามเราอยู่ไม่ไกล ตอนนี้สัญญาณถูกส่งออกไปแล้ว อย่างไรพวกเขาย่อมมาช่วยทัน” แม่สื่อกล่าวอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใด พลอยให้อิ่นสิงอี้สบายใจได้เปลาะหนึ่ง สุดท้ายอิ่นสิงอี้ต้องอึ้งมาก นางเห็นบุรุษที่ขี่ม้าตัวโต เขาโดดเด่นสง่างามกว่าใคร และทั้งที่ผู้อื่นสวมชุดเกราะ แต่เขากลับสวมเสื้อผ้าสีแดง ไม่ต้องอธิบายก็รู้ว่าเป็นชุดของเจ้าบ่าว “ทุกคน จะให้เสียฤกษ์ไม่ได้ งานนี้อย่างไรต้องส่งเจ้าสาวเข้าหอกับเหรินอ๋อง”

  • ทาสราคะองค์ชายใบ้   97 ราชันย์ใบ้

    อิ่นสิงอี้เดินเข้าไปในเรือนของตน ยามนั้นซูซินดีใจมาก และร้องไห้ไม่หยุด ส่วนตงหย่วนไม่ได้ถูกทำร้าย เนื่องจากนางยอมเปิดปากเล่าเรื่องอาหลุนที่ทำหมั่นโถว ไม่ใช่ฝีมือนางหรืออิ่นสิงอี้ ทว่ายามนี้มีเรื่องให้ต้องปวดหัวหนัก ด้วยก่อนหน้านั้น ลู่เหวยให้แม่สื่อมาช่วยจัดแจงสิ่งต่างๆ และบอกว่า อีกสามวันจะส่งตัวอิ่นสิงอี้ไปเป็นฮูหยินของคุณชายที่ร่ำรวยคนหนึ่ง หญิงสาวไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้อีก หลายวันที่ผ่านมานางได้มอบร่างกายและใจให้กับอาหลุนแล้ว ซึ่งตอนที่มาถึงจวนอิ่น นางได้รับคำมั่นสัญญาจากเขาว่า จะมาให้คนมารับตัว ไปอยู่ในที่ปลอดภัย ก่อนออกไปงานเลี้ยงลู่เหวย และอิ่นหลิวหลิงวางแผนชั่วร้าย เนื่องจากสืบรู้ว่าอิ่นสิงอี้ ต้องการหลบหนีออกจากจวนอิ่น และเพื่อตัดไฟเสียตั้งแต่ต้นลมจึงขังอิ่นสิงอี้ไว้ที่เรือนสำนึกตน ซ้ำร้ายซูซินถูกขายออกไป ส่วนตงหย่วน นางล้มป่วยลงไม่ทราบสาเหตุ เมื่อคนของตนไม่ได้อยู่รับใช้ ทั้งมีชะตากรรมน่าสงสาร อิ่นสิงอี้ก็ทุกข์ใจ นางไม่กินข้าวหลับแทบไม่ลง จนเช้าวันใหม่ นางถูกปลุกด้วยการสาดน้ำเย็นๆ ใส่ร่าง ก่อนจับแต่งตัว ฝ่ายอิ่นหลิวหลิงเข้ามาเผช

  • ทาสราคะองค์ชายใบ้   96 ราชันย์ใบ้

    อิ่นสิงอี้ได้พบคนของตนในอีกเกือบสิบวันต่อมา ระยะเวลาดังกล่าวทำให้นางเปลี่ยนความคิดไปอีกด้านหนึ่ง หญิงสาวเข้าใจโลกนี้มากกว่าเดิม นางตายแล้วฟื้นกลับมา เรื่องนี้คือสิ่งที่ตระหนักถึงเสมอ และอิ่นสิงอี้คนเดิม ที่แสนดี โง่เขลา ได้สาบสูญไปแล้ว ยามนี้ ร่างกายขับพิษออกหมด สุขภาพดีขึ้นเป็นลำดับ โดยภายหลัง นางมาอยู่ที่กระท่อมนายพรานซึ่งอาหลุนพามาอาศัย อีกทั้งมีคนรับใช้คอยช่วยเหลืองานทั่วไป ส่วนอาหลุนได้บอกว่า มีเรื่องสำคัญต้องไปจัดการ และเขาให้สัญญากับนางไว้ “จงอยู่ที่นี่สักพัก อย่ากังวลเรื่องใด อาอี้ย่อมปลอดภัยแน่นอน” นางพยักหน้าเข้าใจ ก่อนเอ่ยถามเขา “มีสิ่งหนึ่งที่อยากกระจ่างใจ อาหลุนของข้าเป็นผู้ใดกันแน่” และนี่คือสิ่งที่นางสมควรรู้ สตรีที่มอบกายและใจให้เขา และนางไม่อาจหันเหไปทางใดอีก ในสายตาอิ่นสิงอี้ ยามนี้มีแต่อาหลุน แม้เขาจะแสดงตนว่าไร้แซ่ เป็นเพียงคนใบ้ ทว่านางกลับไม่คิดรังเกียรติ แต่ปรารถนาให้เขาอย่าหลอกลวงกัน นางไม่อยากเป็นแค่สตรีซึ่งทำหน้าที่อุ่นเตียงให้ชายใด “อาอี้ เมื่อวันนั้นมาถึงสามีจะบอกเจ้าเอง ตอนนี้ขอเจ้า มี

  • ทาสราคะองค์ชายใบ้   95 ราชันย์ใบ้

    หลี่ซือซิงแทบจะเต้นรอบโรงเตี๊ยมเล็กๆ แห่งนั้น นางแค่อยากอยู่อย่างสงบ ทว่าเหตุใดทหารพร้อมองครักษ์เกราะเหล็กถึงได้โผล่มาที่นี่ “เปิดประตูเถิดอย่าได้ขัดขวางการทำงาน จงรู้ไว้ แค่ข้าหายใจแรงสักหน่อย ที่นี่ก็พังราบเป็นหน้ากองแล้ว” เสียงที่ดังก้องอยู่ด้านนอกจะเป็นใครได้ เขาคือโหวเจียกวงนั่นเอง คนผู้นี้หลี่ซือซิงชังน้ำหน้ายิ่งกว่ากิ้งกือไส้เดือน พบเขาหลายหน และดวงตาของอีกฝ่าย แจ้งชัดว่าอยากได้นางไปเป็นฮูหยินของตน ทว่าเขาเป็นเพียงแค่แม่ทัพจับดาบออกรบเก่งกาจ ได้เลื่อนขั้นเร็ว เพราะเป็นพวกกระหายสงคราม และเถรตรงไม่เอาพวกพ้อง ฆ่าได้ฆ่า และไฉนเขาจะอยากกินเนื้อหงส์ คนอย่างเขา เป็นได้แค่ทหารเฝ้าหน้าประตูจวนหลี่ก็เท่านั้น “ข้ามาพักผ่อน และอยากอยู่อย่างสงบ เหตุใด พวกปัญญาหาทึบ มือเปื้อนเลือดถึงต้องมารบกวน” “ฮึๆ ๆ หากท่านหญิงยังพยายามถ่วงเวลาอยู่เช่นนี้ และตัวข้า ตามน้องสาวของสหายไม่พบ เกรงว่าจะกลายเป็นเรื่องใหญ่แน่!” “บัดซบ แม่ทัพโหว... ถือว่ามีกำลังทหารในมือ ท่านจะใช้วาจาพล่อยๆ กับข้าได้หรือ ข้าถ่วงเวลาอันใด ในเมื่อที่นี่ข้ากำลังใช้เวลาพักผ่อนอย่างเป็นส่

  • ทาสราคะองค์ชายใบ้   94 ราชันย์ใบ้

    ดวงตาก็พร่าเบลอ รับรู้เพียงแต่บุรุษตรงหน้ามีกลิ่นกายหอมจางๆ ช่วยให้นางผ่อนคลาย ยามนั้นนางจึงผุดลุกขึ้นยืน แล้วเป็นฝ่ายโน้มศีรษะเขาลงมาช้าๆ แรกเริ่มอาหลุนขัดขืน ทำท่าเหมือนหวงเนื้อตัว แต่นางหรือจะยอมให้เขาทำเช่นนั้น อิ่นสิงอี้ ส่งเสียงคำรามพร้อมกับสายตาดุกร้าวให้เขา “คนใบ้ย่อมพูดไม่ได้ เช่นนั้น ท่านคงเก็บความลับระหว่างเราได้ดีที่สุด” นางเอ่ยจบ จึงประกบริมฝีปากบดเบียดกับอีกฝ่าย คราแรกมันจืดชืด กระทั่งเขาเผยอริมฝีปากขึ้นเล็กน้อย นางก็อาศัยโอกาสดังกล่าว แทรกลิ้นเข้าไปกวาดโพรงปากด้านในเขา ทั้งคู่แลกลิ้นกัน ส่งความหวานเย้าหยอกต่ออีกฝ่าย หัวใจนางสั่นไหวระรัวแรง ปรารถนาเรือนกายของอาหลุนยิ่งนัก อยากตกเป็นของเขา อยากครอบครอง ต้องการรุกอีกฝ่ายให้หนัก และทั้งหมดคือแรงพิศวาสที่เกิดจากพิษร้ายที่สะสมในร่างกายบอบบาง แต่ใจนางก็ปรารถนาเช่นนั้นไม่ต่างกัน กระทั่งนางปล่อยริมฝีปากเขาให้เป็นอิสระ ก็เห็นว่า เขากำลังสื่อสาร โดยไม่มีท่าทียั่วล้อ หากจริงจัง “คุณหนูรองแซ่อิ่น ช่างขวัญกล้าเทียมฟ้า...แต่ก่อนที่จะมีสิ่งที่ข้ามขั้นไปมากกว่านี้ คนต่ำต้อย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status