เหงื่อเย็นไหลซึมจากหน้าผากซูเตี่ยนฉิงบรรยากาศตึงเครียด ไม่มีผู้ใดเอ่ยวาจาออกมา มีเพียงลมหนาวพัดมาเท่านั้น“พอได้แล้ว” ตงฟางหลีเหนื่อยล้าเล็กน้อย เขากระแอมหนึ่งคำ “จะถูกหรือผิด ข้าจะเป็นคนตรวจสอบให้แน่ชัดเอง”เขาเหลือบมองฉินเหยี่ยนเย่ว์อย่างตักเตือน “เจ้า กลับเรือนโยวหลันเสีย ไม่มีคำสั่งของข้าก็ห้าม
“ตู้เหิง พานางกลับเรือนโยวหลัน” ตงฟางหลีหลุบตาลง “ข้าไม่อยากเจอนาง”“ท่านไม่อยากเจอข้า ได้” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ไม่พอใจเล็กน้อย “บังเอิญพอดี ข้าก็ไม่อยากเจอท่านเช่นกัน”“ตงฟางหลี ก่อนหน้านี้ข้าคิดว่าท่านเป็นคนฉลาดมาตลอด ตอนนี้เพิ่งมารู้ ว่าก่อนหน้านี้ข้าตาบอดไปจริง ๆ ท่านก็คือคนชั่วช้าที่ใจบอดตาบอดสมองมี
นางคุกเข่าลงหนึ่งข้าง แล้วประสานมือ “ท่านอ๋อง”“พาพระชายากลับเรือนโยวหลัน” ตงฟางหลีกล่าว “หากพระชายาไม่ให้ความร่วมมือ อนุญาตให้ใช้ทุกวิถีทางได้”“ไม่จำเป็น” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เห็นรูปลักษณ์ของเจ้าหางน้อยที่ติดตามนางได้ชัดเจนเป็นครั้งแรกแตกต่างจากไป๋โค้ว เป็นแม่นางที่สุขุมและคมในฝัก“ข้ากลับเองได้” นาง
ในขณะเดียวกันจวนตระกูลซูซูเตี่ยนฉิงที่กำลังโกรธโมโหจนแทบบ้านั้นยามที่นางกลับมาถึงจวนตระกูลซู เนื้อตัวพลันเปียกปอนไปหมด ตั้งแต่หัวจรดเท้า เสื้อตัวในตัวนอกต่างก็ถูกลมพัดจนเนื้อตัวแข็งไปหมดเนื้อตัวที่มีผื่นแดงคันพลันอันตรธานหายไป เป็นตัวนางที่หนาวตัวแข็งจนแทบจะไร้ความรู้สึก นังสารเลวฉินเหยี่ยนเย่ว
“ปึก!” แท่นหมึกพลันถูกโยนพุ่งตรงมาที่หัวของสาวใช้ในทันทีสาวใช้หาได้กล้าหลบไม่ น้ำหมึกที่ยังไม่แห้งพร้อมกับเลือดสด ๆ จึงไหลลงมารวมกัน พร้อมทั้งสาวใช้ที่นั่งคุกเข่าลงด้วยท่าทีสั่นกลัวพร้อมด้วยสีหน้าที่หวาดผวา“เรื่องของข้า สาวใช้เช่นเจ้าเข้ามาบงการได้ตั้งแต่เมื่อใดกัน? เข้าวัง” ซูเตี่ยนฉิงพลันเข้าไปผ
“ท่านป้า นางทำเกินไปจริง ๆ เจ้าค่ะ” ซูเตี่ยนฉิงพลางใช้ผ้าเช็ดหน้าของตนเองเช็ดหยาดน้ำตาของตน “วาจาของนางเอาแต่กล่าวใส่ร้ายให้ความตระกูลซูว่ามิเคารพต่อราชวงศ์ ทั้งยังเอ่ยยุแยงความสัมพันธ์ระหว่างองค์จักรพรรดิและท่านพ่ออีกด้วย”“ดังคำกล่าวที่ว่า ติดตามกษัตริย์คล้ายติดตามพยัคฆ์ อันตรายยากที่จะคาดเดาได้ พ
ซูเตี่ยนฉิงพลันอารมณ์ดีขึ้นมาหลังจากออกนอกประตูวังมาแล้วนั้น ลมหนาวพลางหอบพัดเข้ามาในทันทีจากที่ที่อบอุ่นสุดๆ มาถึงลานโล่งที่เต็มไปด้วยความหนาวเหน็บเช่นนี้ ย่อมทำให้อาการร้อนหนาวมิอาจปรับตามได้ทัน เดิมทีซูเตี่ยนฉิงที่ถูกลมหนาวพัดจนตัวแข็งมาก่อนแล้วนั้น เมื่อเข้ายังห้องบรรทมของฮองเฮาที่เต็มไปด้วยค
เส้นเลือดบนหน้าผากของฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันกระตุกขึ้นมาในทันทีนี่ มันอะไรกันเนี่ย?เดิมทีสนามหญ้าที่เคยเป็นระเบียบเรียบร้อยนั้นกลับกระจัดกระจายเละเทะยุ่งเหยิงยิ่งนัก แม้แต่ประตูห้องบานใหญ่ที่นางอาศัยอยู่ก็ยังถูกเปิดออก ด้านในเองก็เต็มไปด้วยข้าวของกระจัดกระจายอยู่เต็มไปหมดแจกันล้มระเนระนาด โต๊ะเครื่อง
“ยังมีอะไรอีก?” น้ำเสียงของตงฟางหลีเปลี่ยนเป็นเย็นชา“เขายังมัดหม่อมฉันไว้บนแท่นเปื้อนเลือด และอยากจะปู้ยี่ปู้ยำหม่อมฉันด้วย” ฉินเหยี่ยนเย่ว์มองความโกรธในก้นบึ้งดวงตาของตงฟางหลี และรีบพูด “ท่านอย่ากังวล เขาไม่ได้แตะต้องหม่อมฉันเลย”นางเผยฟันเรียงขาว “ตอนที่เขาอยากจะถอดเสื้อผ้าของหม่อมฉัน หม่อมฉันก็ต
“กำลังคิดว่าหากท่านปู่รู้ว่าหม่อมฉันแค่อยากเข้าไปในโรงพยาบาลเพื่ออาบน้ำและเป่าผมให้แห้ง คงโกรธมากจนแม้แต่แผ่นกระดานโลงศพก็ไม่สามารถกดลงได้เลย” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ใช้โอกาสนี้ยกมือคล้องคอเขานางถูไปมาอยู่บนไหล่ของเขาเมื่อมีตงฟางหลีอยู่เคียงข้าง พลันรู้สึกปลอดภัยอย่างบอกไม่ถูก“ท่านดูไม่แปลกใจเลยที่หม่อมฉ
“อืม จริงสิ คำพูดเมื่อครู่ของหม่อมฉันยังไม่จบเลย” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พูดต่อ “ท่านเห็นรูปปั้นหญิงโฉมสะคราญบนผนังห้องลับหรือไม่?”“นั่นไม่ใช่รูปปั้นอะไรเลย เป็นเฉียนอ๋องสารเลวป้อนยาที่เรียกว่าหินโฉมสะคราญให้ผู้หญิงเหล่านั้น หลังจากกินยาเข้าไปแล้ว แขนขาของพวกนางก็เริ่มกลายเป็นหินก่อน จากนั้นลำตัวก็แข็งขึ้น
ยามนี้ เป็นเวลาที่อาทิตย์อัสดงพอดีพระอาทิตย์สีแดงอ่อนทอแสงไปทั่วศาลาและอาคารสูง ท้องฟ้าเปื้อนเมฆสีแดงก่อให้เกิดริ้วคลื่นรถม้าแล่นผ่านแผ่นหินสีเขียว และเคลื่อนตัวช้า ๆ มุ่งหน้าสู่จวนอ๋องเจ็ด“พี่เจ็ด” ในที่สุดก็ถึงเวลาที่ทั้งสองได้อยู่กันตามลำพัง ฉินเหยี่ยนเย่ว์โถมตัวเข้าไปในอ้อมแขนของตงฟางหลี พลาง
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ ใช้แรงมหาศาลมาก ทั้งยังใช้แส้หวดตีลงไปไม่ยั้งอีกด้วยจางฉู่หาได้ตอบโต้ไม่ เขาเพียงยืนนิ่ง ๆ ให้นางตีแต่โดยดี“พอแล้ว เหยี่ยนเย่ว์ใจเย็น ๆ ก่อน” ตงฟางหลีกลัวว่านางจะเหนื่อยเกินไป “จางฉู่รู้ความจริงหมดแล้ว ความจริงนั้นเจ็บปวดเสียยิ่งกว่าที่เจ้าตีเขาเสียอีก”“ข้าเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นยิ่
เซียวเซี่ยงหว่านไม่เพียงแต่ได้รับบาดเจ็บทางด้านร่างกายเท่านั้น แต่จิตใจของนางก็ยังได้รับความบอบช้ำเป็นอย่างมาก หลังจากผ่านเรื่องเลวร้ายมามากมายเช่นนี้ ถึงแม้ว่าร่างกายจะฟื้นตัวกลับมาได้ แต่สภาพจิตใจยังคงต้องใช้เวลาสักพักจึงจะหายขาดสำหรับสตรีคนหนึ่งแล้ว เรื่องราวเหล่านี้อาจกลายเป็นฝันร้ายของนางหาก
“บุคคลที่ทำให้พี่เซียวต้องมาตกอยู่ในถ้ำปีศาจที่น่ากลัวเช่นนี้ มีสิทธิ์อันใดมาสร้างความวุ่นวายที่นี่กัน?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันส่งเสียงตวาดออกมาจางฉู่ที่ถูกตบไปหนึ่งฉากนั้น พลันรู้สึกมึนงงไปในทันทีภายในใจของฉินเหยี่ยนเย่ว์พลางร้อนรุ่มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวเซียวเซี่ยงหว่านที่ประสบพบเหตุการณ์เลวร้ายมาม
“เฟยอิ่ง หยุดเขา” ใบหน้าของตงฟางหลีพลันเปลี่ยนไปพี่ใหญ่มิอาจตายอยู่ที่นี่ได้ทั้งยังเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมาถูกจางฉู่สังหารคราบเลือดและเครื่องมือทรมานภายในห้องลับนี้ ก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้คนตกตะลึงมากแล้ว หากว่าได้ทำการตรวจสอบลึกลงไปอีก ช่างน่ากลัวเพียงพอแล้ว เกรงว่าจักได้กลายเป็นเรื่องอื้อฉาวที่สร้
หลังจากที่ได้พบนางนั้น โดยเฉพาะยามที่นางวิ่งโร่เข้ามากอดเขา ราวกับเมฆหมอกที่เคยบดบังได้จางหาย ภูเขาน้ำแข็งได้หลอมละลายลงมา คล้ายกับว่าบุปผากำลังเบ่งบานตงฟางหลีโอบกอดนางเอาไว้ พลางกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่า “ไม่เป็นไรแล้ว ข้าอยู่ที่นี่แล้ว”“อื้ม” ฉินเหยี่ยนเย่ว์จับใบหน้าของเขาเอาไว้ ก่อนจะเอา