LOGIN“อุ้ย!” คริสตี้ร้องออกมา เมื่อเธอพยายามจะปิดประตูแต่ฝ่ามือของเอริคก็ดันมันไว้อย่างรวดเร็ว และแน่นอนเธอต้านแรงของเขาไม่ได้ “คุณมาที่นี่ทำไม...” คริสตี้เอ่ยถามด้วยเสียงที่เธอคิดว่าดังมากแล้ว
“เป็นอะไรเหรอเปล่า?” เอริคกลับตอบคำถามของเธอด้วยการตั้งคำถามกลับ เพราะคริสตี้ดูซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด
“ออกไปนะ!” คริสตี้ไม่สนใจฟังและไม่สนใจใบหน้าที่ดูเป็นกังวลอย่างชัดเจนถ้าเธอจะสังเกตุ และมองใบหน้าของคนตรงหน้าตรงๆ
“กินอะไรเหรอยัง?” เอริคหลี่ตามองและตั้งคำถามอีกครั้ง ไม่สนใจคำไล่ของเธอ
“ออกไปนะ!...” คริสตี้อ่อนแรง อ่อนเพลีย เธอเหมือนจะเป็นลม และเธอก็เจ็บปวดเมื่อยตามร่างกาย เธอคงกำลังจะไม่สบาย “อ๊ะ!” เอริคขยับรับร่างที่กำลังจะล้มหมดสติได้ทัน
“ป่วยจริงๆด้วย...เธอนี่ใจเสาะชะมัด” เอริคพูดยิ้มๆและมองดวงตาของคริสตี้ที่ค่อยๆปิดลงอย่างช้าๆ
ไอเดน ซาวันเดอร์ & เชือกฟาง ธรรมบุตร
กลับมาทางฝั่งประเทศไทย ณ สถาบันการศึกษานานาชาติ ประจำจังหวัดภูเก็ต ที่นักเรียนทุกคนอยู่ในห้องสอบกำลังเร่งมือและใช้กำลังสมองทั้งหมดที่มีในการทำข้อสอบ ไอเดน กับ เชือกฟาง ก็เช่นกัน เมื่ออาจารย์คุมสอบบอกเวลาที่เหลืออีกสิบห้านาทีสุดท้าย ไอเดนลุกขึ้นจากเก้าอี้ เขาทำเสร็จแล้วสำหรับข้อสอบวิชานี้ และเขาจะว่างตลอดช่วงบ่าย แต่ไอเดนยังไม่กลับบ้านเขาต้องรอเชือกฟางที่จะมีสอบอีกหนึ่งวิชาช่วงบ่าย แต่สิ่งหนึ่งที่เขาตั้งใจคือ เขาต้องรู้ให้ได้ว่าใครที่แกล้งเชือกฟาง และด้วยสาเหตุใด ทั้งๆที่เขาประกาศออกไปแล้ว
“…ยายเด็กผู้หญิงคนนี้คือคนใช้ประจำตัวของฉัน...ใครหน้าไหน ทั้งหญิงและชายกล้ารังแกเธอ...ฉันไอเดน ซาวันเดอร์คนนี้...พร้อมมีเรื่องกับทุกคน...”
ไอเดนเดินลงจากอาคารเรียนของตน จุดหมายปลายทางคืออาคารเรียนของเชือกฟาง เชือกฟางเป็นรุ่นน้องเขาหนึ่งปี ตอนนี้เขาอยู่เกรดสิบ(มัธยมศึกษาปีที่สี่) เชือกฟางอยู่เกรดเก้า(มัธยมศึกษาปี่ที่สาม) เนื่องจากเป็นช่วงเวลาสอบอยู่ จึงทำให้ตามเส้นทางไม่ค่อยมีนักเรียนมากนัก ไอเดนเดินขึ้นมาถึงชั้นห้องเรียนของเชือกฟาง เขาซ่อนตัวอยู่ห่างๆ รอเวลา เพราะอีกไม่กี่นาทีเด็กนักเรียนชั้นปีนี้ก็ต้องออกมาจากห้องสอบ เพื่อไปกินมื้อเที่ยง
ควับ!!! ไอเดนหลบให้เสาขนาดใหญ่ปิดบังตัวเองไว้ เมื่อเริ่มมีนักเรียนทยอยเดินออกมาจากห้องเรียน
ไอเดนเห็นเชือกฟางแล้ว เธอเดินตามหลังเหล่านักเรียนในห้องออกมา เชือกฟางเลี้ยวไปทางตรงข้ามที่ไอเดนซ่อนตัวอยู่ และเธอก็เลี้ยวขวาที่มีป้ายข้างบนแจ้งว่าห้องน้ำ ไอเดนยังยืนที่เดิมแต่เขาก้มมองนาฬิกา เพื่อจับเวลา
“เชอร์รี่ เธอขอโทษเชือกฟางเหรอยัง? เรื่องเมื่อวานนี้” หญิงสาวหนึ่งในสี่คนที่เดินไปยังทิศทางเดียวกับที่ไอเดนซ่อนตัวอยู่ พวกเธอน่าจะกำลังจะไปโรงอาหาร
“ไม่!…ก็ฉันบอกเธอแล้วไงว่า ไม่! ยายนั้นขัดขวางฉันกับไอเดน”
“ขัดขวาง?...เชอร์รี่ เธอจะบ้าเหรอ เท่าที่ฉันฟังเชือกฟางเขาบอกให้เธอไปบอกไอเดนเองต่างหาก”
“ยายส้ม ตกลงเธอจะเป็นเพื่อนฉันหรือเพื่อนยายนั้น”
“เชอร์รี่แต่ถ้าเรื่องนี้เชือกฟางเขาฟ้องอาจารย์ พวกเราลำบากนะ”
“ลำบาก!...แล้วตอนนี้เธอกับฉันดูลำบากมากเลยเหรอ”
“เพราะอย่างนี้ไงเล่า!...ฉันถึงบอกให้เธอไปขอโทษเชือกฟางเสียดีกว่า...อ๊ะ!” ส้มกับเชอร์รี่ ผงะทันที เมื่อจู่ๆมีร่างของใครคนหนึ่งเดินนำหน้าพวกเธอมาและเข้ามาขวางข้างหน้า
“พวกเธอนี้เองที่แกล้งและทำร้ายเชือกฟาง” ไอเดนกอดอกพูดออกมาด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรให้กับผู้ต้องสงสัยทั้งสองคน
“ปะ...เปล่านะ...ยายนั้นโกหกเธอ พวกฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น” เชอร์รี่ร้อนตัวรีบปฎิเสธออกไปทันที เธอตกใจไม่คิดว่าจะได้เจอไอเดนใกล้ๆ แบบนี้ ‘น่ารักที่สุด’ เชอร์รี่รู้สึกต่อสิ่งที่เห็นอยู่ตอนนี้ ไอเดนใกล้ๆ ดูดีมาก
เขาสูงกว่าเธอมาก ผิวเขาขาวน้ำผึ้ง คิ้วหนาดกดำ ดวงตาสีเทาอ่อน จมูกโด่งเป็นสัน ปากได้รูปอิ่มแดงอย่างคนสุขภาพดี บ่งบอกถึงการเลี้ยงดูที่ดี นิ้วมือเรียว เล็บเป็นสีชมพู ไอเดนมีรูปร่างสมตามวัย และเขายังมีสมองเป็นเลิศ เพราะเขาเป็นอันดับหนึ่งของชั้นเรียนด้วย
“ถ้างั้นพวกเธอเล่าความจริงให้ฉันฟังหน่อยสิ...” ไอเดนพูดออกมาอย่างสบายใจเป็นภาษาไทย เพราะเขาจะใช้ภาษาไทยกับเพื่อนสถาบันที่เป็นคนไทย ซึ่งสองคนนี้ก็ใช่ แต่ก็ยังไม่อนุญาตให้เชอร์รี่กับส้มเดินหนีไปจากตรงนั้น ในขณะที่เพื่อนอีกสองคนเดินแยกไปแล้ว
“เอ่อ!…” สองคนอึดอัดมาทันที เพราะทั้งสองรู้กิตติศักดิ์ของไอเดนเป็นอย่างดี ส้มสะกิดให้เชอร์รี่เป็นคนพูดออกไป ในเมื่อเธอเป็นสาเหตุของเรื่องทั้งหมด
“ทำไม?...อยากจะแกล้งอะไรเขาอีกละ...” “เปล่าสักหน่อย...ยายนั้นมาฟ้องคุณย่าเหรอครับ” “คิดว่าเชือกฟางทำแบบนั้นเหรอ” ไอเดนยิ้มและส่ายหน้า ถึงเขาจะเจอกับเชือกฟางได้ไม่นาน แต่เขารู้ว่าเชือกฟางไม่มีทางทำแบบนั้นแน่นอน “นะครับคุณย่า” “จะดูแลเขาได้เหรอ?” หนูนาถามกลับทันที “ได้ครับคุณย่า” หนูนายิ้มให้กับหลานชาย หนูนามองเข้าไปในดวงตาของไอเดน เธอรู้ว่าไอเดนคิดยังไง และเมื่อไอเดนกล้ามาคุยกับเธอ นั้นก็แสดงให้เธอรู้ว่า ไอเดนคิดยังไงโดยที่ไม่ต้องมีคำพูดมากมาย “คุณปู่และย่าภูมิใจในตัวหลาน
“ไอเดน ฉันชอบเธอ” ไอเดนเบิกตากว้างขึ้น อย่างคาดไม่ถึงว่าจะได้ยินคำนี้จากผู้หญิงอีกคน เชอร์รี่บอกออกไปในที่สุด ซึ่งเรื่องนี้เธออยากจะบอกไอเดนมาตั้งนาน เธอไปขอให้เชือกฟางร่วมมือ ให้เปิดทางให้เธอได้อยู่กับไอเดนเพียงลำพัง แต่... “เธอควรจะหาทางเองดีกว่า” เชือกฟางบอกกับเชอร์รี่ไป หลังจากที่เชอร์รี่บอกให้เชือกฟางกลับบ้านไปเองตามลำพัง ไม่ต้องรอไอเดน “เชือกฟางมันจะยากอะไรนักหนา เธอก็กลับบ้านไปเลย เดี๋ยวฉันจะไปบอกไอเดนแทนเธอเองว่า เธอฝากมาบอกว่ากลับแล้ว” “ไม่ได้!” เชือกฟางตอบเชอร์รี่เพียงแค่นั้น เพราะถ้าเธอขืนทำแบบนั้น ชีวิตเธอคงไม่สงบไปอีกสักพักเป็นแน่ “ทำไมไม่ได้” &ldq
“อุ้ย!” คริสตี้ร้องออกมา เมื่อเธอพยายามจะปิดประตูแต่ฝ่ามือของเอริคก็ดันมันไว้อย่างรวดเร็ว และแน่นอนเธอต้านแรงของเขาไม่ได้ “คุณมาที่นี่ทำไม...” คริสตี้เอ่ยถามด้วยเสียงที่เธอคิดว่าดังมากแล้ว“เป็นอะไรเหรอเปล่า?” เอริคกลับตอบคำถามของเธอด้วยการตั้งคำถามกลับ เพราะคริสตี้ดูซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด “ออกไปนะ!” คริสตี้ไม่สนใจฟังและไม่สนใจใบหน้าที่ดูเป็นกังวลอย่างชัดเจนถ้าเธอจะสังเกตุ และมองใบหน้าของคนตรงหน้าตรงๆ “กินอะไรเหรอยัง?” เอริคหลี่ตามองและตั้งคำถามอีกครั้ง ไม่สนใจคำไล่ของเธอ “ออกไปนะ!...” คริสตี้อ่อนแรง อ่อนเพลีย เธอเหมือนจะเป็นลม และเธอก็เจ็บปวดเมื่อยตามร่างกาย เธอคงกำลังจะไม่สบาย “อ๊ะ!” เอริคขยับรับร่างที่กำลังจะล้มหมดสติได้ทัน 
เฮเลนที่ลอบมองจากหน้าต่าง ล้วงโทรศัพท์ของตัวเองออกมา และกดโทร.ออกทันทีเมื่อเจ้านายขับรถออกไป “คุณมุก...เรื่องน่าจะเลยเถิดไปมากกว่าที่คุณอลันคาดไว้แล้วล่ะคะ” เฮเลนเอ่ยบอกปลายสายทันที เมื่อได้รับเสียงตอบรับมา “เอริค ทำอะไรเหรอคะ?” ปิ่นมุกถามกลับทันที ในขณะที่เธอและ อลันอยู่ที่ญี่ปุ่น “ป้าคิดว่า คุณเอริคมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนนั้นที่เป็นลูกบุญธรรมของดีน เลอนาร์ด...และตอนนี้คุณเอริคก็ออกจากบ้านไปตามลำพังแล้วค่ะ” “ตายจริง!...ขอบคุณนะคะเฮเลน คนที่ก่อเรื่องต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ พี่อลันทำเกินไปแล้ว...มุกฝากเฮเลนช่วยดูแลเธอคนนั้นหน่อยนะคะ... คริสตี้เป็นเด็กดี...มุกได้แต่หวังว่าเอริคจะรับผิดชอบสิ่งที่เขาทำลงไป...แต่ตอนนี้มุกต้องไปจัดการคนที่สร้า
“คริสตี้ ฟังสิ่งที่ฉันจะพูดกับเธอให้ดี...” เอริคพูดพร้อมกับที่เขาจัดการตัวเองโดยการเอาเกราะป้องกันที่ยังคงมีคราบเลือดพรหมจรรย์ของเธอติดอยู่ให้เห็นจางๆออกไป “เธอต้องกลับไปบอกพ่อของเธอว่า วันนี้เธอมาทำหน้าที่ของเธอที่บ้านของฉัน และมันยังไม่เรียบร้อย พรุ่งนี้เธอต้องเดินทางมาที่นี่อีก...” เอริคแต่งตัวไปพร้อมๆ กับพูดในสิ่งที่คริสตี้ต้องทำ เขาหยิบเสื้อผ้าของเธอขึ้นมาจากพื้นและวางบนลงเตียง “...แต่งตัวซะ” เอริคสั่งการทันที เมื่อคริสตี้ยังไม่ขยับ แต่เธอได้ยินสิ่งที่เขาพูด คริสตี้ขยับร่างกายที่บอบบางและอ่อนล้านั้นทันทีเท่าที่เธอจะสามารถขยับได้เร็วพอแบบที่ไม่ต้องเจ็บปวดมาก เสียงพูดของเขายังดังต่อไป โดยที่เขาไม่แม้แต่จะมองเธอเลย คริสตี้รีบแต่งตัวตามคำสั่งนั้น เธอไม่มีคำถามต่อคำสั่งนั้น แต่... “ฉันยังต้องมาที่นี่อีกเหรอ?” คริสตี้ถามกลับด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเสียใจ&
สองมือของเอริคไล้เลื่อนไปยังมือเล็กที่เกร็งดึงรั้งผ้าปูที่นอนดั่งกับต้องการหาหลักที่ยึดเหนี่ยว มือที่ใหญ่และแข็งแรงกว่ากอบกุมมือเล็กไว้ ก่อนที่ เอริคจะทำลายกำแพงนั้น ‘พรหมจรรย์’ “อื้มมมมม...” เสียงร้องในคอของคริสตี้ดังออกมา พร้อมกับดวงตาที่ปิดลงอีกครั้ง น้ำตาของเธอไหลออกมาอีกครั้ง เมื่อโพรงสาวถูกล่วงล้ำโดยแก่นกายของเขาจนแนบสนิทกันและกัน เอริคดูดรั้งริมฝีปากของเธอ เขารับรู้ถึงความเจ็บปวดและอาการเกร็งของเธอทั่วทั้งเรือนร่างภายใต้ร่างกายเขา ให้ตายเถอะ! เอริคเกลียดความรู้สึกของตัวเองตอนนี้ เพราะเขาพยายามหักห้ามตัวเอง เขาจะไม่ปลอบประโลมเธอเด็ดขาด คริสตี้ร้องออกมาเพียงครั้งเดียว จากความเจ็บปวดที่เธอไม่เข้าใจสักนิดว่าเซ็กส์ มันมีดีอะไร ในเมื่อตอนนี้เธอทรมานกับสิ่งที่ได้รับอยู่ ร่างกายเธอแทบจะระเบิดออกมา ยามที่เขาเข้ามาในกายเธอ เธอเจ็บจนเกินบร



![เจ้าเวหา [มาเฟียร้ายรัก]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)



