เฉินอิ้งถงนั่งนึกรายการอาหารไปเรื่อยเปื่อย คิดอย่างไรก็คิดไม่ตก พลางเคาะแก้มเคาะกระหม่อมอยู่พักใหญ่เสียงหาวหวอดก็แว่วขึ้นมา
“ฮ่าว…นายท่าน กำลังคิดมากเรื่องใดหรือเจ้าคะ”
“เจ้าหลับสบายเชียวนะ เวลาหลับปิดสวิตช์ตัวเองเลยว่างั้นเถอะ”
เสี่ยวฮวายิ้มแหย “การพักผ่อนแบบปรับพลังงานต้องปิดการรับรู้ของทวารทั้งห้านี่เจ้าคะ ที่เสี่ยวฮวาตื่นเพราะสัมผัสได้ถึงความสับสนของนายท่านเจ้าค่ะ ปกติแล้วต้องพักให้ครบสิบสองชั่วยาม [1] พลังงานจะเพิ่มมากขึ้น”
เฉินอิ้งถงทำแก้มป่อง นัยน์ตามองตรงเหม่อลอย “อ้อ…เข้าใจแล้ว” หญิงสาวถอนหายใจ มือเรียวตวัดพู่กันขีด ๆ เขียน ๆ ไปมาเพื่อระบายอารมณ์
“นายท่าน เช่นนั้นกินลูกกวาดหน่อยนะเจ้าคะจะได้อารมณ์ดี”
เฉินอิ้งถงพยักหน้า
เสี่ยวฮวาเห็นอีกฝ่ายใจลอยไร้จิตวิญญาณจึงป้อนขนมหวานเข้าปาก ความหอมละมุนจากลูกกวาดทำให้อารมณ์เริ่มสงบ “ขอบคุณนะ”
“เร็วเข้าระวังอย่าให้เหี่ยวเฉา อย่าทำช้ำด้วยล่ะ” เสียงนางกำนัลดังลอดเข้ามาที่ช่องหน้าต่าง
เฉินอิ้งถงมองตามสตรีที่แต่งกายคล้ายกันถือตะกร้าสานซึ่งด้านในเต็มไปด้วยผักใบเขียว คิ้ว
เฉินอิ้งถงนั่งนึกรายการอาหารไปเรื่อยเปื่อย คิดอย่างไรก็คิดไม่ตก พลางเคาะแก้มเคาะกระหม่อมอยู่พักใหญ่เสียงหาวหวอดก็แว่วขึ้นมา“ฮ่าว…นายท่าน กำลังคิดมากเรื่องใดหรือเจ้าคะ”“เจ้าหลับสบายเชียวนะ เวลาหลับปิดสวิตช์ตัวเองเลยว่างั้นเถอะ”เสี่ยวฮวายิ้มแหย “การพักผ่อนแบบปรับพลังงานต้องปิดการรับรู้ของทวารทั้งห้านี่เจ้าคะ ที่เสี่ยวฮวาตื่นเพราะสัมผัสได้ถึงความสับสนของนายท่านเจ้าค่ะ ปกติแล้วต้องพักให้ครบสิบสองชั่วยาม [1] พลังงานจะเพิ่มมากขึ้น”เฉินอิ้งถงทำแก้มป่อง นัยน์ตามองตรงเหม่อลอย “อ้อ…เข้าใจแล้ว” หญิงสาวถอนหายใจ มือเรียวตวัดพู่กันขีด ๆ เขียน ๆ ไปมาเพื่อระบายอารมณ์“นายท่าน เช่นนั้นกินลูกกวาดหน่อยนะเจ้าคะจะได้อารมณ์ดี”เฉินอิ้งถงพยักหน้าเสี่ยวฮวาเห็นอีกฝ่ายใจลอยไร้จิตวิญญาณจึงป้อนขนมหวานเข้าปาก ความหอมละมุนจากลูกกวาดทำให้อารมณ์เริ่มสงบ “ขอบคุณนะ”“เร็วเข้าระวังอย่าให้เหี่ยวเฉา อย่าทำช้ำด้วยล่ะ” เสียงนางกำนัลดังลอดเข้ามาที่ช่องหน้าต่างเฉินอิ้งถงมองตามสตรีที่แต่งกายคล้ายกันถือตะกร้าสานซึ่งด้านในเต็มไปด้วยผักใบเขียว คิ้ว
ผิงอันหน้าบูดบึ้ง “นี่คือเหตุผลที่ท่านพี่ชางหลงไม่ยอมแต่งงานกับหม่อมฉันหรือเพคะ”เฉินอิ้งถงกลอกตามองไปมาระหว่างสตรีที่มาเยือนกับชายหนุ่มที่ไม่ยอมถอยห่างจากตน มือเรียวสะกิดเบา ๆ “องค์ชาย องค์ชายเพคะ”จินชางหลงลดมือลง “ผิงอันเจ้ามาได้อย่างไร”“หากหม่อมฉันไม่มาจะได้เห็น…ได้เห็น หึ้ย!” ผิงอันสะบัดมือทิ้งอย่างหัวเสียผิงอันงั้นหรือ ชื่อนี้คุ้น ๆ แหะเฉินอิ้งถงพิจารณาสตรีเสียงแปดหลอด กระทั่งอีกฝ่ายเบนความสนใจกลับมาที่นาง “เจ้าเป็นใคร เหตุใดจึงกล้ามาให้ท่าท่านพี่ชางหลงของข้า”เฉินอิ้งถงเลิกคิ้ว “ของท่านหรือ เอ…” เฉินอิ้งถงกวาดสายตาสำรวจจินชางหลง ทั้งยังเดินไปมารอบกายของเขาคิ้วเข้มเลิกขึ้นด้วยความฉงน ส่วนผิงอันโมโหจนอกแทบแตก “ทำอะไรของเจ้า!?”เฉินอิ้งถงละสายตาจากชายหนุ่ม “ข้าไม่เห็นว่าที่ตัวองค์ชายมีป้ายติดไว้ว่ามีเจ้าของเลยนะเจ้าคะ แล้วเช่นนี้จะบอกว่าเป็นของท่านได้อย่างไร”“บังอาจ! ท่านพี่ชางหลงไม่ใช่สิ่งของเสียหน่อย”“แต่เมื่อครู่คนที่บอกว่าเขาเป็นของท่านก็คือตัวท่านเองมิใช่หรือ” เฉินอิ้งถงโต้
เฉินอิ้งถงยืนตัวเกร็งท่ามกลางตำหนักรับรองขนาดกว้าง สตรีสูงวัยทว่างดงามน่าเกรงขามไม่ย่อหย่อนไปกว่าไท่เฟยกวาดสายตามองร่างระหงตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า“พี่หญิงท่านมองนางเช่นนั้นนางก็ทำตัวไม่ถูกสิเพคะ”ไทเฮาปรายตามองเจ้าของเสียง “เจ้าแน่ใจหรือว่านางทำอาหารอร่อยยิ่งกว่าห้องเครื่องของเรา”“เสด็จย่า ฝีมือของนางไม่เลวจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ” จินชางหลงโพล่งอย่างนึกลืมตัวเฉินอิ้งถงที่ยืนตัวเกร็งสะท้านเบนหน้ามองจินชางหลงด้วยแววตาคาดไม่ถึง“เจ้าก็เป็นไปกับเสด็จย่ารองของเจ้า สตรีไร้หัวนอนปลายเท้าอย่างนี้ก็กล้าจะให้นางมาทำเครื่องเสวยในงานเฉลิมฉลองของข้า”จินชางหลงยิ้มขืน เพราะไม่อยากให้เฉินอิ้งถงต้องอึดอัดไปมากกว่านี้จึงเร่งออกตัวเฉินอิ้งถงก้มหน้างุด ผู้ใดจะคิดว่างานที่ต้องทำคือเครื่องเสวยสำหรับงานวันคล้ายวันประสูติของไทเฮา หากรู้แต่แรกนางไม่มีทางยอมตามไท่เฟยเข้าเมืองหลวงเป็นอันขาดรอยยิ้มบนใบหน้าของไท่เฟยอ่อนหวานมีเมตตานางยังพอรับมือไหว ทว่ายามนี้ต้องมาเผชิญหน้ากับไทเฮาผู้สูงศักดิ์หยิ่งทระนงเหงื่อเย็นก็พลันผุดซึมเต็มแผ่นหลังเฉินอิ้งถงขบคิ
เมื่อคืนสนทนากันเสียค่อนคืนกว่าจะได้พักผ่อนจริงฟ้าก็เกือบสว่าง เช้านี้เฉินอิ้งถงถูกเจี่ยงน่าและฉินก่วงปลุกตั้งแต่ไก่โห่เพราะนางกำนัลของไท่เฟยมาตามให้นางไปพบมือเรียวยกขึ้นปิดปากที่กำลังหาวหวอด สองสาวใช้เร่งหวีผมจัดแต่งเสื้อผ้าของเฉินอิ้งถงให้ถูกกาลเทศะ“แม่นางเฉิน ปิ่นนี่ของเจ้างดงามอย่างมากได้มาจากที่ใดกันหรือ”“อ้อ ปิ่นทั่ว ๆ ไปเจ้าค่ะ” เฉินอิ้งถงแก้ตัว อันที่จริงปิ่นในมือของเจี่ยงน่าก็คือเจ้าภูติตัวจิ๋วเสี่ยวฮวา“เช่นนั้นเจ้าเปลี่ยนอันใหม่ให้เข้ากับเสื้อผ้าดีหรือไม่”“ไม่ต้องเจ้าค่ะ ปิ่นปักผมอันนี้ไม่ว่าใช้กับเสื้อผ้าตัวใดก็เหมาะทั้งสิ้น”เจี่ยงน่าลังเล ฉินก่วงไม่อยากขัดใจจึงพยักหน้าให้สหายปักลงบนเส้นผมเงาสลวยดังเดิม“เช่นนั้นก็ได้”ปิ่นปักผมหลากสีย้ายมาประดับอยู่บนศีรษะของเฉินอิ้งถงเป็นที่เรียบร้อย เจี่ยงน่าและฉินก่วงมองหญิงสาวผ่านคันฉ่องก็ตื่นตะลึงจนตาเบิกค้างเจี่ยงน่า “เรื่องจริงหรือนี่ เหตุใดตอนที่ข้าถือเอาไว้ดูแล้วไม่เข้ากับอาภรณ์ตัวนี้เลยสักนิด ไฉนเมื่อประดับอยู่บนศีรษะแม่นางเฉินแล้วจึงดูงดงามเปล่งประกายจนข้าอด
“องค์ชาย! แย่แล้วองค์ชายตกน้ำ” เสียงตูมตามเมื่อครู่ทำให้ผู้คนแตกตื่นไปทั้งตำหนัก กงกงตื่นตูมแผดร้องเสียงหลงทั้งสองที่ยืนกายเปียกมะล่อกมะแล่กกลางสระบัวพลันได้สติ จินชางหลงปล่อยมือจากไหล่แคบทันควัน เฉินอิ้งถงผงะ“เหวอ”เพราะพื้นด้านล่างลื่นมากหินที่เหยียบเต็มไปด้วยตะไคร้น้ำ เฉินอิ้งถงตวัดแขนวาดกลางอากาศจนร่างซวนเซใกล้ร่วงลงไปอีกครั้งจินชางหลงจึงยื่นมือคว้าแขนเปียกชื้นไว้ ทว่าร่างกายเขาเพิ่งพักฟื้นไม่นานหาได้มีกำลังมาก ต่างฝ่ายต่างพูดไม่ออกได้แต่จ้องหน้ากันปริบ ๆ พริบตาร่างทั้งสองก็ล้มทับกันลงน้ำซ้ำซ้อนจนเสียงดังสนั่นตู้ม!เสียงสำลักสอดประสาน น้ำในสระแตกกระจายกลายเป็นละอองน้อยใหญ่กงกงยกมือปิดตามองภาพคนทั้งสองกอดกันกลมลอดหว่างนิ้ว “ไอหยา ทำอย่างไรดี นี่มันเรื่องใดกันเล่า องค์ชาย องค์ชาย…กระหม่อมสมควรตายที่ดูแลพระองค์ไม่ดี”ทหารเวรยามวิ่งมาถึงก็กระโจนตูมตามลงน้ำยกขบวน เสียงเอะอะเอ็ดตะโรดังอยู่ชั่วอึดใจ ทั้งสองก็ถูกช่วยขึ้นมาสำเร็จ โชคดีที่น้ำไม่ลึกมากแต่อากาศนั้นเย็นจัด กงกงเร่งคลี่เสื้อคลุมที่พกมายื่นสวมให้จินชางหลง
บรรยากาศระหว่างเดินทางไม่มีเงียบเหงาเลยสักนิด เพราะมีเจ้าตัวเล็กม่านม่านเจื้อยแจ้วน้ำลายแตกฟองอยู่ผู้เดียว พลังงานอันล้นเหลือย่อมมีวันหมด พริบตาก็ม่อยหลับลงบนตักนุ่มนิ่ม“ดูเจ้าเด็กคนนี้สิ ทำเจ้าลำบากแล้ว”“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะท่านย่าหลี่ ข้าไม่ได้ลำบากใด ข้าไม่เคยยิ้มอย่างมีความสุขเช่นนี้มานานแล้ว รู้จักม่านเอ๋อร์เพียงข้ามวันนางทำให้ข้ามีความสุขยิ่งนัก”“เจ้าคิดเช่นนี้จริงหรือ”เฉินอิ้งถงพยักหน้า “เจ้าค่ะ”หลี่ซูฉียิ้มอบอุ่น สายตาลดมองเด็กน้อยที่หลับตาพริ้ม “ข้ารู้ว่าหลายคนมองว่าม่านเอ๋อร์เป็นเด็กเอาแต่ใจนิสัยโผงผาง แต่เจ้ากลับมองนางต่างออกไป มิน่าเล่าม่านเอ๋อร์จึงชอบเจ้านัก”เฉินอิ้งถงยิ้ม มือเรียวลูบไล้ศีรษะม่านม่านด้วยความทะนุถนอม “ม่านเอ๋อร์น่ารักมากเจ้าค่ะ ข้าเองก็อยากมีน้องสาวเช่นนาง”“เช่นนั้นเจ้าก็มาเป็นพี่สาวของนาง”“เอ๋อ…” เฉินอิ้งถงลังเลหลี่ซูฉีอมยิ้ม “เจ้าคงนึกถึงเรื่องนั้น ขออภัยที่ทำให้เจ้าต้องเก็บไปคิดมาก ใจคนเราไม่อาจบีบบังคับ ไม่รักก็คือไม่รัก ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ เอาไว้ถ้าพบหน้ากันแล้วจะเป็นอย่างไรก็สุดแล้วแ