ธารธาราหยิบที่ตรวจครรภ์ออกมาดูแล้วยิ้มกว้าง มองไปที่ประตูห้องน้ำอย่างใจจดใจจ่อ รอบอกข่าวดีกับเขา เขาจะดีใจเหมือนเธอไหมนะ
แกร็ก อาชวีเปิดประตูห้องน้ำเดินออกมาท่อนล่างมีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียว
" จ้องผมแบบนี้หรือว่าอยากได้อีก "
เขาเดินเข้ามารวบเอวเธอเข้ามากอด จมูกโด่งซุกไซร้ซอกคอ มือบีบขยำเต้าอวบ
" พะ พอแล้วค่ะ "
ธารธาราผลักเขาออก พึ่งจะร่วมรักกันไปสามครั้งติดๆ เธอไม่อยากทำบ่อยเกินไปกลัวจะกระทบกับลูกในท้อง
" วีคะ"
" หือ"
"ฉันมีเรื่องจะบอกคุณ"
" เรื่องอะไร"
เธอกำลังเอาที่ตรวจครรภ์ออกมา แต่เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน เขาหยิบโทรศัพท์มาดูแล้วยิ้มก่อนจะรีบกดรับ
" ฮัลโหล อืม ได้สิ ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้เลย"
เขารีบสวมใส่เสื้อผ้าคว้ากุญแจรถหมุนตัวออกไปโดยไม่สนใจเธอเลย
" วีคะ"
" มีอะไรรีบพูดมาผมรีบ"
" คุณไม่ไปไม่ได้เหรอ ฉัน ฉันไม่ค่อยสบาย อยากให้คุณอยู่เป็นเพื่อน"
เธอเข้าไปกอดแขนเขาไว้ เขาปัดมือเธอออก
" ไม่สบายก็ไปหายากินไม่ก็ไปหาหมอ ผมผมไม่ใช่หมอนะ บอกแล้วจะช่วยอะไรได้"
เขาพูดเสียงแข็งกร้าว แล้วรีบเดินออกไป ปิดประประตูกระแทกเสียงดัง ปัง
น้ำตาของเธอไหลรินออกมา ใช้มือลูบท้องที่ยังแบนราบ ไม่รู้ว่าเธอนั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้นนานแค่ไหน ฟุบหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ พอรู้สึกตัวขึ้นมาก็ปวดหัวมาก จะลุกก็ไม่มีแรง จึงโทรเรียกรถพยาบาล
ตื่นมาตอนเช้าเธอโทรไปลางานวันครึ่ง พรุ่งนี้ช่วงบ่ายถึงจะเข้าไปทำงาน วันต่อมาพอน้ำเกลือหมดขวดก็ช่วงเที่ยงพอดี หมอบอกว่าเธอตั้งครรภ์ได้5สัปดาห์แล้ว ให้ดูแลตัวเองให้ดีและอย่าลืมมาฝากท้อง หลังจากทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลก็เรียกแท็กซี่ไปส่งที่บริษัท
ระหว่างเดินผ่านพนักงานกลุ่มหนึ่งก็ได้ยินบทสนทนา
" ผู้หญิงคนนั้นในห้องบอสสวยมากเลยแกว่าไหม คนอะไรทั้งสวยทั้งขาวหุ่นก็ดี"
" หุ่นอย่างกับนางแบบ โอ๊ยฉันอิจฉาจัง คนอะไรโคตรเพอร์เฟคเลย"
" พวกแกไม่รู้อะไร เขาลือกันว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นคนรักของบอส เธอไปเรียนต่างประเทศพึ่งกลับมาเมื่อวาน บอสไปรับด้วยตัวเองที่สนามบินเลย นี่เห็นว่ากลับมาแล้วก็จะแต่งงงานกัน"
" จริงเหรอแก ตัวจริงกลับมาแล้วอย่างงี้ตัวสำรองก็หมดเวลาแล้วสิ"
ธารธาราหยุดชะงัก หันไปจ้องมองพนักงานสามคนที่พูด แล้วมองมาที่เธอด้วยสายตาเยาะเย้ยปนสมเพช
" น้ำมาแล้วเหรอ ไปเถอะ อย่าไปสนใจเสียงหมาเห่าหอนแถวนี้เลย"
พิชาภาเดินมารับธารธารา ทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่เข้าทำงานที่นี่วันแรก
" แกว่าใครเป็นหมา"
" ฉันพูดลอยๆ ใครอยากรับก็คนนั้นแหละ"
ธารธาราวางกระเป๋าลงบนโต๊ะทำงานสีหน้าไม่สู้ดี พิชาภารับรู้ถึงความสัมพันธ์ของเพื่อนกับอาชวี จึงได้แต่ปลอบใจ
" น้ำอย่าคิดมากนะ ไม่ต้องไปฟังที่พวกนั้นพูดกัน บางทีอาจไม่เป็นอย่างนั้นก็ได้"
" ผู้หญิงคนนั้น ตอนนี้อยู่กับเขาในห้องทำงานใช่ไหม"
พิชาภาพยักหน้า ธารธารากำมือแน่นพยายามควบคุมอารมณ์ ไม่ให้ตัวเองเดินเข้าไปในห้องทำงานของเขาเพื่อดูหน้าผู้หญิงคนนั้น เมื่อวานที่เขารีบร้อนออกไปเพราะผู้หญิงคนนั้นกลับมาแล้วนี่เอง
เคยมีคนเตือนเธอว่าอาชวีเคยรักผู้หญิงคนหนึ่งมาก เป็นรุ่นพี่ที่มหาลัยแต่ถูกปฏิเสธ แต่เขาก็ไม่ยอมตัดใจ จนกระทั่งผู้หญิงคนนั้นไปเรียนต่อต่างประเทศ ผ่านไปหลายปีเขาก็ไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหน
จนกระทั่งเธอได้เจอเขาที่ผับแล้วมีวันไนต์กัน เขาบอกว่าติดใจเธออยากขอให้เธอเป็นของเขาเรื่อยไป จนกว่าเราจะเบื่อกัน เธอหลงรักเขาตั้งแต่แรกเห็นเลยตอบตกลงตอนนั้นเธออยู่ปี4 หลังเรียนจบก็ไปสมัครทำงานที่บริษัทของเขา แม้ไม่ตรงสาขาที่เรียนมาแต่ก็ไม่มีปัญหาในการทำงาน ตั้งแต่นั้นมาเธอกับเขาก็มีความสัมพันธ์กันมาตลอด ในเวลางานเขาเป็นเจ้านาย เลิกงานเขาเป็นสามีของเธอ แม้เป็นความสัมพันธ์แบบลับๆไม่อาจเปิดเผยได้ แม้จะรู้ว่าเป็นแค่คนคั่นเวลาแก้เหงาให้เขา แต่เธอก็หวังว่าสักวันจะทำให้เขารักเธอได้ แต่เธอคงหวังมากไป ตอนนี้ตัวจริงเขากลับมาแล้ว เธอต้องไปใช่ไหม ความรู้สึกน้อยใจตีตื้นขึ้นมาเจ็บปวดจนแทบหายใจไม่ออก ก้มมองท้องที่ยังแบนราบเผลอเอามือลูบเบาๆ
" น้ำ น้ำ"
" หือ"
" เป็นอะไรไม่สบายตรงไหนรึเปล่า"
" อะ อ๋อ เปล่าไม่ได้เป็นอะไร"
" แน่นะ เห็นเอามือลูบท้องปวดท้องรึเปล่า "
" เปล่าไม่ได้ปวด ฉันไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ"
"เออแล้วนี่แกกินข้าวมารึยัง "
"กินมาแล้ว"
" แน่นะ ถ้าไม่สบายรีบบอกฉันหล่ะ ว่าแต่แกลางานไปทำอะไรมา"
" อ๋อ จะย้ายห้องหน่ะเลยไปหาดูห้องใหม่มา"
เธอไม่อยากบอกเรื่องที่ไม่สบายจนต้องเข้าร.พ รวมทั้งเรื่องที่เธอท้องด้วย ไม่อยากให้ใครต้องมาสงสารเธอ
" เหรอ แล้วได้ไหมฉันว่าห้องเก่าแกก็ดีนะใกล้บริษัทดีด้วย สะดวกดีออก ห้องก็หรู หรือว่า"
พิชาภารู้ว่าคนรักของอาชวีกลับมาแล้ว ธารธาราคงต้องเตรียมตัวย้ายออก เพราะคอนโดนั่นเป็นของอาชวี เธอได้แต่สงสารเพื่อน
" อย่างที่แกเข้าใจนั่นแหละ"
" ทุกคนบอสเรียกประชุมจ๊ะ รีบไปรวมกันที่ห้องประชุมเร็ว"
นาลินหัวหน้าแผนกเดินเข้ามาบอกทุกคน
" พี่นารู้ไหมว่าบอสมีเรื่องอะไร"
" ไปที่ห้องประชุมเดี๋ยวก็รู้เอง แต่พี่คิดว่าน่าจะเกี่ยวกับแฟนของบอสที่พึ่งกลับมาจากต่างประเทศนะ เห็นว่าจะมาทำงานที่นี่"
พิชาภาเข้าไปกุมมือธารธาราพากันเดินไปที่ห้องประชุม
ห้องประชุม
" ผมขอแนะนำให้ทุกคนรู้จัก นี่คือ อัญญาอร ต่อไปเธอจะมาทำงานที่นี่ในฐานะผู้จัดการแผนกการตลาด"
" บอสคะแต่แผนกการตลาดมีพี่สุธีร์เป็นผู้จัดการอยู่แล้วนะคะ แล้วอย่างนี้"
" สุธีร์ก็ยังเป็นผู้จัดการเหมือนเดิม แค่เพิ่มอัญญาอรเข้าไปอีกคน แผนกการตลาดก็จะมีหัวหน้าทั้งหญิงและชายอย่างละคนช่วยกันทำงาน "
ธารธารามองดูผู้หญิงที่ยืนเคียงข้างอาชวี เธอสวยสง่าสมกับที่ทุกคนพูดกันจริงๆ สูงโปร่งผิวขาว หุ่นเหมือนนางแบบ หน้าตาสวยไม่มีที่ติ เห็นอาชวียิ้มให้อัญญาอรอย่างอ่อนโยน ในใจก็รู้สึกอิจฉาขึ้นมา แต่เธอจะทำอะไรได้ เธอไม่ได้เป็นอะไรกับเขาแม้แต่สถานะก็ไม่มี ระหว่างเดินกลับไปโต๊ะทำงาน พนักงานคนอื่นๆพากันซุบซิบ
" พึ่งมาก็ได้เป็นหัวหน้าเลยแฮะ"
" ก็เธอเป็นแฟนบอส ตอนนี้เป็นแค่ผู้จัดการไปก่อน ต่อไปก็เป็นบอสอีกคน ทีนี้บริษัทเราก็มีบอสผู้ชายคน ผู้หญิงคนไง"
ธารธาราพยายามไม่สนใจในสิ่งที่ได้ยินกลับถึงโต๊ะทำงานก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงานอย่างเดียว
เลิกงานเธอเดินไปมุมหนึ่งของบริษัทอย่างเคยในทุกวัน เธอจะขึ้นรถคันเดียวกันกับอาชวีกลับห้องพักด้วยกัน แต่เดินเกือบถึงก็ต้องหยุดชะงัก เพราะคิดขึ้นมาได้ว่าเธอไม่มีสิทธิ์ขึ้นรถเขา ไม่มีสิทธิ์กลับพร้อมเขาอีกแล้ว ตัวจริงเขากลับมาแล้ว ตัวสำรองอย่างเธอก็หมดเวลา เธอหันหลังเดินออกไปรอรถเมล์ที่ป้ายรอรถหน้าบริษัท เดินยังไม่ทันถึงป้ายรอรถ ฝนก็เทลงมา
" คุณน้ำครับร่มครับ"
ธารธารามองดูร่มที่ดำรงคนขับรถของอาชวียื่นให้ ก่อนจะหันไปเห็นรถของอาชวีจอดอยู่ข้างทาง เขาคงอยู่ในรถและข้างๆเขาก็คงมีคนรักของเขาอยู่ด้วย เธอเมินเฉยแล้ววิ่งฝ่าสายฝนไปที่ป้ายรอรถเมล์ รถเบนซ์คันหนึ่งจอดตรงหน้าเธอ พิชาภาเปิดประตูรถถือร่มลงมา
" น้ำ กลับกับฉัน เดี๋ยวฉันให้พี่วิทย์ไปส่ง"
" ไม่เป็นไรเกรงใจพี่ชายแก ที่พักฉันกับแกอยู่คนละที่ ไปส่งแกแล้วยังต้องวนไปส่งฉันอีก พี่แกต้องรีบไปเข้าเวรที่โรงพยาบาลนะเดี๋ยวจะช้า ฝนตกแบบนี้รถต้องติดแน่"
ชาญวิทย์เลื่อนกระจกรถลง
" ไปเถอะครับไม่ต้องเกรงใจ ฝนตกแบบนี้รถยิ่งติด กว่ารถเมล์จะมาก็อีกนานเลย "
พิชาภาจูงมือธารธาราขึ้นรถไป อาชวีมองดูเหตุการณ์ด้วยสีหน้าเย็นชาก่อนสั่งให้ดำรงออกรถ
ทุกคนในแพมองหน้ากันเลิกลั่ก แพสองลำแข่งขันถ่อแพเร็วกันอยู่รึไง กิตติศักดิ์กับภาสกรและดุษฎีสลับกันเร่งความเร็วแพพยายามแซงแพอีกลำให้พ้น แต่เร่งยังไงก็แซงไม่พ้นสักที ขณะที่แพของอาโบพวกลูกน้องก็สลับกันถ่อ พวกเขามืออาชีพอยู่แล้วแถมยังเป็นนักรบชนเผ่า พวกกิตติศักดิ์สู้ไม่ได้อยู่แล้ว แถมยังส่งสายตาเยาะเย้ยมาให้อีก สุดท้ายทั้งสามคนก็พากันนั่งเหนื่อยหอบ มูเล่ต้องมาถ่อแพแทน กิตติศักดิ์เหนื่อยทั้งกายเหนื่อยทั้งใจ ยิ่งเห็นธารธารากับอาโบส่งสายตาหวานเยิ้มให้กันก็ยิ่งหมดแรง" เธอกับผู้ชายคนนั้น"" หือ"" คนที่เป็นหัวหน้าฐานหน่ะยังไง"ดารินกระซิบถามธารธารา แล้วแอบมองไปที่อาโบ" ก็"" ใช่อย่างที่คิดใช่ไหม"ธารธารายิ้มพยักหน้า" ถึงว่าพวกเราตามหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ ที่แท้ก็ถูกเขาพาไปอยู่ที่ฐานนี่เอง ว่าแต่แซ่บไหม"ธารธาราพยักหน้าแล้วพากันหัวเราะคิกคักกับดาริน ก่อนจะเล่าเรื่องที่พลัดหลงกันจนไปเจอกับอาโบให้ฟัง โมรีที่นั่งอยู่ข้างหน้าก็เงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ ตะวันบ่ายคล้อยอาโบมองธารธาราไม่ละสายตา เห็นเธอพูดคุยหัวเราะกับเพื่อนไม่หยุด พอเธอหันมาสบตา เขาก็ส่งสายตาพยักพเยิดหน้าให้มาหาเขา เธอลุกขึ้นโพโรโรกับจ่อจ่อ
อาโบตรวจดูข้าวของที่จะเอาไปก่อนให้ลูกน้องขนลงแพ แล้วเดินไปรับธารธาราที่กระท่อม" อาโบ"พอเปิดประตู เธอก็พุ่งเข้ามากอดเขาไว้แน่นเขาถามเสียงอ่อนโยน" เตรียมตัวพร้อมรึยัง"เธอส่ายหน้า" หือ ไหนดูซิมีตรงไหนยังไม่พร้อมอีก"เขาสำรวจทั่วตัวของเธอ ก่อนนึกขึ้นมาได้ล้วงเอาสร้อยคอเขี้ยวเสือไฟ ที่เขาทำพิธีปลุกเสกด้วยตัวเองเมื่อหลายคืนก่อนออกมา แล้วสวมใส่ให้เธอ" อะไร"" เขี้ยวเสือไฟ ใส่เอาไว้ป้องกันอันตราย ฉันทำพิธีปลุกเสกทั้งคืนเลยนะ"" แล้วของนายหล่ะ"" ฉันมีคาถาอาคมอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องใส่ของพวกนี้"" อาโบ"เธอกอดรัดเขาแน่นออดอ้อนไม่ยอมปล่อยอยากกอดเขาไว้นานอีกสักหน่อย อยู่กันสองคนแบบนี้ เพราะจากนี้ไปต้องมีคนอื่นอีกหลายคน คงไม่มีโมเม้นต์แบบนี้อีกนานเลยพอเงยหน้าขึ้นสบตาเขา ก็ถูกประกบจูบ เธออ้าปากแลบลิ้นออกมาพันเกี่ยวกับลิ้นของเขา ดูดดุนกันอยู่พักใหญ่ อาโบอุ้มเธอขึ้นไปบนแคร่ถอดเสื้อผ้าตัวเองออก เธอก็ถอดของตัวเองออก เมื่อสองร่างเปลือยเปล่าก็กอดรัดโรมรันกัน สลับกันขึ้นบนลงล่างโยกกันเมามันส์จนลืมไปว่ามีใครอีกหลายคนรอพวกเขาอยู่โพโรโรกับจ่อจ่อยืนชะเง้อรออยู่นาน ก็ยังไม่มีวี่แววว่าอาโบกับธารธาราจะมา
ก็ดี ก็ดี ในเมื่อเขาอยากให้เธอไปพ้นหูพ้นตาเขานัก เธอก็จะไปไม่กลับมาอีก ทำไมนะเวลารักใครต้องทุ่มให้หมดใจไม่เหลือเผื่อใจไว้เจ็บบ้าง คิดเอาไว้ซะดิบดีว่าตามหากล้วยไม้พบจะอยู่กับเขาที่ในป่า ยอมเป็นคนชนเผ่า คิดอะไรอยู่ เขาไม่เอาเธอแล้ว ที่ผ่านมาเธอมันก็แค่ที่บำบัดความใคร่เท่านั้นแหละ ยิ่งคิดก็ยิ่งน้อยใจน้ำตารื้นขึ้นมา" ไม่ต้องลำบากนายหรอก ฉันไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น ไม่ต้องการอะไรเลย ไม่ต้องไปส่งฉันให้เสียเวลาด้วย พวกเขาอยู่ที่หมู่บ้านใช่ไหม เดี๋ยวฉันไปหาพวกเขาเอง"" ลำบากอะไร ทำไมถึงพูดแบบนั้น ฉันเต็มใจ"เขายื่นมือจะเช็ดน้ำตาให้ แต่เธอปัดออกขยับตัวลุกหนีไปนั่งอีกมุม อาโบมองตามด้วยใจที่เจ็บปวด เขาอธิบายไปหมดแล้วแต่ดูเหมือนเธอจะไม่เชื่อเขาเลย เขาต้องทำยังไง เขาเตรียมทุกอย่างเพื่อเดินทางไปกับเธอ เขาฝึกคนใหม่ให้ขึ้นมาแทนที่เขา เพราะตั้งใจว่าเขาจะตามเธอไปทุกที่ เขายอมทิ้งทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่กับเธอ แต่ดูเหมือนว่าเธอไม่ต้องการให้เขาไปด้วย ถ้าเป็นอย่างนั้นเขาก็จะไปส่งเธอให้กับพวกของเธอ แล้วจะแอบตามเธอไปปกป้องเธออยู่ห่างๆ จนกว่าเธอจะได้เจอสิ่งที่เธอตามหาโพโรโรวิ่งตามจนทันนั่งเหนื่อยหอบอยู่ฝั่งตร
อาโบดันตัวผู้หญิงที่โผเข้ากอดเขาออก อยู่ดีๆเธอก็เข้ามากอดเขา ก่อนหน้าพ่อของเธอได้มาหาเขาเพื่อเอาของที่เขาสั่งมาให้ เธอตามพ่อของเธอมาด้วย ส่วนพ่อของเธอพอคุยธุระและมอบของให้เขาเสร็จก็ขอไปคุยกับลูกชาย เขากำลังจะไปเธอก็บอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วย แต่ก็ไม่ได้คุยอะไร เธอเอาแต่ยืนบิดไปบิดมายิ้มเขินอาย จะพูดอะไรก็ไม่พูด เขาเลยบอกว่าถ้าไม่มีอะไรเขาจะไปแล้ว เธอก็พุ่งมากอดเขาเลย " อย่าทำแบบนี้อีกฉันไม่ชอบ เธอก็รู้ว่าฉันมีเมียแล้ว ถ้าอยากมีผัวนักก็อดใจรอหน่อยอีกไม่กี่เดือนก็จะมีงานเลือกคู่ แต่ถ้ามันอดไม่ได้จริงๆ"อาโบมองไปที่ต้นมะเขือยาวแล้วเด็ดมายื่นให้" ให้ฉันทำไม"" แก้คัน"พูดจบก็เดินออกมา เธอมองดูมะเขือยาวในมือ เธอคันตรงไหน แล้วมะเขือยาวแก้คันได้ด้วยเหรออาโบรีบเดินกลับกระท่อม พอเปิดประตูเข้าไปก็ไม่เห็นธารธารา หรือว่าจะไปห้องน้ำนะ เขาวางของในมือลงเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนั่งรอเธอ หลายวันมานี้เขาเตรียมตัวสำหรับเดินทางไปกับเธอ จึงต้องให้คนเตรียมของหลายอย่าง ทั้งของป้องกันตัว อาหารแห้งและของใช้อื่นที่จำเป็น ที่สำคัญคือการฝึกคนใหม่มาแทนที่เขาในช่วงที่เขาไม่อยู่ เขาต้องสอนทักษะหลายๆอย่างให้ แล้วยังมีงาน
กลับถึงกระท่อมอาโบมีท่าทีเงียบขรึมอย่างเห็นได้ชัด ธารธาราไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไรจึงเข้าไปกอดเขา จูบแก้มหนักๆไปหนึ่งที" มีเรื่องอะไรรึเปล่าหรือว่าพวกEUจะโจมตีอีก"" ไม่ใช่ น้ำ"" หือ"" กล้วยไม้นั่นยังไงก็ต้องตามให้ได้ใช่ไหม"" อือใช่ มันสำคัญมากต้องได้มันมาถ้างานวิจัยสำเร็จ เราจะช่วยคนที่เป็นโรคร้ายได้ยังมีอีกหลายชีวิตที่รอคอยอย่างมีความหวังว่าพวกเขาจะหาย มันเป็นงานสำคัญมากเลยนะ แล้วฉันก็ตั้งใจว่าจะต้องทำมันให้สำเร็จ"อาโบถอนหายใจ เขาไม่เคยคิดถึงวันที่ต้องจากเธอเลย เขาคิดแค่ว่าวันนี้ตอนนี้พรุ่งนี้เขาแค่มีเธอในอ้อมกอด ได้รักเธอดูแลเธอมีความสุขกับเธอในทุกๆวัน แต่เขาลืมคิดไปว่าเธอมาในป่าทำไม เธอมีสิ่งที่ต้องทำมีภารกิจหน้าที่ ไม่ใช่มาอยู่กับเขา เขาเองก็เช่นกันมีหน้าที่ต้องปกป้องดินแดน ตอนนี้สถานการณ์สู้รบยังสงบอยู่ แต่อนาคตไม่รุ้วันใดจะเกิดการปะทะกันขึ้นมาอีก เธอจะมาอยู่กับเขาที่นี่ไม่ได้ ไม่ปลอดภัย ไม่มีอนาคต ไม่ยุติธรรมกับเธอหากเขาจะรั้งให้เธออยู่ที่นี่ แต่เขารักเธอ รักมาก แม้เพียงระยะเวลาสั้นๆที่อยู่ด้วยกัน เขาก็ไม่อยากแยกจากเธอแม้สักสิบวินาทีเดียว แต่อนาคตของเราเขามองไม่เห็น เมื่อต่างคน
" เสือที่มันอาละวาดเมื่อคืนมันมาจากไหนพรานรู้ไหม"กิตติศักดิ์ถามขึ้นมา" ไม่แน่ใจ แต่มันคือเสืออาคมแน่ๆแต่จะเป็นของใครอันนี้ก็ไม่รู้ "" แสดงว่าเจ้าของเสือคงจะใช้ให้เสือตัวนั้นเข้ามาทำร้ายคนในหมู่บ้านแน่ๆ"" งั้นก็แสดงว่าเจ้าของเสือต้องมีปัญหากับใครสักคนในหมู่บ้านหรือไม่ก็เป็นฝ่ายตรงข้ามที่พวกเขาเคยสู้รบกัน อ่าอันนี้ผมเดาเอานะ"ภาสกรพูด" ก็อาจเป็นไปได้ "" แต่ข้าคิดว่าน่าจะเป็นเสืออาคมของพวกเล่นของที่หลุดออกมา หรือไม่ก็ถูกปล่อยทิ้งเพราะขี้เกียจเลี้ยง หรือเจ้าของมีอันเป็นไปมันถึงได้ดุร้ายทำร้ายคนไม่เลือกหน้า ที่สำคัญเสือตัวนี้หัวหน้าฐานบอกว่าก่อนจะมาที่หมู่บ้านมันไปที่ฐานมาก่อน เมื่อเช้าข้าก็พึ่งรู้จากลูกชายว่าหลายวันก่อนที่ฐานอียูก็ถูกมันเข้าไปอาละวาดมา"ตาลิบอกทุกคน" ถ้าเป็นอย่างที่หัวหน้าหมู่บ้านเล่า งั้นข้อสงสัยที่ว่าฝั่งอียูจะใช้เสืออาคมมาเล่นงานเราก็ปัดตกไปได้เลย"ตาลิพยักหน้า " ตามแพลนเราต้องออกเดินทางวันนี้ แต่พรานมูเล่กับพรานเซโพบาดเจ็บ เรื่องไปหุบเขามรณะคงต้องยืดวันออกไปก่อน รอจนกว่าพวกพรานจะหายดี"กิตติศักดิ์บอกทุกคน โมรีทำหน้าเซ็งเดินฮึดฮัดกลับเข้ากระท่อมไป" อยู่ต่อก็ดี