ผ่านมาสองวันดูเหมือนชีวิตของหญิงสาวจะสงบขึ้น เพราะแพนธารินไปดูงานที่ต่างประเทศตั้งแต่วันที่เขาย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านของเธอ
มิณไอริณคนก่อนเป็นคนชอบเก็บตัวและหึงหวงแพนธารินจนขาดสติ หญิงสาวจึงคิดเปลี่ยนแปลงตัวเองกลายเป็นคนมีสติในการใช้ชีวิตมากขึ้น อะไรที่ทำให้ชีวิตแย่ลงต้องตัดมันทิ้งไป
มิณไอริณเดินเข้ามาในร้านอาหารหรูวันนี้เธอมีนัดทานข้าวกับพี่หมอ เขาหล่อดูดีและตรงสเปคเธอทุกอย่าง แต่กลับไม่ตรงใจกับเจ้าของร่าง
“รอนานไหมคะ รถติดไปหน่อยค่ะ”
“มะ…ไม่ครับ” คัมภีร์มองหญิงสาวไม่วางตาวันนี้มิณไอริณแต่งตัวน่ารักมาก แตกต่างจากเมื่อก่อนที่ชอบแต่งตัวเปรี้ยวจี้ด พอมาวันนี้ทำให้เขาละสายตาจากหญิงสาวไม่ได้เลย
“พี่หมอคะ…พี่หมอ!”
“คะ ครับอะไรนะ”
“เหม่ออะไรคะ ไอริณคิดว่าตกหลุมรักไอริณเสียอีก” เธอแซวเขาเล่นคิดว่าสุดท้ายแล้วพี่หมอคงเปลี่ยนใจไปรักคนอื่นแล้ว
“วันนี้ไอริณสวยมากดูเปลี่ยนไปเยอะจนเหมือนไม่ใช่คนเดิม” เขารู้สึกได้ว่าหญิงสาวเปลี่ยนไป อาจจะเพราะถูกทำร้ายจิตใจจนชิน ครั้งนี้จึงกลับมารักตัวเองได้แล้ว
“ยังไงคะ”
“แววตาดูเข้มแข็งมาก ในแววตาไม่มีผู้ชายคนนั้นอยู่เลย” มิณไอริณนัยน์ตาดูเศร้ามาก หญิงสาวไม่ค่อยยิ้มพอเขาได้เห็นรอยยิ้มของคนตรงหน้าอีกครั้ง มันทำให้เขาตกหลุมรักเธออีกครั้ง
“พี่หมอคะรักคนอื่นมากไปมันเหนื่อยค่ะ ต้องหันกลับมารักตัวเองสิถึงจะถูก เราเปลี่ยนเรื่องคุยดีกว่าค่ะไม่อยากพูดถึงคนอื่น”
“พี่สั่งของโปรดมาให้ไอริณด้วยมัสมั่นเนื้อ” เขาเลื่อนแกงมัสมั่นให้หญิงสาว
มิณไอริณมองอาหารที่อยู่ตรงหน้าเมื่อรู้ว่ามันคือเนื้อ เธอไม่ทานเนื้อของสัตว์ใหญ่ยกเว้นหมูกับไก่ ไม่ใช่สายมูนับถือเจ้าแม่กวนอิมแต่เธอไม่ชอบกลิ่น และไม่เคยอยากลิ้มลองมันอีกเลย
“เอ่อ…เปลี่ยนเมนูได้ไหมคะไอริณเลิกทานสัตว์ใหญ่แล้ว”
“ได้สิครับ” ชายหนุ่มเรียกบริกรสั่งอาหารใหม่ เขาแปลกใจอีกหนอะไรที่มิณไอริณเคยชอบตอนนี้กลับไม่ชอบ ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด
ทั้งสองทานอาหารกันไปจนอิ่มหนำสำราญคัมภีร์จึงชวนหญิงสาวออกไปเดินเล่น คิดถึงสมัยที่เขาตามจีบหญิงสาวใหม่ๆ
“อย่าลืมทานยาให้ตรงเวลานะครับ”
“พี่หมอคะ ไอริณไม่ได้ทานยาตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาแล้วค่ะ” จะบอกอย่างไรดีว่าเธอไม่ใช่มิณไอริณ พูดไปคงไม่มีใครเชื่ออาการป่วยเธอจึงหายไป
“แล้วนอนหลับไหม” เขาตกใจที่หญิงสาวเลิกยาโดยไม่ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
“หลับปกติค่ะไอริณเข้มแข็งขึ้นมาแล้ว”
เธอส่งยิ้มให้เขานอกจากพ่อแม่ของมิณไอริณแล้ว น่าจะมีพี่หมออีกคนที่เป็นห่วงหญิงสาวด้วยความจริงใจ หากไม่มีแพนธารินเจ้าของร่างคงรักหมอคัมภีร์ไปแล้ว
อยู่กับพี่หมอแล้วเธอสบายใจเพราะเขาเข้าใจ และคุยเรื่องการทั่วไปทำให้หญิงสาวสบายใจมากขึ้น และหมอมาส่งเธอที่บ้าน
“ขอบคุณนะคะที่มาส่งไอริณเข้ามาดื่มกาแฟก่อนไหมคะ” เธอชวนเขาเข้าบ้านอยากพูดคุยกับเขามากขึ้น เพราะทั้งชีวิตไม่มีใครเข้าใจเธอเลย
“หรือพี่หมอมีงานหรือเปล่าคะไอริณลืมถามเลย”
“วันนี้วันหยุดพี่ครับ” สองหนุ่มสาวพูดคุยกันจนเสียงหัวเราะดังออกมานอกบ้าน ป้าแจ่มเห็นแบบนั้นรู้สึกโล่งใจที่คุณหนูไม่เสียใจ
แพนธารินกลับเข้าบ้านและแปลกใจว่ารถใครมาจอด เพราะเขาไม่คุ้นซึ่งไม่ใช่รถของมิณไอริณ
“รถใคร”
“รถคุณหมอคัมภีร์ค่ะมาส่งคุณหนูเห็นว่าไปทานข้าวด้วยกันมา”
ดวงตาของเขาแข็งกร้าวขึ้นมาทันทีเมื่อรู้ว่าหญิงสาวไปทานข้าวกับผู้ชายคนอื่น ทั้งที่ยังไม่หย่ากับเขาแพนธารินเดินตรงไปยังที่มาของเสียง เขาไม่ชอบใจที่ไอ้หมอมันมาส่งเมียของเขาถึงที่บ้าน
“ยังไม่หย่าพาชู้เข้าบ้านแล้วเหรอ”
“ชู้? คุณพูดตัวเองหรือเปล่าฉันจำได้ว่าที่ผ่านมาคุณชอบพาผู้หญิงเข้ามาบ้านในบ้าน ดีเลยหลักฐานสำคัญสามารถฟ้องหย่าได้”
“มิณไอริณ!” แพนธารินคิดไม่ถึงว่าหญิงสาวจะกล้าถึงขนาดนี้ และยังพูดเรื่องหย่าโดยไม่เสียใจเขาอยากรู้จริงๆ ว่าเธอคิดอะไรอยู่
“ที่อยากหย่าเพราะมันใช่ไหม”
“พี่หมอกลับไปก่อนนะคะแถวนี้มีหมาบ้าค่ะ ไอริณจัดการก่อน” เธอไม่อยากให้เขารับรู้เรื่องของแพนธาริน ซึ่งหมอคัมภีร์เองเข้าใจจึงยอมกลับแต่โดยดี ตอนที่เดินสวนกันกับแพนธารินเขามองชายหนุ่มอย่างเยาะเย้ย
“เธอมันร่านดีนะจับฉันได้แล้วคิดจะไปจับคนอื่นต่อเหรอ ไม่ละอายใจบ้างหรือไง!” เขาสาดคำพูดร้ายกาจใส่หญิงสาวเหมือนอย่างที่ผ่านมา คิดว่ามิณไอริณคงจะกรีดร้องทำร้ายข้าวของอย่างที่ผ่านมา
“…” เธอแบะปากกลอกตามองบน ทำให้เขายิ่งโมโหหนักไปกว่าเดิม
“เธอ! ทำไมไม่เถียงฉัน”
“ฉันไม่อยากพูดกับคุณให้เปลืองน้ำลาย คุณจะหย่ากับฉันวันไหน”
“คำก็หย่าสองคำก็หย่าอะไรที่มันทำให้เธอเปลี่ยนใจเร็วขนาดนี้”
แพนธารินแทนที่จะพูดกับเธอดีๆ กลับแสดงอาการหึงออกมาแบบไม่รู้ตัว เขาไม่เคบมีความรู้สึกแบบนี้มาก่อนตั้งแต่แต่งงานกันมา
“ฉันเบื่อคุณแล้ว”
“อ๋อ โดนมันตอกมาแล้วนะสิถึงอยากหย่ากับฉัน ถ้าหย่าฉันจะไม่ให้อะไรเธอเลย” เขาโกรธจนหน้าแดงก่ำรู้สึกถูกท้าทาย
“คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ที่จริงคุณมาอาศัยฉันอยู่นะคะ บ้านหลังนี้เป็นเงินของฉันทุกบาททุกสตางค์ แม้คุณจะบอกว่ามันเป็นสินสมรส แต่จะบอกว่าบ้านหลังนี้ฉันซื้อมาก่อนที่คุณจะจดทะเบียนกับฉันแล้วจำได้ไหมคะ ที่ก่อนจดทะเบียนเราได้ทำสัญญาเอาไว้ว่าทรัพย์สินที่ใครได้มาก่อนจะจดทะเบียนกัน คุณควรเซ็นใบหย่าให้ฉันแต่โดยดีนะคะ”
“…”
โมโหจนพูดไม่ออกก็วันนี้เพราะสิ่งที่เธอพูดมาคือความจริงทั้งหมด ข้อเสนอก่อนหย่าเขาเป็นคนเสนอให้มิณไอริณเอง
“ฉันให้เวลาคุณไปนอนคิดว่าคุณยื้อเวลาออกไปทำไม คุณน่าจะดีใจจนเนื้อเต้นที่ฉันยอมหย่าให้คุณ”
เธอยื่นมือถือหลักฐานคือข้อความที่ว่าให้มิณไอริณเซ็นใบหย่า แพนธารินโกรธเกรี้ยวแต่ก็ทำอะไรเธอไม่ได้ เพราะมันเป็นความจริง
“เพราะอะไร”
“…”
“เธอถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้ปั่นหัวฉันจนพอใจแล้วสิ” เขาหมดเรี่ยวแรงจะต่อกลอนกับหญิงสาว เขารู้สึกว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมิณไอริณเลย เธอปากจัดขึ้นกว่าเมื่อก่อนและรู้จักสู้กับเขา คำพูดคำจาเจ็บแสบไปถึงทรวง
“เพราะฉันหมดรักคุณแล้ว”
“…” รู้สึกแพ้ฉิบหายที่ถูกผู้หญิงบอกว่าหมดรัก มิณไอริณไม่มีทางหมดรักเขา เธออาจจะโกรธและน้อยใจจึงประชดประชันด้วยการยอมหย่า
“ไม่แปลกใจเลยค่ะ ที่ฉันหันกลับมารักตัวเองแทนที่จะรักคุณต่อ การรักตัวเองไม่เจ็บเลยสักวัน”
หญิงสาวมองใบหน้าของเขาแล้วเดินออกมาจากห้องโถง ทิ้งแพนธารินให้อยู่กับคำถามมากมาย หญิงสาวหลงรักเขาจนโงหัวไม่ขึ้น วันนี้บอกหมดรักเขาแล้วเหมือนถูกลากมาตบกลางสี่แยกไฟแดง เสียหน้ามากแทนที่เขาจะดีใจแต่เหมือนกันกำลังจะตายที่มิณไอริณไม่รักเขาแล้ว
“ฉันจะอยู่ทรมานเธอเล่นๆ เอาให้ตายกันไปข้างหนึ่งเลย”
หลังจากที่น้องไบรท์กับน้องแบล็คได้เข้าเรียนอนุบาลแล้ว แพนธารินก็คิดแต่ว่าชีวิตช่วงกลางวันเขาจะดีขึ้น แต่กลับไม่เป็นแบบนั้นเพราะลูกชายของเขาดันไปก่อเรื่องที่โรงเรียนเอาไว้จนเขาถูกเรียกให้ไปรับทราบพฤติกรรมของลูกชายทั้งสอง“เสร็จหรือยังคะ” เสียงของมิณไอริณดังขึ้นหลังจากเธอนั่งรอแพนธารินกับลูกสาวมาได้สักพักแล้ว“เสร็จแล้วครับ อันนี้เอาให้คุณแม่ด้วยครับ” แพนธารินส่งหน้ากากอนามัยให้กับลูกสาวเพื่อให้เจ้าหนูเอาไปให้แม่“อะไรคะเนี่ย” คิ้วสวยขมวดเข้าหากันอย่างเป็นคำถาม เมื่อเห็นสิ่งที่สามีฝากลูกสาวเอามาให้เธอ“หน้ากากไงครับ”“เอามาทำอะไรคะ ไอริณไม่ได้เป็นไข้นะคะ” หญิงสาวเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจสามีของเธอ“พี่ไม่ได้บอกว่าไอริณเป็นไข้ แต่พี่ไม่ชอบเวลาคนอื่นมอง”“หึงเหรอคะ” มิณไอริณลุกจากเก้าอี้ตรงไปหาแพนธารินเธอจ้องมองใบหน้าของชายหนุ่มอย่างต้องการคำตอบ“ครับ หึง ไม่ชอบเลยเวลามีคนมอง”“ก็ไอริณสวยนิคะ”“ก็เพราะแบบนี้ไง พี่เลยไม่อยากให้เราไปไหน” แพนธารินหน้าตึงขึ้นมาทันที เวลาเขาเห็นใครมองมิณไอริณเขารู้สึกหงุดหงิดจนไม่อยากให้หญิงสาวออกไปไหน“ไม่แกล้งแล้ว เขาอยากมองก็มองไป แต่ไอริณไม่สนใจสักหน่อย น้องทิ
เช้าอันสดใสที่ใครหลายๆ คนต่างนับว่าเป็นการเริ่มต้นวันที่ดี แต่เหมือนจะไม่ใช่กับแพนธารินเขายังคงวนเวียนอยู่กับการเตรียมอาหารเช้าให้กับภรรยากับลูกชายฝาแฝดชายหนุ่มใช้เวลานานนับชั่วโมงในการเตรียมอาหารก่อนขึ้นไปดูภรรยาที่ยังคงนอนหลับอยู่ซึ่งตอนนั้นเองลูกชายของเขาทั้งสองคนกลับตื่น แพนธารินตรงเข้าไปอุ้มเด็กน้อยทั้งสองขึ้นแนบอกหวังเพียงว่าทั้งคู่จะไม่ร้อง“ชู่ว์ ไม่ร้องนะครับ เดี๋ยวพ่อพาลงไปเล่นข้างล่าง” แพนธารินเอ่ยเปล่า เขาอุ้มลูกชายฝาแฝดลงมาจากห้องด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม พร้อมกับการหยอกล้ออย่างสนุกสนานชายหนุ่มทำหน้าที่เลี้ยงเด็กทั้งสองแทนผู้เป็นแม่ของพวกเขาอย่างมิณไอริณ เพราะเธอเพิ่งคลอดลูกมาได้เพียงแค่เดือนเศษ ร่างกายของหญิงสาวยังคงต้องพักผ่อนเพื่อฟื้นฟู“มาแล้ว ระวังให้ดี” เสียวหยอกล้อของพ่อลูกยังดังขึ้นเรื่อยๆ“ทำอะไรกันอยู่คะ” มิณไอริณที่แอบมองดูสามีเล่นกับลูกชายทั้งสองอย่างสนุกสนาน มาได้สักพักก็เอ่ยถาม “อ้าวไอริณมาตั้งแต่ตอนไหน” แพนธารินเดินไปประคองมิณไอริณมานั่งที่โซฟา ก่อนอุ้มลูกน้อยที่หญิงสาวอุ้มมาด้วยขึ้นแนบอก“มาทันเห็นคนโดนลูกแกล้ง” ใบหน้าสวยเอ่ยด้วยยิ้ม“งั้นเหรอครับ แล้วอยากโดน
แสงแดดส่องเข้ามาในห้องนอนแพนธารินพลิกตัวไปมาอย่างเกียจคร้าน แต่พอจะลุกแค่นั้นแหละ มีอะไรหนักๆ มาทับที่หน้าอกคิดว่าผีอำ “น้องแบล็คทำไมมาอยู่ตรงนี้ได้” เขาจับลูกชายวางลงข้างกาย “เย่นๆ” เด็ดน้อยพยายามปืนป่ายขึ้นมานั่งบนหน้าอกของผู้เป็นพ่ออีกครั้ง “อืมมม พักก่อนนะลูก” เล่นปลุกเขาตั้งแต่เช้าแล้วภรรยาเขาหายไปไหนตั้งแต่เช้า แพนธารินลุกขึ้นและอุ้มลูกลงไปตามหาภรรยา ในห้องโถงได้ยินเสียงแฝดพี่ร้องไห้เสียงดัง โดยมีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังปลอบอยู่ “นายเป็นใคร! เข้ามาทำอะไรในบ้านฉัน” “เอ่อ!” ลุกกำลังจะตอบแต่คนถามไม่ยอมปล่อยโอกาสแถมยังต่อว่าเขา มิณไอริณกับเทวัญที่ได้ยินเสียงของแพนธารินจึงรีบเข้ามา “พี่แพทเสียงดังทำไมคะ? ลูกก็อยู่ด้วย” “มัน...เขาคนนี้คือใคร” ในสมองของเขาไม่เคยรู้จักหรือเคยเห็นหน้ามาก่อน แต่พอโดนดุจึงเงียบทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับสิ่งที่เกิดขึ้น “พี่ลุกแฟนพี่เทวัญค่ะ” แพนธารินจึงเงียบเพราะเหมือนว่ากำลังทำให้เมียโกรธมากขึ้น และเขาต้องเป็นฝ่ายพาตัวเองออกไปจากห้องโถงเพราะถูกเชิญออกไป “พี่แพทมีประชุมเช้านี่คะต
มิณไอริณนั่งมองลูกชายคนโตที่อยู่ในอ้อมแขนของหมอคัมภีร์ ส่วนอีกคนหลับอยู่ในรถเข็นเด็ก “คนนี้หน้าเหมือนไอริณมาก” เขาจ้องมองเด็กน้อยในอ้อมแขน ไม่ว่าจะผ่านมานานแค่ไหนสุดท้ายแล้วเขากับมิณไอริณก็เป็นได้แค่พี่น้อง “พี่หมอไม่คิดจะมีบ้างเหรอคะ” “พี่จะหาแม่ของลูกมาจากไหนบ้างานขนาดนี้” “มัวแต่ทำงานระวังจะแก่ก่อนนะคะ” เขาหล่อเขารวยหน้าที่การงานก็ดี สักวันต้องมีคนที่ดีเข้ามา พี่ไม่เคยคิดเรื่องนั้นถ้ามันใช่มันใช่ไปตั้งนานแล้ว” เหมือนที่เขาตามจีบหญิงสาว สุดท้ายแล้วความดีไม่ใช่ผลตอบแทนของความรัก “ไอริณต้องกลับแล้วค่ะพ่อเด็กๆ รออยู่” เธอกล่าวลาเขา พอเดินออกมาไม่ไกลก็เห็นแพนธารินนั่งรออยู่ พร้อมกับใบหน้าบูดบึ้ง “เบื่อทำไมต้องไม่ให้พี่ตามไปด้วย” ทำเหมือนแอบคบชู้ จะโกรธก็ไม่ได้เพราะตอนนี้เมียอยู่เหนือทุกอย่าง “ไม่ทำหน้างอแบบนั้นสิคะฝากลูกหน่อยนะคะ ไอริณจะไปเดินเล่น” เธอส่งลูกให้แพนธารินรีบเดินขึ้นรถอีกคันไม่อยากให้เขาหอบลูกตามเธอไปชอปปิ้งด้วย จากมาเฟียสู่พ่อลูกอ่อนอีกมืออุ้มลูก อีกมือเข็นรถการเลี้ยงลูกมันเหนื่อยกว่าทำงานหลายเท่า
แพนธารินขอเข้าไปดูหน้าลูกด้วย ในห้องคลอดหญิงสาวก็คิดว่า เจ้าของร่างเดิมคงต้องการแบบนี้ชายหนุ่มร้องไห้เมื่อเห็นหน้าลูกเขานั่งเฝ้าลูกทั้งสองกำลังหลับปุ๋ยอยู่บนรถเข็นเปลเด็ก ไม่คิดเลยว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ จะอุ้มท้องลูกเขาถึงสองคน“แพนธวัฒน์ – แพนเมธา ชื่อเล่นน้องอะไรดีนะ” เขานั่งครุ่นคิด“ไบรท์กับแบล็ค” เธอแอบตั้งชื่อลูกไว้แล้วมีแสงสว่างก็ต้องมีความมืดมน และเธอชอบชื่อนี้มาก“ชื่อเพราะดี” เขาเอามือจิ้มแก้มของลูกทำให้เด็กน้อยร้องไห้เสียงดัง จนมิณไอริณต้องต่อว่าเขาที่ไปแกล้งลูกเป็นครั้งแรกที่เธอให้นมลูกซึ่งเด็กน้อยดูดจนเธอรู้สึกเจ็บ พออีกคนดื่มนมจนอิ่มอีกคนร้องตาม แค่คนเดียวก็ว่าหนักแล้วตอนนี้มีถึงสองคนคืนนั้นมิณไอริณฝัน เจ้าของร่างเดิมมาขอร้อง ว่าให้เธอคืนดีกับแพนธาริน เธอจะไปเกิดแล้วและอวยพรให้หญิงสาวมีความสุขแพนธารินนอนกระสับกระส่ายไปมาในความฝันของเขา เห็นผู้หญิงที่หน้าตาเหมือนมิณไอริณมายืนร้องไห้ ซึ่งเขาจำได้ว่าคนนี้คือมิณไอริณตัวจริง“ไอริณมาลาพี่แพทค่ะ ชาตินี้เราจากกันแล้วรักผู้หญิงคนนั้นให้มากๆ นะคะ”“ไอริณ” น้ำเสียงของเขาแผ่วเบาหาเสียงตัวเองไม่เจอ นี่เป็นครั้งแรกที่ในใจของเขาไม่ได้
ภีมกับภามนั่งเฝ้าเจ้านายอยู่เกือบสามชั่วโมง ตั้งแต่ทั้งสองทะเลาะกันเจ้านายของพวกเขากลายเป็นคนเงียบขรึม ตามง้อภรรยาแต่เหมือนนายหญิงจะไม่ยอมยกโทษให้ง่ายๆ แพนธารินนั่งฟังคุณครูสอนอย่างตั้งอกตั้งใจ วันนี้เขาเข้าคอร์สเรียนการเลี้ยงลูก ทั้งสองเรียนมีเขาที่เป็นผู้ชายเพียงคนเดียว ชวนมิณไอริณมาแล้วแต่รายนั้นยังโกรธเขาอยู่ เขารู้สึกผิดที่ทำให้หญิงสาวเกือบเสียลูกไป จะโกรธเขาก็ไม่แปลก “คุณแพทฟังอีกรอบนะคะเวลาลูกอาเจียนเราต้องลูบหลังเบาๆ แบบนี้ค่ะ” คุณครูสาธิตให้เขาดูก่อน และลองให้เขาทำ “แบบนี้เหรอครับ” เขาทำตามที่คุณครูสอนทุกอย่าง“ใช่ค่ะเบาๆ นะคะ” ขนาดตุ๊กตายังทำแรงขนาดนี้ ถ้าเป็นคนจริงๆ น่าจะเหลือแค่ชื่อแพนธารินค่อยๆ ลูบหลังตุ๊กตาเด็กแต่เขาน่าจะลงแรงไปเยอะ ลูบไปลูบมาหัวตุ๊กตาหลุดร่วงลงไปกองอยู่ที่พื้น ทำให้ทุกคนหัวเราะเสียงดัง“เบาๆ สิคะ”“ผมขอเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นดีกว่าครับ”คุณครูจึงพามาสอนเรื่องการอาบน้ำให้เด็กแรกเกิด แพนธารินทำตามทุกอย่างเช่นเดิม แต่เหมือนจะหนักมืออีกเพราะตุ๊กตาเด็กคว่ำหน้าจมน้ำไปต่อหน้าต่อหน้า“กูไม่เรียนแล้ว” เขาเดินออกมาทันทีพร้อมใบหน้าที่