Share

บทที่ 2

last update Last Updated: 2024-11-18 12:20:56

เพราะเพลียจากการเดินทางข้ามทวีป เนื่องจากก่อนหน้านั้นอชิระทำงานหามรุ่งหามค่ำไม่ได้หยุดลากยาวมาเป็นอาทิตย์ๆ เวลานี้เขาจึงอยากอาบน้ำแล้วพักผ่อนเต็มที

แต่พอสายตาเหลือบไปเห็นบรั่นดีสีส้มแกมทองอำพันเข้มที่ส่งตรงมาจากฝรั่งเศสพร้อมแก้วทรงสวยวางอยู่ก็ลังเลเล็กน้อย ก่อนจะคว้าแก้วใบนั้นมาถือไว้ในมือแล้วรินบรั่นดีรสเยี่ยมลงไปจากนั้นก็ยกขึ้นมาดื่ม รสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของมันช่วยสร้างความผ่อนคลายให้เขาได้เป็นอย่างดี

อชิระใช้ปลายนิ้วคลึงปากแก้วไปมาขณะที่สมองก็กำลังใช้ความคิดไปด้วย จู่ๆ เขาก็ถูกพี่ชายเรียกตัวให้กลับมาเมืองไทยอย่างเร่งด้วย ถามถึงเหตุผลว่าเพราะอะไรก็ไม่ยอมบอกท่าเดียว 

“คงไม่ใช่เบื่อแล้วอยากวางมือเหมือนในละครอะไรพวกนั้นหรอกนะ” เสียงทุ้มเอ่ยกับตัวเองพร้อมกับจิบบรั่นดีในแก้วไปด้วย เขาเพียงแค่สันนิษฐานเท่านั้น

เพราะที่ผ่านมาเขาก็เคยเบื่อแล้วอยากวางมือจากงานที่ทำอยู่ อยากออกไปสูดโอโซนรอบโลกดูสักครั้ง แต่เอาเข้าจริงก็ยังทำอย่างที่คิดไม่ได้แต่อนาคตก็ไม่แน่

หลังจากนั่งจิบบรั่นดีพร้อมกับปล่อยความคิดให้ล่องลอยไปกับรสชาติของมันได้สามสี่แก้ว อชิระก็หยุดดื่มจากนั้นก็เดินกลับเข้าห้องนอนเพื่ออาบน้ำเตรียมพักผ่อน โดยถือแก้วทรงสวยที่ยังมีบรั่นดีเหลืออยู่เข้าไปด้วยแล้ววางมันลงบนโต๊ะหัวเตียง 

แม้จะรู้สึกร้อนวูบวาบข้างในแปลกๆ แต่ก็คิดเองว่าร่างกายอาจกำลังประท้วงที่เขาโหมงานหนักติดต่อกันมาหลายวัน ชายหนุ่มส่ายหน้าแรงๆ แล้วเดินตรงเข้าห้องน้ำไป ไม่กี่อึดใจเสียงน้ำจากฝักบัวก็ดังขึ้น

ทันทีที่ได้ยินเสียงน้ำอดุลย์กับกรรวีที่รออยู่นอกห้องก็ค่อยๆ เปิดประตูเข้ามาในส่วนที่เป็นห้องนอน เหตุผลที่เข้ามาได้เพราะอดุลย์มีคีย์การ์ดสำรองอยู่ในมือ ซึ่งประธานอย่างตุลย์ให้มาไว้เผื่อแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน 

“พาเข้ามาๆ เร็วๆ” อดุลย์กวักมือบอกให้กรรวีรีบเข้ามา 

“มาช่วยพยุงกันก่อนสิค่ะคุณอดุลย์” กรรวีประท้วงเล็กๆ นั่นเพราะเธอคนเดียวจะพยุงหญิงสาวที่ทำท่าจะล้มไม่ล้มขณะนี้ไหวได้ยังไง อดุลย์จึงรีบเข้ามาช่วย

ทั้งสองรีบพาไวน์รสหวานไปวางบนเตียง อดุลย์เอ่ยบอกให้กรรวีปลดเปลื้องเสื้อผ้าของคนบนเตียงออกให้หมดซึ่งเลขาส่วนตัวก็รีบจัดการทันทีนอกจากเสื้อผ้าแล้วเธอยังถอดเครื่องประดับออกให้ด้วย จากนั้นก็คว้าผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างกายเปลือยเปล่านั้นไว้ 

“โอเค เท่านี้ก็เรียบร้อย” อดุลย์ยิ้มกริ่มพอใจกับแผนการครั้งนี้ของเขา ก่อนเข้ามาเขาเห็นปริมาณบรั่นดีในขวดที่วางอยู่ตรงห้องนั่งเล่นหายไปพอสมควรแสดงว่าอชิระดื่มมันไปแล้ว แบบนี้รับรองได้ว่าทุกอย่างต้องเรียบร้อยแน่นอน 

เมื่อจัดแจงอะไรเสร็จอดุลย์และกรรวีก็รีบกลับออกไปทันที

 

แม้จะรู้สึกมึนๆ แต่อชิระก็ใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำนานพอสมควร บ่อยครั้งที่สมองของชายหนุ่มคิดไปถึงเรื่องเซ็กซ์เพราะพอสมองคิดร่างกายบางจุดมันก็พลันตื่นตัว 

อชิระกลับออกมาจากห้องน้ำโดยนุ่งผ้าขนหนูเพียงแค่ผืนเดียว ผมที่พึ่งสระยังคงหมาดๆ และมีหยดน้ำหยดลงบนแผ่นหลังบ้าง ชายหนุ่มใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กคอยเช็ดผมพร้อมกับเดินมายังเตียงนอนเพื่อจะทิ้งตัวลงนอน ทว่าสิ่งที่เห็นกลับทำให้เลือดในร่างกายสูบฉีด

“กล้าขัดคำสั่งกันแบบนี้ คงอยากถูกไล่ออกกันนักใช่ไหม” อชิระพึมพำออกมาอย่างไม่สบอารมณ์นั่นเพราะไม่คิดว่าจะมีผู้หญิงนอนเปลือยอยู่บนเตียงแบบนี้ ชายหนุ่มส่ายหน้าแรงๆ ไล่ความรู้สึกบางอย่างออกไปแล้วตรงเข้าไปหาหวังจะปลุกเธอให้ตื่น

ทว่าปลุกเท่าไหร่อีกฝ่ายกลับไม่รู้สึกตัวแถมยังปัดป่ายตามเนื้อตามตัวเขาไปมาคล้ายไม่ได้สติอีกต่างหาก ยิ่งเธอขยับร่างกายเขาก็ยิ่งเห็นความสวยงาม ใบหน้ากึ่งหลับกึ่งตื่นทำไมถึงได้น่าดึงดูด ยิ่งเมื่อสายตามาหยุดอยู่ตรงหน้าอกคู่สวยด้วยแล้วอชิระก็ถึงกับกลืนน้ำลายลงคอ

เขารู้ว่าเกิดความไม่ปกติกับตัวเอง เวลานี้ความรู้สึกต้องการเซ็กซ์ก็มากมายจนไม่อาจต้านทานได้ ในขณะที่หญิงสาวตรงหน้าก็ยั่วยวนเหลือเกิน ไม่รู้เลยหรือไงว่านั่นยิ่งทำให้ตบะของเขาแตก ในที่สุดอชิระก็ปล่อยให้อารมณ์นำพาชายหนุ่มโน้มตัวลงไปซุกไซ้และจูบเธออย่างดูดดื่ม

“ปะ…ปล่อย” เสียงแผ่วเบาดังมาจากสัมปันนีซึ่งมันเบามากจนอีกคนจับใจความไม่ได้ด้วยซ้ำ สติของเธอรางเลือนเหลือเกินไม่รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นขณะนี้เป็นความจริงหรือความฝันกันแน่

แต่ถ้าเป็นความฝันทำไมเธอถึงฝันแบบนี้แล้วถ้าเป็นความจริงเธอคงกำลังตกนรกอยู่ใช่ไหม ทำไมนรกถึงได้เสียวซ่านจนหายใจไม่ทั่วท้อง

สัมปันนีทั้งผลักไสและโอนอ่อน สัมผัสที่เกิดขึ้นทำให้เธอรับมือไม่ได้แม้แต่น้อย ปากอิ่มถูกครอบครองครั้งแล้วครั้งเล่าก่อนที่จะสะดุ้งวาบเมื่อหน้าอกถูกดูดดุนด้วยปากร้อนชื้น สัมปันนีบิดเร้าร่างกายเปลือยเปล่าไปมาพร้อมเสียงครางกระเส่าที่ดังเป็นระยะๆ 

เสียงครางของเธอกระตุ้นอารมณ์ของอชิระให้ยิ่งลุกโชน ชายหนุ่มกำลังเพลิดเพลินกับหน้าอกคู่สวยที่เขาทั้งจูบสลับดูดเลียทั้งบีบคลึงจนเม็ดยอดสีชมพูแข็งเป็นไต ก่อนจะวกขึ้นมาจูบปากอิ่ม จูบที่เต็มไปด้วยอารมณ์ปรารถนาจึงยากจะมีใครต้านทานได้ 

แม้สติของสัมปันนีจะถูกบั่นทอนด้วยยาที่ถูกมอมมาก่อนหน้านี้ ทว่ามันเทียบไม่ได้กับรสจูบอันหนักหน่วงที่กำลังเกิดขึ้นด้วยซ้ำ จูบแรกของเธอกำลังเกิดขึ้น จูบแรกที่ทำให้สมองเธอเกิดความพร่าเบลอมึนงงเต็มไปหมด ไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงจะผลักไสได้เลยด้วยซ้ำ

อชิระส่งปลายลิ้นร้อนชื้นเข้าไปชอนไชเกี่ยวรัดกับปลายลิ้นนุ่มๆ ที่ไม่ประสาของเธอด้วยความชำนาญ คนที่ไร้ประสบการณ์อย่างสัมปันนีมีหรือจะรับมือได้ เธอจำต้องปล่อยให้ทุกอย่างเกิดขึ้นแม้จะรู้ว่าเธอไม่ได้สมยอมก็ตาม ในขณะที่อชิระก็ปล่อยให้อารมณ์ควบคุมทุกอย่าง 

เขากลืนกินเธอ เฝ้าครอบครองและเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ ยอมรับว่าผู้หญิงที่ลูกน้องหามาให้หอมและหวานไปทั้งตัวจนยากจะปล่อยเธอไป เพราะแบบนั้นเขาจึงยังคงเฝ้าจูบเฝ้าสัมผัสร่างกายของเธออย่างดื่มด่ำ เพื่อดูดซับความหอมหวานจากทุกๆ ส่วนให้พอใจ

แสงไฟภายในห้องทำให้อชิระมองเห็นใบหน้าของเธอได้อย่างชัดเจน รวมถึงรูปร่างของเธอที่เหมือนยังไม่เคยผ่านมือใครมาก่อนด้วยซ้ำและเขาก็คิดถูก

“เจ็บ” หญิงสาวใต้ร่างอุทานออกมาทันทีเมื่อถูกเขาครอบครองพร้อมกันนั้นก็ยังได้ผลักร่างเปลือยของชายหนุ่มให้ออกห่าง แม้สมองจะเบลอแต่ทว่าร่างกายก็ยังรับรู้ถึงความเจ็บนั่นได้  

“ให้ตายสิ ยังเวอร์จิ้นอย่างนั้นเหรอ” อชิระครางกระหึ่มอยู่ในลำคอ คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเล็กน้อย แต่จะให้เขาหยุดทุกอย่างตอนนี้คงทำไม่ได้แน่

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ท่านประทานขา อย่ารังแกหนู   บทที่ 32-จบ

    “คุณเป็นคนเก่ง” อชิระเอ่ยขึ้นในขณะที่เลขากำลังแสดงท่าทางบางอย่างออกมา“ค่ะ” น้ำเสียงอ่อนหวานของปลายฟ้าเอ่ยรับ สิ่งเดียวที่ทำให้เธอตัดสินใจรับงานนี้ไม่ใช่เงินเดือนเป็นแสนหรือสวัสดิการพิเศษอะไร แต่คือประธานหนุ่มที่ชื่ออชิระที่พยายามยั่วเขามาหลายเดือนกลับไม่เคยสำเร็จ“แล้วทำไมถึงด้อยค่าตัวเองด้วยการทำตัวไม่น่ารักแบบนี้”“เอ้” ปลายฟ้าอุทานออกมาอย่างตกใจ“ผมรู้ว่าคุณกำลังคิดจะทำอะไร ครั้งนี้ผมแค่เตือน แต่ถ้าคุณไม่หยุดเราคงทำงานร่วมกันไม่ได้” อชิระไม่ใช่คนใสซื่อถึงตามไม่ทันมารยาหญิงและวิธีรับมือ“ทำไมถึงปฏิเสธฉันคะหรือว่าท่านประธานจะเป็นเกย์อย่างที่คนอื่นพูดๆ กัน” ปลายฟ้าเอ่ยถามนั่นเพราะทุกครั้งที่มีโอกาสเธอจะเข้าหาอชิระเสมอแต่ประธานหนุ่มกลับไม่ได้แสดงท่าทีสนใจเธอเลยแม้แต่น้อย“เปล่าแต่ผมมีผู้หญิงที่อยากให้เกียรติทั้งต่อหน้าและลับหลัง”“เธอคนนั้นโชคดี

  • ท่านประทานขา อย่ารังแกหนู   บทที่ 31

    อชิระและสัมปันนีคบหากันได้หลายเดือน จู่ๆ ก็มีข่าวทลายซ่องโสเภณีที่ฮ่องกง โดยหนึ่งในเหยื่อที่ถูกหลอกให้ไปทำงานจนแทบไม่เห็นเดือนเห็นตะวันที่นั่นคือพิจิกา แม้จะเบลอหน้าเหยื่อไว้แต่สัมปันนีก็มองออกว่าเป็นใคร ในขณะที่ข่าววงในจากอชิระก็ช่วยยืนยันว่าคือคนเดียวกันอีกด้วย“เห็นข่าวแล้วใช่ไหม”“ค่ะ” สัมปันนีเอ่ยรับ อชิระดึงเธอเข้ามากอดเพราะอย่างน้อยเวลานี้พิจิกาก็กำลังรับกรรมที่ก่อไว้ แม้จะไม่ได้มาจากพวกเขาโดยตรงก็ตาม“เห็นว่าเธอติดโรคมาด้วย ตอนนี้กำลังรักษาตัวอยู่”“กรรมค่ะ คนเราทำกรรมอะไรไว้ก็ต้องรับแบบนั้น” เวลานี้สัมปันนีอโหสิกรรมให้พิจิกาแล้วหลังจากนี้ก็ขอให้ต่างคนต่างอยู่“ผมมีอะไรให้ลูกหนูดู” เอ่ยบอกเสร็จอชิระก็พา สัมปันนีไปที่โต๊ะทำงาน ซึ่งตอนนี้พวกเขาอยู่ที่เพนท์เฮ้าส์ของชายหนุ่ม“อะไรคะ”“แบบบ้านครับ” เสียงทุ้มเฉลยนั่นทำให้สัมปันนีแปลกใจเป็นอย่างมาก

  • ท่านประทานขา อย่ารังแกหนู   บทที่ 30

    ทั้งอชิระและสัมปันนีก็ต่างเป็นคนสำคัญของกันและกัน เพราะไม่อยากให้กระทบกับหน้าที่การงานโดยเฉพาะอิชระ สัมปันนีจึงตั้งกฎว่าห้ามเปิดเผยความสัมพันธ์นี้ให้คนอื่นรู้อย่างเด็ดขาดแม้จะไม่อยากรับปากแต่อชิระก็จำต้องทำตามกฎที่เธอกำหนดขึ้นแต่ถึงอย่างนั้นประธานหนุ่มก็มักจะหาโอกาสหรือจังหวะเหมาะๆ เพื่อให้ได้อยู่ตามลำพังกับสัมปันนีในที่ทำงานเสมอๆ ใช้ข้ออ้างเรื่องงานยุ่งเรื่องกาแฟหมดเพื่อให้เธอมาดูแลบ้าง แม้สัมปันนีจะรู้ทันแต่เธอกลับไม่ได้แย้งอะไร“กาแฟค่ะ” เสียงสดใสเอ่ยบอกพร้อมกับวางกาแฟหอมๆ ลงบนโต๊ะทำงานประธานหนุ่มที่เวลานี้เขาคือความรักของเธอเช่นกัน“ขอบคุณครับ อืม…ช่วงนี้งานยุ่งมาก ลูกหนูคิดว่าผมรับเลขาคนใหม่ดีไหม” เสียงทุ้มเอ่ยถามนั่นเพราะตอนนี้ชมดาวได้ลาออกไปแล้วส่งผลให้ประธานหนุ่มไม่ได้มีเลขาส่วนตัว เหตุผลเพราะมั่นใจว่าตนทำงานคนเดียวได้ทว่าพึ่งมาตระหนักว่าเขาไม่ได้มีเวลามากพอที่จะจัดการทุกอย่างงานเล็กๆ น้อยๆ บางอย่างเขาก็ต้องส่งให้เลขาช่วยจัดการแทน ไม่อย่างนั้นคิวงานเขาจะชนกันอย่างที่เป็นอยู่ แต่สมัยนี้การจะหาเลขาเก่

  • ท่านประทานขา อย่ารังแกหนู   บทที่ 29

    วันรุ่งขึ้นอชิระมาที่บ้านของสัมปันนีตั้งแต่เช้าตรู่ ชายหนุ่มอาสาขับรถไปส่งทั้งคู่ที่โรงพยาบาลท่ามกลางความสงสัยของสัมปันนี นั่นเพราะแม่ของเธอไม่ได้มีปฏิกิริยาตกใจหรือสงสัยที่จู่ๆ อชิระก็มารับแม้แต่น้อย แต่ก็ยังคงเก็บความสงสัยเหล่านั้นเอาไว้ระยะเวลารอคิวที่โรงพยาบาลรัฐใช้เวลาครึ่งค่อนวันแต่อชิระก็ไม่ได้บ่นหรือแสดงท่าทางหงุดหงิดอะไร แต่เพราะอยากให้วรรณีได้รับการดูแลที่ดีกว่านี้เขาจึงเสนอทางเลือกให้ ซึ่งทั้งคู่กลับปฏิเสธที่จะรับข้อเสนอนั้นอชิระจึงมัดมือชกจัดการเปลี่ยนโรงพยาบาลจากรัฐไปเอกชนทันที“ไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้โอม” ขณะนั่งรอเรียกพบหมอวรรณีก็เอ่ยขึ้น“ผมเต็มใจครับ อีกอย่างลูกเขยดูแลแม่ยายจะเป็นไรไป” อชิระยิ้มออกมา ซึ่งประโยคนี้สัมปันนีไม่ได้ยินเพราะเธอเดินไปซื้อน้ำ แต่พอกลับมาก็คอยสังเกตคนทั้งคู่มาตลอดหลังจากเก็บความสงสัยมาตั้งแต่เช้าในที่สุดก็เอ่ยถามออกไป“แม่รู้จักท่านประธานมาก่อนหรือเปล่าคะ”“ตอบยังไงดีล่ะทีนี้” วรรณีหันมองมาที่อชิระราวก

  • ท่านประทานขา อย่ารังแกหนู   บทที่ 28

    “ฉันต้องกลับบ้านแล้ว” สัมปันนีพยายามคุมโทนเสียงอย่างมากเพื่อไม่ให้สั่นสะท้านไปกับสัมผัสของอชิระ แต่ดูเหมือนประธานหนุ่มจะไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆ เพราะนอกจากลูบไล้เขาก็เริ่มเปลี่ยนมาเป็นขย้ำหน้าอกอวบอิ่มของเธอเบาๆ“ท่านประธาน…อา” เสียงครางกระเส่าดังมาจากคนในอ้อมกอด เธอเผลอส่งเสียงที่ทำให้อชิระตื่นตัวแบบนี้เขาจะปล่อยให้เธอกลับบ้านได้ยังไง“ลูกหนูกำลังทำให้ผมหลง”“หนูเปล่า” สัมปันนีขบเม้มริมฝีปากอิ่มแล้วเผลอเอ่ยแทนตัวเองด้วยชื่อนั่นกลับยิ่งทำให้อชิระยิ่งลูบไล้เธอมากขึ้น “สีหน้ายั่วๆ แบบนี้ เสียงกระเส่าแบบนี้ มันทำร้ายผมมากรู้ไหม เพราะฉะนั้นลูกหนูต้องรับผิดชอบ”“ท่านประธาน”“ทำไมถึงยังเรียกผมว่าท่านประธาน” เสียงทุ้มเอ่ยถาม“หนูอยากเรียก ในที่ทำงานหนูจะเรียกคุณว่าท่านประธาน”“แล้วนอกเวลางานจะเรียกว่าอะไร”“เอ่อ…” สัมปันนีอึกๆ อักๆ ทันที ใบหน้าหวานแดงก่ำ“ว่าไงจะเรียกว่าอ

  • ท่านประทานขา อย่ารังแกหนู   บทที่ 27

    “จะโกรธคุณ ฉันจะไปจากคุณ ฉันจะฆ่า…คุณ”“จะทำแบบนั้นกับผมจริงๆ นะเหรอลูกหนู” ขณะเอ่ยถามอิชระก็เร่งจังหวะนิ้วให้ถี่กระชั้นยิ่งขึ้น “ไม่ค่ะ ฉันไม่ทำ ได้โปรดอย่างทรมานฉันแบบนี้อีกเลย” สัมปันนีครางกระเส่าออกมา ดูเหมือนว่าเวลานี้เธอไม่อาจต่อรองอะไรกับอชิระได้ทั้งนั้น เธอต้องรังเกียจสัมผัสจากเขาไม่ใช่โหยหาอย่างที่เป็นอยู่ แต่ไม่ว่าจะบอกตัวเองยังไงร่างกายและหัวใจกลับไม่ทำตามคำตอบที่ได้ยินทำให้อชิระยิ้ม ชายหนุ่มเลื่อนกายขึ้นมาทาบทับบนร่างเปลือยของสัมปันนี เขาเองก็อดทนมามากพอแล้วเช่นกัน ทั้งคู่สบตากันก่อนที่อชิระจะมอบจูบให้เธออีกครั้งพร้อมกับค่อยๆ บดเบียดสะโพกสอบเข้าหาแล้วใช้หัวเข่าดันขาทั้งสองข้างของสัมปันนีให้แยกห่างออกจากกันจากนั้นก็ค่อยๆ แทรกตัวฝากฝังความเป็นชายที่เวลานี้ตื่นตัวอย่างเต็มที่ให้เธอ ความคับแน่นก่อเกิดเป็นความเจ็บที่ทำให้สัมปันนีสะดุ้ง แม้นี่จะไม่ใช่ครั้งแรกแต่เธอก็ยังใหม่อยู่มาก“เจ็บใช่ไหม”“ค่ะ” สัมปันนีเอ่ยรับอย่างไม่ปิดบัง อชิระจึงเพิ่มความนุ่มนวลให

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status