LOGINแม้ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปราวกับผีเสื้อขยับปีก แต่ก็ไม่อาจจะเปลี่ยนเรื่องที่นางถูกลงโทษได้ เมื่อการลงทัณฑ์ของนางจบสิ้น อันรั่วหลันได้รู้สึกว่าตนเองระบายอารมณ์แล้วก็หมุนตัวเดินจากไป บ่าวรับใช้ที่เป็นคนของพี่ชาย ก็อยู่ในสภาพไม่แตกต่างจากผู้เป็นนาย แต่กระนั้นก็ยังประคองตนเองมาอยู่เคียงข้างคุณหนูเก้า
พวกนางได้รับการสั่งสอนมาจากในวังหลวง ให้รู้จักขนบธรรมเนียมอันดีงาม ตอนแรกที่ได้ยินว่าจะได้ออกมาดูแลคุณหนูจวนเสนาบดี ก็ยังคิดว่าสบายแล้ว เพราะเรื่องความเคร่งครัดอาจจะด้อยไปกว่าตอนอยู่ในวังหลวง แต่ก็มีบางเรื่องที่พวกนางคิดไม่ถึง
คุณหนูเก้าผู้นี้ช่างน่าสงสารยิ่งนัก มือของสตรี ร่างกายของสตรี ยิ่งเป็นชนชั้นสูงจะให้มีบาดแผลได้อย่างไรกัน แม้จะใช้เวลาร่วมกันไม่นาน แต่พวกนางก็ผูกใจเอาไว้กับเจ้านายคนใหม่ผู้นี้แล้ว
“คุณหนู” พวกนางประคองเจ้านายของตนให้กลับขึ้นไปบนที่นอน
“พวกเขากระทำเช่นนี้กับคุณหนูตลอดเลยหรือเจ้าคะ”
อันเนี่ยนฉีพยักหน้า ดวงตาสีน้ำตาลเข้มนิ่งเฉยคาดเดาไม่ได้ว่านางกำลังค
“นั่นสิ” ความทุกข์ในด่านเคราะห์ที่เขาและนางผ่านมาอย่างไม่ตั้งใจ เมื่อคิดถึงก็รู้สึกหนาวเหน็บขึ้นไม่รู้ตัว “ตอนแรกข้าก็โกรธที่เกาเจี๋ยกับสือโต้วเข้าไปยุ่งวุ่นวาย แต่ถ้าไม่ใช่เพราะเขา คุนอวี่คงจากเราไปนานแล้ว”เมื่อพูดถึงก้อนแป้งน้อยน่ารักทั้งคู่ก็ยิ้มออกมา“ท่านพ่อ ท่านแม่ ท่านรักกัน แต่ท่านไม่รักข้าใช่หรือไม่” เด็กชายร้องไห้โวยวายอยู่ตรงปากทางเข้าสวนท้อ“ตายจริงท่านกางข่ายอาคมอีกแล้วหรือ” ซื่อหานขมึงตาใส่สามี“ก็...ข้า...” เขาอยากใช้เวลาอยู่กับนางตามลำพัง พันหมื่นปีที่ผ่านมามันไม่เคยเพียงพอซื่อหานทุบสามีไปหนึ่งทีแล้วลบข่ายอาคมที่เขาสร้างเอาไว้ ด้วยตบะสามร้อยปีของเด็กชายจะสู้พลังมารหมื่นปีของบิดาได้อย่างไรทันทีที่ข่ายอาคมถูกลบเลือนเด็กชายก็วิ่งเข้ามาแทรกตรงกลางระหว่างคนทั้งสอง“ท่านแม่ ท่านพ่อรังแกข้าอีกแล้ว” คุนอวี่บอกของมารดาชี้หน้าเอาเรื่องกับบิดา“เจ้านี่หนา สมัยก่อนตอนแม่ของเจ้ายังไม่คืนกลับมา ก็เข้าหาแต่ข้า คุยเล่นกับข้าแทบทุกวัน พอมีแม่เข้าหน่อยข้าก็หมดความสำคัญ” ในสมัยอดีตเจ้าก้อนแป้งเอาแต่ตามติดเขา เขาเองก็พาเด็กชายไปเที่ยวไหนต่อไหนแทบทุกวัน ผู้เป็นบิดาน้อยใจ“ใช่ ท่านไม่สำค
เป็นเพราะทั้งซื่อหานและหงหลางต่างก็เป็นเทพและมารที่อยู่มาในยุคฟ้าปางก่อน เป็นเทพมารบรรพกาลที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่องค์ในยุคนี้ การที่ทั้งคู่คบหากันจึงไม่มีใครคัดค้านแม้กระทั่งเทียนตี้เองก็มิกล้ามีปากมีเสียง คงเพราะหวั่นเกรงกลัวว่า มหาเทพซื่อหานจะบุกมาพังตำหนักของตนไม่ก็ถูกมหาจอมมารขโมยผลไม้เซียนที่เขาปลูกเอาไว้ จึงปล่อยเลยตามเลยทำปิดหูปิดตาไม่สนใจ แม้จะกังวลเรื่องการรวมดินแดนเพียงไหนก็ตามในอดีตนางและเขาทะเลาะกันจนทำให้ดินแดนทั้งสองแยกขาดจากกัน นางแกล้งเขาด้วยการสร้างโซ่เส้นหนึ่งขังเขาเอาไว้ในตำหนัก หงหลางโกรธจัด นับตั้งแต่นั้นมา สองดินแดนจึงถูกแยกออกจากกัน ถึงเวลาที่เขาและนางจะช่วยกันรวมดินแดนผนึกแผ่นดินเข้าหากันอีกครั้งหนึ่งกลายเป็นว่าสิ่งที่หลันเว่ยลงมือกระทำไปทั้งหมดเป็นการช่วยส่งเสริมให้ทุกอย่างกลับคืนสู่สภาวะเดิมอย่างที่สามภพเคยเป็น มารและเทพกลับมาคบหากันอย่างเปิดเผย อยู่ภายใต้ขอบเขตศีลธรรมอันดีงาม“ท่านพ่อท่านแม่อยู่ไหน” คุนอวี่ถามหาบิดาและมารดา จากเกาเจี๋ยและสือโต้วพวกเขาสองคนมองหน้ากันไปมา เด็กชายจึงรู้ได้ในทันทีว่าทั้งสองคนไปขลุกอยู่ที่สวนท้อ คุนอวี่หงุดหงิด ช่วงหลังพวกเขา
“ท่านมหาจอมมาร ถ้า...ท่านให้ข้าเป็นอนุภรรยาของท่าน ข้าสัญญาว่าจะปล่อยเขาไป ข้าหลงรักท่านนะเจ้าคะ” น้ำเสียงของหลันเว่ยคล้ายกับอ้อนวอน และเปลี่ยนอารมณ์เป็นเคียดแค้น “แต่เวลานี้ไม่สำคัญแล้วเป็นเพราะท่านไม่เคยรักข้า ไม่เคยสนใจข้าเรื่องทุกอย่างถึงได้ดำเนินมาถึงจุดนี้หากเมื่อสองพันปีก่อนท่านมอบหัวใจให้ดอกบัวน้อย ๆ เช่นข้าสักนิดเรื่องราวคงไม่...” สีหน้าของหลันเว่ยเต็มไปด้วยความเคียดแค้นใจ“ข้าคุ้นหน้าเจ้าก็จริง แต่เราเคยพบกันด้วยหรือ” หงหลางจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยพบนางใบหน้าของหลันเว่ยเปลี่ยนสี“อย่าพูดพร่ำเลย จัดการเรื่องนี้ให้จบ ๆ ไปเสีย” ซื่อหานเรียกอสนีบาตเก้าสิบเจ็ดสาย ท้องฟ้าพิโรธรุนแรงยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ เสียงกัมปนาทสะเทือนเลื่อนลั่นไปทั่วทั้งแดนสวรรค์และมารหลันเว่ยเงยหน้าขึ้นมองท้องนภาเสียงโซ่ขังเซียนค่อย ๆ คลายตัวออก เด็กชายหลุดออกจากพันธนาการ หงหลางได้โอกาสคว้าตัวบุตรชายเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดได้อย่างปลอดภัย“ท่านแม่ ท่านพ่อ” ก้อนแป้งน้อยร้องไห้จ้า ผู้เป็นบิดาได้แต่ลูบหลังปลอบใจ“ที่เจ้าก่อเรื่องขึ้นเมื่อหลายปีก่อน ข้าลงโทษเจ้าสถานเบา ครานี้เจ้าลักพาตัวบุตรชายของข้าเอาไปกักขังเอาไว้ เรื
เพราะท่านพ่อท่านแม่กำลังอยู่ในช่วงเวลาปรับความเข้าใจกัน เด็กชายเบื่อ ๆ ไม่อยากรบกวนเวลาของพวกท่าน จึงออกไปเที่ยวเล่นดังเช่นปกติ แต่วันนี้ดันเตลิดเลยออกมาห่างจากตำหนักวิเวกของมารดาเกินไปสักนิด เดิมทีก้อนแป้งเองก็สนุกสนานกับการสำรวจสิ่งต่าง ๆ อยู่แล้ว รวมถึงมีตบะกลิ่นอายเซียนและมารผสมรวมกันอยู่ ปีศาจหรือเซียนระดับล่างมิอาจทำร้ายเขาได้ และทำให้เขาสามารถเข้าออกได้ทุกหนแห่งในสามภพป่าแถบนี้ประหลาดนัก ไร้เสียงของสัตว์สวรรค์ เด็กชายเดินเตร็ดเตร่ไปรอบ ๆ สายตาเหลือบไปเห็นดอกบัวสีทองอร่ามงดงามจับใจอยู่กลางบึงน้ำสีครามสวย“เจ้าดอกบัว” หากเก็บไปให้มารดาและบิดาเป็นของขวัญคงจะดีไม่น้อย เมื่อคิดแล้วก็ลงมือ กระบี่ที่บิดาเป็นผู้หลอมให้เป็นของขวัญถูกนำออกมา ก้อนแป้งน้อยเขวี้ยงกระบี่ออกไปหมายจะตัดดอกบัวสีทองออกมาจากบึงแต่ไม่เป็นอย่างที่เขาคิด ดอกบัวดอกนั้นหลบหลีกกระบี่มารของบิดาได้ ผ่านไปครู่หนึ่งดอกบัวสีทองก็แปลงกายเป็นสตรีใบหน้างดงาม“คุณชาย อย่าทำร้ายข้า” นางอ้อนวอนทั้งน้ำตา“เอ๊ะ พี่สาว ท่านมีจิตวิญญาณหรอกหรือ” เขาคิดว่าเป็นดอกไม้ธรรมดาไม่คิดว่าเป็นดอกไม้เซียน เมื่อดอกบัวสีทองแปลงกายได้เขาจึงรีบเก
หงหลางกางข่ายอาคมของตนเองครอบคลุมสวนดอกท้อซื่อหานตกใจ ร้องเสียงหลง“เจ้าจะทำอะไร”“ข้าไม่อยากให้ใครมาแอบดูพวกเราสองคนทำอะไรกัน” เขาไม่พูดเปล่า แต่มือไม้ยังวุ่นวายกับร่างกายของนาง“หงหลางหยุดก่อน” นางผายมือขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เป็นข่ายอาคมของนางเอง“...” ชายหนุ่มทำหน้าประหลาดใจ“ชะ...ใช้ของข้า คนอื่นจะได้ไม่งงว่า เกิดอะไรขึ้นที่ตำหนักวิเวก” นางกล่าวอึกอักหงหลางยิ้ม “เจ้านี่น่ารักจริง ๆ น่ารักมาตั้งแต่หลายหมื่นปีก่อน” ท่าทางเขินอายของนางทำเอาเขาอดเอ็นดูไม่ได้เสื้อผ้าของนางถูกถอดออกอย่างรวดเร็ว จนร่างกายเปลือยเปล่าส่วนตัวของเขาเองก็เช่นกัน ผู้เป็นจอมมารขบเม้มร่างกายของนางจนเป็นรอยตราสีแดงไปทั่วทั้งร่าง กลืนกินทุกสัดส่วนอย่างโหยหา กลิ่นนี้ น้ำเสียงนี้ และความรู้สึกนี้ที่เขาเฝ้าตามหามาโดยตลอด ในที่สุดนางก็กลับมาปรากฏตัวต่อหน้าเขาอีกครา“ซื่อหาน ข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกิน” เขาพูดพร่ำเบา ๆ ขยับตัวลงเบื้องล่าง ดูดคลึงเกสรดอกไม้ที่ยื่นออกมา“หงหลางเจ้า...” นางจะดิ้นหนี แต่ถูกเขารั้งเอาไว้ ไม่ยอมปล่อยให้นางหนีรอด“อย่าคิดหนีอีกเลย เจ้าหนีข้าไม่พ้นหรอก” หงหลางหยอกเย้าสอดลิ้นเข้าดุนดันติ่งกระสันที
“นอนอยู่”“แย่จัง บอกให้ข้าขึ้นมา แล้วบอกว่าจะให้ท่านพ่อท่านแม่ช่วยกันตั้งชื่อให้”ซื่อหานสำลักสุราดอกท้ออีกครั้ง “สุรานี้ต้องมีปัญหาแน่ ๆ เหตุใดวันนี้ถึงได้มีรสเผ็ด”“ให้ข้าพิสูจน์ดูสักครั้ง” พูดจบหงหลาง ลุกขึ้นโน้มตัวลงมาจูบจุมพิต ดูดกลืนละเลียดชิมสุรา“...” ซื่อหานตกใจตัวแข็งทื่อ นี่นับเป็นครั้งแรกในรอบหมื่นกว่าปีที่นางถูกขโมยจูบ ตกใจแต่ก็รู้สึกคุ้นเคย ใบหน้างดงามแดงยิ่งกว่าเดิม“รสชาติหอมหวานดีจะตายไป” เขาถอนจูบ ใช้นิ้วมือลูบริมฝีปากนุ่มนิ่มของนางเบา ๆ“...”นางเป็นมหาเทพแข็งแกร่งอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขา อยู่มาตั้งแต่ยุคฟ้าปางก่อนช่วยกันปกปักดูแลสามภพมาด้วยกัน นี่เป็นครั้งแรกเลยหรือไม่ที่ได้เห็นนางทำสีหน้าตลกเช่นนั้น“หรือต้องทดสอบดูอีกครั้งกันนะ”หงหลางตั้งท่าจะจุมพิตนางอีกครั้ง แต่ครั้งนี้นางไวกว่าดีดตัวขยับถอยหนีได้ทัน“เจ้าจะบ้าเหรอ” ซื่อหานเช็ดปากของตนเองแรง ๆหงหลางคว้ามือนางไว้ได้ทันก่อนที่ริมฝีปากของนางจะเป็นแผล“อย่าเช็ดแรงสิ เดี๋ยวจะเป็นแผล” น้ำเสียงของจอมมารอ่อนโยน นุ่มทุ้มนางเอาแต่ก้มหน้างุด ความรู้สึกเช่นนี้มันคืออะไร หัวใจของนางเต้นแรงแปลก ๆ“ข้าอายุตั้งเท่าไร แผล







