ธิติ วัชรวิญญู หรือ แทน เหลือบมองสาวสวยที่กำลังหอบหายใจหนักขณะความกังวลเริ่มมาเยือน เขานั่งอ่านหนังสือพิมพ์รอริกะสาวที่นัดไว้อยู่ตรงโถงล็อบบี้และสังเกตเห็นเธอ ตอนแรกแค่คุ้นตาแต่พอจ้องตามจึงจำได้ คิดว่าทำเหมือนคนไม่รู้จัก ไม่ทักทายเหมือนทุกๆ ครั้งดีกว่า ริกะก็โทรเข้ามาขอให้รออีกสักพัก และเขาเห็นชายที่ก้าวตามเฌอเอมอย่างเร่งร้อนมีท่าทีคุกคามและดันเธอไปตรงมุมอับของต้นเสา ธิติจึงตัดสินใจบอกปัดริกะว่าเอาไว้นัดกันใหม่ จากนั้นจึงวางสายแล้วให้เจ้าหน้าที่เอารถเขามารอด้านหน้า ก่อนจะเดินตามไปในมุมนั้น
“เอมพักที่ไหน”
ชายหนุ่มหันมาใส่ใจคนข้างกาย เมื่อขับรถพ้นสถานที่จัดงานเลี้ยงหลังจบแฟชั่นมาพักหนึ่ง เชื่อว่าหากเธอยังจำเขาได้ หมายความว่ายังมีสติอยู่
“โรงแรม...”
น้ำเสียงหวานที่ตอบเขาดูพร่าจนน่าหวั่นใจ แต่ก็ยังดีที่เธอพักที่เดียวกับตน จะว่าไปบรรดานางแบบหลายคนก็พักที่นั่น รวมทั้งริกะด้วย
ชายหนุ่มไม่คิดหันไปสบตาคนข้างๆ เพราะแววตาของเฌอเอมที่มองสบขณะจับแก้มเขาก่อนจะขึ้นรถมานั้นดูราวเรียกร้องวิงวอนอย่างที่เขาไม่เคยเห็น ทำเอาลมหายใจสะดุดไปอึดใจทีเดียว ปฏิกิริยาราวโดนวางยาปลุกอารมณ์ของเธอ ทำให้ธิติคิดหาทางออกจนหัวหมุนทั้งที่ยังขับรถอยู่
“แทน...”
เรือนร่างสวยกอดตัวเองแน่นที่เบาะข้างๆ เปล่งเสียงหวานพร่าแผ่วดึงให้เขาต้องเหล่มอง
“ฮึ?” ชายหนุ่มขานรับสั้นๆ
“ทำ...ทำไงดี มัน...ร้อน ทะ...ทรมาน”
นั่นแหละที่เขากำลังคิดอยู่เหมือนกัน
“เอาเป็นว่าจะพยายามพาไปส่งให้ถึงห้อง ไม่ปล่อยให้วิ่งไปหาใครกลางทางก็แล้วกัน”
ชายหนุ่มบอกออกมาง่ายๆ เขากับเธอไม่จำเป็นต้องคุยกันด้วยคำพูดสวยหรูหรอก
เสียงสูดลมหายใจดังจากคนร่างสวย ขาขาวเรียวงามทั้งสองข้างยกขึ้นมาแนบอก แล้วคู้กายกอดตัวแน่น เหงื่อชุ่มโชกออกมาทั้งร่าง
ธิติเหลือบมองแล้วก็ต้องรีบเบือนกลับมาเพราะผิวขาวลออที่เผยจากกระโปรงสั้นนั้นแทบจะมองเห็นไปถึงกางเกงซับใน ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาด้วยความอึดอัด ในอกเริ่มแน่นหายใจลำบาก ถึงไม่คิดอะไร แต่การได้เห็นสิ่งสวยงามล่อตาแบบนี้มันก็ล่อใจเขาพิลึก เขาเป็นผู้ชายทั้งแท่งนี่นา
ความเงียบเข้าปกคลุมในรถครู่ใหญ่ มีเพียงเสียงหอบหายใจแรงของหญิงสาวให้ได้ยิน กระทั่งธิติพาทั้งคู่เลี้ยวเข้ามาในโรงแรม แล้ววนรถขึ้นไปด้านบนของลานจอดรถ
เขากำลังจะถามชั้นที่พักแต่หญิงสาวก็เอ่ยขึ้นเสียงพร่า
“จอดรถก่อนได้ไหม”
“หาที่จอดอยู่ แป๊บนึง...”
ชายหนุ่มกำลังมองหาจุดที่ใกล้ลิฟต์จึงไม่ได้สนใจอีกฝ่าย แล้วอยู่ๆ ก็ต้องสะดุ้งโหยง
“เฮ้ย!”
ธิติอุทานเพราะร่างสวยโถมมาคว้าพวงมาลัย ทำให้รถแฉลบเล็กน้อย
“ฉัน...ไม่...ไม่ไหว...ฉัน...”
เสียงหวานแผ่วทำเอาเขาขนแขนลุกเลยทีเดียว ธิติตั้งสติควบคุมรถเพื่อหาที่จอด ขณะที่คนข้างๆ เกาะเกี่ยวปะป่ายมือไปทั่วแขนกำยำกับแผงอกกว้าง ปลายนิ้วเรียวสวยคว้าพัวพันกับเนกไทพร้อมลูบไล้อกเขาไปมาจนชายหนุ่มใจหวิว ในที่สุดเขาก็สามารถหาจุดที่ต้องการได้
“ไม่ไหวอะไรเล่า แล้วจะให้ทำยังไง”
ชายหนุ่มยังไม่วายบ่น พยายามไม่สนใจมือที่ยุ่งกับตนเอง กระทั่งจอดรถเรียบร้อยเขาจึงปลดมือบางออกจากร่างกายของตน
ใบหน้างดงามมีสีหน้าสบสน หากแต่ดวงตาชวนเคลิ้มฝันมองเขาหวานฉ่ำ ธิติมั่นใจว่าอีกฝ่ายไม่รู้ตัวอย่างแน่นอน
“เอม...นี่คุณยังมีสติอยู่หรือเปล่า”
เขาถามเช็กเพื่อความมั่นใจ อีกฝ่ายพยักหน้าให้ แต่คิ้วเรียวสวยขมวดเป็นปมเหมือนจะหงุดหงิดลึกๆ ทว่าก่อนที่จะได้พูดอะไรต่อ เธอก็พยายามดึงทึ้งเสื้อผ้าตัวเอง
“เฮ้ย...อะไรอีกละเนี่ย”
ตาคู่คมโตเท่าไข่ห่านเมื่อผ้าที่รัดรึงตรงโค้งสะโพกถูกหญิงสาวดึงสูงขึ้นจนเขาไม่ต้องจินตนาการต่ออีกแล้ว มือบางพยายามรั้งขึ้นไปอีกขณะร่างสวยระหงทว่าอวบอิ่มในส่วนที่ควรจะมีคุกเข่าบนที่นั่ง
“มันร้อน อึดอัด”
เสียงหวานพร่าบ่น แต่ธิติไม่ฟังแล้ว ชายหนุ่มดึงชุดกระโปรงรัดสัดส่วนนั่นลง ไม่ให้หญิงสาวทึ้งออกด้านบนศีรษะได้
“ถอดเสื้อผ้าทิ้งแล้วจะกลับห้องยังไง”
=====
“อะไรก็ไม่ได้”ใบหน้าสวยแดงก่ำขณะย้ำกับเขาด้วยท่าทางขุ่นเคือง ธิติอยากจะบอกว่าคนที่ควรหงุดหงิดมันเขามากกว่าเสียอีก เธอไม่รู้หรอกว่าเขาต้องระงับมือไม้ตัวเอง ร่างกายเบื้องล่าง รวมทั้งจิตใจที่กำลังสั่นคลอนสักแค่ไหน“ถ้าไม่ทำ มันไม่หายง่ายๆ หรอกนะ”ธิติกัดฟันบอกเสียงเข้มจ้องกลับตาดุ บ่งบอกว่าไม่ต้องการถอยเช่นเดียวกัน“ไม่”ดวงตาสองคู่จ้องกันนิ่งเพียงนิด เมื่อคนตัวโตตัดสินใจละมือออกอย่างกะทันหันพร้อมผละออกจากร่างสวยแล้วกอดอกมองอีกฝ่ายราวยืนยันคำเดิม“แค่นี้มันไม่ได้เสียหายอะไรสักหน่อย” เสียงเข้มย้ำใจดวงน้อยวูบหายทันทีเมื่อไอร้อนผ่าวที่โอบร่างห่างออกไป ผิวกายระยิบระยับด้วยความซ่านระริกอีกครั้ง เฌอเอมมองคนที่อยู่ใกล้ทว่าพยายามทำตัวเหมือนนั่งห่างกันลิบอย่างโมโหระคนเจ็บลึกในร่าง ตอนนี้ทุกอณูผิวเนื้อจนถึงกระดูกของเธอกำลังกรีดร้อง อาการแปลบปลาบจนสั่นไปทั้งกายแต่ด้วยทิฐิที่มี ทั้งยังคิดว่าตนเองยอมและเผลอตัวกับเขามากจนเกินไปแล้ว หากจะให้วอนขอคงไม่อาจเปล่งคำพูดได้ หญิงสาวรีบหลุบตาลงต่ำ ไม่ยอมมองร่างสูงใหญ่ที่กำลังเชิญให้เธอกระโดดเข้าใส่เขา พยายามดึงเสื้อผ้าตัวเองลงทว่าก็ไม่ช่วยอะไรมากนักเพราะความย
“ช่วย”เขาตอบสั้นๆ แล้วพลิกให้หญิงสาวเป็นฝ่ายเอนไปนั่งบนเบาะ โดยร่างสูงกำยำตะแคงแนบกายอยู่ข้างๆ แล้วอาศัยความเร็วปล่อยมือที่โอบอีกฝ่ายเลื่อนปรับเบาะลงไปนอน พร้อมกับใบหน้าหล่อคมตามลงไป ก่อนจะแนบปากได้รูปลงไปจูบกลีบปากอิ่มหอมหวานจนเขาแปลกใจที่นึกพอใจ ทั้งที่เวลาปกติเขาจะไม่ชอบหน้ากับปากเชิดๆ หยิ่งราวเจ้าหญิงของเธอสักนิดเฌอเอมประท้วงในลำคอเมื่อถูกจูบ ทว่าพออีกฝ่ายบดชิดไล้เลียกลีบปากเธอชั่วอึดใจเท่านั้น เสียงครางพึงพอใจก็ตามมา ด้วยร่างกายของกำลังเรียกร้องถึงการสัมผัสจากร่างกายที่อุดมไปด้วยกล้ามเนื้อแน่นตึง หญิงสาวมั่นใจว่าแม้จิตใจเธอจะปฏิเสธแข็งขืนสักเพียงใด ต่อให้คนตรงหน้าเป็นโจชัวร่างกายของเธอก็จะยินยอม เพราะการครอบงำของฤทธิ์ยาที่รุนแรงราวกับจะล้มผู้ชายตัวโตๆ ให้เข่าอ่อนทันทีที่มันออกฤทธิ์ เฌอเอมไม่แปลกใจเลยที่ตอนนี้ร่างกายของเธอพร้อมยิ่งกว่าพร้อม ทั้งที่ไม่เคยผ่านช่วงเวลาหวามหวานแบบนี้มาก่อนในชีวิตก็ตามมือหนาค่อยๆ ละจากข้อมือสองข้างของหญิงสาว ขณะเคลื่อนไปเกาะกุมทรวงอวบอิ่มที่เขารู้สึกว่าใหญ่ล้นมือกว่าตอนมองด้วยตาเปล่า โดยยังมอบจูบคลอเคลียกับปากสวยไม่ห่าง พอมือของเขาเคล้าคลึงเบาๆ ก็เห
ธิติพยายามจับมือไม้หญิงสาวให้อยู่นิ่ง อีกมือก็รั้งชุดสวยลงปกปิดสิ่งล่อตาล่อใจ โดยไม่รู้เลยว่าการที่ร่างสูงกำยำของเขาโน้มมาหา มือหนาจับต้อง และลมหายใจร้อนผ่าวที่ตกกระทบผิวเชิญชวนให้เฌอเอมโผเข้าหามากแค่ไหน หญิงสาวมองอีกฝ่ายตาวาวโดยไม่รู้ตัว ร่างกายร้อนซ่านมากขึ้นเรื่อยๆ สำนึกและสติที่พอจะสะกดจิตใจเลือนราง ความต้องการพุ่งสูงพล่านไปทั่วเรือนร่าง เมื่อชายหนุ่มปล่อยมือบางและกำลังจะผละถอยออกเพราะเห็นเธอหยุดนิ่ง แขนเรียวกลับยกขึ้นโอบรอบลำคอแกร่งเป็นเพราะชายหนุ่มเคลื่อนถอยกลับมาที่เบาะตนเองจึงเป็นการพาคนที่โถมเข้าหาตามมาด้วย ร่างสวยจึงไปเกยอยู่บนตักแกร่ง นวลเนื้อที่เบียดลงมาหาทำเอาชายหนุ่มนิ่งขึง แต่ที่น่าตกใจกว่าคือริมฝีปากอิ่มสวยที่ทาบทับบนปากได้รูปของเขาคนสองคนมองสบตากันนิ่งนานในระยะประชิด แววตาคู่สวยหวานลึกซึ้งเพราะฤทธิ์ยา ในขณะที่ตาคู่คมเต็มไปด้วยความสับสน ประหลาดใจ ไม่คาดคิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น แม้สมองเขายังเต็มไปด้วยความแปลกใจแต่ชายหนุ่มก็ยังมีสติมั่นคง ถึงร่างกายกับจิตใจจะคลอนแคลนลงเพราะความหอมละมุนที่โอบล้อมกับเรือนร่างสวยที่เบียดคลอเคลียอยู่บนตักก็ตาม หลังจากคนที่ทาบปากแนบปากเขานิ่งอ
ธิติ วัชรวิญญู หรือ แทน เหลือบมองสาวสวยที่กำลังหอบหายใจหนักขณะความกังวลเริ่มมาเยือน เขานั่งอ่านหนังสือพิมพ์รอริกะสาวที่นัดไว้อยู่ตรงโถงล็อบบี้และสังเกตเห็นเธอ ตอนแรกแค่คุ้นตาแต่พอจ้องตามจึงจำได้ คิดว่าทำเหมือนคนไม่รู้จัก ไม่ทักทายเหมือนทุกๆ ครั้งดีกว่า ริกะก็โทรเข้ามาขอให้รออีกสักพัก และเขาเห็นชายที่ก้าวตามเฌอเอมอย่างเร่งร้อนมีท่าทีคุกคามและดันเธอไปตรงมุมอับของต้นเสา ธิติจึงตัดสินใจบอกปัดริกะว่าเอาไว้นัดกันใหม่ จากนั้นจึงวางสายแล้วให้เจ้าหน้าที่เอารถเขามารอด้านหน้า ก่อนจะเดินตามไปในมุมนั้น“เอมพักที่ไหน”ชายหนุ่มหันมาใส่ใจคนข้างกาย เมื่อขับรถพ้นสถานที่จัดงานเลี้ยงหลังจบแฟชั่นมาพักหนึ่ง เชื่อว่าหากเธอยังจำเขาได้ หมายความว่ายังมีสติอยู่“โรงแรม...”น้ำเสียงหวานที่ตอบเขาดูพร่าจนน่าหวั่นใจ แต่ก็ยังดีที่เธอพักที่เดียวกับตน จะว่าไปบรรดานางแบบหลายคนก็พักที่นั่น รวมทั้งริกะด้วยชายหนุ่มไม่คิดหันไปสบตาคนข้างๆ เพราะแววตาของเฌอเอมที่มองสบขณะจับแก้มเขาก่อนจะขึ้นรถมานั้นดูราวเรียกร้องวิงวอนอย่างที่เขาไม่เคยเห็น ทำเอาลมหายใจสะดุดไปอึดใจทีเดียว ปฏิกิริยาราวโดนวางยาปลุกอารมณ์ของเธอ ทำให้ธิติคิดหาทางอ
“หึๆ ผมไม่ได้เล่น ผมเอาจริง ช่วยไม่ได้ ในเมื่อคุณไม่เปิดโอกาสให้ผมเลย และผมก็ไม่ใช่คนที่จะยอมเสียเปรียบอยู่ฝ่ายเดียวเสียด้วย”ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมรอยยิ้มเหี้ยมเกรียม เท่ากับยอมรับกรายๆ ว่าตั้งใจวางยาเธอ มือหนาประคองข้างแก้มนุ่มนิ่มตั้งใจจะประทับจูบลงไปบนริมฝีปากอิ่ม แม้เธอจะพยายามเบี่ยงหน้าหนี แต่ร่างระหงสั่นเทาตกอยู่ในอ้อมกอดเขาจนยากที่จะหนีแล้วโจชัว บลายเดนท์ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังอลิซเซียตั้งแต่เริ่มต้น เขาเป็นคนพาเธอก้าวเข้ามาสู่วงการแฟชั่นระดับโลก เป็นคนดูแลเธอพร้อมๆ กับฐานะคนรัก หลังจากขอคบกับหญิงสาวเมื่อเธอเป็นนางแบบแถวหน้าของวงการ ทว่าช่วงเวลาแสนหวานนั้นมีระยะเวลาเพียงหนึ่งปี ทั้งคู่คบหากันไม่นานวิมานหวานก็พังครืนเมื่อโจชัวมีผู้หญิงอีกคนก้าวเข้ามาในชีวิต และอลิซเซียก็เป็นฝ่ายถอยออกมาก่อนที่เธอจะได้เป็นนางฟ้าของแบรนด์ดัง ด้วยความโดดเด่นของใบหน้าหวานแบบไทยผสมผสานกับความคมสวยจากเชื้อสายกรีกที่มีครึ่งหนึ่งในสายเลือด ดวงตาสีน้ำเงินครามค่อนข้างเข้มคมโตทรงพลังล้ำลึก รูปร่างระหงได้สัดส่วนงดงามสมบูรณ์ เรียกได้ว่าเธอมาถึงจุดนี้ด้วยตนเองและดูแลตัวเองมาตลอดเวลาสามปีที่หันหลังให้โจชัว“อย่านะ
ร่างระหงเฉิดฉายในชุดชั้นในที่ออกแบบหรูหรา มีอัญมณีประดับบนเนื้อผ้าลูกไม้สีขาวตามแนวลวดลายลูกไม้ พร้อมผ้าซีทรูโปร่งบริเวณเนื้อหน้าท้อง มีเนื้อผ้าหนาปกปิดส่วนที่ควรปิดซ้อนทับด้วยลูกไม้อีกชั้น ส่งให้ชุดขาวบริสุทธิ์บนผิวเนื้อนวลตาดูเซ็กซี่เย้ายวน เรียกร้องให้สายตาทุกคู่มองด้วยความชื่นชม ช่วงจังหวะการเดินมั่นใจคละเคล้าด้วยดนตรีเร้าใจที่มีนักร้องขับขานไปพร้อมกับนางแบบบนเวทีได้อรรถรสสำหรับผู้รับชมเต็มอิ่มมากขึ้นในมุมหนึ่งสายตาร้อนแรงจ้องเรือนร่างระหงงามราวหงส์ขาวบนเวทีอย่างไม่ปิดบัง รอยยิ้มมุมปากหยักยกขึ้นอย่างย่ามใจแฟชั่นโชว์สุดอลังการและตื่นตาตื่นใจของชุดชั้นในแบรนด์ดังของอเมริกาที่มีเหล่านางแบบซึ่งขนานนามว่า ‘นางฟ้า’ เดินอวดโฉมดำเนินไปและดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้ตลอดงานกระทั่งทุกอย่างจบลงอย่างสวยงาม ท่ามกลางความพึงพอใจของทุกฝ่ายในงานเลี้ยงหลังจบงานแฟชั่น อลิซเซีย พาร์ท บอกลาเพื่อนสาวสองคนซึ่งเป็นนางฟ้าเหมือนตนเองก่อนแยกตัวออกมา เธอไม่ได้มีแฟนหนุ่มมารอรับเหมือนสองสาว ไม่มีแม้กระทั่งผู้จัดการ จึงต้องเดินทางกลับคนเดียว หญิงสาวดูแลตัวเองมาได้สามปีหลังจากก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในนางฟ้าของแบรนด์