นาสูรมองไปยังเตียงนุ่มของตัวเองที่ตอนนี้มีร่างเล็กเปราะบางนอนบนเตียง กลิ่นตัวหอมอ่อนๆ ของเจ้าหล่อนกำจายไปทั่วห้อง และนี่แหละที่เขาปรารถนาที่สุดในตอนนี้ ก่อนจะมองไปยังพาทีแล้วพยักหน้าให้พาทีออกไป เพราะเวลานี้เป็นเวลาส่วนตัวของเขาและเจ้าหล่อน เมื่อประตูห้องปิดสนิทพร้อมพาทีออกไปจากห้อง เขาก็เดินสาวเท้ายาวๆ ไปหาคนที่นอนไร้สติบนเตียงทันที ก่อนจะเคลื่อนตัวขึ้นเตียงประคองหัวเธอขึ้นมาซบอกตัวเองแล้วคลายมนตร์สะกดที่พาทีสะกดหล่อนก่อนจะพาตัวมาหาตนเองทันที
อือ!
พุดซ้อนสะลึมสะลือปรือตาตื่นขึ้นมาด้วยความมึนงง และก็ยกมือขึ้นลูบไล้ใบหน้าราวรูปปั้นของคนที่จ้องมองตัวเอง ‘ฝันเหรอเนี่ย ทำไมหล่อจัง’ มือเล็กลูบไล้ใบหน้าหล่อที่กำลังจ้องมองตัวเอง ดวงตาของเขามันช่างน่าค้นหา พุดซ้อนยังคงลูบไล้มือไปมากับหน้าหล่อราวเทพบุตรแล้วเคลื่อนมายังลำคอหนาด้วยคิดว่ามันคือความฝันของตนเอง
หึหึ
นาสูรยกยิ้มขำปนเอ็นดูความคิดของหญิงสาวที่โอบประคองในตอนนี้ หล่อนช่างประหลาดคนเหลือเกิน มือใหญ่จับมือเล็กนุ่มนิ่มที่ลูบไล้หน้าตัวเองให้หยุดแล้วดึงมากดปลายจมูกโด่งกับมือนุ่มนิ่มหล่อน
“ฝันดีจัง หล่อ...” เธอพึมพำกับตัวเองด้วยยังคิดว่าเป็นฝันแล้วก็หัวเราะคิกคักด้วยความจั๊กจี้เมื่อปลายจมูกโด่งได้รูปของชายหนุ่มกดแนบลงมาที่หน้าผากมนของเธอ
“ไร้เดียงสา”
นาสูรพึมพำกับคนที่ยังคงคิดว่าตัวเองฝัน แต่มือใหญ่อีกข้างที่ไม่ได้โอบอุ้มหัวทุยเล็กก็เริ่มรุกเร่าร่างเล็กน่าค้นหาของเจ้าหล่อน มือใหญ่สอดเร่าเข้าไปในชายเสื้อยืดสีขาวตัวเล็กเข้ารูปของหล่อนแล้วขยุ้มขยำสองเต้าอวบอูมนุ่มนิ่มที่มียกทรงปกปิดอยู่อีกชั้นข้างใน
“อ่ะ...อื้อ” พุดซ้อนเบิกตากว้างตื่นเต็มตาพร้อมสติทันที เธอรับรู้ได้ว่าตอนนี้มันคือความจริงไม่ใช่ฝัน หากฝันจะไม่เป็นแบบนี้ ร่างเล็กดิ้นขัดขืนทันทีเมื่อตื่นเต็มสติ
“อือ...อย่าดิ้นสิเด็กน้อย”
น้ำเสียงทุ้มห้าวเปล่งลอดออกมาจากริมฝีปากหนา ทำให้หล่อนหยุดดิ้นราวกับต้องมนตร์สะกดก็มิปาน รูปปาก รูปหน้าของเขาราวสวรรค์ปั้นแต่งจริงๆ และเขาคือใครกันล่ะ เอ๊ะ! เสียงนี้มันเหมือนเสียงของคนเมื่อคืน เสียงที่ดังก้องในหูรบกวนตลอดค่ำคืนที่ผ่านมา
“คุณคนเมื่อคืน”
เธอถามทันทีพร้อมกับหันหน้าราวรูปปั้นของเขาออกห่างจากแก้มตัวเอง
หึหึ
นาสูรทำเพียงแค่ยิ้มขำแล้วเริ่มรุกเร่าเจ้าหล่อนต่อ และเหมือนเธอจะไม่ง่ายแบบที่คิด เจ้าหล่อนดิ้นขัดขืนแรงขึ้น ต่อต้านไม่ให้เขารุกเร่า มือน้อยจับมือของเขาให้หยุดพร้อมกับดิ้นออกจากวงแขนของเขาเช่นกัน แต่มีหรือเขาจะยอมให้หล่อนดิ้นหลุดไปได้ นาสูรผลักเธอให้นอนไปกับเตียงแล้วเคลื่อนตัวรวดเร็วไปนอนกดคร่อมทับร่างน้อยไม่ให้ดิ้นหนีตนเองได้
“อ่ะ...ปะ...ปล่อยฉันนะคุณ”
เธอบอกสั่งเขาไม่เต็มเสียงพร้อมหลบสายตาของเขาด้วยไม่กล้าจ้องสบตาคนเหนือร่าง ดวงตาของเขามันเหมือนมีมนตร์สะกดอยู่ตลอดเวลา และใจสาวน้อยก็เต้นไหววูบวาบรุนแรงเมื่อคนเหนือร่างไม่ยอมทำตามที่สั่ง แต่เขากลับทำตรงกันข้ามโดยการขยุ้มมือบีบเคล้นเต้าของเธอที่มือใหญ่ของเขาสอดอยู่ด้านในเสื้อเธอ
“เวลาพูด สบตาฉันสิเด็กน้อย”
เขาบอกดุเธอไม่จริงจังนัก ยิ่งได้สัมผัสยิ่งตื่นตัว เขาอยากสอดแทรกกระแทกตัวแรงๆ ในความเป็นสาวที่ฉ่ำน้ำของเจ้าหล่อนใจแทบขาดตอนนี้ แต่เหมือนว่าหล่อนจะยังคงเป็นสาวพรหมจรรย์ เพราะกลิ่นตัวของหล่อนมันแปลกต่างจากสตรีที่เคยเสพสวาทด้วย กลิ่นของหล่อนมันหอมยั่วยวนจนเขานอนไม่หลับตลอดค่ำคืนที่ผ่านมา เพราะเฝ้าคิดถึงแต่กลิ่นกายเจ้าหล่อน
พอถูกสั่งก็รีบสบจ้องตาคนตัวโตเหนือร่างทันที และใจสาวน้อยก็สั่นไหวเต้นผิดจังหวะเมื่อได้สบจ้องกับดวงตาทรงอำนาจของเขา มันหวิวๆ ในใจ และทำให้หลงไปกับสายตาที่น่าค้นหา พอมองเลื่อนมายังริมฝีปากหนาที่เอ่ยกับตนก็ยิ่งใจสั่นไหว
“อ่ะ...อื้อ” เธอเผลอหลุดร้องครางออกมาเมื่อมือหนาของเขาขยุ้มขยำเคล้นเต้าตัวเอง และยิ่งทำให้มึนงงราวต้องมนตร์สะกดยามสบตาของเขา แม้พยายามจะเบือนหน้ามองไปทางอื่น แต่สายตาก็อยากจ้องมองดวงตาทรงเสน่ห์และหน้าราวรูปปั้นของบุรุษเหนือร่าง ‘หล่อจัง’ เธอพึมพำในใจยามมองเครื่องหน้าสมบูรณ์แบบของคนเหนือร่าง และนึกสงสัยว่าเขาคือใคร ทำไมไม่เคยเจอมาก่อน และที่นี่ที่ไหนกันล่ะ?
“ฉันรู้ว่าฉันหล่อ” เขาตอบความคิดในใจเธอ และนั่นทำให้พุดซ้อนตกใจดิ้นหนีแรงกว่าเดิม
“คะ...คุณตอบได้ยังไง ฉันพูดในใจ”
“ฉันรู้หมดแหละว่าใครคิดอะไรกับฉัน และตอนนี้เธอก็กำลังอยากรู้จักฉันมากกว่านี้สาวน้อย” เขาพูดพร้อมกับโน้มจมูกลงไปซุกซอกคอระหงของหล่อน พุดซ้อนอ่อนระทวยเมื่อถูกเขาซุกซอกคอระหงของตนเอง ได้แต่หดคอเล็กน้อย แต่ก็ยิ้มเขิน เพราะเกิดมาไม่เคยมีผู้ชายคนไหนมาทำแบบนี้ด้วย
“คะ...คุณเป็นใคร” เธอถามทั้งๆ ที่รู้สึกปั่นป่วนในท้องน้อย ก็ไม่รู้ว่าหิวหรือเพราะอะไรถึงได้รู้สึกปั่นป่วนในท้องแบบนี้ เธอถามต่อไปอีก... “ที่นี่ที่ไหน และคุณคือใคร?”
หึหึ
นาสูรขำในลำคอเมื่อเจอคำถามของหล่อนแล้วก็ตอบกลับไป
“ฉันเป็นใคร เธอน่าจะรู้จักนะเด็กน้อย อยากรู้จักฉันไม่ใช่เหรอ อยากเจอไม่ใช่เหรอ นี่ไง...ฉันก็มาให้เจอและมาให้สัมผัสอยู่นี่ไง”
พอจบประโยค สมองอันน้อยๆ ที่แสนจะฉลาดของพุดซ้อนก็ประมวลตามทันที และก็ตกใจอีกครั้งเมื่อคนที่ทุกคนเรียกว่า ‘ท่าน’ มาตลอดยังคงหนุ่มแน่นและหล่อราวเทพบุตรสมคำร่ำลือจริงๆ และเขารู้ได้ยังไงว่าเธออยากรู้จักและอยากเห็นเขา ผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดา ไม่เหมือนคนทั่วไป มันเหมือนมีอำนาจบางอย่างแผ่รังสีออกมาจากร่างกายของเขา และมันก็ดูขลัง
“คงแปลกใจสินะที่ฉันไม่ได้แก่อย่างที่คิด” นาสูรเอ่ยตอบความสงสัยของหล่อน
“คะ...คือฉันนึกว่าคุณจะแก่ เพราะทุกคนเรียกคุณว่าท่าน” เธอตอบกลับเสียงสั่นแผ่ว
“หึหึ...ผิดหวังไหม” เขาถามกลับพร้อมกับบีบเต้าอวบอูมเธอด้วย
“อ่ะ...อื้อ ยะ...อย่าทำแบบนี้ ฉันเจ็บ” เธอดิ้นตัวถอยออกจากอุ้งมือหนา แต่เขาก็ตามมากอบกุมเช่นเดิม
“ฉันถามว่าผิดหวังไหมเด็กน้อย ที่ฉันยังไม่แก่อย่างที่คิด”
‘ดีใจ หล่อมาก หล่อสมคำร่ำลือ’ เธอตอบเขาในใจและลืมนึกไปว่าเขาอ่านความคิดเธอออก
หึหึ
“งั้นคืนนี้ก็เป็นของฉันสาวน้อย ถ้าดีใจที่ได้เจอฉัน” เขาตอบความคิดในใจของหล่อนทันทีเมื่อได้ฟังจบ
“ไม่นะ ปล่อยฉันเถอะ ฉันไม่ต้องการแบบนี้ ฉันเป็นแค่สัตวแพทย์ตัวเล็กๆ เอง อย่าเลยนะคุณนาสูร”
เมื่อรู้แล้วว่าเขาเป็นใครก็ขอร้องให้เขาปล่อยตัวเองไป และรู้ด้วยว่าไม่ควรพูดหรือคิดในใจ เพราะเขารู้ทุกอย่างที่เธอคิดในใจ
“เธอไม่อยากไปจากเตียงฉันหรอกสาวน้อย ฉันรู้ว่าตอนนี้เธอกำลังสับสนและอยากรู้จักฉันมากกว่านี้พุดซ้อน”
“น้องค่ะ เรียกฉันว่าน้อง”
ความปากไวของเธอทำให้เธอบอกชื่อเล่นตัวเองไปทันทีเมื่อเขาเรียกชื่อจริงตัวเอง พอมารู้ตัวว่าเผลอไปก็ไม่ทันแล้ว เมื่อได้ยินเสียงขำในลำคอและเขาส่งยิ้มเย้ยหยันมาให้ก็ทำให้รู้แล้วว่าตัวเองแพ้มาก แพ้ความหล่อราวเทพบุตรของคนเหนือร่าง ‘นี่มันคนหรือเทพบุตรองค์ใดกันแน่ ยิ่งมองยิ่งแพ้ ยิ่งมองยิ่งเหมือนฝัน’ แม้จะรู้ว่าคนตัวโตอ่านความคิดตัวเองได้ แต่ก็อดพูดในใจไม่ได้อยู่ดี
“สัมผัสดูสิว่าเป็นเทพบุตรหรือว่าคนธรรมดาน้อง”
เขาตอบความคิดในใจเธอทันทีพร้อมกับยกยิ้มมุมปากส่งให้คนตัวเล็กช่างสงสัยใต้ร่าง นาสูรอาศัยจังหวะมึนงงของสาวเจ้าใต้ร่างปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเธอออกไปจากร่างเล็กทันที เขาไม่สนใจหรอกว่าหล่อนจะรู้สึกยังไงตอนนี้ สิ่งที่เขาสนใจคือความหอมความสาวของเธอมากกว่า
“อ่ะ...อื้อ” พุดซ้อนมารู้ตัวอีกทีก็ตอนมือใหญ่หยาบกร้านสัมผัสสองเต้าของตนเองที่เปลือยเปล่า เธอดิ้นกายถอยหนีออกจากใต้ร่างใหญ่ แต่เหมือนยิ่งดิ้นก็ยิ่งทรมานและรู้ว่าไม่รอด เธอรู้แล้วว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน อ่านอะไร คิดอะไรในหัว เขาตอบได้หมดทั้งๆ ที่ไม่ได้ปริปากพูดออกมาสักคำ
“อ่า...ยะ...อย่านะคุณนาสูร” เธอจับมือใหญ่ที่ขยุ้มขยำเต้าเปลือยตัวเองให้หยุดเมื่อรู้สึกว่ามันเจ็บและร้อนไหวแปลกๆ ที่เต้ากับความรู้สึกทรมานในท้องน้อย มันกำลังเล่นงานเธออยู่ในตอนนี้
หึหึ
มีเพียงเสียงขำเอ็นดูในลำคอดังลอดออกมาจากริมฝีปากหนาของชายร่างใหญ่เหนือร่าง นาสูรชอบเหลือเกินความไร้เดียงสาของเจ้าหล่อนใต้ร่าง เพียงเวลารวดเร็วเขาก็สามารถปลุกเร่าความต้องการให้พุดซ้อนได้ ตอนนี้เขาจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเองบ้าง เพียงเวลาอึดใจเดียวร่างใหญ่ก็คร่อมทับร่างเล็กเปลือยด้วยกายเปลือยเช่นกัน
ทันทีที่ร่างใหญ่ทาบทับมาอีกครั้งด้วยกายที่เปลือยไม่ต่างจากตนเอง เธอก็รับรู้ได้ถึงความร้อนรุ่มของเขา เหงื่อไคลเม็ดโตๆ ผุดขึ้นตามใบหน้าเธอและเขา พุดซ้อนอยากจะหนีแต่ก็อ่อนแรง อยากจะผลักไสก็เช่นกัน ร่างกายที่เคยมีพลังเยอะมากมายกลับไร้เรี่ยวแรงที่จะต่อต้าน ที่ทำได้ตอนนี้มีเพียงแค่ดิ้นถอยหนีเบาๆ แต่ยิ่งดิ้นยิ่งร้อนในทรวงกาย
“อ่า...อยู่กับฉันคืนนี้สาวน้อย”
น้ำเสียงแหบแห้งเปล่งพร่ารดใบหน้าชื้นเหงื่อของพุดซ้อนทำให้เธอหลงไปกับน้ำเสียงพร่าห้าวทรงเสน่ห์ราวกับต้องมนตร์สะกดอีกครา
“อือ...น้องจะอยู่กับคุณนาสูรค่ะ อ่ะ...อื้อ”
สติของสาวน้อยหลุดออกจากร่างแล้ว มีเพียงความปรารถนาอุ่นร้อนที่ต้องการเท่านั้น ทำให้เธอเผลอปากรับคำตกลงจะอยู่กับคนตัวโตเหนือร่าง
นาสูรกระตุกยิ้มเล็กน้อยกับคำตอบที่แสนจะพึงพอใจ แล้วไม่รอให้เสียเวลานาน มือใหญ่เริ่มขยุ้มขยำสองเต้า ปากหนาเคลื่อนไล้ซุกซบซอกคอระหงขบเม้มหนักหน่วง พร้อมกับเลื่อนมาบดจูบปากแสนหวานของสาวใต้ร่างแสนเดียงสาของตนเอง
“อ่ะ...อื้อ” ทันทีที่ปากหนาบดเร่าจูบกระแทกลงมายังกลีบปากอวบอิ่มสีระเรื่อของเธอ มันสร้างความรู้สึกแปลกใหม่ ก็ตั้งแต่เกิดมามีแค่คนตัวใหญ่ที่กล้าทำแบบนี้กับเธอ สองมือไม่รู้จะวางไว้ตรงไหนจึงได้แต่กำผ้าห่มที่นอนทับไว้แน่น เธอนอนตัวเกร็งด้วยความตื่นเต้นและตกใจกับการกระทำของเจ้านายเหนือร่าง ใครจะคิดว่านี่คือความจริงไม่ใช่ฝัน
“อ่า...อืม หวานเหลือเกินเด็กน้อยของฉัน อ่า...”
ปากหนาละเลียปลายลิ้นไปตามริมฝีปากอวบอิ่มแสนหวานเมื่อผละจูบร้อนออกมา ก่อนจะบดจูบอีกครั้ง และครั้งนี้นาสูรสอดเร่าลิ้นสากตัวเองเข้าไปในโพรงปากเล็กดุนดันกระพุ้งแก้มน้อยๆ พร้อมตวัดเกี่ยวเรียวลิ้นเล็กมากอดรัดฟัดเหวี่ยง ก่อนจะปล่อยให้เป็นอิสระเมื่อเจ้าของปากน้อยกำลังจะขาดอากาศหายใจ
“อ่า...พะ...พอก่อนได้ไหม อ่า...น้องหายใจไม่ทัน แค่กๆ” เธอบอกเขาพร้อมกับสำลักลมหายใจตัวเองที่รีบหายใจนำอากาศเข้าปอดตัวเองเมื่อปากเป็นอิสระ
หึหึ
ช่างน่าเอ็นดูอ่อนเดียงสาเสียจริงผู้หญิงคนนี้ นาสูรปล่อยให้เธอสำลักลมหายใจตัวเองเสร็จแล้วก็บดจูบปากแสนหวานอีกครั้ง ครั้งนี้เขาจูบอ่อนโยน ค่อยๆ สอนหญิงสาวให้รู้จักจูบ ปากหนาดูดเร่าปากอวบอิ่มหนักหน่วงและสลับอ่อนโยนพร้อมดุนดันปลายลิ้นเข้าไปควานกินความหวานของโพรงปากน้อย มือใหญ่หยาบกร้านก็เคลื่อนไหวบีบเคล้นสองเต้าพอดีมือไปด้วยเช่นกัน
“อือ...อ่า” เจณิสาหลับตาครางในความมืดพร้อมดิ้นถอยหนีหาทางเอาตัวรอดจากห้วงสวาทของตนเอง แต่ก็ถูกท่อนแขนแข็งแรงของบุรุษแปลกหน้าเหนือร่างกอดรัดแน่นรั้งไว้หึหึเสียงขำแห้งดังลอดออกมาจากริมฝีปากหนาของมังกรกัณฐ์เมื่อเขาผละเปลี่ยนมาคร่อมทับเจ้าหล่อน และกางเกงของเขาก็ถูกถอดทิ้งไปกองกับพื้นห้องของเธอเรียบร้อย ตอนนี้เจณิสาพร้อมแล้วและเขาเองก็พร้อมมาก พร้อมตั้งแต่นั่งดูหล่อนที่ห้องแล้วเอวสอบบดเบียดเสียดสีท่อนเนื้อที่แข็งของตัวเองกับหน้าท้องแบนราบเคลื่อนไหวไปมาแล้วถูไถไปยังเนินสวาทอวบอูมพร้อมฟังเสียงครางกระเส่าของสาวเจ้าใต้ร่างไปด้วย สองมือน้อยของเจณิสาที่กำเกร็งตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นจับรั้งหัวไหล่ของเขาไว้แน่นขนาดความเป็นบุรุษกับความเป็นสาวที่อาบฉ่ำร่องสวาทของคนตัวเล็กที่แสนจะเล็กนั้นทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นและเสียวคลั่งทั้งๆ ที่ยังไม่ได้สอดใส่ฝากฝังตัวเองในกายหญิงสาว แต่มังกรกัณฐ์ก็อดใจเต้นแรงไปกับสิ่งตรงหน้าไม่ได้ เขาเหมือนโจรที่กำลังลักหลับ ใช่...เขาลักหลับ แต่เขาไม่ใช่โจร เพราะเขาคือมังกรกัณฐ์“อะ...อื้อ” เจณิสาร้องครางกระเส่าบิดกายอ่อนระทวยเสียวซ่านเมื่ออยู่ใต้ร่างใหญ่ของชายแปลกหน้าที่กำลังกดค
นานมาแล้วมีนิทานพื้นบ้านเล่าขานกันมา และตัวร้ายในนิทานพื้นบ้านส่วนใหญ่มักเป็น ‘ยักษ์’ ที่ฆ่าคนฆ่าสัตว์กินเป็นอาหาร แต่หารู้ไม่ว่าในปัจจุบันจะมียักษ์ที่เป็นตัวร้ายในนิทานพื้นบ้านแอบแฝงอยู่กับมนุษย์ คุณไม่อาจรู้ได้เลยว่าคนที่คุณคุยด้วยและเดินสวนจะเป็นมนุษย์หรือยักษ์ หรืออาจเป็นเผ่าพันธุ์อื่นที่จำแลงแปลงกายมาใช้ชีวิตร่วมกับมนุษย์ ‘มังกรกัณฐ์’ คือชื่อของเขา ปีนี้ชายหนุ่มอายุได้ 108 ปี และไม่ใช่ยักษ์เต็มสายเลือด ในร่างกายของเขามีเลือดของมนุษย์ไหลเวียนอยู่ครึ่งหนึ่ง แม่ที่รักที่ให้กำเนิดเป็นมนุษย์ ถึงแม้แม่ของเขาจะเป็นมนุษย์ แต่ก็มีชีวิตที่เป็นอมตะ ไม่เจ็บ ไม่ป่วย หลังจากที่ท่านฟื้นจากอุบัติเหตุตอนที่ตั้งครรภ์เขา ตอนนี้พ่อและแม่ได้ย้ายไปอยู่กลางภูเขา ไปใช้ชีวิตส่วนตัวแยกตัวออกจากคนหมู่มากและทิ้งทุกอย่างไว้ให้เขาดูแลบริหารฟาร์มและโรงงานผลิตแปรรูปสัตว์ในฟาร์ม “คุณมังกรกัณฐ์ นี่คือเอกสารข้อมูลส่วนตัวของเจ้าหน้าที่กรมที่ดินที่จะเข้ามาตรวจดูที่ดินของเราครับ”พาทีส่งยื่นแฟ้มเอกสารให้นายน้อยตัวเอง เมื่อก่อนพาทีรับหน้าที่ดูแลและติดตามนาสูร พ่อของมังกรกัณฐ์ แต่ตอนนี้เขาถูกถ่ายโอ
หกปีที่รอไม่ได้เสียเปล่าเลยสักนิดสำหรับพุดซ้อน ตอนนี้นาสูรชดเชยทุกอย่างให้เธอและลูกน้องทุกอย่าง เขาทำเหมือนกับพ่อทั่วไป ตอนนี้เธอเป็นที่น่าอิจฉาของทุกคนก็ว่าได้ เมื่อความรักผลิบาน ดอกรักบานในใจ ความสุขจึงบังเกิดขึ้น ไม่ว่าจะก้าวเดินไปที่ไหน นาสูรก็แนะนำเธอกับคนงานในฟาร์มให้รู้จักในตำแหน่งนายหญิง แนะนำอย่างเป็นทางการพร้อมกับนายน้อยอย่างมังกรกัณฐ์ “ขอบคุณนะคะที่รักน้องกับลูก” “ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณเธอกับลูกที่อยู่รอฉัน ขอโทษที่ไม่ได้ดูแล ฉันจะชดเชยทุกอย่างให้เธอเองทูนหัว” เขาหันมาเอ่ยกับภรรยาคนสวยของตัวเองพร้อมกับตวัดแขนที่ว่างจากอุ้มลูกโอบไหล่เล็กหลวมๆ ไว้พร้อมเดินชมฟาร์มม้าและทักทายคนงานไปด้วย “พ่อก๊าบ...ผมก็รักพ่อนะก๊าบและรักแม่ด้วยนะก๊าบ” หนูน้อยอยากมีส่วนร่วมด้วยจึงเอ่ยขึ้นพร้อมหยิกแก้มสากของพ่อยืนยันคำรักของตน “อือ...พ่อรู้ครับ และพ่อก็รักคุณมังกรกัณฐ์กับแม่น้องมากนะครับ อือ...ชื่นใจ” แล้วเขาก็ยื่นจมูกไปบดเบียดแก้มนุ่มนิ่มแรงๆ ของลูกน้อย คิกๆ หนูน้อยร้องขำหลบหน้าหนีปลายจมูกโด่งของพ่อด้วยความจั๊กจี้ “น้องก็รั
พุดซ้อนโอบกอดลำคอหนาของเขาพร้อมแอ่นเด้งสองเต้าขึ้นเสียดสีหน้าอกแข็งแรงของบุรุษและเอวเล็กก็บิดเร่าทรมานเขาไปด้วยยามเขาเคลื่อนไหวโยกกระแทกตัวเข้าออกในกายตนเอง“อ่า...อืม แน่น อ่า...ซี้ด น้อง อืม...”นาสูรเผลอครางเรียกชื่อของหล่อนออกมาจากจิตใต้สำนึก เขาเองก็ไม่รู้ตัวว่าตัวเองหลุดปากอะไรออกมา แต่มันชัดเจนเหลือเกินสำหรับพุดซ้อน หัวใจสาวเต้นแรงเมื่อได้ยินเขาเรียกชื่อตัวเองออกมา หล่อนแอ่นเด้งไหวตอบสนองไม่อิดออดแม้แต่น้อย“อ่า...คุณเริ่มจำฉันได้แล้วคุณนาสูร อ่ะ...อื้อ แรงอีกค่ะ ลึกเหลือเกิน อ่า...เสียว”หล่อนยิ้มตลอดที่เขาขยับโยกเข้ากระแทกสอดกายจ้วงลึกอัดลิ้นปี่ตัวเอง“อ่า...ตอนนี้ไม่รู้ รู้แต่ว่าอยากได้ หิวกาม อ่า...เธอสวยทั้งตัวเลยน้อง อ่า...ไม่ไหวแล้ว อ่า...แน่นดีเป็นบ้า อ่า...”พั่บ! พั่บ! พั่บ!จังหวะกระแทกเนื้อหนักหน่วงพร้อมกับปากหนาดูดเร่าคลอเคลียซอกคอระหงเคลื่อนไล้มายังสองเต้าอวบอูม ตวัดปลายลิ้นลากถูไถไปมากับยอดอกสีระเรื่อพร้อมขบเม้มดูดเม้ม เอวสอบก็สาวรัวถี่หนักหน่วงไปด้วยเช่นกันในตอนนี้“อ่ะ...อื้อ ไม่ไหวแล้ว น้อง...อ่า...น้องไม่ไหวแล้วคุณนาสูร อ่า...น้องร้อนเหลือเกินค่า...”หล่อนร้อ
สุดท้ายก็ได้กลับมาอยู่ห้องพักห้องน้อยเหมือนเดิม เธอยอมรับว่าเสียใจ เจ็บปวด แต่ความจริงที่รับรู้จากพาทีเจ็บปวดยิ่งกว่า หกปีที่เขาหายไปเพราะเธอและลูก มันคงทรมานมาก โชคดีที่ฟ้าเบื้องบนยังเห็นใจและเมตตาเขาและเธอกับลูก เขาถึงได้ตื่นฟื้นคืนกลับมาหาเธอในวันนี้ “แม่ก๊าบ...” หนูน้อยที่เคยอยู่คฤหาสน์ร้องเรียกแม่เมื่อเดินดูห้องแคบๆ จนทั่วแล้วก็อดสงสัยไม่ได้ “ว่าไงครับมังกรกัณฐ์ที่รักของแม่”พุดซ้อนอ้าแขนให้ลูกเดินมาสวมกอด และหนูน้อยก็สวมกอดซุกหน้ากับอกแม่ที่นั่งกับพื้นห้องพับเสื้อผ้าอยู่ “ห้องเล็กจังก๊าบ...” “อดทนหน่อยนะลูก เดี๋ยวเราก็ได้กลับไปอยู่ห้องเดิมแล้ว” เธอลูบแผ่นหลังเล็กของลูกพร้อมกับบอกอย่างมีความ หวังว่าในเร็วๆ นี้เธอและลูกจะได้ย้ายกลับไปอยู่ที่เดิมและลูกจะได้รับความอบอุ่นและอ้อมกอดแข็งแรงของเขาปลอบโยนยามร้องไห้เสียใจ และเธอก็อยากให้เขาปลอบเหมือนกัน “ก๊าบ...แม่ไม่เสียใจนะก๊าบที่ถูกคุณลุงหน้าเข้มไล่ออกมา” หนูน้อยยังไม่รู้ว่าคนหน้าเข้มเหี้ยมโหดดุดันนั้นคือพ่อของตัวเอง เพราะแม่ยังไม่ได้บอกอะไรเกี่ยวกับพ่อ “ไม่เสียใจก๊าบ มังกร
“คุณนาสูร!” เธอเรียกชื่อเขาพร้อมวิ่งโผเข้าสวมกอดร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่กลางบ้าน เธอกลับมาแวะดูลูกน้อยนอนกลางวัน และมาเจอเขาเข้าพอดีก็ดีใจจนบอกไม่ถูกและสิ่งที่ทำได้คือพาสองขาก้าววิ่งเร็วๆ ไปกอดเขา ส่วนนาสูรที่หมุนตัวหันมามองทางต้นเสียงก็ได้แต่ทอดสายตามองคนที่วิ่งมาสวมกอดตัวเองด้วยสายตาเรียบตึง “เธอเป็นใคร?” นั่นคือคำถามที่เขาถามคนที่วิ่งมาสวมกอดตัวเองพร้อมดันหล่อนออกห่าง ทั้งๆ ที่รู้มาก่อนแล้วว่าหญิงสาวหน้าตาสวยหวานคือใคร แม้พาทีจะเล่าให้ฟังมาคร่าวๆ แล้ว แต่เขาก็ยังไม่เชื่ออยู่ดีว่าเขาจะมีคนรัก? “นายหญิงครับ ตอนนี้อย่าเพิ่งซักไซ้หรือโกรธนายท่านเลยนะครับ”พาทีเอ่ยแทรกขึ้นพร้อมเดินมายืนตรงกลางระหว่างสองคน พาทีสงสารพุดซ้อนที่มาเจอคำถามจากชายที่รักแบบนี้ และยิ่งตอนนี้หญิงสาวปล่อยเสียงสะอื้นไห้ดังออกมาปานใจจะขาด อึก! ฮือๆๆ “น่ารำคาญ! ร้องไห้ให้ได้อะไรขึ้นมา ฉันไม่รู้จักเธอ ไสหัวไปให้พ้นหน้าฉัน ฉันจะพักผ่อน พาทีไล่ผู้หญิงคนนี้ออกจากบ้านฉันด้วย และลูกใช่ไหม เธอมีลูกให้เธอพาลูกของเธอไปด้วย เหม็นสาบพวกมนุษย์และพวกลูกครึ่งยักษ์”เขาสั่งความกับพาทีจบก็เดินไปยังบ