共有

บทที่ 5

作者: อู๋เสี่ยวเฉิน
“อืม ฉันเกาะผู้ชายกิน แล้วมันยังไงเหรอคะ?” เจียงหลันยอมรับเรื่องนี้ต่อหน้าทุกคนอย่างเปิดเผย ไม่มีท่าทีหลบเลี่ยงเลยแม้แต่น้อย

เซวียเจียหนิงนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมรับกับปากตัวเองแบบนั้น ทันใดนั้นพลันพูดจาเหน็บแนม “เธอยังจะมีหน้ามาพูดอีกเหรอ? เพราะในวงการบันเทิงมีคนแบบเธอ วงการนี้ถึงได้มืดมนขนาดนี้ไง...”

“งั้นเหรอคะ?” เจียงหลันร้อนอ้อ ยิ้มแล้วว่า “แต่ทำไมฉันดันเจอว่าคุณเซวียเองก็เกาะผู้ชายกินเหมือนกันละคะ แถมยังสุขสำราญกว่าฉันเสียอีก เกาะติดคนอื่นอย่างกับปลิง”

ใบหน้าของเซวียเจียหนิงพลันดูลนลาน จากนั้นก็ถลึงตามองเจียงหลันด้วยความโกรธ “พูดบ้าอะไรของเธอ!”

เจียงหลันยักไหล่ พูดอย่างใสซื่อว่า “ฉันไม่ได้พูดมั่ว ๆ นะคะ ฉันยังรู้จักผู้ชายคนนั้นด้วย เขาก็จบจากหนานอิ่งเหมือนกัน เป็นรุ่นพี่ฉันปีเดียวเอง ที่บ้านมีเงินถุงเงินถัง แถมฉันยังสนิทกับเขามาก ๆ ด้วย!”

“เธอ...” หลังถูกเปิดโปง เซวียเจียหนิงก็ไม่รู้ว่าควรจะตอบโต้กลับไปอย่างไรดี ได้แต่ถลึงตาใส่เจียงหลันหนัก ๆ

ผู้คนรอบข้างยิ่งมองเซวียเจียหนิงด้วยสายตาเยาะเย้ย

“ฮ่า ๆ ๆ ล้อเล่นเท่านั้นเองค่ะ คุณเซวียจะเป็นคนแบบนั้นไปได้ยังไงกัน!” ตอนที่บรรยากาศเต็มไปด้วยความอึดอัดนั้นเอง เจียงหลันก็หัวเราะขึ้นมากะทันหัน ตบมือลงบนบ่าเซวียเจียหนิงเบา ๆ “คุณเซวียอย่าเก็บไปใส่ใจเลยนะคะ”

พูดจบก็หมุนตัวเดินจากไป ทว่าเซวียเจียหนิงที่ยืนอยู่ตรงนั้นกลับกำหมัดแน่น

แบบนี้ก็แย่สิ ไม่ว่าเจียงหลันจะล้อเล่นหรือไม่ คนในกองถ่ายต้องคิดว่าเธอเองก็เกาะผู้ชายกินแน่! เพราะอย่างไรหลายครั้งตอนที่เธอแคสต์บทละครเรื่องนี้ ก็แค่ทำพอเป็นพิธีเท่านั้นเอง

เดิมทีเจียงหลันก็ชอบละครโรแมนติกร่วมสมัยเรื่องนี้อยู่แล้ว ทั้งไม่ต้องคอยปรนนิบัติลู่สิงโจว จึงมีเวลามานั่งท่องบทจนคล่องปากได้เต็มที่ ไม่นานก็เข้าถึงบทบาท

กลับเป็นเซวียเจียหนิง ที่อาจเป็นเพราะคำพูดเหล่านั้นเมื่อครู่นี้ ตอนแสดงฉากปะทะคารมกับเจียงหลันมักสมาธิหลุดบ่อย ๆ ถ่ายพลาดครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้ผู้กำกับโมโหจนแทบจะโยนหมวกใส่พร้อมกับด่าเธอเลยทีเดียว

เซวียเจียหนิงยิ้มพลางกล่าวขอโทษ ทว่าแอบมองเจียงหลันด้วยสายตาเชือดเฉือนอยู่หลายครั้ง แทบอยากจะสับแม่ตัวการคนนี้ออกเป็นหมื่นเป็นพันชิ้น ส่วนเจียงหลันก็ยิ้มพลางพูดคุยกับคนอื่น ราวกับว่ามองไม่เห็น

ถ่ายละครฉากหนึ่งเสร็จ ระหว่างเวลาพักเจียงหลันเลยไปห้องน้ำ

เพิ่งล้างมือและเป่ามือให้แห้งกับเครื่องเป่ามือ โทรศัพท์ที่พกติดตัวมาด้วยพลันดังลั่น

ครั้นเห็นว่าเป็นสายจากโรงพยาบาล เจียงหลันก็รับสายด้วยความรีบร้อนโดยไม่สนใจจะเป่ามือให้แห้ง เธอพูดอย่างลนลานอยู่บ้าง “คะ คุณหมอคะ อาการของน้องชายฉันกำเริบอีกแล้ว ใช่ไหมคะ?”

“ไม่ใช่หรอกครับ คุณเจียงไม่ต้องรีบร้อนไป น้องชายของคุณอาการทรงตัวดีเลยครับ” แพทย์เจ้าของไข้กล่าวปลอบเจียงหลัน “ช่วงบ่ายคุณพอมีเวลาไหมครับ? น้องชายของคุณฟื้นแล้ว คุณมาเยี่ยมที่โรงพยาบาลได้นะครับ”

ฟื้นแล้ว?

สองปีมานี้เจียงหลันต้องทรมานตั้งมากมายไม่รู้เท่าไร เธอหวัง เธอวิงวอน ทว่ากลับต้องผิดหวังอย่างถึงที่สุดครั้งแล้วครั้งเล่า จนคิดส่งน้องชายไปรักษาที่เมืองนอก นึกไม่ถึงเลยว่าน้องชายเธอจะฟื้นแล้ว

ข่าวนี้มันเหนือความคาดหมายเกินไป เธอนิ่งไปนานก็ยังไม่ได้สติกลับมา

สุดท้ายก็เป็นแพทย์เจ้าของไข้ที่เรียกอยู่หลายครั้ง เจียงหลันที่ถูกเรียกจนดึงสติกลับมาได้ก็วิ่งไปด้านนอกอย่างรีบร้อน พลางพูดไปด้วยว่า “ตอนนี้ฉันว่างค่ะ จะไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้! จะไปตอนนี้เลยค่ะ!”

หัวใจของเจียงหลันติดอยู่กับเรื่องที่น้องชายฟื้นแล้ว ไม่ทันได้สังเกตรอบ ๆ ข้าง ทันใดนั้นก็ถูกคนผลักจากด้านหลังอย่างแรง เธอถลาไปข้างหน้าอย่างไม่ทันตั้งตัว จนท้องกระแทกมุมโต๊ะ

พริบตานั้น ท้องของเธอพลันเจ็บแปลบขึ้นมา

เจียงหลันสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ พอหันไปมองกลับไม่เห็นใคร เธอเองก็ไม่ทันได้สนใจอะไรมากนัก วิ่งกุมท้องออกไปด้านนอก ครั้นขึ้นรถตู้ได้ก็รีบเร่งให้คนขับเคลื่อนรถไปโรงพยาบาล

แรงกระแทกนั้นทำเอาเจ็บไม่เบา เจียงหลันนั่งอยู่บนรถแล้วยังหอบหายใจเฮือกใหญ่ รู้สึกได้ว่าเบาะรถเหมือนจะชื้น ๆ เล็กน้อย พอก้มหน้ามองถึงได้เห็นว่าบนกระโปรงสีม่วงมีจุดสีเข้มเป็นด่างเป็นดวงหลายจุด

คนขับรถเองก็ได้กลิ่นคาวเลือดเช่นกัน อดเอ่ยปากถามไม่ได้ “คุณเจียง ไอนั่นของคุณมาแล้วเหรอครับ?”

“ไม่เป็นไร คุณออกรถเถอะค่ะ” เจียงหลันเองก็คิดว่าประจำเดือนมาก่อนกำหนด คว้าเสื้อกันหนาวจากเบาะหลังมาใส่ ทว่าความจุกเสียในท้องยังคงทำให้เธอรู้สึกไม่สบายตัวมาก

ทันทีที่รถตู้แล่นมาถึงโรงพยาบาล เจียงหลันก็รีบวิ่งเข้าไปทันที

หลังจากเธออยู่กับลู่สิงโจว ทำให้มีเงินอยู่ในมือไม่น้อย เธอเลยเชิญแพทย์ที่เก่งที่สุดมาเป็นแพทย์เจ้าของไข้ กระทั่งห้องพักผู้ป่วยก็เป็นห้องระดับพิเศษ ในหนึ่งวันมีพยาบาลสามคนคอยหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันเฝ้าไข้

ตอนนี้ ในห้องพักผู้ป่วยระดับวีไอพีที่ลักษณะไม่ต่างจากบ้าน คนที่เดิมทีได้แต่นอนอยู่บนเตียงได้ลุกขึ้นมานั่งพิงอยู่บนเตียงแล้ว

หนุ่มน้อยอยู่ในชุดผู้ป่วย ผมทรงสกินเฮด เครื่องหน้าดูอ่อนเยาว์ ท่าทางเหมือนกับคนอายุสิบแปดสิบเก้าปี ดวงตาดำแฝงไปด้วยความสับสน ราวกับกำลังคิดว่าตัวเองอยู่ที่ไหน

“สะ เสี่ยวสวิน...” เจียงหลันเดินเข้าไปในห้องพักผู้ป่วยทีละก้าว เธอมองหนุ่มน้อยที่นั่งอยู่บนเตียงแล้วรู้สึกเหมือนไม่ใช่ความจริง กลัวว่าตัวเองกำลังอยู่ในความฝัน ที่วินาทีถัดไปเขาจะหายไป

“ใครเรียกผมน่ะ?” เจียงสวินที่ถูกเรียกหันไปมอง พอเห็นเจียงหลันก็กะพริบตา จากนั้นใบหน้าพลันเปี่ยมล้นไปด้วยความดีใจ ร้องเรียกด้วยความดีใจระคนแปลกใจ “พี่ พี่มาแล้วเหรอ?”

เขาดิ้นรนอยากจะลงจากเตียง สุดท้ายเพราะนอนนานไป ขาทั้งสองข้างจึงไร้เรี่ยวแรง ขยับไม่ได้เลยสักนิด
この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード

最新チャプター

  • ที่รัก อย่าคิดหนีนะ   บทที่ 30

    เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของลู่สิงโจวเปลี่ยนเล็กน้อย เจียงหลันมองเห็นอย่างชัดเจน ไม่ต้องรอให้เขาพูด เธอก็พูดขึ้นว่า “สัญญาก็เซ็นไปแล้ว ฉันไปได้หรือยัง?”ลู่สิงโจวขมวดคิ้ว คำเตือนที่กำลังจะพูด ก็ไม่อยากพูดอีกต่อไปแล้ว “อืม”หลังเจียงหลันจากไป ลู่สิงโจวก็นำสัญญาผู้จัดการที่อยู่ในมือไปล็อกเก็บไว้ในตู้นิรภัยดึกมากแล้ว หน้าต่างกระจกบานใหญ่จากตึกชั้นสูงใสแจ๋วจนเห็นได้ชัด สามารถมองเห็นวิวตอนกลางคืนที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดของใจกลางเมืองเยี่ยนได้อย่างเต็มตา คำถามที่เจียงหลันเพิ่งถามดังขึ้นในหูเขา คิ้วของเขาขมวดเล็กน้อยอย่างเงียบเชียบตอนแรก เขาไม่ได้ไม่ลังเลใจเลยกับการผ่าตัดเปลี่ยนไต ถ้าไม่ใช่เพราะกู้ซีเอินต้องการการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน เจียงหลันก็อาจจะเก็บลูกคนนั้นไว้ก็ได้เขารู้สึกว่านี่ไม่เกี่ยวกับรักหรือไม่รัก แต่เป็นเพราะการที่มีเจียงหลันอยู่ทำให้เขารู้สึกสบายใจช่วงไม่กี่ปีมานี้ กู้ซีเอินทำเรื่องต่าง ๆ ยิ่งเกินเลยมากขึ้นเรื่อย ๆ ถึงแม้เขาจะยังคิดถึงความสัมพันธ์ตั้งแต่เด็กที่เคยเติบโตมาด้วยกัน แต่เวลาผ่านไปนานเข้าก็เหนื่อยแล้วแม้ว่าเจียงหลันจะไม่ถือว่าเป็นคนอ่อนโยนและบริสุทธิ์ใจสักเ

  • ที่รัก อย่าคิดหนีนะ   บทที่ 29

    ยังไม่ทันเดินถึงประตู ด้านหลังก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นอย่างกะทันหัน “อา...”เสียงนี้มัน...เจียงหลันหมุนตัวกลับอย่างรวดเร็ว มองไปยังที่มาของเสียงด้วยความตกใจในมือลู่สิงโจวถือโทรศัพท์อยู่ กำลังเปิดวิดีโอที่ทำให้เลือดในร่างกายพลุ่งพล่านวิดีโอเกือบจะเป็นมุมมองจากสายตาของผู้ชม มองไปที่ผู้หญิงคนหนึ่งอย่างใกล้ชิด...ชายหนุ่มหันโทรศัพท์ไปทางเจียงหลัน นิ้วมือของเขาเคาะไปที่โต๊ะเบา ๆ เป็นจังหวะ ก่อนจะพูดอย่างไม่ใส่ใจ “เจียงหลัน เธอจะออกไปก็ได้ แต่ถ้าวันนี้เธอก้าวออกจากประตูนี้ไป วิดีโอพวกนี้จะถูกอัปโหลดลงอินเทอร์เน็ตทันที”“ลู่สิงโจว คุณทำเกินไปแล้ว!”เธอไม่อยากเชื่อเลยว่า ลู่สิงโจวถึงขั้นยังถ่ายของพรรค์นี้เอาไว้!วิดีโอยังคงเล่นต่อไป ใบหน้าของเจียงหลันแดงระเรื่อขึ้น เธอพุ่งเข้าไปแย่งโทรศัพท์มา มือไม้รีบกดลบอย่างบ้าคลั่งลู่สิงโจวมองเธออย่างไม่แยแส พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ลบไปเถอะ ฉันมีสำรองเยอะแยะ”“คุณคิดจะทำอะไรกันแน่?” เจียงหลันโกรธจนห้ามไม่อยู่ เธอทุ่มโทรศัพท์จนพังเละเทะเธอเต็มไปด้วยความโกรธ แต่บรรยากาศในห้องนี้กลับสงบเหมือนมีลมเย็นพัดผ่าน และหายไปโดยไม่เหลือร่องรอยสายตาลู่สิ

  • ที่รัก อย่าคิดหนีนะ   บทที่ 28

    “อะไรนะ?”ฟังคำพูดของพี่เฉียวจบ สีหน้าเธอเปลี่ยนทันที พูดเสียงดังขึ้นว่า “พวกคุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า? ฉันถ่ายปกไปแล้ว แต่ยังไม่ได้รับเงินสักบาทเลยนะ? แล้วพวกคุณจะให้ฉันชดใช้เงินเหรอ?”“...”“จะยกเลิกสัญญาก็ยกเลิกไป แต่ฉันจะบอกพวกคุณให้นะ ไม่ว่าเหตุผลอะไรก็ตาม อย่าหวังว่าจะได้เงินฉันแม้แต่สลึงเดียว”“...”เมื่อวางสายแล้ว เจียงหลันตบโทรศัพท์ลงบนโต๊ะอย่างโกรธจัด “รังแกกันเกินไปแล้ว”“มีอะไรเหรอพี่?” เจียงสวินขมวดคิ้ว สีหน้าเต็มไปด้วยความเป็นห่วง “ใครรังแกพี่?”เจียงหลันก้มหน้ามองชามข้าวอยู่นาน ก่อนจะรีบหยิบเสื้อคลุมแล้วเดินออกไป “เสี่ยวสวิน นายรออยู่บ้านนะ กินข้าวดี ๆ ไม่ต้องรอพี่ พี่มีธุระต้องออกไปข้างนอกสักหน่อย”“พี่ ดึกขนาดนี้แล้วจะไปไหน ผมไปเป็นเพื่อน”“ไม่ต้อง”พูดจบ เจียงหลันก็กระแทกประตูปิด ก่อนจะเรียกรถแท็กซี่ที่หน้าคอนโดแล้วออกไปอย่างรวดเร็ว“คุณคนขับคะ ไปเฟิงสิงกรุปค่ะ”ในกระจกมองหลังสะท้อนใบหน้าของเธอที่เต็มไปด้วยความหมองหม่น เธอเหนื่อยจนแทบหมดแรงในการเปลี่ยนสายงานมาเป็นนางแบบ หวังว่าลู่สิงโจวจะปล่อยเธอไปบ้าง คิดไม่ถึงว่าเขาจะทำให้สถานการณ์แย่ลงกว่าเดิม ถึงขั้นที

  • ที่รัก อย่าคิดหนีนะ   บทที่ 27

    เธอเป็นคนที่เจ้าคิดเจ้าแค้นมาแต่ไหนแต่ไร คุณต่อยฉันหนึ่งหมัด ฉันต้องเตะกลับคืนหนึ่งที ต้องขอบคุณลู่สิงโจว ที่ทำให้เธอได้เตะคืนเร็วขนาดนี้วันถัดมา บริษัทใหม่มีการแคสต์บท ซึ่งได้แจ้งไว้ล่วงหน้าแล้ว เจียงหลันแต่งหน้าเสร็จตั้งแต่เช้าตรู่ และออกไปแล้วแต่พี่หลันซึ่งเป็นผู้ดูแลของบริษัทกลับขวางเธอไว้ตรงหน้าห้องแคสติ้ง “เจียงหลัน มาคุยกับพี่หน่อย”“มีอะไรเหรอคะ? พี่หลัน ฉันกำลังรอแคสต์บทอยู่นะคะ ใกล้ถึงคิวฉันแล้ว”“เธอไม่ต้องแคสต์บทแล้ว”พี่หลันยื่นสัญญาฉบับหนึ่งให้เธอโดยตรง แล้วพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “ทางบริษัทตัดสินใจจะยกเลิกสัญญากับเธอแล้ว”“ยกเลิกสัญญา?”เจียงหลันสีหน้าเปลี่ยน “ทำไมล่ะคะ? ฉันเพิ่งเซ็นสัญญาได้ไม่กี่วันเองนะ แล้วฉันก็ไม่ได้ทำอะไรผิดด้วยนี่?”“อันนี้ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน เป็นคำสั่งจากบอสโดยตรง สัญญาก็เตรียมไว้แล้ว ดูท่าเขาคงไม่ให้โอกาสเธอแก้ตัวเลยด้วยซ้ำ ฝ่ายการเงินจะโอนเงินชดเชยให้เธอภายในสองวันนี้ เธอเซ็นชื่อเลยเถอะ”“ไม่ใช่สิ” เมื่อเผชิญกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงนี้ เจียงหลันก็รู้สึกไม่รู้จะทำยังไงอยู่บ้าง “อย่างน้อยก็บอกเหตุผลฉันหน่อยเถอะ”พี่หลันสีหน้าซับซ้

  • ที่รัก อย่าคิดหนีนะ   บทที่ 26

    พอคนพวกนี้รู้ว่าเธอเป็นคนของลู่สิงโจว ก็รีบปรับตัวตามสถานการณ์ ทุกคนยิ้มอย่างนอบน้อม และยังสอบถามความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับลู่สิงโจวอีกด้วยในใจเจียงหลันไม่ได้รู้สึกซาบซึ้งเลยแม้แต่น้อย กระทั่งรู้สึกรำคาญเล็กน้อยด้วยซ้ำผู้ชายคนนี้ถือว่าเธอเป็นแค่แจกันประดับ เป็นของเล่นของตัวเองที่ไม่ชอบให้คนอื่นแตะต้องก็เท่านั้น พอนึกถึงตรงนี้ เธอก็แสดงสีหน้าไม่ดีใส่ผู้ชายพวกนี้ทันทีแต่ในเมื่อสั่งมาแล้ว งั้นเธอก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจ รับทุกอย่างตามนั้นเลย“โปรดิวเซอร์เซียว เมื่อกี้ที่พูดถึงละครเรื่องนั้น คุณรับปากจริง ๆ เหรอ?”“คุณเจียงมีรูปร่างหน้าตาและคุณสมบัติทุกอย่างที่เหมาะสม อย่าว่าแต่นางรองเลย นางเอกก็ไม่มีปัญหา”โปรดิวเซอร์เซียวหน้าเจื่อน ราวกับไม่กล้าหวนคิดถึงสิ่งที่ตัวเองเพิ่งทำกับเจียงหลันไป“งั้นฉันก็ต้องขอบคุณโปรดิวเซอร์เซียวแล้วสินะ?” เธอเป็นฝ่ายหยิบแก้วขึ้นมาเอง “ฉันขอดื่มให้คุณหนึ่งแก้ว”“ผมสมควรทำอยู่แล้วครับ” โปรดิวเซอร์เซียวรีบกดแก้วของเธอลง “คุณเจียงดื่มชาแทนเหล้าก็พอแล้วครับ”พนักงานเสิร์ฟนำชาเข้ามาให้ เจียงหลันดื่มไปหนึ่งอึก ร่างกายค่อย ๆ อบอุ่นขึ้น ข้างหูมีเสียงยกยอปอปั้น

  • ที่รัก อย่าคิดหนีนะ   บทที่ 25

    “ความหายของเธอก็คือ แค่ให้บท ให้เงินเธอ เธอจะนอนกับใครก็ได้?”ประโยคนี้พูดได้เจ็บมาก เจียงหลันแววตาเจ็บปวด จ้องมองลู่สิงโจวเงียบ ๆ ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็หัวเราะเยาะขึ้นมา ยื่นมือไปเกี่ยวตัวเขาไว้ กลิ่นน้ำหอมแรง ๆ พุ่งเข้าจมูกลู่สิงโจวทันที ทำให้เขาขมวดคิ้วเจียงหลันในอดีตถึงแม้จะมีกลิ่นน้ำหอมติดตัวบ้าง แต่ก็จางมาก เธอรู้ดีว่าเขาไม่ชอบอะไรแบบนี้“คุณพูดถูกแล้ว นอนกับใครก็เหมือนกันนั่นแหละ”แต่ในจังหวะที่พอดีแบบนี้เอง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอย่างเร่งรีบเจียงหลันรู้สึกได้ชัดเจนว่ามือของลู่สิงโจวปล่อยออกจากตัวเธอ เขามองเธอเพียงแวบเดียว ก่อนจะกดรับสาย“ซีเอิน ว่าไง?”อีกฝั่งไม่รู้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่าเขามีสีหน้าไม่พอใจ แต่ก็ยังอดทนตอบตกลง“พี่จะให้คนช่วยเธอจัดการนะ”ไม่ต้องคิดมาก เจียงหลันก็เดาได้เลยว่าปลายสายน่าจะเป็นคู่หมั้นสุดที่รักของเขา ผู้หญิงคนนั้นที่ทำให้เธอต้องบริจาคไตไปหนึ่งข้างเธอรู้สึกไม่ยอมแพ้ขึ้นมาอย่างกะทันหัน ดวงตาฉายแววเย็นชา และในวินาทีถัดมาก็ขยับตัวทันทีลู่สิงโจวขมวดคิ้ว สีหน้าก็เปลี่ยนไปมือบางอ่อนนุ่มราวไม่มีกระดูกของเจียงหลัน เคลื่อนไหวไปมาอย่างไม่อยู่นิ่ง

続きを読む
無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status