Share

บทที่ 9

Aвтор: พิณเคล้าสายฝน
เยี่ยเป่ยเฉิงกอดบุคคลนั้นเอาไว้ในอ้อมแขนโดยไม่รู้ตัว และเอามือโอบรอบเอวของนางเอาไว้

ร่างที่ผอมบางขดอยู่ในอ้อมแขนของเขา นุ่มนวล มีกลิ่นหอม ราวกับว่าไม่มีกระดูก

เขาแปลกใจ ที่แท้ร่างกายของผู้หญิงอ่อนโยน นุ่มนวล และหอมอย่างนี้นี่เอง...

เยี่ยเป่ยเฉิงไม่สามารถควบคุมตนเองได้ ฝ่ามือที่โอบเอวของนางเอาไว้ค่อยๆกระชับขึ้น

คนที่อยู่ในอ้อมแขนกลับดึงตัวออกไปทันที เหลือเพียงแค่กลิ่นหอม ที่เหมือนมีก็เหมือนไม่มีเอาไว้

เขาไม่สามารถบอกได้ว่ามันคือความรู้สึกอะไร แต่เยี่ยเป่ยเฉิงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

หลินซวงเอ๋อร์คุกเข่าลงบนพื้นด้วยความตื่นตระหนก

“ท่าอ๋องได้โปรดยกโทษให้ข้าด้วย ข้าน้อยไม่มีตา ทำให้เดินชนท่านอ๋อง”

หลินซวงเอ๋อร์สั่นไปทั้งตัว ราวกับว่าเจอเรื่องอะไรที่น่าหวาดกลัว

มีฝีเท้าอันรวดเร็วเข้ามาทางนี้ เยี่ยเป่ยเฉิงมองตามเสียงนั้นไป ก็เห็นพ่อบ้านฉินไล่ตามมาก่นด่าสาปแช่ง

คำพูดของเขาเต็มไปด้วยคำสกปรกหยาบคาย และไล่ตามด่าหลินซวงเอ๋อร์ไปตลอดทาง

ทีนี้เยี่ยเป่ยเฉิงจึงเข้าใจว่า เหตุใดนางถึงกลัวมากขนาดนี้

“ไอ้เด็กเหลือขอ!ไม้อ่อนไม่ชอบชอบไม้แข็ง มาดูกันว่าข้าจะจัดการกับเจ้าอย่างไร!”

พอได้ยินเสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามา ร่างกายอันผมบางของหลินซวงเอ๋อร์ก็สั่นสะท้านมากยิ่งขึ้น

นางรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าตกอยู่ในกำมือของพ่อบ้านฉิน

ด้วยความจนใจ นางเงยหน้าขึ้นมองเยี่ยเป่ยเฉิงด้วยน้ำตาคลอเบ้า แม้แต่เสียงก็สั่นเทา

“ท่านอ๋อง พ่อบ้านฉิน...เขาตั้งใจจะทำให้ข้าอับอาย ท่านอ๋องได้โปรดช่วยข้าด้วย”

ทันทีที่พูดจบ พ่อบ้านฉินก็ตามถึงตรงหน้า

เขาเห็นเยี่ยเป่ยเฉิงในทันที จากนั้นก็เปลี่ยนสีหน้า และกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ประจบประแจงว่า: "เหตุใดท่านอ๋องถึงมาที่นี่? หากในจวนมีสิ่งขาดขาดเหลือ ข้าน้อยจะเอาไปส่งให้ท่านเอง จะให้ท่านอ๋องมาเองให้ยุ่งยากได้อย่างไร?"

พูดจบ ก็ชำเลืองมองหลินซวงเอ๋อร์ด้วยสายตาที่เฉียบแหลม ราวกับจะเตือนนางว่าอย่าพูดจาส่งเดช

“เกิดอะไรขึ้น?” ขณะที่เยี่ยเป่ยเฉิงพูดก็มองไปที่หลินซวงเอ๋อร์

ขณะที่หลินซวงเอ๋อร์กำลังจะพูด พ่อบ้านฉินก็ชิงพูดก่อนว่า "ท่านอ๋อง บ่าวรับใช้คนนี้ไม่รู้กฎเกณฑ์ ข้ากำลังสอนบทเรียนให้กับเขาแทนท่านอ๋อง"

หลินซวงเอ๋อร์ยังคงส่ายหัว: "ไม่ใช่ ท่านอ๋อง พ่อบ้านฉินเขา...เขา" คำถัดไป นางรู้สึกน้ำท่วมปากจริงๆ

หากนางบอกความจริงไป เยี่ยเป่ยเฉิงจะเชื่อนางหรือไม่?

ท้ายที่สุดแล้วใครจะเชื่อว่า พ่อบ้านจวนอ๋องผู้องอาจ จะรักร่วมเพศ พูดออกมาก็คงจะไม่มีใครเชื่อ

ถ้าเขาไม่เชื่อนาง พ่อบ้านฉินจะแก้แค้นนางอย่างไร?

หลินซวงเอ๋อร์ไม่กล้าแม้แต่จะคิด

พ่อบ้านฉินกล่าวดุด่าว่า: "ทำไม?บ่าวรับใช้อย่างเจ้าไม่เข้าใจกฏเกณฑ์ก็ช่างเถิด แต่ยังกล้าพูดเรื่องไร้สาระต่อหน้าท่านอ๋องอีก? ระวังข้าจะฉีกปากเจ้าเป็นชิ้นๆ!"

หลินซวงเอ๋อร์กัดริมฝีปาก น้ำตาไหลเจิ่งนอง

พอเห็นนัยน์ตาที่เต็มไปด้วยน้ำตาของหลินซวงเอ๋อร์ เยี่ยเป่ยเฉิงรู้สึกราวกับว่ามีเข็มทิ่มแทงหัวใจ

“ทำไม?คนของข้าต้องให้เจ้าสอนบทเรียนด้วยหรือ?” เยี่ยเป่ยเฉิงเหลือบมองพ่อบ้านฉิน น้ำเสียงเย็นชาสุดขีด

พ่อบ้านฉินคุกเข่าลงบนพื้นทันที และกล่าวอย่างสั่นเทายว่า: "ท่านอ๋องอย่าเกรี้ยวโกรธไปเลย มันเป็นความคิดของข้าน้อยเอง"

เมื่อเห็นมือของหลินซวงเอ๋อร์ว่างเปล่า เยี่ยเป่ยเฉิงก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย: "เสื้อผ้าที่ข้าให้เจ้ามาเอาเล่า?"

หลินซวงเอ๋อร์พูดตามความเป็นจริง: "ข้าเอาเงินมาไม่พอ พ่อบ้านฉินเลยไม่ยอมให้"

พ่อบ้านฉินที่อยู่ด้านข้างตกใจมากจนไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ

ท่านอ๋องให้เขามาเอาเสื้อผ้าจริงๆหรือนี่?

ท่านอ๋องสนใจเรื่องคนรับใช้มากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

รู้อย่างนี้ เมื่อครู่เขาไม่ควรทำให้เขาลำบากใจเลย...

แน่นอนว่า เยี่ยเป่ยเฉิงก็สังเกตได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติไป จึงถามทันทีว่า: "เงินอะไร?"

หลินซวงเอ๋อร์กล่าวว่า: "เดิมทีเขาเรียกเก็บเงินจากข้าเพียงแค่ห้าสิบเหรียญทองแดงเท่านั้น วันนี้ข้ามารับเสื้อ เขายืนกรานที่จะขึ้นราคา ถ้านำเงินมาไม่พอ เขาก็เลยจะ.. "

เยี่ยเป่ยเฉิง:“ก็เลยจะอะไร?”

หลินซวงเอ๋อร์กัดริมฝีปาก สีหน้าเปลี่ยนไปเป็นสีแดง จากนั้นไม่นานก็พูดว่า "จะให้ข้าน้อยเข้าไปในโกดังกับเขาเพื่อทำข้อตกลง"

สีหน้าของพ่อบ้านฉินซีดลงในทันที เขากำลังจะเถียงข้างๆคูๆ เยี่ยเป่ยเฉิงก็เหลือบมองเขา ความรู้สึกกดดันอย่างรุนแรงทำให้พ่อบ้านฉินเงียบปากเสียแต่โดยดี

เยี่ยเป่ยเฉิงถามอย่างอดทน: "ข้อตกลงอะไร?"

หลินซวงเอ๋อร์ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร นี่ก็เป็นครั้งแรกที่นางเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ ในที่ก็พูดอย่างกรอึกกระอักว่า: "พ่อบ้านฉินเขา... เขาเป็นพวกรักร่วมเพศ..."

เยี่ยเป่ยเฉิงขมวดคิ้วลึกขึ้น

เขามองไปที่หลินซวงเอ๋อร์อีกครั้ง

แก้มที่เรียบๆที่ไม่ได้ผลัดแป้งกลับขาวเนียนละเอียด คิ้วโก่งนัยน์ตาหลมโต ขนตางอนยาว แค่กะพริบตาเบาๆก็มีเสน่ห์

ผู้หญิงคนนี้งามมาแต่กำเนิด แม้ว่าจะปลอมตัวเป็นผู้ชาย แต่ก็ไม่อาจต้านทานความปรารถนาของผู้ชายที่มีต่อนางได้

เยี่ยเป่ยเฉิงไม่กล้าคิดเลยว่า ถ้าหน้ากลับไปเป็นผู้หญิง จะดึงดูดแมลงวันวันได้กี่ตัว!

เขามองไปที่พ่อบ้านฉินที่กำลังคุกเข่าอยู่ข้างๆ ระงับไฟที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนเอาไว้ในใจ แล้วพูดว่า "เป็นความจริงหรือ?"

เขาไม่รู้ว่าไฟในใจอันนี้มาจากไหน ราวกับว่าของของตนเองกำลังถูกผู้อื่นจับจ้องปรารถนา

สีหน้าของพ่อบ้านฉินซีดลงเรื่อยๆ ฝ่ามือก็เริ่มมีเหงื่อออก เขาถลึงตาใส่หลินซวงเอ๋อร์ด้วยความโกรธก่อน แล้วพูดว่า "ไม่มีอะไรเลย ข้าน้อยแค่อยากจะล้อเล่นกับเขาก็เท่านั้น"

เยี่ยเป่ยเฉิงหัวเราะเยาะ: "อ้อ? รักร่วมเพศก็ล้อเล่น?"

สีหน้าที่เพิ่งจะกลับมามีเลือดฝาด ก็ซีดเผือดอีกทันที พ่อบ้านฉินคำนับสุดชีวิต: "ข้าน้อยผิดไปแล้ว ข้าน้อยแค่พูดจามั่วซั่ว"

นัยน์ตาที่โฉบเฉี่ยวหรี่ตาลง เยี่ยเป่ยเฉิงพูดอย่างเย็นชา: "นางคือคนของข้า ได้ยินชัดเจนไหม?"

ประโยคนี้เพียงพอที่จะประกาศความเป็นเจ้าของ แม้ว่าเขาอยากจะจัดการนาง ก็ไม่เรื่องที่คนนอกจะมายุ่ง

พ่อบ้านฉินมีเหงื่อเย็นไหลออกมา และพยักหน้าอย่างแรง

ขนตายาวของหลินซวงเอ๋อร์กระเพื่อมเล็กน้อย นางค่อยๆเงยหน้าขึ้น นัยน์ตาที่ชัดเจนสดใสคู่หนึ่งมองดูเขาอย่างจดจ่อ

นางคิดไม่ถึงว่าเยี่ยเป่ยเฉิงจะพูดแทนนาง

ในช่วงสองปีนับตั้งแต่นางเข้าจวนมา นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนหนุนหลังนาง และให้ความยุติธรรมแก่นาง

ความรู้สึกนี้ทำให้นางมีไม่อาจอธิบายได้ ราวกับว่ากำลังลอยอยู่บนเมฆ รู้สึกเบาไปทั้งตัว ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องจริงเล็กน้อย
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 655

    วันที่เจียงหว่านกำลังจะถูกเนรเทศ ในที่สุดเจียงเช่อก็มาหาถึงหน้าประตูเขาคุกเข่าเบื้องหน้าเยี่ยเป่ยเฉิง เว้าวอนขอเยี่ยเป่ยเฉิงปล่อยเจียงหว่านไปขณะที่เดินทางมา เขารับรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้วเจียงหว่านลอบวางยาพระชายาเยี่ย ใช้ประชาชนที่ติดโรคทดลองยา เข่นฆ่าคนบริสุทธิ์ ผลาญชีวิตคนดุจผักดุจปลา นับเป็นอาชญากรรมอันชั่วร้ายที่สุด......แต่ไม่ว่าอย่างไร เจียงหว่านก็เป็นน้องสาวเขา เป็นคุณหนูหนึ่งเดียวของตระกูลเจียง เจียงเช่อมิอาจนั่งนิ่งดูดาย ปล่อยให้นางไปตายได้“ขอร้องท่านอ๋องไว้ชีวิตนางเถิด เป็นเพราะข้าตามใจนางจนเสียคน หากท่านอ๋องจะลงโทษ โปรดลงที่เจียงเช่อเถิดพะยะค่ะ”เมื่อเห็นเจียงเช่อ สายตาสิ้นหวังของเจียงหว่านพลันมีประกายความหวังขึ้น“พี่......ท่านพี่ ช่วยข้าด้วย ข้าไม่อยากไปแดนเถื่อน ข้าอยากกลับบ้าน ท่านพี่ช่วยข้าด้วย......”เจียงเช่อขมวดคิ้วเขม็งจ้องเจียงหว่าน สายตาแฝงเร้นด้วยแววเกยีดชังเข้าไส้เขารู้ว่าเจียงหว่านต้องโทษตาย ยามนี้แค่เนรเทศ ถือว่าเมตตามากแล้ว แต่เขาเองก็รู้ว่า สถานที่อย่างแดนเถื่อนนั้น มิใช่สถานที่ที่สตรีตัวคนเดียวจะไปได้ การเนรเทศนางไปที่นั่น เท่ากับส่งนางไปขุมนร

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 654

    “เลือดของนาง...”เจียงหว่านสีหน้าตกตะลึงตอนนั้น ตอนที่ฮุ่ยอี๋มอบยาถอนพิษใส่ในมือนาง นางเคยเอาทิ้งไว้หลายขวด เดิมทีคิดศึกษาส่วนผสมในนั้น ทว่าด้านในกลับมีส่วนผสมยาเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือเลือดมนุษย์...แรกเริ่ม นางคิดว่าเป็นเรื่องเหลวไหล! กระทั่งยามนี้นางถึงได้เชื่อความจริง ส่วนประกอบของยานั้น มีเพียงเลือดมนุษย์จริงๆ! ทั้งยังเป็นเลือดของหลินซวงเอ๋อร์! เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ในที่สุดนางก็เข้าใจ!มิน่า...ตอนนั้น นางใช้ยาปริมาณมาก แต่กลับไม่อาจทำให้หลินซวงเอ๋อร์ถึงตาย! ไม่คิดว่าเลือดของนางจะขจัดพิษในร่างนางโดยมองไม่เห็น...ฮุ่ยอี๋เอ่ย “เจ้ายังมีหน้าพูดว่าไม่ได้ฆ่าคนเป็นผักเป็นปลาอีก! เจียงหว่าน เจ้าลืมแล้วหรือว่าเจ้าวางยาซวงเอ๋อร์อย่างไร? เสด็จอาให้อภัยเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ข้าไม่มีวันเกรงใจเจ้า!”คำพูดนี้สองแง่สองง่าม เห็นชัดว่ากำเย้ยหยันเยี่ยเป่ยเฉิงที่ดึงหมาป่าเจ้าเล่ห์เข้าบ้าน!เยี่ยเป่ยเฉิงตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม ไร้ซึ่งแรงโต้กลับยามนี้ เขามิอาจชำระคืนได้ ซวงเอ๋อร์ของเขาไม่มีวันกลับมาอีกต่อไป!สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้ คือทำให้เจียงหว่านชดใช้อย่างสาสมที่สุด ส่วนตัวเขา ชีวิตที่

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 653

    เยี่ยเป่ยเฉิงมีสีหน้าเคร่งขรึม สายตาที่มองเจียงหว่านเยือกเย็นดุจน้ำแข็ง ไม่มีความอ่อนโยนเลยสักนิดเขาอยากฆ่านางตั้งนานแล้ว ที่ปล่อยนางรอดมาจนถึงตอนนี้ ก็แค่อยากให้นางได้รับความทรมานจนตายบัดนี้เห็นนางตกยากเช่นนี้ เยี่ยเป่ยเฉิงกลับรู้สึกว่าบทลงโทษแค่นี้ยังมิพอเจียงหว่านถูกทรมานจนเหมือนตายดีกว่าอยู่มานานแล้ว นางรู้ เยี่ยเป่ยเฉิงไม่มีทางปล่อยนางไปง่ายๆ หลังจากคิดดูแล้ว หากตายด้วยน้ำมือของเยี่ยเป่ยเฉิงได้ ก็คงจะดีกว่าตอนนี้ ที่ดูดซับยาเข้าสู่ร่างกายทุกวัน ถูกฝันร้ายหลอกหลอนทุกคืนสุดท้ายก็ไม่สามารถหนีจากพิษและเสียชีวิตลงได้!อย่างไรก็ตาย มิสู้ให้เยี่ยเป่ยเฉิงจบชีวิตนางด้วยมือเขาเอง!เมื่อคิดได้เช่นนี้ นางก็ยิ้มเยาะ จงใจกล่าวยั่วยุเขา “เยี่ยเป่ยเฉิง เจ้ามีฝีมือแค่นี้หรือ? แน่จริงก็ฆ่าข้าไปเลยสิ!”“ฆ่าข้าให้มันจบๆ ไปเสีย!”เยี่ยเป่ยเฉิงปรายตามองนาง พลางกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนั้น เจ้าก็ทรมานซวงเอ๋อร์เช่นนี้!”เจียงหว่านกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ใช่แล้วอย่างไร!”“ลูกในท้องนางข้าก็เป็นคนทำร้ายเอง! ร่างกายอ่อนแอแบบนั้นของนางต่อไปจะตั้งครรภ์ไม่ได้อีกแล้ว!”“ที่นางฝันร้ายทุกคืน ก็เป็นข้าที่ทำเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 652

    หลายสิบปีมานี้ นางทำเรื่องชั่วมานับไม่ถ้วน ทุกเรื่อง นางจิตใจสงบ ไม่เคยรู้สึกผิดเลยมีเพียงเจียงหลิง…มีเพียงการตายของเจียงหลิง ทำให้นางยากจะข่มตานอนได้…ตลอดเวลาที่ผ่านมา ในฐานะคุณหนูรอง เจียงหว่านไม่เป็นที่ชื่นชอบของพ่อแม่มาตลอด พี่ชายก็ยิ่งไม่สนใจนาง ทว่าเจียงหลิงกลับได้รับความรักมากมาย…นางอิจฉาเจียงหลิง และแทบอยากทำให้อีกฝ่ายหายไปจากโลกใบนี้แต่เจียงหลิงกลับรักเอ็นดูนางมาตั้งแต่ต้นจนจบ ปกป้องนาง มอบของที่ดีที่สุดในโลกใบนี้ให้แก่นาง…เจียงหลิงเป็นพี่สาวที่ดีต่อนางที่สุดบนโลกใบนี้…ทว่าที่นางต้องการหาใช่แค่พี่สาวอย่างเดียว นางต้องการความรักของทุกคน นางต้องการให้พ่อแม่ พี่ชายรกนางแค่คนเดียว นางอยากครอบครองของที่ดีที่สุดไว้กับตัวเอง ไม่ใช่รอให้คนอื่นมอบให้!ดังนั้น ในคืนวันหิมะตก นางผลักเจียงหลิงตกน้ำ มองนางจมตายทั้งเป็นอยู่ใต้น้ำ หลังจากนั้นนางก็ติดวันเกิดเวลาเกิดของเจียงหลิงบนตุ๊กตาคุณไสย แทงเธอทุกวัน สวดภาวนาทุกคืน นางต้องการให้เจียงหลิงไม่มีโอกาสได้ผุดได้เกิด ไม่หวนกลับมาตลอดกาล!เพราะมีเพียงแค่ทำแบบนี้ นางถึงจะไม่มีโอกาสแก้แค้นตัวเอง!แต่ทำไม…ทำไมตอนนี้นางถึงยังหาตัวเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 651

    ยาซึมเข้าสู่ร่างกายติดกันหลายวันทำให้เจียงหว่านค่อยๆ เป็นบ้าในห้องที่ปิดสนิท เจียงหว่านหดตัวอยู่บนพื้นเหมือนดินโคลนตัวนางเหม็นมาก ชุดกระโปรงสีรากบัวเปลี่ยนเป็นสกปรกและเก่าองครักษ์ทำให้เส้นเอ็นมือของนางขาด ตรงบาดแผลถูกทาขี้ผึ้งปิดแผลชั้นแล้วชั้นเล่าแม้ขี้ผึ้งปิดแผลจะเป็นยาสำหรับปกปิด ทว่ากลับมีผลดีต่อการหยุดเลือดบาดแผลแข็งตัวจนกลายเป็นสะเก็ดไปแล้ว เพียงแต่ไม่ได้รับการรักษาที่ดีกว่านี้ แม้จะดีขึ้นก็ยังเหลือรอยแผลเป็นอัปลักษณ์เอาไว้ธูปในห้องไม่เคยลดลงเลยทั้งวัน ประกอบกับกระกระตุ้นของต้นคลีเวีย ความคิดต่ำช้าที่อยู่ในตัวนางแทบจะถูกกระตุ้นออกมาทั้งหมดสองตานางแดงก่ำ ดูฉุนเฉียวไม่น้อย กรีดร้องโวยวายอยู่ในห้อง ประหนึ่งคนบ้าคนหนึ่งองครักษ์ที่เฝ้าอยู่หน้าห้องไม่สนใจนางสักนิด ได้แต่ทรมานนางไม่ให้นางตายทุกวันความเคียดแค้นฉายออกมาจากในตาเจียงหว่าน เวลานี้ นางได้ปล่อยว่างความหลงใหลต่อเยี่ยเป่ยเฉิงแล้ว ไม่ว่าจะรักมากขนาดไหนก็แปรเปลี่ยนเป็นความชิงชังเข้ากระดูก“เยี่ยเป่ยเฉิง! ปล่อยข้ากลับไป! ปล่อยข้ากลับไปสิ!”“แน่จริงก็ฆ่าข้าเลยสิ!ฆ่าข้าให้มันจบๆ ! ท่านมีสิทธิ์อะไรมาขังข้าไว้เช่นนี

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 650

    “ได้ยินว่าพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเจ้าเสียไปนานแล้ว แล้วเจ้ากับพี่ชายอยู่มาได้อย่างไร?”“แล้วเหตุใดเจ้าจึงขายตัวไปเป็นบ่าวไพร่? หลายปีมานี้ เจ้าคงผ่านความลำบากมิใช่น้อย เคยถูกใครรังแกหรือไม่?”หลินซวงเอ๋อร์พลันเกิดความขมขื่นในจิตใจเดิมที หากไม่เอ่ยถึงเรื่องเหล่านี้ นางยังพออดทนได้บ้าง แต่เมื่ออวี๋หว่านหนิงถามขึ้นมา นางก็อดรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเสียมิได้นางเม้มปากพลางจ้องมองนิ้วมือตนเอง น้ำตาเริ่มเอ่อล้น พร้อมหยดแหมะลงหลังมือทีละหยดนางอยู่สบายหรือไม่?นางเคยถามตนเองอยู่เช่นกันหลายปีมานี้ นางผ่านเรื่องราวมากมาย สูญเสียบิดามารดา สูญเสียพี่ชายไป กลายเป็นเด็กกำพร้าที่ไร้ญาติขาดมิตรโดยแท้แต่หากคิดดีๆ ชีวิตนางก็เคยอยู่สุขสบายมาช่วงหนึ่งนั่นคือตอนอยู่กับเยี่ยเป่ยเฉิง นางมีความสุขจริงๆในตอนนั้น เยี่ยเป่ยเฉิงเป็นกำลังใจให้นาง ซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ หาของดีมาให้กิน สอนนางเรียนหนังสือ พาไปเดินเล่นท่องทะเลสาบ ให้ความรักต่อนางอย่างชนิดไร้ผู้เทียบเทียม...ในเวลานั้น นางมีความสุขเหลือล้น เป็นความสุขมากที่สุดในชีวิต แม้แต่ฝันก็ยังเป็นฝันหวาน...แต่ต่อมา ทุกอย่างกลับแปรเปลี่ยน ก่อนหน้านี้เคยสุ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status