เธอรู้ดีว่าระหว่างทั้งสองคนเป็นเพียงแค่การแลกเปลี่ยน กลับหักห้ามความรู้สึกกับผู้ชายคนนี้ไม่ได้ ตอนที่คู่หมั้นของผู้ชายคนนี้ประสบอุบัติเหตุ ต้องใช้เลือดกรุปพิเศษ ซึ่งเธอก็คือคนที่มีเลือดกรุปพิเศษที่ว่านั่นพอดี... เธอกุมท้อง พูดออกมาด้วยเสียงเบาหวิว “ฉันท้องแล้ว ถ้าผ่าตัดก็ต้องเสียเด็กคนนี้ไป” “เจียงหลัน เธอคิดได้หรือยัง?” เขาไม่สนใจเด็กเลยสักนิด เย็นชาไร้หัวใจ “ถ้าวันนี้เธอไม่ผ่าตัด งั้นพรุ่งนี้ก็ไปหาน้องชายเธอในคุกได้” “ได้ ฉันจะผ่าตัด” การผ่าตัดครั้งหนึ่งแลกมาซึ่งอิสรภาพชั่วนิรันดร์ เธอยิ้มอย่างมีความสุข เดินผ่านผู้ชายมากมายไป เพียงแต่... “ฉันเสียใจแล้ว” เขาคนนี้ดึงเน็กไทออก เดินเข้ามาใกล้เธอทีละก้าว ๆ “เธอเป็นเด็กดีอยู่ในกรงทองของฉันดีกว่า”
View Moreเมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของลู่สิงโจวเปลี่ยนเล็กน้อย เจียงหลันมองเห็นอย่างชัดเจน ไม่ต้องรอให้เขาพูด เธอก็พูดขึ้นว่า “สัญญาก็เซ็นไปแล้ว ฉันไปได้หรือยัง?”ลู่สิงโจวขมวดคิ้ว คำเตือนที่กำลังจะพูด ก็ไม่อยากพูดอีกต่อไปแล้ว “อืม”หลังเจียงหลันจากไป ลู่สิงโจวก็นำสัญญาผู้จัดการที่อยู่ในมือไปล็อกเก็บไว้ในตู้นิรภัยดึกมากแล้ว หน้าต่างกระจกบานใหญ่จากตึกชั้นสูงใสแจ๋วจนเห็นได้ชัด สามารถมองเห็นวิวตอนกลางคืนที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดของใจกลางเมืองเยี่ยนได้อย่างเต็มตา คำถามที่เจียงหลันเพิ่งถามดังขึ้นในหูเขา คิ้วของเขาขมวดเล็กน้อยอย่างเงียบเชียบตอนแรก เขาไม่ได้ไม่ลังเลใจเลยกับการผ่าตัดเปลี่ยนไต ถ้าไม่ใช่เพราะกู้ซีเอินต้องการการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน เจียงหลันก็อาจจะเก็บลูกคนนั้นไว้ก็ได้เขารู้สึกว่านี่ไม่เกี่ยวกับรักหรือไม่รัก แต่เป็นเพราะการที่มีเจียงหลันอยู่ทำให้เขารู้สึกสบายใจช่วงไม่กี่ปีมานี้ กู้ซีเอินทำเรื่องต่าง ๆ ยิ่งเกินเลยมากขึ้นเรื่อย ๆ ถึงแม้เขาจะยังคิดถึงความสัมพันธ์ตั้งแต่เด็กที่เคยเติบโตมาด้วยกัน แต่เวลาผ่านไปนานเข้าก็เหนื่อยแล้วแม้ว่าเจียงหลันจะไม่ถือว่าเป็นคนอ่อนโยนและบริสุทธิ์ใจสักเ
ยังไม่ทันเดินถึงประตู ด้านหลังก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นอย่างกะทันหัน “อา...”เสียงนี้มัน...เจียงหลันหมุนตัวกลับอย่างรวดเร็ว มองไปยังที่มาของเสียงด้วยความตกใจในมือลู่สิงโจวถือโทรศัพท์อยู่ กำลังเปิดวิดีโอที่ทำให้เลือดในร่างกายพลุ่งพล่านวิดีโอเกือบจะเป็นมุมมองจากสายตาของผู้ชม มองไปที่ผู้หญิงคนหนึ่งอย่างใกล้ชิด...ชายหนุ่มหันโทรศัพท์ไปทางเจียงหลัน นิ้วมือของเขาเคาะไปที่โต๊ะเบา ๆ เป็นจังหวะ ก่อนจะพูดอย่างไม่ใส่ใจ “เจียงหลัน เธอจะออกไปก็ได้ แต่ถ้าวันนี้เธอก้าวออกจากประตูนี้ไป วิดีโอพวกนี้จะถูกอัปโหลดลงอินเทอร์เน็ตทันที”“ลู่สิงโจว คุณทำเกินไปแล้ว!”เธอไม่อยากเชื่อเลยว่า ลู่สิงโจวถึงขั้นยังถ่ายของพรรค์นี้เอาไว้!วิดีโอยังคงเล่นต่อไป ใบหน้าของเจียงหลันแดงระเรื่อขึ้น เธอพุ่งเข้าไปแย่งโทรศัพท์มา มือไม้รีบกดลบอย่างบ้าคลั่งลู่สิงโจวมองเธออย่างไม่แยแส พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ลบไปเถอะ ฉันมีสำรองเยอะแยะ”“คุณคิดจะทำอะไรกันแน่?” เจียงหลันโกรธจนห้ามไม่อยู่ เธอทุ่มโทรศัพท์จนพังเละเทะเธอเต็มไปด้วยความโกรธ แต่บรรยากาศในห้องนี้กลับสงบเหมือนมีลมเย็นพัดผ่าน และหายไปโดยไม่เหลือร่องรอยสายตาลู่สิ
“อะไรนะ?”ฟังคำพูดของพี่เฉียวจบ สีหน้าเธอเปลี่ยนทันที พูดเสียงดังขึ้นว่า “พวกคุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า? ฉันถ่ายปกไปแล้ว แต่ยังไม่ได้รับเงินสักบาทเลยนะ? แล้วพวกคุณจะให้ฉันชดใช้เงินเหรอ?”“...”“จะยกเลิกสัญญาก็ยกเลิกไป แต่ฉันจะบอกพวกคุณให้นะ ไม่ว่าเหตุผลอะไรก็ตาม อย่าหวังว่าจะได้เงินฉันแม้แต่สลึงเดียว”“...”เมื่อวางสายแล้ว เจียงหลันตบโทรศัพท์ลงบนโต๊ะอย่างโกรธจัด “รังแกกันเกินไปแล้ว”“มีอะไรเหรอพี่?” เจียงสวินขมวดคิ้ว สีหน้าเต็มไปด้วยความเป็นห่วง “ใครรังแกพี่?”เจียงหลันก้มหน้ามองชามข้าวอยู่นาน ก่อนจะรีบหยิบเสื้อคลุมแล้วเดินออกไป “เสี่ยวสวิน นายรออยู่บ้านนะ กินข้าวดี ๆ ไม่ต้องรอพี่ พี่มีธุระต้องออกไปข้างนอกสักหน่อย”“พี่ ดึกขนาดนี้แล้วจะไปไหน ผมไปเป็นเพื่อน”“ไม่ต้อง”พูดจบ เจียงหลันก็กระแทกประตูปิด ก่อนจะเรียกรถแท็กซี่ที่หน้าคอนโดแล้วออกไปอย่างรวดเร็ว“คุณคนขับคะ ไปเฟิงสิงกรุปค่ะ”ในกระจกมองหลังสะท้อนใบหน้าของเธอที่เต็มไปด้วยความหมองหม่น เธอเหนื่อยจนแทบหมดแรงในการเปลี่ยนสายงานมาเป็นนางแบบ หวังว่าลู่สิงโจวจะปล่อยเธอไปบ้าง คิดไม่ถึงว่าเขาจะทำให้สถานการณ์แย่ลงกว่าเดิม ถึงขั้นที
เธอเป็นคนที่เจ้าคิดเจ้าแค้นมาแต่ไหนแต่ไร คุณต่อยฉันหนึ่งหมัด ฉันต้องเตะกลับคืนหนึ่งที ต้องขอบคุณลู่สิงโจว ที่ทำให้เธอได้เตะคืนเร็วขนาดนี้วันถัดมา บริษัทใหม่มีการแคสต์บท ซึ่งได้แจ้งไว้ล่วงหน้าแล้ว เจียงหลันแต่งหน้าเสร็จตั้งแต่เช้าตรู่ และออกไปแล้วแต่พี่หลันซึ่งเป็นผู้ดูแลของบริษัทกลับขวางเธอไว้ตรงหน้าห้องแคสติ้ง “เจียงหลัน มาคุยกับพี่หน่อย”“มีอะไรเหรอคะ? พี่หลัน ฉันกำลังรอแคสต์บทอยู่นะคะ ใกล้ถึงคิวฉันแล้ว”“เธอไม่ต้องแคสต์บทแล้ว”พี่หลันยื่นสัญญาฉบับหนึ่งให้เธอโดยตรง แล้วพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “ทางบริษัทตัดสินใจจะยกเลิกสัญญากับเธอแล้ว”“ยกเลิกสัญญา?”เจียงหลันสีหน้าเปลี่ยน “ทำไมล่ะคะ? ฉันเพิ่งเซ็นสัญญาได้ไม่กี่วันเองนะ แล้วฉันก็ไม่ได้ทำอะไรผิดด้วยนี่?”“อันนี้ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน เป็นคำสั่งจากบอสโดยตรง สัญญาก็เตรียมไว้แล้ว ดูท่าเขาคงไม่ให้โอกาสเธอแก้ตัวเลยด้วยซ้ำ ฝ่ายการเงินจะโอนเงินชดเชยให้เธอภายในสองวันนี้ เธอเซ็นชื่อเลยเถอะ”“ไม่ใช่สิ” เมื่อเผชิญกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงนี้ เจียงหลันก็รู้สึกไม่รู้จะทำยังไงอยู่บ้าง “อย่างน้อยก็บอกเหตุผลฉันหน่อยเถอะ”พี่หลันสีหน้าซับซ้
พอคนพวกนี้รู้ว่าเธอเป็นคนของลู่สิงโจว ก็รีบปรับตัวตามสถานการณ์ ทุกคนยิ้มอย่างนอบน้อม และยังสอบถามความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับลู่สิงโจวอีกด้วยในใจเจียงหลันไม่ได้รู้สึกซาบซึ้งเลยแม้แต่น้อย กระทั่งรู้สึกรำคาญเล็กน้อยด้วยซ้ำผู้ชายคนนี้ถือว่าเธอเป็นแค่แจกันประดับ เป็นของเล่นของตัวเองที่ไม่ชอบให้คนอื่นแตะต้องก็เท่านั้น พอนึกถึงตรงนี้ เธอก็แสดงสีหน้าไม่ดีใส่ผู้ชายพวกนี้ทันทีแต่ในเมื่อสั่งมาแล้ว งั้นเธอก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจ รับทุกอย่างตามนั้นเลย“โปรดิวเซอร์เซียว เมื่อกี้ที่พูดถึงละครเรื่องนั้น คุณรับปากจริง ๆ เหรอ?”“คุณเจียงมีรูปร่างหน้าตาและคุณสมบัติทุกอย่างที่เหมาะสม อย่าว่าแต่นางรองเลย นางเอกก็ไม่มีปัญหา”โปรดิวเซอร์เซียวหน้าเจื่อน ราวกับไม่กล้าหวนคิดถึงสิ่งที่ตัวเองเพิ่งทำกับเจียงหลันไป“งั้นฉันก็ต้องขอบคุณโปรดิวเซอร์เซียวแล้วสินะ?” เธอเป็นฝ่ายหยิบแก้วขึ้นมาเอง “ฉันขอดื่มให้คุณหนึ่งแก้ว”“ผมสมควรทำอยู่แล้วครับ” โปรดิวเซอร์เซียวรีบกดแก้วของเธอลง “คุณเจียงดื่มชาแทนเหล้าก็พอแล้วครับ”พนักงานเสิร์ฟนำชาเข้ามาให้ เจียงหลันดื่มไปหนึ่งอึก ร่างกายค่อย ๆ อบอุ่นขึ้น ข้างหูมีเสียงยกยอปอปั้น
“ความหายของเธอก็คือ แค่ให้บท ให้เงินเธอ เธอจะนอนกับใครก็ได้?”ประโยคนี้พูดได้เจ็บมาก เจียงหลันแววตาเจ็บปวด จ้องมองลู่สิงโจวเงียบ ๆ ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็หัวเราะเยาะขึ้นมา ยื่นมือไปเกี่ยวตัวเขาไว้ กลิ่นน้ำหอมแรง ๆ พุ่งเข้าจมูกลู่สิงโจวทันที ทำให้เขาขมวดคิ้วเจียงหลันในอดีตถึงแม้จะมีกลิ่นน้ำหอมติดตัวบ้าง แต่ก็จางมาก เธอรู้ดีว่าเขาไม่ชอบอะไรแบบนี้“คุณพูดถูกแล้ว นอนกับใครก็เหมือนกันนั่นแหละ”แต่ในจังหวะที่พอดีแบบนี้เอง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอย่างเร่งรีบเจียงหลันรู้สึกได้ชัดเจนว่ามือของลู่สิงโจวปล่อยออกจากตัวเธอ เขามองเธอเพียงแวบเดียว ก่อนจะกดรับสาย“ซีเอิน ว่าไง?”อีกฝั่งไม่รู้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่าเขามีสีหน้าไม่พอใจ แต่ก็ยังอดทนตอบตกลง“พี่จะให้คนช่วยเธอจัดการนะ”ไม่ต้องคิดมาก เจียงหลันก็เดาได้เลยว่าปลายสายน่าจะเป็นคู่หมั้นสุดที่รักของเขา ผู้หญิงคนนั้นที่ทำให้เธอต้องบริจาคไตไปหนึ่งข้างเธอรู้สึกไม่ยอมแพ้ขึ้นมาอย่างกะทันหัน ดวงตาฉายแววเย็นชา และในวินาทีถัดมาก็ขยับตัวทันทีลู่สิงโจวขมวดคิ้ว สีหน้าก็เปลี่ยนไปมือบางอ่อนนุ่มราวไม่มีกระดูกของเจียงหลัน เคลื่อนไหวไปมาอย่างไม่อยู่นิ่ง
Comments