Home / รักโบราณ / ท่านอ๋องว่างงานกับพระชายาจำเป็น / ตอนที่2 ค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้น

Share

ตอนที่2 ค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้น

last update Last Updated: 2025-08-31 20:10:23

ครั้นรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นของแสงแดดที่กระทบใบหน้า ฉู่ชิงเฟิงจึงค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้น เขามองขื่อคานไล่ลงมาจนถึงผนังห้อง พยายามตั้งสติ ไล่เรียงความจำว่าเกิดอะไรขึ้น และตอนนี้เขาอยู่ที่ใดกันแน่

‘จริงสิ ข้าพลัดตกน้ำไป’

ฉู่ชิงเฟิงยังจำความรู้สึกตอนนั้นได้ราวกับมันเพิ่งเกิดขึ้น เพราะพอถึงคราวที่ต้องตกอยู่ในอันตรายเข้าจริงๆ เขาถึงได้ตระหนักว่าตนเองรักชีวิตมากเพียงใด เลยพยายามตะเกียกตะกายขึ้นมาหายใจเหนือน้ำ แต่สายธารไหลเชี่ยว ทั้งยังมีแก่งหินสลับซับซ้อน ยามนั้นร่างเขากระแทกกับโขดหินจนเจ็บร้าวไปหมด และสุดท้ายผ้าไหมที่อุ้มน้ำกับน้ำหนักตัวมหาศาลก็ทำให้แรงฮึดเฮือกสุดท้ายนั้นไร้ประโยชน์

ขณะที่กำลังจมดิ่งลงใต้พื้นน้ำอันหนาวเหน็บ เขาจึงอ้อนวอนต่อสวรรค์เป็นครั้งสุดท้าย

‘ตั้งแต่เกิดมา หากไม่นับเรื่องที่ตัดพ้อสวรรค์เมื่อครู่ ข้าฉู่ชิงเฟิงไม่เคยอ้อนวอนขอสิ่งใดจากทวยเทพมาก่อน หากสวรรค์เห็นแก่คุณงามความดีที่ข้าเคยทำต่อราษฎร ก็ขอให้ชาติหน้าข้าไม่อ้วนอัปลักษณ์ ได้พบกับสตรีที่ทั้งงดงาม ทั้งจริงใจ ไม่เสแสร้งแกล้งทำดี แต่แท้ที่จริงเห็นข้าเป็นเพียงคนโง่งมคนหนึ่งด้วยเถิด”

เขาคิดถึงคำขอสุดท้ายของตัวเอง แล้วพยายามปะติดปะต่อเรื่องทั้งหมด ตอนนั้นเขาจมน้ำไปจริงๆ ความเจ็บปวดยามที่ร่างกายพยายามหายใจเข้า แต่มีน้ำเข้ามาแทนจนเต็มปากและจมูกยังคงตราตรึงในห้วงจำ

‘นี่ข้าตายไปแล้วอย่างนั้นหรือ’

ฉู่ชิงเฟิงรีบหยิกแขนตัวเองเป็นการด่วนเพื่อพิสูจน์ “โอ๊ย!” ความเจ็บทำให้เขามั่นใจว่าตอนนี้ตนไม่ได้ฝันไป และคงไม่ได้เป็นวิญญาณ เช่นนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่

‘อ่า หรือว่าข้าได้กลับชาติมาเกิดใหม่ เพื่อแก้ไขอดีต ดังที่นักเล่านิทานในโรงน้ำชาชอบเล่าตำนานลี้ลับให้ฟังกันนะ’

ฉู่ชิงเฟิงพยายามให้เหตุผลตัวเอง ทว่าพอมองไปรอบกายดีๆ หากเขาได้เกิดใหม่อีกครั้งจริง ที่นี่ควรจะเป็นห้องของเขาในจวนโซ่วอ๋อง มิใช่ห้องสี่เหลี่ยมเล็กแคบเหม็นอับตุๆ เยี่ยงนี้สิ

‘ไอ้หยา! หรือข้าจะเดินทางข้ามภพข้ามชาติ มาเกิดเป็นชาวบ้านยากจนกันนะ’

ความคิดนี้ทำเอาฉู่ชิงเฟิงตกใจจนหน้าซีด เขาขอไปเกิดใหม่ และขอให้ได้พบหญิงงามที่จริงใจ แต่ดันลืมขอให้เกิดในตระกูลร่ำรวยไปเสียนี่

“ฉิบหายแล้ว! ไม่เอานะไม่เอา ข้าทำบุญทำกุศลมากมายถึงเพียงนั้น ทำไมสวรรค์ถึงได้ส่งข้ามาเกิดในร่างชายอ้วน แถมยังจนกว่าเดิมอีกร้อยเท่าเล่า อ๊าก!!!” ฉู่ชิงเฟิงร้องออกมาอย่างคนเสียสติ

เสียงเอะอะภายในห้องทำให้หญิงสาวที่อยู่ภายนอกรู้ว่าคนป่วยฟื้นแล้ว นางจึงเดินออกไปที่หน้าเรือนพัก พอเห็นเด็กหนุ่มที่กำลังกวาดลานดินอยู่ก็เดินเข้าไปหาแล้วสั่งความ “อาโต๋ว เจ้ารีบไปบอกลุงชุนกับลี่มามาเร็วเข้าว่าคนฟื้นแล้ว”

“ข้ากำลังทำงานอยู่ เหตุใดเจ้าไม่ไปเองเล่าหลินอ้าย” เด็กหนุ่มที่ชื่ออาโต๋วเอ่ยถามอย่างไม่พอใจนัก

“เพราะว่าข้าต้องไปทำอย่างอื่นยังไงเล่า เจ้ารีบไปเถอะ ขืนชักช้า แล้วคนผู้นั้นเป็นอะไรขึ้นมาอีก เจ้าอาจจะไม่ได้ห้องนอนคืนเอาได้นะ” พูดจบนางก็เดินไปอีกทางทันที

“ห้องนอนข้า ข้าจะได้ห้องนอนคืนใช่ไหม อ้าว! หลินอ้ายแล้วนั่นเจ้าจะไปที่ใด” 

“ข้าก็จะไปเอาโจ๊กมาให้เขากินน่ะสิ นอนหลับไปนานขนาดนั้นจะต้องหิวมากแน่ๆ” หลินอ้ายตะโกนตอบโดยไม่ได้หันหลังกลับมา เห็นเช่นนั้นอาโต๋วก็วางไม้กวาดในมือลง แล้วตรงไปแจ้งคนที่เรือนหน้าแทนนาง

ส่วนฉู่ชิงเฟิงที่อยู่ในห้อง ก็เอาแต่นอนร้องไห้ตัดพ้อสวรรค์อยู่อย่างนั้น จนกระทั่งมีหญิงสาวสองคนเปิดประตูเข้ามาในห้อง โดยที่คนด้านหลังถือถาดใส่ชามโจ๊กตามมา

‘หรือว่านางจะเป็นภรรยาในชาตินี้ของข้า’ ฉู่ชิงเฟิงพิจารณารูปร่างหน้าตาของสตรีที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ แล้วหัวใจก็ต้องเต้นโครมคราม เพราะตำแหน่งโฉมงามอันดับหนึ่งในใจเขาอย่างหลินผู่ซินได้ถูกสตรีนางนี้ช่วงชิงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  

 แม้ หลินเสี่ยวหราน จะถูกจดจ้องอย่างไร้มารยาท ก็มิได้ถือสา เพราะคิดว่าชายผู้น่าสงสารคนนี้คงจะยังมีอาการสับสนหลังจากสลบไปนานเท่านั้น นางเดินไปหยุดอยู่ตรงข้างเตียง แล้วถามเขาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

“ในที่สุดเจ้าก็ฟื้นแล้ว เป็นอย่างไรบ้าง รู้สึกหิวหรือไม่”

โครกคราก!!!

พอถูกถามเช่นนั้น ท้องของฉู่ชิงเฟิงก็ร้องประท้วงแทนเจ้าตัว หลินอ้ายได้ยินก็พยายามกลั้นหัวเราะสุดขีด ด้วยไม่อยากจะซ้ำเติมคนป่วย

“ดูท่าเจ้าจะหิวมาก เช่นนั้นลุกขึ้นมากินโจ๊กสักหน่อยเถิด”

หลินอ้ายรู้หน้าที่จึงวางโจ๊กลงบนโต๊ะ แล้วเดินเข้ามาช่วยพยุงคนตัวอ้วนให้ลุกขึ้นนั่ง แต่ฉู่ชิงเฟิงไม่ได้กินอะไรมาหลายวันยามนี้จึงไร้เรี่ยวแรง

“ดูเหมือนเจ้าจะลุกไม่ไหวสินะ”

ฉู่ชิงเฟิงพยักหน้า มองหลินเสี่ยวหรานตาปริบๆ อย่างน่าสงสาร

“งั้นไม่เป็นไร เดี๋ยวข้าจะป้อนเจ้าเอง” หลินอ้ายรับอาสา แต่ฉู่ชิงเฟิงส่ายศีรษะ แล้วยกมือชี้ไปยังหลินเสี่ยวหราน แต่ยังไม่ทันที่หลินอ้ายจะก่นด่าความไม่เจียมตัวของเขาออกมา หลินเสี่ยวหรานก็ส่งสายตาห้ามปราม ก่อนยื่นมือไปรับชามโจ๊กมาถือไว้ แล้วจัดการป้อนชายหนุ่มที่นอนอ้าปากรอด้วยตนเอง

ฉู่ชิงเฟิงรู้สึกหัวใจพองโตอย่างมาก หากชาติที่แล้วเขาไม่อาจได้หลินผู่ซินมาเป็นภรรยา แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะชาตินี้เขาได้เจอสตรีที่งดงามกว่า ใส่ใจเขามากกว่าแล้ว เหลือแค่ลองชิมรสมือนางเท่านั้น หากเลิศล้ำก็นับว่าไม่เสียทีที่ตกน้ำตายแล้วมาเกิดใหม่ ชายหนุ่มคิดในขณะที่อ้าปากรับโจ๊กที่ถูกเป่าจนเย็นลงแล้วป้อนเข้าปาก

ทว่าเหมือนสวรรค์จะไม่เคยสนใจคำขอของเขาอย่างจริงจังเลย

“แค่กๆ ๆ” ฉู่ชิงเฟิงพ่นโจ๊กคำนั้นออกมาใส่หลินเสี่ยวหรานจนเลอะไปหมด “นะ...นี่มันโจ๊กหรือน้ำล้างชาม มีภรรยาฝีมือทำอาหารแย่เยี่ยงนี้ ข้าช่างโชคร้ายนัก” 

หลินเสี่ยวหรานปัดเศษโจ๊กออกจากตัว พลางถามด้วยความตกใจ “เจ้าว่าอะไรนะ ใครกันที่เป็นภรรยาเจ้า”

“ถามได้ ก็ต้องเจ้าน่ะสิ”

หลินเสี่ยวหรานลุกพรวดพราดขึ้นจากเก้าอี้ เรื่องที่เขาว่าโจ๊กของนางรสเหมือนน้ำล้างชามนั้นนางไม่ถือสา เพราะคนเพิ่งจะฟื้นหลังจากบาดเจ็บและสลบไปหลายวันย่อมกินได้แค่โจ๊กแบบนี้เท่านั้น แต่ตกใจที่จู่ๆ ก็ถูกทึกทักว่าเป็นภรรยาของบุรุษแปลกหน้า ไม่รู้หัวนอนปลายเท้าต่างหาก

“นี่เจ้าต้องป่วยจนเลอะเลือนไปแล้วแน่ๆ ข้าไปเป็นภรรยาเจ้าตั้งแต่เมื่อใด”

“อ้าว เจ้าไม่ใช่ภรรยาของข้าหรอกรึ แล้วเหตุใดถึงมาปรนนิบัติข้ากันเล่า” ฉู่ชิงเฟิงทำสีหน้าฉงน บางทีเขาอาจจะคาดเดาอะไรผิดไปตั้งแต่แรก

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ท่านอ๋องว่างงานกับพระชายาจำเป็น   ตอนที่76 จบ

    เขาเว้นจังหวะเล็กน้อย “เพราะอย่างนั้น ข้าเลยไม่เห็นจำเป็นต้องโอ้อวดความสามารถอะไรเลย หลายครั้งที่ข้าช่วยเสนอความคิดต่างๆ กับเสด็จพ่อ และช่วยให้จิ้นอ๋องทำผลงาน ให้เขาได้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่ ข้าแค่เห็นว่าได้ช่วยให้คนสองคนที่ข้ารักและเคารพได้สมปรารถนา ได้เติบโตในเส้นทางของพวกเขาก็ถือเป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว ข้ามีความสุขมากนะเมื่อได้เห็นพวกเขามีความสุข โดยไม่จำเป็นต้องป่าวประกาศอะไรให้ใครรู้เลย”หลินเสี่ยวหรานฟังแล้วใจอ่อนยวบ ความคิดของฉู่ชิงเฟิงนั้นสูงส่งและบริสุทธิ์ยิ่งกว่าที่นางคิดไว้มากนัก นางรู้สึกละอายใจที่เคยมองเขาเพียงผิวเผิน“เข้าใจแล้วเพคะ” นางพึมพำ ก่อนจะถามคำถามต่อไป “แล้ววรยุทธ์เล่าเพคะ หม่อมฉันรู้ว่าท่านอ๋องมีวรยุทธ์ แต่หม่อมฉันคิดว่าแค่พอป้องกันตัวได้เท่านั้น ไม่คิดเลยว่าท่านจะเก่งกาจราวเทพสงคราม จนสามารถปราบโจรป่าได้ราบคาบในพริบตา”“เทพสงครามอะไรกันเล่าหรานเอ๋อร์” ฉู่ชิงเฟิงส่ายหน้า เขาปฏิเสธคำชมนั้นอย่างรวดเร็ว “ที่ต้องฝึกวรยุทธ์ก็เพราะถูกบังคับให้ฝึกน่ะสิ ข้าไม่ชอบด้วยซ้ำ เพราะมันเหนื่อยจะตายไป”เขาบ่นอุบอิบ “ที่พอจะดีหน่อยก็คือเรื่องยิงธนูนั่นแหละ เพราะแค่ยื

  • ท่านอ๋องว่างงานกับพระชายาจำเป็น   ตอนที่75 คืนจันทร์ฉาย

    หลังจากเหตุการณ์ปราบโจรป่าครั้งใหญ่ที่จบลงไปอย่างน่าตื่นตะลึง หลินเสี่ยวหรานยังคงรู้สึกเหมือนมีก้อนหินหนักๆ ถ่วงอยู่ในอก ภาพของฉู่ชิงเฟิงที่พลิ้วไหวกระบี่ดุจเทพสงคราม และเงาร่างของหลานเหมยที่ปลิดชีพศัตรูอย่างเลือดเย็นวนเวียนอยู่ในห้วงความคิดของนางตลอดเวลา มันเป็นภาพที่แตกต่างจาก ‘ท่านอ๋องว่างงานผู้ใจดี’ ที่นางรู้จักมาโดยสิ้นเชิงความรู้สึกเหมือนถูกปิดบัง คล้ายเขายังคงเป็นคนแปลกหน้าเกาะกินใจนาง ทำให้นางไม่สามารถร่าเริงได้เหมือนเคยบรรยากาศในจวนดูเหมือนจะปกติ แต่ความอึดอัดบางอย่างลอยอบอวลอยู่ระหว่างโซ่วอ๋องกับพระชายา หลินเสี่ยวหรานพยายามทำตัวปกติ ทว่าความเงียบที่เข้าปกคลุมระหว่างพวกเขามักจะหนักอึ้งอยู่เสมอฉู่ชิงเฟิงสังเกตเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของพระชายาของเขามาตลอดหลายวัน ดวงตาคมกริบของเขาฉายแววกังวล“หรานเอ๋อร์ วันนี้อากาศดีนัก ข้าเห็นว่าเจ้าดูไม่ค่อยสบายใจ ไยเราไม่ออกไปเดินเล่นในตลาดสักหน่อยเล่า เผื่อจะช่วยให้ใจเจ้าผ่อนคลายขึ้นบ้าง”หลินเสี่ยวหรานวางผ้าปักในมือลงช้าๆ พลางเงยหน้ามองเขา “เพคะท่านอ๋อง” นางตอบรับเรียบๆ ด้วยน้ำเสียงเจือความห่างเหิน แม้ในใจจะรู้สึกว่าการไปเดินตลาดอาจไม่ได้ช

  • ท่านอ๋องว่างงานกับพระชายาจำเป็น   ตอนที่74 ถอนหายใจ

    เขาเดินโซซัดโซเซเข้าไปหาฉู่ชิงเฟิง ทรุดตัวลงคุกเข่าต่อหน้าทันที “ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉัน... หม่อมฉันผิดไปแล้ว หม่อมฉัน... หม่อมฉันไม่เคยคิดเลยว่าท่านอ๋องจะ... ทรงเก่งกาจถึงเพียงนี้ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารบ้านเมือง หรือวรยุทธ์ ท่านคือผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตกระหม่อมเอาไว้พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมขอสารภาพว่าตลอดมากระหม่อมอิจฉาท่าน ไม่ยอมรับในความสามารถของท่าน แต่บัดนี้... กระหม่อมยอมรับแล้วพ่ะย่ะค่ะ! ท่านคือผู้ที่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้อย่างแท้จริง หลี่เจิ้นขอถวายชีวิตรับใช้ท่านอ๋องตลอดไป และจะเป็นสุนัขรับใช้ที่ซื่อสัตย์ของท่านอ๋องแต่เพียงผู้เดียวพ่ะย่ะค่ะ”น้ำเสียงของหลี่เจิ้นสั่นเครือด้วยความรู้สึกผิดและสำนึกอย่างแท้จริง แววตาที่มองฉู่ชิงเฟิงเปี่ยมไปด้วยความเคารพอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ราวกับเขาได้พบกับเทพเจ้าที่พร้อมจะยอมอุทิศตนเองให้ฉู่ชิงเฟิงมองหลี่เจิ้นนิ่งๆ ก่อนจะถอนหายใจ และยื่นมือไปประคองเขาให้ลุกขึ้น “ลุกขึ้นเถิดท่านรองเจ้าเมือง เพียงท่านเข้าใจและยอมรับในสิ่งที่เปิ่นหวางทำเพื่อแคว้นก็พอแล้ว เรื่องที่ผ่านมาเปิ่นหวางไม่เคยติดใจ” แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ภายในใจของฉู่ชิงเฟิงก็รับรู้ได้ถึงชัยช

  • ท่านอ๋องว่างงานกับพระชายาจำเป็น   ตอนที่73 หัวใจแทบหยุดเต้น!

    ท่ามกลางการต่อสู้อันดุเดือด ฉู่ชิงเฟิงพลันสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่แผ่ซ่านออกมาจากเงามืดอีกครั้ง คราวนี้มันรุนแรงกว่าเดิมหลายเท่า ราวกับพายุที่พร้อมจะพัดทำลายทุกสิ่ง เขาเหลือบมองไปยังทิศทางนั้นโดยไม่ละสายตาจากศัตรูเบื้องหน้า“หลานเหมย...” เสียงของฉู่ชิงเฟิงต่ำลง แต่หนักแน่นเด็ดขาด “ไประบายโทสะของเจ้าได้”สิ้นคำสั่งนั้นเอง ร่างหนึ่งก็พลันปรากฏกายขึ้นจากเงามืด ราวกับภูตผีที่โผล่พ้นจากนรกานต์ นางสวมชุดองค์รักษ์สีดำสนิท ปกปิดทุกส่วนของร่างกาย แม้กระทั่งใบหน้าก็ถูกผ้าคลุมสีดำทมึนบดบังไว้จนมิดชิด เห็นเพียงประกายเย็นเยียบและดุดันที่ลอดผ่านช่องแคบของผ้าคลุมเท่านั้น รังสีอำมหิตแผ่ออกมาจากร่างของนางเข้มข้นจนบรรยากาศโดยรอบพลันเย็นยะเยือก เสียงกรีดร้องของโจรที่ดังระงมอยู่แล้ว กลับทวีความน่าหวาดกลัวขึ้นเมื่อเงาร่างสีดำนั้นเริ่มเคลื่อนไหว การโจมตีของนางรวดเร็ว ไร้ความปรานี และเต็มไปด้วยความกราดเกรี้ยว ราวกับยมทูตที่มาทวงวิญญาณทันใดนั้นเอง นางก็เริ่มเคลื่อนไหว ร่างกายที่เคยสงบนิ่งบัดนี้กลับบ้าคลั่งราวกับสัตว์ร้ายที่หลุดออกจากกรงขัง นางพุ่งเข้าใส่กลุ่มโจรที่อยู่ใกล้ที่สุดด้วยความเร็วเหนือมนุษย์ เสียง

  • ท่านอ๋องว่างงานกับพระชายาจำเป็น   ตอนที่72 สุราดีไม่ดื่ม อยากดื่มสุราพิษ!

    “เรียนท่านอ๋อง... พระชายาและท่านรองเจ้าเมือง... ถูกจับตัวไปพ่ะย่ะค่ะ!” เสียงของเขาขาดห้วง ร่างของเฉาเหมยในอ้อมแขนซีดเผือดไร้ชีวิตชีวา พิษกำลังแล่นเข้าสู่หัวใจทันทีที่เห็นสภาพของเฉาเหมยที่ถูกนำกลับมาในสภาพปางตาย ฉู่ชิงเฟิงพลันสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เขาเห็นธนูพิษที่ปักอยู่บนแขนของนาง ดวงตาคมกริบฉายแววเป็นห่วงปนโทสะ“ใครก็ได้! ไปตามหมอหลวงมาดูอาการเฉาเหมยเดี๋ยวนี้” ฉู่ชิงเฟิงตะโกนเสียงดังลั่น ในขณะที่หมอหลวงกำลังเดินทางมาอย่างเร่งด่วนในเสี้ยววินาทีนั้นเอง ฉู่ชิงเฟิงก็รับรู้ได้ถึงจิตสังหารที่รุนแรงจนน่าสะพรึง มันแผ่ออกมาจากเงามืดในมุมหนึ่งของห้องโถง แม้จะไร้ซึ่งเสียงและตัวตนที่มองเห็น แต่จิตสังหารนั้นก็เข้มข้นจนทำให้เส้นผมบนแขนของเขาลุกชัน เขารู้ดีว่าความรู้สึกนี้มาจากใคร หลานเหมยคงเดือดดาลอย่างถึงที่สุดที่ได้เห็นสภาพปางตายของผู้เป็นน้องสาว จิตสังหารที่แผ่ออกมานั้นไม่ใช่แค่ความโกรธแค้น แต่มันคือคำประกาศกร้าวว่า ‘จะไม่มีใครรอด’ และผู้ที่บังอาจทำร้ายน้องสาวของนางจะต้องชดใช้ด้วยชีวิตอย่างสาสมจากนั้นองครักษ์ผู้รอดชีวิตก็ยื่นจดหมายที่กำแน่นในมือให้ฉู่ชิงเฟิง เขาหยิบมาคลี่ออกอ่าน แววตา

  • ท่านอ๋องว่างงานกับพระชายาจำเป็น   ตอนที่71 โซ่วอ๋องผู้อัญเชิญเทพปีศาจ

    หนึ่งปีแห่งความรุ่งเรืองของแคว้นหลิงหลงได้ผ่านไป ภายใต้การบริหารของฉู่ชิงเฟิงและเหล่าขุนนางผู้จงรักภักดี เมืองชิงหลิวและหัวเมืองน้อยใหญ่ต่างเต็มไปด้วยความมั่งคั่ง ผู้คนใช้ชีวิตอย่างผาสุกแต่เหรียญย่อมมีสองด้าน...ความร่ำรวยดึงดูดสายตาของเหล่าโจรป่าผู้หิวโหย ภัยร้ายที่ซ่อนตัวอยู่ตามป่าเขาเริ่มคุกคามเส้นทางการค้าและการสัญจรของชาวบ้าน สร้างความปั่นป่วนไปทั่วแคว้นภายในจวนเจ้าเมือง “กราบทูลท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ! แม้แคว้นเราจะมั่งคั่งขึ้น แต่ปัญหาโจรป่ากลับหนักหนาสาหัสขึ้นพ่ะย่ะค่ะ พวกมันกล้าดียิ่งขึ้น ดักปล้นขบวนสินค้าและชาวบ้านตามเส้นทางสำคัญๆ ทำให้การค้าชะงักงันพ่ะย่ะค่ะ” แม่ทัพซ่งยืนกรานสีหน้าเคร่งเครียดฉู่ชิงเฟิงขมวดคิ้ว “แล้วกองทัพเล่า ท่านแม่ทัพมีกำลังไม่เพียงพอหรืออย่างไร”แม่ทัพซ่งถอนหายใจหนัก “กำลังพลมีจำกัดพ่ะย่ะค่ะ ทหารหลวงหนึ่งพันนายต้องกระจายกำลังดูแลสี่หัวเมือง อีกทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์หลายอย่างก็เริ่มชำรุดทรุดโทรม เพราะสงบศึกมานานหลายปี ทหารเองก็ขาดการฝึกฝนอย่างเข้มข้น ทำให้ความแข็งแกร่งลดลงพ่ะย่ะค่ะ”“ปัญหาใหญ่จริงๆ นั่นแหละท่านแม่ทัพ เปิ่นหวางเข้าใจดี” ฉู่ชิงเฟิงหันไปมองเหวินจ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status