“โอเค ผ่าน พี่ชื่อเกษมณีจ้ะ หรือเรียกว่าพี่เกดก็ได้ ต่อไปน้องพราวมุกต้องมาฝึกงานเป็นผู้ช่วยของพี่เอง” เมื่ออ่านจนจบแล้วเกษมณีก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจ เพราะคุณสมบัติของหญิงสาวตรงหน้านั้นตรงกับที่เธอขอไปทุกอย่าง จากนั้นก็แนะนำตัวอย่างเป็นกันเอง
“ค่ะ พี่เกด” พราวมุกยิ้มรับและเอ่ยเรียกชื่อเกษมณีอย่างสนิทสนม ต่อไปจะได้รู้สึกชิน เพราะเธอต้องมาฝึกงานที่นี่นานพอสมควร
“บุคลิกดีนะนี่ ส่วนภาษาถ้าดูจากผลการเรียนแล้วก็คงจะแน่น ตรงกับที่พี่ต้องการเลย” เกษมณียิ้มพอใจแล้วเอ่ยชมเด็กสาวตรงหน้า
“งานไม่ได้มีอะไรมากหรอกจ้ะ ช่วงนี้เป็นช่วงขยายการผลิต พี่เลยอยากหาคนมาช่วยงานสักคน แต่ถ้ารับคนที่มีประสบการณ์มาแล้วสอนยาก พี่เลยติดต่อให้อาจารย์หญิงหาให้ พี่ก็จบจากมหาวิทยาลัยเดียวกันกับเรานั่นแหละ มาเรียนรู้กันดีกว่าว่าพราวต้องทำอะไรบ้าง “
จากนั้นก็ทำการแนะนำงานที่เธอจะให้พราวมุกช่วย เธอเล่าด้วยว่าเธอเองก็จบมาจากมหาวิทยาลัยเดียวกันกับพราวมุก และคุ้นเคยกับอาจารย์หญิงเป็นอย่างดี
“อ๋อ ค่ะ” พราวมุกจึงพยักหน้าเข้าใจ
“แล้วนี่จะเริ่มฝึกงานช่วงไหนนะ?”
“อีกหนึ่งสัปดาห์นิด ๆ ค่ะ” พราวมุกตอบกลับไป เพราะอีกแค่ประมาณเจ็ดแปดวันก็จะได้ฝึกงานตามที่มหาวิทยาลัยกำหนดออกมาแล้ว
“โอเค เดี๋ยวพี่ขอแอดไลน์ไปนะ เผื่อมีอะไรสงสัยน้องพราวจะได้ถามสะดวก” เกษมณีพยักหน้ารับรู้แล้วยื่นโทรศัพท์ไปให้พราวมุก
“ค่ะ” พราวมุกจึงรับโทรศัพท์มาพิมพ์ไอดีไลน์ของตนเองแล้วมีเรื่องอยากจะถามเกษมณีพอดี “พี่เกดคะ หนูขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ”
“จ้ะ ถามมาได้เลย” เกษมณีพยักหน้าอนุญาตอย่างใจดี
“เรื่องการแต่งตัวมาฝึกงานจะให้แต่งกายแบบไหนค่ะ พอดีพราวต้องถ่ายรูปส่งอาจารย์ด้วยค่ะ” พราวมุกเอ่ยถามด้วยความไม่แน่ใจ เพราะว่าทุก ๆ สัปดาห์ เธอต้องถ่ายรูปรายงานลงเอกสารทุนด้วยว่าฝึกงาน ทำให้ต้องใส่ชุดนักศึกษาถ่ายรูปด้วย ไม่แน่ใจว่าที่บริษัทจะอนุญาตหรือไม่
“อ๋อ ให้ใส่ชุดนักศึกษามาแค่สัปดาห์ละหนึ่งวัน อีกสี่วันใส่ชุดนอกจ้ะ หรือถ้าวันไหนที่ต้องออกไปข้างนอกกับท่านรอง เดี๋ยวพี่จะบอกอีกทีนะ”
เกษมณีรู้อยู่แล้วว่าพราวมุกเป็นเด็กทุนจึงอนุญาตให้ใส่ชุดนักศึกษาได้แค่หนึ่งวัน เพราะคงไม่ดีนักถ้าพราวมุกออกไปติดต่องานด้านนอกแล้วใส่ชุดนักศึกษา
“ค่ะ” พราวมุกยิ้มรับอย่างเต็มใจ
“ไม่มีอะไรแล้วจ้ะ น้องพราวจะถามอะไรอีกไหม?”
“ไม่ค่ะ” พราวมุกส่ายหน้าตอบ
“ถ้าอย่างนั้นก็เจอกันสัปดาห์หน้านะจ๊ะ วันนี้กลับไปได้เลย” เมื่อไม่มีอะไรแล้วเกษมณีจึงยิ้มให้รุ่นน้องแล้วเอ่ยลา
“ค่ะ สวัสดีค่ะ” พราวมุกยิ้มรับแล้วยกมือไหว้เกษมณีอย่างนอบน้อม จากนั้นก็ขอตัวเดินออกไป
ระหว่างทางก็สวนทางกับติณภัทรที่เดินมาห้องทำงานของตนเองพอดี พราวมุกก้มหัวให้เขาเล็กน้อย เพราะไม่รู้ว่าเขาคือใคร จากนั้นก็เดินเข้าลิฟต์ไปตามปกติ
ติณภัทรมองตามหลังพราวมุกไปด้วยความสนใจ
“เมื่อครู่นี่ใคร?” เขาเดินมาถามเลขาของตนเองที่นั่งอยู่หน้าห้องด้วยความสงสัย
“นักศึกษาฝึกงานจ้ะ” เกษมณีเงยหน้าขึ้นตอบเจ้านาย
ด้วยความที่เกษมณีเป็นเพื่อนบ้านและเป็นลูกพี่ลูกน้องของติณภัทรมาตั้งแต่เด็ก ทั้งคู่เติบโตมาด้วยกัน เกษมณีอายุมากกว่าติณภัทรถึงสามปี แม้ว่าเวลาอยู่ที่บ้านทั้งคู่จะคุยกันแบบธรรมดาแบบพี่น้อง แต่เวลางานเกษมณีก็ให้เกียรติเจ้านายเสมอ ไม่เคยเบ่งว่าตนเองรู้จักเจ้าของบริษัทเป็นการส่วนตัว
“ปกติบริษัทเราไม่รับเด็กฝึกงานนี่?” ติณภัทรขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจเมื่อได้ยินอย่างนั้น เพราะปกติแล้วบริษัทของเขาไม่เคยรับนักศึกษาฝึกงานเลยสักครั้ง
“เกดรับไว้เองค่ะ พอดีเกดหาผู้ช่วยตามที่คุณติณบอกยังไงล่ะคะ”
เกษมณีจึงบอกกับเจ้านายไปตามตรง เพราะว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่ ติณภัทรต้องพิสูจน์ตนเองในการทำโปรเจกต์ใหญ่เกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้านำเข้าจากทางยุโรป ทำให้งานของเธอล้นมือ ติณภัทรจึงให้เลขารุ่นพี่หาผู้ช่วยมาให้ แต่เกษมณีไม่ชอบการสอนงานคนที่เป็นงานแล้ว เพราะคนแบบนั้นจะมีความคิดเป็นของตนเองและหัวแข็ง เธอจึงเลือกที่จะรับเด็กฝึกงานจากมหาวิทยาลัยเดียวกันกับเธอมาดีกว่า ซึ่งเด็กสาวที่อาจารย์คนที่ตนสนิทแนะนำมาก็โปรไฟล์ดีมากเลยทีเดียว
“อื้ม ก็ตามนั้น” ติณภัทรพยักหน้าเข้าใจ จากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาเดินเข้าห้องไปทำงานที่ตัวเองทำค้างไว้เมื่อวานต่อทันที
ตอนพิเศษ 5วันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่พราวมุกกับติณภัทรต้องตื่นแต่เช้า เพื่อมาเตรียมตัวให้กับลูกชายคนโต เนื่องจากว่าที่โรงเรียนมีงานกีฬาสี คุณครูประจำชั้นของต้นไม้จึงเรียนเชิญให้ผู้ปกครองมาร่วมกิจกรรมกับลูกชายซึ่งเมื่อแต่งตัวกันเสร็จเรียบร้อย สามพ่อแม่ลูกก็พากันเดินทางไปที่โรงเรียน ส่วนลูกสาวคนเล็กคุณย่าก็ขอเอาไปเลี้ยงสักวันสองวัน“ร้อนไหมพราว พี่ไปซื้อน้ำมาให้”“ร้อนค่ะ แต่ลูกน่าจะร้อนกว่า พี่ดูแลลูกก่อนก็ได้”“ลูกมีครูคอยดูแลอยู่ ดูแลตัวเองกันก่อนดีกว่าตอนนี้ อากาศร้อน แถมต้องมาเล่นกีฬา จริงๆ ถ้าไม่ไหวแค่บอกพี่มานะ เดี๋ยวพี่บอกครูเขาให้”“ไม่เป็นไร นานๆ ที อีกอย่างลูกเราก็ดูจอยมาก ไม่อยากทำให้เสียบรรยากาศน่ะค่ะ”“โอเค พี่เข้าใจ”ติณภัทรพูด แล้วเปิดฝาน้ำป้อนภรรยา เพราะรู้ดีอยู่แล้วว่าพราวมุกเป็นคนขี้ร้อน เวลาอยู่ในที่อากาศร้อนมากๆ เธอก็มักจะมีอาการที่ไม่สู้ดีสักเท่าไหร่นัก ซึ่งเขาไม่อยากให้ภรรยาผู้เป็นที่รักต้องไม่สบายก็เท่านั้น“แล้วพี่ติณไม่ร้อนเหรอคะ?”“ก็ร้อน แต่ว่าพี่ทนได้ เพราะว่าพี่ไม่ได้เป็นคนขี้ร้อนเหมือนพราว”“งั้นก็ดีแล้ว ว่าแต่ต้องทำอะไรต่อเหรอคะ?”“มีกิจกรรมครอบครัว พ่อแ
ตอนพิเศษ 4สามเดือนถัดมา...หลังจากวันที่คลอดเจ้าตัวเล็กออกมา พราวมุกและติณภัทรก็หัวหมุนหนักยิ่งกว่าเก่า โชคยังดีที่มีคุณย่าคอยช่วยเลี้ยงลูกชายคนโตให้ แถมต้นไม้เองก็รู้เรื่องขึ้นมาก รู้ว่าคุณพ่อและคุณแม่เหนื่อยกับการดูน้องสาว ก็ยอมอยู่เล่นที่บ้านคุณย่าอยู่บ่อยๆ ไม่มารบกวนแต่อย่างใด“ไปอยู่กับคุณย่ามา ดื้อหรือเปล่าครับ” ทันทีที่พาลูกชายคนโตกลับมาถึงบ้าน ติณภัทรก็รีบถามขึ้นทันที“ต้นไม้ไม่ดื้อเลยครับ คุณย่าชมต้นไม้ด้วย บอกว่าน่ารักแล้วก็ไม่ดื้อเลยสักนิดเดียว”“ถ้างั้นก็ดีแล้วครับ คุณย่าจะได้ไม่เหนื่อยมาก แต่ช่วงนี้ลูกต้องกลับมาอยู่ที่บ้านเราก่อนนะครับ เพราะว่าคุณย่าต้องไปดูงานที่เชียงใหม่ อีกหลายวันกว่าจะกลับ”“ได้ครับ คุณย่าบอกต้นไม้แล้ว”“งั้นเราไปหาน้องกันไหม น้องน่าจะกำลังหม่ำๆ นมอยู่”“ไปครับไป ต้นไม้อยากเล่นกับน้อง”“งั้นไปกันครับ”ติณภัทรรีบพาลูกชายเข้าไปหาผู้เป็นแม่และน้องสาวคนเล็กทันที เพราะเห็นว่าช่วงแรก ๆ ต้นไม้ไม่ค่อยได้มาเล่นกับน้อง เนื่องจากว่าต้องไปเรียนทุกวัน หากนอนที่บ้านหลังเดียวกันก็คงจะทนเสียงร้องงอแงของเจ้าตัวน้อยไม่ไหว แต่ช่วงนี้ก็คงจะได้อยู่กันบ่อยๆ แล้ว“คุณแม่..
ตอนพิเศษ 3ชีวิตของทั้งคู่เรียกได้ว่าโรยไปด้วยกลีบกุหลาบ หลังจากที่ผ่านอุปสรรคและขวากหนามด้วยกันมานาน วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ พราวมุกจึงชวนติณภัทรมาดูซีรีย์กันที่บ้าน หลังจากที่ไปส่งลูกชายคนโตไว้ที่บ้านของแม่สามี เนื่องจากว่าต้นไม้จะอยู่เรียนพิเศษที่บ้านของคุณย่าทุกวันอาทิตย์ เป็นเรื่องปกติ“คืนนี้คิดยังไงชวนพี่มาดูซีรีย์เนี่ย อารมณ์ไหน?”“ก็พราวไม่อยากทำอะไรนี่คะ แค่อยากนอนให้เวลาไปรีบๆ ผ่านไป อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันคลอดแล้ว”“โอเค นอนให้หนำใจเลย เพราะถ้าเจ้าตัวเล็กมาเพิ่มอีกคน เราสองคนคงได้หัวหมุนกันทั้งวันทั้งคืนไปอีกปีสองปีแน่ ๆ”“ก็จริงค่ะ ดูซีรีย์กันดีกว่า เรื่องนี้น่าดูมากเลยนะคะ พราวลองดูตัวอย่างมาก่อนแล้ว สนุกมาก”หลังจากที่พูดคุยกันตามปกติ ทั้งสองก็พากันนอนกอดกันกลมพร้อมกับดูหนังใหม่ที่กำลังเป็นกระแสไปด้วยในเวลาเดียวกัน แต่จะรู้ว่าจู่ ๆ เหตุการณ์ที่ไม่คาคิดก็เกิดขึ้น“พี่ติณ...พราวเจ็บท้อง เจ็บมาก เหมือน...” วินาทีนั้นพราวมุกถึงกับพูดต่อไม่ได้ ความเจ็บดังกล่าวส่งผลให้เธอพยายามนอนขดตัวพร้อมกับใช้มือน้อยๆ ของตนกุมท้องเอาไว้ คล้ายเจ็บจนเจียนตายเลยก็ว่าได้“พราวใจเย็นๆ นะ พี่
ตอนพิเศษ 2วัน ๆ พันกว่าเรื่อง ติณภัทรพูดไม่เข้าหูภรรยาเพียงไม่กี่คำ ก็ถูกโกรธจนไม่คุยกันข้ามวันข้ามคืน แม้ว่าจะพยายามตามง้ออยู่ทุกเวลา แต่ก็ยังเอาชนะความขี้น้อยใจของเธอไม่ได้อยู่ดี“คุณพ่อทำอะไรอยู่เหรอครับ ทำไมไม่เข้าไปหาคุณแม่ข้างใน” เจ้าตัวแสบกำลังจะเดินเข้าไปหาผู้เป็นแม่ที่นอนเล่นอยู่ข้างใน เห็นผู้เป็นพ่อเอาแต่ยืนด้อม ๆ มอง ๆ อยู่หน้าห้อง ไม่ยอมเข้าไปหาเธอเสียที“ต้นไม้ มานี่ก่อนครับ” ติณภัทรเอ่ยพร้อมกับดึงมือของลูกชายมาข้างนอก เพื่อพูดคุยอะไรบางอย่าง“มีอะไรเหรอครับคุณพ่อ”“คุณแม่กำลังโกรธคุณพ่ออยู่ ต้นไม้ช่วยให้คุณแม่หายโกรธคุณพ่อได้ไหมครับ?”“ก็เป็นต้นไม้ตลอดที่ช่วยคุณพ่อ ว่าแต่...รอบนี้คุณพ่อจะซื้อเลโก้ตัวนั้นให้ต้นไม้ไหมครับ?” เด็กชายตัวแสบยื่นข้อเสนอให้กับผู้เป็นพ่อได้ฟัง ก่อนจะยืนมองหน้าติณภัทรตาปริบๆ เพื่อหวังให้เขาใจอ่อนยอมซื้อของเล่นให้ หากว่าสามารถทำให้พราวมุกยอมคืนดีด้วยได้“พ่อจะซื้อให้ต้นไม้สักสิบชิ้นเลย ดีไหมครับ?”“ได้ครับ เดี๋ยวต้นไม้จัดการให้”“เร็ว ๆ เลยครับ ก่อนที่แม่จะโกรธพ่อหนักไปมากกว่านี้”ที่ทำแบบนี้ไม่ใช่ว่าติณภัทรไม่อยากง้อภรรยาด้วยตัวเอง แต่เพราะง้อแล้
ตอนพิเศษ 1ชีวิตหลังแต่งงานของทั้งติณภัทรและพราวมุกเต็มไปด้วยความสุขและชุลมุนวุ่นวายไปด้วยในเวลาเดียวกัน เพราะเจ้าต้นไม้นั้นทั้งดื้อและซนตามประสาเด็กกำลังโต แม้จะมีคุณย่าคอยช่วยเลี้ยง แต่ก็แทบจะรับมือกับเจ้าเด็กแสบคนนี้ไม่ไหวเลยจริง ๆ“ต้นไม้ครับ ค่อย ๆ กินสิครับลูก เดี๋ยวติดคอขึ้นมา ต้องไปหาพี่หมอที่โรงพยาบาลนะครับ”พราวมุกที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กันกับลูกชายถึงกับต้องเอ่ยปากห้ามปราม เพราะทุกครั้งที่ต้นไม้ได้กินของโปรด เขาก็มักจะรีบกินจนลืมไปว่ามันทั้งเสียมารยาทบนโต๊ะอาหารและอันตรายถึงแก่ชีวิตได้หากอาหารติดคอ“ก็มันอร่อยนี่ครับ”“แม่เข้าใจ ลูกจะกินเยอะแค่ไหนก็ได้แต่ต้องค่อยๆ กินไงครับ มันอันตราย”“โอเคครับ ต้มไม้เข้าใจแล้ว...” เด็กชายทำหน้าหงอยเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ ตักอาหารเข้าปากตามคำสั่งสอนของผู้เป็นแม่ที่คอยดูแลอยู่ข้าง ๆ กาย“เอาน่า พราวมุก ปล่อยให้เขากินไปเถอะ เข้มงวดมาก ๆ เดี๋ยวจะเสียบรรยากาศเอานะ” คุณหญิงธนัชชาเห็นสีหน้าของหลานชายสุดที่รักดูไม่สู้ดีนัก จึงเอ่ยขึ้นเพื่อหวังให้บรรยากาศบนโต๊ะอาหารกลับมาสนุกสนานอีกครั้ง“ค่ะคุณแม่...” หญิงสาวยกยิ้มเบาบางพร้อมกับยกมือลูบหัวลูกชายหัวแก้ว
The Follow Love 127.เช้าวันต่อมาพวกเขาทั้งสามคนยังคงอยู่กันที่จังหวัดเชียงใหม่ พราวมุกเพียงแค่คิดถึงร้านกาแฟร้านนั้นจึงอยากกลับไปเยี่ยมเยียนอีกสักครั้งแม้ว่ามันจะไม่ได้เป็นเธอเป็นเจ้าของอย่างเต็มตัวแล้วก็ตาม“ที่นี่น่ะเหรอ ร้านกาแฟที่พราวสร้างมาเองกับมือ ในตอนที่หนีมา”“ใช่ค่ะ ต้นไม้ทุกต้นที่นี่ พราวเป็นคนปลูกเองทั้งหมดเลยนะคะ นี่ก็คงจะล้มตายไปบ้างแล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายต้นที่เจริญเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ น่าเสียดายที่ตอนนั้นตัดสินใจขายทิ้งไป เพราะคิดว่าคงไม่ได้กลับมาอีก”“งั้น...พราวอยากได้มันกลับมาไหม?” ติณภัทรเอ่ยถามความเห็นจากภรรยาที่นั่งดื่มกาแฟอยู่ทางฝั่งตรงกันข้าม โดยมีลูกน้อยนั่งกินขนมอยู่บนตักของเธออีกทีหนึ่ง“พี่ติณหยุดความคิดนั้นเดี๋ยวนี้เลยนะคะ อย่าเลยดีกว่าค่ะ พราวไม่มีเวลาทำหรอก” หญิงสาวปฏิเสธเขากลับไปอย่างไม่ลังเล เธอคิดเพียงแค่ว่าลำพังเลี้ยงลูกชายคนเดียวก็ลำบากไม่น้อยเลย หากว่าจะต้องทำร้านกาแฟอีก เธอก็อาจจะทำมันได้ไม่ดีเท่าที่ควร“แล้วถ้าพี่ถามว่าถ้าพราวมีเวลา พราวอยากทำต่อไหม?”“ก็ต้องยากสิคะ ทุกอย่างมันก็ยังเหมือนเดิม แค่เห็นก็อดนึกถึงวันเก่า ๆ ไม่ได้เลย”“งั้นพี่ซื้อให้พ