แชร์

บทที่ 5

ผู้เขียน: สกุลหยางมีบุตรสาว
“ข้าจงใจผลักเอง” ฉู่เชียนหลีพูดต่อว่า “ข้าริษยาที่น้องเซียวเป็นที่รัก ไม่ใช่แค่ผลักนาง ยังอยากจะทุบตีนางด้วย เพราะรักกลายเป็นแค้น ไม่ว่าเรื่องใดก็ทำออกมาได้ทั้งสิ้น”

เซียวจือฮว่าได้ยินคำก็หัวเราะเย็นอยู่ในใจ

แต่ไรมาท่านอ๋องก็รังเกียจสตรีขี้อิจฉาใจคับแคบเป็นที่สุด นี่เจ้ากลับโง่พูดออกมา เตรียมตัวถูกหย่าเสียเถิด ตำแหน่งพระชายาอ๋องเฉินจะต้องเป็นของนางในไม่ช้าก็เร็ว

เฟิงเย่เสวียนขมวดคิ้วกระบี่ของตน

นางอยากจะไปให้พ้นจากจวนอ๋องเฉินจนแทบทนไม่ไหวถึงเพียงนี้เชียวหรือ แต่เขาจะไม่ให้นางได้สมหวังเสียอย่าง

“ในเมื่อรู้ผิดแล้ว ยังไม่รีบ…”

หย่ากับนางเสีย?

“ขอบคุณท่านอ๋อง!” ฉู่เชียนหลีดีใจจนเผลอหลุดปาก

เฟิงเย่เสวียนมองนางคราวหนึ่งด้วยปรายสายตายะเยือก“ยังไม่รีบไปคุกเข่าสำนึกผิดที่เรือนหานเฟิงอีก? คุกเข่าจนกว่าจือฮว่าจะยกโทษให้เจ้า”

ฉู่เชียนหลี “?”

เซียวจือฮว่าชะงักอยู่น้อยๆ เปลี่ยนจากหย่ามาเป็นคุกเข่าเช่นนั้นรึ?

ช่างเถิด

อีกสักครู่ ดวงตะวันก็จะออกมาแล้ว ความร้อนในฤดูร้อนรุนแรงหนักหนา หากฉู่เชียนหลีต้องคุกเข่าอยู่กลางตะวันแผดเผาสักสี่ห้าชั่วยาม ต่อให้ไม่ตายก็ต้องเกือบตาย

ฉู่เชียนหลีจ้องชายหนุ่มเขม็งคราวหนึ่ง

ก่อนนี้อยากจะถีบหัวนางส่ง หย่าขาดจากนาง รังเกียจนาง เหตุใดคราวนี้จึงไม่หย่านางเสียแล้ว?

ไอ้ผู้ชายบ้า!

ฮึ!

นางหยิบซาลาเปาไปสองลูก และเดินอาดๆ ออกไปแบบไม่แม้แต่จะมองทั้งสอง

บ้าจริง!

แดดแรงชะมัด!

เฟิงเย่เสวียนหลุบตาลงมองหญิงสาวในอ้อมอก เซียวจือฮว่าลดสายตาลง กุมตรงหัวใจอย่างโรยแรงราวกับไม่เห็นสิ่งใดทั้งสิ้น

ก่อนนี้จือฮว่ามักแก้ต่างให้ฉู่เชียนหลีและแบกความผิดทั้งหมดไว้กับตน แต่คราวนี้เขาจงใจบอกว่า 'คุกเข่าไปจนกว่าจือฮว่าจะให้อภัย' ข้างนอกแดดแรงถึงเพียงนี้ หากคุกเข่านานๆ จะต้องเป็นลมแดด แต่เหตุใดจือฮว่าจึงไม่เป็นห่วงฉู่เชียนหลีเสียแล้ว?

เขาจดจ้องใบหน้าแสนอ่อนโยนของหญิงสาว หากแววตาของเขากลับมีความสับสนอยู่รำไร...

ณ เรือนหานเฟิง

เรือนหลักแห่งจวนอ๋อง

หลังจากไปส่งเซียวจือฮว่าแล้ว เฟิงเย่เสวียนก็กลับมาทำงาน เมื่อก้าวเข้าประตูเรือนก็ได้เห็นร่างที่กำลังคุกเข่าโอนเอนไปมานั้น

หญิงสาวนั่งทับบั้นท้ายอยู่ที่นั่น ชันเข่าขึ้นข้างหนึ่ง มือเท้าคาง ปากคาบหญ้าก้านหนึ่ง ในอาการเหนื่อยหนาย เหมือนอันธพาลหญิงไม่มีผิดเพี้ยน หนำซ้ำในมือยังกำ….ตะเกียบ…คู่หนึ่งด้วย?

“เจ้ากำลังทำสิ่งใด?” เขาก้าวเท้าเข้าไปหา

ฉู่เชียนหลีเงยหน้าขึ้น “ทอดไข่”

“…”

พอเดินเข้าไปดู ก็เห็นไข่ไก่ฟองหนึ่งถูกตอกลงบนพื้น ยามอยู่ภายใต้แสงแดดแรงกล้า มันก็ถูกย่างจนเป็นสีเหลืองทอง หนำซ้ำยังพองขึ้นและมีเสียงซี่ๆ ด้วย

“นี่เจ้ากำลังสำนึกผิดรึ?” ใบหน้าเขาถมึงทึง

“ท่านอ๋อง ต่อให้สำนึกผิดก็ต้องให้ได้กินข้าวจนอิ่มกระมัง เมื่อเช้าข้าได้กินแค่โจ๊กสองถ้วย ซาลาเปาเก้าลูก ผักดองเค็มหนึ่งถ้วย เต้าหู้อ่อนหนึ่งถ้วย ข้ายังไม่ทันกินอิ่ม”

“…”

แค่?

แค่หรือ?

ฉู่เชียนหลียังคงทอดไข่ต่อไป ประหนึ่งว่าข้างๆ ไร้ซึ่งผู้คน แต่ในใจคิดว่า 'ฉันจงใจ ท้าทายอำนาจนาย ยั่วโมโหนาย แน่จริงก็หย่ากับฉันสิ'

จู่ๆ เฟิงเย่เสวียนก็กลับมาอยู่ในอาการปกติ และเดินเข้าห้องไปด้วยท่าทีราบเรียบ

ฉู่เชียนหลีเหลือบมองเขาหนหนึ่ง

'ผู้ชายบ้า นายไปอยู่ในห้องเย็นๆ แต่ให้ฉันตากแดดอยู่ข้างนอก ทำเรื่องชั่วขนาดนี้ไม่กลัวว่าลูกชายคลอดออกมาจะไม่มีรูก้นบ้างรึไง?'

“….” เฟิงเย่เสวียนกำลังอ่านสมุดพับมีอันต้องชะงักไปทันใด มือที่กำพู่กันอยู่ยิ่งกำแน่นขึ้นอีกหลายส่วน

ให้เจ้าตากแดดจนตายไปเสียเลย!

ฤดูร้อน ตะวันแผดเผา ยามตะวันสาดแสงมาบนตัวร้อนเร่าเหมือนไฟเผา ตอนแรกฉู่เชียนหลียังทานทนได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปยิ่งนานก็ยิ่งทนไม่ไหว เหงื่อไหลพรากๆ ลงมา

ร้อนชะมัด…

นางหายใจหนักๆ แบ่งไข่ที่ทอดสุกแล้วให้มดตัวน้อยๆ เหล่ตาไปมองคนในห้องอีกหนหนึ่ง พลางด่าทอในใจว่า 'ไอ้ผู้ชายใช้กำลังในครอบครัว!'

เฟิงเย่เสวียน “…”

ฉู่เชียนหลีกระโดดโหยงขึ้นมา เดินไปวนลานบ้านรอบหนึ่ง เนื่องจากไม่มีร่มให้หลบเลยจริงๆ จึงจำเป็นต้องรำไทเก๊กชุดหนึ่งทั้งน้ำตาเพื่อสงบจิตใจ

ไอ้ผู้ชายบ้า ฉันจะซัดหมัดใส่หัวชั่วๆ ของนาย!

เฟิงเย่เสวียน “…”

เมื่อรำไทเก๊กเสร็จ นางก็หันไปปีนต้นไม้ ประเดี๋ยวปีนขึ้น ประเดี๋ยวกระโดดลงมา ประเดี๋ยวก็ร้องด่าทอ

เฟิงเย่เสวียนเห็นแค่ร่างคนคนหนึ่งเตร็ดไปเตร่มา เตร่มาเตร็ดไปอยู่ตรงหางตา ย้ายไปย้ายมาจนเขาไม่มีสมาธิทำงาน

สุดท้าย ฉู่เชียนหลีทนไม่ไหวแล้วจริงๆ จึงวิ่งเข้าไปในห้องทั้งน้ำตาคลอ

“ท่านอ๋อง… ข้าคิดถึงท่านแม่ข้าแล้ว…”
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1270

    อันธพาลเจ็บจนกรีดร้องเหมือนหมูโดนเชือด “อ๊ะๆ!”ยังไม่ทันได้พักหายใจ ก็โดนถีบจนไปกลิ้งอยู่บนพื้น รองเท้าปักลายดอกไม้เหยียบลงบนหน้าอก หนักจนทำให้เขาหายใจไม่ออก กระอักเลือดออกมา“พู่!”เขากอดต้นขาของอวิ๋นอิง อยากดิ้นให้หลุด แต่หาของอวิ๋นอิงกดทับอยู่บนร่างกายของเขาเหมือนเหล็กกล้า และเขาก็เหมือนกับปลาตัวหนึ่งที่ถูกตอกตะปูอยู่บนเขียง พยายามดิ้นรนอย่างสุดชีวิต แต่ก็ดิ้นไม่หลุดเจอผีแล้ว!ทั้งที่นางผอมเช่นนี้ เหตุใดจึงมีแรงมากเช่นนี้?ผู้หญิงคนนี้ยังเป็นมนุษย์อยู่หรือ?ชาวบ้านก็ตะลึงเช่นกันอวิ๋นอิงอุ้มลูกสาวไว้ด้วยมือข้างเดียว ค่อยๆ ก้มลง ยกฝ่ามืออีกข้าง เหวี่ยงไปที่ใบหน้าของอันธพาลโดยตรง“ข้าสั่งให้เจ้าเก็บ”เพียะ!“ไม่ได้ยินที่ข้าพูดหรือ?”เพียะ!“หูหนวกหรือ?”เพียะ!หนึ่งประโยค หนึ่งฝ่ามือ ตบจนอันธพาลหันซ้ายหันขวา มุมปากแตกมีเลือดไหล หูอื้อ สะบักสะบอมเหมือนสุนัขจรจัดตัวหนึ่ง ไม่หลงเหลือความฮึกเหิมของก่อนหน้านี้เลย“ลูกพี่!”ลิ่วล้อสามคนคว้าโต๊ะเก้าอี้และท่อนไม้ที่อยู่ข้างๆ ฟาดไปทางอวิ๋นอิงอย่างแรงอวิ๋นอิงกระโดนหมุนตัวเตะพวกเขาสามคนจนลอยกระเด็นออกไปไกลเจ็ดแปดเมตร โดยไม่หั

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1269

    ตงหลิงเจียงหนาน ทำเนียบสามเดือนที่พระชายาจากไป อ๋องเฉินเอาแต่เก็บตัว ไม่ยุ่งเกี่ยวกับทางโลก หานเฟิงต้องรับผิดชอบงานแทนทุกอย่าง เมื่อนานวันเข้า โลกภายนอกต่างกำลังคาดเดา จิตใจของอ๋องเฉินได้รับกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ล้มแล้วลุกไม่ขึ้น เกรงว่าเหลือเวลาอีกไม่นานแล้วช่วงนี้ ในที่สุดอาการบาดเจ็บของจิ่งอี้ก็ดีขึ้นแล้วอาการบาดเจ็บทางกระดูกหรือเส้นเอ็น ต้องรักษาอย่างน้อยหนึ่งร้อยวันในที่สุดกระดูกซี่โครงที่หักสองซี่ก็หายดีแล้ว สามารถขี่ม้าได้แล้ว ตอนนั้นเขาบอกว่าจะนำทัพกลับแคว้นซีอวี้ทันทีแต่ก่อนไป เขาถามเหมือนไม่ใส่ใจ“เหตุใดไม่เจอแม่นางอวิ๋นอิงเลย?”จ้านหูจริงจังขึ้นมาทันที เขาตอบ“องค์ชายใหญ่ ข้าจะส่งคนไปสืบเดี๋ยวนี้!”“ไม่ต้อง”หลังจากปฏิเสธอย่างเฉยเมย ปีนขึ้นหลังม้า ขี่ออกไปคนเดียวแล้วจ้านหู “?”หมายความว่าอย่างไร?ตอนที่องค์ชายใหญ่หมดสติ แม้อวิ๋นอิงบอกว่าไม่สนใจ แต่แอบมาเยี่ยมองค์ชายใหญ่ตอนดึกดื่นเวลาที่ไม่มีคนองค์ชายใหญ่ก็อีกคน ทั้งที่คิดถึงอวิ๋นอิง แต่ไม่ยอมรับในใจของพวกเขาสองคนล้วนมีอีกฝ่าย ลูกสาวก็อายุเกือบครึ่งขวบแล้ว เหตุใดไม่ลองเปิดใจสักนิดแล้วอยู่ด้วยกันเลย

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1268

    คืนแรกที่มาถึงต่างโลก ฉู่เชียนหลีฝันในความฝัน นางอยู่บนสนามรบ สู้จนตัวตาย เลือดไหลเป็นแม่น้ำ น่าสลดใจนัก…ในความฝัน นางได้ต่อสู้ร่วมกับชายคนหนึ่งที่มองไม่เห็นใบหน้า ร่วมเป็นร่วมตาย และยังมีเสียงที่นุ่มนิ่มของเด็ก เรียก ‘ท่านแม่’ ครั้งแล้วครั้งเล่าในความฝัน ราวกับนางได้รับความอยุติธรรมครั้งใหญ่ หัวใจเจ็บปวด และพยายามอธิบายสุดชีวิต แต่พวกคนที่เรียกตัวเองว่า ‘ครอบครัว’ ไม่เชื่อนาง และยังบีบคั้นนางสู่เส้นทางที่สิ้นหวังในความฝัน…มีคนกำลังเรียกนาง‘เชียนหลี…เชียนหลี…’ฉึก!ฉู่เชียนหลีลืมตาฉับพลัน ท้องฟ้าข้างนอกสว่างแล้ว แสงแดดอุ่นๆ ยามเช้าสาดส่องเข้ามา สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของอากาศ สงบมากนางรู้สึกเวียนศีรษะ และแน่นหน้าอกราวกับนางอยู่ในความฝันอันยาวนานจริงๆนางได้รับความอยุติธรรมนางถูกคนในครอบครัวฆ่าตายแต่เหตุใดนางจำผู้ชายที่เรียกนาง และภาพที่เรียกนางว่า ‘ท่านแม่’ ไม่ได้เลย“องค์หญิง ท่านตื่นแล้ว”เมื่ออ้ายอ้ายได้ยินเสียง ถือกะละมังน้ำอุ่นกับเครื่องใช้เข้ามาปรนนิบัติฉู่เชียนหลีนวดขมับ อยู่ในอาการเหม่อลอย แขนขาอ่อนแรง ไม่มีแรงขยับ ดึงผ้าห่มออก ลงจากเตียง สวมรองเท้

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1267

    สาวใช้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็รีบฝนหมึกอย่างเชื่อฟังมองดูองค์หญิงรีบหยิบพู่กัน เขียนอะไรบางอย่าง ท่าทางที่รีบร้อนนั่น เมื่อก่อนเวลาที่นังเป็นห่วงคุณชายเซิ่น ยังไม่รีบร้อนเช่นนี้เลยองค์หญิงกระโดดสระน้ำ หมดสติไปสามวัน หลังจากฟื้น ก็เปลี่ยนไปจากเดิมเล็กน้อย?นิสัยเปลี่ยนไปน้ำเสียงเปลี่ยนไปแต่เมื่อลองตั้งใจมอง องค์หญิงยังคงเป็นองค์หญิง ยังคงเป็นใบหน้าที่คุ้นเคยฉู่เชียนหลีเขียนอย่างรวดเร็ว…อ๋องเฉินเป็นอย่างไรบ้าง ข้าอยู่แคว้นหนานยวน…พลางเขียน พลางกล่าวอย่างรีบร้อน “รีบไปหาคน ช่วยข้าส่งจดหมายฉบับนี้ไปให้อ๋องเฉินที่ตงหลิงเจียงหนาน”นางอยากบอกความจริงกับเฟิงเย่เสวียน ต่อให้ตนลืมแล้ว แต่เฟิงเย่เสวียนจำนางได้เขาจะต้องมาหานางแน่นอนไม่ช้าก็เร็วสักวัน พวกเขาครอบครัวสี่คนจะอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา“อ๋องเฉินแห่งตงหลิงเจียงหนาน?”สาวใช้เกาศีรษะด้วยความสงสัย “องค์หญิง ท่านส่งจดหมายให้อ๋องเฉินทำไม? ท่านรู้จักอ๋องเฉินตั้งแต่เมื่อไร?”ฉู่เชียนหลีรีบกล่าว“อธิบายกับเจ้าไม่ได้ แต่ความสัมพันธ์ของข้ากับอ๋องเฉินไม่ธรรมดา…อ๋องเฉิน? อ๋องเฉินตงหลิง?”เงยหน้าฉับพลัน“ข้ารู้จักอ๋องเฉ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1266

    ทุกคน “...”สีหน้าฮ่องเต้หนานยวนดูไม่ดีนัก เซิ่ยซือเฉินเป็นแค่บัณฑิตคนหนึ่ง เพื่อบัณฑิตคนหนึ่ง ต้องทุ่มสุดตัวเช่นนี้เลย ต้องตื่นเต้นเช่นนี้เลย?ในฐานะองค์หญิง ไม่ควรมองให้ไกลกว่านี้หน่อยหรือ?เพื่อป้องกันจวินลั่วยวนทำร้ายตัวเอง เขาออกคำสั่ง มัดมือและเท้าของนางโดยตรงจวินลั่วยวนขยับไม่ได้แล้วเห็นท่าทางที่จะยิ้มไม่ยิ้มของฉู่เชียนหลี และยังเลิกคิ้วอย่างยั่วยุ นางโมโหจนแทบกัดลิ้นฆ่าตัวตายหลังจากเหตุการณ์ที่วุ่นวาย ไปจากตำหนักองค์หญิงฉู่เชียนหลีกับหลิงอี้ซิงเดินเคียงข้างกันจากไป เมื่ออารมณ์ดี จังหวะการเดินก็ผ่อนคลายเป็นพิเศษ อดไม่ได้ที่จะฮัมเพลงเบาๆฮัมไปฮัมมา จู่ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าหลิงอี้ซิงเป็นผู้มีจิตใจเมตตา อุทิศตนให้กับความดีและคุณธรรมหยุดฝีเท้าหันไปถาม “ท่านพี่ ท่านน่าจะเห็นกระมัง ว่าข้าจงใจรังแกจวินลั่วยวน?”หลิงอี้ซิงเดินตามปกติ สายตามองไปข้างหน้า พยักหน้าอย่างเกียจคร้าน ตอบสั้นๆ เพียงคำเดียว“อืม”“ท่านไม่รู้สึกว่าข้านิสัยไม่ดีหรือ?”เขาหยุดเดินหันมามองนาง กล่าวอย่างจริงจัง “ที่เจ้ารังแกนาง นั่นก็ต้องเป็นเพราะนางล่วงเกินเจ้าก่อนแน่นอน ล้วนเป็นความผิดของนาง”เขาไ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1265

    “ยวนเอ๋อร์! ยวนเอ๋อร์!” ฮ่องเต้หนานยวนร้อนใจจนหน้าถอดสี “ใครก็ได้ ใครก็ได้รีบมาเร็ว ยวนเอ๋อร์เสียเลือดมากเกินไป หมดสติไปแล้ว!”จวินลั่วยวนที่ ‘เสียเลือดมากเกินไปจนหมดสติ’ “...”เจ้าน่ะสิที่เสียเลือดมากเกินไปเจ้าเสียเลือดมากเกินไปทั้งครอบครัว!หมอหลวงมาอย่างรวดเร็ว หลังจากทำแผลให้จวินลั่วยวนเสร็จ ถอนหายใจด้วยความกังวล “สามเดือนแล้ว ในที่สุดเอ็นขององค์หญิงก็เชื่อมต่อกัน คิดไม่ถึงว่าขาดอีกแล้ว ความพยายามในช่วงสามเดือนที่ผ่านมาล้วนสูญเปล่า” ต่อจากนี้ก็ต้องใช้เวลาอีกสามเดือน เปิดบาดแผล บำรุงเอ็นทุกวันเมื่อฉู่เชียนหลีได้ยินคำนี้ เบ้าตาแดงฉับพลัน“ล้วนเป็นความผิดของข้า…”นางดึงชายเสื้อของหลิงอี้ซิง กล่าวเสียงสะอึก“ท่านพี่ ข้ามันไม่ดี ต้องเป็นเพราะเรื่องของคุณชายเซิ่นแน่ องค์โกรธข้า ไม่ชอบข้า จึงฟาดมือของตัวเองใส่เสา เพื่อเป็นการแสดงความรังเกียจต่อข้า”“ข้าทำร้ายนาง ฮือๆ…”หลิงอี้ซิงรักน้องสาว ทุกคนในแคว้นหนานยวนรู้เรื่องนี้แล้วฮ่องเต้หนานยวนกล่าวโทษนางได้อย่างไร?กลับกัน เขายังต้องขอร้องหลิงอี้ซิงทักษะการทำนายของหลิงอี้ซิงมีเพียงหนึ่งเดียวในใต้ฟ้า ตลอดหลายปีที่เขานั่งตำแหน

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status