Share

โลกใบใหม่ที่ไม่คุ้นชิน

Aвтор: Midzilee01
last update Последнее обновление: 2025-01-02 18:35:12

แสงแดดสาดส่องผ่านหน้าต่างมากระทบลงบนใบหน้างดงามของสตรีนางหนึ่ง ที่กำลังหลับใหลอยู่บนเตียงไม้หรูหรา ประดับไปด้วยผ้าม่านสีขาวพลิ้วไหว นางเป็นคนที่งดงามราวกับเทพธิดา ใบหน้ารูปไข่ไร้ฝ้ากระ ผมสีดำขลับยาวสลวย คิ้วโกงโค้งดุจคันศร จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากเป็นกระจับสีชมพูระเรื่อ รวมถึงผิวพรรณที่ขาวนวลผ่องดุจมุกเม็ดงาม ดั่งสวรรค์ตั้งใจสรรค์สร้างขึ้นมา

จ้าวเยี่ยนฟางลืมตาขึ้นมาอย่างช้า ๆ นางพยายามปรับสายตารับกับแสงให้มองเห็นภาพเบื้องหน้าให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เมื่อตั้งสติได้จึงพยายามกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ทั้งเตียง เพดาน รวมถึง เฟอร์นิเจอร์ ทุกอย่างล้วนดูแปลกตา และไม่ว่าจะตื่นมาเห็นเช่นนี้อีกกี่ครั้ง นางก็ยังรู้สึกไม่คุ้นชิน

หลังจากวันแรกที่มาอยู่ในร่างนี้ นางก็พยายามคิดหาหนทางเพื่อเอาชีวิตรอดอยู่เสมอ แผนการที่ทำให้พระเอกหลงรักเพื่อที่ตนจะได้ไม่ถูกฆ่านั้น คือแผนการที่นางปัดตกไปเป็นอันดับแรก

เพราะตัวนางนั้นรู้ดีว่าหวงตงหยางรังเกียจนางเพียงใด คงไม่มีทางที่เขาจะหันมาสนใจนางอย่างแน่นอน วิธีเดียวที่จะทำให้นางมีชีวิตรอดในตอนนี้ คือการอยู่อย่างเจียมเนื้อเจียมตัว และพยายามเป็นภรรยาในนามที่ดี เผื่อหวงตงหยางจะรู้สึกสงสารและไม่สังหารนางเหมือนในต้นฉบับที่นางเคยอ่านมา

และเพื่อหลีกเลี่ยงความตายที่แสนจะโหดร้าย ข้าจะต้องเปลี่ยนตอนจบให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม!!

"ท่านตื่นแล้วหรือเจ้าคะฮูหยิน" ถิงถิงรีบสาวเท้าเดินเข้ามาหาผู้เป็นนาย ก่อนจะยกอ่างล้างหน้ามาวางไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียงอย่างเบามือ

"อืม.. ถิงถิง หากข้าจำไม่ผิดวันนี้เราต้องออกไปข้างนอกกันใช่หรือไม่" จ้าวเยี่ยนฟางเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

"ใช่แล้วเจ้าค่ะฮูหยิน"

วันนี้เป็นวันแรกที่นางจะได้ออกไปข้างนอก เพราะเมื่อหลายวันก่อน หวงตงหยางได้ฝากให้องครักษ์ส่วนตัวของเขา เข้ามาแจ้งข่าวในเรือนจงหยุนอันเป็นที่พำนักของหวงฮูหยิน ว่าอีกสามวันจะถึงวันพระราชสมภพขององค์ฮองเฮา ผู้มีศักดิ์เป็นป้าของจ้าวเยี่ยนฟาง ฉะนั้นนางจะไม่ไปเข้าร่วมงานนี้ไม่ได้

บอกตามตรงว่านางรู้สึกไม่ดีสักเท่าไหร่ที่รู้ว่าตนต้องไปร่วมงานเลี้ยงพร้อมกับหวงตงหยาง สามีผู้ชั่วช้าคนนั้น..

เหอะ! ก่อนหน้านี้ยังกักขังข้า เฆี่ยนตีข้าอย่างหมูอย่างหมา หากไม่มีงานเลี้ยงอีกไม่กี่วันข้างหน้า มีหรือที่บุรุษเช่นเขาจะยอมให้ข้าออกไปข้างนอก

เพราะงานเลี้ยงครั้งนี้ จ้าวเยี่ยนฟางจึงมีโอกาสได้ออกไปเลือกซื้อชุดและเครื่องประดับใหม่ที่หอฮุ่ยเหอ ซึ่งเป็นร้านขายชุดและเครื่องประดับที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง และการออกไปซื้อชุดในคราวนี้ เป็นเพียงข้ออ้างที่จะออกไปข้างนอก เพราะว่านางเบื่อและเอือมระอากับจวนนี้เต็มทน

ถนนเทียนหนิง

หลังจากที่จ้าวเยี่ยนฟางเลือกซื้อชุดและเครื่องประดับเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลาที่นางจะได้เดินเที่ยวเล่น ชื่นชมบรรยากาศอันแปลกใหม่ ที่ไม่สามารถหาได้ทั้งในชีวิตก่อนและชีวิตนี้

จ้าวเยี่ยนฟางเดินเข้าร้านนั้นออกร้านนี้ หลายต่อหลายร้าน และทุกครั้งที่นางแวะไปร้านใด นางก็จะซื้อของติดไม้ติดมือออกมาด้วยเสมอ อย่างไรเงินที่นางใช้ นางก็มิได้เป็นคนหามาอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นนางก็จะใช้อย่างไม่เกรงใจใครทั้งนั้น

เมื่อเดินเที่ยวเล่นและซื้อของจนหนำใจแล้ว จ้าวเยี่ยนฟางจึงแวะไปนั่งพักที่โรงน้ำชาชื่อดังประจำย่านนั้น เมื่อเดินมาถึงโรงน้ำชาก็มีเสี่ยวเอ้อร์ออกมาต้อนรับอย่างดี จ้าวเยี่ยนฟางในวันนี้งดงามกว่าทุกครั้งที่พวกเขาเคยเห็น

"ข้าจะมาดื่มชา ช่วยนำข้าไปที่โต๊ะหน่อยได้หรือไม่" ใบหน้างามเชิดขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยวาจาออกไป บอกตรงๆ ว่านางเองก็ตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย เพราะปกตินางแทบจะไม่เคยคุยกับใครมาก่อนนอกจากถิงถิง

"ได้แน่นอนขอรับคุณหนูตามข้าน้อยมาทางนี้เลยขอรับ"

เมื่อเดินตามผู้ดูแลร้านน้ำชาแห่งนี้ขึ้นมาถึงชั้นสอง เสี่ยวเอ้อร์ก็ขอตัวลงไปรับแขกที่หน้าร้านต่อ จ้าวเยี่ยนฟางสั่งขนมและน้ำชามาสำหรับสองคน นางอนุญาตให้ถิงถิงนั่งด้วย แม้ตอนแรกถิงถิงจะขัดขืน แต่เมื่อถูกผู้เป็นนายมองด้วยความคาดหวัง ถิงถิงจึงยอมนั่งร่วมโต๊ะด้วยแต่โดยดี

จ้าวเยี่ยนฟางยกชาขึ้นมาจิบเล็กน้อย ชาร้านนี้หอมนักมันคงเป็นชาชั้นดีและคงมีราคามากสินะ นิ้วเรียวสวยลูบถ้วยชาเบา ๆ สีหน้าของนางจู่ ๆ ก็พลันเศร้าหมอง

ครั้งล่าสุดที่เราได้มาเที่ยวเล่นอย่างสบายใจแบบนี้คือตอนไหนกันนะ

ในชาติก่อนเธอได้แต่ใช้ชีวิตตามที่พ่อแม่ต้องการ ชีวิตในแต่ละวันก็หมกมุ่นอยู่กับการอ่านหนังสือและการเรียนพิเศษ ส่วนชีวิตนี้..ก็ได้มาสวมร่างของนางมารร้ายที่ถูกสามีเกลียดชัง อีกทั้งยังถูกปฏิบัติราวกับไม่ใช่นายหญิงของจวน เหตุใดชีวิตนางถึงซวยซ้ำซวยซ้อนเช่นนี้..

"ฮูหยินท่านเป็นอะไรไปหรือเจ้าคะ" ถิงถิงเอ่ยถามด้วยความห่วงใย หลังจากเหตุการณ์วันนั้น คุณหนูก็กลายเป็นคนพูดน้อย และไม่ค่อยแสดงสีหน้าหรือความรู้สึกดั่งเช่นเคย ฮูหยินของนางนั้น แม้เมื่อก่อนจะเป็นสตรีที่โมโหร้าย แต่ท่านก็เป็นสตรีที่ยิ้มแย้มเก่งเช่นกัน โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับท่านแม่ทัพหวง หากพูดถึงเรื่องท่านแม่ทัพทีไร ฮูหยินก็จะยิ้มแย้มอย่างมีความสุขทุกครา

แต่ดูตอนนี้สิ เพียงฮูหยินได้ยินชื่อของท่านแม่ทัพ คิ้วของท่านก็แทบจะผูกกันเป็นปมแล้ว..

"เปล่าหรอก..ข้าเพียงคิดว่าครั้งล่าสุดที่ข้ามีความสุข คือเมื่อไหร่กันนะ" อันที่จริงเมื่อจากบ้านมาเช่นนี้ นางก็อดที่จะคิดถึงโลกเก่าที่ตนเคยอยู่ไม่ได้ ป่านนี้พ่อกับแม่จะเป็นอย่างไรบ้าง ไหนจะพี่ชายของนางอีก พวกเขาจะเสียใจไหมที่นางจากมา พวกเขาจะร้องไห้เสียน้ำตาให้นางบ้างหรือเปล่า..

"โถ่..ฮูหยินของถิงถิง"

"หากอยู่ด้วยกันสองคน เจ้าเรียกข้าว่าคุณหนูเช่นเดิมเถิด" จ้าวเยี่ยนฟางพูดขึ้น ในขณะที่ยกถ้วยชาขึ้นมาจิบ บอกตามตรงว่านางมิค่อยรู้สึกดีสักเท่าไหร่ที่ถูกเรียกว่าฮูหยิน เพราะตอนนี้นางไม่ได้อยากขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาของบุรุษเช่นนั้นเลยแม้แต่น้อย

แค่ได้ยินคำว่าฮูหยิน นางก็รู้สึกขนลุกขนพองแล้วล่ะ

"ได้เจ้าค่ะ คุณหนู" ถิงถิงตอบตกลงอย่างว่าง่าย เพราะไม่ว่าคุณหนูจะสั่งให้นางทำอะไร นางก็ยอมทำทั้งสิ้น จ้าวเยี่ยนฟางยิ้มให้สาวใช้ผู้ซื่อสัตย์เล็กน้อย ก่อนจะละสายตาไปทางอื่น

นางกวาดสายตามองทิวทัศน์อันสวยงามนี้เพื่อให้ลืมเรื่องราวที่เจ็บปวดในชีวิต จนกระทั่งสายตานางทอดมองไปยังบุรุษและสตรีคู่หนึ่งที่กำลังพูดคุยกันอยากออกรส นางขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะส่งเสียงเย้ยหยันอยู่ในลำคอ

เหอะ!

ถิงถิงเห็นคุณหนูของตนมองไปยังโต๊ะตรงข้าม นางจึงหันมองตามสายตาของเจ้านายไป และเมื่อนางหันไปก็ถึงกับตกใจกับภาพที่เห็น เพราะทั้งสองคนนั้นคือ ท่านแม่ทัพหวงตงหยาง และสตรีที่นั่งหัวเราะอยู่กับท่านแม่ทัพนั้น ก็คือคุณหนูเหรินผู้นั้น!!

"เอ่อ..คุณหนู ท่าน..จะทำเยี่ยงไรหรือเจ้าคะ" ถิงถิงเอ่ยถามเสียงเบา นางกลัวเหลือเกินว่าคุณหนูจะเดินเข้าไปอาละวาดและตบตีสตรีผู้นั้น หากท่านแม่ทัพโกรธเข้า คุณหนูของนางอาจจะเจ็บตัวอีกก็ได้

คุณหนูเจ้าคะ..ท่านคงไม่ลุกไปอาละวาดโต๊ะนั้นหรอกใช่หรือไม่..

"จะทำอย่างไรล่ะ เขาอยากทำอะไรก็ช่างเขาเถิด กลางวันแสก ๆ เช่นนี้ ท่านแม่ทัพผู้สูงส่งกลับนั่งหัวร่อต่อกระซิกกับสตรีอื่น อย่างมิเกรงกลัวสายตาผู้ใดเช่นนั้น ข้าจะไปทำอันใดได้"

นางตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ แต่น่าแปลกใจที่นางรู้สึกไม่ชอบนางเอกของเรื่องนี้ อาจเป็นเพราะว่านางมีความทรงจำทั้งหมดของจ้าวเยี่ยนฟางอยู่ก็เป็นได้

บุรุษเช่นนั้น ผู้ใดอยากได้ก็เอาไปเถิด ข้าผู้หนึ่งล่ะที่จะไม่เอา!!

ถิงถิงที่ได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกแปลกใจไม่น้อย คุณหนู..ท่านเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ หากเป็นปกติแล้ว มีหรือที่จะยอมให้สตรีใดเข้าใกล้ท่านแม่ทัพ แต่บัดนี้คุณหนูกลับมองด้วยสายตาเย็นชาและมีท่าทีเมินเฉย

 

จ้าวเยี่ยนฟางใช้เวลาที่ได้ออกมาข้างนอกอย่างคุ้มค่า นางนั่งจิบชา พร้อมกับกินขนมกุ้ยฮวาอย่างเอร็ดอร่อย โดยที่ไม่ได้หันกลับไปสนใจโต๊ะตรงข้ามอีก

"เอ่อ..แม่นาง หากท่านไม่ว่าอะไร ข้าขอร่วมโต๊ะกับท่านได้หรือไม่" เสียงนุ่มทุ้มพูดขึ้นจากด้านข้างของนาง เมื่อจ้าวเยี่ยนฟางหันใบหน้าไปมองก็พบกับบุรุษรูปงามคนหนึ่ง กำลังยืนส่งยิ้มบางมาให้ ท่าทางประหม่ารอฟังคำตอบจากนาง

"เชิญเจ้าค่ะ" จ้าวเยี่ยนฟางตอบกลับเสียงหวาน บุรุษผู้นี้รูปงามในแบบของผู้ชายขี้อาย พอมอง ๆ ดูแล้วนี่มันช่าง..น่ารักเสียจริง

ถิงถิงเห็นเช่นนั้นจึงลุกขึ้นมายืนอยู่ด้านหลังผู้เป็นนาย หากคุณหนูมีแขก นางก็มิควรนั่งเสมอนาย

บุรุษที่มาใหม่มองหน้าถิงถิง ก่อนจะกลับมามองหน้าสตรีเลอโฉมตรงหน้า

"เอ่อ.."

"นางเป็นสาวใช้คนสนิทของข้าน่ะ ข้ารักใคร่นางดั่งน้องสาว ท่านไม่ต้องแปลกใจไปหากเห็นว่านางร่วมดื่มชาโต๊ะเดียวกับข้า" จ้าวเยี่ยนฟางอธิบายเหตุผลให้เขาฟัง โดยที่ไม่รอให้เขาได้เอ่ยถามสิ่งใด

"อ่อ เป็นเช่นนี้นี่เอง.. แม่นางท่านช่างจิตใจกว้างขวางนัก" เขาเอ่ยชื่นชมนางจากใจจริง จ้าวเยี่ยนฟางได้ยินเช่นนั้น นางจึงส่งยิ้มให้เขาเล็กน้อย แต่ก็มิได้ตอบอะไรกลับไป

"ขออภัย ข้าลืมแนะนำตัวไป..ข้ามีนามว่า ห่าวซวน เป็นเพียงพ่อค้าที่มาค้าขายที่จงหยวน เมื่อครู่ข้าเห็นท่านที่หอฮุ่ยเหอ ข้ารู้สึกว่าท่านงดงามมากจริง ๆ แต่ก็มิกล้าเข้าไปทักทาย ครั้งนี้นับเป็นวาสนาได้มาเจอท่านที่นี่ ข้าจึงรวบรวมความกล้าเข้ามาพูดคุยกับท่าน"

ตอนที่ได้เห็นนางครั้งแรก เขาเองรู้สึกเหมือนตกอยู่ในภวังค์ นางเป็นสตรีที่งดงามที่สุด เท่าที่เขาเคยเจอมาทั้งชีวิต อีกอย่างนางก็มิได้เกล้าผมเฉกเช่นสตรีที่ออกเรือนแล้ว นั่นหมายความว่า..นางยังมิได้แต่งงานใช่หรือไม่

"อ้อ.." จ้าวเยี่ยนฟางพยักหน้าเบา ๆ ที่แท้บุรุษผู้นี้ก็ชื่นชอบหน้าตาของจ้าวเยี่ยนฟางนี่เอง ด้วยเพราะเขามิใช่คนจงหยวน เลยมิรู้ชื่อเสียงเรียงนามของสตรีที่ชื่อว่าจ้าวเยี่ยนฟาง

แต่ก็เอาเถิด ได้นั่งดื่มชากับบุรุษรูปงามเช่นนี้ ก็นับว่าคุ้มค่าแล้วที่ได้ออกมาข้างนอก

"แล้วแม่นางล่ะ..ท่านมีนามว่าอะไรหรือ" ชายหนุ่มถามกลับด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แววตาเป็นประกายด้วยความใคร่รู้

"ข้าชื่อว่าเยี่ยนฟ.."

"กลับจวนกับข้า"

ในขณะที่นางกำลังจะแนะนำตัว ก็มีเสียงทุ้มต่ำพูดขัดขึ้นอยู่ทางด้านข้างของนาง ดวงตาดุดันเหมือนฆ่าคนได้ตวัดมองนางอย่างไม่พอใจ จ้าวเยี่ยนฟางไม่ทันได้รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่า หวงตงหยางเดินมาหานางตั้งแต่ตอนไหน เหตุใดเขาถึงมายืนอยู่ตรงนี้..

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   ตอนพิเศษ

    "หยางหยาง เธอคนนั้นสวยเนอะนายว่ามั้ย" ลู่ฉือเฉิงใช้ศอกสะกิดเพื่อนรักของตัวเองด้วยความตื่นเต้น พลางใช้นิ้วชี้ไปยังผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งที่ยืนหันหลังอยู่ เธอสวมมินิเดรสสีครีม พร้อมกับรองเท้าส้นสูงแบรนด์ดัง ผมสีน้ำตาลอ่อนเหยียดตรงยาวจนถึงกลางหลัง ยิ่งมองดูยิ่งรู้สึกหลงใหล"อืม" เขาตอบกลับเพียงสั้น ๆ ทำเอาลูู่ฉือเฉิงถึงกับหน้ายู่ด้วยความผิดหวัง ทำไมเพื่อนของเขาถึงได้ทำตัวเหมือนกับก้อนหินแบบนี้ อายุอานามก็ไม่ใช่น้อย ๆ กันแล้ว แต่เขายังไม่เคยเห็นเพื่อนสนิทคนนี้มีแฟนกับเขาเลยสักคน"นี่หยางหยาง ฉันถามนายจริง ๆ นาย..คงไม่ได้ชอบผู้ชายหรอกใช่มั้ย" ลู่ฉือเฉิงเอ่ยถามเพื่อนรักด้วยน้ำเสียงที่ติดตลก"ฉันชอบผู้หญิงเหมือนกับนายนั่นแหละน่า" หวงตงหยางหรือที่เพื่อนสนิทเรียกว่าหยางหยางตอบกลับด้วยสีหน้าราบเรียบ อันที่จริงเขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับศิลปะเลยแม้แต่น้อย เพียงแต่ว่าที่ยอมมาหอศิลป์เป็นเพื่อนเจ้าลู่ฉือเฉิง เพราะมีเรื่องเกี่ยวกับศิลปินท่านหนึ่งที่เขาจะต้องรู้ให้ได้..ชื่อของศิลปินคนนี้ เหมือนกับนางในฝันของเขา .."หยางหยางนายยังฝันแปลก ๆ อยู่ใช่มั้ย เพราะเธอคนนั้นหรือเปล่านายถึงไม่ยอมมีแฟนสักที" คำถาม

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   ความทรงจำในม่านหมอก

    แสงไฟจากโคมระย้าคริสตัลส่องประกายระยิบระยับไปทั่วห้องโถงคอนโดหรู ผนังห้องสีครีมอ่อนประดับด้วยภาพวาดสีน้ำมันฝีมือประณีตที่บ่งบอกถึงรสนิยมอันเลิศหรูของเจ้าของห้อง เรือนร่างระหงยืนอยู่หน้าหน้าต่างบานใหญ่ เธอมองลงไปยังถนนด้านล่างที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คนและยานพาหนะ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่ามีจดหมายที่รอให้เธอเปิดอ่านวางรออยู่บนโต๊ะแขนเรียวเอื้อมมือไปหยิบซองจดหมายสีครีมที่วางอยู่บนโต๊ะข้างตัวออกมาเปิดอ่าน เนื้อหาภายในจดหมายแจ้งว่าเธอได้รับเชิญให้ไปจัดแสดงภาพวาดที่หอศิลป์แห่งหนึ่ง ริมฝีปากบางเผยอเป็นรอยยิ้มน้อย ๆ ก่อนที่จะลุกขึ้นและเดินไปยังมุมหนึ่งของห้องภาพวาดขนาดใหญ่ถูกคลุมไว้ด้วยผ้าสีขาวผืนหนึ่ง เรียวแขนเล็กค่อย ๆ ดึงผ้าคลุมออกอย่างช้า ๆ เผยให้เห็นภาพวาดสีน้ำมันที่วิจิตรงดงาม สิ่งที่ปรากฏบนผืนผ้าใบก็คือรูปของชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาในชุดจีนโบราณสีเปลือกไข่ เธอจ้องมองภาพนั้นด้วยสีหน้าราบเรียบ แต่ทว่ามิอาจซ่อนความโศกเศร้าในดวงตาสีน้ำตาลอ่อนได้ แพขนตางอนหลุบต่ำลงเล็กน้อย นิ้วมือเรียวลูบดวงหน้าคนในภาพอย่างทะนุถนอม ราวกับกำลังสัมผัสใบหน้าของผู้เป็นที่รัก..เสียงริงโทนเรียกเข้าดังขึ้น ทำให้เจ้าของดว

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   ตำราหน้าสุดท้าย

    หวงตงหยางนอนกอดหมอนที่ฮูหยินเคยหนุนนอน ด้วยความโศกเศร้าที่ไม่อาจบรรยายได้ น้ำตาแห่งความคิดถึงไหลอาบแก้มของเขา หมอนใบนั้นยังคงอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของนาง กลิ่นที่เขาจะไม่มีวันลืมเลือนไปได้ตลอดชีวิตหวงตงหยางโอบกอดหมอนแน่นยิ่งขึ้น ราวกับว่านั่นคือสิ่งเดียวที่ยังเชื่อมโยงเขากับนางได้ นัยน์ตาเศร้าสร้อยหลับตาลงและปล่อยให้ความทรงจำอันแสนหวานไหลเวียนอยู่ในหัวใจ ภาพของนางที่ยิ้มแย้ม หัวเราะ และร้องไห้ปรากฏขึ้นในความคิดของเขา ภาพเหล่านั้นชัดเจนราวกับว่าเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้แต่ความจริงแล้ว นางได้จากเขาไปแล้ว..หลังจากที่จ้าวเยี่ยนฟางสิ้นลมหายใจ หวงตงหยางก็รู้สึกราวกับว่าส่วนหนึ่งของตัวเขาได้ตายไปพร้อมกับนาง ความรู้สึกผิดและความเจ็บปวดทรมานหัวใจ ภาพที่นางโผเข้ามารับคมกระบี่แทนเขายังคงตามหลอกหลอนเป็นดั่งเงา ทำให้เขาไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแต่กระนั้นเขาก็ยังตายไม่ได้ เพราะนางได้ยอมสละชีวิตเพื่อช่วยเขาเอาไว้ เขาจำต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปกับความรู้สึกผิดที่กดทับหัวใจตลอดเวลาคำพูดที่จ้าวเยี่ยนฟางพูดไว้วันนั้นก็เป็นดั่งคำสาป "โปรดมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างมีความสุขนะเจ้าคะ" นางพูดด้วยใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มชี

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   ดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า

    "หลานเฟิง เจ้าทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร" หวงตงหยางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตรนัก"ข้าเคยบอกท่านแล้วว่า ข้าจะมิยอมตกนรกอยู่คนเดียว ในเมื่อข้ามิสามารถครอบครองท่านได้ จะใครหน้าไหนก็มิคู่ควรทั้งนั้น!!" บัดนี้ดวงหน้าที่เคยงดงามอ่อนหวาน ถูกไฟริษยาแผดเผาจนไม่เหลือชิ้นดี ความรักทำให้นางตาบอดงมงาย ชายที่นางหลงรักกลับเห็นนางเป็นเพียงแค่ของเล่น สตรีที่นางชิงชังที่สุดกลับมีความสุขอยู่บนความทุกข์ของนาง!!"ปล่อยเยี่ยนฟางไป นางมิได้เกี่ยวอะไรด้วย หากเจ้าโกรธแค้นนักก็มาลงที่ข้า ข้าขอรับความโกรธแค้นของเจ้าไว้แต่เพียงผู้เดียว""ฮ่าๆๆๆ จนป่านนี้ท่านก็ยังปกป้องมัน ในวันที่ข้าจมน้ำ ข้ารู้ว่าท่านแสร้งทำเป็นลงโทษนาง เพื่อที่จะได้มิต้องส่งตัวนางให้ทางการใช่หรือไม่ ท่านมิเคยคิดเข้าข้างข้าอยู่แล้ว แล้วที่ผ่านมาท่านจะมาให้ความหวังลมๆ แล้งๆ กับข้าทำไม""..." หวงตงหยางนิ่งเงียบมิยอมตอบกลับอะไร จริงอย่างที่เหรินหลานเฟิงพูด เขารู้ดีว่าจ้าวเยี่ยนฟางร้ายกาจเพียงใด แต่อย่างไรนางก็เป็นภรรยาที่รักและซื่อสัตย์ต่อเขาเพียงคนเดียว เหรินหลานเฟิงเองก็มิใช่สามัญชนคนธรรมดา หากบิดานางล่วงรู้ว่า ฮูหยินจงใจผลักลูกสาวของเข

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   เทศกาลฉงหยาง

    แสงแดดสาดส่องผ่านหน้าต่างไม้สลัก มากระทบลงบนใบหน้าเนียนผ่องที่กำลังหลับใหลอยู่ในอ้อมแขนอันอบอุ่นของผู้เป็นสามี เซี่ยซินหยานลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างช้า ๆ ด้วยความงัวเงีย ดวงตาคู่งามจับจ้องไปยังใบหน้าคมคายที่บัดนี้กำลังหลับไหลอยู่ด้วยความรู้สึกรักใคร่ ฝ่ามือเล็กสัมผัสกับใบหน้าของเขาอย่างแผ่วเบา เรียวนิ้วลูบไล้สันจมูกโด่งด้วยความหลงใหล"ฮูหยินเจ้าหลอกกินเต้าหู้ข้าหรือ" เสียงนุ่มทุ้มของเขาเอ่ยขึ้น ก่อนจะจับข้อมือของภรรยาตัวน้อยเอาไว้มิยอมปล่อย อันที่จริงเขาตื่นมาสักพักแล้ว เพียงแต่ว่าแสร้งทำเป็นนอนต่อก็เท่านั้น ผู้ใดจะรู้เล่าว่าฮูหยินจะมีมุมเช่นนี้อยู่ด้วย "ข้ามิได้คิดเช่นนั้นเสียหน่อย" เซี่ยซินหยานขมวดคิ้ว ประท้วงคำพูดของเขาด้วยเสียงแผ่ว นางมิได้มีความคิดเช่นนั้นเสียหน่อย นางเพียงแค่คิดว่าหวงตงหยางเป็นบุรุษที่รูปงามมากก็เท่านั้น มิได้มีอารมณ์ความรู้สึกใดแอบแฝงอย่างที่เขากล่าวหาเลยแม้แต่น้อย"หากมิได้คิดเช่นนั้น..แล้วเจ้าคิดเช่นไรกันล่ะ" สายตาวิบวับเจ้าเล่ห์จับจ้องไปยังริมฝีปากของนางพร้อมซักถาม "ข้าคิดว่าท่านรูปงามมากก็เท่านั้นเอง..พอใจหรือยังเจ้าคะ" เซี่ยซินหยานตัดสินใจตอบกลับไปตามตรง หวงต

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   คนหลอกลวง!

    อาทิตย์อัสดงสาดส่อง ย้อมให้สิ่งต่าง ๆ เปลี่ยนเป็นสีแสด กระทั่งเงาของต้นหลิวที่สะท้อนอยู่ในน้ำก็ยังมองเห็นเป็นสีแสดด้วยเช่นกัน จ้าวเยี่ยนฟางนั่งยังคงชะเง้อมองหาร่างของผู้เป็นสามี ด้วยความกระวนกระวายใจ"อากาศเย็นลงแล้วนะเจ้าคะฮูหยิน เข้าไปพักผ่อนด้านในเรือนเถิดเจ้าค่ะ" สาวใช้คนสนิทเอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วง วันนี้ฮูหยินของนางนั่งรอท่านแม่ทัพอยู่ที่ศาลาริมน้ำมาทั้งวันแล้ว ไม่ว่านางจะพูดเช่นไรก็ดูเหมือนว่าฮูหยินท่านจะไม่ยอมฟังเลยแม้แต่น้อย"ข้าขอรอเขาอยู่ตรงนี้อีกสักหน่อยนะ.." เสียงผู้เป็นนายตอบกลับมาอย่างอ่อนโยน ถิงถิงจึงทำได้เพียงปล่อยให้ท่านนั่งรออยู่เช่นนี้ต่อไป สิ่งที่นางพอจะทำให้ฮูหยินได้ในเวลานี้ก็คือนำเสื้อคลุมหนา ๆ มาให้ท่านสินะ.."เช่นนั้นบ่าวจะไปนำเสื้อคลุมอุ่น ๆ มาให้นะเจ้าคะ" "อื้อ" จ้าวเยี่ยนฟางพยักหน้าตอบกลับเล็กน้อย ก่อนจะกวาดสายตามองไปยังซุ้มประตูทางเข้าของเรือนจงหยุนไม่นานนักถิงถิงก็เดินกลับมาพร้อมกับเสื้อคลุมสีฟ้า มืออีกข้างหนึ่งของนางถือตะเกียงไม้มาด้วย นางช่วยใส่เสื้อคลุมให้กับฮูหยินและจัดแจงวางตะเกียงไว้ด้านข้าง เพราะนางรู้ดีว่าฮูหยินคงจะนั่งอยู่ต่อไปเช่นนี้ต่อไป หาก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status