Share

ข้าคิดดีแล้ว

Author: l3oonm@
last update Huling Na-update: 2025-07-15 00:39:07

“ตามที่ท่านเขียนไว้ ข้าขอชีวิตข้าคืน ในเมื่อท่านมิอาจปกป้องข้ากับลูกตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมาได้” เซี่ยถงวู่สะดุ้งตกใจกับแววตาของตู้เหลียนไม่น้อย ครั้งนี้ดูนางมิได้พูดเล่นเสียแล้ว ด้วยนางไม่เคยเอ่ยเรื่องนี้มาก่อนเลยสักครั้ง

“อาเหลียน เจ้าใจเย็นก่อนดีหรือไม่” เขาเดินเข้ามาจะจับแขนของนางไว้ แต่ก็ถูกนางเบี่ยงตัวหนี

“ไม่ ข้าเกือบเสียอวี้เออร์ไปแล้ว!!! ผู้ใดจะบอกได้ว่าครั้งหน้านางจะยังอยู่เป็นบุตรของข้าได้อีกหรือไม่” นางกรีดร้องออกมาสุดเสียง พร้อมทั้งร่ำไห้ออกมาอย่างปวดใจ

แม้จะรักผู้เป็นสามีมากเพียงใด แต่ก็ไม่อาจเท่ากับความรักที่มีให้กับบุตรไปได้ หากนางต้องเลือกเสียใครไป ขอเลือกเสียผู้เป็นสามีเสียยังจะดีกว่า

“แต่อวี้เออร์ก็ปลอดภัยแล้วมิใช่รึ” เขาขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ ทุกครั้งนางจะยอมอยู่เงียบๆ แต่เหตุใดครั้งนี้ถึงได้คิดจะพาบุตรออกจากตระกูลเขาไปได้

“ท่านยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน” นางเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา แล้วยิ้มเยาะความโง่เขลาของตนที่เลือกบุรุษเช่นเซี่ยถงวู่

“เกิดสิ่งใดขึ้นเจ้าคะ” เสียงหวานใสดังขึ้นที่หน้าประตูห้องโถงเรือนของตู้เหลียน เป็นสวีเหมยลี่ที่รู้เรื่องว่าทั้งสองคนมีปากเสียงกันจากบ่าวก็รีบร้อนมาดูให้เห็นกับตาทันที

“เจ้ามาทำไม” เซี่ยถงวู่หันไปเอ่ยถามอย่างไม่พอใจ เขาบอกสวีเหมยลี่ไว้แล้ว ว่าหากไม่มีเรื่องใดอย่าได้มาที่เรือนของตู้เหลียนเด็ดขาด คงเป็นสิ่งเดียวที่เขาแข็งข้อกับนาง

“ข้าได้ยินเสียงดังจากเรือนของน้องสาวจึงได้มาดูด้วยความร้อนใจ” นางเอ่ยออกมาอย่างเป็นห่วง

ตู้เหลียนได้แต่ยกยิ้มเยาะออกมา นางจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าสวีเหมยลี่ต้องการมาใส่ไฟเพิ่มเข้าไปอีก

“ในเมื่อท่านมาก็ดีแล้ว ข้าจะได้พูดครั้งเดียว หนังสือสัญญาแผ่นนี้มีตราประทับของบิดาข้ากับฮ่องเต้เป็นพยาน ข้าจะพาลูกออกจากตระกูลเซี่ย หากพวกท่านมิยินยอมก็รอรับราชโองการจากฮ่องเต้ได้เลย” นางเอ่ยเสียงเย็นออกมา

“จะ เจ้า หมายความเช่นไร” สวีเหมยลี่ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน แม้จะรู้ว่าตู้เหลียนเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องกับฮ่องเต้ แต่ไม่คิดว่าพระองค์จะลงนามประทับตราในหนังสือสัญญาของนางไว้ด้วย

“ข้ายอมลงให้ท่านมามากพอแล้ว หากพวกท่านยังไม่ยอมหาความจริงเรื่องที่อวี้เออร์ตกน้ำได้อย่างไร เรื่องนี้ข้าคงต้องไปรบกวนฝ่าบาทแล้ว” ตู้เหลียนเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่ยอม

ในเมื่อสวีเหมยลี่ชอบปล่อยข่าวเรื่องที่นางและบุตรสาวเป็นสตรีร้ายกาจ นางก็จะทำให้ได้เห็นถึงความร้ายกาจของนางเอง

“เจ้ากล้ารึ” สวีเหมยลี่กรีดร้องออกมา นางทำท่าจะพุ่งตัวเข้ามาทุบตีตู้เหลียน แต่ถูกเซี่ยถงวู่ขวางไว้เสียก่อน

สวีเหมยลี่นางจะยอมให้ค้นหาความจริงเรื่องที่เซี่ยหรูอวี้ตกน้ำได้อย่างไร ในเมื่อเป็นบุตรสาวของนางที่ผลักเซี่ยหรูอวี้ตกน้ำ ทั้งยังเป็นฝ่ายเรียกนางให้เข้ามาหาที่งานเลี้ยงน้ำชาด้วยตนเอง

“อาเหลียนเจ้าอย่าได้ทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ได้หรือไม่” เซี่ยถงวู่หันมาเอ่ยขอร้องนาง มือทั้งสองข้างก็ยังจับตัวของสวีเหมยลี่ไว้ไม่ยอมปล่อย

“คงจะมิได้ ท่านปล่อยให้นางรังแกข้ากับลูกมาเนิ่นนาน แต่หนนี้นางคิดจะฆ่าอวี้เออร์ให้ตกตาย ทนจะให้ข้าอยู่เฉยโดยไม่ทำอันใดรึ”

“แล้วนางตายหรือไม่เล่า!!!” สวีเหมยลี่ตะโกนออกมาอย่างหมดความอดทน

“หึ น่าขันนัก หากเป็นบุตรสาวของเจ้าที่โดนกระทำ มิใช่ว่าเจ้าจะวิ่งโร่ไปฟ้องตระกูลสวีของเจ้าแล้วหรอกรึ แล้วจะต่างอันใดหากข้าจะนำเรื่องนี้ขึ้นทูลฝ่าบาท เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม”

“กรี๊ดดดดด ข้าจะฆ่าเจ้าเสีย” สวีเหมยลี่เหมือนจะเสียสติไปแล้ว

เดิมที นางคิดจะมาเยาะเย้ยตู้เหลียนเรื่องที่บุตรสาวนางตกน้ำ ทั้งยังจะมาดูนางถูกเซี่ยถงวู่ตำหนิ แต่ไม่คิดว่าครั้งนี้ตู้เหลียนจะลุกขึ้นมาต่อกรกับนางเช่นนี้ได้

“ท่านพี่ ท่านจะว่าเช่นใด หากท่านไม่จัดการเรื่องนี้ให้ข้า ก็ต้องปล่อยข้ากับลูกไปเสีย” นางจ้องมองเซี่ยถงวู่อย่างไม่ถดถอย

ครั้งนี้นางรู้แก่ใจแล้ว แม้เซี่ยหรูอวี้นางจะเอ่ยเตือนเรื่องบิดาของนางไม่อาจจะทำตามคำขอของตู้เหลียนได้ พอมาฟังถ้อยคำด้วยตนเองนางเจ็บปวดจนด้านชาไปเสียแล้ว

เซี่ยถงวู่กัดฟันแน่น หากเขาสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นย่อมต้องมีปัญหากับตระกูลสวี แต่หากไม่ทำยังรั้งตู้เหลียนและบุตรทั้งสองไว้ที่จวนก็มีแต่จะสร้างปัญหา ดีไม่ดีเรื่องนี้อาจจะถึงหูของฮ่องเต้ จนทำให้ตำแหน่งขุนนางของเขาสั่นคลอนเป็นแน่

“เจ้าคิดดีแล้วใช่หรือไม่ สตรีที่ออกไปใช้ชีวิตลำพังต้องลำบากเพียงใดเจ้าก็รู้เรื่องนี้ดี” เขาข่มขู่นางให้นางหวาดกลัว หากต้องเป็นหม้ายย้ายกลับไปอยู่บ้านเดิม

“ข้าคิดดีแล้ว” แววตาของนางช่างว่างเปล่าจนเซี่ยถงวู่ภายในอกสั่นไหว

“เช่นนั้นข้าจะยอมให้เจ้าพาบุตรทั้งสองออกจากจวนไป” เขาหลับตาลงอย่างจำยอม แม้ไม่อยากเสียนางไป แต่ก็ไม่อาจเสียตำแหน่งหน้าที่ ทั้งไม่อยากมีเรื่องกับตระกูลสวีด้วย

“หึ ไสหัวของพวกเจ้าสามแม่ลูกไปให้เร็วเสีย” สวีเหมยลี่ยกยิ้มออกมาอย่างพอใจ

ครั้งนี้คงต้องยกความดีความชอบให้บุตรสาวของนางที่ช่วยกำจัดหนามตำใจออกไปได้

“ไม่ต้องห่วง ข้าจะออกเดินทางในวันพรุ่งนี้”

“แล้วอย่าได้นำข้าวของที่จวนของข้าไปเล่า” สวีเหมยลี่ไม่ยอมให้นางได้แบ่งทรัพย์สินออกไปอย่างแน่นอน

“ของเจ้ามีสิ่งใดที่ข้าต้องการ ในเมื่อสินเดิมของข้าคงมีมากกว่าสินเดิมที่ติดตัวเจ้ามาอีกกระมัง” ตู้เหลียนยิ้มเยาะออกมา

ตอนที่สวีเหมยลี่แต่งเข้าจวนตระกูลเซี่ย เซี่ยถงวู่ยังเป็นเพียงขุนนางต่ำต้อย หากมิใช่หน้าตาที่หล่อเหลาของเขา นางก็คงไม่คิดจะแต่งให้อย่างแน่นอน

ตระกูลสวีมิได้พึงใจในตัวบุตรเขยเช่นเซี่ยถงวู่มากนัก จึงให้สินเดิมแก่สวีเหมยลี่ติดตัวมาเพียงไม่กี่หีบ

“จะ เจ้า...”

“พอได้แล้ว กลับเรือนของเจ้าไปเสีย!!!” เซี่ยถงวู่เริ่มหมดความอดทนกับสวีเหมยลี่แล้ว

คนที่ร้ายกาจ คอยใส่ร้ายตู้เหลียนกับบุตรของนาง เขารู้มาตลอดว่าเป็นสองแม่ลูกสวีเหมยลี่และเซี่ยหรันเซียน แต่เพราะมีอำนาจตระกูลสวีที่หนุนหลังจึงไม่อาจจะจัดการได้ แต่ในยามนี้ไม่ใช่แล้ว ในเมื่อเขาต้องเสียคนรัก นางก็ควรจะสงบปากได้แล้ว

“ท่านก็กลับไปด้วย ข้าจะเก็บของ อ้อ...แล้วอย่าลืมหนังสือสัญญาตัดขาดข้าสามคนแม่ลูกเล่า ข้าจะให้แม่นมตามท่านไปรับที่ห้องตำรา” ตู้เหลียนหันหลังเดินกลับเข้าห้องของนางทันที โดยไม่ทันมองใบหน้าของเซี่ยถงวู่ที่มองนางอย่างเจ็บปวด

“นายท่าน เชิญเจ้าค่ะ” แม่นมตู้ผายมือให้เซี่ยถงวู่ออกจากเรือนของตู้เหลียนไป

“เพ้ย!!!” เขาเดินกระทืบเท้าออกไปอย่างไม่พอใจ

ตู้เหลียนปาดน้ำตาออกจากหางตาลวกๆ นางไม่ต้องการไปพบบุตรทั้งสองของนางเพื่อบอกเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งน้ำตา แต่ดูเหมือนว่าเซี่ยหยวนจะรู้เรื่องเสียแล้ว เขามาพบมารดาที่เรือนของนางด้วยความเป็นห่วง

“ท่านแม่” เขาเดินเข้าไปกอดปลอบมารดา

ตู้เหลียนสะอื้นไห้อยู่ภายในอกของบุตรชาย นางไม่ได้เข้มแข็งเช่นที่แสดงออกเมื่อครู่ นางก็ปวดใจไม่แพ้กัน ยิ่งรู้ว่าบุรุษที่นางรักไม่คิดจะปกป้องนางกับลูกเลย น้ำตาของนางก็ไม่อาจที่จะหยุดไหลได้

“แม่ไม่เป็นอันใดแล้ว เจ้ารีบไปเก็บของเถิด ยังต้องไปที่เรือนของอวี้เออร์เพื่อเก็บของให้นางอีก”

“เรื่องนี้ท่านไม่ต้องเป็นห่วง น้องบอกข้าก่อนที่จะออกมาจากเรือนของนาง ของมีค่าทั้งหมดนางจะเก็บไว้ในมิติ ท่านเพียงแค่เก็บเสื้อผ้าเท่านั้นก็พอ”

“อืม แม่เข้าใจแล้ว” นางเกือบลืมเรื่องมิติของบุตรสาวไปเสีย เช่นนี้ก็ดี ของมีค่าทั้งหมดจะได้ไม่ถูกรื้อค้นไปด้วย

นางไม่เคยบอกผู้ใดว่าสินเดิมของนางมีมากเพียงใด แต่ต่อให้ไม่มีมิติของหรูอวี้ ก็ไม่มีผู้ใดกล้านำของที่ฮ่องเต้พระราชทานไปอย่างแน่นอน

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ท่านแม่ทัพ จะเป็นพ่อเลี้ยงข้าหรือสามีข้ากันแน่   อย่าได้ล้ำเส้นเรื่องของข้า

    ตู้หยวนที่ยืนรอน้องสาวอยู่ภายในโรงพักม้า พอเห็นนางเดินเข้ามาจึงได้เอ่ยถามนางเรื่องที่เหตุใดถึงไม่ยอมเข้ามาเสียที“เจ้าทำสิ่งใดอยู่”“ข้าเอ่ยถามทหารเรื่องจะกลับเข้าเมืองเจ้าค่ะ”“เจ้าจะเข้าเมืองไปเพื่ออันใดอวี้เออร์!!!” เขาเอ่ยถามออกมาด้วยความตกใจด้วยเรื่องภายในจวนตระกูลเซี่ยที่เกิดขึ้น หากพิจารณาดีๆ แล้ว คงไม่แคล้วน้องสาวตัวดีของตนเป็นแน่ที่สร้างเรื่องวุ่นวายไว้"ข้าจะกลับไปเอาของอย่างไรเล่าท่านพี่”“เจ้าลืมสิ่งใด” ตู้หยวนมองน้องสาวอย่างระแวง“ข้าลืมของไว้ที่จวนตระกูลสวี” นางกระซิบบอกที่ข้างหูของตู้หยวน ก่อนจะยกยิ้มที่มุมปาก แล้วเดินขึ้นที่พักไปจ้าวลู่ฉือที่เดินมาทันเห็นแผ่นหลังของหรูอวี้เพิ่งจากไป พอเห็นใบหน้าที่ยังตกตะลึงของตู้หยวน เขาก็เกิดลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้นมา“น้องสาวเจ้าจะกลับเข้าเมืองหลวงเพื่ออันใด”“เอ่อ...นางลืมของขอรับ” เขาจะบอกได้อย่างไรว่าของที่นางลืมไว้ อยู่ที่จวนตระกูลสวี“เตือนนางด้วย ว่าอย่าได้กลับไป มิเช่นนั้นจะเกิดเรื่องยุ่งยากได้” ในยามนี้ภายในเมืองหลวงวุ่นวายไม่น้อยจ้าวลู่ฉือรู้มาจากเจ้าหน้าที่ทางการ จวนตระกูลเซี่ยโดนโจรเข้าปล้นคลังเก็บสมบัติ ทั้งฮูหยินและบุตรสา

  • ท่านแม่ทัพ จะเป็นพ่อเลี้ยงข้าหรือสามีข้ากันแน่   คิดว่าต้องการทำหน้าที่ของบิดา

    คำถามของจ้าวลู่ฉือ ทำให้ตู้เหลียนใบหน้าหมองเศร้าลง นางยังไม่ได้บอกเรื่องที่เกิดขึ้นให้บิดาได้รู้ นับตั้งแต่ออกเรือนก็ไม่เคยได้รับข่าวจากผู้เป็นบิดามารดาอีกเลย แม้จะส่งจดหมายไปขอขมาหลายครั้งแล้วก็ตาม“ยังเจ้าค่ะ ท่านพ่อไม่ตอบจดหมายข้าเลยสักครั้ง” นางเอ่ยเสียงเบาราวกับยุงบินผ่านออกมา“เจ้าอย่าได้กังวล ท่านอาจารย์ตู้มิได้โกรธเคืองเจ้าแล้ว”“ท่านรู้ได้อย่างไรเจ้าคะ” ตู้เหลียนเงยหน้าขึ้นมองจ้าวลู่ฉืออย่างสงสัย“ข้าหาเวลาแวะไปดูพวกท่านเสมอ เจ้าควรจะเขียนจดหมายส่งม้าเร็วไปแจ้งข่าวพวกท่านเสียหน่อย”“ขอบคุณท่านเจ้าค่ะ” นางมองเขาอย่างซาบซึ้งใจหรูอวี้ที่ยืนอยู่ไม่ไกลนักล้วนได้ยินทุกสิ่งที่ทั้งสองพูดคุยกัน หากมารดานางจะเปิดใจให้ท่านแม่ทัพจ้าวอีกครั้ง นางก็ไม่ขัดข้องด้วยเขาดูจะปักใจกับมารดาของนางไม่น้อย ถึงขั้นยังมิได้แต่งฮูหยินเข้าจวน“เอ่อ...ข้าเสียมารยาทแล้ว นี่บุตรสาวของข้าหรูอวี้ ส่วนนั้นบุตรชายข้าอาหยวนเจ้าค่ะ” ตู้เหลียนเห็นสายตาของจ้าวลู่ฉือที่มองไปทางหรูอวี้หลายหนจึงได้เอ่ยแนะนำนางขึ้นมา“คารวะท่านแม่ทัพจ้าวเจ้าค่ะ” นางย่อกายเล็กน้อย“อืม ไม่ต้องมากพิธี ข้าก็เหมือนกับพี่ชายของแม่เจ้า เรีย

  • ท่านแม่ทัพ จะเป็นพ่อเลี้ยงข้าหรือสามีข้ากันแน่   เล่นงิ้ว

    ชาวบ้านที่เห็นต่างมองดูด้วยความสงสาร หรูอวี้เห็นเช่นนั้น นางก็ร้องไห้เสียงดังยิ่งกว่าเดิม“ทะ ท่านดู สินเดิมของท่านแม่เหลือติดตัวไปเพียงน้อยนิด ที่ผ่านมาข้ากับท่านพี่ล้มป่วยก็เป็นท่านแม่ที่นำสินเดิมออกมาใช้จ่าย เงินเดือนที่สมควรได้ก็มิได้เช่นผู้อื่น แล้วพวกข้าจะขโมยของท่านได้อย่างไร”“ท่านตรองดูสักนิดเถิด ข้าถูกสั่งให้อยู่แต่ภายในจวน เหตุใดเรื่องความร้ายกาจของข้าและท่านแม่ถึงได้ถูกชาวเมืองเอาไปนินทากันจนสนุกปาก ข้ากับท่านแม่เคยร้องขอความเป็นธรรมหรือไม่”“วันนี้ที่ต้องออกจากจวนตระกูลเซี่ย กลับเข้าตระกูลตู้ ก็ด้วยข้าถูกรังแกจนเกือบจะรักษาชีวิตไม่ได้ ท่านแม่เห็นใจข้า กลัวว่าหากมีครั้งหน้าข้าคงต้องกลายเป็นวิญญาณจึงได้ขอร้องท่านให้ปล่อยพวกเราสามแม่ลูกไป” หรูอวี้ยังเล่นงิ้วของนางไม่เลิก ยิ่งมีคนเพิ่มขึ้น นางก็ยิ่งพูดสิ่งที่อยู่ในใจของเซี่ยหรูอวี้คนเดิมออกมาทั้งหมดภายในของหรูอวี้กำลังหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง นางไม่เคยแสดงด้านนี้ออกมาให้ผู้ใดได้เห็น เมื่อลองทำแล้วจึงรู้สึกแปลกใหม่และสนุกไม่น้อยเซี่ยหยวนแทบจะไปดึงน้องสาวกลับขึ้นรถม้า แม้รู้ดีว่านางกำลังเรียกร้องความเป็นธรรม พร้อมทั้งทิ้งปัญหาก้อ

  • ท่านแม่ทัพ จะเป็นพ่อเลี้ยงข้าหรือสามีข้ากันแน่   จะออกเดินทางไม่ได้!!!

    หลังจากที่กลับมาจากเรือนของเซี่ยหรันเซียนแล้ว นางก็มิได้กลับเข้าเรือนในทันที หรูอวี้กระโดดออกจากกำแพงจวน มุ่งหน้าไปยังจวนของบรรดาคุณหนูที่มาร่วมงานกันในวันนั้นตามความทรงจำเดิมของนาง มีเพียงสามคนเท่านั้นที่เข้ามาช่วยเซี่ยหรันเซียนผลักเซี่ยหรูอวี้ตกน้ำ นางเพียงแค่คิดจะไปเอาคืนให้เซี่ยหรันเซียนเล็กๆ น้อยๆ พอให้หายแค้นใจบ้างจวนทั้งสามแม้มีองครักษ์เช่นจวนตระกูลเซี่ยแต่ก็มิได้มีมากมายเท่า ทำให้นางเข้าไปด้านในได้อย่างสะดวก แต่กว่าจะหาเรือนของคุณหนูแต่ละคนพบก็เล่นเอาเวลาของหรูอวี้ไปไม่น้อยภายในห้องพักล้วนมีสาวใช้เข้ามานอนเฝ้าคุณหนูด้วย หรูอวี้กลัวว่าพวกนางจะตื่นขึ้นมาพบเสียก่อน จึงได้ทำเพียงใส่ยาเสียโฉม ที่นางมีในห้องเก็บของของนาง โรยไปที่ใบหน้าเท่านั้นยาตัวนี้มิได้รุนแรงมากนัก เพียงจะทำให้เกิดสิวหนองบนใบหน้า นางขอให้ห้องทดลองทำขึ้น เพื่อไว้เปลี่ยนรูปลักษณ์ยามที่ออกไปด้านนอก แต่ก็ยังไม่เคยได้ทดลองใช้จึงไม่รู้ว่าจะเกิดสิวหนองเพิ่มมากเพียงใดกว่าจะจัดการคุณหนูทั้งสามเสร็จ หรูอวี้ก็ไม่อาจไปที่จวนตระกูลสวีได้ แต่ละจวนมิได้อยู่ใกล้กัน ร่างกายของนางในร่างนี้ก็เพิ่งจะฟื้นตัว นางยังหมดเรี่ยวแรงที

  • ท่านแม่ทัพ จะเป็นพ่อเลี้ยงข้าหรือสามีข้ากันแน่   เอาคืนก่อนออกเดินทาง

    หรูอวี้นางไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นที่เรือนของมารดา เพราะนางหลับสนิทด้วยฤทธิ์ยา เมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้งฟ้าด้านนอกก็มืดสนิทเสียแล้ว“คุณหนูท่านตื่นแล้ว รับอาหารเลยดีหรือไม่เจ้าคะ” หรูอวี้มองสาวใช้ที่ดวงตาบวมเบ่ง เหมือนผ่านการร้องไห้อย่างหนักมาอย่างสงสัยแต่เมื่อนางเห็นหีบของที่อยู่ภายในห้องนอนของนาง จึงได้รู้ทันทีว่ามารดาตัดสินใจเช่นใด“ท่านแม่ จะออกเดินทางเมื่อใด” นางยังไม่ได้จัดการเรื่องของนางเลย“พรุ่งนี้เจ้าค่ะ คุณหนูท่านพาข้าไปด้วยได้หรือไม่” เสี่ยวซีเอ่ยถามอย่างคาดหวัง แต่นางเป็นบ่าวของตระกูลเซี่ยจึงไม่รู้ว่าจะติดตามเซี่ยหรูอวี้ไปได้หรือไม่“เจ้าอยากไปกับข้ารึ รู้หรือไม่ข้าอาจจะพาเจ้าไปลำบากก็ได้” นางเอ่ยถามอย่างเรียบเฉย“บ่าวไม่กลัวเจ้าค่ะ บ่าวยินดีติดตามคุณหนู ไม่ว่าหนทางข้างหน้าจะลำบากเพียงใด” เสี่ยวซีคุกเข่าลงอย่างอ้อนวอน“ได้ เจ้าพูดเอง ต่อไปหากลำบากเจ้าจะกล่าวโทษข้าไม่ได้เล่า” จากความทรงจำเดิมเสี่ยวซีซื่อสัตย์กับเซี่ยหรูอวี้ไม่น้อย มีเพียงนางที่ออกรับหน้าแทนแทบจะทุกเรื่อง แม้จะถูกเฆี่ยนตีนางก็ไม่ปริปากตำหนิเซี่ยหรูอวี้เลยสักครั้ง“ขอบคุณเจ้าค่ะคุณหนู” ที่นางร้องไห้จนตาปูดบวม

  • ท่านแม่ทัพ จะเป็นพ่อเลี้ยงข้าหรือสามีข้ากันแน่   ข้าคิดดีแล้ว

    “ตามที่ท่านเขียนไว้ ข้าขอชีวิตข้าคืน ในเมื่อท่านมิอาจปกป้องข้ากับลูกตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมาได้” เซี่ยถงวู่สะดุ้งตกใจกับแววตาของตู้เหลียนไม่น้อย ครั้งนี้ดูนางมิได้พูดเล่นเสียแล้ว ด้วยนางไม่เคยเอ่ยเรื่องนี้มาก่อนเลยสักครั้ง“อาเหลียน เจ้าใจเย็นก่อนดีหรือไม่” เขาเดินเข้ามาจะจับแขนของนางไว้ แต่ก็ถูกนางเบี่ยงตัวหนี“ไม่ ข้าเกือบเสียอวี้เออร์ไปแล้ว!!! ผู้ใดจะบอกได้ว่าครั้งหน้านางจะยังอยู่เป็นบุตรของข้าได้อีกหรือไม่” นางกรีดร้องออกมาสุดเสียง พร้อมทั้งร่ำไห้ออกมาอย่างปวดใจแม้จะรักผู้เป็นสามีมากเพียงใด แต่ก็ไม่อาจเท่ากับความรักที่มีให้กับบุตรไปได้ หากนางต้องเลือกเสียใครไป ขอเลือกเสียผู้เป็นสามีเสียยังจะดีกว่า“แต่อวี้เออร์ก็ปลอดภัยแล้วมิใช่รึ” เขาขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ ทุกครั้งนางจะยอมอยู่เงียบๆ แต่เหตุใดครั้งนี้ถึงได้คิดจะพาบุตรออกจากตระกูลเขาไปได้“ท่านยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน” นางเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา แล้วยิ้มเยาะความโง่เขลาของตนที่เลือกบุรุษเช่นเซี่ยถงวู่“เกิดสิ่งใดขึ้นเจ้าคะ” เสียงหวานใสดังขึ้นที่หน้าประตูห้องโถงเรือนของตู้เหลียน เป็นสวีเหมยลี่ที่รู้เรื่องว่าทั้งสองคนมีปากเสียงกันจากบ่าวก

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status