เสียงเรียกเข้ายังคงดังอย่างต่อเนื่อง นายหัวอารัณย์ก็เลยกดรับเพราะคิดว่าคนที่โทรศัพท์มาหาเขาในเวลาดึกแบบนี้น่าจะมีธุระด่วน เขากดรับแต่ยังไม่ทันจะพูดอะไรคนปลายสายก็ส่งเสียงทักทายมาทันที และเสียงนั้นก็เหมือนว่าเขาเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน
“นายหัว ใช่เบอร์นายหัวอารัณย์ไหมคะ นายหัวบอกคนของนายหัวกลับไปก่อนได้ไหม หนูรู้นะว่านายหัวส่งเขามาขู่ให้หนูกลัวใช่ไหมล่ะ แต่ทำแบบนี้มันไม่เข้าท่าเลยนะ ถ้าอยากให้หนูออกไปก็พูดกันดีๆ ก็ได้ ไม่ต้องใช่แผนแบบนี้หรอก” หญิงสาวพูดรัวจนเขาจับใจความไม่ค่อยได้
“เพลงขวัญเหรอ พูดช้าๆ ได้ไหม เกิดอะไรขึ้น”
“ก็คนของนายหัวที่หนูเจอตอนเย็น ตอนนี้พวกเขากำลังเดินอยู่รอบๆ บ้าน หนูได้ยินเสียงพวกมันแล้วจำได้ นายหัวสั่งพวกนั้นมาก่อกวนหนูใช่ไหม” เธอรับเล่าขณะที่มือไม้ก็สั่นไปหมด
“ไม่ใช่นะ นั่นไม่ใช่คนของฉัน เธอรออยู่ที่นั่นนะ หาที่ซ่อนก่อนเดี๋ยวฉันจะรีบไป” พูดจบนายหัวก็รีบคว้ากุญแจรถแล้วขับรถลัดสวนยางพาราไปยังบ้านของเพลงขวัญอย่างรวดเร็ว
เสียงรถที่ดังมาแต่ไกลทำให้คนที่กำลังหาทางงัดประตูบ้านรีบเผ่นกลับไปทันที
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เพลงขวัญ อยู่ข้างในหรือเปล่า เปิดประตูหน่อยนี่ฉันเอง” เสียงนายหัวอารัณย์ที่ดังอยู่หน้าประตูทำให้เพลงขวัญที่ซ่อนอยู่ใต้เตียงรีบออกมาแต่ก็ยังไม่กล้าเปิดประตูเพราะยังไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่าใช่เขาจริงหรือเปล่า
“นายหัวแน่นะคะ” เธอถามย้ำ
“อือ” พอได้ยินคำยืนยันอีกครั้งเพลงขวัญก็ค่อยๆ แง้มประตูออกทีละนิด แล้วพอเห็นว่าเป็นนายหัวอารัณย์จริงหญิงสาวก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“เกิดอะไรขึ้น ขอเข้าไปข้างในได้ไหม” เขาถามด้วยความเป็นห่วงยิ่งเห็นใบหน้าของเธอที่มีแต่ความตื่นกลัวก็ยิ่งกังวลมากขึ้น เพราะเท่าที่ได้คุยกับเพลงขวัญเธอจะเป็นคนที่มั่นใจในตนเองมากแต่สีหน้าที่เห็นตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้นเลย
“พวกมันมากันหลายคนค่ะ น่าจะเป็นวัยรุ่นเมื่อตอนเย็น”
เพลงขวัญเดินนำเขามายังห้องรับแขกซึ่งมีชุดโซฟาเล็กๆ ตั้งอยู่จากนั้นเธอก็เล่าเหตุการณ์เมื่อครู่ให้กับนายหัวอารัณย์รวมถึงเรื่องเมื่อคืนก่อนที่เธอได้ยินเสียงคนคุยกันมีรอยเท้ากระจายอยู่รอบๆ บ้าน
“แล้วทำไมเพิ่งบอกฉัน”
“ก็หนูคิดว่าเป็นคนที่นายหัวส่งมา”
“ฉันจะทำอย่างนั้นทำไม”
“ก็นายหัวอยากได้บ้านของหนูนี่คะ”
“เพลงขวัญ ฉันไม่เคยอยากได้บ้านของเธอเลยเพราะที่ดินแค่นี้ฉันจะเอาไปทำอะไร”
“แต่นายหัวก็เอาไปแล้วนี่คะ” เธอเถียงกลับ
“ที่ฉันยอมเอาเงินให้พี่ชายของเธอเพื่อแลกกับโฉนดที่ดินและบ้านก็เพราะถ้าฉันไม่ทำแบบนั้นพี่ชายเธอก็จะเอาไปขายให้คนอื่นแล้วเธอคิดว่าเขาจะยอมให้ยายของเธออยู่ต่อในที่ดินของเขาหลังจากที่ขาดส่งทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยเหรอ” นายหัวหนุ่มถามหญิงสาวที่ดูเหมือนเธอคิดว่าเขาอยากได้บ้านและที่ดินของมาก ทั้งๆ ที่เขาไม่เคยอยากจะเลย
“แล้วทำไมนายหัวถึงยอมล่ะคะ”
“เพราะฉันเห็นแก่ยายของเธอไงล่ะ ยายของเธอก็เหมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง ตั้งแต่เกิดมาฉันก็เห็นท่านมาทำงานที่บ้านของฉันแล้ว บางครั้งท่านก็ยังช่วยเลี้ยงฉันตอนที่พ่อกับแม่ของฉันไม่ว่าง แล้วเธอคิดว่าฉันจะทนเห็นท่านลำบากไปหาที่อยู่ใหม่ได้เหรอ”
“หนูขอโทษที่คิดไม่ดีกับนายหัว หนูไม่กล้าไว้ใจใครที่นี่เลย ขนาดพี่ชายของหนูยังทำกับยายได้ ก็เลยไม่คิดว่าคนอื่นจะมาหวังดีกับยาย” เพลงขวัญไม่คิดก่อนว่านายหัวอารัณย์จะมีน้ำใจกับยายของเธอมากขนาดนี้มาก่อน
“ฉันไม่ถือโทษอะไรหรอกนะเพลงขวัญ เธอยังเด็กมาก พอเจอเรื่องแบบนี้ก็ต้องระแวงเป็นธรรมดา จำไว้อย่างหนึ่งนะคนอย่างฉันถ้าอยากได้อะไรแล้วฉันไม่ต้องเสียเวลาทำอะไรแบบนี้เลย”
“แล้ววัยรุ่นที่หนูเจอไม่ใช่คนของนายหัวเหรอคะ” เธอถามย้ำเพราะดูจากลักษณะแล้วพวกนั้นเกรงใจนายหัวอยู่ไม่น้อย
“เด็กพวกนั้นเป็นคนงานของนายหัววาทิต”
“ถึงว่าล่ะรอยเท้าถึงมาจากด้านนั้น สงสัยว่าพรุ่งนี้หนูคงต้องไปคุยกับนายหัวให้เขาบอกคนของเขาว่าอย่ามายุ่งกับหนูอีก”
“เธอคิดว่ามันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ”
“คนเราโตกันแล้วก็น่าจะพูดกันรู้เรื่องนะคะ”
“ฉันก็ไม่อยากทำให้เธอกลัวหรอกนะ แต่มันจำเป็นที่จะต้องบอกไปตรงๆ เธอจะได้ตัดสินใจถูกว่าจะเอายังไงต่อ”
“นายหัวจะบอกอะไรหนู”
“วัยรุ่นที่เธอเจอเมื่อวาน”
“ทำไมคะ”
“มีสองคนที่เพิ่งออกจากคุกมาเมื่อเดือนที่แล้ว”
“เขาติดคุกข้อหาอะไรคะ”
“พยายามข่มขืน แต่เขามีคนคอยช่วยก็เลยติดไม่นาน”
เพลงขวัญคิดไม่ตก เธอกะว่าจะอยู่ที่บ้านยาวถึงเปิดเทอมจึงขนของออกจากหอพักแล้วไปฝากไว้ที่บ้านของเพื่อนเพราะปิดเทอมยาวถึงสี่เดือนจึงไม่อยากเสียค่าหอพักไปฟรีๆ
“หนูคงอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้วใช่ไหมคะ” เธอถามความเห็นของเขาเพราะไม่รู้จะปรึกษาใคร
“ฉันขอถามหน่อยนะว่าทำไมถึงอยากอยู่ที่นี่”
“ก็ที่นี่เป็นบ้านของหนู ถ้าไม่อยู่ที่นี่นายหัวจะให้หนูไปไหนล่ะคะ”
“กลับกรุงเทพไง” เขาเสนอทางออกเพราะไม่อยากให้เธออยู่ที่นี่เพราะตนเองคงตามมาช่วยไม่ได้ทุกครั้ง
“ยังไงหนูก็ต้องกลับไปเรียนอยู่แล้วล่ะค่ะ แต่ไม่คิดว่าจะต้องกลับเร็วกว่ากำหนด” เธอพูดแล้วก็ถอนหายใจ
“ไม่อยากกลับเหรอ มีอะไรหรือเปล่าถ้าเป็นเรื่องค่าใช้จ่ายฉันช่วยเธอได้เพราะรับปากยายเธอไว้แล้วว่ายังไงก็จะส่งเธอเรียนจนจบนั่นแหละ”
“หนูยังพอมีเงินเก็บค่ะ แต่ที่ยังไม่อยากกลับเพราะยังไม่ได้หาหอใหม่เลย”
“หาทำไมแล้วหอเดิมล่ะ”
“ช่วงปิดเทอมหนูไม่ได้เช่าค่ะ ตั้งสี่เดือนนะคะ เสียดายค่าหอ แล้วหนูก็คิดว่าจะกลับมาอยู่กับยาย แต่ไม่คิดว่ายายจะจากไปเร็วแบบนี้” เสียงนั้นฟังดูเศร้าจนคนฟังก็รู้สึกเศร้าตามเธอไปด้วย
“ฉันรู้นะเพลงขวัญว่ามันทำใจยาก แต่เธอก็ต้องผ่านมันไปได้”
“แต่ก่อนหนูตั้งใจเรียนเพราะอยากจะจบมาทำงานดีๆ ได้เงินเดือนสูงๆ และกลับมาช่วยดูแลยาย”
“เธอคิดดีแล้ว และก็ควรทำต่อ”
“แต่ตอนนี้หนูไม่รู้ว่าจะทำแบบนั้นไปทำไม ถึงหนูประสบความสำเร็จแต่ยายก็ไม่อยู่แล้ว หนูไม่รู้จะทำไปเพื่อใคร” เพลงขวัญเสียงสั่นน้ำตาคลอ
“เพื่อตัวเองไง เธออายุยังน้อยนะ ยังมีอนาคตอีกไกล อย่าเพิ่งท้อสิ” นายหัวอารัณย์พูดให้กำลังใจ
“หนูมองอนาคตไม่ออกเลยค่ะ”
“ฉันเข้าใจนะ เรื่องนั้นเดี๋ยวเวลาผ่านไปเธอก็จะเข้าใจและปรับตัวได้ แต่เรื่องที่เราควรกังวลก็คือเรื่องที่มีคนพยายามจะเข้ามาในบ้านเธอมากกว่า”
เพลงขวัญมองห้องที่ไม่เหมือนเดิมแล้วหันกลับมามองเจ้าของห้องแล้วก็ต้องตกใจมากขึ้นไปอีกเมื่อเห็นว่าตอนนี้นายหัวอารัณย์นั้นคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเธอ“เพลงแต่งงานกับฉันนะ”เขาส่งแหวนแต่งงานที่ด้านบนประดับด้วยเพชรเม็ดโตยื่นมาตรงหน้า เพลงขวัญทำตัวไม่ถูกเพราะเมื่อก่อนหน้านี้เธอก็ตื่นเต้นดีใจ และประหลาดใจที่นายหัวพาไปจดทะเบียนสมรสมาครั้งหนึ่งแล้วหญิงสาวยืนนิ่งราวกับต้องมนตร์สะกด เธอสบตาเขาแล้วใจเต้นแรงไม่คิดมาก่อนว่าตนเองจะถูกขอแต่งงานทั้งที่ระหว่างเธอกับเขามันข้ามขั้นตอนมานานแล้ว“นายหัวคะ”“ตกลงไหมเพลงแต่งงานกับฉันไหม” เขาถามย้ำอีกครั้งใบหน้าหล่อเรียบเฉยทั้งที่ใจเต้นแรงเขาพาเธอไปจดทะเบียนสมรสแล้วค่อยขอแต่งงานซึ่งมันเป็นขั้นตอนที่ค่อนข้างประหลาดอยู่ไม่น้อย“ตกลงค่ะ” หญิงสาวตอบรับนายหัวนายอารัณย์ยิ้มอย่างดีใจก่อนจะสวมแหวานลงบนนิ้วนางทับไปกับแหวนแต่งงานจากนั้นเขาก็ลุกขึ้นกอดเธอแน่น“ฉันควรขอเธอแต่งงานก่อนแล้วค่อยพาไปจดทะเบียน แต่ตอนนั้นฉันไม่มีแหวนแล้วชลทีก็ไม่ว่างจะเข้าเมืองมาเป็นพยานด้วย มันอาจจะสลับขั้นตอนไปบ้าง แต่ที่ฉันทำทุกอย่างก็เพราะรักเธอนะเพลงขวัญฉันรักเธอมาก” เขากล่าวด้วยเสี
วันนี้ก็ครบกำหนดที่เพลงขวัญจะต้องกลับไปเรียนแล้วเธอมีเที่ยวบินในตอนเย็นแต่ก็ถูกนายหัวปลุกตื่นตั้งแต่เช้า“นายหัวคะว่าเพลงจะบินก็อีกหลายชั่วโมงทำไมนายหัวต้องปลุกแต่เช้าด้วยคะ เพลงยังง่วงอยู่เลย” เพราะเมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็เกือบจะตีสองเช้าวันนี้เพลงขวัญก็เลยอิดออดไม่อยากจะลุกจากที่นอน“ฉันให้เธอเลือกจะลุกจากที่นอนตอนนี้หรือจะให้ฉันรุกเข้าหาเธออีกครั้ง”“โอ๊ย นายหัวทางเลือกของนายหัวแต่ละทางเพลงละเหนื่อยจริงๆ เลยค่ะ”“เอาล่ะอย่ามัวเสียเวลา วันนี้ฉันจะต้องไปทำธุระอีกหลายที่” เขาบอกด้วยน้ำเสียงจริงจังจนเพียงขวัญรู้สึกผิดที่เอาแต่งอแงไม่ยอมลุกจากเตียง“เพลงขอโทษ เพลงไม่รู้ว่านายหัวมีธุระต้องรีบไป ไม่โกรธกันนะคะ” หญิงสาวลุกจากที่นอนแล้วเข้ามากอดเขาอีกทั้งยังหอมไปที่แก้มเขาอย่างประจบ“ฉันเคยโกรธเธอที่ไหนล่ะ” เขาจูบไปที่ขมับของเธออย่างรักใคร ช่วงเวลาที่เพียงขวัญมาอยู่กับมันช่างผ่านไปเร็วจนเขารู้สึกใจหายที่เธอจะต้องกลับไปเรียน“เพลงจะรีบอาบน้ำนะคะ” หญิงสาวอาบน้ำแต่งตัวก่อนจะรีบลงมาทานอาหารเช้ากับเขา ซึ่งป้าแววกับบุหลันเตรียมไว้รอแล้ว“หนูเพลงไหนบอกป้าว่ามีไปเที่ยวบินตอนเย็นไงล่ะ แล้วท
เข้าสัปดาห์ที่สองที่เพลงขวัญมาอยู่ในสวนยางพาราวันนี้นายหัวมีนัดจะพาเธอไปเรียนขับรถเพิ่มเติมหลังจากที่หญิงสาวเรียนที่กรุงเทพมาบ้างแล้ว“พร้อมใหม่เพลงขวัญ” เขาถามหลังจากที่เมื่อวานพาเธอออกไปขับบนถนนแล้วเธอบอกว่าไม่อยากจะหัดขับอีกแล้ว“ตอบไม่พร้อมได้ไหมคะ”“เธอจะไม่พร้อมทุกวันไม่ได้หรอกนะเพลง”“พร้อมก็ได้ค่ะ แล้ววันนี้เราจะขับไปทางไหนคะ”“ว่าจะไปแถวท้ายสวน เพราะไม่ค่อยมีคนเธอจะได้ไม่เกร็งมาก”“ก็ได้ค่ะนายหัว แล้วจะให้เพลงขับตั้งแต่ตรงนี้หรือไปถึงท้ายสวนค่อยเริ่มคะ”“ฉันขับไปให้ก่อนก็ได้ตรงนี้ยังมีคนผ่านไปผ่านมาเดี๋ยวจะไปเฉี่ยวชนใครเขาเข้า”“ได้ค่ะ” เพลงขวัญกระโดดขึ้นไปนั่งข้างคนขับขณะที่นายหัวก็ขึ้นไปนั่งบนรถจากนั้นก็ขับออกไปจากบริเวณหน้าบ้าน “เอาละ เหยียบเบรกไว้นะแล้วเลื่อนคันเกียร์มาที่ตำแหน่ง D เบรกมือ ค่อยๆ ปล่อยเบรกที่เท้าทีละนิดนะ ตามองไปข้างหน้าสิ อย่ามองเท้า” “ก็เพลงกลัวพลาดนี่คะ” “ไม่ต้องกลัวหรอกน่า ตรงนี้ไม่มีใครถ้ามันจะชนก็แค่ชนต้นยางเท่านั้นแหละ” “ค่ะ ตอนนี้เพลงปล่อยเบรกแล้วต้องทำยังไงต่อ” “ตามองไปข้างหน้า กดคันเร่งท
เพลงขวัญรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่วันนี้เธอได้กลับมายังสุราษฎร์ธานีอีกครั้งเพราะหลังจากที่ออกจากหนีออกจากบ้านไปเมื่อหลายเดือนก่อนก็ยังไม่มีโอกาสได้ติดต่อใครที่นี่อีกเลยสักคน“เพลงทำไมดูเหมือนไม่ดีใจเลยล่ะที่ได้กลับบ้าน” นายหัวอารัณย์ถามเมื่อเห็นว่าคนรักนั้นเอาแต่นั่งหน้าเครียดมาตั้งแต่เขาไปรับที่สนามบิน“ดีใจสิคะนายหัว แต่เพลงก็ตื่นเต้นด้วยเพลงไม่รู้ว่าป้าแววกับพี่บุหลันจะมองเพลงยังไง”“สองคนนั้นเขารู้เรื่องแล้วฉันเล่าให้เขาฟังหมดแล้ว”“เหรอคะแล้วป้าแววว่ายังไงบ้าง”“ก็ไม่เห็นว่ายังไงป้าเขาก็ดีใจที่เพลงได้ฉันช่วยดูแล”“แล้วพี่บุหลันล่ะคะบุหลันก็ดีใจเพราะถึงแม้ว่าจะแปลกใจไปบ้างเพราะฉันชอบพูดอยู่ตลอดเวลาว่าไม่อยากมีเมียเด็ก แต่พอพวกเขารู้ก็ไม่มีใครว่าอะไรนะ”“เพลงไม่รู้จะทำตัวยังไง”“ก็ทำตัวเหมือนเดิมเธอเคยเป็นยังไงก็เป็นยังนั้น ไม่ต้องเกร็ง”“จริงๆ นายหัวน่าจะรอบอกเรื่องนี้ตอนเพลงเรียนจบ”“ถ้าฉันรอบอกตอนเธอเรียนจบแล้วพาเธอกลับมาบ้านครั้งนี้ฉันกับเธอจะได้สวีทกันไหมล่ะ”“แหมเวลาอยู่ในห้องแล้วค่อยสวีทก็ได้”“ไม่ล่ะ ต่อไปนี้ฉันกับเธอจะไปไหนมาไหนด้วยกันในฐานะคนรัก” เขาจับมือเล
นายตลอดระยะเวลาหยุดยาวสามวันเพลงขวัญแทบไม่มี โอกาสลุกจากที่นอนเลยเพราะนายหัวอารัณย์ตักตวงความสุขจากร่างกายของเธอจนหญิงสาวไม่มีแม้แต่แรงจะเดินไปเข้าห้องน้ำ“นายหัวขาเพลงไม่ไหวแล้วนะคะ” หญิงสาวร้องขอหลังจากที่เขาร่วมรักกับเธออีกครั้งในเวลาเจ็ดโมงเช้าหลังจากที่เพิ่งเข้านอนไปในเวลาเกือบจะตีสอง เธอไม่รู้ว่าเขาไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนถึงได้ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และที่แปลกก็คือเธอยอมเขาทุกครั้ง เพราะเธอเองก็มีความสุขมากเหมือนกัน“เพลงเธอก็รู้เราจะไม่ได้เจอกันอีกนานเลยนะ”“แต่นายหัวขาเพลงไม่ไหวแล้วจริงๆ” หญิงสาวอ้อนเสียงหวาน“ขออีกครั้งเดียวครั้งเดียวนะเพลง” นายหัวหนุ่มทำเสียงอ้อนกลับ เพราะร่างกายของเขาต้องการปลดปล่อยออกมาให้ได้มากที่สุด“จะไม่ปรานีเพลงหน่อยเหรอคะ เพลงไม่ไหวแล้ว”“ปากเธอบอกให้ปรานีแต่ตอดถี่แบบนี้ฉันชักไม่แน่ใจแล้วว่าเธอต้องการแบบไหนกันแน่”“ก็มันเสียวนี่คะ นายหัวทำให้เพลงเสียว”“ฉันรู้ว่าฉันทำให้เธอเสียว ฉันเองก็เสียวไม่ต่างจากเธอหรอก”นายหัวหนุ่มกระแทกกระทั้นเข้าหาโพรงถ้ำติดๆ กันอย่างไม่ยั้งจนในที่สุดทั้งสองก็ระเบิดอารมณ์ออกมาพร้อมๆ กันอีกครั้งร่างกายของเพลงขวัญอ่อน
นายหัวอารัณย์ขึ้นมาหาเพลงขวัญหลังจากเธอสอบเสร็จแต่เพราะไม่ได้บอกเธอว่าจะมาเที่ยวบินไหน พอมาถึงห้องจึงไม่เจอกับคนรัก “นายหัวขาเพลงขอโทษ เพลงนึกว่านายหัวจะมาพรุ่งนี้ เพลงเลยออกมาฉลองสอบเสร็จกับเพื่อนค่ะ” เสียงหวานอ้อนมาตามสายเมื่อเขาโทรหา “ฉันผิดเองที่ไม่บอกว่าจะมาวันไหน แล้วเธอจะกลับดึกหรือเปล่า ฉันคิดถึงอยากเจอ” “ไม่เกินเที่ยงคืนค่ะ ได้ไหมคะ” “ได้สิ แล้วจะกินเหล้าไหม” “นิดหน่อยค่ะ แต่รับรองว่าไม่เมา” “แล้วจะกลับยังไงล่ะ” “ตาจะไปส่งค่ะ” “ถ้าขับรถกลับกันไม่ไหวก็โทรบอกนะ ฉันจะไปรับ” เขาบอกอย่างห่วงใย ชายหนุ่มรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่มาแล้วไม่เจอเพลงขวัญ แต่เรื่องนี้จะโทษว่าเป็นความผิดของเธอก็ไม่ได้เพราะตามกำหนดเดิมเขาจะมาถึงพรุ่งนี้เย็น เพลงขวัญกลับมาถึงคอนโดในเวลาห้าทุ่มครึ่ง เธอรีบเข้าไปอาบน้ำเพราะตอนนี้เนื้อตัวของตนมีแต่กลิ่นบุหรี่พอออกมาจากห้องน้ำนายหัวหนุ่มที่เมื่อครู่ยังหลับอยู่ก็ตื่นมานั่งรอเธออยู่แล้ว หญิงสาวรีบขึ้นมานั่งบนเตียงแล้วสวมกอดเขาด้วยความคิดถึง“คิดถึงนายห