Share

ข้าคิดดีแล้ว

Author: l3oonm@
last update Last Updated: 2025-07-15 00:39:07

“ตามที่ท่านเขียนไว้ ข้าขอชีวิตข้าคืน ในเมื่อท่านมิอาจปกป้องข้ากับลูกตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมาได้” เซี่ยถงวู่สะดุ้งตกใจกับแววตาของตู้เหลียนไม่น้อย ครั้งนี้ดูนางมิได้พูดเล่นเสียแล้ว ด้วยนางไม่เคยเอ่ยเรื่องนี้มาก่อนเลยสักครั้ง

“อาเหลียน เจ้าใจเย็นก่อนดีหรือไม่” เขาเดินเข้ามาจะจับแขนของนางไว้ แต่ก็ถูกนางเบี่ยงตัวหนี

“ไม่ ข้าเกือบเสียอวี้เออร์ไปแล้ว!!! ผู้ใดจะบอกได้ว่าครั้งหน้านางจะยังอยู่เป็นบุตรของข้าได้อีกหรือไม่” นางกรีดร้องออกมาสุดเสียง พร้อมทั้งร่ำไห้ออกมาอย่างปวดใจ

แม้จะรักผู้เป็นสามีมากเพียงใด แต่ก็ไม่อาจเท่ากับความรักที่มีให้กับบุตรไปได้ หากนางต้องเลือกเสียใครไป ขอเลือกเสียผู้เป็นสามีเสียยังจะดีกว่า

“แต่อวี้เออร์ก็ปลอดภัยแล้วมิใช่รึ” เขาขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ ทุกครั้งนางจะยอมอยู่เงียบๆ แต่เหตุใดครั้งนี้ถึงได้คิดจะพาบุตรออกจากตระกูลเขาไปได้

“ท่านยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน” นางเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา แล้วยิ้มเยาะความโง่เขลาของตนที่เลือกบุรุษเช่นเซี่ยถงวู่

“เกิดสิ่งใดขึ้นเจ้าคะ” เสียงหวานใสดังขึ้นที่หน้าประตูห้องโถงเรือนของตู้เหลียน เป็นสวีเหมยลี่ที่รู้เรื่องว่าทั้งสองคนมีปากเสียงกันจากบ่าวก็รีบร้อนมาดูให้เห็นกับตาทันที

“เจ้ามาทำไม” เซี่ยถงวู่หันไปเอ่ยถามอย่างไม่พอใจ เขาบอกสวีเหมยลี่ไว้แล้ว ว่าหากไม่มีเรื่องใดอย่าได้มาที่เรือนของตู้เหลียนเด็ดขาด คงเป็นสิ่งเดียวที่เขาแข็งข้อกับนาง

“ข้าได้ยินเสียงดังจากเรือนของน้องสาวจึงได้มาดูด้วยความร้อนใจ” นางเอ่ยออกมาอย่างเป็นห่วง

ตู้เหลียนได้แต่ยกยิ้มเยาะออกมา นางจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าสวีเหมยลี่ต้องการมาใส่ไฟเพิ่มเข้าไปอีก

“ในเมื่อท่านมาก็ดีแล้ว ข้าจะได้พูดครั้งเดียว หนังสือสัญญาแผ่นนี้มีตราประทับของบิดาข้ากับฮ่องเต้เป็นพยาน ข้าจะพาลูกออกจากตระกูลเซี่ย หากพวกท่านมิยินยอมก็รอรับราชโองการจากฮ่องเต้ได้เลย” นางเอ่ยเสียงเย็นออกมา

“จะ เจ้า หมายความเช่นไร” สวีเหมยลี่ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน แม้จะรู้ว่าตู้เหลียนเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องกับฮ่องเต้ แต่ไม่คิดว่าพระองค์จะลงนามประทับตราในหนังสือสัญญาของนางไว้ด้วย

“ข้ายอมลงให้ท่านมามากพอแล้ว หากพวกท่านยังไม่ยอมหาความจริงเรื่องที่อวี้เออร์ตกน้ำได้อย่างไร เรื่องนี้ข้าคงต้องไปรบกวนฝ่าบาทแล้ว” ตู้เหลียนเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่ยอม

ในเมื่อสวีเหมยลี่ชอบปล่อยข่าวเรื่องที่นางและบุตรสาวเป็นสตรีร้ายกาจ นางก็จะทำให้ได้เห็นถึงความร้ายกาจของนางเอง

“เจ้ากล้ารึ” สวีเหมยลี่กรีดร้องออกมา นางทำท่าจะพุ่งตัวเข้ามาทุบตีตู้เหลียน แต่ถูกเซี่ยถงวู่ขวางไว้เสียก่อน

สวีเหมยลี่นางจะยอมให้ค้นหาความจริงเรื่องที่เซี่ยหรูอวี้ตกน้ำได้อย่างไร ในเมื่อเป็นบุตรสาวของนางที่ผลักเซี่ยหรูอวี้ตกน้ำ ทั้งยังเป็นฝ่ายเรียกนางให้เข้ามาหาที่งานเลี้ยงน้ำชาด้วยตนเอง

“อาเหลียนเจ้าอย่าได้ทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ได้หรือไม่” เซี่ยถงวู่หันมาเอ่ยขอร้องนาง มือทั้งสองข้างก็ยังจับตัวของสวีเหมยลี่ไว้ไม่ยอมปล่อย

“คงจะมิได้ ท่านปล่อยให้นางรังแกข้ากับลูกมาเนิ่นนาน แต่หนนี้นางคิดจะฆ่าอวี้เออร์ให้ตกตาย ทนจะให้ข้าอยู่เฉยโดยไม่ทำอันใดรึ”

“แล้วนางตายหรือไม่เล่า!!!” สวีเหมยลี่ตะโกนออกมาอย่างหมดความอดทน

“หึ น่าขันนัก หากเป็นบุตรสาวของเจ้าที่โดนกระทำ มิใช่ว่าเจ้าจะวิ่งโร่ไปฟ้องตระกูลสวีของเจ้าแล้วหรอกรึ แล้วจะต่างอันใดหากข้าจะนำเรื่องนี้ขึ้นทูลฝ่าบาท เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม”

“กรี๊ดดดดด ข้าจะฆ่าเจ้าเสีย” สวีเหมยลี่เหมือนจะเสียสติไปแล้ว

เดิมที นางคิดจะมาเยาะเย้ยตู้เหลียนเรื่องที่บุตรสาวนางตกน้ำ ทั้งยังจะมาดูนางถูกเซี่ยถงวู่ตำหนิ แต่ไม่คิดว่าครั้งนี้ตู้เหลียนจะลุกขึ้นมาต่อกรกับนางเช่นนี้ได้

“ท่านพี่ ท่านจะว่าเช่นใด หากท่านไม่จัดการเรื่องนี้ให้ข้า ก็ต้องปล่อยข้ากับลูกไปเสีย” นางจ้องมองเซี่ยถงวู่อย่างไม่ถดถอย

ครั้งนี้นางรู้แก่ใจแล้ว แม้เซี่ยหรูอวี้นางจะเอ่ยเตือนเรื่องบิดาของนางไม่อาจจะทำตามคำขอของตู้เหลียนได้ พอมาฟังถ้อยคำด้วยตนเองนางเจ็บปวดจนด้านชาไปเสียแล้ว

เซี่ยถงวู่กัดฟันแน่น หากเขาสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นย่อมต้องมีปัญหากับตระกูลสวี แต่หากไม่ทำยังรั้งตู้เหลียนและบุตรทั้งสองไว้ที่จวนก็มีแต่จะสร้างปัญหา ดีไม่ดีเรื่องนี้อาจจะถึงหูของฮ่องเต้ จนทำให้ตำแหน่งขุนนางของเขาสั่นคลอนเป็นแน่

“เจ้าคิดดีแล้วใช่หรือไม่ สตรีที่ออกไปใช้ชีวิตลำพังต้องลำบากเพียงใดเจ้าก็รู้เรื่องนี้ดี” เขาข่มขู่นางให้นางหวาดกลัว หากต้องเป็นหม้ายย้ายกลับไปอยู่บ้านเดิม

“ข้าคิดดีแล้ว” แววตาของนางช่างว่างเปล่าจนเซี่ยถงวู่ภายในอกสั่นไหว

“เช่นนั้นข้าจะยอมให้เจ้าพาบุตรทั้งสองออกจากจวนไป” เขาหลับตาลงอย่างจำยอม แม้ไม่อยากเสียนางไป แต่ก็ไม่อาจเสียตำแหน่งหน้าที่ ทั้งไม่อยากมีเรื่องกับตระกูลสวีด้วย

“หึ ไสหัวของพวกเจ้าสามแม่ลูกไปให้เร็วเสีย” สวีเหมยลี่ยกยิ้มออกมาอย่างพอใจ

ครั้งนี้คงต้องยกความดีความชอบให้บุตรสาวของนางที่ช่วยกำจัดหนามตำใจออกไปได้

“ไม่ต้องห่วง ข้าจะออกเดินทางในวันพรุ่งนี้”

“แล้วอย่าได้นำข้าวของที่จวนของข้าไปเล่า” สวีเหมยลี่ไม่ยอมให้นางได้แบ่งทรัพย์สินออกไปอย่างแน่นอน

“ของเจ้ามีสิ่งใดที่ข้าต้องการ ในเมื่อสินเดิมของข้าคงมีมากกว่าสินเดิมที่ติดตัวเจ้ามาอีกกระมัง” ตู้เหลียนยิ้มเยาะออกมา

ตอนที่สวีเหมยลี่แต่งเข้าจวนตระกูลเซี่ย เซี่ยถงวู่ยังเป็นเพียงขุนนางต่ำต้อย หากมิใช่หน้าตาที่หล่อเหลาของเขา นางก็คงไม่คิดจะแต่งให้อย่างแน่นอน

ตระกูลสวีมิได้พึงใจในตัวบุตรเขยเช่นเซี่ยถงวู่มากนัก จึงให้สินเดิมแก่สวีเหมยลี่ติดตัวมาเพียงไม่กี่หีบ

“จะ เจ้า...”

“พอได้แล้ว กลับเรือนของเจ้าไปเสีย!!!” เซี่ยถงวู่เริ่มหมดความอดทนกับสวีเหมยลี่แล้ว

คนที่ร้ายกาจ คอยใส่ร้ายตู้เหลียนกับบุตรของนาง เขารู้มาตลอดว่าเป็นสองแม่ลูกสวีเหมยลี่และเซี่ยหรันเซียน แต่เพราะมีอำนาจตระกูลสวีที่หนุนหลังจึงไม่อาจจะจัดการได้ แต่ในยามนี้ไม่ใช่แล้ว ในเมื่อเขาต้องเสียคนรัก นางก็ควรจะสงบปากได้แล้ว

“ท่านก็กลับไปด้วย ข้าจะเก็บของ อ้อ...แล้วอย่าลืมหนังสือสัญญาตัดขาดข้าสามคนแม่ลูกเล่า ข้าจะให้แม่นมตามท่านไปรับที่ห้องตำรา” ตู้เหลียนหันหลังเดินกลับเข้าห้องของนางทันที โดยไม่ทันมองใบหน้าของเซี่ยถงวู่ที่มองนางอย่างเจ็บปวด

“นายท่าน เชิญเจ้าค่ะ” แม่นมตู้ผายมือให้เซี่ยถงวู่ออกจากเรือนของตู้เหลียนไป

“เพ้ย!!!” เขาเดินกระทืบเท้าออกไปอย่างไม่พอใจ

ตู้เหลียนปาดน้ำตาออกจากหางตาลวกๆ นางไม่ต้องการไปพบบุตรทั้งสองของนางเพื่อบอกเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งน้ำตา แต่ดูเหมือนว่าเซี่ยหยวนจะรู้เรื่องเสียแล้ว เขามาพบมารดาที่เรือนของนางด้วยความเป็นห่วง

“ท่านแม่” เขาเดินเข้าไปกอดปลอบมารดา

ตู้เหลียนสะอื้นไห้อยู่ภายในอกของบุตรชาย นางไม่ได้เข้มแข็งเช่นที่แสดงออกเมื่อครู่ นางก็ปวดใจไม่แพ้กัน ยิ่งรู้ว่าบุรุษที่นางรักไม่คิดจะปกป้องนางกับลูกเลย น้ำตาของนางก็ไม่อาจที่จะหยุดไหลได้

“แม่ไม่เป็นอันใดแล้ว เจ้ารีบไปเก็บของเถิด ยังต้องไปที่เรือนของอวี้เออร์เพื่อเก็บของให้นางอีก”

“เรื่องนี้ท่านไม่ต้องเป็นห่วง น้องบอกข้าก่อนที่จะออกมาจากเรือนของนาง ของมีค่าทั้งหมดนางจะเก็บไว้ในมิติ ท่านเพียงแค่เก็บเสื้อผ้าเท่านั้นก็พอ”

“อืม แม่เข้าใจแล้ว” นางเกือบลืมเรื่องมิติของบุตรสาวไปเสีย เช่นนี้ก็ดี ของมีค่าทั้งหมดจะได้ไม่ถูกรื้อค้นไปด้วย

นางไม่เคยบอกผู้ใดว่าสินเดิมของนางมีมากเพียงใด แต่ต่อให้ไม่มีมิติของหรูอวี้ ก็ไม่มีผู้ใดกล้านำของที่ฮ่องเต้พระราชทานไปอย่างแน่นอน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ท่านแม่ทัพ จะเป็นพ่อเลี้ยงข้าหรือสามีข้ากันแน่   ตอนจบ

    อันอ๋อง ยอมเข้าไปอยู่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของจ้าวลู่ฉือตั้งแต่วัยสิบสองหนาว แม้เขาจะมิได้แสดงออกว่าพึงใจในตัวของซูซินมากนัก แต่ก็ลอบหาทางพบนางอยู่เสมอ“หึ อันอ๋องร้ายนัก ข้ารึก็มัวแต่ระวังเจ้าลูกเต่าจวนอื่น” จ้าวลู่ฉือสบถออกอย่างหัวเสียเมื่อเขารู้เรื่องจากหรูอวี้ว่า ทั้งสองเหมือนจะมีใจให้กัน“ท่านพี่ ซินซินนางถึงวัยออกเรือนแล้ว อันอ๋องเองก็อยู่ในสายตาของท่านมาตลอด ท่านยังมิวางใจอีกรึ”“พี่ยังอยากให้ซินซินอยู่กับพี่และเจ้าไปอีกหลายปี”“เหอะ ท่านจะให้นางแก่ตายคาจวนหรืออย่างไร ข้าตัดสินใจแล้ว หากซินซินนางเลือกอันอ๋องข้าก็ไม่ขัดขวาง ท่านก็ปล่อยวางได้แล้ว” หรูอวี้มองสามีที่ผมเริ่มจะขาว ของนางอย่างมีโทสะนางอยากจะถามเขาเสียเหลือเกินว่าจะต้องรอให้เขาลงหลุมก่อนรึ ถึงจะยอมให้บุตรสาวออกเรือนได้เมื่อคำเด็ดขาดหลุดออกมาจากปากของหรูอวี้ จ้าวลู่ฉือก็ไม่อาจเอ่ยแย้งได้ พออันอ๋องมาเอ่ยเรื่องทาบทามที่จวน จ้าวลู่ฉือจึงบังคับให้เขาสาบานต่อฟ้าดินว่าจะมีเพียงบุตรสาวของตนเพียงหนึ่งเดียวในตำหนัก“เปิ่นหวางสาบานต่อหน้าฟ้าดิน ชั่วชีวิตนี้จะมีเพียงซินซินหนึ่งเดียว และจะไม่ทำให้นางต้องช้ำใจเป็นอันขาด”สามเดือนต

  • ท่านแม่ทัพ จะเป็นพ่อเลี้ยงข้าหรือสามีข้ากันแน่   จ้าวซูซิน

    หรูอวี้นางคิดว่า มีเพียงฝาแฝดทั้งสองเป็นบุตรก็เพียงพอแล้ว เพียงเลี้ยงเขาน้องก็ไม่มีเวลาปลีกตัวไปทำอันใดได้ จึงมิได้คิดเรื่องที่จะมีบุตรอีกเลย“ท่านแม่จะมีน้องสาวให้ข้ารึขอรับ” จ้าวหลิงฮุ่ยเอ่ยถามออกมาด้วยใบหน้าที่ใสซื่อจ้าวหลิงเทียนก็มองมาทางหรูอวี้ด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย แม้ไม่ได้พูดออกมา ก็รู้ว่าเขาอยากจะมีน้องสาวตัวน้อยเช่นเดียวกัน“ใช่แล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย” นางลูบหัวบุตรทั้งสองอย่างรักใคร่“มีน้องชายก็ได้ขอรับ ข้าชอบทั้งหมดที่เป็นน้องของข้า” จ้าวหลิงฮุ่ยฉีกยิ้มกว้างอย่างน่าเอ็นดู“ยินดีด้วยขอรับท่านแม่ทัพ” ตลอดทางนับตั้งแต่เดินเข้าจวนมา เขาอดจะสงสัยไม่น้อยที่บ่าวไพร่ ต่างเข้ามาแสดงความยินดี ราวกับว่าเขาได้เลื่อนตำแหน่งเสียอย่างงั้นแต่จะเป็นไปได้อย่างไร ในเมื่อยามนี้เขาเป็นถึงแม่ทัพใหญ่ ที่ไม่อาจจะมีตำแหน่งใดสูงได้มากกว่านี้อีกแล้ว“เกิดเรื่องใดขึ้น” เขาเอ่ยถามบ่าวแล้ว แต่ก็ไม่ได้คำตอบ ได้แต่บอกให้เขากลับไปฟังเรื่องราวที่เรือนของฮูหยินเองเสียงพูดคุยหัวเราะของคนในเรือนของหรูอวี้ ทำให้จ้าวลู่ฉือที่เดินทางกลับมาจากค่ายทหารนอกเมืองยืนยิ้มตามไปด้วยรอยยิ้มเช่นนี้ของเขา ม

  • ท่านแม่ทัพ จะเป็นพ่อเลี้ยงข้าหรือสามีข้ากันแน่   จ้าวหลิงเทียน จ้าวหลิงฮุ่ย

    เรื่องนี้ทำให้ตู้เหลี่ยงพอใจอยู่ไม่น้อย ด้วยตัวเขาเองก็เตรียมชื่อไว้ให้เหลนชายทั้งสองเรียบร้อยแล้ว เพียงแต่ไม่รู้ว่าจ้าวลู่ฉืออยากจะตั้งเองหรือไม่“จ้าวหลิงเทียน จ้าวหลิงฮุ่ย ชอบหรือไม่เล่า” เขาเอ่ยเรียกเหลนชายทั้งสอง พร้อมทั้งมองอย่างรักใคร่จ้าวหลิงเทียนผู้พี่ จ้าวหลิงฮุ่ยผู้น้อง หัวเราะจนเห็นเหงือกของตน สร้างความอิ่มเอมใจให้กับทุกคนในห้องโถงจนมีรอยยิ้มไปตามๆ กันแต่แล้วความครื้นเครงก็หยุดลง เมื่อพ่อบ้านจ้าว เข้ามาแจ้งเรื่องที่เซี่ยถงวู่มาขอพบตู้เหลี่ยงและตู้เหลียนที่หน้าจวนตู้เหลี่ยงส่งฝาแฝดให้แม่นมพาออกไปด้านนอกทันที ก่อนจะตบโต๊ะเสียงดังอย่างมีโทสะ“เดรัจฉาน!!! ยังมีหน้ามาขอพบข้าอีกรึ”“ท่านตา อย่าได้มีโทสะเจ้าค่ะ หากท่านไม่ต้องการพบหน้าก็เพียงแค่ให้บ่าวหน้าจวนไล่ไปก็เท่านั้น ไยจะต้องทำให้ตนเองขุ่นใจด้วย” หรูอวี้เอ่ยออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย นางเหลือบมองมารดาก่อนจะพูด ก็เห็นว่านางไม่ได้แสดงอาการตื่นเต้นดีใจที่เซี่ยถงวู่มาขอพบ จึงได้เบาใจลง“เป็นเช่นที่อวี้เออร์นางว่า หากท่านอาจารย์ไม่ต้องการจะพบ ข้าจะออกไปจัดการให้ท่านเองขอรับ”“อืม...ลำบากเจ้าแล้ว” เพียงเท่านี้ก็รู้แล้วว่าตู้เหลี่

  • ท่านแม่ทัพ จะเป็นพ่อเลี้ยงข้าหรือสามีข้ากันแน่   เพียงแค่ชิมเท่านั้น

    “สวรรค์” บ่าวไพร่และเสี่ยวฟ่านที่ได้พบเห็นคุณชายน้อยของตนก็ได้แต่อุทานออกมาอย่างแปลกใจนี่มันเด็กเพียงคลอดเสียที่ไหน ทั้งสองราวกับเด็กครบเดือนแล้ว ดวงตาที่กวาดมองไปทั่ว ราวกับรู้เรื่องราวและรับรู้สิ่งที่พวกเขาเอ่ยพูดกัน“พาไปให้อวี้เออร์นางดูก่อนเถิด” จ้าวลู่ฉือเขี่ยแก้มบุตรชายทั้งสอง ก่อนจะเดินนำเข้าไปด้านในห้อง ที่สาวใช้ทำความสะอาดร่างกายของหรูอวี้เรียบร้อยแล้ว“ฮูหยินช่างมีบุญนัก แม้แต่กลิ่นน้ำคลอดของนางก็ไม่เหม็นเช่นที่ข้าเคยพบเจอ ดูเหมือนว่าจะคลายกลิ่นดอกบัวเสียด้วยซ้ำ” หมอตำแยเอ่ยพูดคุยถึงเรื่องความน่าอัศจรรย์นี้กันจ้าวลู่ฉือ เห็นหรูอวี้นั่งพิงหัวเตียงชะเง้อคอมองมาทางประตูก็อมยิ้มมองนาง“เจ้าอยากเห็นลูกใช่หรือไม่” เขารับเด็กทั้งสองคนมาจากป้าจิ้นและเสี่ยวซี ก่อนจะเดินเข้าไปหาหรูอวี้ที่เตียงหรูอวี้เม้มปากแน่น มองเด็กน้อยที่อยู่ในห่อผ้าที่แขนของจ้าวลู่ฉือ“ลูกข้า...ช่างตัวเล็กนัก” นางไม่รู้ว่าจะเอ่ยเช่นไรไม่คิดด้วยว่าในชีวิตนางจะให้กำเนิดเด็กน้อยออกมาได้ หรูอวี้มองเด็กทั้งสองด้วยดวงตาที่เอ่อคลอไปด้วยน้ำ ความรู้สึกแปลกใหม่เกิดขึ้นกับนาง จนนางไม่อาจจะอธิบายได้ความรัก ความหวงแหน ห

  • ท่านแม่ทัพ จะเป็นพ่อเลี้ยงข้าหรือสามีข้ากันแน่   เทพเซียนลงมาเกิดหรือเนี่ย

    “อันใดกัน มีเรื่องที่เจ้าจัดการไม่ได้ด้วยรึ” ฮ่องเต้ไม่อยากจะเชื่อ ว่าสหายรักจะจัดการเรื่องหยุมหยิมเช่นนี้ไม่ได้“มีเพียงเรื่องของนางที่ไม่อาจจัดการได้” เขาไม่เคยเอาชนะนางได้เลย นับตั้งแต่ที่พบเจอนางในครั้งแรก“เพ้ย สตรี อย่างไรก็ต้องอยู่ภายใต้คำสั่งของสามี เจ้าตามใจนางเกินไปแล้ว”“พูดไป พระองค์ก็ไม่เข้าพระทัย กระหม่อมกลับจวนก่อนพ่ะย่ะค่ะ” จ้าวลู่ฉือลุกขึ้นจะเดินออกจากวังหลวง“ให้เจิ้นช่วยพูดดีหรือไม่” สตรีในวังนับร้อย เขายังจัดการได้“นางไม่ได้อยู่ให้พระองค์พูด พระองค์จะช่วยได้อย่างไร”“ห๊ะ!!! ถึงกลับหนีไปเลยรึ”จ้าวลู่ฉือส่ายหัวอย่างปลงตก แล้วเดินออกจากห้องตำราของฮ่องเต้กลับจวน หากนางหนีไปเช่นผู้อื่น เขายังตามกลับมาได้ แต่นี่ นางเล่นหายไปในมิติ เขาจะตามนางได้อย่างไรหรูอวี้ที่เก็บน้ำหวานจากดอกบัวจนเบื่อแล้ว นางจึงได้ออกมาด้านนอก พอออกมาถึงก็ถูกจ้าวลู่ฉือที่นั่งรอนางอยู่รวบตัวกอดรัดไว้แน่น“อวี้เออร์ อย่าได้ทำกับข้าเช่นนี้อีก อย่าได้หายไปโดยไม่บอกข้า เรื่องคุณหนูที่มากวนใจเจ้าวันนั้นข้าจัดการให้ตระกูลของพวกนางจับนางแต่งออกไปแล้ว ยามนี้ไม่มีผู้ใดกล้ามากวนใจเจ้าอีกแล้ว” เขาซุกใบหน้าลงก

  • ท่านแม่ทัพ จะเป็นพ่อเลี้ยงข้าหรือสามีข้ากันแน่   ข้าจะไปส่งเจ้าที่จวน

    หรูอวี้ตบไปที่ใบหน้าของคุณหนูหั่วเต็มแรง มีดสั้นถูกวางจ่ออยู่ที่คอของคุณหนูหั่ว หากนางขยับตัวเล็กน้อยคงได้เห็นเลือดอย่างแน่นอน“ข้าไม่ถือ หากเจ้าจะใช้มารยาเพื่อได้เข้าตระกูลจ้าว แต่ในเมื่อเจ้าปากกล้ากับข้าเช่นนี้ ข้าคงต้องทำให้เจ้ารู้เสียแล้วว่าข้าเป็นเช่นไร” หรูอวี้ขยับข้อมือเพียงเล็กน้อย คมมีดก็บาดเข้าคอของนางจนเลือดซึมออกมา“ขะ ข้ากลัวแล้ว ข้าไม่ได้ตั้งใจเจ้าค่ะ” นางเอ่ยขอร้องอย่างลนลาน“อวี้เออร์ ข้าจัดการเอง” จ้าวลู่ฉือเดินเข้ามาจับข้อมือของนางไว้“หึ” นางสะบัดมือของเขาออก ก่อนจะปามีดสั้นไปตรงกลางโต๊ะที่พวกคุณหนูคนอื่นนั่งอยู่ แล้วเดินออกจากห้องโถงไปอย่างไม่สบอารมณ์จะเรียกว่านางหึงหวงเขาเสียจนหน้ามืดก็ได้ที่ลงมือเช่นนั้น แต่คุณหนูหั่วก็ปากดีเสียจนนางควบคุมอารมณ์ไม่อยู่หรูอวี้ไล่ป้าจิ้นกับเสี่ยวซีที่ตามนางมาที่เรือนอย่างเป็นห่วงออกไป ก่อนจะเข้าไปสงบอารมณ์ในมิติของนางจ้าวลู่ฉือยืนมองคุณหนูที่รอพบเขาที่ละคน ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นมา“เป็นบิดาของพวกเจ้า หรือตัวพวกเจ้าที่ใจกล้าทาเยือนจวนของข้ากัน” เขาเอ่ยถามออกมาด้วยเสียงเหยียบเย็นบางคนที่หวาดกลัวจนตัวสั่นก็โยนเรื่องราวทั้งหมดไปให้ผู้เป

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status