Home / โรแมนติก / ทาโร่ต์ ทำนายรัก / บทที่ 2 ลูกสาวคุณยาย

Share

บทที่ 2 ลูกสาวคุณยาย

Author: PIMCHADA W.
last update Last Updated: 2025-06-28 13:23:46

            ฉันรีบเร่งออกจากคอนโดในเช้าวันจันทร์  อันที่จริงฉันก็รีบเร่งทุกวันนั่นแหละ  ฉันไม่ใช่คนตื่นสาย  เป็นเพียงคนประเภทเอ้อระเหยมากกว่า  ตื่นมาก็มีเรื่องให้ทำเยอะแยะมากมายเต็มไปหมด  หลังลุกจากที่นอน  เดินสะโหลสะเหลไปกดกาน้ำร้อนชงกาแฟแล้ว  ก็ต้องอ่านหนังสือหน้าที่ฉันคั่นเอาไว้ต่อจากเมื่อคืนให้จบ

            แต่บางทีกว่าจะจบบทมันก็ใช่เวลาน่ะ  ..  ฉันเหลือบมองนาฬิกาเห็นว่าใกล้เวลาต้องออกแล้ว  แต่มันยังไม่จบบทนี่นา  จะให้ทำอย่างไรได้  ฉันเลยเลือกที่จะเร่งรีบทีหลัง  ขอแค่อ่านบทนี้ให้จบเสียก่อนเท่านั้นเอง

            วันนี้ก็เหมือนกัน  ฉันวิ่งซอยเท้าไปขึ้นรถไฟฟ้าหน้าคอนโด  แตะบัตรโดยสารได้ก็กระหืดกระหอบปีนบันไดขึ้นไป  พอขึ้นไปได้แค่ครึ่งทางก็ได้ยินเสียงรถไฟแล่นเข้าชานชาลาพอดี  ขาผอมแห้งของฉันนึกอยากจะชะลอความเร็วลง  ปล่อยให้รถไฟขบวนนี้ผ่านไปก่อนก็ได้  แต่หัวใจนักสู้ของฉันมันไม่ยอม  บังคับขาเล็กจ้อยให้ก้าวขึ้นไปจนทันขบวนนั้นจนได้ 

            โอ้วว .. คุณพระ  ฉันเหนื่อยตั้งแต่เริ่มวันเลยล่ะ

            ขบวนรถไฟในตอนเช้าก็แน่นอย่างที่คิดนั่นแหละ  ชั่วโมงเร่งรีบแบบนี้ก็ต้องทำใจ  นอกจากจะต้องวิ่งขึ้นบันไดมาแล้ว  ก็ต้องยืนจนกว่าจะถึงสถานีปลายทาง  ถึงฉันจะเป็นผู้หญิงสวย ( มีคนพูดกับฉันอย่างนั้นจริง ๆ ) แต่ฉันก็ไม่ได้นั่งหรอก 

           สถานีต่อไป .. หอสมุดแห่งชาติ

           Next Station  .. NATIONAL LIBRARY

          เสียงผู้หญิงหวานไพเราะประกาศสถานีปลายทางของฉันแล้ว  แม่เคยบอกว่าเมื่อก่อนไม่มีบีทีเอสแถวนี้  ถ้าฉันจะมาทำงานที่นี่คงไม่แคล้วต้องขับรถมาแน่นอน  แค่คิดว่าต้องขับรถในเมืองหลวงอย่างนี้   มือฉันก็เปียกแล้ว  การขับรถมันน่ากลัวมาก  ฉันเอาชนะมันไม่ได้เสียที  แต่ตอนนี้โชคดีที่มีรถไฟฟ้า  ฉันก็เลยสุขใจ

            เดินเข้ามาสแกนบัตรเข้างาน  เริ่มต้นวันอย่างสดใสเพราะในที่สุดก็มาทันเวลา  และถึงแม้จะเร่งรีบทุกเช้าแต่ฉันก็ไม่เคยมาสาย 

            ระหว่างที่ฉันกำลังเพลิดเพลินอยู่กับกองหนังสือมากมาย  ตรงหน้าก็มีเสียงคุ้นหูเอ่ยเรียกฉันออกจากภวังค์

            “น้องตา”

            ฉันเงยหน้ามองตามเสียงต้นทาง  แล้วก็ฉีกยิ้มกว้างทันทีโดยอัตโนมัติ

            “พี่กิ๊ง  .. สวัสดีค่า” ฉันเอ่ยถามออกไป  พี่กิ๊งลูกสาวคุณยายบรรณารักษ์คนก่อนที่ฉันเคารพรัก  แต่ท่านจากไปได้ปีกว่าแล้ว 

            “มาทำอะไรคะเนี่ยย” ฉันถามต่อ   เพราะมันเป็นภาพที่ไม่ชินตาเอาเสียเลย  ตั้งแต่คุณยายจากไปพี่กิ๊งก็ไม่เคยมาที่นี่อีก  และเธอก็ไม่ใช่คนชอบอ่านหนังสือเสียด้วย

            “แค่ผ่านมาแถวนี้  ไม่ได้มาอ่านหนังสือ  ไม่ต้องตกใจไปหรอก  555  แค่ลองแวะขึ้นมาดูเผื่อจะเจอน้องตา  แล้วก็เจอจริงๆ อยากชวนไปกินข้าวน่ะ .. ไปด้วยกันมั้ยจ๊ะ  ใกล้พักเที่ยงหรือยัง”

            ฉันเหลือบมองนาฬิกาเรือนมโหฬารที่ฝาผนัง 

           

            “อีก 15 นาทีค่ะ  พี่กิ๊งสะดวกมั้ยคะ”

    

            “ได้เลย  พี่รอข้างล่างนะจ๊ะ  บนนี้เงียบจัง” เธอพูดพลางทำหน้าเหยเก  ฉันรู้ว่าเธอจะบอกว่าบรรยากาศมันวังเวง  มันก็จริงนั่นแหละ  แต่ฉันชอบนะ ..  ที่จริงชอบมากเสียด้วย

            “ค่ะ  เดี๋ยวหนูตามลงไปค่ะ” ฉันยิ้มให้เธอ  เห็นพี่กิ๊งแบบนี้แล้วคุณถึงคุณยายจังเลย  คุณยายสบายดีนะคะ ฉันคิดไปในใจ

            ฉันจัดหนังสือแยกออกตามหมวดหมู่เรียบร้อย  เหลือบมองนาฬิกาอีกรอบ  เห็นว่าเข็มยาวเกือบจะชี้เลขสิบสองแล้วอีกเสี้ยวเดียวเท่านั้น  ฉันหยิบกระเป๋าและนั่งจ้องมันนิ่ง  พอเข็มยาวชี้ตรงเลขสิบสองพอดี  ฉันก็ลุกพรวดออกจากโต๊ะประจำเดินลงข้างล่างทันที

            “พี่กิ๊งไปกันค่ะ” 

            เราสองคนเดินนวยนาดไปตามทาง  อิฐก้อนสีส้มเข้มปูยาวตั้งแต่หน้าประตูหอสมุดจนถึงปากทางเข้า  อากาศวันนี้ไม่ร้อนเลย  ลมเย็นสบาย  แดดหุบ  แถมมีร่มไม้ข้างทางเป็นใจให้เราเดินได้อย่างไม่ต้องรีบร้อน

            หลังจากที่เราสั่งอาหารกันแล้ว  ฉันก็เริ่มเล่าเรื่องตื่นเต้นให้พี่กิ๊งฟัง  ฉันรู้สึกสนิทใจกับพี่กิ๊งมากทีเดียวทั้งที่เราไม่ได้เป็นเพื่อนกันมาก่อน  เพียงแต่ช่วงที่คุณยายยังอยู่  พี่กิ๊งซึ่งเป็นลูกสาวจะเป็นคนมารับมาส่งคุณยายทุกวัน  ได้เจอหน้ากันบ่อย  ฉันและเธอถึงได้สนิทกัน  พอได้พูดคุยกันก็ดันถูกคอ  ก็ยิ่งสนิทสนมกับเธอมากขึ้นเรื่อย ๆ  มาจนบัดนี้

            “หนูมีอะไรจะเล่าให้ฟัง  พี่กิ๊งอย่าขำนะคะ” ฉันอยากเล่าเรื่องส่วนตัวเรื่องนี้ให้ใครสักคนที่ฉันไว้ใจฟัง  แต่ไม่กล้าเล่าให้แม่ฟัง  ส่วนลิลลี่เธอต้องหัวเราะเยาะฉันแน่ ๆ ฉันเลยเก็บเธอเอาไว้ทีหลัง

            “ห้ะ  .. อะไรล่ะ” เธอพูดปนน้ำเสียงขบขัน 

            แน่ะ! ก็บอกว่าอย่าขำ .. ฉันจะเล่าดีมั้ยนะ

            แต่แล้วก็เล่าออกไป

            “คือว่า  ..  หนูไปดูดวงมาค่ะ”

            “แค่นั้นเอง  จะกลัวพี่ขำทำไมเนี่ย”  พี่กิ๊งพูดปนขำคิกคัก  นี่ขนาดฉันยังไม่ได้เล่าอะไรเลยนะ 

            “คือว่า  หมอดูเขาทักมาว่า  หนูกำลังจะเจอเนื้อคู่ค่ะ”

            “จริงเหรอ  งั้นก็ดีน่ะสิ  .. ดีมากเลย  น้องพี่จะขายออกแล้วใช่มั้ย” เธอทำตาโต  ดูท่าทางจะดีใจจริง ๆ

            “แต่แม่หมอคนนั้น  เขาบอกว่า  ถ้าจะให้ดี  หนูต้อง ..  เอ่อ ออ ..  ต้อง” ฉันพูดตะกุกตะกัก

            “ต้องอะไร” พี่กิ๊งอยากรู้เต็มที่แล้ว

            “ต้องจำกัดขน  .. เอ๊ย! โทษทีค่ะ  กำจัดขนก่อนค่ะ” ฉันยกมือขึ้นเป็นปางห้ามญาติและอายหน้าแดง

            “55555 อะไร  เกี่ยวอะไรด้วย  เตรียมพร้อมเลยว่างั้น  แล้วเขาให้กำจัดตรงไหน”  เธอหัวเราะเอิ้กอ้าก

            “ทุกตรงค่ะ  โดยเฉพาะร่มผ้า” ฉันหลับตาปี๋

            “5555555555555” พี่กิ๊งหัวเราะดังลั่น  แล้วก็พยายามสงบสติอารมณ์ลงได้แค่นิดหน่อย  แต่ยังขำค้างไม่หยุด  นั่งกินข้าวไปก็ขำไป 

            เฮ้อ! .. ไม่ได้ช่วยอะไรฉันเลยจริง ๆ

            กินข้าวเสร็จเราก็เดินกลับมายังหอสมุดเช่นเดิม  ระหว่างทางพี่กิ๊งถามขึ้นมาว่า  ฉันเชื่อเรื่องโชคชะตามากแค่ไหน  ฉันตอบเธอไปว่า  ที่จริงฉันชอบเรื่องลึกลับ  ชอบเรื่องดวงดาว  ชอบโหราศาสตร์มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว  จะเรียกว่าเชื่อมันก็ไม่น่าจะผิดนักหรอก  แต่ฉันเกิดมาในครอบครัวคุณหมอ  ฉันเลยมีความเชื่อที่อยู่บนพื้นฐานของการไตร่ตรอง  ยังไม่ถึงขั้นงมงาย  ฉันแค่เชื่อว่าโลกนี้มีพลังงานที่เรามองไม่เห็นอยู่จริง ๆ  อะไรทำนองนั้นมากกว่า

            ที่ฉันตั้งใจเล่าเรื่องหมอดูให้พี่กิ๊งฟัง  เพราะต้องการปรึกษาเรื่องคอร์สเสริมความงามต่างหาก  ฉันดันลงคอร์สไปเต็มสตรีมเลย  แต่ลังเลไม่อยากไปทำต่อแล้ว  ฉันแค่นึกเสียดายเงินขึ้นมาก็เท่านั้นเอง 

            พี่กิ๊งแนะนำว่า  ถ้าฉันไม่สบายใจก็ไม่ต้องไปทำหรอก  ถ้าเนื้อคู่ของฉันกำลังจะมาจริง ๆ ถึงฉันจะมีขนหรือไม่มี  มันก็ไม่ได้ทำให้ดวงชะตาของฉันเปลี่ยนไปแน่นอน  ซึ่งฉันเองก็เห็นด้วยนะ  ตอนนั้นฉันคงเป็นบ้าไปชั่วขณะ  สรุปแล้วฉันจะยกสิทธิ์ให้ลิลลี่  เธอคงไม่ปฏิเสธฉันมั่นใจ

            ตอนท้ายก่อนที่พี่กิ๊งจะขอตัวกลับไป  เธอบอกอะไรฉันอย่างหนึ่งที่ทำให้ฉันสงสัยใคร่รู้

            “น้องตาอยากศึกษาโหราศาสตร์ด้วยตัวเองมั้ยล่ะ  จะได้ไม่ต้องไปดูดวงกับคนอื่น  แล้วไปเจอเรื่องแปลก ๆ  แบบนี้อีก”

            “เย็นนี้มาหาพี่ที่บ้านสิ  พี่จะเอาอะไรให้ดู” เธอทิ้งท้าย 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทาโร่ต์ ทำนายรัก   บทที่ 15 แรงดึงดูด

    สี่ไม้เท้า ห้าถ้วย และสามถ้วย ฉันจ้องมองหน้าไพ่ทาโร่ต์ที่ฉันสั่งมาทางออนไลน์ เพราะในที่สุดฉันก็แพ้ความปรารถนาของตัวเอง เช้านี้หลังจากตื่นมาอย่างสดชื่นแบบไม่มีเสียงนาฬิกาปลุก เพราะเป็นวันหยุดงานวันแรกของฉัน และพึ่งบอกปฏิเสธการไปทริปครอบครัวที่ญี่ปุ่นกับแม่ไปเรียบร้อย โดยบอกว่าฉันนัดกับลิลลี่เอาไว้ก่อนแล้ว แม่ไม่ตัดพ้อไม่ต่อว่า แม่แค่บอกว่าอยากให้ฉันออกไปท่องเที่ยวบ้าง และพอรู้ว่าฉันมีแผนอยู่แล้วแม่ก็โล่งใจ ตอนนี้ฉันยังไม่มีจิตใจจะไปท่องเที่ยวที่ไหน นอกจากที่นั่นอีกแล้ว .. น้ำเสียงแม่ก็ดูปกติดีบอกว่าคิดถึงฉัน ฉันเองก็คิดถึงท่านทั้งสอง ไว้ฉันจะไปชดเชยให้ทีหลัง จากนั้นฉันจึงนั่งลงทำใจให้สงบแล้วลองจับไพ่ดูบ้าง ฉันทดลองสับไพ่อย่างที่เคยเห็นผู้ทำนายแต่ละคนทำ ดูเหมือนง่ายดายแต่เอาเข้าจริงไม่ง่ายอย่างที่คิดเลย ไพ่ร่วงกราวใบแล้วใบเล่า จนฉันต้องตั้งสติและค่อยเป็นค่อยไป เมื่อสับไพ่ได้จนพอใจแล้ว ฉันก็คลี่ไพ่บนโต๊ะทำงานของฉัน คลี่มันออกเป็นครึ่งวงกลมอย่างที่ฉันเคยเห็นเดฟทำประจำเลย

  • ทาโร่ต์ ทำนายรัก   บทที่ 14 วันหยุดราชการ

    ฉันตื่นขึ้นอีกครั้งในเวลาเช้ามืดก่อนนาฬิกาจะปลุกเสียอีก ซึ่งนั่นเป็นที่น่าแปลกใจอยู่มาก เพราะโดยปกติถ้าฉันเข้านอนดึกมากอย่างเมื่อคืนล่ะก็ .. ฉันจะนอนลากยาวแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวไปจนถึงเที่ยงวัน คงเป็นเพราะขณะนี้หัวใจของฉันว้าวุ่นไปหมด ฉันนึกถึงคำพูดและแววตาห่วงหาอาลัยของเขาอย่างแจ่มชัดทันทีที่ลืมตาตื่น นี่ฉัน .. กำลังคิดถึงชายหนุ่มคนหนึ่งอยู่จริง ๆ เหรอ มันเป็นเรื่องใหญ่และใหม่มากเลย สำหรับผู้หญิงที่มีชีวิตวนเวียนซ้ำซากอย่างฉัน แต่ที่แน่ ๆ เขาไม่ใช่ชายหนุ่มทั่วไป แต่ .. แต่เขา .. เป็นชายที่งดงามที่สุดเลย ฉันขอใช้คำนี้เลยแล้วกันเพราะมันบอกความเป็นท่าน เอเดนได้ตรงใจฉันที่สุดแล้ว ท่าน เอ เดน .. ฉันเอ่ยเรียกชื่อเขาซ้ำๆ ในใจ พลางยิ้มด้วยความเขินอาย เปิดผ้าห่มออกและก้าวขาอย่างมั่นใจไปยังระเบียง เมื่อแหวกเปิดม่านออก บรรยากาศภายนอกสดชื่น โลกของฉันก็มีอากาศแบบนี้ด้วยเหมือนกันนะฉันไม่ยักสังเกต ปกติก็หายใจเข้าออกทุกวันไปอย่างอัตโนมัติไม่เคยได้ฉุกคิด หรือหยุดซาบซึ้งกับอะไรพวกนี้เลย ฉันคิดแล้วสูดมันเข้าไปใ

  • ทาโร่ต์ ทำนายรัก   บทที่ 13 แล้วท่านจะมาอีกมั้ย

    เมื่อฉันคลายข้อข้องใจลงแล้ว ฉันก็ลองถามคำถามตรงหน้าดูว่าไพ่ทั้งสามใบนั้นหมายถึงอะไร “ไพ่เด็กถือไม้ หมายถึง การริเริ่ม ริรักขอรับ ใบนี้คือ หนึ่งเหรียญ หมายถึงของมีค่า ของรักหรือการพบนางหรือชายในฝัน และใบนี้ใบสุดท้ายคือ สองดาบ หมายถึง ความวิตกกังวล คิดอะไรไม่ถูกมองอะไรไม่ออก สับสนลังเล ขอรับคุณผู้หญิง อยากให้ข้า เอ่ยคำพยากรณ์ออกมาหรือไม่ขอรับ” กระต่ายน้อยถามฉันด้วยอาการมีเลศนัย ฉันอึกอักบอกใบ้ว่าไม่ต้อง พร้อมกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ ฉันได้ยินเสียงกระถางต้นไม้หล่นลงพื้นบริเวณสวนหน้าบ้าน ท่านเอเดนออกไปทำอะไรเสียนานสองนาน นั่นเขาจะพังสวนของเขาหรือไงกันนะ ฉันคิดพลางลนลานเปลี่ยนเรื่องคุย แล้วฉันก็พุ่งเป้าไปที่เจ้าของคนเดิมของหนังสือเล่มนั้น ใช่สิ! .. คุณยายล่ะ “ขอถามอีกเรื่องได้มั้ยคะ” ฉันนึกเกรงใจเดฟขึ้นมานิดหน่อย คนรอบตัวฉันบางทีก็แสดงอาการระอาใจกับเรื่องความขี้สงสัย อยากรู้ไปเสียหมดของฉัน ฉันจึงขออนุญาตถามเขาอีกที “ได้เสมอขอรับ คุณผู้หญิง” เดฟสุภาพจนฉันชักจะเกรงใจเขาขึ้นมาจริง ๆ แล้ว ฉันจะถามแต่คำถ

  • ทาโร่ต์ ทำนายรัก   บทที่ 12 โลกของคุณ

    ราวกับฉันหลุดไปอีกโลกหนึ่งอีกครั้งเสียแล้ว ฉันจะเลิกประหลาดใจกับดินแดนแห่งความหวังแห่งนี้ได้เมื่อไหร่กันนะ วิหารหินและบรรยากาศแสนสดชื่นเมื่อครู่นี้ คล้ายจะธรรมดาไปเลย เมื่อเทียบกับสถานที่ตรงหน้า บ้านเมืองที่นี่ .. จะเรียกว่าไงดี ให้ตายเถอะ .. คุณพระช่วย .. มัน .. ว้าววว!! ฉันปล่อยมือจากการเกาะเกี่ยวบุรุษหนุ่มรูปงาม แล้วหันมาเพลิดเพลินเจริญใจกับสิ่งตรงหน้า ราวกับว่าตัวฉันกำลังหลุดไปอยู่ในเทพนิยายเสียแล้ว สองข้างทางเต็มไปด้วยบ้านเรือนที่สร้างจากก้อนหินทรงสี่เหลี่ยมสีขาวปนครีม แต่เมื่อถูกแสงอาทิตย์อัสดงฉาบทาก็มองคล้ายเป็นสีทองอร่ามไปทั่ว ตามกำแพงบ้านมีดอกไม้บานสะพรั่งเลื้อยเกาะคลุมไปทั่ว บางจังหวะดอกไม้ก็ยอมเว้นช่วงเผยให้เห็นความงามและความแข็งแกร่งของกำแพงอิฐ ไฟสีทองนวลตาถูกเปิดต้อนรับรัตติกาลแล้วในขณะนี้ มันอาบย้อมบรรยากาศทั้งเมืองให้สว่างไสว คล้ายต้องการส่องสว่างโชว์ให้ที่แห่งนี้นั้น โดดเด่นที่สุดในจักรวาล มันสวยงามจนฉันอ้าปากค้างตกตะลึง เขาทั้งสองเ

  • ทาโร่ต์ ทำนายรัก   บทที่ 11 เอ่อ .. สวัสดีค่ะ

    ฉันเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึงกับภาพตรงหน้า จึงรีบหลุบตามองต่ำหัวใจเต้นแรง แล้วก็ทำใจกล้าเหลือบตามองไปยังที่แห่งนั้นอีกครั้ง ชายหนุ่มรูปงาม โอ้ว .. เขารูปงามมาก ๆ ฉันไม่อาจนึกได้เลยว่า เคยเห็นเค้าโครงหน้าและรูปร่างที่งดงามขนาดนี้มาบ้างหรือเปล่า อาจจะเคย .. แต่ก็เป็นเพียงในจินตนาการจากการอ่านนิยายของฉันเท่านั้น แต่นี้ .. มันอะไรกัน เขานั่งคุกเข่าข้างเดียวทำท่าทางเหมือนกำลังคุยปรึกษากับเดฟอยู่ก่อนแล้ว ก่อนที่ฉันจะปรากฏกาย ในขณะที่ฉันกำลังใจเต้นระส่ำ ชายคนนั้นก็ยืนขึ้น เขาเองก็จ้องฉันไม่วางตาเช่นกัน เขาคงตกใจและสงสัยแน่นอนว่าฉันเป็นใคร เขาสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำทับด้วยกั๊กสูทสีเทาพอดีตัว และกางเกงขายาวสีดำ ดูเป็นทางการแต่ก็ลำลองในทีอยู่ด้วยเหมือนกัน มันเป็นสไตล์แบบไหนกัน ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องแฟชั่นเท่าไหร่นัก ถ้าเป็นลิลลี่เพื่อนรักล่ะก็เธอต้องรู้แน่ ฉันเหลือบมองตัวเองอยู่ครู่หนึ่งนึกขอบคุณตัวเองมากเหลือเกิน ที่วันนี้ฉันเลือกชุดนอนเป็นชุดกระโปรงสีครีมผ้าสองชั้น ชายกระโปรงยาวกรอมเท้า แขนเส

  • ทาโร่ต์ ทำนายรัก   บทที่ 10 กลับมาแล้ว

    ช่วงนี้ฉันหมกมุ่นอยู่กับตำราเล่นนั้นมากเหลือเกิน ทุกเย็นเมื่อเลิกงานฉันจะรีบตาลีตาเหลือกกลับคอนโด ไม่รู้เหมือนกันว่าจะรีบอะไรนักหนา เพราะถึงอย่างไรฉันก็ไม่มีนัดกับใคร ไม่ต้องคอยทำอาหารปรนนิบัติใครทั้งสิ้น ฉันก็มีเพียงแค่ตัวฉันเองคนเดียว ขนาดลิลลี่เพื่อนรัก โทรมาชวนออกไปดินเนอร์ (เธอบอกกับฉันแบบนั้น ) ฉันยังบอกปัดเธอไปเลย ว่าช่วงนี้ฉันยุ่ง .. แล้วลิลลี่เพื่อนรักก็สวนกลับทันควัน ว่าฉันไม่มีทางยุ่งได้หรอก ซึ่งนั่นก็จริง เพราะเธอรู้จักวงเวียนชีวิตอันเรียบง่ายของฉันดี แต่เธอก็ไม่เซ้าซี้ต่อแล้วบอกว่าจะรอให้ฉันออกปากชวนเองก็แล้วกัน นี่แหละเธอจึงเป็น ลิลลี่เพื่อนรักตลอดกาลของฉัน ตำแหน่งนี้ฉันยกให้เธอคนเดียว เมื่อมาถึงคอนโดฉันก็เร่งรีบจัดการธุระส่วนตัว ถึงฉันจะอยากฉวยหนังสือออกมานั่งอ่านสักเพียงใด แต่ฉันก็มีนิสัยต้องอาบน้ำก่อนขึ้นเตียงนอนทุกครั้งหลังกลับจากข้างนอก และฉันไม่เคยทำลายกฎที่ฉันสร้างมันขึ้นมาเลยสักครั้ง ฉันรักความสะอาดสุด ๆ บางทีสิ่งนี้อาจจะมาจากการเป็นลูกสาวของคุณหมอทั้งสองก็เป็นได้ เมื่อเร

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status