เมื่อการถวายของขวัญจบลงแล้วนั้นลู่จิ้นก็ยังมิปรากฏตัวออกมาเหล่าผู้คนมากมายกำลังรอคอยสัญญาณเริ่มงานเลี้ยงทว่า ฝ่าบาทเพียงแค่นั่งอยู่บนบัลลังก์ด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมฝ่าบาทหาได้เอ่ยอันใดออกมาไม่ ทุกคนเองก็มิกล้าที่จะเคลื่อนไหวอันใดเช่นกันพร้อมทั้งบรรยากาศที่เริ่มตึงเครียดขึ้นมาเวลาผ่านไปเนิ่นนาน
หากไม่กินตอนนี้ เกรงว่ากว่าจะได้กินอีกทีคงต้องรอถึงกลางดึกเป็นแน่ไม่สู้แบ่งเค้กเสียก่อน หากว่าอยากกินอีกเมื่อใด ก็ค่อยจับเจ้าเจ็ดเป็นตัวประกันเอาไว้ เพื่อบังคับแม่หนูเหยี่ยนเย่ว์ทำเค้กรสชาติใหม่ขึ้นมาก็ย่อมได้“ได้” ฮ่องเต้ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าอย่างเห็นด้วยฉินเหยี่ยนเย่ว์จึงตัดเค้กท
ภายในท้องพระโรงใหญ่อันเงียบงัน ผู้คนเปล่งเสียงด้วยความตื่นตะลึงออกมาไม่หยุดตอนที่ทุกคนกำลังตื่นตะลึงกันอยู่นั้น ฉินเหยี่ยนเย่ว์ก็ดึงฉากกั้นลมออกทันทีทุกคนจึงรีบหันไปมองพวกเขาจึงได้เห็นว่า ด้านในฉากกั้นลมนั้นยังไม่มีสิ่งของอะไรเลยสักอย่างเงานั้นก็เป็นเพียงเงาของหอผลึกแก้วที่สะท้อนบนฉากกั้นบังลมเท
พี่แปดชื่อนี้ เกรงว่าเป็นเสด็จแม่คงจะกำลังกลั่นแกล้งเขาอยู่ถึงได้ตั้งชื่อนี้ให้เขาต้องเป็นบุตรชายแท้ ๆ แน่นอน!“พี่สะใภ้เจ็ดนิสัยดีมาก นางเป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตข้า เป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตพี่เก้า ทั้งยังเป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตพระสนมเหยาไว้ด้วย ไม่อนุญาตให้ท่านพูดไม่ดีกับพี่สะใภ้เจ็ดอีก” ตงฟางอิง
มองจากด้านจิตวิทยาแล้ว หลังจากเสียงฉินที่ไม่น่าฟังดังขึ้น ความสนใจของคนจักย้ายมาที่สายฉินโดยไม่รู้ตัวบังเอิญกับที่ วิธีการดีดของนางนั้นดูไม่เชี่ยวชาญทั้งยังเก้ ๆ กัง ๆ หากแต่คนส่วนใหญ่ที่อยู่ในท้องพระโรงมีความสามารถด้านดนตรีทั้งนั้นเมื่อคนที่เชี่ยวชาญมาเจอกับคนที่ไม่สันทัดการดีดฉินเช่นนาง ความสนใจ
ฮ่องเต้พลันตื่นตะลึงไปทันทีภาพวาดสองภาพนี้ ชัดเจนมากว่าเป็นสัญลักษณ์ของแสงและเงาแห่งราชวงศ์ตงลู่ซึ่งก็คือเขากับอ๋องอี๋หยางนั่นเองตงฟางหลีประสานมือ “วันนี้เป็นวันพระราชสมภพของเสด็จพ่อ ขณะเดียวกันก็เป็นวันเกิดของเสด็จอา ลูกจึงตั้งใจขอภาพวาดสองภาพมาจากท่านหยวนจื่อ ขอให้เสด็จพ่อมั่นคงชั่วนิรันดร์ พระ