ที่รัก อย่าคิดหนีนะ

ที่รัก อย่าคิดหนีนะ

By:  อู๋เสี่ยวเฉินUpdated just now
Language: Thai
goodnovel4goodnovel
Not enough ratings
30Chapters
14views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

เธอรู้ดีว่าระหว่างทั้งสองคนเป็นเพียงแค่การแลกเปลี่ยน กลับหักห้ามความรู้สึกกับผู้ชายคนนี้ไม่ได้ ตอนที่คู่หมั้นของผู้ชายคนนี้ประสบอุบัติเหตุ ต้องใช้เลือดกรุปพิเศษ ซึ่งเธอก็คือคนที่มีเลือดกรุปพิเศษที่ว่านั่นพอดี... เธอกุมท้อง พูดออกมาด้วยเสียงเบาหวิว “ฉันท้องแล้ว ถ้าผ่าตัดก็ต้องเสียเด็กคนนี้ไป” “เจียงหลัน เธอคิดได้หรือยัง?” เขาไม่สนใจเด็กเลยสักนิด เย็นชาไร้หัวใจ “ถ้าวันนี้เธอไม่ผ่าตัด งั้นพรุ่งนี้ก็ไปหาน้องชายเธอในคุกได้” “ได้ ฉันจะผ่าตัด” การผ่าตัดครั้งหนึ่งแลกมาซึ่งอิสรภาพชั่วนิรันดร์ เธอยิ้มอย่างมีความสุข เดินผ่านผู้ชายมากมายไป เพียงแต่... “ฉันเสียใจแล้ว” เขาคนนี้ดึงเน็กไทออก เดินเข้ามาใกล้เธอทีละก้าว ๆ “เธอเป็นเด็กดีอยู่ในกรงทองของฉันดีกว่า”

View More

Chapter 1

บทที่ 1

วันนี้เป็นวันปิดกล้องของละครเรื่อง “ราชวงศ์ถัง ยุคแห่งความรุ่งเรือง” กองถ่ายจองโต๊ะจัดงานเลี้ยงไว้ที่โรงแรมชื่อดังไว้หลายโต๊ะ

ในฐานะที่เจียงหลันเป็นนางเอกของละครเรื่องนี้ แน่นอนว่าอยู่ในงานนี้เช่นกัน

หลังดื่มลงท้องไปหลายแก้ว เจียงหลันมึน ๆ จึงหามุมนั่งลง เธอควานโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าถือ ในใจคิดว่าลู่สิงโจวไปดูงานเกือบหนึ่งเดือนแล้ว วันนี้น่าจะกลับมาแล้วมั้ง?

เพียงแต่เธอเพิ่งจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา พลันมีเงาสีดับวูบไหวอยู่ตรงหน้า จากนั้นผู้ชายคนหนึ่งก็นั่งลงข้างเธอ

เป็นผู้กำกับจ้าวละครเรื่องนี้

“เจียงหลัน เธอแสดงละครเรื่องนี้ได้ยอดเยี่ยมมากเลยนะ” ผู้กำกับจ้าววัยสี่สิบกว่าปีที่ปกติแล้วจะออกกำลังกายบ่อยครั้ง ท่าทางดูดีมีความสุภาพ ทว่าในดวงตากลับมีแววประหลาด เขาพูดพลางเขยิบเข้าใกล้เจียงหลัน

“ขอบคุณค่ะผู้กำกับจ้าว” เจียงหลันยิ้มน้อย ๆ เขยิบไปข้าง ๆ อย่างไม่ให้เป็นที่สังเกต

ทว่าผู้กำกับจ้าวกลับพยายามประชิดตัวเธอ เขาพูดเบา ๆ ว่า “เดี๋ยวอีกไม่กี่เดือนฉันจะถ่ายหนังเรื่องใหม่ อยากให้เธอมาเป็นนางเอกต่อ เธอว่ายังไง?”

“...”

เจียงหลันได้กลิ่นเหล้าและเหงื่อบนตัวเขาแล้วพาลรู้สึกอึดอัด เธอเขยิบออกข้าง พลางพูดออกไปว่า “ผู้กำกับจ้าวคะ ถือเป็นเกียรติมากที่ได้รับความรักและเอ็นดูจากคุณ แต่ฉันเพิ่งจบจากวิทยาลัยศิลปะ ฝีมือการแสดงยังไม่ถึงขั้นแสดงหนังได้แน่ ๆ ค่ะ”

แล้วก็ถือโอกาสสอดส่องสายตามองไปรอบ ๆ

คนพวกนั้นแสร้งทำทีเป็นพูดคุยกัน ทว่ากลับส่งสายตามองมาทางเธอกับผู้กำกับจ้าวอยู่บ่อยครั้งด้วยความเหยียดหยามและดูแคลน

ใช่แล้ว เจียงหลันไม่มีผลงานอะไรเลยตอนอยู่วิทยาลัยศิลปะ พอเดบิวต์ก็ได้รับบทนางเอกของละครที่ใช้ทุนสร้างถึงสี่ร้อยล้านบาทเรื่องนี้ทันที เปล่งประกายเป็นอย่างยิ่ง ทุกคนต่างคาดเดาได้ว่าเธอถูกผู้ชายเลี้ยง

“ที่ไหนกัน ฉันว่าเธอแสดงได้โดดเด่นมากเลยนะ” ผู้กำกับจ้าวใช้มือบีบตัวเธอสองที แล้วจึงกดเสียงต่ำถามว่า “ฉันเห็นว่าช่วงนี้เธอเอาแต่นั่งรถตู้ไปกองถ่ายตลอด อาเสี่ยทิ้งเธอแล้วเหรอ?”

เจียงหลัน “...”

เธออยากให้ผู้ชายคนนั้นปาเช็กหลายร้อยล้านใส่หน้าเธอสักใบ แล้วทิ้งเธอสักที

สุดท้ายเธอคิดมาหลายปีดีดัก ทว่าความปรารถนานี้กลับไม่เป็นความจริง

ฝ่ายผู้กำกับจ้าวเห็นเจียงหลันไม่พูดอะไร ก็คิดว่าตัวเองเดาถูก จึงยิ่งมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นหลายส่วน “เจียงหลัน ฉันชื่นชมมากเธอนะ ไม่ว่าจะการแสดงหรือว่าตัวเธอ ถ้าเธออยู่กับฉันสักอาทิตย์หนึ่ง ไม่ใช่แค่บทนางเอกในหนังเรื่องนั้นของฉันจะเป็นของเธอเท่านั้นนะ ฉันยังจะแนะนำเธอให้ลู่สิงโจวด้วย!”

“ลู่สิงโจว?” ในที่สุดเจียงหลันก็เริ่มหวั่นไหวขึ้นมาบ้างแล้ว เธอเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ทำท่าทางราวกับอยากรู้มาก

“ใช่แล้ว ก็ประธานของเฟิงสิงนั่นไง เขาก็เป็นเพื่อนของฉันเหมือนกัน! ” ผู้กำกับจ้าวคิดว่าเด็กสาวที่เพิ่งเรียนจบจากวิทยาลัยศิลปะอย่างเจียงหลัน มีคนเลี้ยงได้ก็นับว่าไม่เลวแล้ว ต้องไม่รู้จักคนใหญ่คนโตประเภทนี้แน่

ดังนั้นเขาเลยยิ่งคุยโว “หนังเรื่องนั้นของฉันได้ฮวนสี่ฟิล์มที่อยู่ใต้สังกัดเฟิงสิงลงทุน ลู่สิงโจวยังเชิญฉันไปกินข้าวด้วยบ่อย ๆ ผู้หญิงจำนวนไม่น้อยที่เขาเคยคั่วด้วยก็เป็นคนที่ฉันส่งไปให้ทั้งนั้น”

“ถ้าเธอยอมตามใจฉัน ไว้ถึงตอนนั้นฉันจะพาเธอไปพบเขา เธออยู่กับเขา ชาตินี้จะได้ทั้งเกียรติยศเงินทอง แล้วยังไม่แน่ว่าในอนาคตฉันอาจต้องทำงานให้เธอด้วยซ้ำ!”

ตอนนี้เองที่โทรศัพท์มือถือของเจียงหลันดังขึ้น

ตอนที่เจียงหลันหยิบโทรศัพท์ออกมา ผู้กำกับจ้าวเหลือบตาไปเห็นว่าบนหน้าเจอปรากฏคำว่า “ลู่สิงโจว”

ขณะที่ยังอึ้งอยู่นั้น เจียงหลันก็รับสายโทรศัพท์เสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอลุกขึ้นอย่างคล่องแคล่ว คว้ากระเป๋าถือขึ้น แล้วยิ้มให้ผู้กำกับจ้าว “ขอโทษนะคะผู้กำกับจ้าว ฉันมีธุระ ต้องขอตัวก่อน”

“ดะ...ได้”

ผู้กำกับจ้าวมองเจียงหลันเดินออกไปจากห้องส่วนตัว ทว่าความรู้สึกนึกคิดยังคงหยุดอยู่กับเบอร์โทรศัพท์ที่ตัวเองเห็นเบอร์นั้น

ตอนเปิดกล้องละคร มีคนส่งข้อมูลของเจียงหลันมาให้ ผู้กำกับจ้าวรู้สึกได้ว่าเด็กสาวคนนี้ต้องมีเจ้าของแล้วแน่นอน ทว่าเนิ่นนานขนาดนี้แล้วเขาก็ยังไม่เคยเห็นเจียงหลันถูกรถหรูมารับไปสักคัน เอาแต่นั่งรถตู้มาตลอด

วันนี้เห็นเจียงหลันแต่งตัวสวยสดงดงาม มันยับยั้งใจไม่อยู่จริง ๆ บังเกิดความกล้าขึ้นในจิตใจ อดเข้าไปก้อร่อก้อติกด้วยไม่ได้ สุดท้ายโทรศัพท์ของเจียงหลันสายนั้นทำให้เขาแทบตกใจจนขวัญเตลิดเปิดเปิง

ลู่สิงโจวคนนี้ คงไม่ใช่ลู่สิงโจวที่อยู่ในข่าวธุรกิจคนนั้นหรอกมั้ง?

ทว่าเจียงหลันกลับไม่สนใจความคิดในใจของผู้กำกับจ้าว หลังจากนั่งรถตู้กลับมาถึงย่านคอนโดหรู เธอก็ขึ้นลิฟต์ไปด้านบน รูดบัตรเปิดประตูห้อง ด้านในมืดสนิท

ค่อยยังชั่ว ๆ ผู้ชายคนนั้นยังมาไม่ถึง

เจียงหลันรีบเปลี่ยนรองเท้า วิ่งเข้าไปทางห้องครัวแล้วเปิดตู้เย็นหยิบของสดออกมา ตั้งหม้อต้มน้ำร้อน หั่นผัก เรียกว่ายุ่งมือระวิงเลยทีเดียว

ชั่ววินาทีถัดมา เธอก็ถูกสวมกอด
Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

Comments

No Comments
30 Chapters
บทที่ 1
วันนี้เป็นวันปิดกล้องของละครเรื่อง “ราชวงศ์ถัง ยุคแห่งความรุ่งเรือง” กองถ่ายจองโต๊ะจัดงานเลี้ยงไว้ที่โรงแรมชื่อดังไว้หลายโต๊ะในฐานะที่เจียงหลันเป็นนางเอกของละครเรื่องนี้ แน่นอนว่าอยู่ในงานนี้เช่นกันหลังดื่มลงท้องไปหลายแก้ว เจียงหลันมึน ๆ จึงหามุมนั่งลง เธอควานโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าถือ ในใจคิดว่าลู่สิงโจวไปดูงานเกือบหนึ่งเดือนแล้ว วันนี้น่าจะกลับมาแล้วมั้ง?เพียงแต่เธอเพิ่งจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา พลันมีเงาสีดับวูบไหวอยู่ตรงหน้า จากนั้นผู้ชายคนหนึ่งก็นั่งลงข้างเธอเป็นผู้กำกับจ้าวละครเรื่องนี้“เจียงหลัน เธอแสดงละครเรื่องนี้ได้ยอดเยี่ยมมากเลยนะ” ผู้กำกับจ้าววัยสี่สิบกว่าปีที่ปกติแล้วจะออกกำลังกายบ่อยครั้ง ท่าทางดูดีมีความสุภาพ ทว่าในดวงตากลับมีแววประหลาด เขาพูดพลางเขยิบเข้าใกล้เจียงหลัน“ขอบคุณค่ะผู้กำกับจ้าว” เจียงหลันยิ้มน้อย ๆ เขยิบไปข้าง ๆ อย่างไม่ให้เป็นที่สังเกตทว่าผู้กำกับจ้าวกลับพยายามประชิดตัวเธอ เขาพูดเบา ๆ ว่า “เดี๋ยวอีกไม่กี่เดือนฉันจะถ่ายหนังเรื่องใหม่ อยากให้เธอมาเป็นนางเอกต่อ เธอว่ายังไง?”“...”เจียงหลันได้กลิ่นเหล้าและเหงื่อบนตัวเขาแล้วพาลรู้สึกอึดอั
Read more
บทที่ 2
“เพิ่งกลับมาเหรอ?” น้ำเสียงของชายหนุ่มทุ้มต่ำ ทั้งยังแฝงไปด้วยความไม่สบอารมณ์เล็กน้อย“นี่มันห้องครัว...”เขาออกแรงที่มือหนักขึ้น เจียงหลันพูดออกมาได้เพียงครึ่งเดียวก็ไม่พูดต่อแล้วเจียงหลันมองค้อนใส่เขา กล่าวอย่างไม่พอใจว่า “ฉันรีบกลับมาทำกับข้าวให้คุณ แต่คุณดันทำแบบนี้! จะยังกินอยู่ไหมข้าวน่ะ?”“กินสิ แต่ตอนนี้มีเรื่องสำคัญกว่าให้ทำ” ชายหนุ่มหัวเราะเบา ๆ เจียงหลันใจลอยล่องไปบ้าง พอได้ยินแบบนั้น เธอจึงมองเขาด้วยตาพร่าเลือนชายหนุ่มอมยิ้มมุมปากเล็กน้อยกระทั่งชายหนุ่มไปอาบน้ำที่ห้อง เจียงหลันเปิดหน้าต่างทุกบานแล้วก็ยังไล่กลิ่นออกไปไม่หมด ความรังเกียจฉายอยู่เต็มหน้าผู้ชายคนนี้ก็เหลือเกิน บอกเขาไปแล้วเชียวว่าที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น ยกเว้นในครัว เขาก็เอาแต่ชอบเล่นทีเผลออยู่เรื่อยช่างเถอะ ถึงอย่างไรบะหมี่เนื้อที่ทำเสร็จแล้วก็เป็นเขาที่กิน!เจียงหลันยกบะหมี่เนื้อที่ทำเสร็จแล้วไปวางบนโต๊ะกินข้าว ลู่สิงโจวที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จก็เดินออกมาจากห้องนอนในชุดคลุมอาบน้ำสีเทาอ่อนพอดีเห็นว่าชายหนุ่มเดินมาแล้ว เจียงหลันจึงยื่นตะเกียบให้เขา แล้วนั่งลงตรงฝั่งตรงกันข้าม พลางเท้าคางมองเขาไปทั้งอย่า
Read more
บทที่ 3
“เหม่ออะไรอยู่?”อยู่ ๆ เจียงหลันก็ได้ยินคำถามจากเขาโดยไม่ตั้งเนื้อตั้งตัว พลันดึงสติกลับมาได้ เธอร้องอ้อแล้วกล่าวว่า “ก็ไม่มีอะไร แค่นึกถึงที่งานเลี้ยงปิดกล้องเมื่อกี้นี้ ผู้กำกับจ้าวนั่งติดฉันแถมยังพูดคำพูดพวกนั้นกับฉันอีก”เห็นชายหนุ่มขมวดคิ้ว เธอจึงรีบเล่าต่อไปว่า “ผู้กำกับจ้าวนั่นบอกว่าคุณเป็นเพื่อนเขา ผู้หญิงหลายคนรอบตัวคุณก็ได้เขาที่จัดแจงหามาให้ แถมยังบอกว่าถ้าฉันไปอยู่กับเขาสักสองสามคืนแล้ว เขาจะแนะนำฉันให้คุณด้วย”เจียงหลันลอบมองสีหน้าของชายหนุ่มเธออยู่กับลู่สิงโจวมาสองปีแล้ว รู้จักนิสัยของเขาดีไม่น้อย เขาค่อนข้างติดนิสัยรักความสะอาดนิด ๆ ยิ่งไม่ชอบให้ใครมายุ่มย่ามของของของเขา แม้ว่าเธอจะเป็นเพียงของเล่นฆ่าเวลา แต่ก็เป็นของเล่นของเขาจริงดังคาด พอลู่สิงโจวได้ยินว่าเขาพูดจาแบบนี้ ความไม่สบอารมณ์พลันปรากฏอยู่ในดวงตา ตอนวางชามกับตะเกียบยังเอ่ยปากพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบด้วย “ละครที่เธอถ่ายไม่ต้องรอให้ออนแอร์แล้ว ให้ผู้จัดการเลือกบทอื่นให้เธอเลย”“อย่าเลยมั้งคะ?” เจียงหลันเห็นท่าทางของเขาดูเหมือนว่าอยากจะจัดการให้เหี้ยน ก็ยู่ปากพลางบ่นพึมพำ “ฉันถ่ายละครเรื่องนั้นตั้งครึ่งค่
Read more
บทที่ 4
รถเคลื่อนตัวอยู่บนทางไปบริษัทได้อย่างราบรื่นปลอดภัย เจียงหลันที่นั่งอยู่เบาะหลังกินมื้อเช้าบำรุงร่างกายไปพลาง ดูทวิตเตอร์ไปพลาง ข่าวเสียหายของผู้กำกับจ้าวแพร่กระจายไปทั่ว ไม่ว่าที่ไหน ๆ ล้วนเห็นใบหน้าขาวซีดของเขาได้ทั้งนั้นหลังเจียงหลันอ่านข่าวพวกนั้นอย่างละเอียดแล้ว ก็อดดูแคลนไม่ได้เธอรู้ว่าผู้กำกับจ้าวไม่ใช่คนมือสะอาด แต่ไม่รู้ว่าเขายังมีความชอบแบบนั้นด้วย โทษตามกฎหมายของการกระทำเหล่านี้ เกรงว่าเขาจะต้องเข้าไปนั่งอยู่ในซังเตสักสองสามปีได้ล่ะมั้ง?นึกถึงผู้ชายคนนั้นที่มีรอยยิ้มอ่อนโยนทั้งยังดูดีมีสง่า ทว่าวิธีการกลับโหดเหี้ยมแล้ว เจียงหลันพลันสั่นเทิ้มไปทั้งร่าง เธอเขยิบเข้าไปใกล้ ๆ เซี่ยหลินแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเบาหวิว “พี่หลิน คุณลู่มีคู่หมั้นแล้ว... ใช่ไหม?”ได้ยินอย่างนั้น เซี่ยหลินจึงมองเธอเล็กน้อย “ไปได้ยินข่าวลือมาจากไหน?”“ก็จากปากนักข่าวพวกนั้นน่ะสิ!” เจียงหลันกัดช้อน พลางพูดจาเป็นเหตุเป็นผล “ได้ยินว่าคู่หมั้นของคุณลู่เป็นคุณหนูจากครอบครัวนักธุรกิจนายทุนเจ้าหนึ่ง แต่เพราะเป็นการแต่งงานทางธุรกิจ ความรู้สึกของทั้งสองคู่เลยไม่ได้ดีนัก คุณลู่เป็นผู้ชายก็ต้องมีความต้องการบ้าง
Read more
บทที่ 5
“อืม ฉันเกาะผู้ชายกิน แล้วมันยังไงเหรอคะ?” เจียงหลันยอมรับเรื่องนี้ต่อหน้าทุกคนอย่างเปิดเผย ไม่มีท่าทีหลบเลี่ยงเลยแม้แต่น้อยเซวียเจียหนิงนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมรับกับปากตัวเองแบบนั้น ทันใดนั้นพลันพูดจาเหน็บแนม “เธอยังจะมีหน้ามาพูดอีกเหรอ? เพราะในวงการบันเทิงมีคนแบบเธอ วงการนี้ถึงได้มืดมนขนาดนี้ไง...”“งั้นเหรอคะ?” เจียงหลันร้อนอ้อ ยิ้มแล้วว่า “แต่ทำไมฉันดันเจอว่าคุณเซวียเองก็เกาะผู้ชายกินเหมือนกันละคะ แถมยังสุขสำราญกว่าฉันเสียอีก เกาะติดคนอื่นอย่างกับปลิง”ใบหน้าของเซวียเจียหนิงพลันดูลนลาน จากนั้นก็ถลึงตามองเจียงหลันด้วยความโกรธ “พูดบ้าอะไรของเธอ!”เจียงหลันยักไหล่ พูดอย่างใสซื่อว่า “ฉันไม่ได้พูดมั่ว ๆ นะคะ ฉันยังรู้จักผู้ชายคนนั้นด้วย เขาก็จบจากหนานอิ่งเหมือนกัน เป็นรุ่นพี่ฉันปีเดียวเอง ที่บ้านมีเงินถุงเงินถัง แถมฉันยังสนิทกับเขามาก ๆ ด้วย!”“เธอ...” หลังถูกเปิดโปง เซวียเจียหนิงก็ไม่รู้ว่าควรจะตอบโต้กลับไปอย่างไรดี ได้แต่ถลึงตาใส่เจียงหลันหนัก ๆผู้คนรอบข้างยิ่งมองเซวียเจียหนิงด้วยสายตาเยาะเย้ย“ฮ่า ๆ ๆ ล้อเล่นเท่านั้นเองค่ะ คุณเซวียจะเป็นคนแบบนั้นไปได้ยังไงกัน!” ตอนที่บรรยากาศเต
Read more
บทที่ 6
“นายนอนมาตั้งสองปี ยังเอาขาลงพื้นไม่ได้” เจียงหลันสาวเท้าไว ๆ เข้าไปหา นวดขาทั้งสองข้างให้เขาไปพลาง เอ่ยถามไปพลาง “เป็นไงบ้าง มีความรู้สึกไหม?”เจียงสวินพยักหน้า “ยังชา ๆ นิดหน่อย”เห็นเขาพูดแบบนี้แล้ว เจียงหลันถือว่ายกภูเขาออกจากอก อย่างนั้นที่ขาน่าจะไม่มีปัญหาอะไรเจียงสวินนอนสลบไสลไม่ฟื้น ทว่าเจียงหลันมักมานวดขาทั้งสองข้างให้เขาที่โรงพยาบาลทุกอาทิตย์ ตอนไม่อยู่ก็กำชับพยาบาลเอาไว้ ด้วยกลัวว่าหากไม่นวดขาให้เขานานเข้าขาจะแข็งทื่อใช้การไม่ได้ “พี่ ผมนอนหลับไปสองปีจริง ๆ เหรอ?” เจียงสวินนึกถึงท่าทางเหนือความคาดหมายตอนที่แพทย์เจ้าของไข้เห็นเขาฟื้นขึ้นมา แล้วอดถามออกไปไม่ได้ “แต่ทำไมผมถึงรู้สึกว่าเหมือนเพิ่งตื่นมาเมื่อวานนี้เอง?”เจียงหลันพยักหน้าพลางว่า “ตอนนั้นนายถูกฟันหลายสิบแผล ที่ร้ายแรงถึงชีวิตก็ที่โดนฟันหลังท้ายทอย เกือบจะตายอยู่แล้ว ดีที่ได้คุณหมอลากนายกลับมาจากนรก แต่ก็นอนสลบไม่ฟื้น พี่กับแม่กังวลไม่รู้ตั้งมากมายแค่ไหน กลัวว่านายจะไม่ฟื้นไปตลอดชีวิต”ได้ยินแบบนั้น เจียงสวินก็เอื้อมมือไปลูบบริเวณท้ายทอยของตัวเอง ซึ่งมีรอยแผลเป็นจริงดังว่า จากนั้นเห็นเจียงหลันที่น้ำตานองหน้าแ
Read more
บทที่ 7
“ทะ ท้อง?!” เจียงสวินเพิ่งฟื้นขึ้นมาได้ไม่ถึงสี่ชั่วโมง สติสตังยังไม่เข้าที่ดี ยิ่งได้รู้ว่าเจียงหลันท้องเข้า เขาถึงกับมึนงงเข้าไปใหญ่ “งั้นที่หัวใจของเด็กได้รับการกระทบกระเทือนจะทำยังไงล่ะครับ?”พยาบาลพูดอย่างเสียดายไม่น้อย “หัวใจของเด็กคนหนึ่งจากคู่แฝดทั้งสองคนหยุดเต้นไปแล้ว แต่ว่าไม่กระทบต่อการเจริญเติบโตของเด็กอีกคน ช่วงนี้ต้องพักผ่อนให้ดี ๆ ก็ใช้ได้ค่ะ คุณเองก็ไม่ต้องกังวลมากเกินไป”“...”พยาบาลยังมีธุระอื่น หลังจากกำชับเจียงสวินอยู่หลายคำจึงจากไป เหลือไว้เพียงเจียงสวินที่มองใบรายงานด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสับสนเขาอ่านใบรายงานนี้ไม่รู้เรื่องเลย รู้เพียงแค่ว่าพี่สาวท้องเด็กแฝด แต่หัวใจของเด็กคนหนึ่งหยุดเต้นไปแล้วจวบจนกระทั่งบ่ายสามโมงกว่า ๆ เจียงหลันถึงได้สติ“พี่ พี่ฟื้นแล้ว?” เจียงสวินคอยเฝ้าอยู่ข้าง ๆ มาตลอด พอเห็นเจียงหลันได้สติ ก็รีบเข้าไปประคองเธอให้ลุกขึ้นแล้วรินน้ำอุ่นส่งไปให้ “ตามตัวมีรู้สึกไม่สบายตรงไหนบ้างไหม?”เจียงหลันส่ายหน้า หลังดื่มน้ำอุ่น ข้างในท้องถึงได้สบายขึ้นมาก “น่าจะเป็นเพราะหลายวันนี้ไม่ได้พักผ่อนให้เต็มที่น่ะ นายเพิ่งฟื้น แล้วยังต้องให้นายมาดูแล
Read more
บทที่ 8
“คุณเจียงครับ”ขณะที่เจียงหลันกำลังกลัดกลุ้มหน้าอมทุกข์อยู่ พลันได้ยินเสียงคนเรียกตนเองโดยไม่ทันตั้งตัว ครั้นเงยหน้าขึ้นก็เห็นลุงเหอคนขับรถประจำตัวของลู่สิงโจวเดินมาหาตัวเธอเอง“คุณลุงเหอ คุณลุงมาโรงพยาบาลได้ยังไงคะเนี่ย?” เจียงหลันรีบซ่อนใบรายงานไว้ด้านหลังทันที เธอยิ้มพลางเอ่ยถาม “คุณลู่กลับมาจากทำงานที่ต่างประเทศแล้วเหรอคะ?”ลุงเหอพยักหน้าพลางว่า “คุณลู่เพิ่งกลับมาเมื่อกลางวันนี้เอง เขาโทรหาคุณเจียง พอรู้ว่าคุณเจียงเป็นลม เลยส่งผมมาดูน่ะครับ คุณเจียงไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” “ไม่เป็นไรค่ะ แค่ไม่สบายเล็ก ๆ น้อยๆ”ในเมื่อลุงเหอมารับ อย่างนั้นเจียงหลันก็จำต้องไป “คุณลุงพอจะรอฉันอยู่ข้างนอกเดี๋ยวได้ไหมคะ ฉันขอจัดการธุระก่อน ไม่นานก็จะตามคุณลุงกลับแล้วค่ะ”“ครับ”ลุงเหอออกไปรอด้านนอก ส่วนเจียงหลันก็กลับไปเก็บข้าวของที่ห้องพักผู้ป่วย เธอบอกกับเจียงสวินว่าจะมาเยี่ยมเขาพรุ่งนี้ “พยาบาลกะกลางคืนมาแล้ว ห้ามลืมทำกายภาพบำบัด ได้ยินไหม?”“รู้แล้ว ๆ ” เจียงสวินพยักหน้า ทั้งยังเอ่ยถามด้วยความวาดหวัง “พี่ พรุ่งนี้พี่ทำกับข้าวมาให้ผมกินได้ไหม?”เจียงหลันกลอกตาใส่เขา “ฝันอยู่เหรอ กินโจ๊กเข้าไปเถอะ!
Read more
บทที่ 9
กระทั่งลู่สิงโจวจัดการธุระเสร็จแล้วกลับมาอาบน้ำ เจียงหลันก็ยังคงนวดไหล่ให้เขาเหมือนเมื่อก่อน“ฉันออกไปหยิบชุดคลุมให้คุณก่อนนะคะ” เจียงหลันอยากใช้จังหวะนี้ออกไปเปลี่ยนชุดนอน ทว่าเพิ่งจะลุกขึ้น ลู่สิงโจวก็เอื้อมมือมาดึงเธอ ทำให้เธอล้มลงไปในอ่างอาบน้ำ ทั้งตัวแนบอยู่บนตัวของเขามือทั้งสองข้างของเจียงหลันเกาะไหล่เขาไว้“สอง สองสามวันนี้ไม่ได้นะ...” เจียงหลันออกแรงดันเขา ทว่าก็ยังไม่ลืมคำสั่งของแพทย์ว่าช่วงนี้ต้องบำรุงร่างกายให้ดี เธอพึมพำว่า “ไอ้นั่นฉันมาแล้วค่ะ...”เธอรู้ดีว่าลู่สิงโจวมีนิสัยรักความสะอาด หลังจากที่พูดออกไปแบบนี้แล้ว เขาต้องไม่แตะต้องเธอแน่นอนจริงดังคาด ลู่สิงโจวท่าทางเหมือนกับคนโดนน้ำเย็น ๆ สาด ใบหน้ามืดครึ้ม กระทั่งน้ำเสียงยังแฝงไปด้วยความไม่สบอารมณ์ “ฉันจำได้ว่าของเธอมักจะมาช่วงปลายเดือนตลอด นี่มาก่อนกำหนดตั้งหลายวัน?”เจียงหลันพยักหน้า อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ พูดไปว่า “คุณก็รู้ว่าฉันร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง มันก็เลย...”“...”ขณะที่ชายหนุ่มยังทำหน้าคล้ำเครียด เธอก็รีบเผ่นออกจากห้องอาบน้ำอย่างรวดเร็วลู่สิงโจวออกมาหลังจากอาบน้ำเสร็จ เจียงหลันคอยช่วยเขาใส่ชุดคลุม พลางพูดจาออด
Read more
บทที่ 10
“เจียงหลัน!”ไม่ถึงสิบนาที ประตูห้องพักของเจียงหลันก็ถูกเปิดออกอย่างรุนแรงเซวียเจียหนิงเข้ามาด้วยใบหน้าโกรธจัด บนแขนประดับไปด้วยรอยฟกช้ำ สภาพออกจะดูไม่ได้อยู่บ้างเจียงหลันทำเพียงแค่ปรายตามองเธอผ่านกระจก จากนั้นก็พลิกอ่านบทต่อเซวียเจียหนิงที่ถูกเมินก็ยิ่งเดือดดาล ตรงดิ่งเข้าไปกระชากบทของเธอมา แล้วพูดอย่างเกรี้ยวกราด “เธอเทสบู่ล้างมือลงบนพื้นเพราะอยากให้ฉันล้ม ตั้งใจเล่นงานฉันใช่ไหม?!”“คุณเซวีย จะหยิบอะไรใส่ปากส่งเดชนั้นได้ แต่จะพูดจาส่งเดชไม่ได้นะคะ” เจียงหลันยิ้ม กล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ฉันกับคุณเซวียไม่ได้มีความแค้นอะไรต่อกัน แล้วทำไมจะต้องทำเรื่องแบบนั้นด้วย? อีกอย่าง ฉันก็ไม่ได้ไปห้องน้ำมาสักหน่อย”“เธอ เธอเอาคืนฉัน!” เซวียเจียหนิงชี้หน้าเจียงหลัน ไม่สนว่าเจียงหลันจะพูดอย่างไร แต่สัมผัสได้ว่าเจียงหลันเป็นคนทำเรื่องนี้ “คนอื่นเขาไม่ทำเรื่องอะไรเลว ๆ แบบนี้หรอก!”เจียงหลันยังคงรักษารอยยิ้มไว้บนดวงหน้า แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน “ฉันบอกแล้วไงคะ ว่าฉันไม่ได้มีความแค้นอะไรกับคุณเซวีย ส่วนที่ว่าใครเป็นคนทำเรื่องเลว ๆ แบบนี้ คุณเซวียก็ไปหาดูจากกล้องวงจรปิดได้นะคะ”เซวียเจียหน
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status