กีรติกาพยายามเดินหาคนที่พอจะช่วยเหลือเธอได้แต่ดูเหมือนทุกคนจะไม่สนใจเธอเลยต่างสนใจแค่กิจกรรมตรงหน้าซึ่งมีทั้งตู้ปั่นสล็อต ไพ่ บาคาร่า รูเล็ตต์ ซึ่งเธอก็เคยสัมผัสบรรยากาศแบบนี้มาบ้างตอนที่ไปเที่ยวลาสเวกัสกับเพื่อนๆ
“สนใจจะเล่นเหรอกรีน” เสียงที่กระซิบทางด้านหลังทำให้หญิงสาวสะดุ้งสุดตัวและหันไปมองก็เจอว่าวิคเตอร์นั้นเดินเข้ามาประชิดตัวเธอแล้ว
“มันก็น่าสนใจอยู่”
“ที่เธอตามฉันมาไม่ใช่คงไม่ใช่เพราะอยากจะมาเล่นอะไรพวกนี้หรอกนะ”
“แล้วถ้าฉันบอกว่าใช่ล่ะ” หญิงสาวพูดกับเขาแต่สายตาก็ยังคงมองหาใครสักคนที่จะเข้ามาช่วยเธอได้
“เธอคิดว่าฉันดูเธอไม่ออกเหรอ ฉันเห็นเธอตั้งแต่อยู่บนเรือแล้วและก็รอว่าเมื่อไหร่เธอจะมาที่นี่”
“คุณเห็นฉันตั้งแต่บนเรือแล้วทำไมคุณยังยอมให้ผู้ชายพวกนั้นที่ท่าเรือจับฉันไปแบบนั้นล่ะ”
“ก็ฉันอยากรู้ว่าเธอจะเอาตัวรอดยังไงกับสถานการณ์แบบนั้น แต่เธอก็เก่งนะที่ทำให้คนพวกนั้นพาเธอมาส่งฉันที่นี่ได้”
“คุณคงไม่คิดจะให้พวกนั้นพาฉันไปขายจริงๆ หรอกใช่ไหมล่ะ” หญิงสาวถามขณะที่เดินตามเขามายังด้านนอกโรงแรมซึ่งเป็นบริเวณสนามหญ้าเขานั่งลงบนเก้าอี้และฉุดให้เธอนั่งลงข้างๆ
“ไม่หรอกเพราะฉันยังไม่ได้แก้แค้นยังไงล่ะ” เขามองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น
“ที่นี่คือที่ไหน”
“มันก็แค่เกาะอีกเกาะหนึ่ง บนนี้มีแต่โรงแรมและกาสิโนไม่มีที่เที่ยวอื่นหรอกนะ” วิคเตอร์บอกออกไปเพราะรู้ว่าเดี๋ยวเธอก็ต้องถาม
“คุณวิคเตอร์คะฉันว่าเราลองมาคุยกันดีๆ อีกครั้งได้ไหม พาฉันกลับไปส่งกรุงเทพเถอะนะ”
“ทำไมเธอจะต้องพูดให้ฉันอารมณ์เสียด้วยนะ”
“ฉันก็ไม่เคยเห็นคุณจะอารมณ์ดีเลยสักวันนะคะคุณวิคเตอร์ดูท่าทางคุณจะไม่เคยยิ้มเลยละมั้ง”
“แล้วทำไมฉันจะต้องยิ้มด้วยล่ะ” เขาพูดแล้วหยักไหล่
“เธอขึ้นไปรอฉันบนห้องนะ ฉันต้องไปทำงานต่อ”
“ไม่ฉันจะกลับเกาะ”
“แต่ฉันยังทำธุระไม่เสร็จ”
“ฉันกลับคนเดียวก็ได้ให้คุณชาตรีไปส่งฉันสิ”
“ชาตรีเขาก็มีงานที่จะต้องไปทำ เธอตามฉันมาเองนะ ฉันขอบอกไว้เลยนะถ้าคิดจะหนีไปจากที่นี่หรือไปคุยกับใครแล้วขอความช่วยเหลือแล้วถ้าหากมันเกิดอะไรขึ้นฉันจะไม่ช่วยเธอเด็ดขาด”
“คุณก็แค่ขู่”
“ฉันไม่ได้ขู่ ฉันให้เธอเลือกเอานะว่าจะมีฉันเป็นผัวแค่คนเดียวหรือจะให้พวกผู้ชายที่เธอเห็นที่ท่าเรือจัดการกับเธอและพาเธอออกไปขายล่ะ”
“ป่าเถื่อนใครจะเป็นเมียคุณกัน”
“ถึงวันนี้ยังไม่ใช่แต่ฉันก็ไม่ปล่อยให้เธออยู่สบายๆ แบบนี้หรอกนะรอให้ฉันจัดการธุระทั้งหมดเสร็จก่อนเถอะแล้วฉันจะทำอย่างที่ฉันพูดจริงๆ เธอก็แค่เตรียมอ้าขาให้ฉันก็พอ”
“ใครจะอ้าขาให้คุณกันอย่าหวังเลยแค่ขาอ่อนของฉันคุณก็จะไม่มีทางเห็น”
“อย่าทำเป็นปากดีไปเลยกรีนถึงเวลานั้นเธอจะร้องขอให้ฉันนอนกับเธอบ่อยๆ”
“อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลยคุณวิคเตอร์ฉันไม่มีทางยอมคุณง่ายๆ หรอก”
“ฉันชักอยากจะรู้แล้วสิกรีนว่าเธอจะเก่งเหมือนที่ปากเธอพูดไหม”
เขาลุกขึ้นและฉุดให้เธอลุกตามก่อนจะรวบเอวบางเข้ามาประชิดและกดจูบลงไปอย่างหนักหน่วงหญิงสาวดิ้นและพยายามผลักเขาออกแต่มันก็ไม่ได้ผลเลย วิคเตอร์เอามือดันท้ายทอยของเธอเพื่อให้เธอรับจูบหนักหน่วงที่เขาบดขยี้ลงมาอย่างต่อเนื่องจนเธอแทบขาดอากาศ
ฝ่ามือใหญ่ของวิคเตอร์บีบส่วนกลางของเธออย่างแรงทำให้หญิงสาวต้องเผยอปากออกและเขาก็ใช้จังหวะนั้นส่งปลายลิ้นร้อนเข้าไปกวาดต้อนความหวานในปากเล็ก เพียงลิ้นของเขาสัมผัสกับลิ้นเล็กๆ ของเธอกีรติกาก็รู้สึกราวกับถูกสะกดร่างกายของเธออ่อนระทวยไร้เรี่ยวแรงจะทรงตัว
วิคเตอร์เห็นแบบนั้นก็ได้ใจเขาฉกชิมความหวานของหญิงสาวจนพอใจก่อนจะผละออกแล้วยิ้มที่มุมปากเมื่อเห็นว่าเธอหอบเหนื่อยและใบหน้าแดงไปทั่วมันกระตุ้นให้ความเป็นชายในกายของเขาลุกโชนขึ้นมาได้อย่างประหลาด
“แค่ฉันจูบเธอแค่นี้เธอยังแย่ ถ้าฉันนอนกับเธอขึ้นมาจริงๆ เธอคงได้สลบอยู่บนเตียง” เขาหัวเราะเบาๆ อย่างอารมณ์ดีแต่กีรติกาไม่ชอบเสียงหัวเราะแบบนี้ของเขาเลย
วิคเตอร์อยากจะพาเธอขึ้นเตียงแต่เขาก็มีเรื่องที่จะต้องไปจัดการชายหนุ่มพาเธอมายังหน้าล็อบบี้จากนั้นสั่งให้คนพาหญิงสาวขึ้นไปรอข้างบน
“ไปรอฉันอยู่ที่ห้อง ฉันจัดการธุระเสร็จแล้วจะตามขึ้นไปและอย่าคิดที่จะหนีหรือขอความช่วยเหลือจากใครเพราะฉันไม่รับรองว่าฉันจะอดทนกับความดื้อของเธอได้มากแค่ไหน” พูดจบเขาก็เดินกลับเขาไปในบริเวณกาสิโน ส่วนกีรติกาก็เดินเดินตามพนักงานขึ้นมาบนห้อง
“ที่นี่ชื่อเกาะอะไรเหรอคะ” เธอถามพนักงาน แต่ไม่ได้รับคำตอบอะไร
“.....”
“คุณมาทำงานที่นี่นานหรือยังเงินเดือนดีมั้ย”
“เงินเดือนดีค่ะ” คำตอบสั้นๆ พร้อมกับรอยยิ้ม หญิงสาวที่เดินนำเธอมานั้นไม่ใช่คนไทยแต่พอจะสื่อสารภาษาไทยได้บ้างเธอพากีรติกามายังห้องพักห้องหนึ่ง
“เชิญตามสบายนะคะอาหารกับเครื่องดื่มด้านไหนคุณทานได้เลยเดี๋ยวคุณวิคเตอร์คุณตามขึ้นมา”
“ฉันอยากจะไปจากที่นี่เธอช่วยให้ฉันไปจากที่นี่ได้ไหม ฉันจะจ่ายค่าจ้างให้เธออย่างงามเลยนะ” หญิงสาวกระซิบ
“ฉันทำงานที่นี่ก็สบายดีแล้วคุณอย่าหาเรื่องเดือดร้อนมาให้ฉันเลยค่ะฉันตัวก่อนนะคะ” หญิงสาวปิดประตูห้องและเดินออกไปทิ้งให้กีรติกาอยู่ตามลำพังคนเดียวในห้อง
กีรติการอเวลาสักพักหนึ่งจากนั้นก็เกินไปเปิดประตูแต่ดันเท่าไหร่มันก็ไม่ยอมเปิด หญิงสาวโมโหมากเพราะการออกมาจากเกาะแทนที่เธอจะหนีเขาพ้นแต่กลับต้องมาขังอยู่ในห้องซึ่งไม่ต่างอะไรกับการอยู่บนเกาะเลย ตอนนี้กีรติการู้สึกท้อรู้สึกหมดหวังกับการจะไปจากที่นี่
หญิงสาวหยิบขนมที่อยู่บนโต๊ะมาทานระหว่างที่นั่งดูทีวีไปเรื่อย เมื่อทานไปได้สักพักก็รู้สึกคอแห้งจึงไปเปิดตู้เย็นเมื่อเห็นเครื่องดื่มที่มีทั้งเหล้าเบียร์และไวน์ก็รู้สึกอยากจะดื่มเพราะรู้สึกเบื่อและบางทีความเมามันจะทำให้เธอหลับเร็วขึ้นเนื่องจากคืนที่ผ่านมากว่าเธอจะข่มตานอนได้ก็ใช้เวลาค่อนข้างนาน
ดื่มไวน์ไปเกือบครึ่งขวดตอนนี้รู้สึกเมามากๆ จึงเข้าห้องน้ำและอาบน้ำเพื่อจะให้ตัวเองหายเมาแต่มันก็ช่วยได้ไม่มาก เธอสวมชุดคลุมเดินออกมาจากห้องน้ำก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าตอนนี้วิคเตอร์นั้นนั่งอยู่บริเวณปลายเตียงห้องนอน
“คุณเข้ามาที่นี่ได้ยังไง”
“ถามอะไรไม่คิดนะกรีนก็ที่นี่มันเป็นโรงแรมฉัน ฉันจะเข้าจะออกหรือทำอะไรที่นี่ก็ได้”
“นั่นสิฉันลืมคิดไปเลย” เสียงพูดของกีรติกาไม่เหมือนเดิมและเขาก็พอจะเดาออกเพราะเห็นไวน์ที่วางอยู่เหลือเพียงแค่ครึ่งขวดเท่านั้น
“เธอกำลังเมาใช่ไหม ทำไมถึงกินไปเยอะขนาดนั้น”
“ก็ฉันอยากจะเมาไงล่ะ”
“ทำไมถึงอยากเมา”
“ก็เพราะฉันอยากจะหลับเร็วๆ ไงล่ะ คุณรู้ไหมฉันเมื่อคืนกว่าฉันจะหลับตาลงได้ก็เกือบจะเช้า”
“ฉันช่วยได้นะ ถ้าอยากหลับสบายไม่ต้องพึ่งไวน์หรอก”
“ฉันรู้ว่าคุณหมายถึงอะไรแต่ไม่ดีกว่าและตอนนี้ฉันก็ง่วงแล้ว เราจะกลับเกาะเลยไหม”
“ไม่ล่ะ คืนนี้ฉันจะนอนที่นี่และจะเริ่มแก้แค้นเธอตั้งแต่ตอนนี้”
“อย่านะฉันยังไม่พร้อม”
“แต่ใส่ชุดคุมอาบน้ำรอฉันแบบนี้จะให้ฉันคิดว่ายังไงล่ะ อย่าเสียเวลาเลยกรีนเรามาสนุกกันดีกว่านะ”
พูดจบเขาก็รวบตัวหญิงสาวขึ้นมานั่งบนตักด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้เธอไร้แรงขัดขืนเมื่อเขาก้มริมฝีปากลงมาจูบเธอก็จูบเขาตอบเพราะคุมร่างกายของตนเองไม่อยู่ ปลายลิ้นร้อนที่เกี่ยวกับกระหวัดมันสร้างความเสียวซ่านจนหญิงสาวได้ครางอื้ออึงอยู่ในลำคอร่างกายเธอร้อนและเบียดเข้าหาเขาอย่างยั่วยวน
คุณวัชรีเดินออกจากห้องรับแขกไปแล้วตอนนี้ก็เหลือแค่กีรติกากับวิคเตอร์เพียงสองคนเท่านั้น“สนุกมากไหมคะที่ทำแบบนี้กับฉัน”“ไม่เลยกรีน ฉันเครียดมากตอนที่หาเธอไม่เจอ ฉันคิดจะขอเธอแต่งงานหลังจากเครื่องเพชรทั้งหมดทำเสร็จแล้ว แต่พอมาเจอเธอวันนี้ก็เลยคิดว่าขอเธอแต่งงานวันนี้น่าจะดีกว่าเพราะฉันไม่อยากให้เธอหนีไปไหนอีกแล้ว”“คุณไม่รู้จริงๆ เหรอว่าฉันอยู่ที่นี่”“ไม่รู้เลย แม่ไม่เคยบอกอะไรฉัน ที่มาวันนี้ก็เพราะแม่ชวนมากินข้าวและฉันก็อยากจะเอาแหวนมาอวดแม่ด้วย”“จะให้ฉันแน่ใจได้ยังไงว่าคุณไม่หลอก ที่ผ่านมาคุณไม่เคยพูดหรือแสดงความรู้สึกอะไรกับฉันเลย”“ถ้าฉันจะหลอกเธอฉันจะกล้าขอเธอแต่งงานต่อหน้าแม่เหรอกรีน ถึงฉันไม่ใช่คนดีเต็มร้อย แต่ฉันก็คิดว่าฉันทำทุกอย่างก็เพราะฉันรักเธอนะ” เพราะมารดาไม่อยู่แล้วชายหนุ่มก็พูดคำว่ารักออกมา“รักฉันเหรอคะ”“ใช่สิถ้าไม่รักคงไม่ตามตื๊ออยู่แบบนี้หรอก”“ฉันว่าคุณอยากจะเอาชนะฉันมากกว่า”“ฉันไม่เคยคิดแบบนั้น ฉันแค่อยากอยู่กับเธออยากใช้ชีวิตกับเธอ”“ฉันไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่คุณพูดหรอกนะคุณวิคเตอร์ เราสองคนต่างกันมาก”“พ่อกับแม่ของฉันก็ต่างกันมากแต่ท่านก็อยู่ด้วยกันอย่างมีคว
เย็นวันนี้ลูกชายของคุณวัชรีจะมาทานอาหารเย็นที่บ้านกีรติกากับป้าบัวโรยและมะลิจึงช่วยกันทำอาหารตั้งแต่บ่ายเมื่ออาหารทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยกีรติกาก็ขอตัวไปอาบน้ำ ก่อนจะลงมาที่ห้องรับแขกอีกครั้งในเวลาเกือบจะหกโมงเย็นซึ่งเป็นเวลาทานอาหารของคุณวัชรีหญิงสาวเดินลงบันไดมาและเห็นว่าตอนนี้มีผู้ชายคนหนึ่งนั่งหันหน้าออกไปทางหน้าบ้านกีรติการณ์คิดว่าน่าจะเป็นลูกชายของคุณวัชรี แต่พอเดินอ้อมมาก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าคนที่นั่งอยู่คือใคร“กรีนเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” วิคเตอร์ตกใจมากที่มาเจอหญิงสาวที่นี่“ฉันควรถามคุณมากกว่านะว่าคุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงแล้วมาคุยอะไรกับคุณน้า”“เดี๋ยวใจเย็นๆ ก่อนทั้งสองคนเลยหนูกรีนมานั่งกับน้าตรงนี้”“ค่ะน้าหนิง” หญิงสาวเดินไปนั่งคู่กับเจ้าของบ้านแต่สายตาก็จ้องวิคเตอร์อย่างจ้องจับผิดเธอกลัวว่าชายหนุ่มจะมาพูดเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาและก็กลัวว่าคุณวัชรีจะบอกวิคเตอร์เรื่องที่เธอกำลังตั้งครรภ์อยู่“หนูกับลูกชายน้ารู้จักกันมาก่อนเหรอ”“คนนี้ลูกชายน้าหนิงเหรอคะ”“ใช่จ้ะ น้าไม่รู้เลยว่าทั้งสองคนรู้จักกันมาก่อน”“น้าหนิงไม่รู้จริงๆ ใช่ไหมคะว่าหนูกับเขารู้จักกัน” หญิงสาวสา
วิคเตอร์เธอยังคงพยายามโทรศัพท์หากีรติกาอยู่ทุกวันแต่หญิงสาวก็ไม่ยอมรับโทรศัพท์ของเขา เธอจะรับโทรศัพท์ของเขาก็ต่อเมื่อส่งงานมอบงานให้เขาแล้วเท่านั้นแล้ววันนี้ก็เป็นวันที่หญิงสาวทำงานทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยเธอส่งไฟล์ให้เขาไม่ถึงห้านาทีชายหนูก็โทรศัพท์กลับมา“กรีนเธอใจร้ายกับฉันมากเลยนะ เราตกลงเป็นแฟนกันแล้วทำไมฉันโทรหาเธอตลอดทั้งสัปดาห์เธอไม่ยอมรับโทรศัพท์ฉันเลย แล้วฉันไปหาที่คอนโดเขาก็บอกว่าเธอไม่อยู่ที่นั่นเธอย้ายไปอยู่ที่ไหนทำไมไม่บอกฉัน เกิดอะไรขึ้นกับเธอหรือเปล่าฉันเป็นห่วงเธอมากๆ นะ”“ใจเย็นค่ะคุณวิคเตอร์ถามอะไรมายาวแบบนั้นใครมันจะตอบคำถามคุณทันล่ะคะ” กีรติกาอดขำไม่ได้กับคำถามที่วิคเตอร์ถามรัวมา“ถ้างั้นเอาคำถามนี้ก่อนก็แล้วกัน ตอนนี้เธอทำอะไรอยู่ที่ไหน”“ฉันก็ออกแบบงานให้คุณไงคะ งานก็เสร็จแล้วเพิ่งส่งไปเมื่อกี้ ฉันคิดว่าที่คุณโทรหาฉันก็เพราะคุณได้รับงานของฉันแล้วนะคะ”“กรีนเราคงต้องคุยกันอย่างจริงจังนะ”“ก็นี่ไงคะจริงจัง”“ฉันไม่ได้หมายถึงเรื่องงานฉันหมายถึงเรื่องระหว่างเรา”“ระหว่างเรามันก็จบไปแล้วตั้งแต่วันที่ฉันออกมาจากเกาะค่ะและที่ฉันยังติดต่อคุณตอนนี้ก็เพราะเรื่องงานเท่านั้น
บ้านของคุณวัชรีหลังค่อนข้างใหญ่มีบริเวณบ้านกว้างขวางกีรติกาถูกพามาในห้องนอนห้องหนึ่งซึ่งอยู่คนละฝั่งกับห้องนอนของเจ้าของบ้านเพราะเธออยากให้กีรติกามีความเป็นส่วนบ้านหลังนี้มีคนขับรถหนึ่งคนและคนรับใช้อีกสองคนคนหนึ่งชื่อมะลิเป็นหญิงสาวอายุน่าจะประมาณสามสิบปีซึ่งเธอให้กีรติกาเรียกว่าพี่มะลิส่วนอีกคนหนึ่งเป็นมารดาของพี่มะลิชื่อป้าบัวโรยซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องการทำอาหารเช้านี้กีรติกาตื่นมาก็อาเจียนแต่เช้าแต่ก็พยายามฝืนตัวเองลงมาทานอาหารเพราะไม่อยากให้เจ้าของบ้านเป็นห่วงไปมากกว่านี้“หน้าซีดมากเลยเมื่อเช้าอาเจียนใช่ไหม ถ้าหนูลงมาไม่ไหวก็บอกได้นะ น้าจะให้มะลิเอาอาหารขึ้นไปให้บนห้อง”“ไม่เป็นไรหรอกค่ะอยู่ในห้องมันอุดอู้หนูลงมาแบบนี้อากาศดีๆ เดี๋ยวก็ดีขึ้น”“เช้านี้ป้าทำแกงไตปลากับขนมจีนนะคะคุณกรีนทานได้ไหม”“ได้ค่ะของโปรดหนูเลย”“หนูกรีนชอบทานอาหารใต้เหมือนกันใช่ไหม”“ใช่ค่ะหนูว่ารสชาติมันจัดจ้านดี”“แต่หนูอย่าทานเยอะนะอาหารใต้มันเผ็ดมากๆ เดี๋ยวมันจะไม่ดีกับเด็กในท้อง ป้าทำต้มจืดกับผัดผักด้วยนะ แต่ป้าไม่ได้ใส่กระเทียมนะคะเพราะรู้ว่าคนท้องไม่ชอบกินกระเทียมเจียว”“ขอบคุณป้าบัวโรยมากนะคะ
วันนี้เป็นวันประชุมผู้ถือหุ้นกีรติกาแต่งตัวตั้งแต่เช้าเธอสวมสูทสีครีมกับกางเกงสีเดียวกันดูสุภาพกว่าวันปกติมาก เมื่อแต่งตัวเสร็จก็ลงมานั่งรอทนายความอยู่บริเวณชั้นล่างของคอนโดเพราะวันนี้ทนายความจะเป็นคนพาเธอไปแนะนำให้กับหุ้นส่วนใหญ่และพนักงานทุกคนได้รู้จักเมื่อไปถึงบริษัทเธอก็ทักทายพนักงานที่พอจะรู้จักกันบ้างจากนั้นก็เข้าไปนั่งรอในห้องประชุมไม่นานนะผู้หญิงดูท่าทางภูมิฐานคนหนึ่งก็เดินเข้ามาในห้องเธอแนะนำตัวเองว่าชื่อวัชรีเป็นนักธุรกิจชาวไทยที่ไปแต่งงานกับสามีชาวต่างชาติการประชุมในวันนี้ไม่ได้มีเรื่องอะไรมากมายคุณวัชรีอยากให้ทุกคนทำหน้าที่ไปอย่างเดิม ในส่วนของแผนการแผนงานทั้งหมดเธอจะส่งให้ผู้จัดการแต่ละแผนกนำไปปฏิบัติอีกทีหลังเสร็จจากการประชุมแล้วคุณวัชรีก็ขอคุยกับกีรติกาเป็นการส่วนตัวโดยทั้งสองมาคุยกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากบริษัทมากนัก“คุณวัชรีชอบทานอาหารใต้เหรอคะ”“เราอยู่กันสองคนหนูเรียกฉันว่าน้าหนิงก็ได้”“แต่คุณเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เลยนะคะหนูไม่กล้าเรียกหรอกค่ะ”“ก็ตอนนี้เราไม่ได้อยู่ในบริษัทนะ น้าเคยมีลูกสาวพอเห็นหนูก็ทำให้รู้สึกคิดถึงลูกสาวมากๆ”“ลูกสาวคุณน้าเธอทำงา
เช้านี้กีรติกาตื่นนอนสายกว่าทุกวันหญิงสาวรู้สึกเวียนศีรษะเป็นอย่างมากพอลุกขึ้นได้ยังไม่ทันจะเดินไปไหนไกลก็วิ่งเข้าห้องน้ำ เพื่อโก่งคออาเจียนอยู่หลายครั้งเธอคิดว่าน่าจะเกิดจากอาหารเป็นพิษแต่พอนึกถึงเมนูที่รับประทานไปเมื่อวานก็นึกไม่ออกเลยว่าเมนูไหนที่จะทำให้เธอเกิดอาการแบบนี้หญิงสาวอาบน้ำแล้วคิดว่าถ้าอาการยังไม่ดีขึ้นก็อาจจะไปให้หมอตรวจดูสักหน่อย แต่ขณะที่เปิดลิ้นชักจะหยิบชุดชั้นใน สายตาก็เหลือบไปเห็นถุงผ้าอนามัยที่อยู่ด้านในสุดซึ่งตนเองซื้อมาตั้งแต่เมื่อเดือนที่แล้วแต่ยังไม่ได้ถูกเปิดใช้งานเลยสักครั้งกีรติกาหน้าซีดเผือดเมื่อนึกย้อนไปตั้งแต่กลับมาจากอังกฤษเธอก็เป็นรอบเดือนแค่ครั้งเดียวและหลังจากที่กลับมาจากเกาะแล้วก็ไม่เป็นอีกเลยเธอคิดว่าตนเองไม่น่าจะท้องเพราะครั้งแรกที่มีอะไรกับวิคเตอร์ก็ทานยาคุมฉุกเฉินจากนั้นก็ทานยาคุมกำเนิดมาตลอดจะมีก็แค่ช่วงที่เธอไปอยู่บนเรือสำราญที่ไม่ได้ทานยาถึงสามวันติดแต่พอกลับมาเธอก็รีบทานยาให้ครบจำนวนแต่เมื่อนึกถึงคำพูดของเภสัชกรแล้วเธอก็รู้สึกตัวชาเพราะหากลืมกินยาติดต่อกันนานเกินสามวันโอกาสที่จะตั้งท้องก็มีอยู่มาก“คงไม่บังเอิญขนาดนั้นหรอกมั้ง” เธอพูดกับ