อ๋องอี๋หยางมองฉินเหยี่ยนเย่ว์ที่ย่างกรายเข้ามาช้า ๆ คิ้วเลิกขึ้น “เจ้าอาบน้ำเสร็จเร็วปานนี้เลยหรือ?”ฉินเหยี่ยนเย่ว์เม้มริมฝีปากเล็กน้อยหลังจากนางอาบน้ำในบ่อน้ำพุร้อนแล้ว ก็วิ่งเข้าโรงพยาบาลเพื่อเป่าผมให้แห้ง และถือโอกาสตรวจร่างกายของเซียวเซี่ยงหวั่นเล็กน้อยกำจัดปัญหาการเช็ดผมที่น่ารำคาญที่สุดแล้ว
“หา?”“หาอะไรกัน?” ตงฟางหลีเคาะหน้าผากของนาง “ถ้าเสด็จอาไม่ได้รับข่าวอะไรเลยสักนิด เขาจะมาปรากฏตัวที่นี่ได้อย่างไร? เสด็จอาน่าจะรู้เรื่องที่จางฉู่ให้ความช่วยเหลือพี่ใหญ่นานแล้ว”“แล้วทำไมเสด็จอาถึงไม่ทำอะไรสักอย่างล่ะ ต้องดูเรื่องสนุกด้วยหรือเพคะ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พึมพำ“อย่าปรักปรำข้าสิ” อ๋องอี๋หยาง
“เขาทำความผิดใหญ่โตถึงเพียงนั้น มิอาจอยู่ในตำแหน่งนั้นได้อีกต่อไป การลงโทษด้วยการไล่ออกนี้เป็นโทษสถานเบาที่สุดแล้ว” อ๋องอี๋หยางกล่าวตงฟางหลีเหลือบตามองฉินเหยี่ยนเย่ว์อย่างเป็นกังวล “โทษของจางฉู่คงมิถึงกับตายหรอกกระมัง? ยิ่งไปกว่านั้น เขาต้องดูแลเซียวเซี่ยงหวั่น...”“แม้ว่าจางฉู่จะมีบางช่วงที่กระทำก
“อยู่พ่ะย่ะค่ะ” “พี่เจ็ด!” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ร้อนรนอยู่บ้างเล็กน้อยคนอย่างจีอู๋เยียนพรรค์นั้น ในสายตามีเพียงอวี้เอ๋อร์เท่านั้น หากไปหาเรื่องเขา คนทั่วทั้งเมืองเหวินจิงก็คงมีไม่พอให้เขาเล่นสนุกด้วยยิ่งไปกว่านั้น อวี้เอ๋อร์เป็นผู้บริสุทธิ์ นางไม่อยากให้คนบริสุทธิ์ต้องมาพัวพันอยู่ท่ามกลางการต่อสู้แย่งช
หนาว!น้ำเย็นจัดที่ไหลเข้าจมูกและลำคอนั้น ทำเอาไม่สามารถหายใจได้ในทันทีฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันรู้สึกได้ว่า ศีรษะของนางกำลังถูกใครบางคนกดเอาไว้ทำให้มิอาจลุกออกมาจากน้ำเย็นได้ในระหว่างที่นางกำลังดิ้นทุรนทุรายอยู่นั้น ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลางเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มชั่วร้ายผ่านคลื่นน้ำที่กระจายไปมาได้ใน
“เฮ้อ พูดถึงโจโฉโจโฉก็มาหา” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เอ่ยขึ้นมาด้วยสีหน้าที่เย็นชาท่านอ๋องสามในความทรงจำของเจ้าของเดิมนั้น เป็นบุรุษเจ้าชู้โดยแท้ฉินเหยี่ยนเย่ว์จึงลุกขึ้นมาสวมใส่เสื้อผ้า พร้อมทั้งเป่าผมให้แห้งอย่างลวก ๆเดิมทีร่างกายนี้ยังอ่อนแอมากนัก แม้ว่าจักจะอาบน้ำต้มยาเพื่อขับไล่ความหนาวเย็นออกไปแล้วก
“ยังมิเหมาะที่จะด่วนสรุปในตอนนี้?” นัยน์ตาของท่านอ๋องสามพลันฉายแววเคร่งขรึมมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งมองฉินเหยี่ยนเย่ว์ด้วยหางตา “มีคนเห็นว่าเจ้าเตะเสวี่ยเอ๋อร์ลงไป เจ้ายังกล้าที่จะปฏิเสธอีกหรือ?”“หม่อมฉันมิเคยคิดที่จะปฏิเสธเพคะ”ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลางยืนตัวตรง ทั้งน้ำเสียงและนัยน์ตาที่สื่อออกมาหาได้มีท่าที
สีหน้าของท่านอ๋องสามพลันเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาเองก็คร้านที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป จึงได้ก้าวเดินออกไปด้วยท่าทีฉุนเฉียวในทันที ฉินเหยี่ยนเย่ว์ได้แต่หลับตาลง ก่อนจะแหงนหน้ามองขึ้นไปบนฟ้าพร้อมทั้งถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกลมหายใจที่ถูกปล่อยออกมานั้น พลันกลายเป็นไอหมอกสีขาวขุ่นในทันที พลางจางหายไปในอากาศอย
“อยู่พ่ะย่ะค่ะ” “พี่เจ็ด!” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ร้อนรนอยู่บ้างเล็กน้อยคนอย่างจีอู๋เยียนพรรค์นั้น ในสายตามีเพียงอวี้เอ๋อร์เท่านั้น หากไปหาเรื่องเขา คนทั่วทั้งเมืองเหวินจิงก็คงมีไม่พอให้เขาเล่นสนุกด้วยยิ่งไปกว่านั้น อวี้เอ๋อร์เป็นผู้บริสุทธิ์ นางไม่อยากให้คนบริสุทธิ์ต้องมาพัวพันอยู่ท่ามกลางการต่อสู้แย่งช
“เขาทำความผิดใหญ่โตถึงเพียงนั้น มิอาจอยู่ในตำแหน่งนั้นได้อีกต่อไป การลงโทษด้วยการไล่ออกนี้เป็นโทษสถานเบาที่สุดแล้ว” อ๋องอี๋หยางกล่าวตงฟางหลีเหลือบตามองฉินเหยี่ยนเย่ว์อย่างเป็นกังวล “โทษของจางฉู่คงมิถึงกับตายหรอกกระมัง? ยิ่งไปกว่านั้น เขาต้องดูแลเซียวเซี่ยงหวั่น...”“แม้ว่าจางฉู่จะมีบางช่วงที่กระทำก
“หา?”“หาอะไรกัน?” ตงฟางหลีเคาะหน้าผากของนาง “ถ้าเสด็จอาไม่ได้รับข่าวอะไรเลยสักนิด เขาจะมาปรากฏตัวที่นี่ได้อย่างไร? เสด็จอาน่าจะรู้เรื่องที่จางฉู่ให้ความช่วยเหลือพี่ใหญ่นานแล้ว”“แล้วทำไมเสด็จอาถึงไม่ทำอะไรสักอย่างล่ะ ต้องดูเรื่องสนุกด้วยหรือเพคะ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พึมพำ“อย่าปรักปรำข้าสิ” อ๋องอี๋หยาง
อ๋องอี๋หยางมองฉินเหยี่ยนเย่ว์ที่ย่างกรายเข้ามาช้า ๆ คิ้วเลิกขึ้น “เจ้าอาบน้ำเสร็จเร็วปานนี้เลยหรือ?”ฉินเหยี่ยนเย่ว์เม้มริมฝีปากเล็กน้อยหลังจากนางอาบน้ำในบ่อน้ำพุร้อนแล้ว ก็วิ่งเข้าโรงพยาบาลเพื่อเป่าผมให้แห้ง และถือโอกาสตรวจร่างกายของเซียวเซี่ยงหวั่นเล็กน้อยกำจัดปัญหาการเช็ดผมที่น่ารำคาญที่สุดแล้ว
อ๋องอี๋หยางดื่มชาช้าลงครึ่งจังหวะเขามองท่าทีของตงฟางหลี แล้ววางถ้วยชาลงช้า ๆ จากนั้นก็หัวเราะครืนรอยยิ้มของเขาดูเกินความจริงไปหน่อยตงฟางหลีรู้สึกสับสน “เสด็จอา?”“ข้าชนะแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า ตลกมากเลย เจ้าเจ็ด ข้าบอกกับเจ้าเลยนะ ข้าพนันกับเสด็จพ่อเจ้า ว่าอยากจะมาดูสีหน้าของเจ้าที่พลาดโอกาสนี้ไป เสด็จพ่อ
“พี่รองค่อย ๆ ฟื้นตัวแล้ว” ตงฟางหลีกล่าว “เขากำลังฝึกเดินอยู่ เชื่อว่าอีกไม่นานก็จะสามารถกลับมาเป็นปกติได้ รอพี่รองกลับมาเป็นปกติ ต้องปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างแน่นอน"“เจ้าอย่ารีบร้อนหักล้างสิ” อ๋องอี๋หยางกล่าวต่อ “สภาพร่างกายของเจวี๋ยเอ๋อร์เป็นเช่นไร ข้ารู้แน่ชัดดีกว่าเจ้า”“อย่าพูดถึงเรื่องของเจวี๋ยเ
อาการคลื่นเหียนพุ่งเข้ามา ตงฟางอิงไม่อาจระงับความรู้สึกปั่นป่วนในท้องได้ พลันปลีกตัวไปด้านข้างในพริบตาเดียวแล้วเริ่มอาเจียนฉินเหยี่ยนเย่ว์หัวเราะหนักมากจนตัวไหว“เห็นพวกเจ้าก่อความวุ่นวายจนมีความสุขกันขนาดนี้ ข้าก็รู้สึกวางใจ” ภายในเรือน มีเสียงที่มั่นคงและทรงพลังดังมาครั้นได้ยินเสียงนี้ฉินเหยี่ยน
ใบหน้าของตงฟางหลีมืดทะมึนทั้งใบหน้าเขาเดินไปขวางอยู่ตรงหน้าฉินเหยี่ยนเย่ว์พลางเย้ยหยัน “ลู่จิ้น ท่านอย่าไร้ยางอายในวัยนี้เลย”“ข้าแก่ตรงไหนกัน ข้าเพิ่งสามขวบกว่าเท่านั้นเอง” ลู่จิ้นโกรธจัด“อ้อ? อายุแค่สามขวบกว่าหรือ? งั้นหนึ่งร้อยปีนั่นท่านต้องใช้ชีวิตเป็นสุนัขแน่นอน ไม่แปลกใจเลยที่ท่านไร้ยางอายขน
“ยังมีอะไรอีก?” น้ำเสียงของตงฟางหลีเปลี่ยนเป็นเย็นชา“เขายังมัดหม่อมฉันไว้บนแท่นเปื้อนเลือด และอยากจะปู้ยี่ปู้ยำหม่อมฉันด้วย” ฉินเหยี่ยนเย่ว์มองความโกรธในก้นบึ้งดวงตาของตงฟางหลี และรีบพูด “ท่านอย่ากังวล เขาไม่ได้แตะต้องหม่อมฉันเลย”นางเผยฟันเรียงขาว “ตอนที่เขาอยากจะถอดเสื้อผ้าของหม่อมฉัน หม่อมฉันก็ต