“กระแต ฉันง่วงแล้ว กลับห้องเรากันเถอะ” เมื่อก้าวเข้ามาในห้อง พ่อเพชรก็เดินตรงมาหยุดอยู่ข้างเตียง เอ่ยชวนเมียกลับห้องด้วยเสียงอ่อนเสียงหวาน ไม่สนใจลูกสาวอีกสองคนที่นั่งกอดแม่อยู่เลย
“ไม่ได้ค่ะ คุณแม่ถูกพวกเราจับตัวไว้แล้ว ถ้าคุณพ่อจะพาคุณแม่กลับไปนอนด้วย จะต้องจ่ายค่าไถ่มาก่อน” พลอยชมพูบอกด้วยท่าทางขึงขัง
“ค่าถ่งค่าไถ่อะไรกัน นี่เมียพ่อ เมียก็ต้องนอนห้องเดียวกับผัวสิ”
“นี่คุณแม่ของติ๊บกับพี่เต็น แม่ก็ต้องนอนห้องเดียวกับลูกสิคะ” พลอยชมพูบอกบิดาแล้วยิ้มอย่างเป็นต่อ
“ลูกโตแล้ว นอนกันเองได้แล้ว แต่พ่อแก่แล้ว ต้องมีเมียคอยดูแล” พ่อเพชรพูดเสียงเศร้า แววตาน่าสงสาร
“คุณพ่อต้องจ่ายเช็คเงินสดให้พวกเราคนละสองล้านมาก่อน เป็นค่าไถ่ตัวคุณแม่ ไม่อย่างนั้นพวกเราจะไม่ยอมปล่อยคุณแม่ออกจากห้อง” พลอยไพลินบอกไปตรงๆไม่อ้อมค้อม
“แพงไปไหมนั่น คนละสองร้อยก็พอแล้ว” พ่อเพชรต่อรอง
“อะไรกันคะคุณเพชร ค่าตัวหนูแค่สี่ร้อยเองหรือคะ งั้นคืนนี้คุณเพชรก็กลับไปนอนคนเดียวเลยค่ะ หนูจะนอนกับลูก” แม่กระแตมองค้อนสามี เรื่องอะไรมาต่อค่าตัวเมียลงแบบลดฮวบฮาบขนาดนั้น
“กระแต
“เฮ้อ! ถ้าพ่อไม่มีตังค์มาจ่าย คืนนี้ก็คงไม่ได้ตัวแม่กลับไปสินะ”“อือฮึ!” สองสาวประสานเสียงในลำคอ พยักหน้าอย่างหนักแน่นพร้อมกัน“ถ้างั้น...” ท่าทางเหมือนจะยอมรับเงื่อนไขของบิดา ทำให้สองพี่น้องยิ้มพราว“ถ้างั้น...พ่อก็ขอนอนในห้องนี้ด้วยคนแล้วกัน” พ่อเพชรเอนกายลงนอนทันทีที่พูดจบ สองพี่น้องที่คิดว่าตนเองเป็นต่อบิดาหลายขุมถึงกับหน้าเหวอ พลอยชมพูคลายอ้อมกอดออกจากมารดา แล้วรีบคลานไปดึงแขนบิดาให้ลุกขึ้น“คุณพ่ออย่าขี้โกงนะ จ่ายตังค์มาก่อน”“คนละสองร้อย จะเอาไหมล่ะ” เพชรเพทายถามยิ้มๆ พลอยชมพูส่ายหน้าเร็ว“ไม่เอา จะเอาคนละสองล้าน” พลอยไพลินย้ำเสียงดังฟังชัด หญิงสาวรีบมานั่งคุกเข่าดึงแขนบิดาอีกข้าง“สองร้อย” คนเป็นพ่อต่อรอง“สองล้าน” ลูกสาวสองคนประสานเสียงดังพร้อมเพรียง“งั้นก็นอนรวมกันทั้งสี่คนในห้องนี้แหละ” พ่อเพชรสรุปปิดประเด็น“คุณพ่อขี้โกง!” พลอยชมพูบ่น ใบหน้าน่ารักงอง้ำแม่กระแตหัวเราะกับการถกเถียงกันของสามคนพ่อลูก เธอค่อยๆขยับกายลุกไปยืนข้างเตียง“หนูจะกลับห้องแล้วนะคะคุณเพชร” แม่กระแตส่งสายตาหวานมีความห
พลอยไพลินสะบัดหน้าหนีคนขี้งก ทำอะไรให้นิดหน่อยก็คิดราคาค่างวดไปซะหมด ตั้งแต่รู้จักเขา เธอจ่ายไปไม่รู้กี่จูบแล้ว“อยากแวะเที่ยวไหนหรือเปล่าครับ” เมื่อขับรถมาได้สักระยะ คู่หมั้นเพียงชั่วข้ามคืนก็ถามไถ่อย่างใส่ใจ“ไม่ค่ะ เต็นอยากกลับบ้าน”“แวะกินข้าวก่อนก็ได้นะครับ”“เพิ่งกินมาเองนะคะพี่โย อิ่มจนพุงจะแตกแล้ว”“ไหนพุง พุงอยู่ตรงไหน เท่าที่เคยเห็น เต็นไม่มีพุงนะ” วาโยพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ทว่าสายตาคู่คมนั้นเป็นประกายพลอยไพลินหันขวับไปมองหน้าคนขับรถ ปากจิ้มลิ้มเผยอค้าง คำพูดของเขาทำให้เธอคิดถึงคืนก่อน คืนที่เขาสำรวจเธอไปทั้งเรือนกาย ใบหน้าสาวเห่อร้อน วูบวาบไปทั้งตัว“หรือเพิ่งมีพุงเมื่อเช้านี้ อืม...แบบนี้พี่ควรพิสูจน์สินะ”“ไม่มีค่ะ พี่โยอย่ามาทำเจ้าเล่ห์กับเต็นนะ” พลอยไพลินมองหน้าคนเจ้าเล่ห์อย่างรู้ทัน“ไม่ให้เจ้าเล่ห์กับเต็นแล้วจะให้พี่ไปเจ้าเล่ห์กับใครล่ะครับ” ใบหน้าคมคายระบายยิ้มอารมณ์ดี“ก็ลองไปเจ้าเล่ห์กับคนอื่นสิ เต็นจะถอนหมั้น”คำว่าถอนหมั้นที่น้องพูดออกมาง่ายดาย ทำให้คนจริงจังและไม่คิดจะถอนหมั้นนึกฉุ
“เชื่อได้แค่ไหนกันคะ” น้ำเสียงเอ่ยถามไม่มั่นใจ ทั้งสายตาเอียงอาย กับรอยยิ้มเขินของน้องทำให้วาโยถอนหายใจแรง“เชื่อพี่เถอะทูนหัว น่ารักขนาดนี้ พี่ไม่มีสายตาไปมองใครแล้วล่ะ”พลอยไพลินกลั้นยิ้มจนปวดแก้ม หญิงสาวดันอกแกร่งเบาๆ“กลับบ้านกันเถอะค่ะ” คนเขินเปลี่ยนเรื่องเฉไฉ ก่อนที่เธอจะเขินจนละลายไปกับสายตาหวานฉ่ำของเขา“เชื่อพี่ไหม เชื่อพี่บ้างหรือเปล่า” วาโยรวบกุมสองมือนุ่มของน้องไว้ด้วยมือเดียว เขารุกถามซ้ำย้ำเอาคำตอบ“อื้อ! เชื่อก็ได้ค่ะ” พลอยไพลินเบี่ยงหน้าหนีจมูกโด่งของคนที่ก้มลงมาถามจนใบหน้าแทบจะชนกัน“พูดแบบนี้เหมือนไม่เชื่อกันเลย แบบนี้ต้องง้างปากเอาคำตอบชัดๆ”“อุ๊ย! เชื่อแล้วค่ะ เต็นเชื่อพี่โยแล้ว” พลอยไพลินเบี่ยงหน้าหลบเป็นพัลวัน เมื่อคนถามจะใช้ปากของเขาง้างปากของเธอเพื่อขอคำตอบที่ชัดเจนวาโยยิ้มพึงพอใจ เขาหลุบตามองปากหวานๆของน้อง ใช้นิ้วโป้งไล้เบาๆบนกลีบปากอิ่ม พลอยไพลินรู้ว่าเขาคงไม่หยุดแค่มอง ทว่าเธอก็ไม่ได้บ่ายเบี่ยงหรือหลีกหนีอีก เพราะเธอไม่เคยห้ามอะไรเขาได้จริงๆ“เด็กดี...แบบนี้ต้องให้รางวัล”พลอยไพลินทอดถ
เด็กบ้าอะไรน่ารักชะมัด“แค่กๆ” แค่นึกถึง สตรอว์เบอร์รีที่เคี้ยวอยู่ติดคอจนเพชรนิลไอหน้าดำหน้าแดง ชายหนุ่มทุบอกตัวเองแรงๆหลายครั้งทั้งไอถี่ไม่หยุดกระทั่งชิ้นสตรอว์เบอร์รีหลุดออกมาอยู่ในมือ“คิดว่าจะกลัวเหรอ จะกัดกินกลืนลงท้องให้หมดเลย” เพชรนิลแก้แค้นผลไม้สีแดงรสหวานด้วยการส่งชิ้นที่อยู่ในมือเข้าไปในปากใหม่แล้วเคี้ยวเร็วๆก่อนกลืนลงท้อง แล้วหันไปหยิบมากินอีกจนหมด ดวงตาคู่คมมองตะกร้าใบน้อยว่างเปล่าอย่างสะใจ“ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร คิดว่าติดคอแค่นี้แล้วกระต่ายน้อยจะไม่กล้ากินเหรอ หึ!”พลอยไพลินยืนหันรีหันขวางอยู่หน้าตึกของบริษัทคู่หมั้น หญิงสาวนั่งรถไฟฟ้ามาจากบริษัทของตัวเอง เธอลงสถานีที่อยู่ไม่ไกลตึกนี้มากนัก เดินต่ออีกไม่กี่นาทีก็มาถึงหน้าตึกแล้ว“แล้วจะบอกพี่โยว่ามาทำไม” พลอยไพลินทำหน้ายุ่งเมื่อคิดได้ว่า เธอหาเหตุผลให้ตัวเองได้แล้วว่าควรมาหาเขาเพราะอะไร แต่เธอยังไม่มีเหตุผลให้เขาเลยว่ามาหาเขาทำไม มันคงไม่ดีแน่ถ้าเธอจะบอกเขาไปอย่างที่ใจเธอคิดขณะเดียวกันบนตึกชั้นสูงสุด ภายในห้องทำงานของเจ้าของตึกและ
“เต็นไม่น่ามาหาพี่โยเลย อุ๊ย!” เมื่อน้องรั้งรอไม่ยอมนั่งลงสักที เจ้าของที่นั่งเวรี่วีไอพีจึงออกแรงดึง พร้อมกับตวัดแขนรัดเอวคอด รั้งร่างงามให้นั่งลงบนตักแกร่ง แล้วรวบกอดเอาไว้แนบอก พลอยไพลินซุกหน้ากับอกกว้าง ทอดถอนใจอย่างยอมจำนน แม้เธอจะอิดออดไม่อยากจะนั่งบนตักเขา แต่เมื่อได้สัมผัสแนบชิด ได้ซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของเขา หญิงสาวก็อดยอมรับกับตัวเองไม่ได้ว่า เธออบอุ่นและสุขใจเสมอ ลำแขนเรียวค่อยๆโอบกอดร่างกำยำซ่อนรูป ใบหน้าสาวระบายยิ้มซุกซน อยากอยู่แบบนี้ไปนานๆ วาโยยิ้มในหน้าเมื่อน้องกอดตอบ ชายหนุ่มลูบเรือนผมนุ่มเบาๆ กดจมูกและปากลงบนศีรษะทุย งึมงำพูดเสียงเบา “เสร็จงานยุ่งๆแล้ว พี่จะให้คุณพ่อเข้าไปคุยเรื่องงานแต่งของเรากับคุณน้าทั้งสอง เต็นดูไว้หรือยังว่าจะจัดงานแบบไหน” “ยังไม่ได้ดูเลยค่ะ เลื่อนไปอีกหน่อยก็ดีนะคะ เต็นจะได้มีเวลาเตรียมตัว” “เลื่อนให้เร็วขึ้นน่ะได้ แต่เลื่อนออกไปอีกไม่ได้ เพราะพี่คงใจขาดตายก่อนแน่ๆ” “งั้นก็แต่
“อื๊อ! พี่โย!” แผ่นหลังบางแอ่นโค้งเมื่อปากร้อนชื้นครอบครองเต้าทรวงข้างซ้าย พลอยไพลินหลับตาแน่น ร่างสาวสั่นสะท้าน ทั้งเขินอาย ประหม่าและตื่นตระหนกกับสัมผัสที่ไม่เคยคุ้นวาโยใช้มือข้างหนึ่งประคองดันแผ่นหลังไว้ ไม่ให้เธอห่อตัวหลีกหนีการสำรวจเนื้อตัวจากนายช่างชำนาญการอย่างเขา วงแขนอีกข้างรวบกอดเอวน้อง และป่ายมือลงไปนวดคลึงเหนือเนินสาวผ่านเนื้อผ้ากระโปรงตัวสวยที่เธอสวมอยู่ ก่อนจะเลื่อนลงต่ำอีกนิด แล้วสอดหายเข้าไปใต้ชายกระโปรง แตะต้องสัดส่วนที่เขาเคยลิ้มรสมาแล้ว และรู้ว่าหวานล้ำเพียงใดพลอยไพลินดิ้นยุกยิกคัดค้านเขาได้ไม่นาน ร่างสาวก็อ่อนระทวยเป็นขี้ผึ้งลนไฟ สองมือที่ก่อนหน้านี้ทั้งดันทั้งผลักไสเขากลับเลื่อนขึ้นไปด้านหลังท้ายทอยแกร่งแล้วกดนวดคลึงเบาๆ“พี่โย...” ความสุขสมในค่ำคืนนั้นแวบเข้ามาในความคิด รสสวาทที่เขาเคยปรนเปรอให้จนสุดทางทำให้หญิงสาวถวิลหา เขาจะพาเธอไปถึงจุดนั้นไหม พี่โยจะหยุดอยู่ตรงไหน พลอยไพลินครางเสียงหวาน เบียดเนื้อตัวเข้าหาอย่างยินยอมพร้อมใจ พายุสวาทก่อตัวขึ้นอย่างรุนแรง ความต้องการถูกเร่งเร้าด้วยลิ้นสากที่ป่ายปัดเหนือยอดอก ปากอุ่นร้อนดูดดึงขบเม้มสลับข
วาโยยกต้นขาอวบข้างหนึ่งขึ้นพาดบ่าแกร่ง เปิดแยกกลีบสาวให้เบ่งบานต่อสายตา กลีบเนื้อสาวสีสดฉ่ำวาวปลุกเร้าอารมณ์หนุ่มให้ปั่นป่วน“เต็นจ๋า...” วาโยครวญเสียงแหบแห้ง สายตาคมวาวจับจ้องความงามตรงหน้าอย่างหลงใหล กลิ่นสาบสาวเย้ายวนให้เขามัวเมา เขายื่นหน้าเข้าไปใกล้อีก ยื่นริมฝีปากจุมพิตเบาๆบนดอกไม้สาวเบ่งบาน พลอยไพลินสั่นสะท้านหวามลึกในอก มวนในท้องราวกับมีลมพายุหมุนก่อตัวอยู่ในนั้น กลีบเนื้อสีสดสั่นระริก ปวดหน่วงช่องเร้นรับในซอกสาว น้ำหวานใสเอ่อซึมชโลมกลีบเนื้ออ่อนจนเปียกชื้นฉ่ำวาว“พี่โย! อื้อ...” พลอยไพลินเงยหน้าพิงศีรษะกับผนังห้องน้ำ ปากจิ้มลิ้มครวญครางกังวานหวาน เมื่อริมฝีปากหยักที่แนบประกบกลางกายขยับจูบซับไปทั่วผืนเนื้อสาวของเธอวาโยเหมือนคนหลงทางอยู่ในทะเลทรายมานานแรมเดือน เขาหิวโซ อดอยากปากแห้ง เมื่อมาเจอบ่อน้ำหวานกลิ่นหอมยั่วยวน ชายหนุ่มจึงดื่มกินอย่างตะกละตะกลาม ริมฝีปากขบเม้มดูดดึงกลีบเนื้ออ่อน ฟันซี่คมกัดขย้ำติ่งเนื้อนุ่มเบาๆ ลิ้นสากตวัดไล้กวาดหยาดน้ำหวานเข้าสู่โพรงปาก กลืนกินลงท้องอย่างอิ่มเอมเปรมปรีดิ์ รสชาติหวานล้ำและกลิ่นสาวหอมหวนมอมเมาให้เขาติดกับจนโงหัวไม่
พลอยไพลินกอดเกี่ยวลำคอแกร่งไว้ หญิงสาวหลับตาปี๋ เม้มปากแน่น ซุกหน้าอยู่กับอกกว้าง สองขางอตรงข้อพับ ปลายเท้าชี้สูง แยกกว้างให้ร่างสูงได้ยืนอยู่ตรงกลาง“เกี่ยวเอวพี่ไว้ทูนหัว” แม่ทูนหัวของวาโยรีบทำตามคำสั่งอย่างไม่อิดออด“เราต้องทำเวลา พี่รีบ พี่มีประชุม” ดูเหมือนวาโยจะเพิ่งนึกได้ว่าเขามีประชุม ชายหนุ่มพรูลมหายใจออกมายืดยาว จับตัวตนแข็งคึกแนบลงตรงกลางรอยปริแยกกลางกายสาว เขาถูไถเนิบช้า ส่วนปลายถูครูดติ่งเนื้อนุ่มทุกครั้งที่โยกสะโพกเสือกไสไปด้านหน้า เสียงหวานครางกระเส่า เร่งเร้าให้อารมณ์หนุ่มให้พุ่งพรวดพราด จนใกล้จะทะลุขีดความอดกลั้นอยู่รอมร่อ“พี่โยขา...อืม...” สะโพกสาวบิดส่าย ไฟราคะโหมกระพือขึ้นอีกครั้ง“เต็นจ๋า...” วาโยขบกรามแน่น หักห้ามใจไม่ให้รักเธอตั้งแต่ต้นว่ายากแล้ว และในที่สุดเขาก็ทำไม่ได้ นี่จะต้องมาหักห้ามใจ ไม่ครอบครองเธอก่อนเวลาอันควรอีก เขาจะทำได้ไหม จะอดทนได้แค่ไหนกัน“พี่โย พี่โย...” พลอยไพลินกอดคอเขาไว้แน่น สายรุ้งสีสวยก่อตัวขึ้นรอบกายเธออีกครั้ง มันพร่างพรายวิบวับ เย้ายวนชวนให้เธอไขว่คว้าไปให้ถึง หญิงสาวแอ่นกระดกสะโพกขึ้น เกร็งกายรับก
“เดือนนี้ไม่หักแล้ว จะให้เพิ่มด้วย” พบรักบอกยิ้มๆ“ให้เพิ่มทำไม ติ๊บไม่ได้ทำงานอะไรเพิ่มสักหน่อย” คนไม่อยากเอาเปรียบนายจ้างปฏิเสธไม่รับเงินค่าจ้างเพิ่มโดยที่เธอไม่ได้ทำอะไรเพิ่มพบรักถอนหายใจบางเบา เขาลุกขึ้นเดินอ้อมโต๊ะไปนั่งเก้าอี้ข้างหญิงสาว ดูเหมือนเธอจะหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงเหตุการณ์เร่าร้อนที่เขาและเธอเพิ่งทำกันไปเมื่อครู่ใหญ่“กระติ๊บ” พบรักจับมือบางทั้งสองข้างมากุมไว้ เขามองหน้าหญิงสาวด้วยสายตาดุ ไม่พอใจที่เธอไม่เรียกร้องอะไรจากเขาเลย ทั้งๆที่เขาอยากให้เธอเรียกร้องเอาทุกอย่างจากเขา เอาไปให้หมดเลยก็ได้ ทั้งตัว หัวใจ เงินทอง ทรัพย์สมบัติต่างๆ เขาพร้อมจะยกให้เธอทั้งหมด“อะ...อะไรคะ” พลอยชมพูเอนตัวหลบคนที่อยู่ดีๆก็เดินมาจับมือถือแขนเธอ ที่จริงเธอก็ไม่ควรตกใจอะไรหรอก เพราะมากกว่ามือเขาก็จับมาแล้ว แต่บอกตรงๆว่าเธอยังไม่ชิน ถึงจะไม่ได้รังเกียจเขา แต่ก็ใช่ว่าเธอจะชอบที่เขาเข้ามาใกล้ชิดแบบนี้ เพราะมันทำให้หัวใจเธอสั่น“คุณไม่คิดจะเรียกร้องอะไรจากผมหน่อยหรือ”พลอยชมพูมองหน้าเขานิ่งอยู่ชั่วอึดใจ ก่อนระบายยิ้มหวานสดใสให้เขา“แล้วคุณพบอยากใ
พลอยชมพูหลับตา แหงนเงยหน้าเชิดสูง พร้อมกับกรีดร้องออกมาด้วยความซ่านเสียวสะใจ เธอต้องบ้าไปแล้วแน่ๆที่รู้สึกไปกับเขามากมายขนาดนี้ และเมื่อเขาเริ่มโยกกายถอดถอนสลับเติมเต็มในจังหวะเชื่องช้า หญิงสาวก็ครางเบาๆอย่างกับลูกแมวน้อย มันเสียวสะท้านก็จริง ทว่าเธอคิดว่ามันอ่อนโยนเกินไป หญิงสาวจึงโยกสะโพกกลับไปด้านหลัง ในจังหวะที่เขาสอดเสยเข้าหาเธอพอดี เสียงเนื้อสะโพกหนั่นแน่นปะทะกับหน้าขาจึงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ต่างคนต่างใส่แรงเข้าหากันไม่มีใครยอมใคร แต่คนแรงน้อยกว่าสูญเสียอธิปไตยในน่านน้ำตัวเองไปหลายครั้ง กว่าเธอจะรีดรัดคนแข็งแกร่งห้าวหาญจนเขายอมพ่ายแพ้ก็ใช้เวลาร่วมชั่วโมง “ไปเดินอีท่าไหนให้หกล้มหัวเข่าถลอกแบบนี้คะ” ลำดวนถามคนที่ตนกำลังทำแผลให้ หญิงสาวนั่งอยู่บนโซฟาในบ้านพักของเจ้าของรีสอร์ตพลอยชมพูตวัดสายตาดุขึ้นมองตัวต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องหัวเข่าถลอก เขายืนกอดอกตีหน้านิ่งอยู่ใกล้ๆ แต่เมื่อสบสายตากับเธอ เขาก็ยิ้มบางบนใบหน้า แถมยังยักคิ้วข้างหนึ่งใส่เธอด้วย คนเจ็บตัวเพราะความหื่นปรอทแตกของเขาจึงสะบัดค้อนให้จนคอแทบเคล็ด
ใบหน้าที่หลับตาพริ้ม อ้าปากเผยอครางเสียงหวานดังผะแผ่ว ทำให้พบรักเร่งมือเพื่อส่งเธอไปสุดปลายทางล่วงหน้าก่อน เขาสอดนิ้วกลางเข้าสู่ร่องสาวคับแน่น ชักเข้าออกกระทุ้งแรง รับรู้ได้ถึงกล้ามเนื้ออ่อนที่บีบรัดรอบจากปลายสุดโคนนิ้ว ชายหนุ่มสูดลมหายใจยาว เขาแข็งขึงทรมาน อยากจะพาสัดส่วนที่ขยายใหญ่โตสอดลึกในตัวเธอแล้ว ทว่าก็ได้แต่ยับยั้งใจไว้ก่อน ความสดใหม่ของเธอทำให้เขาต้องรีดเค้นน้ำหวานออกมาให้ได้มากที่สุด เพื่อไม่ให้เธอต้องเจ็บตัวมากเหมือนครั้งแรก“คุณพบ!” พลอยชมพูหลับตาแน่น เงยหน้าขึ้นครวญครางเรียกชื่อคนที่กำลังปรนเปรอเธอด้วยนิ้วมืออย่างดุดัน เมื่อไม่อาจต้านทานบทเพลงกามาที่บรรเลงโดยนิ้วเรียวยาวที่พร่างพรมลงใจกลางความเป็นหญิง สะโพกสวยก็ขยับเร็วเพื่อจะไปให้ถึงบทสุดท้ายของเพลงรัก เผลอให้ความร่วมมือไปโดยไม่รู้ตัว“กระติ๊บ...” พบรักจับจ้องมองใบหน้าน่ารักไม่วางตา เขากระซิบเรียกเธอซ้ำๆ จูบปลายคางเล็ก แล้วอ้าปากงับเบาๆ เร่งขยับซอยนิ้วมือกระทั่งส่งเธอข้ามพ้นขอบเขตความอดกลั้น หญิงสาวระเบิดตัวเองหยาดน้ำใสฉีดล้นซอกขาเปรอะเปื้อนเต็มหน้าตักเขาพลอยชมพูหอบหายใจแฮกๆ หญิงสาวเอนกายซวนซบอกกว
“อุ๊ย!” พลอยชมพูมัวแต่โมโหคนที่ไม่ยอมปล่อยเธอสักที หญิงสาวเลยมองเมินไปยังพื้นที่สีเขียวโล่งกว้างตรงหน้า โดยไม่ทันระวังตัว พบรักก็รวบเอวคอดดึงตัวเธอขึ้นไปนั่งบนตักเขา แล้วกักกอดไว้แน่น แผ่นหลังนุ่มแนบไปกับอกกว้างกำยำ“คุณพบ! จะทำอะไรคะ ปล่อยนะ” พลอยชมพูหันหน้าไปต่อว่าเขา ใบหน้าสาวบูดบึ้งไม่พอใจอย่างที่สุด“นั่งพักสักหน่อย เดี๋ยวค่อยกลับ”“จะนั่งก็นั่งดีๆสิคะ ทำไมต้องมากอดคนอื่นแบบนี้”“คนอื่นที่ไหน เมียทั้งคน”ดวงตาคู่สวยเบิกกว้าง มองหน้าคนที่เรียกตัวเองว่าเมียด้วยสายตาแตกตื่น พบรักมองสีหน้าตกใจของเธอแล้วยิ้มขำ พอเห็นคนที่เอาแต่ตกตะลึงตาค้างกับตำแหน่งใหม่ที่เขามอบให้ แถมริมฝีปากอิ่มที่เผยอน้อยๆนั่นก็ยั่วใจเขาเหลือเกิน ชายหนุ่มจึงอดใจไม่ไหว เขาโน้มใบหน้าลงไปใกล้อีกนิด หวังจะชิมความหวานจากปากนุ่ม แต่ดูเหมือนคนกำลังจะถูกเขารังแกจะรู้ตัวเสียก่อน มือบางสองข้างจึงถูกยกขึ้นมาปิดกั้นปากเขาไว้แล้วดันออกสุดแรงจนหน้าแทบหัน“จะทำอะไรคะ” พลอยชมพูถามเสียงขุ่น หญิงสาวดึงมือกลับมาเช็ดๆถูๆกับกางเกง มองค้อนคนจ้องจะเอาเปรียบเธอปากเขานุ่มชะมัด บ้าจริ
“ไอ้หมอนั่นใคร”เสียงเข้มไม่พอใจที่ดังขึ้นข้างหลังทำให้พลอยชมพูสะดุ้ง หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนหมุนตัวกลับไปยืนประจันหน้ากับเจ้าของรีสอร์ตนิสัยเสียที่กล้าเรียกลูกค้าว่าไอ้หมอนั่น“ลูกค้าค่ะ”“รู้แล้วว่ามันเป็นลูกค้า มันรู้จักกระติ๊บด้วยเหรอ”“เป็นเพื่อนกันสมัยเรียนปอโทค่ะ”“เมื่อกี้มันขอเบอร์ด้วย”“ค่ะ” พลอยชมพูตอบแล้วหันไปคว้าถาดมาถือ เดินหนีคนช่างซัก“จะไปไหน” พบรักเดินตามติดต้อยๆ“เอาถาดไปเก็บค่ะ”“ผมช่วย” พบรักแย่งถาดจากมือบาง แต่ลูกจ้างสาวไม่ยอม พลอยชมพูดึงเอาไว้แน่น“ไม่ต้องค่ะ”“ต้อง” พบรักใช้แรงที่มีมากกว่าดึงถาดมาจากมือเธอจนได้ พลอยชมพูมองหน้าเขาด้วยความไม่พอใจ คนบ้าอะไรเนี่ย คนจะทำงาน เขาจะมาวุ่นวายวอแวอะไรกับเธอนักหนา“งั้นก็ฝากไปเก็บด้วยนะคะ ติ๊บจะไปช่วยพี่น้ำตาลค่ะ” พลอยชมพูสะบัดหน้าเดินหนีเอาดื้อๆ พบรักมองตามเธอ แล้วก้มมองถาดในมือ เรื่องอะไรจะเอาไปเก็บ เธอไม่ไป เขาก็ไม่ไป ชายหนุ่มพยักหน้าเรียกพนักงานที่ยืนอยู่ไม่ไกลให้มารับถาดไปเก็บ แล้วเดินตามไปยังเคาน์เตอร์ที่พลอยชมพูยืนอยู่กับกลุ่
“ผมก็เป็นเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งเหมือนกัน” คนไม่อยากให้สาวทำงานลำบากรีบเอ่ยอ้างพลอยชมพูเงยหน้าขึ้นสูดลมหายใจลึก นี่เธอกำลังคุยกับผู้ใหญ่อายุสี่สิบหรือเด็กอายุสิบขวบกันแน่นะ“ติ๊บจะไปช่วยงานคนอื่นแล้ว ห้ามตามมานะคะ ไม่อย่างงั้นติ๊บจะหนีกลับบ้านจริงๆด้วย” พลอยชมพูหันหลังเดินออกจากห้องไปทันทีที่พูดจบ คนที่ถูกเธอขู่ไม่กล้าลุกเดินตามไป พบรักทำได้เพียงถอนหายใจมองตามตาละห้อย เขากลัวเธอหนีกลับบ้าน กลัวเธอไม่อยู่ให้เขารับผิดชอบเมื่อเดินออกมาจากห้องทำงานเจ้าของรีสอร์ตได้แล้ว พลอยชมพูถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอก บางทีเธอก็ไม่เข้าใจว่า การที่เธอเอาเรื่องนี้มาขู่เขานี่ถูกต้องแล้วใช่ไหม คือเธออดสงสัยไม่ได้ว่าตรรกะการได้เสียระหว่างเธอกับเขามันดูเพี้ยนๆ เขาต้องการรับผิดชอบ ในขณะที่เธอยังไม่แน่ใจอะไรทั้งนั้น และยังไม่อยากตัดสินใจอะไรตอนนี้ ไม่ใช่ว่าไม่เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอเสียใจ แต่ที่มากกว่าความเสียใจคือ เธอกลัวครอบครัวรู้ กลัวพวกท่านจะผิดหวังในตัวเธอ แต่จะให้ร้องไห้คร่ำครวญจมอยู่ในห้วงทุกข์ตลอดเวลาก็ดูจะไม่ใช่ ไม่น่าทำ เธอโตมาในครอบครัวที่อบอุ่น มีภูมิคุ้มกันภาวะจิตใจและอาร
“ยังไม่หิวค่ะ” พลอยชมพูบอกเสียงเบา หญิงสาวไม่รู้จะทำตัวเช่นไร จึงได้แต่ยืนขัดเขินทั้งกังวลอยู่กลางห้อง รอให้เขาเริ่มพูดเรื่องนั้นขึ้นก่อน“กระติ๊บ”“คะ” คนถูกเรียกสะดุ้ง หันไปมองเจ้าของห้องที่นั่งอยู่ปลายเตียงของเขา“มานั่งตรงนี้ เราต้องคุยกัน” พบรักตบมือลงข้างๆที่ตัวเองนั่งอยู่“คุณพบพูดมาเลยค่ะ ยืนอยู่ตรงนี้ ติ๊บก็ได้ยิน”“ถ้าไม่มานั่งดีๆ ผมจะเดินไปอุ้ม”คำขู่ด้วยน้ำเสียงราบเรียบทำให้ใบหน้างามงอง้ำ พลอยชมพูพ่นลมหายใจออกมาพรืดใหญ่ ก่อนจะยอมเดินไปนั่งข้างเขา ซึ่งหญิงสาวทิ้งระยะห่างพองาม พบรักเองก็ไม่ได้คะยั้นคะยอให้เธอมานั่งชิดตัวติดกัน“กระติ๊บอยากให้ผมรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นยังไง” พบรักเอ่ยถามตรงๆไม่อ้อมค้อม คนที่ต้องตอบคำถามอึ้งไปไม่เป็น รับผิดชอบอย่างไรงั้นหรือ แต่งงานคงไม่ใช่คำตอบที่ดีเท่าไรนัก เพราะหากชีวิตคู่ของเธอเริ่มต้นจากการเสียตัวเพราะความเมา มันก็คงจบไม่สวยเท่าไรหรอกมั้ง เธอกับเขายังรู้จักกันไม่ดีพอ ยังไม่มากพอที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน“อย่าเพิ่งปฏิเสธความรับผิดชอบจากผม เราค่อยๆเรียนรู้กันไปก่อนได้ไหม”พลอยชมพูเ
เพลิงตะวันจับตามองน้องสาวตั้งแต่เธอเดินออกจากประตูบ้านมา กระทั่งเดินมานั่งที่เก้าอี้ซึ่งอยู่ในซุ้มไม้ที่เขากับภรรยานั่งอยู่ก่อนแล้ว“ช้า!” คนใจร้อนและหัวร้อนง่ายว่าน้อง แล้วมองอย่างจับพิรุธ“ติ๊บเป็นผู้หญิงนะพี่เพลิง จะให้วิ่งผ่านน้ำหรือไงเล่า มันก็ต้องให้เวลากันหน่อยสิคะ” พลอยชมพูว่าแล้วทำปากยื่นให้พี่ชาย“น้ำฝนไม่เห็นอาบนานเหมือนติ๊บเลย” คนข้องใจยังคงหาเรื่องจับผิดน้องต่อ“ที่อาบไม่นานเพราะพี่เพลิงเข้าไปอาบด้วยหรือเปล่าคะ อาบไม่นาน เพราะทำอย่างอื่นด้วย” ถึงเธอจะเพิ่งเสียพรหมจรรย์มาเมื่อคืนนี้เอง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้อะไรเลย เรื่องแบบนี้ถึงไม่อยากรู้แต่ก็ได้รู้ เพราะทั้งเพื่อนฝูงคุยกัน ทั้งหนังทั้งละครมีฉากแบบนี้ออกเยอะแยะ และพลอยชมพูก็ฉลาดพอที่จะดึงน้องสาวเข้ามาจัดการพี่เพลิง“พี่ติ๊บ!” หยาดพิรุณอุทานเรียกพี่สาวด้วยน้ำเสียงตกใจ แล้วหันไปมองสามีด้วยสายตาดุ เพราะเขานั่นแหละไปจุกจิกวุ่นวายถามจับผิดพี่สาวเธออยู่ได้ พี่ติ๊บเลยสวนหมัดกลับมา แต่แทนที่หมัดนี้จะโดนเขา กลับมาฮุกเข้าใต้ลิ้นปี่เธอเสียนี่“ตื่นสายโด่งขนาดนี้ พี่พบเขายังจ
หยาดพิรุณมองตามหลังสามีแล้วได้แต่ส่ายหน้า หญิงสาวหันมายิ้มให้พี่สาว แล้วเดินเข้าไปสวมกอดด้วยความคิดถึง “ขอโทษแทนพี่เพลิงด้วยนะคะพี่ติ๊บ พี่เพลิงเนี่ยไม่ค่อยเข้าใจคำว่าเกรงใจใครหรอกค่ะ นี่มันห้องส่วนตัวของพี่ติ๊บ ก็ยังดื้อรั้นจะเข้าไปอีก เดี๋ยวกลับถึงไร่ น้ำฝนจะจัดการให้นะคะ” “ขอบใจมากนะน้ำฝน ถ้าไม่ได้น้ำฝนพี่คงแย่” หยาดพิรุณคลายอ้อมกอด ผละออกมาจ้องมองหน้าพี่สาวอย่างแปลกใจ คิ้วเรียวขมวดมุ่นด้วยความสงสัย อดไม่ได้ที่จะชะเง้อคอมองเข้าไปในห้อง แย่อะไร...พี่ติ๊บมีอะไรซ่อนไว้ในห้อง คนที่เพิ่งรู้ตัวว่าเผลอพูดประโยคชวนสงสัยออกไปรีบขยับตัวบังสายตาน้อง “เอ่อ...น้ำฝนไปรอพี่ข้างล่างก่อนนะ พี่ขอเวลาอาบน้ำแต่งตัวแป๊บเดียว เดี๋ยวพี่ตามลงไปคุยด้วย” “ค่ะ” แม้จะสงสัยเพียงใด แต่หยาดพิรุณก็เคารพความเป็นส่วนตัวของพี่ เมื่อน้องสาวเดินลงบันไดไปแล้ว พลอยชมพูจึงรีบปิดประตู ลงกลอนแน่นหนา หญิงสาวพิงหลังกับบานประตู ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ดวงตาที่มีแววกังวลม