วัลลภรับหน้าที่ขับรถของเจ้านาย นิตยานั่งเบาะด้านหน้าหน้าคู่คนขับ พลอยไพลินจำใจต้องนั่งคู่กับบอดี้การ์ดผู้อ้างว่า เขาต้องการดูแลเธออย่างใกล้ชิด ไม่อยากให้มีข้อผิดพลาดในการดูแลเธอ
“มีร้านไหนที่มีพลอยไซซ์นี้อีกไหมคะคุณนิด”
“ไม่มีเลยค่ะคุณเต็น อย่างที่รู้กันว่าไพลินไซซ์ใหญ่ขนาดนี้แทบหาไม่ได้แล้ว ตอนนี้มีที่ร้านนี้ร้านเดียวเท่านั้นค่ะ” นิตยาเบี่ยงตัวมาคุยกับเจ้านาย ผู้จัดการแผนกจัดซื้อมีสีหน้าไม่สู้ดีเท่าไรนัก เพราะพลอยเม็ดสวยที่มั่นใจว่าจะได้กลับไปทำเครื่องประดับเพื่อส่งเข้าประกวดงานอัญมณีและเครื่องประดับประจำปี กลับเกิดมีปัญหาขึ้นมาเสียได้ อีกทั้งดีไซเนอร์ของบริษัทได้ออกแบบเครื่องประดับไว้เรียบร้อยแล้ว ที่ประชุมก็มีมติเป็นเอกฉันท์ว่าจะใช้เครื่องประดับเซตนี้ส่งเข้าประกวด แต่หากไพลินเม็ดนี้หลุดลอยไป ทุกอย่างจะต้องเริ่มต้นใหม่จากศูนย์ และอาจจะส่งเข้าประกวดไม่ทัน
“แล้วเม็ดเล็กที่เราสั่งไว้ล่ะคะ เขามีปัญหาอะไรไหมคะ”
“ไม่มีค่ะ เขาจัดเตรียมไว้ให้เราตามที่สั่ง พร้อมกับใบรับรองเรียบร้อยแล้วค่ะ”
พลอยไพลินถอนหายใจเฮือกใหญ่ หนักใจไม่น้อยกับสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอ
พลอยไพลินทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ เธอยังไม่พร้อมจะสูญเสียความสาวในตอนนี้ พี่โยนี่ก็กระไร รุกเธอหนักเหลือเกิน เล่นเจ้าล่อเอาเถิดอยู่ได้ ทั้งที่ไม่มีอะไรชัดเจนกับเธอเลย“เต็นไม่ยอมนะ พี่โยจะมาทำกับเต็นแบบนี้ไม่ได้” น้ำเสียงสั่นๆ ตัดพ้อน้อยใจ“เต็นคิดว่าพี่จะทำอะไร” วาโยถามเสียงเข้ม ทว่าใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม“ทำ เอ่อ...”“คิดไปไกลนะเรา เดี๋ยวพี่ก็ทำตามที่เต็นคิดจริงๆซะหรอก” วาโยว่ายิ้มๆ“คิดอะไร เต็นไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย ปล่อยเต็นได้แล้วค่ะ เต็นจะไปอาบน้ำ” พลอยไพลินเปลี่ยนเรื่อง ไหนๆเธอก็ต้องจำใจอยู่กับเขาต่อ เพราะรู้ดีว่าต่อให้ยกแม่น้ำทั้งโลกมาอ้าง เขาก็ไม่มีทางพาเธอกลับแน่ๆ“ตกลงจะไม่แลก” วาโยถามเสียงทุ้ม คิ้วเข้มข้างหนึ่งเลิกสูง สายตาคมปลาบจับจ้องดวงหน้าหวานซึ้งไม่วางตาพลอยไพลินถอนหายใจสุดแรง มองค้อนคนที่ยังคงกอดรัดเธอไว้แนบกายแกร่ง“จะนอนกี่คืนก็เรื่องของพี่โยเถอะค่ะ เต็นรู้หรอกว่า ถึงเต็นจะเอาอะไรมาแลก ถ้าพี่โยคิดจะพักที่นี่ต่อ พี่โยก็จะพัก ไม่ว่ายังไงพี่โยก็จะเอาแต่ใจ ดังนั้นจะนอนกี่คืนก็แล้วแต่เลยค่ะ นอนกันสักเดือนหนึ่งก็ได้ งา
เมื่อฝ่ายรุกได้ดั่งใจ ฝ่ายรับก็ยอมโอนอ่อนทำตาม ต่างฝ่ายจึงต่างผลัดกันป้อนอาหารให้กัน ใบหน้าชายหนุ่มนั้นอิ่มเอิบ แต่งแต้มไปด้วยความสุข หากแต่ใบหน้าสาวนั้นงอหงิก ปากจิ้มลิ้มยื่นออกมาน้อยๆเป็นบางครั้ง ด้วยเพราะไม่ค่อยพอใจเท่าไรนักแม้จะโมโหที่เขาเอาแต่ใจอย่างร้ายกาจ แต่พลอยไพลินก็ไม่คิดจะเอาความโมโหเป็นที่ตั้ง เธอยอมกินอาหารที่เขาป้อน และยอมป้อนเขาอย่างที่เขาต้องการ ผลัดกันป้อนไปมาสักพัก คนที่ถูกบังคับในคราแรกก็เริ่มสนุก กินได้เยอะ เพราะเขาเอาอกเอาใจ และดูแลเธออย่างดี“เต็นจะกินปลาจานนี้ พี่โยแกะให้เต็นกินหน่อย ไม่เอาหนังปลานะคะ” พลอยไพลินชี้นิ้วไปยังจานปลากะพงนึ่งมะนาว หญิงสาวเผลออ้อนโดนไม่รู้ตัว แถมยังยิ้มหวาน กะพริบตาปริบๆ อย่างที่เคยทำเวลาอ้อนพี่กระต่ายน้อยประจำวาโยพยักหน้ายิ้มๆ พลอยไพลินยิ้มกว้างกว่า ใบหน้าแย้มยิ้มกระจ่างใสของน้อง ทำให้คนเป็นพี่ลอบถอนหายใจด้วยความรู้สึกปั่นป่วน น้องน่ารักน่าจับจูบ และน่าจับทำอะไรต่อมิอะไรอีกหลายอย่างจนเขาแทบอดใจไม่ไหวแล้วพนักงานของรีสอร์ตมาเก็บสำรับอาหารกลับออกไปแล้ว ความมืดโรยตัวเข้าปกคลุมไปทั่วบริเว
“อืม...” พลอยไพลินครางเบาๆในลำคอ หญิงสาวรู้สึกก้ำกึ่งอยู่ระหว่างความฝันกับความจริง หากนี่คือฝัน มันคือความฝันอันแสนหวามไหว รสจูบหวานซาบซ่านเคยคุ้นทำให้เธอจูบตอบทั้งที่ยังหลับตา แต่หากนี่คือความจริง ช่างเป็นความจริงที่น่าเคลิบเคลิ้ม เธอมิอาจปฏิเสธได้เลยว่า บทจูบอ่อนหวานซ่านอารมณ์กำลังปั่นหัวเธอให้หลงละเมอ จนมิอาจถอนตัวถอนใจผลักไสคนที่มอบจูบให้เธอได้วาโยแทบคลั่งเมื่อน้องเริ่มจูบตอบ ชายหนุ่มพลิกกายขึ้นทาบทับอยู่เหนือร่างสาว ความหวานล้ำที่ได้รับ บวกกับความใกล้ชิดมากกว่าครั้งไหน อีกทั้งบรรยากาศก็เป็นใจทำให้เลือดในกายหนุ่มร้อนฉ่า เขาไม่รู้เลยว่าครั้งนี้เขาจะหยุดตัวเองได้หรือเปล่า ไม่รู้เลยว่ามันจะเลยเถิดไปไกลถึงจุดไหน วาโยรู้เพียงว่า หากให้ถอนจูบออกมาตอนนี้ เขาต้องลงแดงตายแน่ๆความอึดอัดเพราะโดนโถมทับไว้ทั้งตัว กับจูบที่ค่อยๆทวีความดุดันขึ้นเรื่อยๆทำให้สติที่พร่าเลือนเริ่มชัดเจนขึ้นทีละน้อย พลอยไพลินเบิกตาโพลงในความมืด หัวอกหัวใจสั่นไหวระรัว กลัวพี่ชายเจ้าเล่ห์จะทำมากกว่าที่เคยทำอาการขัดขืนโวยวาย การดิ้นยุกยิก และความพยายามเบี่ยงหน้าหนีทำให้วาโยครางขัดใจ ทว่าชายหนุ่
พลอยไพลินถอนหายใจแรง เขาต้อนเธอให้จนมุมจนได้ แต่หญิงสาวยอมแต่โดยดี เมื่อเขาขยับกายลงจากร่างเธอ แล้วกกกอดเธอไว้แนบอก แม้จะหวาดหวั่น เกรงว่าเขาจะทำอะไรเกินเลย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า อ้อมกอดพี่โยอบอุ่นและเธอรู้สึกปลอดภัยจากอันตรายภายนอก เพียงแต่ไม่รู้สึกปลอดภัยต่อหัวใจเท่านั้นเอง“สาบานเลยว่า ครั้งต่อไปที่เราได้นอนเตียงเดียวกัน พี่จะไม่ปล่อยให้เต็นได้นอนสบายแบบนี้แน่”คำขู่แสนวาบหวามของคนเป็นพี่ทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวสั่นไหว พลอยไพลินไม่กล้าแย้ง ไม่กล้ากระดุกกระดิกร่างกาย ตอนนี้เธอตกเป็นรองอยู่ การสงบปากสงบคำไว้ดีที่สุดแล้ว แต่...สาบานเลยว่า เธอจะไม่มีวันนอนเตียงเดียวกับเขาอีกครั้งแน่นอนพลอยไพลินรู้สึกเหมือนจะละลาย เพราะสายตาร้อนแรงของคนเป็นพี่ เธอกับเขากำลังนั่งรับประทานอาหารเช้าที่ระเบียงส่วนตัว ท่ามกลางบรรยากาศสายน้ำไหลเอื่อย อ้อมกอดขุนเขาป่าไม้ แต่แทนที่จะสนใจมื้อเช้าแสนอร่อยตรงหน้า เขากลับเอาแต่จ้องมองเธออยู่ได้“พี่โยไม่หิวเหรอคะ” พลอยไพลินถามและจ้องมองสบตาเขาตรงๆ คนถูกน้องจ้องตอบยิ้มกรุ้มกริ่ม“ไม่
“หากจะเหมารีสอร์ตเหมือนครั้งนี้ ทางเราจะให้ส่วนลดเพิ่มนะคะ” พนักงานสาวบอกด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ทว่าคนที่ได้รับข้อเสนอส่วนลดจากการเหมารีสอร์ตครั้งต่อไปกลับหุบยิ้มฉับ พลอยไพลินสูดลมหายใจเข้าปอดยาวๆ ฝืนยิ้มให้กับพนักงานสาว“ค่ะ ขอบคุณนะคะ”พลอยไพลินหันหลังเดินออกมาจากเรือนรับรอง ก้าวเร็วตรงไปยังรถคันใหญ่ที่จอดอยู่ใกล้ๆ สมองคิดวกวนทบทวนอยู่กับคำว่า เหมารีสอร์ต ทุกย่างก้าวเหมารีสอร์ตแสดงว่าเมื่อคืนนี้ไม่มีคนอื่นเข้าพักรีสอร์ต ห้องว่างเป็นสิบ แล้วอะไรคือการบอกว่าจองไว้แค่ห้องเดียวดวงตาคู่งามดั่งมีประกายไฟลุกโชติช่วง พลอยไพลินรู้สึกเหมือนมีความร้อนพ่นออกมาทางหูทั้งสองข้าง อาการควันออกหูมันเป็นแบบนี้เองใช่ไหมพี่โย...คนเจ้าเล่ห์ “นี่ค่ะเอกสารของพี่โย” “ขอบคุณครับ” วาโยรับซองจากมือน้อง แล้วเอี้ยวตัวนำไปวางไว้บนเบาะหลัง ก่อนหันกลับมาบังคับรถออกตัวเคลื่อนไปตามทางมุ่งหน้ากลับกรุงเทพฯพลอยไพลินรีบคาดเข็มขัดนิรภัยก่อนเขาหันกลับมา เธอจะไม่ยอมให้คนเจ้าเล่ห์มาทำดีเพื่อหวังผลกำไรจากร่างกายเธออ
พลอยไพลินเดินเข้าบ้านไปพร้อมมารดา แต่ในใจก็ยังนึกถึงคนที่ขับรถมาส่งเธอ เขารีบกลับจนลืมสั่งห้ามหลายๆอย่างเหมือนที่เขาเคยสั่ง รีบจนลืมคาดโทษต่างๆนานาหากเธอไม่ทำตาม หรือว่ามีปัญหาร้ายแรงเกิดขึ้นกับงานของเขา เขาถึงได้รีบขนาดนั้นแทนที่เมื่อกลับถึงบ้านแล้วพลอยไพลินจะโล่งใจที่ได้อยู่ห่างจากชายหนุ่มอย่างที่ต้องการ แต่หญิงสาวกลับเอาแต่ครุ่นคิดถึงเขา ใจที่โกรธเคืองเรื่องเขาโกหก กลับกลายเป็นว่าเธอลืมเลือนมันไปเสียแล้ว ความรู้สึกที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้คือเธอเป็นห่วงเขา“จำนวนเงินที่ถูกปล้นไปสิบสี่ล้านสองแสนบาทครับ” วัลลภแจ้งให้เจ้านายหนุ่มได้รับทราบทันทีที่วาโยเดินผ่านประตูกระจกบานเลื่อนเข้ามาในตึกยี่สิบสามชั้นซึ่งเป็นสำนักงานของบริษัท ลูกน้องคนสนิทยืนรอเจ้านายอยู่ก่อนแล้วด้วยใบหน้าเคร่งขรึมไม่ต่างกับคนที่เพิ่งได้รับฟังข้อมูลจากปากเขา วาโยพยักหน้ารับทราบ ใบหน้าเคร่งขรึมตลอดเวลา ขณะที่ขายาวก้าวมั่นคงตรงไปยังลิฟต์สำหรับผู้บริหารที่อยู่ไม่ไกลพนักงานต้อนรับหน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์รีบทำความเคารพด้วยความยำเกรง เมื่อเจ้าของตึกซึ่งดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบ
“อ้อ! บ่ายสามโมงเจอกันที่ลานจอดรถนะน้องสาว”พลอยไพลินมองค้อนบานประตูที่เพิ่งปิดลง หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ ไม่ใช่เธอไม่อยากไปไร่ภูอิงฟ้า แต่เพราะรู้ว่าถ้าไปแล้วจะต้องเจอกับใครต่างหาก เธอจึงไม่อยากไป เธอรู้ว่าใครคนนั้นต้องไปแน่ๆ เพราะเขาถามเธอเรื่องไปไร่ภูอิงฟ้าตอนอยู่บนรถขากลับจากเมืองกาญจน์ เธออุตส่าห์ยกเอางานสังสรรค์กับเพื่อนๆมาอ้าง มาทวงรางวัลที่งานสำเร็จแล้ว แต่พี่ชายผู้ใจดีกับสาวน้อยทุกคนบนโลกยกเว้นน้องสาวตัวเองกลับไม่ยอมปล่อยเธอ“พี่ต่ายไม่เข้าใจน้อง” คนที่ไม่ได้ดั่งใจบ่นเบาๆ ยิ่งนึกถึงใบหน้าคนนั้นแล้ว เธอก็ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ และเผลอใช้ปลายนิ้วไล้ริมฝีปากเบาๆอย่างลืมตัว“อย่าลืมนะ พี่ให้เวลาถึงก่อนตะวันตกดินวันอาทิตย์เท่านั้น ไม่อย่างนั้น...” เพชรนิลกดเสียงต่ำ ทำท่าใช้นิ้วชี้ปาดคอตัวเอง ชายหนุ่มเบ้ปากทำตาเหลือกให้ดูสมจริงขึ้นอีกนิด“รู้แล้วน่า ขับรถดีๆนะคะ” พลอยไพลินโบกมือให้พี่ชายซึ่งรับหน้าที่เป็นคนขับรถพาทุกคนในครอบครัวเดินทางไปไร่ภูอิงฟ้า หญิงสาวบริการปิดประตูรถฝั่งคนขับให้ด้วยเมื่อรถตู้คันหรูแล่นออกจ
เมื่อสาดน้ำกันจนเหนื่อยหอบ ต่างคนจึงต่างแยกย้ายกันไปยืนพักเหนื่อยพิงขอบสระ มองหน้าเปียกปอนและผมเผ้ารุงรังของกันและกันแล้วก็พากันหัวเราะขำ“อุ๊ย! พี่กรมาแล้ว พี่กรคะ วิวอยู่นี่ค่ะ” เมื่อเพื่อนสาวเอ่ยทักทายผู้มาใหม่อย่างตื่นเต้น พลอยไพลินจึงมองตาม และเมื่อเห็นว่าเป็นใครยืนอยู่ตรงนั้น หญิงสาวก็หน้าบึ้งลงทันทีพลอยไพลินมองตามเพื่อนของเธอว่ายน้ำไปทางบันได แล้วรีบปีนขึ้นจากสระ เดินเร็วไปหาภาสกรที่ยืนยิ้มอยู่ริมขอบสระอีกด้าน ชายหนุ่มมองมาที่เธอแวบหนึ่ง ก่อนจะหันไปยิ้มให้เจ้าของบ้านที่ขึ้นจากสระมาต้อนรับภาสกรสวมกางเกงขาสั้นฮาวายลายสีฟ้าขาวและเปลือยท่อนบน พลอยไพลินจับตามองเขาไม่วางตา ไม่ใช่คลั่งไคล้หรือหลงใหลไปกับหุ่นเซ็กซี่ขยี้ใจสาวของเขา แต่เธอไม่ชอบที่มีผู้ชายเข้ามาในบริเวณนี้ ชุดว่ายน้ำของเธอเซ็กซี่และเปิดเผยเนื้อหนังมังสามากเกินไป เธอไม่ชอบที่จะให้ผู้ชายคนไหนมอง โดยเฉพาะภาสกร เพราะเขาเป็นหนึ่งในผู้ชายที่พยายามเข้าหาเธอเพราะหวังในตัวเธอ เป็นครั้งแรกที่หญิงสาวรู้สึกผิดที่เปิดโอกาสให้ใครต่อใครเข้ามาสนิทสนมด้วย ถึงแม้เธอจะขีดเส้นความสัมพันธ์ที่ชัดเจน ระบุสถานะเขาไว้ที่
พลอยชมพูหลับตา แหงนเงยหน้าเชิดสูง พร้อมกับกรีดร้องออกมาด้วยความซ่านเสียวสะใจ เธอต้องบ้าไปแล้วแน่ๆที่รู้สึกไปกับเขามากมายขนาดนี้ และเมื่อเขาเริ่มโยกกายถอดถอนสลับเติมเต็มในจังหวะเชื่องช้า หญิงสาวก็ครางเบาๆอย่างกับลูกแมวน้อย มันเสียวสะท้านก็จริง ทว่าเธอคิดว่ามันอ่อนโยนเกินไป หญิงสาวจึงโยกสะโพกกลับไปด้านหลัง ในจังหวะที่เขาสอดเสยเข้าหาเธอพอดี เสียงเนื้อสะโพกหนั่นแน่นปะทะกับหน้าขาจึงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ต่างคนต่างใส่แรงเข้าหากันไม่มีใครยอมใคร แต่คนแรงน้อยกว่าสูญเสียอธิปไตยในน่านน้ำตัวเองไปหลายครั้ง กว่าเธอจะรีดรัดคนแข็งแกร่งห้าวหาญจนเขายอมพ่ายแพ้ก็ใช้เวลาร่วมชั่วโมง “ไปเดินอีท่าไหนให้หกล้มหัวเข่าถลอกแบบนี้คะ” ลำดวนถามคนที่ตนกำลังทำแผลให้ หญิงสาวนั่งอยู่บนโซฟาในบ้านพักของเจ้าของรีสอร์ตพลอยชมพูตวัดสายตาดุขึ้นมองตัวต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องหัวเข่าถลอก เขายืนกอดอกตีหน้านิ่งอยู่ใกล้ๆ แต่เมื่อสบสายตากับเธอ เขาก็ยิ้มบางบนใบหน้า แถมยังยักคิ้วข้างหนึ่งใส่เธอด้วย คนเจ็บตัวเพราะความหื่นปรอทแตกของเขาจึงสะบัดค้อนให้จนคอแทบเคล็ด
ใบหน้าที่หลับตาพริ้ม อ้าปากเผยอครางเสียงหวานดังผะแผ่ว ทำให้พบรักเร่งมือเพื่อส่งเธอไปสุดปลายทางล่วงหน้าก่อน เขาสอดนิ้วกลางเข้าสู่ร่องสาวคับแน่น ชักเข้าออกกระทุ้งแรง รับรู้ได้ถึงกล้ามเนื้ออ่อนที่บีบรัดรอบจากปลายสุดโคนนิ้ว ชายหนุ่มสูดลมหายใจยาว เขาแข็งขึงทรมาน อยากจะพาสัดส่วนที่ขยายใหญ่โตสอดลึกในตัวเธอแล้ว ทว่าก็ได้แต่ยับยั้งใจไว้ก่อน ความสดใหม่ของเธอทำให้เขาต้องรีดเค้นน้ำหวานออกมาให้ได้มากที่สุด เพื่อไม่ให้เธอต้องเจ็บตัวมากเหมือนครั้งแรก“คุณพบ!” พลอยชมพูหลับตาแน่น เงยหน้าขึ้นครวญครางเรียกชื่อคนที่กำลังปรนเปรอเธอด้วยนิ้วมืออย่างดุดัน เมื่อไม่อาจต้านทานบทเพลงกามาที่บรรเลงโดยนิ้วเรียวยาวที่พร่างพรมลงใจกลางความเป็นหญิง สะโพกสวยก็ขยับเร็วเพื่อจะไปให้ถึงบทสุดท้ายของเพลงรัก เผลอให้ความร่วมมือไปโดยไม่รู้ตัว“กระติ๊บ...” พบรักจับจ้องมองใบหน้าน่ารักไม่วางตา เขากระซิบเรียกเธอซ้ำๆ จูบปลายคางเล็ก แล้วอ้าปากงับเบาๆ เร่งขยับซอยนิ้วมือกระทั่งส่งเธอข้ามพ้นขอบเขตความอดกลั้น หญิงสาวระเบิดตัวเองหยาดน้ำใสฉีดล้นซอกขาเปรอะเปื้อนเต็มหน้าตักเขาพลอยชมพูหอบหายใจแฮกๆ หญิงสาวเอนกายซวนซบอกกว
“อุ๊ย!” พลอยชมพูมัวแต่โมโหคนที่ไม่ยอมปล่อยเธอสักที หญิงสาวเลยมองเมินไปยังพื้นที่สีเขียวโล่งกว้างตรงหน้า โดยไม่ทันระวังตัว พบรักก็รวบเอวคอดดึงตัวเธอขึ้นไปนั่งบนตักเขา แล้วกักกอดไว้แน่น แผ่นหลังนุ่มแนบไปกับอกกว้างกำยำ“คุณพบ! จะทำอะไรคะ ปล่อยนะ” พลอยชมพูหันหน้าไปต่อว่าเขา ใบหน้าสาวบูดบึ้งไม่พอใจอย่างที่สุด“นั่งพักสักหน่อย เดี๋ยวค่อยกลับ”“จะนั่งก็นั่งดีๆสิคะ ทำไมต้องมากอดคนอื่นแบบนี้”“คนอื่นที่ไหน เมียทั้งคน”ดวงตาคู่สวยเบิกกว้าง มองหน้าคนที่เรียกตัวเองว่าเมียด้วยสายตาแตกตื่น พบรักมองสีหน้าตกใจของเธอแล้วยิ้มขำ พอเห็นคนที่เอาแต่ตกตะลึงตาค้างกับตำแหน่งใหม่ที่เขามอบให้ แถมริมฝีปากอิ่มที่เผยอน้อยๆนั่นก็ยั่วใจเขาเหลือเกิน ชายหนุ่มจึงอดใจไม่ไหว เขาโน้มใบหน้าลงไปใกล้อีกนิด หวังจะชิมความหวานจากปากนุ่ม แต่ดูเหมือนคนกำลังจะถูกเขารังแกจะรู้ตัวเสียก่อน มือบางสองข้างจึงถูกยกขึ้นมาปิดกั้นปากเขาไว้แล้วดันออกสุดแรงจนหน้าแทบหัน“จะทำอะไรคะ” พลอยชมพูถามเสียงขุ่น หญิงสาวดึงมือกลับมาเช็ดๆถูๆกับกางเกง มองค้อนคนจ้องจะเอาเปรียบเธอปากเขานุ่มชะมัด บ้าจริ
“ไอ้หมอนั่นใคร”เสียงเข้มไม่พอใจที่ดังขึ้นข้างหลังทำให้พลอยชมพูสะดุ้ง หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนหมุนตัวกลับไปยืนประจันหน้ากับเจ้าของรีสอร์ตนิสัยเสียที่กล้าเรียกลูกค้าว่าไอ้หมอนั่น“ลูกค้าค่ะ”“รู้แล้วว่ามันเป็นลูกค้า มันรู้จักกระติ๊บด้วยเหรอ”“เป็นเพื่อนกันสมัยเรียนปอโทค่ะ”“เมื่อกี้มันขอเบอร์ด้วย”“ค่ะ” พลอยชมพูตอบแล้วหันไปคว้าถาดมาถือ เดินหนีคนช่างซัก“จะไปไหน” พบรักเดินตามติดต้อยๆ“เอาถาดไปเก็บค่ะ”“ผมช่วย” พบรักแย่งถาดจากมือบาง แต่ลูกจ้างสาวไม่ยอม พลอยชมพูดึงเอาไว้แน่น“ไม่ต้องค่ะ”“ต้อง” พบรักใช้แรงที่มีมากกว่าดึงถาดมาจากมือเธอจนได้ พลอยชมพูมองหน้าเขาด้วยความไม่พอใจ คนบ้าอะไรเนี่ย คนจะทำงาน เขาจะมาวุ่นวายวอแวอะไรกับเธอนักหนา“งั้นก็ฝากไปเก็บด้วยนะคะ ติ๊บจะไปช่วยพี่น้ำตาลค่ะ” พลอยชมพูสะบัดหน้าเดินหนีเอาดื้อๆ พบรักมองตามเธอ แล้วก้มมองถาดในมือ เรื่องอะไรจะเอาไปเก็บ เธอไม่ไป เขาก็ไม่ไป ชายหนุ่มพยักหน้าเรียกพนักงานที่ยืนอยู่ไม่ไกลให้มารับถาดไปเก็บ แล้วเดินตามไปยังเคาน์เตอร์ที่พลอยชมพูยืนอยู่กับกลุ่
“ผมก็เป็นเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งเหมือนกัน” คนไม่อยากให้สาวทำงานลำบากรีบเอ่ยอ้างพลอยชมพูเงยหน้าขึ้นสูดลมหายใจลึก นี่เธอกำลังคุยกับผู้ใหญ่อายุสี่สิบหรือเด็กอายุสิบขวบกันแน่นะ“ติ๊บจะไปช่วยงานคนอื่นแล้ว ห้ามตามมานะคะ ไม่อย่างงั้นติ๊บจะหนีกลับบ้านจริงๆด้วย” พลอยชมพูหันหลังเดินออกจากห้องไปทันทีที่พูดจบ คนที่ถูกเธอขู่ไม่กล้าลุกเดินตามไป พบรักทำได้เพียงถอนหายใจมองตามตาละห้อย เขากลัวเธอหนีกลับบ้าน กลัวเธอไม่อยู่ให้เขารับผิดชอบเมื่อเดินออกมาจากห้องทำงานเจ้าของรีสอร์ตได้แล้ว พลอยชมพูถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอก บางทีเธอก็ไม่เข้าใจว่า การที่เธอเอาเรื่องนี้มาขู่เขานี่ถูกต้องแล้วใช่ไหม คือเธออดสงสัยไม่ได้ว่าตรรกะการได้เสียระหว่างเธอกับเขามันดูเพี้ยนๆ เขาต้องการรับผิดชอบ ในขณะที่เธอยังไม่แน่ใจอะไรทั้งนั้น และยังไม่อยากตัดสินใจอะไรตอนนี้ ไม่ใช่ว่าไม่เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอเสียใจ แต่ที่มากกว่าความเสียใจคือ เธอกลัวครอบครัวรู้ กลัวพวกท่านจะผิดหวังในตัวเธอ แต่จะให้ร้องไห้คร่ำครวญจมอยู่ในห้วงทุกข์ตลอดเวลาก็ดูจะไม่ใช่ ไม่น่าทำ เธอโตมาในครอบครัวที่อบอุ่น มีภูมิคุ้มกันภาวะจิตใจและอาร
“ยังไม่หิวค่ะ” พลอยชมพูบอกเสียงเบา หญิงสาวไม่รู้จะทำตัวเช่นไร จึงได้แต่ยืนขัดเขินทั้งกังวลอยู่กลางห้อง รอให้เขาเริ่มพูดเรื่องนั้นขึ้นก่อน“กระติ๊บ”“คะ” คนถูกเรียกสะดุ้ง หันไปมองเจ้าของห้องที่นั่งอยู่ปลายเตียงของเขา“มานั่งตรงนี้ เราต้องคุยกัน” พบรักตบมือลงข้างๆที่ตัวเองนั่งอยู่“คุณพบพูดมาเลยค่ะ ยืนอยู่ตรงนี้ ติ๊บก็ได้ยิน”“ถ้าไม่มานั่งดีๆ ผมจะเดินไปอุ้ม”คำขู่ด้วยน้ำเสียงราบเรียบทำให้ใบหน้างามงอง้ำ พลอยชมพูพ่นลมหายใจออกมาพรืดใหญ่ ก่อนจะยอมเดินไปนั่งข้างเขา ซึ่งหญิงสาวทิ้งระยะห่างพองาม พบรักเองก็ไม่ได้คะยั้นคะยอให้เธอมานั่งชิดตัวติดกัน“กระติ๊บอยากให้ผมรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นยังไง” พบรักเอ่ยถามตรงๆไม่อ้อมค้อม คนที่ต้องตอบคำถามอึ้งไปไม่เป็น รับผิดชอบอย่างไรงั้นหรือ แต่งงานคงไม่ใช่คำตอบที่ดีเท่าไรนัก เพราะหากชีวิตคู่ของเธอเริ่มต้นจากการเสียตัวเพราะความเมา มันก็คงจบไม่สวยเท่าไรหรอกมั้ง เธอกับเขายังรู้จักกันไม่ดีพอ ยังไม่มากพอที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน“อย่าเพิ่งปฏิเสธความรับผิดชอบจากผม เราค่อยๆเรียนรู้กันไปก่อนได้ไหม”พลอยชมพูเ
เพลิงตะวันจับตามองน้องสาวตั้งแต่เธอเดินออกจากประตูบ้านมา กระทั่งเดินมานั่งที่เก้าอี้ซึ่งอยู่ในซุ้มไม้ที่เขากับภรรยานั่งอยู่ก่อนแล้ว“ช้า!” คนใจร้อนและหัวร้อนง่ายว่าน้อง แล้วมองอย่างจับพิรุธ“ติ๊บเป็นผู้หญิงนะพี่เพลิง จะให้วิ่งผ่านน้ำหรือไงเล่า มันก็ต้องให้เวลากันหน่อยสิคะ” พลอยชมพูว่าแล้วทำปากยื่นให้พี่ชาย“น้ำฝนไม่เห็นอาบนานเหมือนติ๊บเลย” คนข้องใจยังคงหาเรื่องจับผิดน้องต่อ“ที่อาบไม่นานเพราะพี่เพลิงเข้าไปอาบด้วยหรือเปล่าคะ อาบไม่นาน เพราะทำอย่างอื่นด้วย” ถึงเธอจะเพิ่งเสียพรหมจรรย์มาเมื่อคืนนี้เอง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้อะไรเลย เรื่องแบบนี้ถึงไม่อยากรู้แต่ก็ได้รู้ เพราะทั้งเพื่อนฝูงคุยกัน ทั้งหนังทั้งละครมีฉากแบบนี้ออกเยอะแยะ และพลอยชมพูก็ฉลาดพอที่จะดึงน้องสาวเข้ามาจัดการพี่เพลิง“พี่ติ๊บ!” หยาดพิรุณอุทานเรียกพี่สาวด้วยน้ำเสียงตกใจ แล้วหันไปมองสามีด้วยสายตาดุ เพราะเขานั่นแหละไปจุกจิกวุ่นวายถามจับผิดพี่สาวเธออยู่ได้ พี่ติ๊บเลยสวนหมัดกลับมา แต่แทนที่หมัดนี้จะโดนเขา กลับมาฮุกเข้าใต้ลิ้นปี่เธอเสียนี่“ตื่นสายโด่งขนาดนี้ พี่พบเขายังจ
หยาดพิรุณมองตามหลังสามีแล้วได้แต่ส่ายหน้า หญิงสาวหันมายิ้มให้พี่สาว แล้วเดินเข้าไปสวมกอดด้วยความคิดถึง “ขอโทษแทนพี่เพลิงด้วยนะคะพี่ติ๊บ พี่เพลิงเนี่ยไม่ค่อยเข้าใจคำว่าเกรงใจใครหรอกค่ะ นี่มันห้องส่วนตัวของพี่ติ๊บ ก็ยังดื้อรั้นจะเข้าไปอีก เดี๋ยวกลับถึงไร่ น้ำฝนจะจัดการให้นะคะ” “ขอบใจมากนะน้ำฝน ถ้าไม่ได้น้ำฝนพี่คงแย่” หยาดพิรุณคลายอ้อมกอด ผละออกมาจ้องมองหน้าพี่สาวอย่างแปลกใจ คิ้วเรียวขมวดมุ่นด้วยความสงสัย อดไม่ได้ที่จะชะเง้อคอมองเข้าไปในห้อง แย่อะไร...พี่ติ๊บมีอะไรซ่อนไว้ในห้อง คนที่เพิ่งรู้ตัวว่าเผลอพูดประโยคชวนสงสัยออกไปรีบขยับตัวบังสายตาน้อง “เอ่อ...น้ำฝนไปรอพี่ข้างล่างก่อนนะ พี่ขอเวลาอาบน้ำแต่งตัวแป๊บเดียว เดี๋ยวพี่ตามลงไปคุยด้วย” “ค่ะ” แม้จะสงสัยเพียงใด แต่หยาดพิรุณก็เคารพความเป็นส่วนตัวของพี่ เมื่อน้องสาวเดินลงบันไดไปแล้ว พลอยชมพูจึงรีบปิดประตู ลงกลอนแน่นหนา หญิงสาวพิงหลังกับบานประตู ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ดวงตาที่มีแววกังวลม
“คุณพบไปหลบอยู่ในตู้เสื้อผ้าก่อน แล้วก็ห้ามส่งเสียง ห้ามออกมาจนกว่ากว่าติ๊บจะเปิดประตูให้” พลอยชมพูลุกขึ้นจากเตียง เธอไม่สนหรอกว่าจะโป๊เปลือยอยู่ เพราะตอนนี้เธอกังวลอยู่เรื่องเดียว คือกลัวว่าพี่เพลิงจะรู้ว่าเธอกับเจ้านายมีอะไรเกินเลยกันแล้ว คนตัวเล็กลากร่างสูงกำยำลงมาจากเตียง พบรักลงมาแต่โดยดี ไม่ได้กลัวไอ้หมาบ้าเพลิงที่เคาะประตูอยู่หรอก แต่เขายอมลุกดีๆก็เพราะมีอาหารตาให้มองต่างหาก“เอาเสื้อผ้าคุณพบเข้าไปด้วย” พลอยชมพูก้มลงเก็บเสื้อผ้าของเขา แล้วยัดใส่มือให้ หญิงสาวรุนหลังเขาไปหน้าตู้เสื้อผ้า เปิดประตูตู้แล้วออกแรงผลักเขาให้เข้าไป ทว่าคนตัวโตกลับไม่ยอมขยับ“สัญญามาก่อนว่าจะไม่หนีกลับบ้าน”“โอ๊ย! ไม่มีเวลามาสัญญิงสัญญาอะไรแล้วค่ะ คุณพบหลบเข้าไปอยู่ในตู้ก่อนนะคะ”“ไม่! ผมจะไม่เข้าไปอยู่ในตู้ จนกว่ากระติ๊บจะสัญญามาก่อนว่าจะไม่หนีกลับบ้าน”พบรักมองสบตาคู่สวยแน่วแน่ พลอยชมพูถอนหายใจแรง คนขี้โกงมาบังคับเอาคำสัญญาตอนหน้าสิ่วหน้าขวานนี่นะ“ค่ะ ติ๊บจะไม่หนีกลับบ้าน”พบรักยิ้มในหน้าเขาสวมกางเกงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะรีบพาตัวเองเข้าไปหลบอยู่ในตู้