Share

เริ่มชีวิตใหม่2

last update Last Updated: 2024-11-04 15:36:21

เช้าแล้วสามคนนายบ่าวตื่นขึ้นมาด้วยสีหน้าสดชื่น แม้จะอยู่ห่างไกลจวนหลักแต่กลับมีความสุขมากกว่าที่เคยอยู่ที่นั่น

เสี่ยวเถายังติดใจรสชาติปลาย่าง ปกติมีแค่ซาลาเปาแข็งๆกับน้ำข้าวต้ม ชายารองแต่งมาทีหลังเพียงครึ่งเดือนแต่กลับซื้อคนในจวนไปได้หลายคน

หนานกงเยี่ยไม่อยากสนใจเรื่องหลังบ้านเขาให้แม่นมของเขาจัดการ ชายารองแม้จะซื้อบ่าวในจวนได้แต่ไม่สามารถซื้อแม่นมของเขาได้

"พระชายา เหตุใดล้างแป้งออกเล่าเพคะ หากใครมาเห็นใบหน้านี้อาจมีคนไม่หวังดีได้ ตอนนี้เราอยู่ข้างนอกตำหนักด้วยนะเพคะ"

เสี่ยวเถาเห็นใบหน้างามก็กังวลใจทันทีจางซูฉีงดงามมาก หากไม่เพราะตกน้ำไปตอนสิบขวบจากนั้นนางก็กลายเป็นคนสติไม่ดี ทั่วแคว้นอู๋นี้คงไม่มีใครงดงามเท่านางอีกแล้ว

"เสี่ยวเถาคนงามเจ้าดูสิ จะมีใครมากันหญ้าท่วมหัวเพียงนี้ ถ้าไม่ใช่สืออินกับสือห่าวมีวิชาตัวเบา จะฝ่าดงหญ้าคาเอาเจ้ากับข้ามาโยนไว้ที่นี่ได้หรือ เมื่อข้าเห็นมีพืชอยู่หลายต้นลองหาดูเถอะเผื่อมีอะไรให้กิน จากนี้ไปประตูหลังตำหนักทางยาวเกือบห้าลี้มีแต่หญ้าคาสูงท่วมหัว ไม่มีใครดั้นด้นมาส่งข้าวส่งน้ำหรอก"

"กินกันเถอะ จะได้เข้านอนเอาแรง ดูท่าฝนคงตกอีก เราโชคดีเจอเทียนไขแล้วคืนนี้คงดีหน่อย หน้าต่างทีแตกข้าก็ซ่อมแล้วไม่มีลมพัดเข้ามาแล้วล่ะ"

"ฮือๆๆๆๆ พระชายาพอท่านหายดีทำให้เสี่ยวเถาดีใจมากเลยเพคะ ตอนนี้ท่านยังมีความสามารถอีก "

"กินข้าวๆ จะได้รีบเข้านอนเดี๋ยวฝนตกแล้ว พรุ่งนี้จะได้ถางหญ้าบริเวณบ้านเอาห่างจากบ้านสักด้านละห้าเมตรก็พอ"จางซูฉีดูเด็กสาว

"ข้าหมายถึงห่างบ้านด้านละสองจั้งก็พอ ที่เหลือก็ให้มันสูงบังบ้านพวกเราอย่างนั้นแหละดีแล้ว จะได้ไม่มีคนมาวุ่นวาย"

ทั้งสามคนกินปลาย่างเหมือนเดิม ใจจริงอยากสำรวจบริเวณบ้านอีกหน่อยแต่เพราะฝนตั้งเค้ามาแล้วจึงต้องล้มเลิก

จางซูฉีตื่นแต่เช้าเมื่อคืนพวกนางหลับสบายเพราะผ้าปูเตียงใหม่ ผ้าห่มผืนใหม่ ประตูถูกซ่อมแล้ว บ้านหลังนี้แข็งแรงปลูกสร้างอย่างดี

เพียงแค่ทิ้งร้างนานเกินไป เสื้อผ้าเหล่านั้นแก้ไขสักหน่อยก็น่าจะเหมาะกับพวกนางสามคน จางซูฉีเดินสำรวจด้านข้างที่เห็นมีพืชล้มลุกอยู่ มีพริก มะเขือยาว เถาฟักทอง มีแตงกวา แตงโมที่เพิ่งจะทอดยอดเลื้อย

ฟักทองลูกอวบอ้วนหลายลูก ดูท่าคงเคยเป็นแปลงผักมาก่อน เมล็ดพันธุ์คงปลิวกระจัดกระจาย มื้อเช้านี่ฟักทองนึ่งก็แล้วกัน เสี่ยวเถากับเสี่ยวจูกำลังซักเสื้อผ้าอยู่ริมลำธาร พระชายาบอกว่าให้เอาของเก่าไปซักนางจะเอามาตัดเย็บเป็นม่านบังแสง ส่วนของใหม่ที่เจอเมื่อวานก็ต้องซักก่อน เพราะเก็บไว้นานแล้ว

"พี่ ข้ารู้สึกว่าอยู่ที่นี่ดีกว่าตอนอยู่ที่ตำหนักอีก พระชายาก็หายแล้วด้วย"เสี่ยวจูเอ่ยขึ้นมา เสี่ยวเถาเองก็เห็นด้วย

"อืม นางตกน้ำตอนสิบขวบฟื้นขึ้นมาก็กายเป็นคนสติไม่ดี วันแต่งยังถูกทำให้หวาดกลัวอีก ดูเหมือนที่ตกน้ำอีกครั้งคราวนี้โชคดีกว่าโชคร้ายนะ"

"มิใช่ว่าวันดีคืนดีท่านอ๋องให้คนมาหาที่นี่นะ ข้าไม่อยากกลับไปแล้ว"

จางซูฉีที่เพิ่งเดินมาถึงได้ยินบทสนทนาของสองพี่น้องก็ถอนหายใจ

"ไม่ต้องกลัวหรอกไม่มีใครมาแน่ เรือนแห่งนี้ถูกทิ้งมาสิบกว่าปี องครักษ์ของเขาโยนพวกเรามาที่นี่ คนในจวนสันนิษฐานได้อย่างเดียวว่า เจ้านายของพวกเขาต้องการให้พวกเราอดตายอยู่ที่นี่เพราะฉะนั้นไม่มีใครมาแน่ เก็บเงินเก็บทองสักพักแล้วพวกเราค่อยไปจากที่นี่กันเถอะ เขารังเกียจข้าถึงเพียงนั้น ไม่มีทางคิดถึงข้าขึ้นมาหรอก ข้าเจอพืชผักหลายอย่าง เมื่อก่อนอนุเหวินกับสาวใช้คนนั้นพวกเขาคงเคยปลูกไว้ พอแก่ไม่มีใครมาเด็ดเมล็ดคงหล่นร่วงพอได้น้ำฝนก็งอกเงยใหม่ บ้านนี้แยกจากตำหนักใหญ่โดยสิ้นเชิง ข้าเจอรั้วอิฐล้อมไว้อีกชั้น เดี๋ยวพวกเราไปดายหญ้ากัน"

หลังจากกินมื้อเช้าเสร็จทั้งสามคนช่วยกันดายหญ้าที่ขึ้นสูง ใช้เวลาทั้งวันหญ้าบริเวณบ้านก็ถูกกำจัดจนหมด จางซูฉีนำหญ้าคามาวางแผ่ตากเอาไว้ นางจะนำมาทำหลังคาคลุมแปลงผักในอนาคต

"ข้าจะเดินสำรวจหน่อยว่ามีประตูหรือทางออกตรงไหนบ้าง ตอนแรกข้าว่าจะถางออกไปสักห้าจั้งเพราะกลัวไฟไหม้ ตอนนี้มีกำแพงล้อมก็ไม่ต้องกังวลแล้ว หากเจอทางออกที่ไม่ต้องไปทางตำหนักหน้าจะดีมาก"

จางซูฉีบอกแก่สาวใช้ทั้งสอง และก็เดินสำรวจ นางพบประตูสามบานบ้านใหญ่ด้านหน้าเปิดสำหรับตรงไปจวนใหญ่แต่เมื่อเปิดไปก็เจอแต่ดงหญ้าคา

อีกบานด้านข้างเปิดออกไปก็สามารถขึ้นเขาได้ อีกบานเป็นบานเล็ก สามารถเลาะทางเล็กไปที่ไม่มีใครสังเกตไปในตัวตลาดของเมืองหลวงได้

จางซูฉีลองเดินตามทางไปปรากฏว่าไปโผล่หลังร้านขายผ้า จากจวนมาถึงนี่น่าจะสามลี้ อีกอย่างคดเคี้ยวมากไม่มีคนเดินเข้าออกมานานแล้ว จางซูฉีรีบกลับทางเดิมทันทีเดินกลับมาถึงก็จัดการอาหารเย็น

"พรุ่งนี้ขึ้นเขาสักหน่อยดีกว่า หาเนื้อกินก็ยังดี ลองหาสมุนไพรไปขายสักหน่อยเผื่อซื้อข้าวสารมาหุง"จางซูฉีบอกกล่าว

"พระชายา หากมีใครจำได้เล่าเพคะ"

"อืม พี่ใหญ่พูดถูกหากมีคนจำได้ท่าจะถูกตีอีกนะเพคะ"

จาวซูฉีลูบหัวสองพี่น้อง พวกนางเติบโตมาด้วยกัน นางอายุสิบหก ส่วนเสี่ยวเถาอายุสิบห้า เสี่ยวจูอายุสิบสี่ เล่นกันมาตั้งแต่พวกนางเจ็ดขวบคนน้องหกขวบ จางซูฉีเอ็นดูเด็กทั้งสอง

"ต่อไปนี้ห้ามเรียกพระชายา เพราะข้าไม่ใช่แล้ว เรียกข้าว่าพี่ใหญ่ เสี่ยวเถาเป็นพี่รอง เสี่ยวจูเจ้าเป็นน้องเล็กเข้าใจไหม มีเงินอยู่ห้าตำลึง ข้าจะไปซื้อข้าวสาร อีกอย่างข้ามีวิธีให้คนจำไม่ได้ ตอนนี้นอนก่อนเถอะ"

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ท่านอ๋องเย็นชาและภรรยาแสนซน   ครองรักทุกพบชาติ

    แดนเซียนควันสวีทองลอยขึ้นมายังด้านบนก่อนจะลอยเข้าสู่หว่างคิ้วของหนานกงเยี่ยเทพสงครามที่นั่งรอพระชายาตนอยู่ปากถ้ำ ทันทีที่ดวงจิตเข้าสู่ร่างเขาก็รู้ทันทีว่ามหาเทพถือกำเนิดในแดนมนุษย์แล้วชายาของเขานางกำลังจะออกมาจากการกักตนเพื่อหนีหน้าเขาแล้ว ประตูหินค่อยเลื่อนออกควันสีทองลอยเข้าไปยังด้านในเข้าสู่กลางหว่างคิ้วของเทพบุปผา ไม่นานชิงเหลียนที่หน้าตาเหมือนกันกับจางซูฉีที่แดนมนุษย์ก็เดินออกมาจากด้านใน นางเห็นสวามียืนรอก็เดินตรงมาหา เทพสงครางกางแขาออกให้ชายารักเดินเข้ามาสู่อ้อมกอดเทพบุปผาซบหน้ากับอกกว้าของเขาพร้อมเอ่ยเบาๆ"ฝ่าบาท หม่อมฉันผิดไปแล้ว ที่ผ่านมาหนีหน้าพระองค์ ไร้เหตผลต่อจากนี้จะไม่ทำอีกแล้วเพคะ ตอนอยู่แดนมนุษย์เคยเกือบเสียพระองค์ไปหม่อมฉันรู้แล้วว่าความเจ็บปวดนั้นเป็นเช่นไร""ข้าไม่โกรธเจ้า คนงามของข้าๆเตรียมเรือเรียบร้อยแล้ว รอเจ้าออกมาจากด่านเราจะไปล่องเรือกัน เราจะล่องจากตำหนักเหลียนฮวาาจนไปถึงดินแดนประจิม แล้วจากนั้นข้าจะพาเจ้าไปทะเลตะวันออกดีหรือไม่ หืม""เพคะ หม่อมฉันตามใจพระองค์ ฝ่าบาทชิงเหลียนรักพระองค์เพคะ""คนงามข้าก็รักเจ้า ชิงเหลียนคนดีของข้า"ทั้งคู่ล่องเรือไปตามสระบั

  • ท่านอ๋องเย็นชาและภรรยาแสนซน   กำเนิดบุตรชาย2

    ท้องฟ้าเหนือแคว้นอู๋มีสายรุ้งปรากฎถึงเก้าสาย อีกยังมีเหล่านกน้อยบินวนรอบตำหนักเหมยฮวา ท้องฟ้าเป้นสีทองก้อนเมฆสีรุ้งงามตานัก จากนั้นด้านในจางซูฉีก็คลอดเด็กกออกมา อุแว้ๆๆๆๆ ไม่นานก็มีเสียงทารกดังออกมา"ท่านอ๋อง ไท่จื่อเป็นซื่อจื่อน้อยเพคะ หน้าตาละม้ายท่านอ๋องยิ่งนักเพียงแต่ว่า" แม่นมพูดค้างไว้จนทุกคนมองหน้ากัน หนานกงเยี่ยร้อนใจจึงเอ่ยถาม"แต่ว่าอะไรแม่นมเฟิ่ง ท่านพูดออกมาให้หมด""แต่ว่าเส้นผมของซื่อจื่อน้อยไม่ได้ดกดำเพคะ แต่เป็นสีเงินยวงราวกับหิมะเลยเพคะ เสียงร้องดังมากแปลว่าแข็งแรงดี""ทันทีที่แม่นมเอ่ยจบหนานกงเยี่ยก็รู้ทันทีว่าหน้าที่ของพวกเขาในแดนมนุษย์นั้นสมบูรณ์แล้ว รอเวลาจิตวิญญาณเขาและนางกลับแดนเซียนเท่านั้นหนึ่งชั่วยามต่อมาทุกคนจึงได้รับอนุญาตให้เข้าไปดูจางซูฉีกับบุตรชายได้ หนานกงเยี่ยเห็นหน้าบุตรชายก็ถอนหายใจ เขาต้องเป็นบิดาของคนที่เอาแต่ใจที่สุดในแดนสวรรค์จริงๆหรือ จากนั้นก็ก้มลงไปจุมพิตหน้าผากน้อยๆเบาก่อนจะกระซิบ"ฝ่าบาท อย่างไรก็เป็นบุตรกระหม่อม ดื้อรั้นให้น้อยลงหน่อยนะพ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉันมีสิทธิ์ตีก้นพระองค์ได้นะพ่ะย่ะค่ะ"ก่อนที่ทารกน้อยจะลืมตาทันทีจ้องหน้าคนที่เพิ่งข่มขู่เ

  • ท่านอ๋องเย็นชาและภรรยาแสนซน   กำเนิดบุตรชาย 1

    หนานกงเช่อไปแล้วบรรดาสาวนั่งจับกลุ่มคุยกันไม่หยุด แต่ละคนอุ้ยอ้ายจนดูน่ารักไปหมด เฉินลี่จูที่ถูกเยี่ยผิงอันอุ้มลงจากรถม้าเดินมาส่งที่ด้านในตำหนักก็อายหน้าแดง"ท่านอาปล่อยข้าลงเดินเองก็ได้นะเจ้าคะ ไม่ได้ไกลสักนิด""เมียจ๋า ดูพื้นสิขรุขระขนาดนี้ หากไม่ระวังอาจหกล้มได้ ไม่รู้ว่าเยี่ยอ๋องทรงคิดเช่นไรถึงได้ปูหินให้มีร่องห่างกัน พื้นไม่เสมอพระชายาก็กำลังตั้งครรภ์ไม่รู้จักระวังเลย"จางซูฉีขำกับความห่วงเมียคลั่งรักเมียของเยี่ยผิงอันหากบอกว่าท่านอาลู่จงได้เมียเด็กก็ไม่ถูกนัก อาลู่อายุสี่สิบ จูชุ่ยชุ่ยอายุย่างสิบแปด แต่เยี่ยผิงอันสี่สิบห้าย่างสี่สิบหก ส่วนเฉินลี่จูอายุสิบหก นางเด็กที่สุดในบรรดาเมียๆของเหล่าบุรุษแห่งวังหลวงเลยล่ะ"ใต้เท้าเยี่ย หากพื้นปูติดๆกันไม่มีร่อง ยามหิมะตก หรือฝนตกพื้นจะลื่น ร่องช่วยให้เวลาเดินไม่ลื่นน่ะ ลี่จูมานั่งกับพี่ก่อน เสี่ยวหรันกับชิงชิงน่าจะกำลังมา""เพคะพระชายา อ้อพี่ผู่เย่วท่านตั้งครรภ์อีกแล้วหรือเจ้าคะ ใต้เท้าสวีจะขยันเกินไปหรือไม่ คนโตยังไม่ได้ขวบเลย คิกๆๆ"ในบรรดาเด็กรุ่นน้องสามสาวแห่งสกุลจิน สกุลเฉินและสกุลว่านนี่คือแสบที่สุด ต่อยตีกับบุรุษไม่เว้นแต่ละวัน"พ

  • ท่านอ๋องเย็นชาและภรรยาแสนซน   เตรียมให้กำเนิด

    เมืองหลวงที่ไม่เคยหลับไหล โคมไฟเรียงรายห้อยเต็มหน้าร้านหน้าบ้านที่ปลูกติดกันยามลมพัดแกว่งไกวไปมาบรรยากาศในเมืองหลวงมีแต่ความสุข ฮ่องเต้กำเนิดพระธิดาสองพระองค์ อีกทั้งตอนนี้ฮองเฮาก็กำลังทรงพระครรภ์ได้สามเดือนแล้วตั้งแต่มาถึงเมืองหลวง ตระกูลหลักหลายตระกูล ตระกูลหลี่ ตระกูลว่าน ตระกูลสวี ตระกูลจิน และตำหนักอ๋องทั้งสอง รวมถึงตำหนักบูรพาขององค์รัชทายาท ต่างจัดเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ เพราะพระชายาไท่จื่อ พระชายาเยี่ยอ๋อง และชินอ๋องรวมถึงบรรดาฮูหยินของใต้เท้าทั้งหลายนั้นตั้งครรภ์พร้อมกันตำหนักบูรพารัชทายาทหนานกงอินกำลังรักเมียสาวอยู่อย่างนุ่มนวลอ่อนโยน เสียวครางแสนหวานของเจียงฟางซินทำให้เขายิ่งรักนางยิ่งขึ้น"ไท่จื่อ เมียไม่ไหวแล้วเพคะพอเถอะ อื้อ ลูกดิ้นอีกแล้วพระองค์ก็ไม่ยอมเลิกสักที ลูกในท้องงอแงแล้วนะเพคะ อร๊าย หนานกงอินเสียวนะ อย่างัดแบบนี้สิคนบ้าข้าตั้งครรภ์อยู่นะ""บอกมาก่อนว่ารักพี่เด็กดีพูดเร็ว ตั้งแต่เข้าหอมาจนถึงวันนี้ยังไม่บอกว่ารักพี่เลย พูดมาคนดี อืม เสียวจริงๆเมียจ๋า อยากให้ผัวเลิกต้องบอกรักผัวก่อน อ่าา""อื้อ รักเพคะ หม่อมฉันเจียงฟางซินรักหนานกงอิน อร๊าย หม่อมฉันเสร็จอีกแล้ว

  • ท่านอ๋องเย็นชาและภรรยาแสนซน   ถึงเมืองหลวง

    ขบวนเดินทางมาได้ครึ่งเดือนแล้ว แวะพักบางจุดเนื่องจากทำผักดองแบะเนื้อรมควันไว้มากมาย อาหารการกินจึงไม่ลำบากมมากนักจางซูฉีไม่ต้องการให้หนานกงเยี่ยไปล่าสัตว์บนเขา ซึ่งอาจเกิดอันตรายได้คืนนี้พวกเขาแวะพักตรงริมน้ำใกล้เชิงเขา แต่จางซูฉีสั่งเดินทางต่อ หนานกงเช่อจึงไม่เข้าใจเหตุผลของนาง"ฉีเอ๋อร์ พ่อไม่เข้าใจที่เจ้าให้พวกเราเดินทางต่อ นี่ยามเซินแล้วกว่าจะสร้างกระโจมอีก ตรงนี้มีลำธารด้วยสะดวกสบายกว่าไม่ใช่หรือ""เสด็จพ่อ หากเป็นแม่น้ำลำธารที่ไม่อยู่ใกล้เชิงเขาลูกคงไม่ขัดหรอกเพคะ แต่ว่าลำธารนี้ทรงทอดพระเนตรสิเพคะ มีรอยเท้าสัตว์เต็มไปหมด แปลว่านี่เป็นแหล่งน้ำของพวกมัน อีกทั้งยังมีคราบเลือดเป็นจุดๆทั้งรอยเก่ารอยใหม่ แปลว่ามีสัตว์นักล่าด้วย ในขบวนมีคนท้องถึงเจ็ดคน แม้ว่าเหล่าบุรุษจะมีวรยุทธ แล้วนางกำนัลเหล่านั้นเล่าเพคะพวกนางอ่อนแอ เราเสียเวบาเดินทางอีกหน่อยก็ไม่ต้องเสี่ยง ลูกแค่ห่วงความปลอดภัยของทุกคน"เมื่อจางซูฉีชี้แจงเหตุผลจบ ทุกคนก็ยิ่งรีบเดินให้พ้นลำธารไวขึ้น ไม่นานก็เลยเชิวเขามาห้าลี้และเจอเข้ากับแม่น้ำเล็กๆสายหนึ่ง แม่น้ำสายนี้เรือเล็กสามารถสัญจรได้ จึงพากันหยุดพักที่ตรงนั้น"ฉีเอ๋อร์เหนื

  • ท่านอ๋องเย็นชาและภรรยาแสนซน   กลับเมืองหลวง

    ผ่านไปเดือนกว่ารถม้าที่สั่งทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตอนี้กำลังฝึกม้าที่จะนำมาใช้กับรถม้าอยู่ ใช้เวลาฝึกนานประมาณเกือบเดือน เพราะบรรดาคนที่นั่งในรถม้าคือเหล่าสตรีที่กำลังตั้งครรภ์จินเสี่ยวหรันที่ตอนนี้ไม่ต้องดูแลสวีไค่ไหยุนแล้ว เพราะเขาเริ่มไม่มีอาการแพ้ท้องแบบที่อาเจียนไม่หยุดแล้ว เหลือเพียงแค่ความอยากอาหารเท่านั้นส่วนว่านชิงชิงทุกวันนี้นางกลุ้มใจมาก ว่านอันสุ่ยไม่ยอมห่างนางเลยไม่ยอมให้เดิน ไปไหนก็อุ้มตลอดเวลา บางครั้งเขาก็งอแงเป็นเด็กน้อยห่างนางไม่ถึงชั่วยามก็ตามหาอีกแล้ว จนถูกฮ่องเต้เรียกไปต่อว่าหลายครั้งเพราะเสียงานเสียการ"ใต้เท้าว่าน เราว่าท่านรักเมียเกินไปหรือไม่ งานการมีไม่สนใจทำงานอยู่ดีๆหาเมียไม่เจอก็ทิ้งงาน เจ้ามันตาแก่หลงเมียเด็กจริงๆ""ฝ่าบาท กระหม่อมผิดไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ ต่อไปจะไม่ให้เกิดเรื่องเช่นนี้อีกพ่ะย่ะค่ะ"ว่านอันสุ่ยเสียงอ่อย แต่ฮ่องเต้ตรัสถูกต้องเขาหลงเมียจริงๆแต่แค่ไม่อยากยอมรับ"ใต้เท้าว่าน ข้าเองก็รักเมียไม่แพ้ท่าน แต่งานส่วนงานท่านต้องแยกแยะสักหน่อยนะ"หนานกงอินเยาะว่านอันสุ่ย เขาเถียงไม่ได้เพราะหนานกงอินเป็นถึงรัชทายาท ได้แต่บ่นอุบอิบๆเท่านั้น"ไท่จื่อ ทรงหลงพระ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status