เพลงขวัญเดินสำรวจรอบๆ บ้านของตนเองในช่วงสายของวันจันทร์ เมื่อคืนหลังจากที่เข้านอนไปแล้วเธอก็ได้ยินเสียงเหมือนคนเดินอยู่รอบๆ บ้านและพอเห็นรอยเท้าที่มีขนาดใหญ่กว่าของตนซึ่งมีทิศทางมาจากสวนยางพาราอีกด้านหนึ่งก็ต้องขมวดคิ้ว เพราะด้านนั้นเป็นสวนของนายหัววาทิตซึ่งเธอไม่ได้รู้จักเขาหรือคนงานที่นั่นมากเท่ากับคนงานในสวนยางของนายหัวอารัณย์
เธอคิดว่านี่อาจจะเป็นแผนของนายหัวอารัณย์เพื่อแกล้งให้เธอกลัวและหนีกลับกรุงเทพหรือขอไปอยู่กับเขาที่บ้าน
“แผนตื้นๆ ใครจะกลัวกัน” เพลงขวัญพูดจบก็กลับเข้าบ้านเพื่อนั่งทำงานต่อ ซึ่งเหลืออีกไม่กี่หน้างานพิสูจน์อักษรก็เสร็จแล้วเธอก็จะได้รับเงินค่าจ้างส่วนที่เหลือ หลังจากส่งงานให้กับลูกค้าทางอีเมลในตอนบ่ายเพลงขวัญก็ปั่นจักรยานไปร้านขายของชำของป้านงค์เพื่อตุนขนมไว้ทานระหว่างทำงานคืนนี้
ขากลับจากร้านป้านงค์เธอก็ปั่นจักรยานมาเจอกับวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งซึ่งมากันหลายคน พวกนั้นหยุดรถและขวางหน้าเธอไว้
“ว่าไงจ๊ะคนสวย อยู่บ้านคนเดียวคงจะเหงาแย่เลยให้พวกพี่ไปอยู่เป็นเพื่อนเอาไหม”
“ไปเป็นไร ฉันอยู่คนเดียวได้”
“แต่บ้านน้องสาวมันเปลี่ยวมากเลยนะ ดึกๆ มาน่ากลัวออก”
“พวกนายรู้ได้ยังไงว่าบ้านฉันอยู่ที่ไหน” เธอถามออกไปแล้วมองหน้าพวกนั้นอย่างไม่ไว้ใจ
“ใครๆ ก็รู้กันทั้งนั้นแหละว่าหลานสาวคนสวยของยายปรางกลับมาจากกรุงเทพ ถ้าอยากอยู่ที่นี่นานๆ พี่ว่าเรามาทำความรู้จักกันหน่อยดีไหม”
“ฉันอยู่ไม่นานหรอก เดี๋ยวก็จะกลับกรุงเทพแล้ว”
“จะรีบกลับไปไหนล่ะ นี่มันปิดเทอมไม่ใช่เหรอ”
“ฉันจะรีบหรือไม่รีบมันก็เรื่องของฉันพวกนายไม่ต้องมายุ่ง แล้วก็ช่วยหลีกทางด้วยฉันจะกลับบ้าน”
“จะรีบหลับไปไหนล่ะ มาคุยกันก่อนสิ” ชายคนที่นั่งซ้อนหลังจักรยานยนต์ของเพื่อนลงจากรถแล้วมานั่งซ้อนท้ายรถจักรยานของเธอทำให้หญิงสาวออกแรงปั่นเท่าไหร่รถก็ไม่ขยับ
“ลงไปจากรถฉันนะ ฉันจะกลับบ้าน” เธอหันมาพูดด้วยเสียงดังแต่พวกนั้นกลับหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน
เพลงขวัญหน้าเสียในสถานการณ์แบบนี้เธอเป็นรองอย่างเห็นได้ชัดพวกมันมีกันถึงหก แต่แล้วโชคก็เข้าข้างเพราะมีรถกระบะคันหนึ่งขับผ่านมาพอดี พอคนขับลดกระจกลงเธอก็เห็นว่าเขาคือนายหัวอารัณย์
“มีอะไรกัน”
“เปล่าครับนายหัว”
“ไม่มีก็แน่เหรอ แล้วทำไมนายถึงไปนั่งซ้อนท้ายเพลงขวัญแบบนั้น สนิทกันเหรอ”
“เปล่านะคะ หนูไม่รู้จักเขาเลยแต่เขามาขวางทางหนู” พอได้ทีเพลงขวัญก็รีบบอกเพราะคิดว่าผู้ชายพวกนี้เป็นคนงานของนายหัว
“พวกผมก็แค่อยากทำความรู้จักกันไว้ พอดีเห็นว่าน้องเขาเพิ่งกลับมาและไม่มีเพื่อนที่ไหน”
“แต่ฉันไม่อยากมีเพื่อน” เพลงขวัญปฏิเสธเสียงแข็ง
“พวกนายก็ได้ยินชัดแล้วนะว่าเธอไม่อยากมีเพื่อน แยกย้ายกันได้แล้ว” ชายหนุ่มพูดด้วยเสียงที่แสดงถึงความมีอำนาจ ซึ่งมันก็ทำให้ชายวัยรุ่นไม่พอใจเท่าไหร่ แต่ก็ยอมออกไปจากตรงนั้นเพราะไม่อยากมีปัญหากับนายหัว
“ขอบคุณนะคะนายหัวหนูขอตัวก่อน” เพลงขวัญยกมือไหว้ก่อนจะรีบปั่นจักรยานกลับไปยังบ้านของตนเอง
นายหัวอารัณย์มองตามร่างระหงไปจนลับตา จากนั้นตนเองก็ขับรถกลับบ้านซึ่งระยะทางจากบ้านของเธอไปยังบ้านของเขานั้นไม่ได้ไกลเท่าไหร่เพราะเขาเลือกขับเข้าไปในสวนยางไม่ใช่ถนนเส้นหลัก
เพลงขวัญปั่นจักรยานกลับมาถึงบ้านแล้วก็รีบทานข้าวผัดที่เธอซื้อมาจากร้านที่อยู่ติดกับร้านขายของชำ จากนั้นก็รีบอาบน้ำก่อนจะมานั่งหน้าจอโน้ตบุ๊กเพื่อทำงานชิ้นใหม่ที่เพิ่งรับมา
คืนนี้เธอกะว่าจะอยู่ทำงานไม่ดึกมากเพราะพรุ่งนี้ว่าจะตื่นแต่เช้าเพื่อนั่งรถของลุงจวบไปตัวอำเภอเพื่อซื้อของใช้มาเพิ่มเพราะของที่เธอต้องการนั้นในร้านของป้านงค์ไม่มี
แต่นั่งทำงานไปสักพักก็เริ่มง่วงเธอจึงปิดไฟและเตรียมเข้านอนแต่ยังไม่ทันหลับก็ได้ยินเสียงเหมือนคนกำลังเดินรอบบ้านเหมือนเมื่อคืนก่อน อีกทั้งยังได้ยินเสียงคุยกันและซึ่งฟังแล้วน่าจะมากันมากกว่าสองคนแน่นอน
หญิงสาวใจคอไม่ค่อยดีเพราะจำได้ดีว่าเสียงหนึ่งที่ได้ยินนั้นเป็นเสียงวัยรุ่นที่เจอเมื่อตอนเย็น พวกมันคงไม่ได้มาดีแน่ๆ และเธอเองก็คงรับมือไม่ไหว เพลงขวัญคิดว่าต้องหาคนมาช่วยแต่เธอรู้จักใครที่นี่มากนักในโทรศัพท์ของเธอมีแค่เบอร์ของป้าแววซึ่งคิดว่าคงไม่น่ามาช่วยเธอได้ เพลงขวัญอยากโทรไปขอความช่วยเหลือจากนายหัวอารัณย์แต่เธอก็ไม่มีเบอร์โทรศัพท์ของเขา
เธอค่อยๆ เดินผ่านความมืดออกมาจากห้องนอนของตนเพื่อไปยังห้องนอนของคุณยายซึ่งข้าวของทุกอย่างด้านในยังจัดเรียงไว้เหมือนเดิมทุกชิ้น หญิงสาวจำได้ว่าคุณยายจะมีสมุดอยู่เล่มหนึ่งที่เขียนเบอร์โทรศัพท์เอาไว้ เธอภาวนาขอให้เจอสมุดเล่มนั้นและขอให้ยายของเธอจดเบอร์โทรศัพท์ของนายหัวอารัณย์ไว้ด้วย
“ยายขา ช่วยเพลงด้วยนะคะ” เธอยกมือไหว้ก่อนควานไปทั่วลิ้นชักหัวเตียงซึ่งยายนวลปรางจะเก็บของสำคัญไว้ที่นั่น
หญิงสาวใจเต้นแรงเมื่อเจอกับสมุดเล่มนั้น เธอใช้ไฟฉายจากโทรศัพท์มือถือเปิดดูแล้วก็ถอนหายใจอย่างแรงเมื่อเห็นว่ายายของเธอจดเบอร์โทรศัพท์ของนายหัวไว้ในหน้าแรกของสมุด
นายหัวอารัณย์นั่งดูรายงานสรุปค่าใช้จ่ายของโรงงานแปรรูปยางพาราที่ตนเองนำติดตัวมาด้วยหลังจากเข้าไปดูกิจการเมื่อตอนบ่าย ซึ่งโรงงานแห่งนี้เขาให้ชลทีเพื่อนสนิทของตนเองเป็นผู้จัดการ ในขณะที่ตัวเขานั้นนานๆ ถึงจะเข้าไปที่นั่นสักครั้งเพราะชลทีทำงานได้เป็นอย่างดีจนอารัณย์แทบไม่ต้องเหนื่อยอะไรเลย
เขานั่งอ่านไปได้ไม่นานโทรศัพท์มือถือก็มีสายเรียกเข้า ชายหนุ่มมองนาฬิกาที่ผนังห้องและเห็นว่าตอนนี้มันดึกมาก อีกทั้งเบอร์โทรศัพท์ก็ไม่ใช่หมายเลขที่บันทึกไว้ เขาลังเลว่าจะกดรับดีไหมเพราะกลัวว่าจะเป็นพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ซึ่งกำลังระบาดอย่างหนักอยู่ในช่วงนี้
เพลงขวัญมองห้องที่ไม่เหมือนเดิมแล้วหันกลับมามองเจ้าของห้องแล้วก็ต้องตกใจมากขึ้นไปอีกเมื่อเห็นว่าตอนนี้นายหัวอารัณย์นั้นคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเธอ“เพลงแต่งงานกับฉันนะ”เขาส่งแหวนแต่งงานที่ด้านบนประดับด้วยเพชรเม็ดโตยื่นมาตรงหน้า เพลงขวัญทำตัวไม่ถูกเพราะเมื่อก่อนหน้านี้เธอก็ตื่นเต้นดีใจ และประหลาดใจที่นายหัวพาไปจดทะเบียนสมรสมาครั้งหนึ่งแล้วหญิงสาวยืนนิ่งราวกับต้องมนตร์สะกด เธอสบตาเขาแล้วใจเต้นแรงไม่คิดมาก่อนว่าตนเองจะถูกขอแต่งงานทั้งที่ระหว่างเธอกับเขามันข้ามขั้นตอนมานานแล้ว“นายหัวคะ”“ตกลงไหมเพลงแต่งงานกับฉันไหม” เขาถามย้ำอีกครั้งใบหน้าหล่อเรียบเฉยทั้งที่ใจเต้นแรงเขาพาเธอไปจดทะเบียนสมรสแล้วค่อยขอแต่งงานซึ่งมันเป็นขั้นตอนที่ค่อนข้างประหลาดอยู่ไม่น้อย“ตกลงค่ะ” หญิงสาวตอบรับนายหัวนายอารัณย์ยิ้มอย่างดีใจก่อนจะสวมแหวานลงบนนิ้วนางทับไปกับแหวนแต่งงานจากนั้นเขาก็ลุกขึ้นกอดเธอแน่น“ฉันควรขอเธอแต่งงานก่อนแล้วค่อยพาไปจดทะเบียน แต่ตอนนั้นฉันไม่มีแหวนแล้วชลทีก็ไม่ว่างจะเข้าเมืองมาเป็นพยานด้วย มันอาจจะสลับขั้นตอนไปบ้าง แต่ที่ฉันทำทุกอย่างก็เพราะรักเธอนะเพลงขวัญฉันรักเธอมาก” เขากล่าวด้วยเสี
วันนี้ก็ครบกำหนดที่เพลงขวัญจะต้องกลับไปเรียนแล้วเธอมีเที่ยวบินในตอนเย็นแต่ก็ถูกนายหัวปลุกตื่นตั้งแต่เช้า“นายหัวคะว่าเพลงจะบินก็อีกหลายชั่วโมงทำไมนายหัวต้องปลุกแต่เช้าด้วยคะ เพลงยังง่วงอยู่เลย” เพราะเมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็เกือบจะตีสองเช้าวันนี้เพลงขวัญก็เลยอิดออดไม่อยากจะลุกจากที่นอน“ฉันให้เธอเลือกจะลุกจากที่นอนตอนนี้หรือจะให้ฉันรุกเข้าหาเธออีกครั้ง”“โอ๊ย นายหัวทางเลือกของนายหัวแต่ละทางเพลงละเหนื่อยจริงๆ เลยค่ะ”“เอาล่ะอย่ามัวเสียเวลา วันนี้ฉันจะต้องไปทำธุระอีกหลายที่” เขาบอกด้วยน้ำเสียงจริงจังจนเพียงขวัญรู้สึกผิดที่เอาแต่งอแงไม่ยอมลุกจากเตียง“เพลงขอโทษ เพลงไม่รู้ว่านายหัวมีธุระต้องรีบไป ไม่โกรธกันนะคะ” หญิงสาวลุกจากที่นอนแล้วเข้ามากอดเขาอีกทั้งยังหอมไปที่แก้มเขาอย่างประจบ“ฉันเคยโกรธเธอที่ไหนล่ะ” เขาจูบไปที่ขมับของเธออย่างรักใคร ช่วงเวลาที่เพียงขวัญมาอยู่กับมันช่างผ่านไปเร็วจนเขารู้สึกใจหายที่เธอจะต้องกลับไปเรียน“เพลงจะรีบอาบน้ำนะคะ” หญิงสาวอาบน้ำแต่งตัวก่อนจะรีบลงมาทานอาหารเช้ากับเขา ซึ่งป้าแววกับบุหลันเตรียมไว้รอแล้ว“หนูเพลงไหนบอกป้าว่ามีไปเที่ยวบินตอนเย็นไงล่ะ แล้วท
เข้าสัปดาห์ที่สองที่เพลงขวัญมาอยู่ในสวนยางพาราวันนี้นายหัวมีนัดจะพาเธอไปเรียนขับรถเพิ่มเติมหลังจากที่หญิงสาวเรียนที่กรุงเทพมาบ้างแล้ว“พร้อมใหม่เพลงขวัญ” เขาถามหลังจากที่เมื่อวานพาเธอออกไปขับบนถนนแล้วเธอบอกว่าไม่อยากจะหัดขับอีกแล้ว“ตอบไม่พร้อมได้ไหมคะ”“เธอจะไม่พร้อมทุกวันไม่ได้หรอกนะเพลง”“พร้อมก็ได้ค่ะ แล้ววันนี้เราจะขับไปทางไหนคะ”“ว่าจะไปแถวท้ายสวน เพราะไม่ค่อยมีคนเธอจะได้ไม่เกร็งมาก”“ก็ได้ค่ะนายหัว แล้วจะให้เพลงขับตั้งแต่ตรงนี้หรือไปถึงท้ายสวนค่อยเริ่มคะ”“ฉันขับไปให้ก่อนก็ได้ตรงนี้ยังมีคนผ่านไปผ่านมาเดี๋ยวจะไปเฉี่ยวชนใครเขาเข้า”“ได้ค่ะ” เพลงขวัญกระโดดขึ้นไปนั่งข้างคนขับขณะที่นายหัวก็ขึ้นไปนั่งบนรถจากนั้นก็ขับออกไปจากบริเวณหน้าบ้าน “เอาละ เหยียบเบรกไว้นะแล้วเลื่อนคันเกียร์มาที่ตำแหน่ง D เบรกมือ ค่อยๆ ปล่อยเบรกที่เท้าทีละนิดนะ ตามองไปข้างหน้าสิ อย่ามองเท้า” “ก็เพลงกลัวพลาดนี่คะ” “ไม่ต้องกลัวหรอกน่า ตรงนี้ไม่มีใครถ้ามันจะชนก็แค่ชนต้นยางเท่านั้นแหละ” “ค่ะ ตอนนี้เพลงปล่อยเบรกแล้วต้องทำยังไงต่อ” “ตามองไปข้างหน้า กดคันเร่งท
เพลงขวัญรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่วันนี้เธอได้กลับมายังสุราษฎร์ธานีอีกครั้งเพราะหลังจากที่ออกจากหนีออกจากบ้านไปเมื่อหลายเดือนก่อนก็ยังไม่มีโอกาสได้ติดต่อใครที่นี่อีกเลยสักคน“เพลงทำไมดูเหมือนไม่ดีใจเลยล่ะที่ได้กลับบ้าน” นายหัวอารัณย์ถามเมื่อเห็นว่าคนรักนั้นเอาแต่นั่งหน้าเครียดมาตั้งแต่เขาไปรับที่สนามบิน“ดีใจสิคะนายหัว แต่เพลงก็ตื่นเต้นด้วยเพลงไม่รู้ว่าป้าแววกับพี่บุหลันจะมองเพลงยังไง”“สองคนนั้นเขารู้เรื่องแล้วฉันเล่าให้เขาฟังหมดแล้ว”“เหรอคะแล้วป้าแววว่ายังไงบ้าง”“ก็ไม่เห็นว่ายังไงป้าเขาก็ดีใจที่เพลงได้ฉันช่วยดูแล”“แล้วพี่บุหลันล่ะคะบุหลันก็ดีใจเพราะถึงแม้ว่าจะแปลกใจไปบ้างเพราะฉันชอบพูดอยู่ตลอดเวลาว่าไม่อยากมีเมียเด็ก แต่พอพวกเขารู้ก็ไม่มีใครว่าอะไรนะ”“เพลงไม่รู้จะทำตัวยังไง”“ก็ทำตัวเหมือนเดิมเธอเคยเป็นยังไงก็เป็นยังนั้น ไม่ต้องเกร็ง”“จริงๆ นายหัวน่าจะรอบอกเรื่องนี้ตอนเพลงเรียนจบ”“ถ้าฉันรอบอกตอนเธอเรียนจบแล้วพาเธอกลับมาบ้านครั้งนี้ฉันกับเธอจะได้สวีทกันไหมล่ะ”“แหมเวลาอยู่ในห้องแล้วค่อยสวีทก็ได้”“ไม่ล่ะ ต่อไปนี้ฉันกับเธอจะไปไหนมาไหนด้วยกันในฐานะคนรัก” เขาจับมือเล
นายตลอดระยะเวลาหยุดยาวสามวันเพลงขวัญแทบไม่มี โอกาสลุกจากที่นอนเลยเพราะนายหัวอารัณย์ตักตวงความสุขจากร่างกายของเธอจนหญิงสาวไม่มีแม้แต่แรงจะเดินไปเข้าห้องน้ำ“นายหัวขาเพลงไม่ไหวแล้วนะคะ” หญิงสาวร้องขอหลังจากที่เขาร่วมรักกับเธออีกครั้งในเวลาเจ็ดโมงเช้าหลังจากที่เพิ่งเข้านอนไปในเวลาเกือบจะตีสอง เธอไม่รู้ว่าเขาไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนถึงได้ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และที่แปลกก็คือเธอยอมเขาทุกครั้ง เพราะเธอเองก็มีความสุขมากเหมือนกัน“เพลงเธอก็รู้เราจะไม่ได้เจอกันอีกนานเลยนะ”“แต่นายหัวขาเพลงไม่ไหวแล้วจริงๆ” หญิงสาวอ้อนเสียงหวาน“ขออีกครั้งเดียวครั้งเดียวนะเพลง” นายหัวหนุ่มทำเสียงอ้อนกลับ เพราะร่างกายของเขาต้องการปลดปล่อยออกมาให้ได้มากที่สุด“จะไม่ปรานีเพลงหน่อยเหรอคะ เพลงไม่ไหวแล้ว”“ปากเธอบอกให้ปรานีแต่ตอดถี่แบบนี้ฉันชักไม่แน่ใจแล้วว่าเธอต้องการแบบไหนกันแน่”“ก็มันเสียวนี่คะ นายหัวทำให้เพลงเสียว”“ฉันรู้ว่าฉันทำให้เธอเสียว ฉันเองก็เสียวไม่ต่างจากเธอหรอก”นายหัวหนุ่มกระแทกกระทั้นเข้าหาโพรงถ้ำติดๆ กันอย่างไม่ยั้งจนในที่สุดทั้งสองก็ระเบิดอารมณ์ออกมาพร้อมๆ กันอีกครั้งร่างกายของเพลงขวัญอ่อน
นายหัวอารัณย์ขึ้นมาหาเพลงขวัญหลังจากเธอสอบเสร็จแต่เพราะไม่ได้บอกเธอว่าจะมาเที่ยวบินไหน พอมาถึงห้องจึงไม่เจอกับคนรัก “นายหัวขาเพลงขอโทษ เพลงนึกว่านายหัวจะมาพรุ่งนี้ เพลงเลยออกมาฉลองสอบเสร็จกับเพื่อนค่ะ” เสียงหวานอ้อนมาตามสายเมื่อเขาโทรหา “ฉันผิดเองที่ไม่บอกว่าจะมาวันไหน แล้วเธอจะกลับดึกหรือเปล่า ฉันคิดถึงอยากเจอ” “ไม่เกินเที่ยงคืนค่ะ ได้ไหมคะ” “ได้สิ แล้วจะกินเหล้าไหม” “นิดหน่อยค่ะ แต่รับรองว่าไม่เมา” “แล้วจะกลับยังไงล่ะ” “ตาจะไปส่งค่ะ” “ถ้าขับรถกลับกันไม่ไหวก็โทรบอกนะ ฉันจะไปรับ” เขาบอกอย่างห่วงใย ชายหนุ่มรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่มาแล้วไม่เจอเพลงขวัญ แต่เรื่องนี้จะโทษว่าเป็นความผิดของเธอก็ไม่ได้เพราะตามกำหนดเดิมเขาจะมาถึงพรุ่งนี้เย็น เพลงขวัญกลับมาถึงคอนโดในเวลาห้าทุ่มครึ่ง เธอรีบเข้าไปอาบน้ำเพราะตอนนี้เนื้อตัวของตนมีแต่กลิ่นบุหรี่พอออกมาจากห้องน้ำนายหัวหนุ่มที่เมื่อครู่ยังหลับอยู่ก็ตื่นมานั่งรอเธออยู่แล้ว หญิงสาวรีบขึ้นมานั่งบนเตียงแล้วสวมกอดเขาด้วยความคิดถึง“คิดถึงนายห