นอกเมืองหลวง
เสิ่นชิงเวยที่ออกจากประตูเมืองได้สักพักแล้ว จนห่างจากเมืองหลวงถึงสิบลี้แล้ว(5กิโลเมตร) จากนั้นก็รอจนทหารยามเผลอจึงจุงน้องๆออกมาจากกลุ่มผู้ลี้ภัย ทหารเหล่านี้ไม่ใช่คนดี เห็นได้ชัดบางคนก็ลวนลามหญิงสาว ไม่มีใครกล้าทำอะไรพวกมัน เสิ่นชิงเวยแม้ไม่พอใจแต่นางไม่อาจช่วยคนอื่นจนตัวเองเดือดร้อน เพิ่งมาได้สองวันต้องยอมมองดูความอยุติธรรมตรงหน้า
"พี่ พวกเขาจะตามจับเราไหม"
"ชู่ จุ๊ๆๆ อย่าเสียงดัง เห็นเหวข้างล่างไหม พี่จะใช้เชือกมัดเอวพวกเจ้าแล้วหย่อนลงไปห้ามร้องห้ามโวยวายไม่งั้นพวกนั้นได้ยินจะฆ่าเรา"
"พี่ใหญ่ ข้าไม่ร้องข้าอดทนได้"
เสิ่นชิงชิวเอ่ยกับพี่สาว เสิ่นชิงเวยมัดเอวเสิ่นชิงผิงคนแรก ก่อนจะค่อยๆหย่อนน้องสาวลงไปที่เหวด้านล่าง ลึกประมาณสิบจั้ง(250เมตร) จากนั้นก็บอกให้แกะเชือกก่อนจะหย่อนน้องชายตามลงไป เมื่อน้องๆลงแล้วนางก็หย่อนตัวเองตามไป จากนั้นก็จุดไฟเผาเชือกให้ไฟค่อยๆลามเผาไหมจนหมด
ทั้งสามคนหลบอยู่ใต้ชะง้อนหินของหน้าผา หินขนาดกล้างเกือบสองจั้งที่ยื่นออกมาทำให้สามพี่น้องหลบอยู่ใต้นั้นได้พอดี เสียงหญิงสาวผู้อพยพร้องโหยหวนมาทางด้านบนพวกเขา ทหารกำลังย่ำยีเหล่าหญิงสาว
ไม่ถึงอึดใจเลือดก็ไหลลงมาที่พวกนางนั่งหลบอยู่ ก่อนจะมีร่างของทหารถูกโยนลงมาสองคน เสิ่นชิงเวยส่ายหน้าไม่ให้น้องๆร้องออกมา เด็กทั้งสองปิดปากพยักหน้า เสียงเกือกม้าดังเข้ามาเรื่อยๆ สามพี่น้องค่อยจุงมือกันออกจากที่ซ่อน เดินหายเข้าไปในป่า
ด้านบนเผยซ่างกวนที่ตอนนี้นั่งอยู่บนหลังม้า สายตากวาดหาคนที่เขาสบตาด้วยตอนบ่าย นางเป็นคนแรกที่กล้าสบตาเขา เมื่อคืนตอนที่เร่าร้อนอยู่ใต้ร่างเขานางช่างยั่วยวนนัก สายตาคู่นั้นยามที่เขากับนางมาอยู่ในอารมณ์ปกติเป็นสายตาที่เขาลืมไม่ลง คนที่กล้าจ้องหน้าเขานอกจากฮ่องเต้ในแคว้นนี้ก็ไม่มีผู้ใดอีกแล้วแม้แต่บิดา
เขาอยู่บนม้าไล่สายตามองหาคนที่เพิ่งสบตาเขาเมื่อสองชั่วยามก่อน ทหารที่คุมเหล่าคนอพยพต่างตัวสั่น ทหารสองคนที่ลวนลามหญิงสาวกระทำย่ำยีถูกตัดหัวทั้งๆที่อาวุธของพวกเขายังคาอยู่ในร่องของสตรีเหล่านั้น
"พวกเขาเป็นผู้ลี้ภัย ฝ่าบาทให้พาพวกเขาไปยังค่ายเพื่อให้ควบคุมดูแลได้ทั่วถึงมิใช่ให้พวกเจ้ามากระทำการเยี่ยงสัตว์ป่าเช่นนี้"
เสียงของเขาดังกังวานมากพอทหารถึงกับคุกเข่าทันที เสี่ยวจื่อมารายงานว่าไม่เจอ เผยซ่างกวนกำมือแน่น
"แม่ตัวดี ได้ข้าแล้วทิ้งขว้างหรือ กล้าสร้างความอัปยศให้ข้าเสิ่นชิงเวย ชื่อนี้ข้าจำได้แล้ว"
จากนั้นเผยซ่างกวนก็ไปส่งผูลี้ภัยด้วยตนเองกว่าจะถึงก็ใช้เวลาถึงสามวัน และต้องเดินทางกลับเมืองหลวงระหว่างทางก็พยายามตามหาคนที่กล้าเล่นตลกกับเขา ลูกแกะตัวน้อยนี้เขาต้องจับกลับมาลงโทษให้เข็ดหลาบ
เสิ่นชิงเวยพาน้องๆเดินมาไกลจากทางเดินนั้นน่าจะเกือบสิบลี้ ในป่าครึ้มไปด้วยต้นไม้ใบหญ้า เด็กทั้งสองถูกกิ่งไม้เกี่ยวเต็มตัวไปหมดมีรอยเลือดไหลซิบๆ แต่กลับไม่บ่นออกมา สายฝนใกล้เริ่มลงเม็ดแล้ว สามพี่น้องหาที่พักก่อนที่ฝนจะตกหนัก เดินมาสักพักก้เจอถ้ำเล็กๆ
"อยู่ปากถ้ำก่อนนะ พี่จะไปหากิ่งไม้แห้งมาจุดไฟ คืนนี้นอนที่นี่ก่อนพี่จะลองดูว่าพอหาอะไรกินได้บ้าง"
"พี่ใหญ่ค่ำแล้วท่านอย่าไปเลยเจ้าค่ะ"
"นอนในป่าอาจมีสัตว์ร้าย หากไม่ก่อกองไฟเราอาจหนาวตายได้"
เสิ่นชิงเวยเดินไปทางที่เพิ่งเดินผ่านมามา นางเห็นต้นไม้ล้มตายอยู่เก็บมาสักสิบกว่าท่อนคงพอทั้งคืน แอบซื้อซาลาเปามาได้สิบลูกเดี๋ยวค่อยเอาออกมากิน อยากได้มิติในนิยายบ้างจัง วาสนาฉันจะมีไหม เก็บฟืนได้ก็ได้ยินเสียงกุกกักๆ มองไปเห็นเป็นไก่ป่าคงหลงฝูง ตะวันตกดินแล้วยังไม่กลับรัง เสิ่นชิงเวย คว้ากิ่งไม้ขนาดพอเหมาะก่อนจะขว้างออกไปถูกเจ้าไก่โชคร้ายพอดี เสิ่นชิงเวยหอบฟืนกับหิ้วไก่ป่ากลับมา
สามพี่น้องพากันเข้าไปในถ้า แม้ไม่ลึกมากแต่ด้านในอบอุ่นพอควร เสิ่นชิงเวยก่อไฟเห็นว่ามีแอ่งน้ำอยู่ใกล้ๆ เดินไปดูก็เห็นเป็นบ่อน้ำพุร้อน มิน่าในถ้ำนี้จึงอุ่น หยิบมีดที่เดิมทีเอามาป้องกันตัวเชือดไก่แล้ว ทำความสะอาดก่อนจะเสียวไม้ย่างพลิกไปพลิกมาไม่นานก็สุก ฝบไม้ที่เก้บมาใช้ปูเป้นเสื่อใกล้ๆกับบ่อน้ำร้อน สามพี่น้องกินอาหารค่ำก่อนจะพากันนอนหลับ พรุ่งนี้ต้องออกเดินทางอีก ต้องไปให้ไกลที่สุด เผยซ่างกวนคนใจแคบนั่น ทั้งที่ต่างคนต่างถูกคนใช้เป็นเคื่องมือกับมาแค้นเคือนาง น่าโมโหชะมัด จากนั้นก็หลับไป ข้างนอกฝนตกกระหน่าไม่ลืมหูลืมตาฟ้าร้องรุนแรง
เผยซ่างกวนที่ตอนนี้พักอยู่จุดพัก ฝนกระหน่ำอย่างแรง ผู้ลี้ภัยต่างหนาวเหน็บ เพราะเรือนพักไม่พอพวกเขาพยายามเบียดกันให้มากที่สุด เผยซ่างกวนกำลังคิดถึงร่างนุ่มนิ่มที่เขาได้ครอบครองเมื่อคืน ก่อนจะเอ่ยรอดไรฟัน
"เสิ่น ชิง เวย"
จวนอ๋องนอกเมืองผ่านมาห้าเดือนแล้วนับตั้งแต่วันที่ฮ่องเต้องค์ใหม่ขึ้นครองบัลลังก์ ราษฎรต่างร่มเย็นเป็นสุข ทุกวันจะมีคนสรรเสริญฮ่องเต้องค์ใหม่กับฮองเฮาไม่หยุด ที่ดินที่เสิ่นชิงเวยรับขวัญสะใภ้ใหญ่ ท่านตาของนางมาปรึกษากับแม่สามีว่าควรทำตลาดแบบใดเสิ่นชิงเวยให้เขาทำตลาดค้าส่ง และตลาดค้าปลีก อีกด้านทำถนนคนเดิน และตลาดโต้รุ่ง จากนั้นก็ให้เขาปล่อยเช่าที่ดินให้กับคนที่จะสร้างโรงเตี๊ยมหรือเหล่าอาหารเสิ่นชิงเวยกำลังวาดแบบร่างอยู่ เผยซ่างกวนเห็นร่างที่อุ้ยอ้ายกำลังทำงานก็เดินมาหาก่อนจะแย่งพู่กันจากในมือนางมาแล้วอุ้มร่างอุ้ยอ้ายไปนั่งบนที่นอนหนานุ่ม"ใกล้คลอดแล้ว อย่าเหนื่อยนักเลยวันๆ เคยหยุดพักบ้างหรือไม่""หม่อมฉันร่างสัญญาเช่าที่ดินให้กับเหลียนเอ๋อร์อยู่เพคะ จริงสิทรงให้คนไปติดต่อพ่อค้าเร่ได้ความเช่นไรบ้างเพคะ""พวกเขายินดีจะมาร่วมเป็นพันธมิตรอะไรที่เจ้าว่านั่นแหละ ว่าแต่ทำไมถึงสร้างตลาดใหญ่โตเหลือเกินเว่ยเว่ย แปดร้อยหมู่เชียวนะ""ท่านอ๋อง...หากมีตลาดก็มีพ่อค้า เมื่อมีพ่อค้าก็มีลูกค้า เมื่อมีลูกค้าคนก็มีการสร้างงาน เมื่อมีการสร้างงานก็ต้องหาคน เมื่อนั้นชาวบ้านก็มีงานทำ ชาวบ้านที่ไม่มีเงินไม่ม
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยจ้าวเผยหยวนฮ่องเต้พระองค์ใหม่และเสิ่นชิงผิงฮองเฮาพระองค์ใหม่ก็เสด็จออกมาพร้อมกัน ทั้งสองคนนั่งบนบัลลังก์มองลงมายังขุนนางที่ร่วมกันฝ่าฟันและเปลี่ยนแปลงการปกครองหลายอย่าง ฮ่องเต้กล่าวเปิดงานเลี้ยงจากนั้นทุกคนก็เริ่มดื่มกิน ได้ยินเสียงฝ่าบาทตรัสออกมา"จ้านอ๋อง ที่ผ่านมาต้องขอบใจท่านยิ่งนัก และพระชายาของท่านด้วย กฎหมายใหม่ที่ห้ามซื้อขายคนในครอบครัวเราทำสำเร็จแล้ว รวมถึงภาษีการปล่อยเช่าที่ดิน แม้จะถูกต่อต้านจากพวกคหบดีและขุนนางที่มีผลประโยชน์ไม่น้อย แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี""ล้วนเป็นเพราะพระปรีชาของพระองค์พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมกับพระชายาเพียงแค่ลองเสนอ แต่ทุกอย่างเป็นเพราะพระองค์ทรงผลักดันจนสำเร็จ""เราขอบใจขุนนางทุกคนที่อยู่ตรงนี้ที่ช่วยให้ต้าหลี่มีอำนาจและแสงยานุภาพจนอยู่เหนือแคว้นทั้งหลาย แม่ทัพเสิ่นเราขอบใจท่าน การเจรจากับแคว้นต่างๆ แม้บางคนจะต่อต้านการเจรจาครั้งนี้ อีกทั้งยังกล่าวหาว่าท่านอ่อนแอไม่กล้าสู้รบ แต่กลับกลายเป็นว่านอกจากไม่เสียเลือดเนื้อแล้วต้าหลี่ของเรายังได้ประโยชน์ไม่น้อย เรามีอาหารพวกเขามีเครื่องนุ่งห่ม มีแร่เหล็ก ไม่ต้องปล้นชิงไม่ต้องทำสงคราม แค่
ยามเหมากู้ชิงเหลียนตื่นก่อนนางจะลุกมาเตรียมน้ำล้างหน้าให้กับสามีแต่เช้า เผยจ้าวหยวนคว้าเอวบางรั้งให้นางลงมานอนข้างๆกอดนางเอาไว้ เขาพลิกกายเกยนางไว้ครึ่งตัวสบสายตาคู่งามก่อนจะจุมพิตเปลือกตา กู้ชิงเหลียนยอมให้เขาเชยชมจนพอใจ ร่างสูงทำท่าจะปลดอาภรณ์อีกครั้งแต่นางคว้ามือเขาเอาไว้"ท่านพี่..ยามเหมาแล้ววันนี้ต้องไปยกน้ำชาคารวะเสด็จพ่อกับเสด็จแม่นะเจ้าคะ จะสายไม่ได้""พี่ยังอยากรักเจ้าอีก""ให้เสร็จตามประเพณีก่อนนะเจ้าคะ ข้าไม่หนีท่านไปไหนหรอก ท่านลางานไว้เจ็ดวันมิใช่หรือคนหื่น""อยู่ใกล้เจ้าแล้วคิดอย่างอื่นไม่ออกเลย อยากรักแต่เจ้าคนดี""ลูกไม้ใต้ต้นจริงๆเชียว""หืม อะไรนะ หมายถึงพี่หรือ"กู้ชิงเหลียนหน้าแดงก่อนจะเอ่ยอ้อมแอ้มๆกับคนตัวโต"ข้าเคยได้ยินท่านพ่อเอ่ยกับท่านแม่บ่อยๆว่าจะมาหาเสด็จพ่อต้องดูฤกษ์ยามก่อน คนอะไรขยันรักเมียได้ทุกเวลาให้บ่าวไพร่ให้คนอื่นรอเป็นวันๆ บางครั้งไปแล้วไม่ได้อะไรกลับมาก็มีเพราะท่านอ๋องเอาแต่กักพระชายาไว้ในห้อง ท่านก็คงเหมือนเสด็จพ่อใช่หรือไม่เจ้าคะ""ฮ่าๆๆ คนงามสินสอดพี่ยาวกว่าเสด็จพ่อกับเสด็จอารัชทายาทอีกนะ เช่นนั้นพี่ต้องเก่งกว่าเสด็จพ่อสิ พร้อมไหมรับมือพี่ไหวหรือ
วันนี้เป็นวันมงคลของเผยจ้าวหยวนกับกู้ชิงเหลียน ทั้งคู่เห็นกันมาตั้งแต่เด็กยามที่ท่านลุงหานมาหาท่านตากู้แต่งงานยียน ท่านป้าเซียวเซียวมักจะพาเด็กๆมาเล่นด้วยกัน ฉินเซียวเซียวแต่งงานกับกู้หานมีบุตรด้วยกันสี่คน กู้ชิงเหลียนเป็นบุตรสาวคนโต ยามนี้อายุสิบหกปีแล้วภายในห้องแต่งตัว เจ้าสาวสวมชุดเจ้าสาวสีเขียวแดงตามธรรมเนียม ข้างๆมีพัดที่ประดับสายไข่มุกห้อยเอาไว้ กู้ชิงเหลียนนั่งให้บรรดาแม่เฒ่าที่ครองรักยาวนานช่วยหวีผมให้ ฉินเซียวเซียวรอให้บุตรสาวแต่งตัวเรียบร้อยก็ให้ทุกคนออกไปรอข้างนอกก่อน"แม่เฒ่า หมัวมัวพวกท่านออกไปก่อนเถอะ ข้ามีเรื่องจะสั่งบุตรสาวเป็นการส่วนตัวสักหน่อย""เจ้าค่ะฮูหยิน"เหล่าสตรีอาวุโสพากันออกไปจากห้องเนื่องจากทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว เมื่อทุกคนออกไปเถาจื่อก็ปิดประตูแล้วยินเฝ้าอยู่ด้านนอก เพราะว่าฉูหยินมีเรื่องจะบอกกล่าวแก่คุณหนูใหญ่ กู้ชิงเหลียนมองหน้ามารดาอย่างมีคำถามก่อนจะเอ่ยออกไป"ท่านแม่...มีเรื่องอันใดหรือเจ้าคะ เหตุใดดูท่านมีลับลมคมในนัก""เหลียนเอ๋อร์..แม่มีเรื่องอยากกำชับเจ้า รับปากแม่ได้หรือไม่""ท่านแม่บอกมาเถอะเจ้าค่ะ ลูกยินดีทำตามที่ท่านแ
รุ่งเช้าเสิ่นชิงเวยตื่นตั้งแต่ยามเหมาเพื่อมาเตรียมตัว วันนี้จวนอ๋องต้องไปส่งมอบสินสอดให้กับสกุลกู้ เผยจ้าวหยวนเตรียมตัวตั้งแต่เมื่อคืน ปีหน้านางกับเขาก็จะแต่งงานกันแล้ว เสด็จแม่บอกว่ารอให้นางโตอีกสักปีเขาจึงรอมาจนถึงป่านนี้ด้านนอกหับสีแดงและกล่องเครื่องประดับวางเรียงราย วันนี้เป็นวันดีเผยจ้าวหยวนไปส่งสินสอด ยามบ่ายสกุลหยางเองก็จะมาเจรจาเรื่องหมั้นหมายระหว่างหยางเยี่ยเฟยกับเผยชิงเหลียนอย่างเป็นทางการเมื่อแสงทองจับขอบฟ้าเผยซ่างกวนก็ตื่นนอน ก่อนจะงัวเงียเดินมากอดภรรยาที่กำลังนั่งอ่านรายการสินสอดอยู่ นางมีบุตรให้เขาแล้วห้าคนเขาเคยโกรธเกลียดนางในครั้งแรกที่ถูกวางยา แต่เมื่อได้รับรู้ว่านางเองก็เป็นเพียงคนที่โชคร้ายที่บังเอิญผ่านเข้ามาในคืนนั้นเขาก็ตามหานางมาตลอด เผยซ่างกวนกอดนางก่อนจะฝังจมูกโด่งลงบนแก้มขาวนวล"ทำอะไรอยู่คนดี""ตรวจดูสินสอดของหยวนเอ๋อร์เพคะ หม่อมฉันเกรงว่าจะไม่ครบ ลูกชายเราแต่งงานทั้งที อีกอย่างเขาเคยประกาศหน้าพระพักตร์ฝ่าบาทเมื่อตอนที่ได้ห้าขวบว่าจะส่งสินสอดให้ชิงเหลียนยาวยี่สิบลี้ ให้ยาวกว่าของพวกเรากับของพระชายาไท่จื่อเสียอีกเพคะ คิกๆๆ"เสิ่นชิงเวยห
ยามเหมาเผยชิงหลานตื่นมาเพื่อดูอาการของหยางเยี่ยเฟยอีกครั้ง นางใช้หลังมือแตะหน้าผากของเขา ท่านหมอบอกว่าเขาอาจมีไข้กลางคืน เมื่อคืนเขาตื่นมาดื่มน้ำและยาลดไข้จากนั้นก็หลับจนกระทั่งถึงตอนนี้"พี่เยี่ยเฟย..พี่ได้ยินหรือไม่ข้าจะไปเตรียมตัวปัดกวาดสุสานท่านย่า ยามอู่จะเซ่นไหว้ข้าจะไปบอกหูเปียวให้มาดูแลท่านนะเจ้าคะ"หยางเยี่ยเฟยตื่นนานแล้วแต่เขายังไม่ลืมตา เมื่อได้ยินดรุณีน้อยตรงหน้าเอ่ยกับเขา หยางเยี่ยเฟยจึงค่อยลืมตาขึ้นราวกับคนที่เพิ่งตื่นนอนก่อนจะเอ่ยกับนางน้ำเสียงัวเงียเล็กน้อย"หลานเอ๋อร์ เจ้าตื่นเช้ายิ่งนัก เมื่อคืนนี้ลำบากเจ้าแล้ว""มิลำบากเลยเจ้าค่ะ หากไม่ได้ท่านข้างต้องฝังอยู่ที่นี่เสียแล้ว อีกอย่างข้าต้องไปปัดกวาดสุสาน วันนี้จะไหว้ท่านย่าน่ะเจ้าค่ะ""ให้พี่ไปช่วยดีหรือไม่ แค่กๆ""พี่พักผ่อนเถอะเจ้าค่ะ มีท่านย่ารองกับท่านปู่อยู่ บ่าวไพร่มากมายนักอีกอย่างท่านบาดเจ็บเพราะช่วยเหลือข้าๆจะให้ท่านไปลำบากอีกได้อย่างไร"หยางเยี่ยเฟยมองหน้านางก่อนจะยิ้ม นางงามมากนักงามเหมือนท่านน้าเว่ยเว่ยจริงๆ เขาไม่เป็นอะไรแล้ว เดิมทีเขามีวรยุทธพิษงูนั่นก็ถูกเขาสกัดเอาไว้ก่อนท่านหมอจ