หลังจากกินยาช่วยชีวิตแล้ว เซียวเซี่ยงหวั่นก็เกิดอาการชักอย่างรุนแรงทันทีใบหน้าที่แทบจะจำไม่ได้บิดเบี้ยวเพราะความเจ็บปวดนางดิ้นรนด้วยความทรมาน มีเสียงร้องครวญครางอย่างไม่รู้สึกตัวออกมาจากลำคอ“แย่แล้ว” หัวใจของฉินเหยี่ยนเย่ว์ยังไม่ทันวางลง ก็ลอยขึ้นสูงอีกครั้งเซียวเซี่ยงหวั่นถูกเฉียนอ๋องทรมานจนหาย
เวลาเดียวกับที่เช็ดเลือดออก ได้ใส่ยาห้ามเลือด และในเวลาเดียวกันก็ฉีดยาฉุกเฉินเช่น ยากระตุ้นหัวใจอาการของเซียวเซี่ยงหวั่นค่อนข้างแย่แม้จะได้รับการรักษาฉุกเฉินแล้ว แต่การหายใจของนางยังคงอ่อนแรงมากโดยเฉพาะมือและเท้าเริ่มแข็ง ทำให้ไม่สามารถวัดชีพจรได้สิ่งที่เร่งด่วนที่สุด ทำได้เพียงตรวจคลื่นไฟฟ้าหัว
ฉินเหยี่ยนเย่ว์เต็มตื้นไปด้วยอารมณ์หลากหลายนางคิดเสมอว่าปู่เป็นชายชราขี้งกที่ไม่ยอมทิ้งแม้แต่ถุงเท้าขาด ๆเขาไม่ต่างอะไรจากชายชราข้างบ้านที่เล่นไพ่ ดื่มชา สวมรองเท้าแตะ และกางเกงขาสั้นทุกวันเลยหลังมาถึงที่นี่แล้วจึงได้รู้ ทุกสิ่งที่ทีมนักวิทยาศาสตร์ซึ่งนำโดยชายชราทำนั้นยิ่งใหญ่เพียงใดหากผลการวิจั
“เจ้าทำอะไร?” ขาของเฉียนอ๋องชาไร้ความรู้สึก และไม่สามารถขยับได้ จึงต้องคุกเข่าอยู่ตรงนั้นไม่สามารถควบคุมร่างกายได้ และต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้อื่น ความหวาดกลัวในก้นบึ้งหัวใจจึงยิ่งแข็งแกร่งขึ้น“เจ้าเป็นมนุษย์หรือผี? ฉินเหยี่ยนเย่ว์ เจ้าเป็นตัวอะไรกันแน่?” เสียงของเฉียนอ๋องแหลมยิ่งนัก“ท่านคิด
สีหน้าเฉียนอ๋องดูน่าเกลียดมากเขากำหมัดแน่น เส้นเลือดปูดโปน และจ้องมองฉินเหยี่ยนเย่ว์ด้วยความมาดร้าย“ฉินเหยี่ยนเย่ว์ เจ้าทะนงตนเกินไปหรือไม่? ร่างกายเจ้า ข้าได้ตรวจไปก่อนหน้านี้แล้ว ไม่มียาพิษอยู่เลย เจ้าอย่าพยายามขู่ข้า”“สิ่งที่ท่านคิดนั้นเป็นเพียงสิ่งที่ท่านคิด” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าว “การใช้สมองอ
หลังจากพลิกสถานการณ์กลับแล้ว เขาจะต้องทำให้นางเสียใจที่ได้เกิดมาเป็นสตรี!เฉียนอ๋องหลุบสายตาลง และหาโอกาสที่เหมาะสมถือโอกาสตอนที่ฉินเหยี่ยนเย่ว์เข้ามาใกล้ จึงใช้มือข้างที่เหลืออยู่ลอบโจมตีไปฉินเหยี่ยนเย่ว์จับความเคลื่อนไหวของเขาได้นานแล้วคนชั่วร้ายวิปริตเช่นเฉียนอ๋อง ไม่มีคำว่าน่ารังเกียจที่สุด ม
ฉินเหยี่ยนเย่ว์นึกถึงท่าทางที่น่าสงสารขณะที่หายใจรวยรินของเซียวเซี่ยงหวั่นนึกถึงความทรมานอันไร้มนุษยธรรมที่เซียวเซียงหวั่นต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันในช่วงเวลานี้...ไม่เพียงแค่เซียวเซี่ยงหวั่นเท่านั้นยังมีหญิงสาวคนอื่น ๆ เสียชีวิตอยู่ในห้องลับแห่งนี้ด้วยเดิมพวกนางอยู่ในช่วงวัยเจริญพันธุ
เฉียนอ๋องเพิ่งถูกเฆี่ยนไปเพียงไม่กี่ครั้ง เขาก็เจ็บปวดจนมีเหงื่อกาฬเม็ดใหญ่ไหลออกมา“ดูเหมือนท่านจะรู้สึกตัวแล้ว” ฉินเหยี่ยนเย่ว์มองใบหน้าซีดเผือดของเฉียนอ๋อง และออกแรงมากขึ้น “ข้าโรยบางอย่างลงบนแส้นิดหน่อย”“เมื่อแส้พบเลือด ความเจ็บปวดของท่านจะทวีคูณขึ้น และเมื่อข้าเฆี่ยนท่านหนึ่งแส้ ท่านจะเจ็บปวดไ
บุรุษผู้นั้น ไม่เพียงแต่พบสถานที่แห่งนี้ แต่ยังพบตำแหน่งของห้องลับอีกด้วยหากว่าเขาทดลองซ้ำแล้วซ้ำเล่าเช่นนี้แล้ว นั่นหมายความว่าเขาได้ค้นพบการมีอยู่ของห้องลับห้องนี้อย่างแน่นอนต่อจากนี้ นางเพียงแค่ต้องส่งข่าวว่าตนเองอยู่ด้านล่างไปหาเขาเท่านั้นทั้งนางและเซียวเซี่ยงหว่านจะต้องรอดออกไปแน่นอน!ฉินเหย
ภายในใจของฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันรู้สึกลิงโลดยิ่งนักหากการพบเจอเหรียญทองแดงหนึ่งเหรียญเป็นเพียงแค่เรื่องบังเอิญนั้นแล้วการที่เจอเหรียญทองแดงสี่เหรียญในคราเดียวเล่า ย่อมมิใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอนมีคนอยู่ข้างบน!มีคนโยนเหรียญทองแดงลงมาจากช่องระบายอากาศทั้งสี่ช่องการปรากฏตัวที่นี่ในยามนี้ ทั้งยังพยา
เขาต้องหาตัวพวกนางเจอให้เร็วที่สุด!“ท่านอ๋อง” หลังจากเฟยอิ่งค้นหาไปแล้วหนึ่งรอบ “หาอะไรไม่เจอเลยพ่ะย่ะค่ะ นี่ออกจะแปลกเกินไปแล้ว ตามหลักแล้วไม่ว่าจะเป็นกลไกหรือว่าห้องลับ ล้วนจะต้องเหลือร่องรอยไว้บ้าง”“ตามผนังในห้องนี้ล้วนเป็นกำแพงตัน ไม่มีกลไก แล้วก็ไม่มีช่องกั้น ด้านล่างของห้องนี้ก็คือทะเลสาบ แล
นกการเขนเงาเป็นนกที่เงามีโดยเฉพาะ เป็นช่องทางการสื่อสารระหว่างเงาด้วยกันพวกมันอยู่ไปทั่วทุกหนแห่ง และสามารถส่งข่าวสารไปทั่วทุกที่นกกางเขนเงาทุกตัวล้วนได้รับการฝึกฝนมาอย่างเข้มงวด และระหว่างพวกมันเองจะมีรูปแบบวิธีการแยกแยะตัวตนหนึ่งชุดไม่เพียงเท่านี้ ช่องทางการสื่อสารข้อมูลระหว่างเงาจะมีระบบรหัสที
ความเป็นไปได้มากที่สุด คือพี่ใหญ่ใช้ประโยชน์จากทาสเป่ยลู่คนนั้น ทำเรื่องที่มิอาจเปิดเผยได้เหล่านั้นอยู่ที่นี่หากเป็นเหตุผลเช่นนี้ เบาะแสทุกอย่างล้วนราบรื่นแล้วตงฟางหลีเดินอ้อมห้องอีกหนึ่งรอบใช้มือสัมผัสและเคาะสิ่งของที่น่าสงสัยทั้งหมดเบา ๆ ไปหนึ่งรอบน่าเสียดาย ที่หาร่องรอยของห้องลับไม่เจอ“จางฉู
ตงฟางหลีพยุงตัวกับราวบันได ใบหน้าหล่อเหลานั้นซีดเผือดหากเป็นน้ำพุจริง ๆ ไม่เพียงแต่รสนิยมเลวร้าย มิหนำซ้ำยังส่งกลิ่นเหม็นจนทำให้คนเดือดดาลจางฉู่ส่ายหน้า “มิทราบได้พ่ะย่ะค่ะ แทนที่จะบอกว่าเป็นน้ำพุ มิสู้บอกว่า พวกมันดูเหมือนเสาค้ำยันศาลามากกว่า ที่แห่งนี้เป็นที่ที่เฉียนอ๋องสร้างขึ้นกับมือเพื่ออนุภร
ในแววตาเขาไร้คลื่นลม และน้ำเสียงก็ราบเรียบมากเช่นกันเฟยอิ่งลอบขมวดคิ้วแน่นเขารู้จักจางฉู่มาแต่ไหนแต่ไร จางฉู่มีนิสัยเย็นชา กระทำการสุขุมหนักแน่น ไตร่ตรองพิจารณารอบด้าน มิใช่คนที่มุทะลุบุ่มบ่ามพรรค์นั้นหากแต่พฤตกรรมครานี้ ผิดแปลกไปอย่างแท้จริงแปลกไปจนมิคล้ายกับเป็นจางฉู่ตัวจริงเฟยอิ่งยิ่งคิดก็ยิ
ตงฟางหลีเดิมทีก็มีโรครักความสะอาดอยู่แล้ว ทนรับกลิ่นแปลกประหลาดเช่นนี้ไม่ได้ที่สุดยามที่กลิ่นเหม็นเน่าสายนั้นถาโถมเข้ามา เขาถึงกับอดถอยหลังไปหลายก้าวไม่ได้ ภายในกระเพาะประหนึ่งพลิกแม่น้ำล้มมหาสมุทรก็มิปานเขารีบล้วงหาผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาปิดจมูก สะกดความรู้สึกขยะแขยงลงไปเฟยอิ่งเองก็ถูกความรู้สึกน่ารัง
“เหตุผลที่คุณหนูเซียวหย่ากับพี่ใหญ่ เป็นเพราะว่าพี่ใหญ่สังหารลูกของพวกเขาเองกับมือ” ตงฟางหลีพูดต่อไป “ที่นางมิสามารถตั้งครรภ์มาโดยตลอด ก็เป็นการขัดขวางของพี่ใหญ่เช่นกัน”“พี่ใหญ่คิดว่าการตายของทาสเป่ยลู่เกี่ยวข้องกับคุณหนูเซียว จึงเอาโทสะมาระบายใส่คุณหนูเซียว คุณหนูเซียวที่ลุ่มหลงในความรักอย่างลึกซึ