‘ไอ้รูปหล่อเป็นท่านอ๋องหรอกหรือ แต่ผู้ชายมักมากไม่เห็นจะน่าคบสักนิด’ เหอชุนหลานดูแคลนบุรุษในใจ ยิ่งเห็นสตรีข้างกายเขาก็รู้สึกทั้งสงสารและสมเพชในเวลาเดียวกัน คิดดังนั้นก็จูงมือเสี่ยวเหมยให้รีบเดินออกห่างจากพวกเขาทันที
“ตลาดกลางคืนมักขายอาหารกับเครื่องประดับ พวกของขวัญชิ้นเล็กๆ สินะ” เหอชุนหลานกวาดสายตามองโดยรอบเพื่อที่จะคิดธุรกิจของตนเองบ้าง พอได้เงินจากอ๋องหื่นกามมานางจะได้เอามาเป็นเงินทุนตรงนี้
นางเดินไปนั่งที่เก้าอี้หลบมุมตัวหนึ่ง พลางมองผู้คนที่เดินผ่านไปมา สังเกตเห็นว่ามีแต่คู่หนุ่มสาวที่มาด้วยกันเป็นส่วนใหญ่
“ข้าเย็บชุดชั้นในขายดีกว่า เอาแบบยั่วๆ ผู้หญิงซื้อใส่ยั่วผู้ชาย ส่วนผู้ชายก็ซื้อให้คนรัก สร้างกิจกรรมบนเตียงที่จืดชืดให้กลับมาเร่าร้อนเหมือนดั่งครั้งแรกที่ถึงเนื้อถึงตัวกัน”
เหอชุนหลานยิ้มภูมิใจกับความคิดของตนเอง นางวางแผนไว้ว่าพรุ่งนี้จะต้องหาเวลาออกไปสำรวจตลาดผ้า จะได้เลือกแบบและลวดลายไว้ล่วงหน้า
~~~~~~~~
เมื่อกลับมาถึงจวนไป๋หลิน เหอชุนหลานก็ลงอ่างแช่น้ำร้อนให้ร่างกายผ่อนคลาย ดีที่ท่านอ๋องเจ้าของจวนยังไม่กลับ นางจึงแช่น้ำอย่างสบายใจ
ลงแช่น้ำได้ไม่ถึงครึ่งชั่วยาม ประตูเรือนก็ถูกเปิดออกด้วยความแรง เหอชุนหลานร้องด้วยความตกใจแต่ก็หาเสื้อผ้ามาปกปิดร่างกายไม่ทันเสียแล้ว
“กรี๊ด เจ้าจะเข้าห้องข้าโดยไม่เคาะประตูไม่ได้นะ” เหอชุนหลานพูดด้วยความหงุดหงิดใส่ชายหนุ่ม
เพียงแต่อีกฝ่ายไม่ได้ใส่ใจในสิ่งที่นางพูด เขาเดินย่างก้าวมาข้างอ่างน้ำจากนั้นก็ถอดอาภรณ์ของตนออกจากร่างอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาไม่กี่ลมหายใจ เรือนกายกำยำก็ลงอ่างน้ำเดียวกับเหอชุนหลาน
“ขัดหลังให้ข้า” เขาหันหลังให้หญิงสาวแล้วออกคำสั่งเสียงเข้ม
“คนอะไรเอาแต่ใจ เพิ่มเงินให้ข้าด้วยล่ะ” สตรีเอ่ยน้ำเสียงโมโห มือเรียวคว้าผ้ามาขัดหลังตามที่เขาสั่ง “แล้วมาหาข้าทำไม วันนี้น่าจะอยู่กับผู้หญิงคนอื่นสิ”
“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าอยู่กับสตรีนางอื่น” บุรุษหันหน้ามาจ้องนางด้วยแววตาคาดคั้น
“คนมักมากอย่างท่าน จะไปหาสตรีหลายคนมาปรนนิบัติไม่เห็นจะแปลก แต่ข้าขอเตือนท่านก่อนเลยนะ ระวังโรคทางเพศสัมพันธ์ด้วย ท่านอาจไม่กลัวแต่ข้ากลัว” สตรีขัดไปบ่นไปจนบุรุษทั้งโมโหทั้งอยากหัวเราะในเวลาเดียวกัน
“โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์คืออะไร” เขาถามนางเสียงเคร่งขรึม
เหอชุนหลานถอนหายใจเสียงดัง “โรคที่เกิดขึ้นหลังจากมีเพศสัมพันธ์ เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีพาหะของโรค ก็จะแพร่เชื้อไปที่อีกฝ่ายได้ พูดง่ายๆ ก็คือ หากท่านมีเชื้อโรคที่ไอ้นั่นของท่าน แล้วไปมีอะไรกับสตรี เชื้อโรคที่ไอ้นั่นก็จะมาติดที่ตรงนั้นของสตรี ข้าอธิบายขนาดนี้แล้วเข้าใจหรือไม่”
“อ่อ” บุรุษพยักหน้า เขายกมือหนาดึงเหอชุนหลานให้มานั่งทับบนตักของตนเอง
ร่างบางของสตรีเมื่อใกล้ชิดกับร่างแกร่งของบุรุษ เหอชุนหลานก็รู้ได้ว่าส่วนสำคัญของอีกฝ่ายเริ่มขยายขนาดและแข็งตัวอย่างรวดเร็ว และตอนนี้ส่วนนั้นเริ่มมาถูกับกลีบเนื้อนุ่มของนาง
“อื้อ เจ้ามันลามกจริงๆ” สตรีพูดก่อนส่งเสียงครางออกมาเมื่อเต้านมอวบนุ่มถูกมือแกร่งขยำเล่นอย่างมันมือ
“จับมันยัดใส่ของเจ้า” พูดบุรุษโน้มใบหน้าหล่อเหลาของตนให้จมูกและริมฝีปากวนเวียนแถวลำคอระหงแล้วออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
เมื่อครู่ตอนที่เขาอยู่ตลาดกับคุณหนูกวงบุตรสาวแม่ทัพพิทักษ์เมือง นางเอาแต่ยั่วยวนเขาจนเขาแทบทนไม่ไหวอยากกลับจวนมาหาเหอชุนหลาน เมื่อมาถึงเขาก็ไม่รอช้ารีบมาหานางแล้วก็ถอดเสื้อผ้าลงอ่างน้ำพร้อมกับนาง
ถึงตอนนี้ให้ลองรักในน้ำเขาก็พร้อมรับความแปลกใหม่เต็มที่
“ข้าบอกว่าจับมันยัดใส่ของเจ้า” เขาเน้นเสียงอีกครั้งทั้งยังพ่นลมหายใจรดใบหูจนร่างบางสั่นสะท้าน
เหอชุนหลานส่ายศีรษะแล้วปฏิเสธทันใด “เจ้ารู้หรือไม่ว่าการมีเพศสัมพันธ์ในน้ำทำให้เสี่ยงต่อการติดโรคทางเพศสัมพันธ์มากกว่าเดิม อีกทั้งยังทำให้ช่องคลอดฝืด ไม่ราบรื่นเหมือนกับการมีอะไรกันบนบก”
“หืม เจ้ารู้เรื่องพวกนี้ด้วยหรือ ทำข้าประหลาดใจยิ่งนัก” บุรุษพูดพลางดันร่างบางให้ลุกขึ้นยืนมือจับขอบอ่างไม้ ส่วนเขาก็ยืนขึ้นอยู่ด้านหลังนาง สายตามองแผ่นหลังที่ขาวเนียนไปจนถึงรอยสักรูปกล้วยไม้ที่บั้นเอว
นิ้วเรียวลูบรอยสักนั้นเบาๆ ก่อนที่จัดยัดเอาความใหญ่โตใส่ส่วนสำคัญของหญิงสาว เหอชุนหลานส่งเสียงครางออกมาเมื่อแก่นกายใหญ่เข้ามาภายในตนเองจนสุดลำ
เมื่อเอวสอบของบุรุษเริ่มขยับ ฝ่ามือหนาของเขาก็จับที่เต้าอวบอิ่มแล้วบีบพร้อมกับกระแทกท่อนเอ็นเป็นจังหวะสอดคล้องกัน เสียงเนื้อกระแทกเนื้อดังขึ้นพร้อมกับเสียงน้ำในอ่างที่กระเพื่อมตามการเคลื่อนไหวของคนทั้งสอง
‘บอกว่าทำในน้ำไม่ดี พี่แกเลยให้ยืนแช่น้ำทำแทน มันเมื่อยนะ’ เหอชุนหลานคิดในใจก่อนร้องครางเสียงหวานออกมาเมื่อจุดเสียวถูกกระตุ้นไปมาซ้ำๆ
“ร้องออกมาอีก เรียกชื่อข้า” น้ำเสียงแหบพร่าถูกพ่นใส่ข้างหูของหญิงสาวในขณะที่ขาเรียวข้างหนึ่งถูกจับยกขึ้นสูง
ยกขึ้นแบบนี้ยิ่งทำให้แก่นกายเข้าออกสะดวกมากขึ้น ทั้งยังเพิ่มความรู้สึกเสียวซ่านให้กับหนุ่มสาวมากขึ้น
“อื้อ” เหอชุนหลานร้องเสียงดังก่อนพูดเสียงสั่น “ข้าไม่รู้จักชื่อเจ้า”
“จิ่งซี ข้าชื่อจิ่งซี” บุรุษกล่าว เขาซุกใบหน้าของตนที่ข้างลำคอของเหอชุนหลาน ริมฝีปากและจมูกวนเวียนแถวพวงแก้มนุ่ม ส่วนมือก็ยังซุกซนอยู่ที่เต้าอวบและโคนขาที่เรียวขาว
การสัมผัสบริเวณตำแหน่งอ่อนไหว ทำให้สตรีร้องครางถี่กว่าเดิม ความเสียวซ่านแต่ละบริเวณแล่นมารวมกันที่ท้องน้อยก่อนกระจายไปทั่วร่าง
“อ่า จิ่งซี จิ่งซีของข้า” สตรีสติพร่าเลือนพูดตามที่เขาสั่งโดยไม่คิด
“จิ่งซีของเจ้าหรือ” บุรุษพ่นลมหายใจใส่แก้มนางอีกครั้ง “ดี ข้าชอบ” พูดจบเขาก็ไม่ลีลา ขยับบั้นเอวให้แก่นกายใหญ่มุดเข้าออกโพรงรักทั้งหนักและเร็ว ไม่นานนักน้ำใสก็ถูกหลั่งออกมาเป็นจำนวนมาก
“จิ่งซี ข้าเสร็จแล้ว” เหอชุนหลานร้องออกมาพร้อมกับทิ้งกายอยู่ในอ้อมแขนของเขา ตอนนี้ร่างบางไร้เรี่ยวแรง มีเพียงที่ส่วนล่างที่ตอดรัดท่อนเอ็นใหญ่อย่างรุนแรง
“เจ้าตอดข้าแบบนี้....อื้อ” บุรุษยังพูดไม่ทันจบ ร่างหนาก็กระตุกเล็กน้อยแล้วหลั่งน้ำรักขาวขุ่นออกมาจนล้นโพรงหวานของหญิงสาว
เขาดึงร่างบางให้ลงนั่งในน้ำอีกครั้ง ชักแก่นกายของตนออกแล้วบรรจงใช้มือหนาลูบไล้เรือนร่างงามอย่างเบามือ
“ข้าช่วยเจ้าทำความสะอาดเอง” เขายังคงพูดเสียงแหบพร่า มือหนาเลื่อนไล้ไปทั่วร่างและหยุดเน้นแถวหน้าอกและเนินอูมรวมถึงกลีบเนื้อนุ่มจนเหอชุนหลานครางออกมาอีกครั้ง
“ก็ได้ ข้าไม่แกล้งเจ้าแล้ว หากไม่มีงานที่ต้องทำ คืนนี้คงอยู่กับเจ้าทั้งคืน” บุรุษพูดน้ำเสียงอ่อนโยนจนใจของเหอชุนหลานหวั่นไหว นางรู้สึกว่าการมีสัมพันธ์ครั้งนี้ใกล้เคียงกับที่คนรักทำต่อกัน เพียงแต่นางเก็บความคิดที่ไร้สาระนี้อย่างรวดเร็ว มือเรียวผลักชายหนุ่มออกจากตัวทันที
“เช่นนั้นเจ้าก็ไปได้แล้ว ขาอีกข้างของข้าแช่น้ำจนเปื่อยแล้ว”
“ได้สิ” บุรุษอมยิ้มเมื่อเห็นท่าทางกระเง้ากระงอดของหญิงสาว เขาก้มลงจุมพิตริมฝีปากอวบอิ่มอยู่พักใหญ่แล้วจึงขึ้นจากน้ำสวมเสื้อคลุมจากไป
“จูบเหรอ ฉันมีจูบแรกแล้วสินะ” เหอชุนหลานพูดเบาๆ กับตนเอง ในทุกครั้งที่มีอะไรกับจิ่งซี บุรุษรูปงามคนนี้ เขาก็ทำเหมือนบุรุษที่แค่ต้องการปลดปล่อย จู่โจมเพียงหน้าอกกับส่วนล่างเท่านั้น นึกไม่ถึงว่าครั้งนี้เขาจะถึงขั้นจูบอย่างโรแมนติก
ดวงตาหวานมองตามร่างใหญ่ของบุรุษที่เพิ่งเดินออกไปไม่นาน “แบบนี้ก็ไม่เลวนะ”
เหอชุนหลานพูดจบก็ออกจากอ่างน้ำ เสี่ยวเหมยรีบเข้ามาพยุงและช่วยนางแต่งตัวด้วยความว่องไว นางใช้สายตาสำรวจทั่วร่างบางก่อนพูดน้ำเสียงเขินอาย
“รอยรักของคุณหนูมีเยอะทุกครั้งเลยนะเจ้านะ แล้วอย่างนี้เมื่อไหร่จะหายกัน”
รอยแดงเก่ายังไม่ทันจาง ชายหื่นกามก็ทำให้มีใหม่ตลอด เหอชุนหลานมุ่ยหน้าก้มลงมองดูที่ตัวและขาของตน
“นายท่านไม่เคยมีอะไรกับสตรีคนอื่นเกินหนึ่งครั้ง คุณหนูเป็นคนแรกที่นายท่านมาหาทุกคืน” เสี่ยวเหมยยังคงเล่าให้เหอชุนหลานฟัง
“แล้วสตรีคนอื่นค้างที่จวนหรือไม่ คงเป็นเพราะต้องส่งพวกนางกลับ เขาถึงทำได้แค่ครั้งเดียวล่ะสิ ต่างจากข้าที่ตอนนี้อยู่ที่นี่ทุกวัน”
เสี่ยวเหมยได้ยินก็เงียบไป นางก็ไม่เข้าใจเหตุผลของเจ้านายตนเหมือนกัน
“เจ้าหยุดปากมาคุยกับข้าก่อนได้ไหม” เหอชุนหลานบ่นซินเค่อซีที่ตอนนี้กำลังง่วนอยู่แถวหน้าอกอวบอิ่มของตน บุรุษเงยหน้าขึ้น แล้วส่งสายตาหวานเชื่อมแก่สตรีตรงหน้า “ข้าเตรียมพร้อมสำหรับลูกตัวน้อย เมื่อเขาเกิดมาจะได้มีเต้านมใหญ่ๆ น้ำนมไหลคล่องๆ” “ทะลึ่ง ทำตัวเป็นเครื่องปั๊มนมไปได้” เหอชุนหลานหัวเราะร่วน ก่อนใช้นิ้วเรียวบีบแก้มบุรุษของตน “เจ้าไม่พูดคุยร่ำสุรากับองค์รัชทายาทหรืออย่างไร ถึงได้ให้พวกเขาไปอยู่ที่เรือนแมกไม้ไกลขนาดนั้น” เหอชุนหลานเอ่ยถาม นางคิดว่าบุรุษทั้งสองไม่ได้เจอกันหลายเดือน น่าจะอยากสนทนากันมากกว่านี้ “เจ้าคิดว่าเรื่องของข้าสำคัญ หรือเรื่องของเหอชิวจวี๋สำคัญกว่ากันล่ะ ตอนนี้ในหัวของสยงฺคุนคงมีแต่เรื่องทำลูกให้ได้โดยเร็วที่สุด” ซินเค่อซีหัวเราะ สายตาจ้องมองหน้าอกอวบอิ่มไม่วางตา “ข้าก็ต้องขยันเช่นกัน รอลูกคนนี้คลอดออกมาก็จะได้มีคนต่อไปได้เลย” “ข้าไม่ใช่แม่พันธุ์นะ” เหอชุนหลานมองค้อนอีกฝ่าย นางกัดริมฝีปากก่อนเอื้อมมือบางไปที่จุดสำคัญของเขา “เจ้าเป็นพ่อพันธุ์หรืออย่างไร ขอข้าดูหน่อย” “ได้ ข้าจะให้เจ้าดูทั้งคืนแ
เมื่อเหอชุนหลานตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าซินเค่อซีนอนอยู่ด้านข้างจ้องมองใบหน้านางไม่วางตา สตรีเบี่ยงหน้าหลบด้วยความตกใจ เมื่อตั้งสติได้จึงหันไปส่งยิ้มหวานละมุนให้แก่เขา ซินเค่อซีเห็นดังนั้นก็อมยิ้ม เขาคว้าร่างบางให้แนบชิดกับกายแกร่งของตนเอง ริมฝีปากบางจุมพิตที่หน้าผากสตรีแล้วเลื่อนไปจุมพิตที่ริมฝีปากอวบอิ่มอย่างรักใคร่ “หลานหลาน สยงฺคุนกับเหอชิวจวี๋เล่าเรื่องที่นางได้พบให้ข้าฟัง” บุรุษเล่าเรื่องที่ตนพูดคุยให้กับเหอชุนหลานฟังด้วยสีหน้าอันเป็นกังวล เขากลัวว่าเหอชุนหลานกับลูกน้อยในท้องของตนอยู่ดีๆ จะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยดั่งเช่นคราวก่อน หากนางไม่อยู่กับเขา แล้วเขาจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไรดี “เช่นนั้นพรุ่งนี้พวกเราไปหานักพรตตู้เสินกันเถอะ ข้าได้ยินมาว่าเขารอบรู้ทุกเรื่อง” เหอชิวหลานกล่าว นางทำท่าทางสบายใจเพื่อไม่ให้บุรุษรู้สึกวิตกกังวล ดีที่ระหว่างการเดินทาง ได้ยินว่านักพรตตู้เสินรู้สรรพสิ่งในใต้หล้า ไม่ว่าจะอดีต ปัจจุบันและอนาคต เหอชุนหลานจึงคิดตั้งแต่แรกแล้วว่าจะต้องไปหาเพื่อแก้ไขอนาคตที่ไม่อาจคาดการณ์ได้
ไห่ซานเข้ามาภายในเรือน เขามีท่าทางกระอักกระอ่วนอย่างชัดเจน แต่เมื่อเห็นสายตาคาดคั้นของเจ้านายตน เขาจึงต้องเอ่ยรายงาน “องค์รัชทายาทแคว้นเป่ยจ้านติดต่อมาว่าอยากพบประมุขหอเทียบสวรรค์ขอรับ อีกอย่าง ฮ่องเต้ซีหนานก็ส่งเทียบเชิญให้นายท่านไปงานคัดเลือกราชบุตรเขยขององค์หญิงรอง” “ไม่พบ ไม่ไป” ซินเค่อซีตอบรวดเร็ว เมื่อก่อนที่เขาเป็นเสิงโหย่วอ๋องที่เป่ยจ้านก็ไม่เห็นจะมีผู้ใดมารบกวนอยากเจอประมุขหอเทียบสวรรค์ เหตุใดพอเขากลับมาอยู่จวน แต่ละแคว้นจึงต้องการอยากพบเขานัก “ฮ่องเต้ซีหนานอยากได้เจ้าเป็นราชบุตรเขยหรือเปล่า” เหอชุนหลานที่เปลี่ยนเสื้อผ้าและล้างหน้าทำผมเรียบร้อยแล้วเดินออกมาจากฉากกั้นแล้วเอ่ยแซวอารมณ์ดี “ข้ามีฮูหยินคนเดียวพอแล้ว” ซินเค่อซีตอบ แต่คิ้วหนากลับขมวดครุ่นคิด “ช่วงนี้ก็ไม่มีสงคราม ไม่มีภัยธรรมชาติ การเมืองของแต่ละแคว้นปกติ เรื่องภายในยุทธภพยิ่งไม่มีปัญหา แล้วพวกเขาต้องการพบข้าทำไม” “สงสัยก็ไปพบเสียสิ” เหอชุนหลานกล่าว “แต่ถ้าไม่อยากรู้ก็ไม่ต้องไป ข้าคิดว่าฮ่องเต้ซีหนานอยากได้เจ้าเป็นราชบุตรเขย ส่วนรัชทายาทสยงฺคุน
“หลานหลาน ตอนนั้นเจ้าตกแม่น้ำแล้วหายไปไหนมา ใครช่วยเจ้า อีกอย่างเจ้าเข้าไปในเมืองหลวงได้อย่างไร” ซินเค่อซีถามคำถามที่ค้างคาใจมานาน เขาส่งคนคอยสอดส่องค้นหานางในแต่ละเมือง แต่อยู่ดีๆ นางกลับปรากฏกายในเมืองหลวงโดยไม่มีผู้ใดพบเห็นเหอชุนหลานซึ่งนอนภายในอ้อมแขนของเขา นางยกมือขึ้นมาลูบอกแกร่งของบุรุษ ในหัวครุ่นคิดอย่างหนักว่าจะบอกเขาอย่างไรดี“ข้ามาจากที่แสนไกล ไกลเกินกว่าที่เจ้าจะจินตนาการถึง ข้าตกน้ำจากที่บ้านของข้า รู้สึกตัวอีกทีก็มาอยู่ที่นี่ ครั้งนั้นที่ข้าตกแม่น้ำ ข้าก็ได้กลับไปบ้านของข้า และที่ข้ากลับมาที่นี่อีกครั้ง....”เหอชุนหลานยังไม่ทันพูดจบ ซินเค่อซีก็พูดแทรกขึ้น “เพราะว่าเจ้าตกน้ำสินะ”“อืม” สตรีพยักหน้าตอบรับ “ข้าไม่รู้เหมือนกันว่าจะอยู่กับเจ้าได้อีกนานเท่าไหร่ หากข้าตกน้ำอีกครั้ง แล้วจากไปโดยที่กลับมาไม่ได้ ก็คงต้องฝากเจ้าดูแลลูกของเราด้วย”“ไม่ได้” บุรุษรีบปฏิเสธทันควัน “เจ้าต้องอยู่กับข้า ต้องอยู่ดูแลเลี้ยงลูกกับข้าไปจนแก่เฒ่า ไม่ได้ ข้าจะสั่งถมลำธารถมแม่น้ำภายในบริเวณจวนให้หมด” ซินเค่อซีรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เหอชุนหลานรีบดึงแขนของเขาเอาไว้“นี่มันดึกมากแล้ว เจ้าจะไปรบ
หลังจากทำพิธีเสร็จ สยงฺคุนก็รีบพาเหอชิวจวี๋จากไปด้วยความใจร้อน เรื่องเมื่อคืนเขาต้องรับผิดชอบนางอย่างเต็มที่ จึงจะไปขอฮ่องเต้ออกราชโองการพระราชทานงานมงคลให้เขาและเหอชิวจวี๋อีกอย่าง เขาได้ลิ้มลองความอ่อนนุ่มและหอมหวานของสตรีแล้ว จะให้เขามาอดทนรอวันแต่งงานนานๆ คงทนไม่ไหวรีบแต่งงานภายในเดือนสองเดือนเลยยิ่งดี“จิ่งซี ไว้ข้าแต่งงานเรียบร้อยแล้วจะรีบมาหาเจ้าทันที” เขาพูดหน้าสุสานก่อนจากไป~~~~~~~~หลังจากจัดการเรื่องราวต่างๆ เสร็จเรียบร้อย ซินเค่อซีก็เปลี่ยนชุดแล้วขึ้นมานั่งรถม้ากับเหอชุนหลาน เขาไม่รีบเดินทางกลับจวนตัวเอง แต่สั่งให้รถม้าแวะจอดแทบทุกเมืองที่ผ่านทางโรงเตี๊ยมเหม่ยสือห่าวจิ่วเหอชุนหลานนั่งถอนหายใจ สายตามองค้อนซินเค่อซีที่สั่งอาหารไม่ยอมหยุด“เจ้าจะสั่งอะไรเยอะนัก กินหมดอย่างนั้นหรือ” ตลอดทางที่ผ่านมาบุรุษผู้นี้ก็สั่งแต่อาหารขึ้นชื่อแล้วบังคับให้นางกินทุกอย่าง อ้างว่าลูกในท้องต้องได้กินแค่ของอร่อยตอนแรกนางก็ยอมกินอยู่หรอก แต่พอผ่านหลายเมืองเข้านางก็กินไม่ไหว ตอนนี้อาหารที่กินเข้าไปยังเต็มภายในกระเพาะอาหาร“ฮูหยินของข้าอยากกินอะไร อยากได้อะไรข้าก็สามารถหามาให้ได้ทุกอย่าง ข้า
“เดี๋ยวหาที่หยุดพัก กางกระโจมใหญ่หลายหลังหน่อย” ซินเค่อซีส่งเสียงออกคำสั่งดังออกมาจากโลงไม้ เขาคิดแผนการบางอย่างได้อย่างรวดเร็ว“ขอรับ” ไห่ต้ากับไห่ซานขานรับ แล้วแยกย้ายไปจัดการตามคำสั่งของเจ้านายตนเวลาผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วยาม รัชทายาทก็พาเหอชิวจวี๋มาถึงกระโจมที่พักของขบวนซินเค่อซี กระโจมหลังใหญ่ที่สุดวางโลงไม้ของซินเค่อซีไว้ตรงกลาง ส่วนกระโจมหลังอื่นตั้งอยู่รอบกระโจมนี้เหอชิวจวี๋เข้ามาภายในกระโจมก่อน นางมาคุกเข่าพูดกับโลงไม้ด้วยสีหน้าและท่าทางน่าสงสาร“เสิงโหย่วอ๋อง แม้ข้าจะจำเรื่องระหว่างเราไม่ได้ แต่ถ้าหากข้าเป็นสตรีของท่านแล้ว ข้าก็จะไม่ทิ้งท่านไปไหน”รัชทายาทเดินมาอยู่หลังหญิงสาว เขายกมือหนาขึ้นมาจับไหล่ปลอบใจนาง “เสิงโหย่วอ๋องไปดีแล้ว เจ้าอย่าทำให้น้ำตารั้งเขาไว้ เดี๋ยวเขาจะไปไม่สงบ เจ้าไปพักผ่อนก่อนเถอะ ตอนเช้าจะได้มีแรงเดินทาง”“เพคะ” เหอชิวจวี๋ไม่กล้าปฏิเสธความหวังดีของบุรุษ นางจึงตอบรับแล้วจากไปอย่างเงียบๆ“นี่เหอชิวจวี๋หรือ เหมือนข้าราวกับฝาแฝด” เหอชุนหลานที่แอบมองอยู่ดูสตรีอีกคนด้วยความประหลาดใจ “ที่จริงหน้าเหมือนก็ไม่เท่าไหร่ แต่ชื่อแซ่ดันใกล้เคียงกันน่ะสิ แปลกดีแฮะ”เ