หน้าหลัก / โรแมนติก / ท่านชายแวมไพร์ / บทที่ 8 ท่านชายจอมปากแข็ง

แชร์

บทที่ 8 ท่านชายจอมปากแข็ง

ผู้เขียน: มินซอลทัง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-26 00:01:40

เมื่อเห็นว่าลินินนั่งอ่านหนังสือบนเตียงด้วยความลำบากอย่างที่ผู้ติดตามคนสนิทของตนรายงาน เจย์เดนก็มานั่งคิดอีกครั้ง ก่อนจะเกิดอุบายว่า “ข้าอยากไปเที่ยวเดินเล่นในห้องสักหน่อย” จากนั้นเขาก็บอกให้ลินินติดสอยห้อยตามไปด้วย

“ห้างเหรอ?” เธอยืนแง้มประตูห้องนอนเพื่อพูดคุยกับเขา “แต่ฉํนต้องอ่านหนังสือนะ” ลินินกล่าวถึงความจำเป็นของตัวเอง เธอเพิ่งเลิกเรียนจากที่โรงเรียนมา ก็หวังจะรีบทบทวนบทเรียนและอ่าหนังสือต่อเลย

“กฎอีกข้อ ข้าสั่งอะไรเจ้าต้องว่าตามนั้น” พูดจบ เจย์เดนก็ไม่มัวรีรอฟังคำโต้แย้งจากเธออีก เขาหมุนตัวหันหลังแล้วเดินลงไปรอเธอที่ลานจอดรถคฤหาสน์

ลินินเห็นแบบนั้นก็แอบอดถอนหายใจในความเอาแต่ใจของเจย์เดน

แต่เมื่อมาถึงห้างสรรพสินค้า เจย์เดนกลับไม่ค่อยตื่นตาตื่นใจที่จะเดินไปไหนเลย เอาแต่ยกมือขึ้นป้องแสงจากหลอดไฟนีออน ที่ดูเหมือนจะแยงตาของเขามากจนเกินควร

ลินินเห็นแบบนี้ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ‘ไม่ชอบที่สว่าง ๆ แล้วทำไมถึงพามาเดินห้างกัน หรือว่าเป็นแวมไพร์ขี้เหงา นาน ๆ ทีจึงอยากออกมาเดินเล่นกับคนอื่นเขาบ้าง?’ หลังจากคิดเช่นนั้น เธอก็ส่ายศีรษะด้วยความเอ็นดู ก่อนจะหยิบหมวกแก๊ปที่ตัวเองพกติดกระเป๋าเป็นประจำออกมา

สองขาก้าวเดินไปใกล้เขาแล้วเขย่งปลายเท้าขึ้น ลินินเอื้อมตัวสวมหมวกใบนั้นให้เจย์เดนอย่างถือวิสาสะ ดีที่วันนี้เขาไม่ได้ใส่สูทเต็มยศออกมา การแต่งตัวจึงดูเข้ากับหมวกแก๊ปของเธออย่างน่าเหลือเชื่อ ลินินเห็นแบบนั้นก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจที่ใส่หมวกให้เขาได้สำเร็จ

ส่วนเจ้าตัวที่ถูกกระทำเช่นนั้นก็ได้แต่มองหน้าเธอด้วยสายตาชวนตะลึง ไม่คิดว่าเธอจะทำอะไรแบบนี้กับตัวเอง

“ไม่ต้องก็ได้...” ในขณะที่กำลังจะถอดหมวกออก ลินินก็รีบเขย่งปลายเท้าขึ้นอีกครั้งเพื่อเอื้อมปกป้องหมวกใบนั้นจากมือหนาที่กำลังจะถอดมันออก

“ใส่เอาไว้เถอะ จะได้ไม่ต้องคอยยกมือป้องตาตัวเองอยู่” เมื่อเห็นแววตาจริงจังและดูเป็นห่วงเป็นใยส่งออกมาจากเธอ เจย์เดนก็ยอมลดแขนของตัวเองลงแล้วใส่หมวกนั้นต่อ

หลังจากนั้น ร่างสูงก็เริ่มเดินวนไปเรื่อย ทำทีเป็นเข้าร้านนู้นออกร้านนี้ จนสุดท้ายมาหยึดที่ร้านขายอุปกรณ์การเรียนซึ่งเปนรที่เขตั้งใจมาเป็นอันดับแรก แต่กลับต้องเดินอ้อมให้เมื่อยเสียก่อน เหมือนปากของตัวเองที่หนักมากเสียจนบอกกล่าวกันตรง ๆ ไม่ได้

ลินินเห็นว่าเขาเดินเข้ามาในร้านแบบนี้ เธอจึงถือโอกาสไปเลือกเครื่องเขียนของตัวเองด้วย เจย์เดนที่เห็นเธอเดินเลือกของตัวเองก็แอบยกยิ้มขึ้นมุมปาก และหลังจากนั้นก็ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นฝ่ายเดินตามลินินไปเสียแล้ว

“นายไม่เลือกของตัวเองเหรอ?” ลินินเอ่ยถามเมื่อหันหลังกลับไปมองอีกสักกี่ครั้งก็ยังเห็นพ่อหนุ่มแวมไพร์นี้เดินตามเธออยูไม่ห่าง

“เลือก...เลือกอยู่...” ว่าพลางยื่นมือหนาของตัวเองไปแตะลูบคลำเครื่องเขียนในร้าน

“ใช้ของน่ารักขนาดนั้นเชียวเหรอเนี่ย” ลินินเอ่ยขึ้นก่อนจะหัวเราะออกมาเมื่อเห็นภาพตรงหน้า

เจย์เดนกำลังยืนเลือกปากกาลายการ์ตูนอยู่ ร่างสูงที่รู้ตัวว่าตัวเองทำเรื่องน่าอายก็หน้าขึ้นสีแดงระเรื่อ ก่อนจะรีบปล่อยมือออก

“อะไรกัน ไม่ต้องอายหรอก ใคร ๆ ก็ใช้ของแบบนี้ดั้งนั้นแหละ” ลินินว่าก่อนจะหันหลังเดินเลือกของต่อไป แต่ก็ยังไม่วายแอบหัวเราะเขาต่ออีกนิดหน่อย

เจย์เดนเห็นแบบนั้นก็หรี่ตามองเธออย่างคาดโทษ ‘เจ้ากล้าหัวเราะแวมไพร์ที่น่าเกรงขามอย่างข้างั้นหรือ!’ ว่าพลางทำหน้ามุ่ยแต่ก็ยังตามติดเธอไม่ห่าง

ลินินเลือกของใส่ตะกร้าเพียงสิ่งที่จำเป็นเท่านั้น ด้วยความที่งของเธอมีไม่มาก แต่เมื่อเดินผ่านตุ๊กตาตัวหนึ่งเข้า มันคือตุ๊กตาแดร็กคูล่าที่ในมือถือลูกฟักทองอยู่ โดยรวมมันก็น่ารักอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่มันเหมือนใครบางคนด้วย จึงถูกตาต้องใจเธอจนอยากได้เข้าไปใหญ่

อันที่จริงแล้ว การที่เธอมองตุ๊กตาตัวนี้โดยละสายตาไม่ได้ สาเหตูหนึ่งก็เป็นเพราะมันมีรูปร่างและท่าทางเหมือนเจย์เดนอย่างไรเล่า

ดูเหมือนว่าช่วงนี้ใกล้เทศกาลฮาโลวีนแล้ว ในห้างจึงวางจำหน่ายของเช่นนี้ นอกจากนี้บนป้ายยังเขียนว่าลิมิเต็ดด้วย ซึ่งหมายความว่า มันมีเพียงไม่กี่ตัวบนโลกนี้ และดูเหมือนจะเป็นตัวสุดท้ายแล้วด้วยสิ...

แต่ถึงอย่างนั้น ลินินก็ทำได้เพียงมองมันตาระห้อย ก่อนจะต้องจำใจร่ำลามัน

แต่ความอาลัยอาวรณ์ของเธอที่มีต่อตุ๊กตานั้นหลบไม่พ้นสายตาอันเฉียบแหลมของเจย์เดน เขาพยายามภาวนาในใจว่า ‘อ้อนข้าสิ มาอ้อนข้าสิ’ ราวกับอยากให้เธอมาวิงวอนขอให้เขาซื้อให้ หากเป็นแบบนั้นเขาก็พร้อมจะควักเงินจ่ายให้ในทันที แต่ถึงอย่างนั้น ลินินก็ล่วงหน้าจากตุ๊กตาตัวนี้ไปไกลแล้ว

เจย์เดนเห็นแบบนั้นก็ได้แต่เดินคอตกพลางถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย หลังจากนั้น มือหนาก็เอื้อมไปหยิบตุ๊กตาตัวนั้นแล้วเดินนำไปใส่ลงในตะกร้ารถเข็นของเธอด้วย

“เอ๊ะ?” ลินินหันมองด้วยสีหน้าสงสัย เขาจะซื้อตุ๊กจาจัวนี้อย่างนั้นเหรอ?

“ฉันชอบ...จะซื้อ...” ครั้นจะบอกว่าตั้งใจจะซื้อเพื่อเธอก็ทำไม่ได้อีกตามเคย “มัน...มันน่ารักดี” แต่บอกตามตรง เจย์เดนไม่ได้รู้สึกถึงความน่ารักของมันเลยแม้แต่น้อย มันก็แค่แดร็คคูล่า น่ารักตรงไหนกัน ไม่รู้ว่าทำไมลินินจะต้องอาลัยอาวรณ์มันขนาดนั้นด้วย

ลินินเห็นแบบนั้นก็ได้แต่อิจฉาที่เจย์เดนสามารถซื้อมันไปครอบครองได้ แทนที่มันจะเป็นของเธอเอง

หลังจากเดินไปสักพักก็ผ่านโซนเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นโต๊ะอ่าหนังสือ ลินินที่เห็นเข้าโดยบังเอิญก็มองมันด้วยความคิดที่ว่า หากได้ไปตั้งในห้องก็คงจะดีไม่น้อย

“เจ้าช่วยข้าเลือกหน่อยสิ เอาโต๊ะแบบไหนดี” เจย์เดนที่เดินอยู่ข้าง ๆ เอ่ยขึ้น

“จะซื้อโต๊ะใหม่เหรอ?”

“อืม...อยากได้ไปตั้งในห้องทำงานอีกตัว ช่วยเลือกหน่อยสิ”

ร่างสูงพาลินินเดินชมโต๊ะที่วางเรียงรายกันอยู่ในนั้น นอกจากนี้ยังให้เลือกเก้าอี้ลองมานั่งคู่กันด้วยอีกต่างหาก ว่าสูงพอเหมาะกับตัวเธอหรือไม่ แต่ลินินก็ไม่ได้เอะใจแต่อย่างใดว่าเขาตั้งใจจะซื้อให้เธอ

ลินินลังเลอยู่หน้าชุดโต๊ะและเก้าอี้สองชุดที่เธอได้เลือกเอาไว้ในใจ โดยชุดหนึ่งทำจากไม้เนื้อดีราคาหลักหมื่น ส่วนอีกชุดนั้นสวยไม่แพ้กัน แต่หากเทียบกับวัสดุแล้วไม่ค่อยดีนัก ราคาจึงลดหลั่นลงมา ทำให้เธอรู้สึกลังเลใจที่จะเลือกยิ่งนัก แต่เมื่อนึกถึงระดับเจย์เดนแล้วก็ควรจะใช้ของดีสักหน่อย

ระหว่างที่ลินินลองนั่ง เจย์เดนก็มองเธออย่างพิจารณา เมื่อเห็นว่ามันสูงพอดีกับสัดส่วนร่างกายของเธอจึงตัดสินใจเคาะว่าเอาเป็นโต๊ะกับเก้าอี้เซ็ตนี้แล้วกัน

“ตัวนี้น่าจะดีนะ ปรับได้หลายระดับด้วย นายลองนั่งดูสิ ว่าพอดีกับตัวนายหรือเปล่า” ลินินกล่าวพร้อมลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้แล้วพยายามดึงให้เจย์เดนมาลอง

“ไม่ต้องหรอก เอาตัวนี้ตามที่เธอว่าแล้วกัน” จากนั้นเขาก็โบกมือเรียกให้พนักงานหาของเตรียมเอาไว้

“ครับ คุณเจย์เดน เดี๋ยวทางห้างจะจัดเตรียมของให้เรียบร้อยครับ” พนักงานชายคนหนึ่งกล่าวขึ้น เขาเป็นพนักงานระดับผู้จัดการ ในตอนแรกที่เห้นเจย์เดนก้าวเข้ามาเหยียบในร้านเขาก็คิดว่าจะเข้ามาบริการให้ระดับวีไอพี แต่เมื่อเจย์เดนเห็นแบบนั้นก็รีบยกมือหยุดเขาเสียก่อน ด้วยความอยากอยู่กับว่าที่ชายาของตนเพียงลำพังไร้ซึ่งคนรบกวน

ลินินเลือกโต๊ะให้เจย์เดนเรียบร้อยแล้วก็ไปที่โซนร้านหนังสือ เพื่อหาซื้อหนังสือเตรียมสอบ เจย์เดนเห็นแบบนั้นก็แอบมองตาม ก่อนจะมองเธอเริ่มนับเงินในกระเป๋าของตัวเองอย่างน่าเอ็นดู

รอยยิ้มนั้นดูอ่อนโยนกว่าทุกครั้งที่เขาเคยยิ้มให้ผู้ใด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่รู้ตัวเองเลยว่ามีรอยยิ้มแบบนั้นให้กับเธอคนนี้เสียดื้อ ๆ เธอไม่ต้องทำอะไรเลย แค่ยืนอยู่ในที่ของตัวเอง รอยยิ้มอันแสนอ่อนโยนของเขาก็ปรากฎออกมาเสียอย่างนั้น

“แบบนี้มนุษย์เขาเรียกว่าอาการคลั่งรักนะขอรับท่านชาย” ระหว่างที่ลินินกำลังเพลิดเพลินกับการเลือกหนังสือของตัวเอง เจย์เดนที่ยืนมองเธอด้วยสายตาเอ็นดูก็ไม่ทันสังเกตว่าผู้ติดตามคนสนิทอย่าง ชาร์ล โผล่มายืนข้างกายตั้งแต่เมื่อไหร่ เมื่อได้ยินเสียงของเขาก็สะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะกระแอมขึ้นแก้เก้อเขิน

“คลั่งรักอะไรของเจ้า...แล้วนี่มาได้อย่างไรกัน” พยายามหลีกเลี่ยงบทสนทนาของการคลั่งรัก จึงเอ่ยถามเรื่องการมาเยือนขึ้นแทนเสียเลย

“เห็นท่านชายขับรถออกมาโดยไม่บอกกล่าว ข้าซึ่งเป็นผู้ติดตามของท่านก็ต้องขับตามมาอยู่แล้วขอรับ” ว่าพลางกอดอกทำท่าภูมิใจเหมือนตัวเองเป็นผู้ติดตามที่น่ายกย่อง

"เอาเถอะ เจ้ามาก็ดีแล้ว...เดี๋ยวไปทำเรื่องจ่ายเงินให้เรียบร้อย แล้วก็โทรบอกให้คนของเราขับรถมารับของพวกนี้ไปด้วย" เจย์เดนเอ่ยสั่งเสียงเข้ม แม้ภายนอกจะพยายามทำตัวปกติ แต่ในใจกลับยังพะวงว่าคนอื่นจะจับได้ ในเรื่องที่เขาแอบตามใจว่าที่ชายาของตัวเอง “อ่อ... เจ้าช่วยไปดูของตกแต่งโต๊ะเรียนให้นางด้วย ชั้นวางหนังสือ กล่องใส่อุปกรณ์เครื่องเขียน จัดเซ็ตมาให้หมดเลยนะ”

ชาร์ลได้รับคำสั่งก็รีบไปจัดการ ทิ้งให้เจย์เดนคอยเฝ้ามองลินินต่อไป

และสาเหตุที่ต้องให้คนในคฤหาสน์ออกมารับแทนที่จะให้พนักงานจากห้างสรรพสินค้าขับรถไปส่งเองนั้น ก็เพราะกลัวว่าพวกมนุษย์จะไปเห็นคฤหาสน์แล้วเกิดความสนใจจึงรุกล้ำความเป็นส่วนตัวกันได้อย่างไรล่ะ

หลังจากชาร์ลไปจัดการเรื่องจ่ายเงินและจัดส่งของให้เจย์เดนเรียบร้อยแล้ว เขาก็ขอตัวล่วงหน้ากลับไปที่คฤหาสน์ก่อน

ส่วนเจย์เดนก็เดินตามลินินเหมือนลูกหมา และเมื่อเธอเลือกหนังสือเสร็จแล้ว ขณะที่ลินินกำลังจะควักเงินในกระเป๋าของตัวเองมาจ่ายค่าหนังสือ รวมถึงอุปกรณ์เครื่องเขียนที่ซื้อเพิ่มเติม เจย์เดนก็หยิบบัตรเครดิตตัวเองออกมาแล้วยื่นให้พนักงานตรงหน้าโดยไม่รีรอ

“เอ๊ะ นี่มันส่วนของฉันนะ” ลินินกล่าวปาม กลัวว่าเขาจะลืมว่าของพวกนี้เป็นของที่เธอเลือกสรรค์เอง ไม่ได้เกี่ยวอะกับเขาเลย

“เจ้าเก็บเงินเอาไว้กินขนมเถอะ” เจย์เดนว่าแบบนั้นแล้วพาเธอเดินออกจากร้านมาพร้อมของในมือ

เขาพาลินินไปทานข้าวต่อ และนี่ถือเป็นการทานอาหารนอกคฤหาสน์ครั้งแรกระหว่างพวกเขาสองคน แต่ระหว่างที่เดินอยู่ด้วยกันนั้น ลินินไม่กล้าที่จะเดินเคียงข้างเจย์เดนเลยแม้แต่น้อย เธอรู้สึกประหม่าเมื่อเห็นความแตกต่างระหว่างตัวเองกับเขา การแต่งตัวของเธอไม่ได้ดูดีนัก แถมรองเท้ายังมีรอยขาดเล็ก ๆ ดูไม่น่ามองอีกด้วย แต่เจย์เดนกลับไม่รับรู้ถึงความประหม่าของเธอเลย แถมยังพาเธอเข้าไปในร้านระดับภัตราคารอีกต่างหาก

เมื่อทั้งสองกลับมาถึงคฤหาสน์ ลินินก็ขอตัวกลับขึ้นห้องพร้อมหนังสือใหม่เอี่ยมในมือเตรยมพร้อมอ่านอย่างจริงจัง

แต่เมื่อขึ้นมาถึงห้อง เธอก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าโต๊ะและเก้าอี้ที่เธอไปช่วยเจย์เดนเลือก ได้ถูกนำมาจัดเอาไว้ในห้องนอนของเธอเอง มันสวยงามมากราวกับถูกเสกมาวางเอาไว้ตรงนั้น

และเมื่อนั้นเอง เธอจึงได้ทราบความตังใจของเจย์เดนที่ไปเดินห้างในวันนี้ ไม่เพียงเท่านั้น ตุ๊กตาแดร็คคูล่าตัวนั้นยังมานั่งอยู่บนเตียงของเธออีกต่างหาก

ลินินรีบเข้าไปอุ้มมันขึ้นมากอด ด้วยความดีใจเธอจึงกระโดดโลดเต้นไปมา “ขอบคุณนะเจย์เดน...” เธอกล่าวลอย ๆ แต่แล้วก็ฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “ถ้าอย่างนั้นแกชื่อเจย์เดนแล้วกัน” ว่าพลางลูบหัวเจ้าแดร็กคูล่าตัวน้อยและกอดรัดฟัดเหวี่ยงมันจนหนำใจ

หารู้ไม่ว่าทุกการแสดงออกของเธอนั้นอยู่ในสายตาเจ้าของคฤหาสน์อย่างเจย์เดนที่กำลังแอบยืนมองจากระเบียงข้างนอกห้องพร้อมรอยยิ้มที่ผุดขึ้นตรงมุมปาก

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ท่านชายแวมไพร์   ตอนพิเศษ 8 อยู่บ้านกับท่านพ่อ 2

    ในเช้าวันหนึ่งหลังมื้ออาหาร อยู่ๆ ลินินก็ได้รับสายจากบริษัทว่ามีธุระเร่งด่วนต้องเข้าไปเจรจากับทางโรงงานฝ่ายผลิต ด้วยแบบเสื้อผ้าที่โรงงานจัดทำตัวอย่างรุ่นแรกออกมามันผิดไปจากแบบที่เธอคาดหวังเอาไว้มากคิ้วสวยขมวดมุ่นอย่างไม่พอใจ ก่อนจะจัดการบอกเลขาว่าเดี๋ยวจะเข้าไปที่โรงงานด้วยตัวเอง“ดูเหมือนต้องไปที่โรงงานเองแล้วล่ะ แบบที่ส่งมามันไม่ตรงกับที่สั่งไว้เลย” เธอบ่นให้สามีฟังขณะที่เตรียมตัวจะออกไปข้างนอกเจย์เดนที่นั่งอยู่บนโซฟาก็ทำหน้าฉงน “เจ้าสั่งเลขาไปแทนก็ได้หนิลินิน ไม่เห็นต้องไปเองเลย ทำไมต้องเหนื่อยเองด้วย?” น้ำเสียงบ่งบอกชัดเจนว่าคัดค้านสุดตัวลินินจึงหยุดมือจากการเตรียมเอกสารแล้วหันมามองมาทางเขาอย่างไม่เข้าใจนักว่าทำไมสามีเธอจึงมีทีท่าเช่นนั้น“ก็เพราะเป็นแบรนด์ของฉันไง ฉันก็เลยอยากเข้าไปดูเอง”ได้ยินแบบนั้นเจ้าแวมไพร์ก็เริ่มขยับตัวเหมือนอยู่ไม่สุข สีหน้าของเขาเริ่มออกอาการกังวล ส่วนภรรยาตัวน้อยของเขาก็จับจ้องมองตามท่าทีนั้นอย่างไม่วางตา ด้วยสงสัยว่าสามีเป็นอะไรไป“แต่เจ้าไม่ต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเองก็ได้นี่นา ข้าแค่…แค่คิดว่าเจ้าควรพักบ้าง” ว่าจบก็ส่งมือหนาเข้ามากอบกุมมือเรียวของเธออ

  • ท่านชายแวมไพร์   ตอนพิเศษ 7 คำชมจากแม่สามี

    ในห้องโถงใหญ่ของคฤหาสน์ที่อบอวลไปด้วยความอบอุ่น ท่านพ่อและท่านแม่ของเจย์เดนมาถึงพร้อมกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะจากเด็ก ๆ ทั้งสี่ที่วิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน พวกเขาเติบโตอย่างรวดเร็วจนผู้ใหญ่ในครอบครัวอดตกใจเสียไม่ได้“ลินิน เจ้านี่เก่งเหลือเกิน” ท่านแม่เอ่ยชมขณะมองดูหลาน ๆ ที่กำลังวิ่งเล่นอยู่ใกล้ ๆ “ของข้าแค่คนเดียวก็ลมแทบจับแล้ว” ลินินยิ้มตอบ ขณะเดียวกันนั้นเจย์เดนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็เริ่มขมวดคิ้วขึ้นในทันทีเมื่อได้ฟังคำพูดของแม่ตัวเอง “อะไรกันท่านแม่ ข้าเลี้ยงยากเหรอ?” ถามด้วยน้ำเสียงจริงจังไลเรนได้ยินก็หัวเราะขึ้น “เลี้ยงยากมาก เจ้าดื้อมากตั้งแต่ยังเล็ก ๆ แล้ว” “ดื้อเหรอคะ?” ลินินเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสนใจ “ไม่เห็นเคยรู้เลย” เธอนึกภาพเจย์เดนผู้มีท่าทีสงบนิ่งกลายเป็นเด็กดื้อไม่ออกเลยจริง ๆ แต่ถ้าหากเรื่องความขี้แกล้ง อันนี้พอจะรู้อยู่บ้างแล้วล่ะเจย์เดนขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม “ข้าไม่ได้ดื้ออะไรสักหน่อย ท่านแม่น่ะพูดเกินไป”“งั้นเหรอ?” ท่านแม่ส่งยิ้มพร้อมสายตาเจ้าเล่ห์มาทางเจย์เดน ก่อนจะหลับตาลงแล้วเล่าเรื่องสมัยที่เจย์เดนยังเป็นเด็กขึ้น “แล้วใครกันที่ปีนต้นไม้หนีออกจากบ้านเพร

  • ท่านชายแวมไพร์   ตอนพิเศษ 6 อยู่บ้านกับท่านพ่อ

    บังเอิญว่าในวันนี้ลินินจะต้องไปตรวจงานออกแบบเสื้อผ้าที่บริษัทของเธอ หลังจากเตรียมตัวเสร็จแล้วก็พร้อมจะออกเดินทางเจย์เดนในเสื้อเชิ้ตที่พับแขนขึ้นเล็กน้อยก็เดินตรงเข้ามาหาเธอด้วยมาดเข้ม "เจ้าจะไปนานไหม?" เขาถามลินินพร้อมย่อตัวนั่งลงตรงหน้าก่อนจะยื่นมือหนาออกไปช่วยสวมรองเท้าให้เธอ"ไม่นานหรอก นายอยู่ดูเด็ก ๆ ไหวใช่ไหม?" ลินินหันมายิ้มให้เล็กน้อยเจย์เดนพยักหน้ามั่นใจ "ข้าเป็นแวมไพร์นะ เลี้ยงเด็กแค่นี้จะไปยากอะไร" ใบหน้าหล่อแสยะยิ้มขึ้นด้วยความมั่นใจลินินเห็นแบบนั้นก็แอบหัวเราะนิดหน่อย "งั้นฝากด้วยนะ อย่าให้พวกเขาทำบ้านพังล่ะ""บ้านทนจะตาย เจ้าอย่ากังวลไปเลย" เขาพูดติดตลก พร้อมยกมือโบกให้ลินินก่อนที่เธอจะเดินออกไปตอนแรกทุกอย่างดูสงบเรียบร้อย เด็ก ๆ นั่งวาดรูปอยู่ในห้องโถงใหญ่ แต่ไม่นานนัก เรย์เน่เริ่มบ่นว่าเบื่อและอยากเล่นซ่อนแอบ"ท่านพ่อ เล่นซ่อนแอบกับพวกเราไหมคะ" ไม่เพียงแค่เอ่ยถาม ยังส่งสายตาแวอย่างออดอ้อนมาให้เจย์เดนอีกต่างหากร่างสูงที่นั่งเฝ้าลูก ๆ พร้อมทำงานไปด้วยก็ชายตาขึ้นจากกองงาน ก่อนจะตอบรับ "ได้สิ นับสิบนะ"ยังไม่ทันจะเริ่มนับ เด็ก ๆ ทั้งห้าก็วิ่งวุ่นหาที่ซ่อนไปทั่วคฤหาสน์

  • ท่านชายแวมไพร์   ตอนพิเศษ 5 ข้าวกล่องหรรษา

    เช้าวันหนึ่งลินินตื่นขึ้นมา และเมื่อเห็นว่าลูก ๆ ยังหลับอยู่ เธอก็ตั้งใจว่าจะทำข้าวกล่องไปให้สามีที่บริษัท จึงรีบเร่งเตรียมวัตถุดิบอย่างพิถีพิถัน“ทำเสต๊กแล้วกัน” เธอว่าพลางตัดชื้นเนื้อแล้วจับมันพลิกใส่เตาย่าง เมื่อสุกได้ที่แบบกลาง ๆ แล้ว ก็นำมาตัดเป็นชิ้นพอดีคำ และพร้อมเริ่มเตรียมอย่างอื่นต่อไปแต่ก่อนที่จะทันได้ลงมือ ลูก ๆ ทั้งสี่ เจย์เนส เรย์เน่ เคย์ลิส และไลเอนน์ ก็ตื่นขึ้นมาได้ยินเข้าเสียก่อน"ท่านแม่ทำอะไรเหรอครับ/คะ?" เสียงเจื้อยแจ้วเอ่ย ถามอย่างตื่นเต้น และเมื่อทราบว่าท่านแม่ของพวกเขากำลังจะทำรู้ข้าวกล่องไปให้ท่านพ่อที่บริษัท ทุกคนก็ดูเหมือนอยากจะช่วยกันคนละไม้คนละมือขึ้นมาในทันทีแต่แทนที่การช่วยจะทำให้งานเสร็จเร็วขึ้นกลับกลายเป็นวุ่นวายกว่าเดิมเสียอย่างนั้นเจย์เนสที่เป็นพี่ใหญ่สุดพยายามช่วยลินินหั่นผลไม้ แต่ด้วยความที่ยังมือใหม่จึงหั่นออกมาได้ไม่ค่อยเท่ากันนัก บางชิ้นก็ใหญ่เกินกว่าจะยัดลงปากได้ ส่วนบางชิ้นก็บางเฉียบจนแทบไม่ไต้องเตี้ยวกันเลย จนลินินต้องเข้ามาแก้ให้ส่วนเรย์เน่ คนนี้ชื่นชอบความสวยงามเป็นชีวิตจิตใจ จึงได้รับหน้าที่ยืนแต่งจานสลัด แต่ด้วยความที่เป็นเด็ก จึงใส่ใ

  • ท่านชายแวมไพร์   ตอนพิเศษ 4 ศึกชิงนางจากผู้ท้าชิงห้าคน

    นานวันเข้า เจย์เนสและเรย์เน่ก็เริ่มโตมากขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้ก็เหมือนเด็กอายุเจ็ดขวบเข้าแล้ว ส่วนน้องน้อยของพวกเขาตอนนี้ก็คล้ายกับเด็กมนุษย์ในช่วงวัยห้าขวบ และใช่ ทั้งมดนี้เกิดขึ้นในเวลาไม่ถึงปีเป็นอย่างที่ท่านหมอเคยกล่าวว่าพวกเขาจะโตไวและเรียนรู้เร็วมาก เจย์เดนกับลินินจึงจ้างครูมาคอยสอนพวกเขาที่บ้านด้วย เนื่องจากเล็งเห็นว่าพวกเขาอาจยังไม่พร้อมที่จะไปเข้าเรียนร่วมกับเด็กคนอื่น ๆนอกจากนี้ เมื่อเริ่มโตขึ้น การติดแม่ก็เริ่มน้อยลง กลายเป็นน้อง ๆ เข้ามาทำหน้าที่ในส่วนนั้นแทนเจย์เนสในวัยหนุ่มน้อยเริ่มสนใจการอ่านหนังสือในห้องเงียบ ๆ หรือออกไปฝึกศิลปะการต่อสู้กับอาจารย์ที่ท่านพ่อของเขาจ้างมาฝึกส่วนตัวเสียมากกว่ามาขลุกอยู่ในห้องกับน้อง ๆ และนอกเหนือจากนั้นนิสัยก็เริ่มเคร่งขรึมมากขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนผู้เป็นพ่ออย่างไม่ทิ้งห่างส่วนเรย์เน่ก็เริ่มมีความสนใจในเรื่องศิลปะและดนตรี บ่อยครั้งเธอจะเก็บตัวฝึกซ้อมเปียโนหรือวาดภาพในมุมของตัวเอง "ช่วงนี้ส่งไม้ต่อให้น้อง ๆ แล้ว ไม่ต้องกลัวว่าแม่จะเหงาเลย"ลินินได้ฟังเช่นนั้นก็หลุดหัวเราะออกมา แต่ถึงก็ยังมีสมาชิกตัวโตที่ดูเหมือนจะคอยมาแย่งแม่ของพวกเขาอยู่ตลอด

  • ท่านชายแวมไพร์   ตอนพิเศษ 3 เกิดเรื่องไม่คาดฝันอีกแล้ว

    และแล้ววันหนึ่งก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นอีกครั้งเข้าจนได้ เมื่อลินินส่องกระจกและเริ่มเห็นหน้าท้องที่ดูเหมือนจะอวบอิ่มขึ้น“นี่เราไม่ได้ออกกำลังกายจนลงพุงหรือยังไงกันเนี่ย” เธอพึมพำ แต่แล้วก็นึกถึงตอนที่ตั้งท้องสองแฝดขึ้นมาได้ ว่ามันก็เริ่มต้นเช่นนี้นอกจากนี้เมื่อสังเกตอาการไปนานวันเข้า ยังมีอาการพะอืดพะอมร่วมด้วยอีกต่างหาก อาการนั้นรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ จนเจย์เดนต้องตัดสินใจพาเธอไปตรวจที่โรงพยาบาลในที่สุด“ซูบผอมลงอีกแล้วนะขอรับท่านหญิง” ท่านหมอเอ่ยแซวพร้อมรอยยิ้ม"ตอนแรกฉันคิดว่าอาจจะกินเยอะไป อาหารก็เลยอาจจะไม่ย่อย แต่พอเห็นว่าผอมลงแล้วท้องป่องเหมือนครั้งที่แล้ว ก็เลยคิดว่าคงจะ..." ลินินพูดเสียงเบาขณะที่ท่านหมอก็อัลตร้าซาวน์บริเวณหน้าท้องของเธอไปพลาง“ขอรับ ตั้งครรภ์อีกแล้ว..." ท่านหมอยืนยันความคิดของเธอเจย์เดนที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ พลันหยุดนิ่งราวกับถูกหยุดเวลา ดวงตาสีแดงของเขาจับจ้องไปยังหมอหลวงราวกับอยากจะให้แน่ใจว่าตัวเองฟังไม่ผิดไป "ปกติแล้วแวมไพร์จะตั้งครรภ์ได้ครั้งเดียวไม่ใช่หรือ?"“นั่นน่ะสิ” แววตาคู่สวยของลินินก็จับจ้องใบหน้าของท่านหมอด้วยความฉงนเช่นกัน พร้อมกับหันมองสามีของตน

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status