“ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ ทรงอนุญาตให้นางดูด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ” ท่านอ๋องหลูหยางที่มีท่าทีร้อนใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้วนั้น เมื่อรู้ว่าหลานสาวหัวแก้วหัวแหวนของตนเองอาจจะยังมีชีวิตอยู่ บุรุษชายชาตรีที่ร่างกายกำยำพลางกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือไปในทันที “หากว่าเป็นเสมือนกับแมวตาบอดเจอหนูตายเล่า?” มุมปากของฉินเหย
องค์จักรพรรดิหาได้ตำหนิที่ท่านอ๋องหลูหยางทำตัวไร้มารยาทไม่ เมื่อคนตายฟื้นคืนชีพขึ้นมาเช่นนี้ ท่านอ๋องหลูหยางเองก็มิจำเป็นต้องให้คนผมขาวส่งคนผมดำไปเสียก่อน นี่ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีอีกเรื่องหนึ่งองค์จักรพรรดิจึงหันกลับมามองไปที่ฉินเหยี่ยนเย่ว์อีกครั้งฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันรีบคุกเข่าลงกับพื้นไปใน
หลังจากที่ตงฟางหลีเห็นซูเตี่ยนฉิง สีหน้าที่เต็มไปด้วยความมืดครึ้มของเขาพลันอันตรธานหายไปในทันที ก่อนจะปรากฏร่องรอยความนุ่มนวลอันอบอุ่นขึ้นมาแทน น้ำเสียงยังกดแผ่วเบาลงมาหลายส่วน “ฉิงเอ๋อร์ อากาศหนาวยิ่งนัก เหตุใดเจ้าถึงไม่ไปพักที่เรือนรับรองข้าง ๆ เล่า?”ซูเตี่ยนฉิงเพียงขบเม้มริมฝีปากของตนเอง ก่อนจะก
ซูเตี่ยนฉิงหาได้หยุดฝีเท้าตัวเองไม่ ก่อนจะรับจ้ำก้าวเข้าไปในเรือนรับรองในทันที เมื่อแผนการของตงฟางอิงประสบความสำเร็จแล้วนั้น เขาพลันแลบลิ้นปลิ้นตาออกมา ด้วยใบหน้าน้อย ๆ ที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ“นางให้เจ้ามาหรือ?” น้ำเสียงของตงฟางหลีเอ่ยออกมาด้วยความเย็นชา พร้อมทั้งกลิ่นอายรังสีฆ่าฟันที่แผ่กระจาย
“แย่แล้ว ไม่ดีแล้ว เกิดเรื่องขึ้นกับท่านอ๋องสิบ” นางกำนัลผู้หนึ่งพลางร่ำไห้กรีดร้องออกมา “หมอหลวง รีบไปตามหมอหลวงมาเร็วเข้า”ผู้คนที่อยู่ภายในห้องโถงต่างก็ตกใจไปในทันที ไม่นานนักทุกคนจึงพากันมารวมตัวกัน นางกำนัลขันทีต่างก็รีบเร่งเข้าไปแจ้งแก่ฮองเฮาในทันใดในยามนี้ บรรยากาศภายในห้องโถวพลันเริ่มเกิดค
“พวกเจ้าเห็นอ๋องสิบกินสิ่งใดลงไปหรือไม่?” ฮองเฮาเอ่ยถามทุกคนด้วยน้ำเสียงเย็นชาหลังจากที่ฉินเหยี่ยนเย่ว์ถูกปลุกด้วยเสียงวุ่นวาย นางยังคงมีท่าทีสับสนเล็กน้อย เมื่อนางรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นนั้น เหงื่อเย็น ๆ พลันไหลออกมาทั่วตัวในทันทีเมื่อได้ยินคำถามของฮองเฮานั้น นางพลันมีใบหน้าลำบากใจยิ่งนักอ๋องสิบคือตง
“หม่อมฉันร่างกายอ่อนแอเพคะ หากมิได้ทานอาหารหม่อมฉันจักเป็นลมหมดสติ เกรงว่าอาการป่วยของหม่อมฉันจักส่งผลต่อทุกคน ดังนั้นหม่อมฉันจึงได้เตรียมของว่างมาด้วย” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าวออกมาหาได้มีท่าทีหยิ่งทระนงตนไม่ “ทว่า หม่อมฉันมิได้วางยาอ๋องสิบเพคะ”“ยังเล่นลิ้นอยู่อีก” ใบหน้าของฮองเฮาพลันฉายแววเย็นชาออกมา
“ เจ้า เจ้า ฉินเหยี่ยนเย่ว์ เจ้ายังเห็นเราอยู่ในสายหรือไม่” ฮองเฮาพลันโกรธโมโหจนตัวสั่นแม่นมทั้งสองเป็นนางกำนัลรับใช้ส่วนตัวของนาง หากว่าพวกนางถูกทุบตีนั้น นี่มิใช่ว่าเป็นการตบหน้านางโดยตรงหรอกหรือ “เสด็จแม่ ใจเย็นๆ ก่อนเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลางยกมือโค้งคำนับ “แม่นมสองคนนี้ช่างหยาบคายและไร้มารยา