Share

บทที่ 2

last update Huling Na-update: 2024-11-07 22:35:13

น้ำเสียงหนักของนางบังเกิดลมพัดไหววูบจนเปลวเทียนที่จุดรอบอารามดับไปเกือบททั้งหมด ยังเหลือเปลวสีทองของเทียนต่อหน้าองค์พระและทำให้หยางเซินไต้ซือชะงักงันเมื่อเขานึกอะไรได้บางอย่าง

“นี่คืออำนาจแห่งลมปราณภายในกายเจ้า มันหนักหน่วงและทรงพลังยิ่งจนอาจทำลายอารามเล็ก ๆ นี้ได้ในพริบตา ไม่สิ...มันอาจทำลายอารามในวัดนี้ได้ทีเดียวทั้งหมด ฟางซิน...นี่เจ้าฝึกวรยุทธจากคัมภีร์ฟางเหลยถึงขั้นสูงแล้วใช่หรือไม่”

เมื่อถูกเตือนสติอารมณ์ของฟางซินจึงสงบลง นางตวัดสายตาเพียงน้อยเปลวไฟก็จุดขึ้นบนเทียนไขจนอารามเล็กสว่างไสวขึ้นอีกครั้งแต่ยังความตระหนกแก่ไต้ซือเฒ่ายิ่งนัก นางไม่ยอมตอบขณะหยางเซินไต้ซือส่ายหน้าและทอดถอนใจ

“ฟางซิน...เจ้าไม่บอกข้าก็ไม่เป็นไร เมื่อเจ้ามาที่นี่ก็ดีแล้ว ข้ามีเรื่องที่อยากถาม...เมื่อไม่กี่วันมานี้มีคนจากราชสำนักเดินทางมายังเขาหวงซานแต่ถูกฆ่าตายทั้งหมด เจ้า...คือผู้ปลิดชีพคนเหล่านั้นใช่หรือไม่?”

“ข้าไม่รู้ไม่เห็นกับเรื่องที่ท่านว่ามา”

ผู้ฟังเลิกคิ้วขาวโพลนด้วยความฉงน “เจ้าว่าอย่างไรนะ นี่เจ้าแกล้งไม่รู้หรือว่าไม่รู้เรื่องจริง ๆ กันแน่”

“ผิดก็ว่าผิด ถูกก็ว่าถูก ถึงข้าจะอยู่พรรคมารแต่ก็รู้ถึงคุณของสัจจะว่ามีค่ามากแค่ไหน สิ่งใดที่ข้าไม่ได้ทำจะให้ข้ารับว่าทำได้อย่างไร”

“แต่มีหลักฐานบ่งบอกว่าคนของราชสำนักเหล่านั้นตายด้วยกลีบดอกไม้ปลิดวิญญาณซึ่งใคร ๆ ก็รู้ดีว่ามันเป็นอาวุธของนางมารหมื่นบุปผา”

ฟางซินเลิกรอยคิ้วโก่งคมของนางขึ้นบ้าง แม้จะล่วงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในยุทธภพหากนางมารแห่งวังหมื่นบุปผาให้รู้สึกฉงนต่อคำบอกเล่าของไต้ซือเฒ่า กลีบดอกไม้ปลิดวิญญาณคืออาวุธอันน่ากลัวเกรงของนางที่แปรเปลี่ยนกลีบดอกไม้บอบบางเป็นอาวุธคมกริบเด็ดชีพคนทีเดียวได้นับร้อยนับพัน สักครู่นางจึงยืดไหล่ขึ้นนัยน์ตาของฟางซินสะท้อนแสงจากตะเกียงดูกล้าแข็งขณะจ้องหน้าคู่สนทนาซึ่งอยู่ห่างไปเพียงไม่กี่ก้าว

“แล้วข้าจะทำเช่นนั้นเพื่อจุดประสงค์อันใดเล่า ฆ่าคนที่มิใช่ศัตรูนั้นหาใช่สิ่งที่ข้าจะกระทำไม่”

หยางเซิงไต้ซือลูบเคราสีดอกเลาและมีสีหน้าครุ่นคิด

“บ้านเมืองกำลังวายวุ่น แคว้นต่าง ๆ แตกแยกออกราวแขนงสายน้ำ ผู้ใดได้ชื่อว่ากล้าแข็งจักต้องถูกโค่นล้มอำนาจเพื่อมิให้เป็นขวากหนามทางเดิน หากการตายของคนเหล่านั้นมิได้เป็นเพราะน้ำมือเจ้าก็อาจมีใครสวมรอยเพื่อป้ายสีความผิดให้ผู้คนยิ่งเกลียดชัง”

“และข้าคือผู้ซึ่งยุทธภพเกลียดชัง”

“มันอาจมิใช่เรื่องใหญ่หากหนึ่งในนั้นมิใช่บุตรสาวของอำมาตย์ใหญ่ผู้รับใช้ใกล้ชิดองค์ซ่งไท่จู่ และตอนนี้วังหลวงกำลังส่งคนมาสืบหาตัวคนผิดเพื่อนำกลับไปรับโทษ”

“ทุกคนจึงพุ่งเป้ามายังข้า”

“ฟางซิน”

หยางเซิงไต้ซือร้องขึ้นเมื่อเห็นว่าฟางซินกำลังจะหันหลังกลับออกไปจากอาราม นางหยุดชะงักแต่ไม่ยอมหันกลับไปมองไต้ซือเฒ่ากระทั่งเขากล่าวขึ้น

“ข้ารู้ว่าตอนนี้เจ้ากำลังฝึกปรือวรยุทธจากคัมภีร์เฟิงเหลยในขั้นสูงแล้ว แต่ก็ยังมิสูงสุด ข้าเพียงอยากเตือนเจ้าว่ามันเป็นคัมภีร์อันเยี่ยมยอดอย่างยากจะหาใดเปรียบและเป็นคัมภีร์อันตรายอย่างที่มิอาจมีวิทยายุทธใดเทียบเช่นกัน  เพราะหากเจ้าฝึกสำเร็จในขั้นสุดท้ายอาจถูกอำนาจฝ่ายต่ำครอบงำ  และเจ้ามิอาจหยุดการฝึกได้กลางคันหากก้าวสู่ขั้นสุดยอด เพราะหากเจ้าหยุดมันกายเจ้าจะถูกพลังแห่งจักรวาลภายในทะลุทะลวงตัวเองจนลมปราณแตกซ่าน และที่สำคัญ...”

ไต้ซือเฒ่าหยุดคำกล่าวไว้ชั่วลมหายใจ

“ฟางซิน...เจ้ามิอาจมีความรักได้ เพราะผู้ที่จะสำเร็จคัมภีร์เฟิงเหลยคือผู้ที่ต้องรักษาพรหมจรรย์ หากวันใดที่เจ้าสูญเสียมันไปนั่นหมายความว่าเจ้าต้องสูญสิ้นกำลังภายใน วรยุทธที่เจ้าฝึกฝนและสั่งสมทั้งหมดมีค่าแค่หนึ่งลมหายใจของเจ้าเท่านั้น”

“ข้าไม่มีความรัก...จักไม่มี...ตลอดชีวิต”

จบคำของนางประตูอารามก็เปิดออกด้วยกำลังลมปราณกล้าแข็ง ฟางซินก้าวออกไปอย่างเชื่องช้าราวกลีบดอกไม้ปลิดปลิวลิ่วไปตามสายลมก่อนประตูปิดลง ด้านหน้าอารามเล็กนั้นมีใครอีกคนยืนรออยู่ด้วยความสงบ เหมยเหม่ย ในชุดรัดรึงสีแดงดังจอมยุทธหญิงคือผู้ติดตามใกล้ชิด นางก้มศีรษะลง

“ท่านประมุข...เสร็จธุระของท่านแล้วจะกลับวังบุปผาสวรรค์เลยหรือไม่”

“ยังก่อน”

เหมยเหม่ยช้อนตาขึ้นมองประมุขพรรคบุปผาสรรค์และเห็นความแปลกประหลาดเมื่อนางถอดเสื้อคลุมสีแดงชั้นนอกออกเหลือเพียงเสื้อคลุมสีขาวห่อหุ้มเสื้อสีแดงด้านในก่อนตามด้วยเครื่องประดับผมเป็นปิ่นปักดอกไม้ขนาดใหญ่ยื่นให้ผู้ติดตามคนสนิท เหมยเหม่ยรับมันไว้และก้มหน้าลงอีกครั้ง

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • นางมารหมื่นบุปผา   83

    “ต่อชีวิตเช่นนั้นหรือ?”“มันเป็นคัมภีร์ที่มีทั้งความเด็ดเดี่ยวเฉียบขาดหากซุกซ่อนไว้ด้วยความแหลมคมอย่างที่สุด ครั้งหนึ่งฟางซินช่วยชีวิตท่านไว้ด้วยการถ่ายพลังลมปราณให้และพลังที่ไหลวนในตัวของท่านคือลมหายใจสุดท้ายของนาง”“แต่ตอนนี้ฟางซินอ่อนแอเหลือเกิน”“คนที่ต้องสังเวยชีวิตให้การฝึกวรยุทธ์จากคัมภีร์เฟิงเหลยคือผู้ตัดขาดตัวเองจากคนอื่นโดยปราศจากการเรียนรู้อย่างถ่องแท้ พวกเขาคิดเพียงว่าเมื่อสูญเสียสิ่งหนึ่งไปคือสูญสิ้นทั้งหมดหากทว่ามิใช่ แม้ฟางซินยอมสละทุกอย่างต่อท่านหากนางก็ยังมิสิ้นลมหายใจ นั่นเป็นเพราะนาง...ยังมีท่าน...แม่ทัพเฉิง จงพาฟางซินเดินทางไปยังบูรพทิศในยามตะวันทอแสง ท่านต้องอยู่เคียงข้างนางเสมอ อย่าได้ทอดทิ้งฟางซินเพราะท่านคือผู้นำพาหัวใจของนางและนางก็เปรียบเสมอโคมทองส่องสว่างในหัวใจของท่านไปยังสุดเขตแดนเพื่อตามหาปัญญาชนในสายลมหนาว พวกเขาจะรับรู้เรื่องราวของพวกท่านโดยมิต้องเอ่ยปากบอกเล่าใดๆ”“ปัญญาชนในสายลมหนาว...หนทางนั้นยาวไกลหรือไม่กว่าที่ข้าและฟางซินจะได้พบ”“หากท่านพร้อมยอมเสียสละเพราะมันอาจหมายถึงตลอดชีวิตของท่าน...และนาง”“เสียสละเช่นนั้นหรือ”“จิ้นเหอ...ท่านจะทำอะไร”ฟางซ

  • นางมารหมื่นบุปผา   82

    “เจ้ากลับมาหาข้าแล้ว ฟางซิน”เสียงที่เปล่งออกมายังความประหลาดใจแก่จิ้นเหอด้วยเป็นสรรพเสียงที่ดังกังวานไปถึงเบื้องนอกเมื่อครู่ นางอยู่ในนี้แล้วรู้ได้อย่างไรว่ามีคนเข้ามาในหอตะวันตก“นั่งก่อนเถิด...เจ้าทั้งสอง”นางเชื้อเชิญพลางผายมือเรียวบางไปเบื้องหน้า แม่ทัพหนุ่มก้าวไปหยุดอยู่ห่างออกมาสามสี่ก้าวก่อนค่อย ๆ วางร่างของฟางซินลงก่อนเขาจะหย่อนตัวนั่งเคียงข้างหญิงสาว จิ้นเหอพินิจร่างบอบบางของผู้อยู่เบื้องหลังเตาเหล็ก เจ้าของใบหน้างดงามราวเด็กสาวและแววตาน้ำตาลแวววาวเจิดจรัสราวกับมีรัศมีบางอย่างเปล่งออกมา“ฟางซินบอกข้าว่าท่านคือเทพพยากรณ์”“เรียกข้าว่าจิว”นางกล่าวขณะหยิบกลีบดอกไม้โรยลงในเตาบังเกิดควันพวยพุ่งก่อนจางหายไปอย่างรวดเร็ว“ฟ้าดินเท่านั้นลิขิตชีวิต ข้ารู้เท่าที่ข้ารู้แต่มิอาจล่วงรู้ความลับสวรรค์”“เช่นนั้นท่านก็คงรู้แล้วว่าที่เรามาที่นี่ก็เพื่อสิ่งใด...ข้าคือ เฉิงจิ้นเหอ แม่ทัพแห่งองค์ซ่งไท่จู่”“แม่ทัพเฉิง ข้าเคยบอกฟางซินแล้วว่าวันหนึ่งนางต้องกลับมาหาข้า”“และเป็นดังเช่นท่านกล่าวไว้จริงๆ”ฟางซินเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนเบา ทว่าน่าประหลาดที่รู้สึกถึงเรี่ยวแรงฟื้นคืนกลับมากกว่าเก่าเมื่อเข้

  • นางมารหมื่นบุปผา   81

    หวังซื่อถาม หลวนคุนลุกขึ้นยืนและยืดไหล่หลังตรงอย่างสง่า เขาเชิดหน้าขึ้น“ข้าจะบอกทุกคนว่า....ลุงของข้าประมือกับนางมารหมื่นบุปผา ต่างคนต่างพลาดพลั้งเสียทีต่อกันทำให้ลุงของข้าและประมุขพรรคมารต่างสิ้นลมด้วยกันทั้งคู่”คำตอบนั้นทำให้ทุกคนเงียบกริบด้วยยอมจำนนต่อสติปัญญาของหลวนคุน ทุกคนรู้ว่าเขามิได้ปกป้องตัวเองด้วยเกรงถูกมองว่าเณรคุนเพราะหากมิทำเช่นนี้ก็จะเกิดข้อสงสัยแก่ผู้ที่มีใจภักดิ์ดีต่อเจ้าสำนักเฟิงอี้ที่สิ้นลมไปแล้วอย่างไป่เจี้ยนได้ ขณะนั้นจิ้นเหอกลับกอดฟางซินแนบแน่นยิ่งขึ้น เขากระซิบกับนางด้วยเสียงแม้ห้าวหนักทว่าอ่อนหวานยิ่งนัก“ฟางซิน...ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หวงซานนี้จะถล่มฤาแผ่นฟ้าจะแหลกสลายลง หากข้าก็จะขออยู่เคียงข้างเจ้า...มิหนีไปไหน”หลังจากนั้นมินานที่หลวนคุนเป็นผู้นำทุกคนกลับไปยังพรรคเฟิงอี้ ทั้งแม่ทัพเฉิงจิ้นเหอ หวังซื่อผู้ติดตาม หยางเซิงไต้ซือ รวมทั้งเหมยเหม่ยที่คอยดูแลฟางซินซึ่งนางอ่อนแรงลงทั้งจากลมปราณปรวนแปรและจากการใช้กำลังที่เหลือเพียงน้อยนิดต่อสู้กับทั้งไป๋เจี้ยนและมี่อิง นางทิ้งพรรคบุปผาสวรรค์ที่บัดนี้ยังมิมีผู้ใดขึ้นเป็นประมุขไว้เบื้องหลังเพื่อมุ่งหน้าไปยังหอตะวันตก

  • นางมารหมื่นบุปผา   80

    แม่ทัพหนุ่มร้องด้วยความตกใจก่อนคว้าร่างของหญิงสาวที่ทรุดฮวบไว้ในอ้อมแขน นางลืมตาขึ้นมอง สติของนางยังคงอยู่หากแต่จิ้นเหอนั้นกอดร่างเล็กบอบบางไว้แนบแน่น“ฟางซิน...เจ้าเป็นอะไร”“ลมปราณในกายของนางกำลังปรวนแปร มันค่อย ๆ ทำลายตัวเองทีละน้อย”หยางเซิงไต้ซือตอบขณะก้าวเข้ามา จิ้นเหอแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่“นี่เป็นเพราะนางฝึกพลังลมปราณจากคัมภีร์เล่มนั้น และเป็นเพราะข้าที่ทำให้นางต้องเป็นเช่นนี้ มิมีวิธีใดเลยหรือที่จะช่วยรักษาชีวิตของนางไว้ให้ยืนยาวกว่านี้”ไต้ซือเฒ่าระบายลมหายใจขณะทำสีหน้าครุ่นคิด“เมื่อครู่นี้ข้าได้ยินมี่อิงเอ่ยถึงเทพพยากรณ์ ข้าเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องราวบุคคลผู้นี้ ผู้ซึ่งอาจช่วยฟางซินได้”“แต่ท่านไต้ซือบอกกับข้านี่มิใช่หรือว่าผู้ฝึกวิชาจากคัมภีร์ฟ้าคำรามหากสูญเสียพรหมจรรย์แล้วจะมิมีทางช่วยให้พ้นจากความตายได้”เหมยเหม่ยรีบเข้ามาดูอาการของฟางซินที่นอนหายใจรวยรินในอ้อมกอดของจิ้นเหอ หยางเซิงไต้ซือส่ายหน้า“ที่ข้าบอกจ้าเช่นนั้นเพราะมันเป็นเรื่องเล่ามาช้านาน ข้าเองมิเคยแน่ใจว่าเทพพยากรณ์มีอยู่จริง คนทั้งยุทธภพร่ำลือถึงบุคคลผู้มีญาณวิเศษ มองเห็นอนาคต บางคนว่าเป็นหนุ่มรูปงามราวเทพบ

  • นางมารหมื่นบุปผา   79

    มี่อิงตื่นตระหนกเมื่อรู้สึกปวดปลาบตั้งแต่หน้าผากไปจนถึงท้ายทอย ความเจ็บปวดนั้นราวกับมีเข็มเล็ก ๆ ทิ่มแทงอยู่บนหัวของนาง“อะ...อะไรกันนี่...อะไรกัน!!”ครานี้นางเป็นฝ่ายอุทานขึ้นบ้างเมื่อโลหิตมิใช่หยาดเดียวหยดลงมาอาบเต็มใบหน้าสวยที่บิดเบี้ยวด้วยความหวั่นกลัวและเจ็บปวด มี่อิงพยายามจะถอดมาลาประดับผมออกแต่สายเกินไปเมื่อนางรู้ตัวแล้วว่ากำลังต้องพิษร้ายจากมาลาของประมุข นางกรีดร้องเสียงดัง“กรี๊ด!...ทำไมเป็นเช่นนี้...ฟางซิน...เจ้าใช่ไหม...เจ้าวางยาพิษในมาลานี่ใช่ไหม!”“มิใช่ข้าดอกมี่อิง” ฟางซินตอบด้วยน้ำเสียงอันแน่วนิ่ง “หากแต่นี่คือสิ่งที่ผู้มิใช่ประมุขมิมีวันรู้เกี่ยวกับการได้ครอบครองเสื้อคลุมและมาลาของประมุขพรรคบุปผาสวรรค์”“มะ...มิรู้เช่นนั้นรึ...มิรู้อันใด...โอย...ข้ามิรู้สิ่งใด”มี่อิงร่ำร้องและพยายามถอดมาลาออกจากหัวของนางเพราะความเจ็บปวดทวีความรุนแรงขึ้นทุกขณะ ใบหน้าบิดเบี้ยวของนางอาบด้วยโลหิตแดงฉานที่ไหลหลั่งลงอาบเสื้อคลุมขนาดที่คนติดตามคอยรับใช้ยังถอยหนีด้วยความสะพรึงกลัว ฟางซินก้าวไปหยุดตรงหน้าบันไดซึ่งทอดตัวขึ้นไปสู่บัลลังค์ทองงาช้าง นางส่ายหน้าไปมาขณะมี่อิงซวนเซจนล้มนั่ง โลหิตมากม

  • นางมารหมื่นบุปผา   78

    “ท่านมีบุญคุณต่อข้าใยจะมิสำนึก แต่หากมิทำเช่นนี้แล้วก็มิมีวันที่จะหยุดความทะเยอทะยานของท่านได้ อภัยให้ข้าด้วย...ท่านลุง”หลวนคุนนั่งคุกเข่าและวางคันธนูลงข้างลำตัว ไป๋เจี้ยนเหยียดปากทั้งน้ำกบดวงตา“ข้ามินึก...ทั้งที่มีคนเตือนข้าแล้วว่าให้ระวังคนใกล้ตัว...ข้านึกไปมิถึง...นึกมิถึงเลยจริง ๆ ว่าที่แท้...คนใกล้ตัวก็คือ...เจ้า...”เจ้าสำนักเฟิงอี้ตาเหลือกถลนเมื่อผ่อนลมหายใจสุดท้ายด้วยมิทานทนต่อความเจ็บปวดจากดอกศรที่ปักเข้าบนอกด้านซ้ายพอดิบพอดีก่อนจะล้มตึงลงนอนคว่ำหน้าดวงตาเบิกค้างและผู้ที่ตกใจมากที่สุดเห็นจะไม่พ้นมี่อิงที่ผงะงันและถอยไปเบื้องหลัง“ไป๋เจี้ยน...”จิ้นเหอครางชื่อเจ้าสำนักเฟิงอี้ที่ขาดใจตายลงต่อหน้าอย่างมิน่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้ขณะฟางซินปรี่เข้าไปหา ทั้งสองกอดกันแนบแน่นราวกับได้เกิดใหม่“หลวนคุน...ท่านทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว”หวังซื่อเอ่ยกับหลวนคุนแต่ไม่ทันจะพูดอะไรต่อก็ได้ยินเสียงมี่อิงกังวานขึ้น“ถึงมิมีไป๋เจี้ยนแล้วแต่พวกเจ้าหยุดข้ามิได้ดอก!”นางมารดอกไม้เงินเหยียดยิ้มเยาะก่อนหันไปยังคนสนิทอีกสองคนที่ยังไม่ยอมออกไปจากห้องโถงใหญ่ดังคนอื่น ๆ ที่แตกตื่นวิ่งหนีออกไปเกือบสิ้น หญิงสา

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status