จวนเผย
เผยซ่างกวนนั่งอยู่กลางห้องโถงใหญ่ เผยฮูหยินนั่งร้องไห้คร่ำครวญเพราะคนสนิทถูกโบยจนตาย เผยปินนกอดฮูหยินตนเองจ้องหน้าบุตรชายก่อนจะเอ่ยขึ้น
"กวนเอ๋อร์ เจ้าทำอันใดป้าฝางเป็นคนเก่าคนแก่ของมารดาเจ้าเหตุใดต้องลงโทษเพียงนั้น เจ้าจะฆ่าก็ควรเป็นสตรีไร้ยางอายนั่น"
เผยซ่างกวนมองหน้าบิดาสลับกับเผยฮูหยินก่อนจะยิ้มเหยียดหันไปทางบิดาเอ่ยออกมา
"มารดาข้าหลับอยู่ที่วัดไท้ส่วย ตรงหน้าคือฮูหยินของท่าน อีกอย่างป้าฝางทำอะไรเผยฮูหยินมิทราบแจ้งแก่ใจตนเองจริงๆหรือ ท่านพ่อบางทีท่านอาจกล่าวถูกดูเหมือนว่าข้าจะฆ่าผิดคน"
ไอเย็นแผ่ออกมาจากร่างสูงที่ยืนขึ้นเต็มตัว เผยจงหยวนรีบเดินไปหามารดาทันที พี่ใหญ่นับวันยิ่งน่ากลัว เขากอดแขนมารดาเอาไว้ เผยฮูหยินลูบหลังบุตรชายก่อนจะเอ่ย
"กวนเอ๋อร์ แม่รู้ว่าแม่ไม่อาจแทนที่มารดาเจ้าได้ แต่อย่าทำเช่นนี้เลยดูสิหยวนเอ๋อร์กลัวจนลนลานแล้ว โถลูกแม่พี่เจ้าแค่กำลังโมโห หาที่ระบายอารมณ์เท่านั้นไม่ได้ตั้งใจทำให้เจ้ากลัวหรอก"
เผยปินปาถ้วยชาลงพื้นก่อนจะตวาดเสียงเข้ม
"เป็นแม่ทัพแล้วอย่างไร ข้าเป็นบิดาเจ้ามิใช่ทหารใต้อาณัติเจ้า นางเป็นท่านแม่เจ้าควรให้เกียรตินาง"
"นางเป็นภรรยาท่าน ไปปลอบประโลมกันเองเถอะ หากคิดว่าข้าดื้อด้านท่านก็รับบทลูกกตัญญูแทนข้าก็แล้วกัน อีกอย่างจากนี้ไปท่านควรคำนับข้าหรือไม่ใต้เท้าเผย"
เผยซ่างกวงเดินออกจากห้องโถงโดยไม่หันกลับไปมอง หลี่ซื่อโมโหแทบตายแล้วอุตส่าห์ทำทุกอย่างเพื่อให้บุตรชายได้ตำแหน่งซื่อจื่อจวนโหวแต่ไอ้เด็กบ้าคนนี้กลับทำศึกชนะได้เป็นแม่ทัพใหญ่ เมื่อเช้าฮ่องเต้ประกาศแต่งตั้งเขาเป็นอ๋องต่างแซ่คนแรก ตอนนี้เขาคือจ้านอ๋อง จวนเผยไม่มีค่าในสายตาไอ้เด็กนี่แล้ว เขาได้รับตำหนักของตนเองใหญ่กว่าจวนเผยถึงสามเท่า
เผยซ่างกวนนั่งรอคนสนิทกลับมารายงาน ไม่นานเสี่ยวจื่อก็กลับมาก่อนจะรายงานความคืบหน้า
"ท่านแม่ทัพ นางชื่อเสิ่นชิงเวย เป็นบุตรสาวคนโตของอดีตรองเจ้ากรมอาลักษณ์เสิ่นชวน รองเจ้ากรมป่วยเรื้อรังมานานราชสำนักให้เงินเยียวยาทุกเดือนแต่เสิ่นชิวน้องชายกลับยักยอกเอาไปหมด แม่นางเสิ่นจึงต้องมารับจ้างทำงานที่จวนเผยขอรับ เมื่อแปดวันก่อนใต้เท้าเสิ่นจากไปแล้วที่เห็นนางใส่ชุดขาวเพราะนางกำลังไว้ทุกข์ขอรับ"
"อืม ไปเสี่ยวจื่อข้าอยากไปเดินเล่นจวนเสิ่นสักหน่อย"
สองคนเจ้านายและลูกน้องพากันไปยังจวนเสิ่น แต่ระหว่างทางกลับเจอกับจ้าวเหมิ่นองค์ชายสาม จึงไปด้วยกัน เจ้าเหมิ่นอยากไปหาเรื่องคนบางคนด้วย เสิ่นชิงผิงเด็กน้อยนิสัยเสียชอบดูถูกเขาเสมอ อายุสิบสามทำตัวเหมือนอาจารย์สำนักศึกษา เจอหน้าคอยสั่งสอนเสมอทั้งที่อ่อนกว่าเขาถึงสามปี
ทั้งสามคนเดินมาถึงประตูเมืองเห็นผู้อพยพกำลังถูกผลักออกไป เผยซ่างกวนเห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งก็หยุดมอง รูปร่างคุ้นตานักไม่รู้ว่าเคยเจอที่ใดมาก่อน เสิ่นชิงเสยเงยหน้ามาพอดีสบตากับดวงตาสีอำพันนั่น ให้ตายสิอย่าให้เขาจำได้เชียวนะ เสิ่นชิงเวยไม่แสดงทีท่าประหม่า หันไปหาน้องชายกับน้องสาวก่อนจะขยับไปตรงกลางที่กำลังถูกผลักดันออกเป็นกลุ่มสุดท้าย
เผยซ่างกวนคุ้นกับแววตานั้น เขากำลังนึกว่าเคยเห็นที่ไหน จนกระทั่งจ้าวเหมิ่นทักเขาถึงได้สติ จากนั้นประตูเมืองก็ปิดลงทันทีเพื่อกันไม่ให้พวกอพยพกลับมาอีก
"ท่านพี่ซ่างกวนท่านมองอันใดกันนานแล้วขอรับ"
"ไม่มีอันใดหรอกไปกันเถอะ องค์ชายรองวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง"
"ก็ดี ตอนนี้ท่านเป็นอ๋องแล้วข้ายินดีด้วยขอรับ จะย้ายไปจวนใหม่เมื่อไหร่หรือ"
"ทำความสะอาดอีกสักพัก น่าจะไม่เกินสิบวันไปกันเถอะองค์ชาย"
"อ้อ ไปกันเถอะพี่ซ่างกวนข้าอยากเจอหน้าเสิ่นชิงผิงเต็มที ข้าจะถามว่าอยากไปเป็นสาวใช้โรงซักล้างตำหนักข้าไหม หึเด็กเย่อหยิ่งเช่นนางน่ารังเกียจ"
เผยซ่างกวนยิ้มให้กับคนอายุน้อยกว่า เสิ่นชิงเวยเนื้อเจ้าหวานนัก หากเจ้ายอมมาเป็นสาวใช้อุ่นเตียงให้ข้า เจ้าก็ไม่ต้องมายืนกวาดใบไม้ ซักผ้าหรือทำงานชั้นต่ำพวกนั้นแล้ว คืนนี้ข้าจะจับเจ้ากินอีกรอบแม่แกะเนื้อแน่น
นอกเมืองหลวงเสิ่นชิงเวยที่ออกจากประตูเมืองได้สักพักแล้ว จนห่างจากเมืองหลวงถึงสิบลี้แล้ว(5กิโลเมตร) จากนั้นก็รอจนทหารยามเผลอจึงจุงน้องๆออกมาจากกลุ่มผู้ลี้ภัย ทหารเหล่านี้ไม่ใช่คนดี เห็นได้ชัดบางคนก็ลวนลามหญิงสาว ไม่มีใครกล้าทำอะไรพวกมัน เสิ่นชิงเวยแม้ไม่พอใจแต่นางไม่อาจช่วยคนอื่นจนตัวเองเดือดร้อน เพิ่งมาได้สองวันต้องยอมมองดูความอยุติธรรมตรงหน้า"พี่ พวกเขาจะตามจับเราไหม""ชู่ จุ๊ๆๆ อย่าเสียงดัง เห็นเหวข้างล่างไหม พี่จะใช้เชือกมัดเอวพวกเจ้าแล้วหย่อนลงไปห้ามร้องห้ามโวยวายไม่งั้นพวกนั้นได้ยินจะฆ่าเรา""พี่ใหญ่ ข้าไม่ร้องข้าอดทนได้"เสิ่นชิงชิวเอ่ยกับพี่สาว เสิ่นชิงเวยมัดเอวเสิ่นชิงผิงคนแรก ก่อนจะค่อยๆหย่อนน้องสาวลงไปที่เหวด้านล่าง ลึกประมาณสิบจั้ง(250เมตร) จากนั้นก็บอกให้แกะเชือกก่อนจะหย่อนน้องชายตามลงไป เมื่อน้องๆลงแล้วนางก็หย่อนตัวเองตามไป จากนั้นก็จุดไฟเผาเชือกให้ไฟค่อยๆลามเผาไหมจนหมดทั้งสามคนหลบอยู่ใต้ชะง้อนหินของหน้าผา หินขนาดกล้างเกือบสองจั้งที่ยื่นออกมาทำให้สามพี่น้องหลบอยู่ใต้นั้นได้พอดี เสียงหญิงสาวผู้อพยพร้องโหยหวนมาทางด้านบนพวกเขา ทหารกำลังย่ำยีเหล่าหญิงสาวไม่ถึงอึดใจเลือดก็
สามพี่น้องนอนในถ้ำด้านนอกฝนหยุดแล้ว โชคดีที่ด้านในมีบ่อน้ำพุร้อน จึงทำให้อุ่นอยู่เสมอ เสิ่นชิงเวยที่วางซาลาเปาไว้ข้างบ่อน้ำทั้งคืนก็ลุกมาปลุกน้องชายกับน้องสาวให้ตื่นเพราะเช้าแล้ว"น้องรอง น้องเล็กตื่นเถอะ เดินทางตอนเช้าจะได้ไม่ร้อน""พี่ใหญ่ เหตุใดเราต้องออกจากเมืองหลวงขอรับ""ท่านอาขายพี่กับพี่รองเจ้าให้กับขุนนางเกษียณคนหนึ่งไปเป็นอนุ หากไม่หนีจะทำเช่นไร รีบล้างหน้าล้างตาเถอะ ที่นี่ถึงจะอยู่ในป่าแต่ห่างจากเมืองหลวงเพียงสามสิบลี้ พวกเรายังไม่ปลอดภัย"สองพี่น้องพยักหน้าก่อนจะไปล้างหน้าเสิ่นชิงเวยบอกน้องๆว่านางจะไปหาผลไม้และหาแหล่งน้ำ เพราะน้ำใกล้จะหมดแล้ว สัญชาตญาณเอาตัวรอดจากชาติที่แล้วทำให้ตามหาไม่ยาก ไม่นานก็เจอไก่ป่าสองตัว กำลังจะจัดการก็เห็นว่ามีไก่ป่าจากอีกด้านเกือบยี่สิบตัว ถ้าเช่นนั้นที่นี่เป็นรังของพวกมันหรือเสิ่นชิงเวยค่อยๆคลานเบาๆไปยังฝูงไก่ที่จิกหาหนอนอยู่ ไม่นานก็เจอรังของพวกมัน มีไข่กว่าสามสิบฟอง เสิ่นชิงเวยเก็บทีละฟองอย่างทะนุถนอม ไม่รู้ว่าต้องเดินอีกนานไหมมีเสบียงดีกว่าไม่มี เงินที่ปล้นเขามาได้ยังไม่ถึงเวลาใช้ไม่อยากเสียเวลามานั่งเชือดไก่จึงเอาแต่ไข่แล้วจากไป เจอเถาวั
ฝนตกลงมาสามวันทำให้ติดอยู่ที่นั่น หลังจากฝนหยุดก็พากันเดินทางต่อ ครึ่งเดือนต่อมาก็ออกจากป่ามาถึงหมู่บ้านริมน้ำ เสิ่นชิงเวยพาน้องๆไปหาที่พัก เดินทางมาอีกครึ่งเดือนก็ถึงเมืองเหอเมื่อหาโรงเตี้ยมได้พอเข้าที่พักก็สั่งอาหารกับน้ำอุ่นให้น้องๆได้อาบน้ำ ระหว่างทางแวะหมู่บ้านที่ผ่านทางขอซื้อเสื้อผ้ากับชาวบ้าน ตอนนี้เสิ่นชิงเวยกับน้องๆจึงเหมือนชาวบ้านมาจับจ่ายข้าวของเพราะใกล้เทศกาลปีใหม่แล้ว"อยู่ในนี้นะ พี่จะไปดูว่ามีรถม้ารับจ้างหรือไม่ ที่นี่อยู่ไกลจากเมืองหลวงน่าจะห้าร้อยลี้แล้ว ถ้าเราจ้างรถม้าไปที่เมืองเป่าซานน่าจะไม่เกินสิบวันก็ถึง แต่ถ้าเป็นเกวียนวัวคงจะนาน"เด็กๆพยักหน้า เสิ่นชิงเวยไม่อยากเอาน้องๆมาเสี่ยง การเช่ารถม้ามีแต่ผู้หญิงกับเด็กคนเราใช่ว่าจะซื่อสัตย์ต่ออาชีพ ตัดสินใจไปร้านมืดนำป้ายหยกออกมาก่อนจะเดินเข้าไป"คุณชายท่านนี้มีทราบว่าต้องการให้ข้าน้อยรับใช้อันใดหรือขอรับ""เอ่อ เถ้าแก่เบาๆหน่อย คือว่าเจ้านายของข้าบังเอิญเสียในบ่อนพนันไปพอควรจึงอยากถอนทุนคืน ไม่ทราบว่าท่านรับจำนำหรือไม่""จำนำแล้วจะมาไถ่คืนหรือไม่""ต้องไถ่คืนสิ แต่ท่านอย่ากล่าวดังไปนะขอรับ หยกห้อยเอวนี่ราคาสูงนักว่ากัน
เสิ่นชิงเวยลักลอบออกจากโรงเตี้ยมไปที่บ่อนพนันหลังโรงรับจำนำ ก่อนจะเอาเสื้อที่ชุบน้ำมันเตรียมไว้ ค่อยๆจุดไฟทีละจุดไฟเริ่มลามนักพนันและคนงานรีบวิ่งดับไป เสิ่นชิงเวยคว้าตั๋วเงินมาได้อีกยี่สิบกว่าใบ รีบกลับไปยังโรงเตี้ยม ปลุกน้องๆให้ตื่นเพราะไปกำลังลามไปทั่วบ่อนและโรงรับจำนำผู้คนแตกตื่นเสิ่นชิงเวยซ่อนตั๋วเงินทั้งหมดไว้ในรองเท้าที่ ร่างนี้เป็นคนตัวเล็กเมื่อสวมรองเท้าจึงทำให้สูงขึ้น คนจึงเชื่อว่านางเป็นบุรุษ ยามเฉินเจ้าหน้าที่ตรวจค้นทุกห้องเพื่อหาขโมยมีข้าวของถูกขโมยออกมาจากโรงรับจำนำกับบ่อนพนันมากมายค้นจนมาถึงห้องของนางเสิ่นชิงเวยแสร้งไอรุนแรง เลือดที่นางลงทุนกรีดฝ่ามือตนเอง ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่กล้าเข้ามา เสิ่นชิงเวยเอามือปิดปากพร้อมไอรุนแรง"แค่กๆๆ ท่านเจ้าหน้าที่ เชิญขอรับ""เจ้าเป็นอะไร แล้วน้องชายเจ้าสองคนนี้ด้วยป่วยเช่นกันหรือเปล่า""แค่กๆๆ เดิมข้าจะเข้าสอบ แต่เพราะป่วยร้ายแรง แค่กๆๆ ทางสำนักบัณฑิตจึงไล่กลับ เกรงว่าข้าจะแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นขอรับ แค่กๆๆๆ"มือปราบละเว้นห้องของพวกนางไม่ตรวจค้นเพราะเกรงกลัว เห็นนางไอจนเลือดยิ่งปอดแหกหนักกว่าเดิม เมื่อทุกคนไปแล้ว สามพี่น้องก็ประคองพี่สาวใน
ได้ยินชาวบ้านที่เมืองเหลิงซานคุยกันนางจึงถามข้อมูลมา ที่หยางไหวมีแค่สี่ร้อยหลังคาเรือน ไม่เล็กจนเกินไป ไม่ใหญ่จนพลุกพล่านน่ารำคาญ ก่อนจะเอ่ยกับชายวัยกลางคนมีสายตาไม่น่าไว้วางใจ นางกำลังแพ้ท้องยังไม่สามรถกระทืบใครได้เต็มที่จึงอยากไปให้พ้นๆก่อน"ขอบคุณท่านลุงเจ้าค่ะ เช่นนั้นข้าขอตัวก่อนนะเจ้าคะ ใต้เท้าข้ากับน้องผ่านได้หรือยังเจ้าคะ""ผ่านได้แล้ว เอ่อเดินทางระวังด้วยนะแม่นางกำลังตั้งครรภ์บางคนนะชอบรุ่มร่ามกับสตรีมีครรภ์เหมือนเป็นโรคจิต"เจ้าหน้าที่ยอมให้ผ่าน แต่ประโยคหลังเขาเดินมากระซิบกับนางเป้นการเตือน เสิ่นชิงเวยเอ่ยขอบคุณ ดูท่าไอ้แก่โรคจิตนี่ชอบหลับนอนกับผู้หญิงท้อง เสิ่นชิงเวยยอมรับว่าร่างเดิมที่นางครองอยู่นี้นับว่าสวยเชียวหล่ะ ถ้าอยู่ในยุคปัจจุบันเป็นนางเอกหรือนางแบบโฆษณาสบายเลยไม่แปลกที่ไอ้นี่จะหื่น"นั่งดีๆนะพี่จะไปหาโรงเตี้ยมพักก่อน""พี่ใหญ่ข้าง่วงแล้ว""ได้ๆ เดี๋ยวไปดูตรอกข้าหน้ากัน"เห็นไอ้แก่นั่นส่งสัญญาณให้คนของมันแล้วว่าให้ตามรถม้านางมา หึ นี่ใครย่ะ ควบรถม้าเข้าเมืองก็หาจังหวะซัดเข็มเงินที่ชุบยาสลบเอาไว้ใส่พวกมันทันที รถม้าไปไกลแล้ว แต่คนของตาแก่นั่นค่อยๆล้มลงๆทีละคน เข็มเ
ศาลาว่าการตำบลหยางไหว"ใต้เท้าเจ้าคะ ข้าอยากได้ทะเบียนบ้านเจ้าค่ะ พอดีข้ากับน้องย้ายมาจากเป่าซาน สามีตายในสนามรบแม่สามีรังเกียจ มิหนำซ้ำสามีมาจากไปตอนที่ข้ากำลังตั้งครรภ์ ข้าไร้ซึ่งทางไปได้แต่หอบลูกในท้องมาอาศัยที่นี่ เห็นเขาบอกกันว่านายอำเภอกู้เป็นคนมีจิตใจเมตากรุณายิ่งนัก มิทราบว่าท่านใช่ใต้เท้ากู้หรือไม่เจ้าคะ"เสิ่นชิงเวยรู้ฐานะของเขาจากป้ายห้อยเอว แต่นางเพียงแค่ทำเป็นไม่รู้จึงยกยอเขาอีกสักหน่อยเท่านั้น กู้เหยียนยิ้มแก้มปริ อืมก็เขาน่ะสิจะใครล่ะ นานๆจะมีคนตาถึงเห็นว่าเขาเป็นคนจิตใจงดงามสักทีชาวบ้านเห็นเขาต้องหลีกให้ไกล เพราะพวกเขาไม่ยอมจ่ายภาษี พอเขาทวงก็ร้องไห้ฟูมฟายราชสำนักเล่นงานหมายหัวเขามาแล้ว หากเขายังใจดีอยู่หมวกขุนนางก็ไม่อาจรักษาได้แล้ว แต่ว่าอย่างไรเล่า ผลผลิตชาวบ้านก็ใช่จะดีนัก จากนั้นเขาหันมาสนใจสตรีรู้ความตรงหน้าก่อนจะเอ่ย"อืม เพิ่งย้ายมาหรือแจ้งชื่อเสียงมาเถอะข้าจะจัดการเรื่องทะเบียนบ้านให้ ว่าแต่เจ้ามีที่อยู่แล้วหรือ""ใต้เท้า อย่าว่าข้าเอ่อใช้งานท่านเลย ข้าเป็นสตรีมีน้องยังเล็กท่านช่วยดูที่หมู่บ้านให้หน่อยได้ไหมเจ้าคะ ว่ามีบ้านหลังไหนที่ไม่ต้องซ่อมแซมมากนัก ข้า
ยามซื่อสามพี่น้องพากันมาถึงที่จวนของนายอำเภอเรียบร้อยแล้ว พวกนางกินมื้อเช้าเรียบร้อยแล้วได้แต่นั่งรอจนกระทั่งกู้เหยียนเดินออกมา เห็นเป็นเสิ่ยชิงเวยนั่งรออยู่มีเด้กสาวอายุไม่น่าจะเกินสิบเอ็ดสิบสองกับเด็กผู้ชายประมาณเก้าขวบสิบขวบนั่งอยู่ข้างๆ เสิ่นชิงเวยลุกคำนับเขาทันที ในมือเด็กทั้งสามีเพียงห่อผ้าคนละห่อ"อืม ไปกันเถอะ หมู่บ้านที่เจ้าจะไปอยู่นั้นเงียบสงบผู้คนจิตใจดีข้าให้คนไปคุยกับผู้นำหมู่บ้านเรียบร้อยแล้ว เขาว่ามีหลังหนึ่งที่ไม่ต้องซ่อมแซมเข้าอยู่ได้เลยเป็นบ้านอิฐมุงกระเบื้องอย่างดี ราคาสามสิบตำลึงประมาณเจ็ดหมู่ไม่แพงเพราะติดตีนเขา""ห่างไกลจากหมู่บ้านเกือบสามลี้ ส่วนอีกหลังราคาประมาแปดสิบตำลึงอยู่ในหมู่บ้าน เจ้ากำลังตั้งครรภ์แม่นางเสิ่นหากเจ้ามีเงินไม่พอสามรถหยิบยืมทางการได้ มีเงินให้ชาวบ้านไดกู้ไปใช้จ่ายก่อนแล้วส่งคืนทีหลังดอกเบี้ยไม่แพงมากนัก""มีเรื่องดีๆเช่นนี้ด้วยหรือเจ้าคะ คนที่คิดวิธีนี้เก่งยิ่งนักนอกจากจะช่วยชาวบ้านให้ไม่ลำบากยังไม่ให้ต้องขายบุตรหลานให้เศรษฐีหรือจวนขุนนางอีกด้วย""อืมจะว่าเก่งก็เก่งจริงๆนั่นแหละ แม่ทัพเผยเป็นแม่ทัพที่ทั้งบู๊ทั้งบุ๋นในคนเดียวกัน"เสิ่นชิงเวยเ
เมืองหลวงภายในห้องหนังสือเผยซ่างกวนกำลังจะคลั่ง เขาคิดถึงแต่เด็กบ้านั่นเพราะอะไรกัน อยากนอนกอดนางเหลือเกินเพราะอะไรกัน นางเป็นคนหรือปีศาจทำเขาคลั่งได้ถึงพียงนี้กลิ่นกายนางไม่หายไปจกาเขาเลย เหมือนมันติดอยู่ที่กายเขาตลอดเวลา“อาเหมิ่น ได้เรื่องอะไรบ้าง”“เรียนท่านอ๋อง ขบวนที่เราไปส่งเดิมทีคนในขบวนบอกว่าเห็นคนลักษณะท่าทางที่ท่านบอก แต่พอถึงจุดที่พวกเราไปพบผู้ลี้ภัยเหล่านั้นพวกเขาก็หายไปแล้ว เดินเป็นบริเวณกว้างพบว่ามีถ้ำเล็กๆ มีการใช้ชีวิตที่นั่นขอรับ ไม่ทราบว่าเป็นพวกเขาหรือไม่ เอ่อ แม่นางเสิ่นอาจกลัวท่านจนหนีไปก็ได้ขอรับ”“หานางให้เจอ ตามหาให้เจอนางเป็นเมียข้าไม่ว่าอย่างไรก็ต้องหา”อาเหมิ่นรับคำสั่งก่อนจะให้คนวาดรูปนางกระจายตามหัวเมืองน้อยใหญ่ คนของจ้านอ๋องมีอยู่ทุกที่ไม่นานคงหานางเจอ น่าแปลกท่านอ๋องไม่ใส่ใจสตรีแต่กลับแทบคลั่งตายที่สตรีในคืนเดียวหายตัวไปเผยซ่างกวนนั่งหลับตา เจ้าอยู่ที่ไหนกันเสิ่นชิงเวย หากกล้ามีชายอื่นนอกจากข้าล่ะก็ข้าจะส่งมันลงนรกทันที เจ้าเป็นเมียข้าเป็นของข้าแค่คนเดียวเท่านั้น"เสิ่นชิงเวยเจ้าเป็นมนุษย์หรือปีศาจกันเหตุใดข้าคนึงหาเจ้านัก"ยามเฉินเผยซ่างกวนที่ตอนนี้
จวนอ๋องนอกเมืองผ่านมาห้าเดือนแล้วนับตั้งแต่วันที่ฮ่องเต้องค์ใหม่ขึ้นครองบัลลังก์ ราษฎรต่างร่มเย็นเป็นสุข ทุกวันจะมีคนสรรเสริญฮ่องเต้องค์ใหม่กับฮองเฮาไม่หยุด ที่ดินที่เสิ่นชิงเวยรับขวัญสะใภ้ใหญ่ ท่านตาของนางมาปรึกษากับแม่สามีว่าควรทำตลาดแบบใดเสิ่นชิงเวยให้เขาทำตลาดค้าส่ง และตลาดค้าปลีก อีกด้านทำถนนคนเดิน และตลาดโต้รุ่ง จากนั้นก็ให้เขาปล่อยเช่าที่ดินให้กับคนที่จะสร้างโรงเตี๊ยมหรือเหล่าอาหารเสิ่นชิงเวยกำลังวาดแบบร่างอยู่ เผยซ่างกวนเห็นร่างที่อุ้ยอ้ายกำลังทำงานก็เดินมาหาก่อนจะแย่งพู่กันจากในมือนางมาแล้วอุ้มร่างอุ้ยอ้ายไปนั่งบนที่นอนหนานุ่ม"ใกล้คลอดแล้ว อย่าเหนื่อยนักเลยวันๆ เคยหยุดพักบ้างหรือไม่""หม่อมฉันร่างสัญญาเช่าที่ดินให้กับเหลียนเอ๋อร์อยู่เพคะ จริงสิทรงให้คนไปติดต่อพ่อค้าเร่ได้ความเช่นไรบ้างเพคะ""พวกเขายินดีจะมาร่วมเป็นพันธมิตรอะไรที่เจ้าว่านั่นแหละ ว่าแต่ทำไมถึงสร้างตลาดใหญ่โตเหลือเกินเว่ยเว่ย แปดร้อยหมู่เชียวนะ""ท่านอ๋อง...หากมีตลาดก็มีพ่อค้า เมื่อมีพ่อค้าก็มีลูกค้า เมื่อมีลูกค้าคนก็มีการสร้างงาน เมื่อมีการสร้างงานก็ต้องหาคน เมื่อนั้นชาวบ้านก็มีงานทำ ชาวบ้านที่ไม่มีเงินไม่ม
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยจ้าวเผยหยวนฮ่องเต้พระองค์ใหม่และเสิ่นชิงผิงฮองเฮาพระองค์ใหม่ก็เสด็จออกมาพร้อมกัน ทั้งสองคนนั่งบนบัลลังก์มองลงมายังขุนนางที่ร่วมกันฝ่าฟันและเปลี่ยนแปลงการปกครองหลายอย่าง ฮ่องเต้กล่าวเปิดงานเลี้ยงจากนั้นทุกคนก็เริ่มดื่มกิน ได้ยินเสียงฝ่าบาทตรัสออกมา"จ้านอ๋อง ที่ผ่านมาต้องขอบใจท่านยิ่งนัก และพระชายาของท่านด้วย กฎหมายใหม่ที่ห้ามซื้อขายคนในครอบครัวเราทำสำเร็จแล้ว รวมถึงภาษีการปล่อยเช่าที่ดิน แม้จะถูกต่อต้านจากพวกคหบดีและขุนนางที่มีผลประโยชน์ไม่น้อย แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี""ล้วนเป็นเพราะพระปรีชาของพระองค์พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมกับพระชายาเพียงแค่ลองเสนอ แต่ทุกอย่างเป็นเพราะพระองค์ทรงผลักดันจนสำเร็จ""เราขอบใจขุนนางทุกคนที่อยู่ตรงนี้ที่ช่วยให้ต้าหลี่มีอำนาจและแสงยานุภาพจนอยู่เหนือแคว้นทั้งหลาย แม่ทัพเสิ่นเราขอบใจท่าน การเจรจากับแคว้นต่างๆ แม้บางคนจะต่อต้านการเจรจาครั้งนี้ อีกทั้งยังกล่าวหาว่าท่านอ่อนแอไม่กล้าสู้รบ แต่กลับกลายเป็นว่านอกจากไม่เสียเลือดเนื้อแล้วต้าหลี่ของเรายังได้ประโยชน์ไม่น้อย เรามีอาหารพวกเขามีเครื่องนุ่งห่ม มีแร่เหล็ก ไม่ต้องปล้นชิงไม่ต้องทำสงคราม แค่
ยามเหมากู้ชิงเหลียนตื่นก่อนนางจะลุกมาเตรียมน้ำล้างหน้าให้กับสามีแต่เช้า เผยจ้าวหยวนคว้าเอวบางรั้งให้นางลงมานอนข้างๆกอดนางเอาไว้ เขาพลิกกายเกยนางไว้ครึ่งตัวสบสายตาคู่งามก่อนจะจุมพิตเปลือกตา กู้ชิงเหลียนยอมให้เขาเชยชมจนพอใจ ร่างสูงทำท่าจะปลดอาภรณ์อีกครั้งแต่นางคว้ามือเขาเอาไว้"ท่านพี่..ยามเหมาแล้ววันนี้ต้องไปยกน้ำชาคารวะเสด็จพ่อกับเสด็จแม่นะเจ้าคะ จะสายไม่ได้""พี่ยังอยากรักเจ้าอีก""ให้เสร็จตามประเพณีก่อนนะเจ้าคะ ข้าไม่หนีท่านไปไหนหรอก ท่านลางานไว้เจ็ดวันมิใช่หรือคนหื่น""อยู่ใกล้เจ้าแล้วคิดอย่างอื่นไม่ออกเลย อยากรักแต่เจ้าคนดี""ลูกไม้ใต้ต้นจริงๆเชียว""หืม อะไรนะ หมายถึงพี่หรือ"กู้ชิงเหลียนหน้าแดงก่อนจะเอ่ยอ้อมแอ้มๆกับคนตัวโต"ข้าเคยได้ยินท่านพ่อเอ่ยกับท่านแม่บ่อยๆว่าจะมาหาเสด็จพ่อต้องดูฤกษ์ยามก่อน คนอะไรขยันรักเมียได้ทุกเวลาให้บ่าวไพร่ให้คนอื่นรอเป็นวันๆ บางครั้งไปแล้วไม่ได้อะไรกลับมาก็มีเพราะท่านอ๋องเอาแต่กักพระชายาไว้ในห้อง ท่านก็คงเหมือนเสด็จพ่อใช่หรือไม่เจ้าคะ""ฮ่าๆๆ คนงามสินสอดพี่ยาวกว่าเสด็จพ่อกับเสด็จอารัชทายาทอีกนะ เช่นนั้นพี่ต้องเก่งกว่าเสด็จพ่อสิ พร้อมไหมรับมือพี่ไหวหรือ
วันนี้เป็นวันมงคลของเผยจ้าวหยวนกับกู้ชิงเหลียน ทั้งคู่เห็นกันมาตั้งแต่เด็กยามที่ท่านลุงหานมาหาท่านตากู้แต่งงานยียน ท่านป้าเซียวเซียวมักจะพาเด็กๆมาเล่นด้วยกัน ฉินเซียวเซียวแต่งงานกับกู้หานมีบุตรด้วยกันสี่คน กู้ชิงเหลียนเป็นบุตรสาวคนโต ยามนี้อายุสิบหกปีแล้วภายในห้องแต่งตัว เจ้าสาวสวมชุดเจ้าสาวสีเขียวแดงตามธรรมเนียม ข้างๆมีพัดที่ประดับสายไข่มุกห้อยเอาไว้ กู้ชิงเหลียนนั่งให้บรรดาแม่เฒ่าที่ครองรักยาวนานช่วยหวีผมให้ ฉินเซียวเซียวรอให้บุตรสาวแต่งตัวเรียบร้อยก็ให้ทุกคนออกไปรอข้างนอกก่อน"แม่เฒ่า หมัวมัวพวกท่านออกไปก่อนเถอะ ข้ามีเรื่องจะสั่งบุตรสาวเป็นการส่วนตัวสักหน่อย""เจ้าค่ะฮูหยิน"เหล่าสตรีอาวุโสพากันออกไปจากห้องเนื่องจากทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว เมื่อทุกคนออกไปเถาจื่อก็ปิดประตูแล้วยินเฝ้าอยู่ด้านนอก เพราะว่าฉูหยินมีเรื่องจะบอกกล่าวแก่คุณหนูใหญ่ กู้ชิงเหลียนมองหน้ามารดาอย่างมีคำถามก่อนจะเอ่ยออกไป"ท่านแม่...มีเรื่องอันใดหรือเจ้าคะ เหตุใดดูท่านมีลับลมคมในนัก""เหลียนเอ๋อร์..แม่มีเรื่องอยากกำชับเจ้า รับปากแม่ได้หรือไม่""ท่านแม่บอกมาเถอะเจ้าค่ะ ลูกยินดีทำตามที่ท่านแ
รุ่งเช้าเสิ่นชิงเวยตื่นตั้งแต่ยามเหมาเพื่อมาเตรียมตัว วันนี้จวนอ๋องต้องไปส่งมอบสินสอดให้กับสกุลกู้ เผยจ้าวหยวนเตรียมตัวตั้งแต่เมื่อคืน ปีหน้านางกับเขาก็จะแต่งงานกันแล้ว เสด็จแม่บอกว่ารอให้นางโตอีกสักปีเขาจึงรอมาจนถึงป่านนี้ด้านนอกหับสีแดงและกล่องเครื่องประดับวางเรียงราย วันนี้เป็นวันดีเผยจ้าวหยวนไปส่งสินสอด ยามบ่ายสกุลหยางเองก็จะมาเจรจาเรื่องหมั้นหมายระหว่างหยางเยี่ยเฟยกับเผยชิงเหลียนอย่างเป็นทางการเมื่อแสงทองจับขอบฟ้าเผยซ่างกวนก็ตื่นนอน ก่อนจะงัวเงียเดินมากอดภรรยาที่กำลังนั่งอ่านรายการสินสอดอยู่ นางมีบุตรให้เขาแล้วห้าคนเขาเคยโกรธเกลียดนางในครั้งแรกที่ถูกวางยา แต่เมื่อได้รับรู้ว่านางเองก็เป็นเพียงคนที่โชคร้ายที่บังเอิญผ่านเข้ามาในคืนนั้นเขาก็ตามหานางมาตลอด เผยซ่างกวนกอดนางก่อนจะฝังจมูกโด่งลงบนแก้มขาวนวล"ทำอะไรอยู่คนดี""ตรวจดูสินสอดของหยวนเอ๋อร์เพคะ หม่อมฉันเกรงว่าจะไม่ครบ ลูกชายเราแต่งงานทั้งที อีกอย่างเขาเคยประกาศหน้าพระพักตร์ฝ่าบาทเมื่อตอนที่ได้ห้าขวบว่าจะส่งสินสอดให้ชิงเหลียนยาวยี่สิบลี้ ให้ยาวกว่าของพวกเรากับของพระชายาไท่จื่อเสียอีกเพคะ คิกๆๆ"เสิ่นชิงเวยห
ยามเหมาเผยชิงหลานตื่นมาเพื่อดูอาการของหยางเยี่ยเฟยอีกครั้ง นางใช้หลังมือแตะหน้าผากของเขา ท่านหมอบอกว่าเขาอาจมีไข้กลางคืน เมื่อคืนเขาตื่นมาดื่มน้ำและยาลดไข้จากนั้นก็หลับจนกระทั่งถึงตอนนี้"พี่เยี่ยเฟย..พี่ได้ยินหรือไม่ข้าจะไปเตรียมตัวปัดกวาดสุสานท่านย่า ยามอู่จะเซ่นไหว้ข้าจะไปบอกหูเปียวให้มาดูแลท่านนะเจ้าคะ"หยางเยี่ยเฟยตื่นนานแล้วแต่เขายังไม่ลืมตา เมื่อได้ยินดรุณีน้อยตรงหน้าเอ่ยกับเขา หยางเยี่ยเฟยจึงค่อยลืมตาขึ้นราวกับคนที่เพิ่งตื่นนอนก่อนจะเอ่ยกับนางน้ำเสียงัวเงียเล็กน้อย"หลานเอ๋อร์ เจ้าตื่นเช้ายิ่งนัก เมื่อคืนนี้ลำบากเจ้าแล้ว""มิลำบากเลยเจ้าค่ะ หากไม่ได้ท่านข้างต้องฝังอยู่ที่นี่เสียแล้ว อีกอย่างข้าต้องไปปัดกวาดสุสาน วันนี้จะไหว้ท่านย่าน่ะเจ้าค่ะ""ให้พี่ไปช่วยดีหรือไม่ แค่กๆ""พี่พักผ่อนเถอะเจ้าค่ะ มีท่านย่ารองกับท่านปู่อยู่ บ่าวไพร่มากมายนักอีกอย่างท่านบาดเจ็บเพราะช่วยเหลือข้าๆจะให้ท่านไปลำบากอีกได้อย่างไร"หยางเยี่ยเฟยมองหน้านางก่อนจะยิ้ม นางงามมากนักงามเหมือนท่านน้าเว่ยเว่ยจริงๆ เขาไม่เป็นอะไรแล้ว เดิมทีเขามีวรยุทธพิษงูนั่นก็ถูกเขาสกัดเอาไว้ก่อนท่านหมอจ
รุ่งเช้าเสิ่นชิงเวยเตรียมข้าวของเรียบร้อยแล้ว เผยปินกับหยุนหลานเองก็ตื่นมาเตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว วันนี้นอกจากเผยปินยังมีเผยจ้าวหยวน เผยชิงหลาน เผยชิงอี้ที่จะไปเซ่นไหว้สุสานของท่านย่าเผยซ่างกวนแจ้งว่าเขาจะถึงเมืองหลวงแล้ว แต่เขาจะแวะไปอารามก่อนเพื่อเซ่นไหว้มารดา เสิ่นชิงเวยจัดเตรียมรถม้าสามคัน แฝดคู่เล็กไม่ได้ไปด้วยเนื่องจากจวนต้องมีคนดูแล ส่วนจ้าวเหลียนซินที่มาหานางแต่เช้าแล้วเพราะได้ยินว่าสามีนางกับจ้านอ๋องกำลังจะถึงเมืองหลวงแล้วข้าวของที่นำไปเพื่อเซ่นไหว้เตรียมเรียบร้อยแล้ว รถม้าจากจวนอ๋องทั้งห้าคันเคลื่อนออกจากจวนปลายยามเซิน กว่าจะถึงอารามก็พลบค่ำพอดี รุ่งขึ้นถึงจะไปปัดกวาดเตรียมเซ่นไหว้ วันนี้หลิวเย่วมาหานางรวมถึงซู่ซู่ อีกไม่นานฝ่าบามจะสละราชบัลลังให้รัชทายาทจ้าวเผยหยวนขึ้นครองราชย์ เสิ่นชิงผิงกำลังจะได้เป็นฮองเฮา นางมีพระโอรสสองพระองค์ พระธิดาหนึ่งองค์ และตอนนี้กำลังตั้งครรภ์คนที่สี่สาวใช้นำขนมกับน้ำชามาที่ศาลารับลม หลิวเย่วฉางจิบชาดอกบัวที่เสิ่นชิงเวยเป็นคนคั่วเองอย่างละเมียดละไม ก่อนจะเอ่ยถึงเรื่องบุตรชายคนโต"พระชายา เยี่ยนเฟยปีนี้สิบหกแล้วยังไ
เวลาล่วงเลยไปเก้าปียามนี้เสิ่นชิงเวยมีบุตรกับเผยซ่างกวนห้าคน ส่วนคนโตอย่างเผยจ้าวหยวนที่ยามนี้อายุสิบแปดปีแล้ว เขาได้หมั้นหมายกับกู้ชิงเหลียนอบย่างที่ตั้งใจเอาไว้และกำลังจะไปส่งสินสอดในอีกสามวันข้างหน้าเสิ่นชิงเวยกำลังทำขนมเพื่อให้พ่อสามีกับหยุนหลานไปเคารพสุสานของแม่สามี เผยซ่างกวนเดินทางไปชายแดนตะวันออกกับเสิ่นชิงชิวเพื่อเจรจาเรื่องเกลือสมุทร กว่าจะกลับคงไม่ทันเผยปินและหยุนหลานจึงไปก่อนด้านนอกเสียงจ้อกแจ้กจอแจดังมา คู่แฝดไม่เหมือนพี่ชายเช่นเผยจ้าวหยวนสักนิด ทั้งซุกซนและเจ้าเล่ห์มากนัก เผยซ่างกวนรู้สึกถึงนิสัยภรรยาของเขาทีเดียว"ชิงอี้...เสด็จแม่ไม่อยู่กำลังทำขนมพวกเราไปนอกจวนกันไหม"เผยชิงหลานท่านหญิงใหญ่เอ่ยชวนน้องชายเผยชิงอี้ ตอนนี้ทั้งคู่อายุสิบสองปีแล้ว ซุกซนยิ่งนักถึงเวลาเรียนก็ไม่เรียนหนังสือ เผยชิงอี้ที่กลัวมารดาก็ส่ายหน้าก่อนจะเอ่ยกับพี่สาว"พี่หญิง เสด็จแม่จับได้ก็จะถูกคัดกฎบรรพชนอีกหรอก ท่านไม่กลัวหรือ""เพ้ยๆๆ เจ้าพูดอะไรนั่น อัปมงคลจริงๆเลย ใครจะอยากไปเขียนหนังสือกัน ยึกยือๆน่าเบื่อจะตาย ข้าจะไปล่าไก่ฟ้าเจ้าไม่ไปก็ตามใจ"เผยชิงอี้จำต้องตามพี่สาวไ
เสิ่นชิงชิวกลับมาก็เตรียมงานแต่งงานทันที วันนี้เป็นวันแต่งงานของเขา พี่สาวตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวให้น้องชายไปรับเจ้าสาว ขบวนรับเจ้าสาวใหญ่โตยิ่งนัก เสิ่นชิงชิวในชุดแต่งงานสีแดงปักลวดลายด้วยไหมสีทองที่รีดจากทองแม้จนเป็นเส้นเล็กๆขบวนรับเจ้าสาวนั้นมีหาบขนมและลูกกวาดรวมทั้งเงินตำลึงมากมายยิ่งนัก อาชาสีขาวบริสุทธิ์ตัดกับชุดเจ้าบ่าวที่เขาสวมใส่ทำให้ดูมีราศีราวกับเทพเซียน เสิ่นชิงเวยส่งน้องชายออกจากจวน นางมานอนที่ในเมืองเพื่อจะได้จัดงานได้ราบรื่น เผยจ้าวหยวนเองก็ตื่นแต่เช้า เขาเห็นน้าชายในชุดเจ้าบ่าวงามสง่าก็นึกถึงตอนที่เสด็จแม่กับเสด็จพ่อแต่งงานกัน เสด็จพ่อทรงรูปงามมากนัก กระทั่งเสิ่นชิงเวยเดินเข้ามาหาเขาจึงได้รู้ตัว"หยวนหยวน..ท่านน้าหล่อเหลาหรือไม่""หล่อเหลารูปงามมากนักขอรับท่านแม่ หากลูกโตขึ้นลูกจะจัดงานแต่งงานกับชิงเหลียนให้ยิ่งใหญ่แบบเสด็จพ่อกับเสด็จอารัชทายาทขอรับ""ดูเจ้าสิ อายุเท่าไหร่กันเอ่ยปากคำก็ชิงเหลียน สองคำก็ชิงเหลียน"เผยจ้าวหยวนยิ้มให้มารดา จากนั้นก็เห็นว่าขบวนรับเจ้าสาวไปไกลแล้ว มารดาเตรียมเรื่องพิธีการ แม่นมที่เสิ่นชิงผิงส่งมาช่วยงานทำให้เสิ่นช