น้ำเสียงของยาดากระเส่า มือเรียวบีบเคล้นกลีบสวาทของตัวเองที่ยังเป็นสีชมพูสวยราวกับกลีบกุหลาบสีชมพู เบ่งบานอยู่ท่ามกลางดงเส้นไหมสีดำระยับ ขณะมือที่เหลืออีกข้างเอื้อมขึ้นมาบีบเคล้นเต้านมสองข้างของตัวเองไปพลาง ทำเอาท่านประธานที่กำลังแอบมองถึงกับตบะแตก รู้สึกว่ากำลังโดนท้าทายอย่างแรง ‘ไม่ไหวแล้วโว้ย… ’ ถึงขั้นนี้แล้ว… กวินท์ตบะแตก ขยับลงมาจากเก้าอี้ที่คว้าเอามาขึ้นยืนแอบมองหญิงสาว รีบถอดเสื้อผ้าจนเหลือแต่กางเกงบ็อกเซอร์สีดำบางๆ มองเห็นแท่งเนื้อเป็นรูปเป็นลำมหึมาน่าสะพรึงซ่อนอยู่ภายใน ก้าวยาวๆ กลับเข้ามาในห้อง เอามือผลักบานประตูห้องน้ำที่เขารู้ว่าเพียงขยับแรงๆ ก็ทำให้ลูกบิดที่ไม่แข็งแรงนักคลายออกจากกันได้โดยง่าย “วะ… ว้าย… ท่านประธาน… ” ยาดาร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ รู้สึกอับอายจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนีกับสิ่งที่ตัวเองกำลังแอบทำอย่างเพลิดเพลิน เพราะว่ามือยังซุกอยู่ที่ง่ามขาอ้ากว้าง ไม่คิดว่าคนที่หล่อนกำลังเรียกร้องร่ำหาเขาอยู่ในจินตนาการอันวาบหวาม จะผลีผลามเข้ามาปรากฏกายอยู่ตรงหน้าราวกับภาพฝัน “ท่าน… เอ่อ… ท่านเข้ามาทำไมคะ” ด้วยสัญชาตญาณ ทำให้หล่อนรีบเอื้อมมือคว้าผ้าขนหนูมาบิดทรวงอก
View Moreท่านประธานคลั่งสวาท
ผู้เขียน
กาสะลอง
ไม่อนุญาตให้สแกนหนังสือ
หรือคัดลอกเนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือ
เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของหนังสือเท่านั้น
นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่สมมติขึ้น
ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องจริงแต่อย่างใด ชื่อบุคคล
และสถานที่ที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง ไม่มีเจตนา
อ้างอิงหรือก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ
……….
นิยายเรื่องนี้… ไม่มีแก่นสารสารัตถะอะไรนักหนา
ทั้งเรื่องขับเคลื่อนด้วยอารมณ์อันมืดดำของมนุษย์
ดำเนินเรื่องด้วยตัณหาราคะสุดร้อนแรง
ท่านใดที่ไม่ชอบโปรดหลีกเลี่ยง
*เราเตือนท่านแล้ว*
ท่านประธาน
คลั่งสวาท
พุทธศักราช 2564
ที่โรงแรมระดับห้าดาวชื่อดังในกรุงเทพฯ
หนุ่มใหญ่วัย 37 ในชุดสูทสีดำสุดสมาร์ท ก้าวออกมาจากห้องประชุมพร้อมกระเป๋าเอกสารสีดำในมือ
เขาก้าวเดินมาที่ลิฟต์ กดลิฟต์ลงมาที่ชั้น 1 ซึ่งมีทางเดินเชื่อมต่อกับลานจอดรถที่อยู่ชั้นใต้ดิน
ทว่าเมื่อลงมาถึงชั้นหนึ่ง ขณะที่กำลังจะเดินผ่าน จู่ๆ สายตาพลันเหลือบไปเห็นแสงไฟสีเหลืองนวลสาดลอดออกมาจากม่านหน้าต่างของห้องทำงานในส่วนของออฟฟิศที่อยู่ชั้นล่าง
ด้วยความสงสัย…
หนุ่มใหญ่พลิกหลังมือขึ้นมองนาฬิกา นี่มันจะสี่ทุ่มแล้ว ป่านนี้ยังจะมีใครนั่งทำงานอยู่อีกหรือ
แทนที่จะเลี้ยวกลับไปทางประตูหลังที่รถเบนส์สีดำคันหรูจอดอยู่ในช่องจอดของผู้บริหารแล้วกลับบ้าน เขากลับเดินมายังออฟฟิศที่แลเห็นแสงไฟลอดออกมา
และเมื่อผลักบานประตูเข้ามา…
ก็มีอันต้องตกใจกับภาพที่เห็น หญิงสาวคนหนึ่งกำลังฟุบหน้าอยู่บนโต๊ะทำงานที่เต็มไปด้วยเอกสารกองพะเนิน
“นี่เธอ… เป็นอะไรหรือเปล่า… ”
เขารีบเข้ามาเขย่าไหล่ของหญิงสาวด้วยความตกใจและเป็นห่วง
คนที่ฟุบหน้าอยู่บนโต๊ะค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมาด้วยสีหน้าซีดเซียวราวกับแผ่นกระดาษที่ปราศจากตัวอักษร ก่อนจะอุทานด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าจะเป็นเขา เพราะว่าผู้ชายที่เห็นอยู่ตรงหน้านี้ก็คือเจ้าของโรงแรมชื่อดังแห่งนี้
“เป็นอะไรหรือเปล่า… ”
กวินท์ถามด้วยความเป็นห่วง
“รู้สึกเวียนหัวนิดหน่อยค่ะท่าน… ”
หญิงสาวตอบเกร็งๆ…
กวินท์สังเกตเห็นว่าใบหน้าของหล่อนดูซีดเซียวจนเห็นได้ชัด
“แล้วทำไมไม่เปิดแอร์… ”
กวินท์รู้สึกได้ถึงความร้อนอบอ้าวภายในห้อง
“หัวหน้าสั่งไว้ว่าหลังเลิกงานห้ามเปิดแอร์ ต้องช่วยประหยัดไฟค่ะ… ”
หัวหน้างานที่ถูกกล่าวถึงก็คือหัวหน้าฝ่ายบัญชีที่เป็นคนรับหล่อนเข้ามาฝึกงาน
“แต่ถ้าต้องอยู่ทำงานดึกก็เปิดแอร์ได้ตามปกติ จะได้ไม่ต้องร้อนจนเป็นลม… แล้วถ้าไม่สบายก็ควรจะพักก่อนหรือบอกกับหัวหน้างานไปตามตรงอย่าฝืนทำ”
“ค่ะ… ”
หญิงสาวพยักหน้ารับ
“แล้วได้กินข้าวเย็นหรือยัง นี่ก็เกือบจะห้าทุ่มแล้วนะ… นี่งานอะไร มันด่วนมากเลยหรือ บ้านเธออยู่ที่ไหน มาทำงานยังไง… กลับยังไง… ”
ท่านประธานยิงคำถามชุดใหญ่
“ยังไม่ได้กินข้าวเย็นค่ะ บ้านอยู่บางนาค่ะ… นั่งรถเมล์มาค่ะ… ”
หญิงตอบพร้อมกับค่อยๆ ขยับลุกขึ้นจากเก้าอี้ ทว่าตอบยังไม่ครบคำถาม จู่ๆ หล่อนก็เกิดอาการหน้ามืดขึ้นมาอีก
ร่างบอบบางโอนเอนจนกวินท์ต้องโผเข้าช่วยประคองเอวไว้ สุดท้ายหล่อนก็เป็นลมล้มพับคาอ้อมแขนของท่านประธาน
กวินท์ตัดสินใจอุ้มหล่อนออกมาจากห้องทำงาน พาเข้ามายังห้องพักในโรงแรมซึ่งเป็นห้องส่วนตัวของเขาเอง
เพราะคิดว่าถ้าหญิงสาวได้เจออากาศเย็นๆ สักครู่ ได้กินข้าวได้พักสักหน่อยหล่อนก็น่าจะดีขึ้น หลังจากเขาประเมินว่าน่าจะแค่อาการเป็นลมเพราะโหมงาน
ท่านประธานอุ้มหญิงสาวขึ้นลิฟต์มาถึงห้องพักที่อยู่ชั้นบนสุดของโรงแรม ค่อยๆ วางร่างของหล่อนลงบนโซฟาที่ถูกปรับเป็นเตียงนอน
กวินท์รีบเปิดแอร์ แม้ว่าภายในห้องยังเย็นฉ่ำเพราะว่าเขาเพิ่งปิดแอร์ไว้ได้ไม่นานตอนจะกลับบ้าน เขาเพิ่งลงมาโดยไม่คิดว่าจะต้องกลับขึ้นมาอีก
“เธอ… ”
กวินท์ทรุดร่างลงนั่งข้างๆ พิจารณาใบหน้าของหล่อน หญิงสาวคนนี้ช่างสะสวยสะดุดตาแม้ในยามหลับ
เขาตัดสินใจเอามือเกาะกระดุมเสื้อของหล่อนออกทีละเม็ดเพื่อช่วยคลายความอึดอัดจากเสื้อที่ติดกระดุมไว้จนแทบถึงคอ และที่ทำให้ดูแน่นก็เพราะทรวงอกของหล่อนอวบใหญ่สะดุดตา
“โอ๊ว… ”
กวินท์อุทานเมื่อแกะกระดุมลงมาถึงเม็ดที่สี่ สาบเสื้อที่แหวกออกจากกัน ทำให้เต้าเนื้อขนาดมหึมาเอยออกมาอวดความขาวเนียนสะดุดตา เขาจำต้องหยุดเมื่อนึกถึงความไม่เหมาะไม่ควร
กวินท์ลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินไปคว้าผ้าขนหนูผืนเล็กมาชุบน้ำเย็น ค่อยๆ เช็ดหน้าให้หญิงสาว
เขาเช็ดลงมาถึงลำคอยาวระหง ก่อนจะเกิดอาการมือสั่น ใจสั่นรัวอีกครั้งหลังจากเช็ดต่ำลงมาถึงร่องอกขาวเนียน
‘บ้าฉิบ… ’
กวินท์อุทานในใจ เขาตำหนิตัวเองที่เผลอคิดไปถึงเรื่องอย่างว่า ก็ทรวดทรงของหญิงสาวที่เห็นอยู่ตรงหน้านี้มันช่างน่า… เหลือเกิน
“อุ๊ย… ”
จู่ๆ หญิงสาวก็รู้สึกตัว หล่อนรีบเอามือถึงเสื้อชิดเข้าหากัน
“เอ่อ… ฉันไม่ได้ตั้งใจ ที่ต้องแกะกระดุมเพราะไม่อยากให้เธออึดอัด… ”
กวินท์รีบบอก
“ค่ะ… ขอบคุณค่ะ… ”
หญิงสาวกล่าว มือยังปิดอยู่ที่ทรวงอก นี่ถ้าไม่เห็นว่ามีผ้าชุบน้ำอยู่ในมือของเขา หล่อนคงคิดว่าโดนท่านประธานจอมหื่นลวนลามเข้าแล้ว
“เดี๋ยวกินข้าวก่อน… ฉันสั่งอาหารมาให้แล้ว กินข้าวแล้วน่าจะดีขึ้น… ”
กวินท์กล่าว เมื่อครู่เขาเพิ่งโทรไปสั่งอาหารมาให้หล่อน สั่งมาจากข้างนอกเพราะว่าตอนนี้แผนกครัวของโรงแรมปิดแล้ว
“อู้วววว… แน่นมาก… รูปลิ้นเลยหนูจ๋า”ท่านประธานหลุบตาลงมองภาพของการสอดใส่ เห็นเส้นเลือดลายเอ็นปูดโปนโอบรอบลำเอ็นกำลังบดครูดปากรูบอบบางความใหญ่ของลำเนื้อส่งผลให้เกิดแรงเสียดสีของเนื้อกับเนื้อถึงอกถึงใจทำเอาคนโดนกระแทกร้องครางเสียวซ่าน ก้นกระดกขึ้นรับแรงกระเด้า สองเต้าอวบใหญ่เบียดชิดกับขอบอ่างล้างหน้าที่สองมือกำลังเกาะเอาไว้แน่น แอ่นก้นอดทนให้เขาฝังตัวตนเข้ามาในตัวหล่อนอย่างเมามันตั่บ… ตั่บ… ตั่บ… ตั่บ… ตั่บ…เสียงลำเนื้อคัดแข็งของท่านประธานจอมหื่น กระแทกเข้าใส่ช่องทางของหญิงสาวอย่างไม่ปรานี ทำเอาหล่อนต้องหลับตาปี๋ เชิดก้นขึ้นรับความเป็นชาย ดันเข้าสุดออกสุด ฉุดอารมณ์ของหญิงสาวที่ยังไม่เคยผ่านประสบการณ์สวาทมาก่อนถึงกับใจแตกยับ ขยับสะโพกสู้ไม่ถอย“อู้ววว… ร้อนแรงแบบนี้ฉันชอบ… ”ท่านประธานชอบใจ…ก้มลงกดจมูกโด่งเป็นสันสวย จูบไซ้แผ่นหลังเปล่าเปลือยขณะโก่งเอวกระเด้าไปด้วย ช่วยกระตุ้นอารมณ์สุดๆ มือสองข้างไล้ลูบเข้ามาบีบเคล้นปทุมถันอวบขาว ใหญ่มากจนปลิ้นออกมาสองข้างลำตัว“ใหญ่มากหนูจ๋า… ”ท่านประธานครางเสียงกระเส่า หล่อนยิ่งสู้เขายิ่งโก่งเอวกระเด้าไม่ยั้ง ฝังลำเนื้อเข้ามาสุดความยาวใหญ่พร้อมกั
ยาดาอุทาน…ทว่าทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมาก เขารวบเอวของหล่อน จับร่างเปลือยเปล่าขึ้นมานั่งคร่อมกลางลำตัวที่มองเห็นท่อนเอ็นยาวใหญ่มหึมาตั้งลำตระหง่านขนานกับท้องแน่นไปด้วยลอนกล้าม“งืออออ… ยะ… อย่าค่ะ… ”หญิงสาวตกใจ พยายามดิ้นจากตักลงมายืนกับพื้น รีบก้าวออกมาจากอ่างอาบน้ำแต่คนหื่นก็ยังโดดตามออกมาไม่ยอมให้หนี ซ้ำยังรั้งร่างของหล่อนกลับเข้ามาในห้องน้ำ“อย่าดื้อน่ะ… มานี่… ขอฉันดูให้ชัดๆ… อยากเห็นว่ากลีบของหนูจะสวยน่าเลียแค่ไหน”เขาประกาศความเป็นสายเบิร์น รีบจัดท่าทางให้หญิงสาวยืนหันหน้าเข้าหาอ่างล้างหน้า ก้นแอ่นออกมาหาร่างสูงใหญ่ที่ปรี่เข้ามาประกบจากทางด้านหลัง“ขอดูให้ชัดๆ… ”ด้วยน้ำเสียงกลัดมันในอารมณ์ ท่านประธานจอมหื่นจับขาข้างหนึ่งของยาดาขึ้นมาตะแคงคร่อมขอบอ่างล้างหน้า ส่งผลให้กลีบสวาทปลิ้นอ้าเป็นพูออกมาระหว่างกลีบก้นด้านหลัง“โห… แม่คุณเอ๊ย… ”ดวงตาของกวินท์เบิกโพลง มองกลีบสาวที่ยังเป็นสีชมพูสดสวย โอบล้อมไว้ด้วยเส้นไหมสีดำระยับพอหล่อนขยับกลีบก็ยิ่งอ้า ทำเอาท่านประธานที่มองด้วยดวงตาลุกวาวอยู่ข้างหลังสุดจะทนไหว รีบงุดศีรษะเข้ามาใต้ง่ามขา เงยหน้าปาดปลายลิ้นเสยเข้าใส่กลีบสาวอย่างหื่นกระห
ยิ่งคิดถึงเขาจู่ๆ ปลายหัวนมก็แข็งตัวชูชันขึ้นมาเสียดสีกับเสื้อชั้นในของหล่อนจนต้องรีบถอดเสื้อผ้าออกจากร่างภายใต้สายน้ำที่พร่างลงมาจากฝักบัวสีเงินวาว มือเรียวไล้ลูบเรือนร่างเปล่าเปลือย บีบเคล้นสองเต้าของตัวเอง ปากเผลอร้องครางเพราะมืออีกข้างที่ไล้เลื่อนลงมาที่ซอกขา กอบกุมกลีบเนื้อโค้งนูนเหมือนหลังเต่าคว่ำลงมาประกบกับอุ้งมือพอดี“อ๊า… ซี้ดดดดด… ”เสียงซี้ดซ้าดของคนที่อยู่ในห้องน้ำดังออกมาถึงนอกห้อง ช่างบังเอิญว่าท่านประธานเดินเฉียดเข้ามาใกล้ประตูห้องน้ำพอดีและเสียงนั้น… ยิ่งทำให้เขารู้สึกตื่นเต้น“โอ๊ว… ”ท่านประธานอุทาน อดไม่ได้ที่จะแนบหูกับบานประตู เสียงครางกระชั้นถี่ยิ่งกระตุ้นอยากรู้ว่าคนที่อยู่ในห้องน้ำกำลังทำอะไรกวินท์อยากเห็น…“บ้าจริง… ”ท่านประธานพยายามหักห้ามความคิดอันชั่วร้ายของตัวเอง แต่ไม่เป็นผลด้วยความต้องการอันมืดดำที่ซ่อนเร้นอยู่ในตัวตน ผลักดันให้กวินท์ต้องย่องออกมาที่ระเบียงหลังห้องเขาคว้าเก้าอี้มาวางชิดผนัง ค่อยๆ ขึ้นมายืนมองผ่านช่องลมลงมาเห็นเรือนร่างเปล่าเปลือยของยาดาที่กำลังยืนอยู่ใต้สายน้ำพร่างพรมลงมาจากฝักบัวสีเงินวาว ‘โอ้ว… แม่คุณเอ๊ย… ’กวินท์ร้องอุ
ในเวลาต่อมาไม่นานอาหารที่สั่งก็มาส่งให้ถึงหน้าประตูห้อง กวินท์เดินออกมารับด้วยตัวเอง เขาเปิดอาหารในกล่องโฟมเทลงจานวางไว้บนโต๊ะเล็กๆ สำหรับรับประทานอาหาร แยกออกมาจากห้องใหญ่ อยู่ติดกับระเบียงหลังห้อง“มากินข้าวก่อน… ”ท่านประธานเรียก“ขอบคุณมากค่ะ… ”หญิงสาวยกมือไหว้…แอบคิดในใจว่าท่านมาดเข้มที่พนักงานของโรงแรมต่างพากันพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าดุชะมัด วันนี้ได้เจอตัวจริงกลับไม่เป็นดั่งคำร่ำลือ เพราะว่าเขาใจดีและเป็นกันเองมาก และที่สำคัญคือหล่อเหลากระชากใจสุดๆ“กินเยอะๆ… จะได้มีแรง… ”กวินท์เดินเข้ามาใกล้โต๊ะที่หญิงสาวกำลังนั่งกินอาหาร“เธอชื่ออะไร… ฉันยังไม่รู้จักชื่อเธอเลย”ร่างสูงใหญ่กว่าสองเมตรทรุดลงนั่งบนเก้าอี้ที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามของหญิงสาว เริ่มชวนคุยหลังจากเห็นว่าหล่อนกินอาหารเสร็จแล้ว“หนูชื่อ ‘ยาดา’ ค่ะ… ”หญิงสาวแนะนำตัวเอง“ส่วนฉันคงไม่ต้องแนะนำตัว เพราะเธอรู้จักฉันแล้วนี่… ”กวินท์รู้เพราะว่าเมื่อครู่ก่อนหน้าหล่อนอุทานเรียกเขาว่า ‘ท่านประธาน’ ตอนที่ฟื้นขึ้นมาจากอาการเป็นลม หลังจากเขาเข้าไปเจอในห้องทำงาน“ค่ะ… รู้จักค่ะท่านประธาน”หญิงสาวตอบ นึกในใจว่าใครบ้างจะไม่รู้จักเขา
ท่านประธานคลั่งสวาทผู้เขียนกาสะลองไม่อนุญาตให้สแกนหนังสือหรือคัดลอกเนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของหนังสือเท่านั้นนิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่สมมติขึ้นไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องจริงแต่อย่างใด ชื่อบุคคลและสถานที่ที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง ไม่มีเจตนาอ้างอิงหรือก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ……….นิยายเรื่องนี้… ไม่มีแก่นสารสารัตถะอะไรนักหนาทั้งเรื่องขับเคลื่อนด้วยอารมณ์อันมืดดำของมนุษย์ดำเนินเรื่องด้วยตัณหาราคะสุดร้อนแรงท่านใดที่ไม่ชอบโปรดหลีกเลี่ยง*เราเตือนท่านแล้ว*ท่านประธานคลั่งสวาทพุทธศักราช 2564ที่โรงแรมระดับห้าดาวชื่อดังในกรุงเทพฯ หนุ่มใหญ่วัย 37 ในชุดสูทสีดำสุดสมาร์ท ก้าวออกมาจากห้องประชุมพร้อมกระเป๋าเอกสารสีดำในมือเขาก้าวเดินมาที่ลิฟต์ กดลิฟต์ลงมาที่ชั้น 1 ซึ่งมีทางเดินเชื่อมต่อกับลานจอดรถที่อยู่ชั้นใต้ดินทว่าเมื่อลงมาถึงชั้นหนึ่ง ขณะที่กำลังจะเดินผ่าน จู่ๆ สายตาพลันเหลือบไปเห็นแสงไฟสีเหลืองนวลสาดลอดออกมาจากม่านหน้าต่างของห้องทำงานในส่วนของออฟฟิศที่อยู่ชั้นล่างด้วยความสงสัย…หนุ่มใหญ่พลิกหลังมือขึ้นมองนาฬิกา น
Comments