“ทำได้หรือเพคะ” ไป๋โค้วเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง“น่าจะได้ละมั้ง แรงข้ามีไม่พอ เจ้ามาลองดูสิ”“เพคะ” ไป๋โค้วจึงทำตามขั้นตอนของฉินเหยี่ยนเย่ว์ นั่นคือการแงะออกแรงไม่มาก หินที่มีน้ำหนักมากเป็นพิเศษก้อนนั้นก็เคลื่อนออกไปได้หลายส่วน“พระชายา นี่ นี่จะน่าอัศจรรย์เกินไปแล้วเพคะ” ไป๋โค้วออกแรงเล็กน้อยอีกครั
“พระชายา แมวขาวหนีไปแล้วเพคะ” ไป๋โค้วไร้คำพูดจะเอ่ย “ตอนนี้พวกเราทำอย่างไรดี?”ฉินเหยี่ยนเย่ว์ใช้นิ้วมือนวดที่หว่างคิ้วแมวขาวตัวนี้ไม่น่าเชื่อถือเลยจริง ๆ ฟังคำสั่งไม่เข้าใจไม่ว่า ยังวิ่งหนีไปอีก!นางไม่เข้าใจเลยว่า เหตุใดพระสนมเหยาถึงต้องการให้นางพาแมวขาวมาด้วยแถมยังบอกด้วยว่าอาศัยมันแล้วจะหาตัวเ
มีคำสั่งล่วงหน้าของฉินเหยี่ยนเย่ว์ เมื่ออยู่ต่อหน้าหวงกุ้ยเฟย ไป๋โค้วจึงมิได้ปริปากพูดใด ๆกว่าจะออกจากห้องบรรทมของหวงกุ้ยเฟยมาได้ ไป๋โค้วถึงได้ถอนหายใจออกมายาวเหยียด“พระชายา หม่อมฉันสังเกตเห็นถึงกลิ่นอายที่ทำให้รู้สึกไม่สบายสายหนึ่ง...”นิ้วของฉินเหยี่ยนเย่ว์วางทาบทับบนริมฝีปากของนาง ก่อนใช้คางพยั
“หม่อมฉันแนะนำให้หวงกุ้ยเฟยพักรักษาตัวให้ดีเถิดเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ยิ้มอย่างเย็นชากลางวันแสก ๆ หากแต่หวงกุ้ยเฟยผู้นี้คิดจะลงมือในตำหนักชิงเฟิง ไม่รู้ควรจะบอกว่านางโง่เขลา หรือควรบอกว่านางไร้ซึ่งความเกรงกลัวดี“เรื่องบางเรื่อง ตราบใดที่เริ่มต้นไปแล้วก็ไร้ทางให้กลับแล้ว”“หม่อมฉันไม่อยากจะพูดอะไรอ้อ
“ไม่มีอะไรหรอกเพคะ เพียงแค่รู้สึกว่าหวงกุ้ยเฟยมีแรงดึงดูดบางอย่างที่มิอาจอธิบายได้เท่านั้น” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ยิ้มแย้มเอ่ยขึ้น “อย่างเช่น คนที่มีความสัมพันธ์กับหวงกุ้ยเฟยอย่างลับ ๆ ท้ายที่สุดก็กลายเป็นคนบ้าโดยไม่เว้นแม้แต่คนเดียวเหล่านั้น” “เรื่องนี้พิกลนัก คนคนหนึ่งอยู่ดี ๆ จะกลายเป็นบ้าไปโดยไร้มูลเ
“หม่อมฉันก็ต้องเชื่อฟังคำสั่งแล้วเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พูด“พูดกันตามตรง ครานี้หม่อมฉันมาโดยที่มิได้ถูกเชื้อเชิญ เป็นเพราะว่ามีเรื่องจะรบกวนจริง ๆ มิทราบว่าหวงกุ้ยเฟยเคยเห็นแมวดำตัวหนึ่งหรือไม่? มันตัวอ้วนมาก รูปร่างแข็งแรง แล้วก็มีสีหน้ารังเกียจเดียดฉีนด้วย”“แมวของหม่อมฉันหายไป หม่อมฉันอยากจะตามหาม
เมื่อกล่าวเช่นนี้ นางไม่อาจพูดปฏิเสธได้อีกต่อไปเมื่อไม่นานมานี้ยามที่พระพันปีประชวรหนัก ฉินเหยี่ยนเย่ว์เป็นผู้ที่ช่วยกลับจากความตามถึงสองครั้งสองหนไม่จำเป็นต้องพูดถึงทักษะการแพทย์ของฉินเหยี่ยนเย่ว์เลยหากให้นางจับชีพจรละก็...“หวงกุ้ยเฟย?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์นั่งลงไปด้วยตัวเองไม่ต้องให้มีใครเชิญ “พระอ
ไป๋โค้วสับสน “แต่พระชายา พวกนางดูไม่ค่อยเป็นมิตรเลย”ฉินเหยี่ยนเย่ว์เพียงแค่ยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไรนางเดินไปข้างหน้าอีกสองสามก้าวไป๋โค้วร้อนใจเล็กน้อย “พระชายา!”ในขณะที่ไป๋โค้วพร้อมที่จะปกป้องฉินเหยี่ยนเย่ว์ และโจมตีพี่น้องฝาแฝดได้ทุกเมื่อก็ได้ยินเพียงเสียง “กริ๊ก” สองพี่น้องไร้อารมณ์ก็เปิดประตูทั้
ท่าทีของนางกำนัลเปลี่ยนไปเล็กน้อยเคยได้ยินมานานแล้วว่าฉินเหยี่ยนเย่ว์รับมือได้ยาก เมื่อได้พบวันนี้ จึงค้นพบว่านางไม่เพียงแต่เป็นคนที่รับมือยากเท่านั้น ยังพูดเองเออเองด้วย“พระชายาอ๋องเจ็ด หวงกุ้ยเฟยได้เสวยยาและบรรทมแล้ว พระองค์โปรดกลับไปเถิด”“ไม่เป็นไร ข้าจะปลุกนางเอง” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ยิ้มเต็มใบหน้