LOGINห้องประชุมใหญ่ชั้น 25 ของ Kira Group – คิรา กรุ๊ป วันนี้เต็มแน่นจนแทบไม่มีที่นั่ง พนักงานกว่า 300 คนต่างถูกเรียกด่วนตั้งแต่เช้าตรู่โดยไม่ได้แจ้งสาเหตุ จนทุกคนเริ่มเดากันวุ่นว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
เพชรพลอยเดินเข้ามาพร้อมแฟ้มงานในมือ เธอดึงคอเสื้อขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้บังรอยแดงที่ค่อยๆ จางลง แต่ยังมองเห็นได้ถ้าจงใจมองใกล้ ๆ เพื่อนร่วมงานที่นั่งโต๊ะเดียวกันหันมามองเธอทันที “เพชรพลอย เมื่อคืนเธอไปกินเหล้ามาหรือเปล่า ดูหน้าแก…ซีดเหมือนคนอดนอนเลย” “เอ่อ…ก็แค่เมานิดหน่อยน่ะ” เธอตอบเบา ๆ พยายามทำตัวปกติที่สุด แต่ในหัวของเธอไม่ปกติเลยภาพเมื่อคืนยังติดอยู่ไม่จาง มือผู้ชายคนนั้น ริมฝีปากของเขา สัมผัสหนักแน่น เสียงทุ้มที่กระซิบชื่อเธอ… และสิ่งที่ทำให้เธอหน้าชาวูบยิ่งกว่า— “ฉันไม่ได้ป้องกัน…” เพชรพลอยหลุบตาลง รีบสลัดความคิดออกไม่ได้…ห้ามคิดตอนนี้ขอให้ไม่เป็นอะไร ขอให้ไม่ใช่โชคร้ายซ้ำซ้อนเถอะ เสียงซุบซิบเริ่มดังทั่วห้องประชุม “นี่ๆ ประธานคิราวุธเรียกประชุมเช้าขนาดนี้ ต้องมีเรื่องใหญ่แน่” “หรือจะปลดผู้จัดการอีกคน?” “จะควบรวมบริษัทหรือเปล่า?” แต่มีเสียงหนึ่งที่ทำให้เพชรพลอยเงยหน้าขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ “เขาว่าลูกชายประธานกลับมาแล้วนะเว้ย! จะเปิดตัวเร็วๆ นี้แหละ!” ประตูด้านหน้าเปิดออกอย่างเป็นจังหวะ ทำให้เสียงพูดค่อยๆ หายไปทีละแผ่ว คิราวุธ คิราวงศ์ ประธานใหญ่ ผู้มากด้วยบารมีและความสุขุม ก้าวเข้ามาด้วยจังหวะที่หนักแน่น ทุกคนลุกยืนทำความเคารพทันทีชายวัยกลางคนผู้นี้มีรัศมีอำนาจแรงจนห้องทั้งห้องเงียบลงโดยไม่ต้องเอ่ยอะไร “เชิญนั่งได้ครับ” เสียงของเขาทุ้มชัดเจนเมื่อทุกคนนั่งเรียบร้อยแล้ว อธิวัฒน์จึงเริ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นคง “ปีนี้คิรากรุ๊ปสร้างยอดรายได้สูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท ผมขอชื่นชมทุกแผนก ทุกคนที่ทุ่มเททำงานอย่างหนัก” เสียงปรบมือดังก้องไปทั่วห้อง เพชรพลอยเองก็ปรบด้วย แม้สมองจะยังประมวลเรื่องเมื่อคืนไม่จบก็ตาม คิราวุธยกมือขึ้นเล็กน้อย ห้องทั้งห้องจึงกลับมาเงียบอีกครั้ง “ในค่ำคืนนี้ ผมตั้งใจจะจัดงานฉลองให้ทุกคนแบบเต็มรูปแบบ เพื่อเป็นการขอบคุณ” เสียงฮือฮาเพิ่มขึ้นทันที “และนอกจากการฉลองผลประกอบการ—” น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้น “—จะมีอีกหนึ่งประกาศสำคัญ ผมจะเปิดตัว ลูกชายของผม อย่างเป็นทางการในงานคืนนี้” เสียงซุบซิบดังระลอกใหญ่กว่าเดิม “ตายแล้ววว ลูกชายประธานกลับมาจริงด้วย!” “ฉันได้ยินว่าเรียนบริหารที่ยุโรปนะหล่อมากกกก” “ใครจะไปรู้ เขาอาจโสดก็ได้ ว้ายยย!” "แล้วเจอกันคืนนี้ครับ" ** งานเลี้ยงที่บริษัท เสียงดนตรีเครื่องสายก้องกังวานภายในห้องจัดเลี้ยงกว้างใหญ่ของโรงแรมระดับห้าดาว โคมระย้าคริสตัลจำนวนหลายสิบดวงส่องประกายระยิบระยับสะท้อนกับธีมงานขาว–ดำ ลวดลายบนกำแพงถูกประดับด้วยริบบิ้นสีเงิน ทั้งงานหรูราวกับงานแฟนซีของเหล่าชนชั้นสูงในละครเวที เพชรพลอยก้าวเท้าเข้ามาอย่างไม่มั่นใจนัก เธอปรับหน้ากากผีเสื้อสีเงินที่ปิดครึ่งใบหน้าให้แนบสนิทยิ่งขึ้น มือเย็นจนเหงื่อชื้นเพราะความประหม่าทั้งที่เธอเป็นแค่พนักงานเล็กๆ ของบริษัทแต่ตำแหน่งก็ไม่พอจะปฏิเสธงานเลี้ยงใหญ่แบบนี้ได้ “เพชร! ชุดวันนี้สวยมากเลยนะ” พลอยใสเพื่อนสนิทในแผนกเดินเข้ามาสะกิดเบา ๆ เพชรพลอยยิ้มน้อย ๆ แบบคนไม่มั่นใจ “เขาบอกให้ใส่ขาว–ดำ กูเลยหยิบชุดเก่า ๆ มาใส่…กลัวจะไม่เหมาะกับงานแบบนี้น่ะ” “ไม่ต้องกลัวเลย เด่นกำลังดี ไม่แย่งซีนลูกคุณหนูทั้งหลายด้วย” พลอยใสหัวเราะเบา ๆ ก่อนกระซิบ “วันนี้เขาจะเปิดตัวลูกชายประธานด้วยนะ แถมว่ากันว่าโคตรหล่ออออ!” เพชรพลอยหัวเราะตาม แต่หัวใจกระตุกแปลกๆ เพราะคำว่า ลูกชายประธานมันทำให้นึกถึงใบหน้าผู้ชายคนนั้นขึ้นมาในจิตใจอีกครั้ง ดวงตาคม ไหล่กว้าง ร่างกายอบอุ่นที่โอบเธอไว้เมื่อคืนน้ำเสียงทุ้มที่กระซิบข้างหู สัมผัสหนักแน่น และ…เพชรเผลอยกมือแตะลำคอตัวเองยังรู้สึกร้อนผ่าวเหมือนรอยสัมผัสยังติดอยู่ “เพชร? พลอยใสมพลอยใสมองหน้า "กูรู้แล้ว” เพชรพลอยรีบหลบสายตา "มึงเลิกคิดมากได้แล้ว" เพชรพลอยเม้มริมฝีปากแน่น หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ถ้าท้องล่ะ…ถ้ามีเด็กเกิดขึ้นมาโดยไม่มีพ่อ ถ้าผู้ชายคนนั้นตั้งใจหลอกฟันเธอ หรือว่า…เป็นเธอเองที่หลอกฟันเขากันแน่? ความคิดพันกันยุ่ง จนเพชรพลอยไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง เธอแค่มาพักใจไม่คิดจะพาตัวเองไปเจอเรื่องใหญ่ขนาดนี้เลย แต่ความคิดทั้งหมดถูกตัดด้วยเสียงประกาศจากบนเวที --- “ขอเชิญทุกท่านให้ความสนใจ…” เสียงพิธีกรดังกังวานไปทั่วห้อง ไฟในงานหรี่ลงจนเหลือเพียงแสงพาดเฉพาะมุมเวที ประธานบริษัทเดินขึ้นมาในสูทสีขาวสะอาด แผ่นหลังเหยียดตรง ดูทรงอำนาจจนพนักงานทุกคนยืดตัวตาม “ก่อนอื่น ผมอยากขอบคุณทุกคนที่ทำงานกันอย่างหนัก…” เสียงทุ้มใหญ่เอ่ยขึ้น เพชรพลอยยืนฟังอย่างเงียบๆ แต่อะไรก็ไม่ทำให้ใจเธอสั่นเท่า— “วันนี้ ผมจะเปิดตัวลูกชายของผมอย่างเป็นทางการ” เสียงฮือฮาในหมู่พนักงานดังทันที “ตื่นเต้นมากกกก” เพชรพลอยจับแขนเพชรพลอยแรงขึ้น “ว่าแต่หายไปไหนนะ? ยังไม่เห็นหน้าเลย” ในขณะเดียวกัน ทางด้านหลังงานชายหนุ่มยืนพิงเสาอยู่เงียบๆ ดวงตาคมจ้องมองคนในงานอย่างไม่สนใจใครทั้งนั้น คิรินทร์ชายหนุ่มเจ้าของสัมผัสเมื่อคืนและคนที่เพชรพลอยไม่รู้ว่ากำลังมองหา “ผู้หญิงคืนนั้น” อยู่อย่างใจร้อน เขากวาดตาหาเธอเหมือนนักล่ากำลังไล่เหยื่อแต่ยังไม่พบแม้เงา “และนี่—ลูกชายของผม คิรินทร์ ปราการไพศาล” เสียงประกาศดังสนั่นไฟสปอร์ตไลท์สาดลงมาที่เขาเต็มดวง ทุกคนในงานปรบมือ หลายคนพึมพำว่า “หล่อมาก” “เท่ชะมัด” แต่มีเพียงคนเดียวที่ยืนตัวแข็งเหมือนร่างไร้วิญญาณ เพชรพลอยเบิกตากว้างเลือดในกายเย็นเฉียบ นั่นมัน…ใบหน้าคล้ายภาพเมื่อคืน โครงหน้าคม ไหล่กว้าง แผงอกเดียวกับที่เธอฟุบหลับลงไปด้วยความเมา กลิ่นเดียวกับที่ติดอยู่บนหมอนในเช้าวันต่อมา หัวใจเธอร่วงลงไปที่พื้นทันที “เพชร เขาหล่อใช่ไหม!” นารากระซิบตื่นเต้นแต่เพชรพลอยไม่ได้ตอบเธอหายใจไม่ออก โลกหมุน ขาไร้เรี่ยวแรง ไม่ใช่แค่หล่อ ไม่ใช่แค่ลูกประธาน แต่—เขาคือผู้ชายเมื่อคืน เขาคือพ่อของลูกที่อาจเกิดขึ้น เขาคือ…เจ้านายของเธอ เพชรพลอยถอยหลัง จับชายเดรสแน่นเสียงรอบตัวเบลอไปหมด เธออยากหนีจากตรงนี้ให้เร็วที่สุดและยิ่งสลดยิ่งกว่านั้นพิธีกรยังไม่ทันพูดจบ ก็มีชื่ออีกคนถูกเรียก “และนี่—คู่หมั้นของคุณคิรินทร์… คุณญาดา เสียงฮือฮารอบสองดังสนั่นเพชรพลอยเผลอสะดุ้งวาบ ดวงตาเหลือบไปเห็นผู้หญิงสวยในเดรสขาวมุกเดินขึ้นเวทีเคียงข้างคิรินทร์ คู่หมั้น… เขามีคู่หมั้น...เมื่อคืน…เธอไปทำอะไรลงไป? หัวใจเพชรพลอยแตกสลายเป็นเสี่ยง ๆเธอค่อย ๆ ถอยออกจากงานอย่างคนไร้แรง แต่แล้ว—สายตาคมกริบของคิรินทร์ที่กำลังเดินผ่านผู้คนขึ้นมาบนเวทีพลันเหลือบมาเจอความเคลื่อนไหวด้านข้างเวทีหญิงสาวในชุดดำ เดินออกไปอย่างลนลานชายเดรสสะบัดตามลมหายใจของเธอ ดวงตาคิรินทร์หรี่ลงหัวใจเต้นกระตุกคล้ายสัญชาตญาณบอกอะไรบางอย่าง คุ้น…มาก คิรินทร์ขยับตัวเล็กน้อยราวกับจะก้าวตามแต่ต้องหยุดเพราะถูกเรียกชื่อบนเวทีความสงสัยกลับทวีขึ้นเป็นเท่าตัว ในขณะเดียวกันเพชรพลอยเดินหลบออกประตูข้างงาน พลอยใสตามไปด้วยไม่ทันเพราะถูกกลุ่มพนักงานบังทาง เพชรไม่อยากจะอยู่แม้แต่วินาทีเดียว ทั้งกลัว ทั้งอาย ทั้งสับสนจนไม่รู้ตัวว่าหายใจหนักแค่ไหน แต่เธอไม่รู้เลยว่า—คิรินทร์ไม่ได้ละสายตาจากเธอแม้เพียงเสี้ยววินาที แม้เธอจะเดินออกไปพร้อมเพื่อนแม้จะกลมกลืนไปกับพนักงานหลายร้อยคนบางอย่างในตัวเธอ บอกให้เขาตามหาผู้หญิงคนนี้ให้เจอ และคืนนี้…ความจริงมันเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น "เพรชมึงเป็นอะไร" พลอยใสรีบคว้าแขนเพชรพลอย "กูเหมือนจะไม่สบาย" เสียงสั่น ทั้งสองนั่งหน้าบริษัทซักพักนึงห่อนจะเดินเข้างานต่อ เธอพยายามหลบสายตาใครต่อใคร แต่สายตาคม ๆ ของคิรินทร์ (คิณ) ที่อยู่ไกล ๆ ก็จับจ้องเธออยู่ตลอด คิรินทร์สวมชุดสูทสีดำเข้ารูป เรียบหรู ดวงตาคมกริบกวาดไปรอบห้อง แต่ทันทีที่เห็นเพชรพลอยเดินผ่าน เขาแทบหยุดหายใจ เธอยังคงท่าทางและเคลื่อนไหวแบบที่เขาจดจำจากเมื่อคืน “ใช่…เธอแน่ ๆ” เขาพึมพำเบา ๆ ก่อนจะเดินผ่านกลุ่มคนเข้ามาใกล้เธออย่างเป็นธรรมชาติ เพชรพลอยรู้สึกถึงความร้อนจากสายตาที่กวาดมาที่ตัวเองหัวใจเต้นแรงจนเหมือนจะทะลุออกมา “อย่า…อย่าให้เขารู้ว่าเป็นฉัน…” เธอคิดในใจ ขณะที่พยายามทำตัวนิ่ง คิรินทร์ก้าวเข้าใกล้ แต่ยังคงรักษาระยะห่างพอดี เขาไม่ได้เอ่ยคำพูดใด ๆ เพียงมองเธอราวกับสแกนความคิดและความรู้สึก “คุณ…คุณคิรินทร์?” เพชรพลอยสะดุ้งเล็ก ๆ แต่พยายามทำเสียงนิ่ง “ฉ…ฉันไม่แน่ใจว่าจะพูดอะไรดีค่ะ” คิรินทร์ยิ้มเพียงบาง ๆ รอยยิ้มนั้นทำให้หัวใจเธอสั่น “คุณ…เพชรพลอยใช่ไหม?” น้ำเสียงทุ้มต่ำ แต่ชัดเจนราวกับยืนยันความทรงจำเมื่อคืน เพชรพลอยก้มหน้า มือสั่น “ค…คุณ…คุณ…จำฉันได้…หรือ…หรือว่าฉัน…” คำพูดติดขัด เธอไม่กล้าเผชิญหน้าตรง ๆ คิรินทร์ยกมือเล็กน้อย “ฉันเก็บของคุณไว้เมื่อคืน…” เขาหยิบกำไลโลหะสลักชื่อขึ้นมาเพชรพลอยตกใจจนเกือบทำแก้วไวน์หล่น หัวใจเธอสั่นแรงจนร่างแทบจะถลาออกไป แต่คิรินทร์ก้าวตามช้า ๆ “คุณไม่ต้องกลัว ฉันไม่ได้จะทำอะไรคุณ” เสียงทุ้มของเขานุ่มนวลและมั่นคง แต่อบอวลไปด้วยพลังบางอย่างที่ทำให้เธอไม่อาจหนีได้ รอบตัวเธอยังคงเต็มไปด้วยแขกคนสำคัญ เสียงซุบซิบ และแสงไฟระยิบระยับ แต่เพชรพลอยกับคิรินทร์เหมือนอยู่คนละโลก มีเพียงแรงดึงดูดและความตึงเครียดที่ล้อมรอบสองร่าง --- เพชรพลอยพยายามก้าวถอยห่าง แต่คิรินทร์ยังคงเคลื่อนตัวให้ใกล้เธอ “อย่าพยายามหนีคืนนี้…ฉันต้องรู้ให้ชัดเจน” น้ำเสียงเขาแผ่วเบา แต่ทรงพลังจนทำให้หัวใจเธอสั่นอย่างรุนแรง “แต่…ฉัน…ฉัน…” เพชรพลอยพยายามเอ่ย แต่เสียงสั่นเกินกว่าจะพูดต่อ คิรินทร์โน้มตัวลงเล็กน้อยเพียงใกล้พอให้ดวงตาทั้งสองจับกัน “คืนนี้…ฉันไม่ปล่อยคุณไปง่าย ๆ แน่นอน” และทันใดนั้นเพชรพลอยรู้สึกถึงแรงดึงดูดรุนแรงแต่ก็ยังมีความอบอุ่นที่ทำให้ใจเต้นแรง ความรู้สึกสับสนระหว่างความกลัวและความปรารถนา เพชรพลอยสะดุ้งและเบนตัวออกไปเล็กน้อย แต่คิรินทร์ก้าวตาม “ไม่ต้องกลัว ฉันแค่ต้องการคุณอยู่ตรงนี้ แค่คืนนี้ก็พอ” น้ำเสียงเขาแผ่วเบา แต่ทุกคำเหมือนคำสั่ง หัวใจเพชรพลอยเต้นแรงร่างกายเธอสั่นทุกความคิดในหัวเหมือนพังทลาย เธออยากจะหนี…แต่ก็ไม่อยากหนีจากเขาและนั่นคือจุดเริ่มต้นของค่ำคืนที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด หรูหรา ลึกลับ เพชรพลอยและคิรินทร์…สองคนที่พัวพันกันโดยบังเอิญในคืนนั้น…และคืนนี้…จะเป็นคืนที่ต้องเผชิญหน้ากันอีกครั้ง คิรินทร์ยกมือโชว์กำไลโลหะสลักชื่อที่เขาเก็บมาจากเตียงเมื่อคืนอย่างเบามือ รอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏบนใบหน้า ท่าทางของเขาเรียบสง่าแต่เต็มไปด้วยแรงดึงดูด “กำไลของคุณ…ฉันเก็บไว้แล้ว” เสียงทุ้มต่ำแต่แฝงความอบอุ่น เพชรพลอยหัวใจเต้นแรงจนแทบหยุด เธอพยายามก้าวถอยห่าง แต่เขาก้าวตามช้า ๆ “อย่าพยายามหนีคืนนี้…ฉันแค่ต้องการคุยกับคุณ” เพชรพลอยสูดลึก พยายามตั้งสติ แต่หัวใจเธอสับสนระหว่างความกลัวกับความปรารถนา “ค…คุย…เรื่องอะไรคะ?” “เรื่อง…เมื่อคืน…และเรื่องที่เรายังไม่ได้รู้จักกันจริง ๆ” เขาพูดเสียงต่ำ แต่แน่วแน่และมั่นใจ ร่างกายของเพชรพลอยร้อนผ่าว หัวใจเต้นแรง เธออยากหนี แต่ก็ไม่อาจต้านแรงดึงดูดนั้นได้ ดวงตาคมของคิรินทร์จับจ้องทุกการเคลื่อนไหวของเธอ ราวกับสแกนทุกความคิด ทุกความรู้สึกของเธอ เพื่อนสนิทของเพชรพลอยยืนอยู่ไม่ไกล แอบฟังบทสนทนาโดยไม่ให้เธอสังเกต “เชี่ย....นี่เพื่อนกูนอนกับลูกประธานเลยหรอเนี่ย” เสียงซุบซิบเบา ๆ แต่เพียงพอทำให้เพชรพลอยหัวใจเต้นแรงมากกว่าเดิม เธอไม่รู้เลยว่าเพื่อนกำลังจับตาดูอยู่ จากอีกมุมหนึ่ง เกวลิน คู่หมั้นของคิรินทร์มองการเคลื่อนไหวของเขาอย่างละเอียด ดวงตาแหลมคมเริ่มสงสัยอย่างมาก ทำไมคิรินทร์ถึงสนใจผู้หญิงอีกคนมากเกินไป แม้จะอยู่ท่ามกลางงานเลี้ยงหรูหรา เธอรู้สึกถึงความผิดปกติในอากัปกิริยาของเขา ทำให้หัวใจเย็นวูบ คิรินทร์เอ่ยเบา ๆ ใกล้ใบหน้าของเพชรพลอย “คุณ…กลัวฉันหรือเปล่า?” เพชรพลอยส่ายหน้า “ฉ…ฉันแค่…ไม่คุ้น…” “ไม่ต้องกลัว…แค่ให้ฉันติดต่อคุณก็พอ” เขายื่นการ์ดเล็ก ๆ ให้เธอพร้อมเบอร์โทร มือเพชรพลอยสั่นขณะรับการ์ด หัวใจเต้นแรงจนเหมือนจะหลุดออกมา “ข…ขอบคุณค่ะ…” คิรินทร์เพียงยิ้มบาง ๆ แล้วก้าวถอยห่าง แต่สายตายังคงจับจ้องเธอเต็มความสนใจ เพชรพลอยยืนอยู่มุมห้อง มองการ์ดในมืออย่างตื้นตันและปั่นป่วน เธอรู้แล้วว่าคิรินทร์คือคนคืนนั้น และคืนนี้เขาให้โอกาสเริ่มต้นใหม่ แม้ใจจะสับสน แต่หัวใจยังเต้นแรงไม่หยุด ค่ำคืนผ่านไปด้วยความตึงเครียด หรูหรา ลึกลับ และอบอวลไปด้วยแรงดึงดูด เพชรพลอยรู้แล้วว่าพรุ่งนี้…โลกของเธอจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป`บรรยากาศในห้องทำงานของคิรินทร์ในเช้าวันถัดมาหนักอึ้งจนแทบหายใจไม่ออก แม้แสงแดดส่องลอดกระจกสูงเข้ามา แต่กลับไม่สามารถไล่ความเย็นยะเยือกบนใบหน้าของเขาได้เลยแม้แต่น้อย ลูกน้องคนสนิทเดินเข้ามาวางเอกสารเล่มหนึ่งลงตรงหน้าบอสอย่างระมัดระวัง “คุณคิรินครับ… นี่คือสิ่งที่เราพบในกล้องวงจรปิดเมื่อคืน” คิรินทร์เงยหน้าขึ้น สายตาคมไหววาบหนึ่งครั้ง ก่อนจะเปิดแฟ้มอย่างใจเย็น แต่ยิ่งเปิด สีหน้าของเขายิ่งขุ่นดั่งทะเลมืดในคืนพายุพัด ภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดชัดเจน — ญาดาเดินไปที่แผนกของเพชรพลอยในเวลาหลังเลิกงานเมื่อคืน เธอเปิดลิ้นชัก โต๊ะเอกสารและ…วางซองเอกสารสีขาวไว้บนโต๊ะทำงานของเพชรพลอย ลูกน้องเอ่ยเสียงเบาหวิว “เราตรวจซองแล้วครับ… เป็นใบร้องเรียนปลอมว่าเพชรพลอยทำให้ชื่อเสียงบริษัทเสียหายจากเหตุการณ์เมื่อวาน มีลายเซ็นปลอมของหัวหน้าฝ่ายด้วย…" คิรินทร์หลุบตาลงอย่างช้า ๆ ก่อนปิดแฟ้มลงด้วยเสียง “ปิด” เบา ๆ แต่แรงพอจะทำให้ลูกน้องสะดุ้ง “เธอคิดว่าเล่นแบบนี้แล้วฉันจะยอมเหรอ…” น้ำเสียงเขาทุ้มต่ำจนน่ากลัว “ดี… ถ้าอยากเล่นเกมสกปรก… ฉันก็จะเล่นด้วย” เขาลุกขึ้นทันที ผูกเนกไทแบบไม่สนใจความเรียบร
วันถัดจากที่เกิดเรื่องโปรเจ็กต์ เพชรพลอยรู้สึกเหมือนอากาศรอบตัวหนักกว่าเดิม แม้จะทำงานตั้งใจมากแค่ไหนก็ยังรู้สึกได้ถึงสายตาหลายคู่ที่เหมือนจับจ้องมาแบบแปลก ๆ โดยเฉพาะจากฝ่ายบริหารระดับสูงบางคนที่เธอไม่เคยยุ่งเกี่ยวด้วยมาก่อน เธอไม่รู้เลยว่าต้นตอของแรงกดดันเหล่านั้นมาจากใคร…แต่มันกำลังค่อย ๆ คืบคลานเข้ามาอย่างมืดเงียบ ในขณะเดียวกัน ญาดา—คู่หมั้นของคิรินทร์—นั่งอยู่ในรถยุโรปสีเทาด้าน สายตาเรียบเฉยแต่ภายในกลับเต็มไปด้วยความริษยาอัดแน่น “คนชื่อเพชรพลอย…” ญาดาพึมพำ ขณะกวาดนิ้วเปิดแฟ้มที่ลูกน้องสืบมาให้ “ฐานะทางบ้านไม่ดี พ่อแม่โลภ… แล้วก็เคยถูกส่งไปเป็นเมียน้อยคนบางคนงั้นเหรอ” ริมฝีปากญาดายกขึ้นเล็กน้อย คล้ายยิ้มแต่ไม่ใช่รอยยิ้มที่สวยงามเลยสักนิด “ของแบบนี้… แค่ปล่อยข่าวก็พังไม่เป็นท่าแล้ว ไม่ต้องเปลืองมือฉันด้วยซ้ำ” แต่ดูเหมือนเธอยังไม่พอ เธอหยิบโทรศัพท์กดต่อสายหาใครบางคน ปลายสายรับด้วยน้ำเสียงทุ้ม หยาบ และคุ้นเคยกับการใช้อำนาจข่มคน “…ว่าไงครับ" “ฉันมีเรื่องจะให้คุณช่วย” ญาดาวางน้ำเสียงเรียบหรู แต่เย็นเยียบ “ผู้หญิงที่ชื่อเพชรพลอย ทำงานที่คิรา กรุ๊ป เธอเป็นลูกหนี้บ้านคุณใช่
แสงเช้าอ่อน ๆ สาดเข้ามาผ่านกระจกสูงของอาคารคิรา กรุ๊ป ทำให้ห้องประชุมและพื้นที่ทำงานของบริษัทเต็มไปด้วยแสงสีทองปนเงา ญาดานั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานใหญ่ เรียบหรูและสง่างามในชุดสูทสีขาวเข้ารูป ผมดำยาวตรงถูกจัดเรียงเรียบร้อย มือบางลูบเอกสารและรายงานบนโต๊ะ ดวงตาคมกริบสอดส่องทุกหน้าจอคอมพิวเตอร์และทุกความเคลื่อนไหวของบริษัท รอยยิ้มเย็นชาปรากฏบนใบหน้า เธอรู้สึกถึงความตึงเครียดและแรงกดดันที่ต้องควบคุมทุกอย่างให้อยู่ในมือ โทรศัพท์มือถือของเธอสั่น ญาดายกขึ้นกดหมายเลขของหัวหน้าทีมงานคนสนิททันที เสียงตอบรับของฝ่ายตรงข้ามเรียบร้อยและสุภาพ “ตามเรื่องที่ฉันบอกไว้แล้วใช่ไหม?” น้ำเสียงเรียบเย็นแต่เต็มไปด้วยอำนาจ “ค่ะคุณญาดา ทีมงานกำลังตรวจสอบผู้หญิงคนนั้น…เพชรพลอยค่ะ เรากำลังรวบรวมข้อมูลทั้งหมด” ดวงตาคมของญาดาเบิกกว้างเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ แคบลง ราวกับกำลังชั่งน้ำหนักความคิด “ดี…ฉันอยากรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเธอ—ที่อยู่ ครอบครัว การทำงาน ประวัติส่วนตัว และความสัมพันธ์กับคิรินทร์เมื่อคืนที่ผ่านมา…อย่าพลาดอะไรเด็ดขาด” “เข้าใจค่ะคุณญาดา เราจะจัดให้ละเอียดที่สุด” เสียงตอบรับหนักแน่น ทำให้ญาดายิ้มบาง ๆ พ
ห้องประชุมใหญ่ชั้น 25 ของ Kira Group – คิรา กรุ๊ป วันนี้เต็มแน่นจนแทบไม่มีที่นั่ง พนักงานกว่า 300 คนต่างถูกเรียกด่วนตั้งแต่เช้าตรู่โดยไม่ได้แจ้งสาเหตุ จนทุกคนเริ่มเดากันวุ่นว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เพชรพลอยเดินเข้ามาพร้อมแฟ้มงานในมือ เธอดึงคอเสื้อขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้บังรอยแดงที่ค่อยๆ จางลง แต่ยังมองเห็นได้ถ้าจงใจมองใกล้ ๆ เพื่อนร่วมงานที่นั่งโต๊ะเดียวกันหันมามองเธอทันที “เพชรพลอย เมื่อคืนเธอไปกินเหล้ามาหรือเปล่า ดูหน้าแก…ซีดเหมือนคนอดนอนเลย” “เอ่อ…ก็แค่เมานิดหน่อยน่ะ” เธอตอบเบา ๆ พยายามทำตัวปกติที่สุด แต่ในหัวของเธอไม่ปกติเลยภาพเมื่อคืนยังติดอยู่ไม่จาง มือผู้ชายคนนั้น ริมฝีปากของเขา สัมผัสหนักแน่น เสียงทุ้มที่กระซิบชื่อเธอ… และสิ่งที่ทำให้เธอหน้าชาวูบยิ่งกว่า— “ฉันไม่ได้ป้องกัน…” เพชรพลอยหลุบตาลง รีบสลัดความคิดออกไม่ได้…ห้ามคิดตอนนี้ขอให้ไม่เป็นอะไร ขอให้ไม่ใช่โชคร้ายซ้ำซ้อนเถอะ เสียงซุบซิบเริ่มดังทั่วห้องประชุม “นี่ๆ ประธานคิราวุธเรียกประชุมเช้าขนาดนี้ ต้องมีเรื่องใหญ่แน่” “หรือจะปลดผู้จัดการอีกคน?” “จะควบรวมบริษัทหรือเปล่า?” แต่มีเสียงหนึ่งที่ทำให้เพชรพลอยเงยหน้
เสียงนาฬิกาปลุกดังลั่นห้องเช่าเล็ก ๆ เพชรพลอยสะดุ้งตื่น ลมหายใจสะดุดด้วยความหวาดกลัวก่อนที่สติจะแล่นกลับมาเต็มที่ภาพเมื่อคืนแล่นเข้ามาเหมือนฟ้าผ่ากลางกะโหลก—แสงสีจากผับ กลิ่นเหล้า การพูดคุยที่อบอุ่นจนน่ากลัว…และเขาผู้ชายคนนั้นร่างกำยำที่แน่นร้อน มือใหญ่ที่ประคองเธออย่างอ่อนโยน…แต่กลับปล่อยให้ทุกอย่างเลยเถิด ไม่ใช่สิ—เธอเองต่างหากที่ปล่อยให้เลยเถิด เพชรพลอยจับหัวตัวเองสองข้างรู้สึกอยากร้องไห้ขึ้นมาเฉย ๆ “เพชรพลอย…แกทำบ้าอะไรลงไปเมื่อคืน…” เธอปิดหน้า กรีดร้องลงในหมอนเพื่อไม่ให้ห้องข้าง ๆ ได้ยินทุกอย่างชัดเจนเกินกว่าจะบอกว่าเมาจนจำไม่ได้เธอจำได้ทุกสัมผัส…ทุกลมหายใจ…และทุกเสียงเรียกชื่อเธอเบา ๆ ตอนเขากดริมฝีปากลงบนต้นคอ เพชรพลอยหอบหายใจปลายนิ้วแตะไปที่คอ—แสบร้อน เธอพุ่งลุกไปยืนหน้ากระจก “ตายแล้วววววววว…!!!” รอยแดงจาง ๆ ไล่จากกกหูลงมาถึงไหปลาร้าบางรอยเป็นจ้ำเล็ก ๆ จนไม่ต้องเดาเลยว่าเกิดจากอะไรเธอเอามือปิดปากกลั้นเสียงร้อง หัวใจเต้นแรงเหมือนจะทะลุออกจากอก “ฉัน…ทำอะไรลงไปเนี่ย…” สายตาไหลลงมาเห็นรอยอีกสองรอยตรงไหปลาร้าเธอหน้าแดงวาบขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ “บ้า! ตายแล้ว! บ้าเพชรพลอย!
เสียงดนตรีเบสหนักกระแทกกำแพงกระจกใสของผับหรูใจกลางเมือง ไฟนีออนสีม่วงสลับฟ้าเต้นระยับเหนือศีรษะอย่างไม่มีจุดเริ่มหรือจุดจบ ผู้คนมากมายต่างจมอยู่ในโลกของตัวเอง ไม่ว่าจะด้วยเหล้าหรือด้วยความเหงาที่ไม่อาจระบายที่ไหนได้ เพชรพลอยเบียดกายฝ่าฝูงชนเข้าไปยังบาร์ด้านใน สายตาที่แดงช้ำจากการร้องไห้ทั้งวันยังคงระยิบวาวด้วยความกดดันอันหนักอึ้งในอก “เหล้าแรงสุด...แก้วนึงค่ะ” เธอบอกบาร์เทนเดอร์ด้วยน้ำเสียงแห้ง“วันนี้หน้าไม่ดีเลยนะน้อง” ชายหลังบาร์แซว แต่เธอทำเพียงยกมุมปากแข็ง ๆ ไม่ได้ตอบ ภาพแม่ที่นั่งร้องไห้อยู่หน้าบ้านชายทวงหนี้ที่ตะโกนเสียงดังด่าทอ ผู้คนที่มองผ่านๆ ราวกับเรื่องพวกนี้เป็นเพียงละครน้ำเน่าที่ไม่เกี่ยวกับใคร—ทั้งหมดตีกันยุ่งในหัวของเธอ “ถ้าไม่อยากให้แม่โดนด่าโดนทวงหนี้แบบนี้ ก็ไปหาผัวรวยๆ มาใช้หนี้สิวะเพชร!” เสียงแม่เมื่อเช้ายังดังชัดราวกับอยู่ในหูตอนนี้ เพชรพลอยถอนหายใจหนัก เธอไม่ได้เกลียดแม่ แต่เกลียดตัวเองที่จน เกลียดโชคชะตาที่ผลักเธอมายืนตรงนี้ เธอกระดกเหล้าแก้วแรกหมดไปอย่างง่ายดาย แก้วที่สองเริ่มทำให้ความเจ็บปวดกลายเป็นความมึน ชาแก้วที่สามทำให้เธอไม่อยากคิดอะไรอีก เธอ







