Share

บทที่ 10

last update Last Updated: 2025-01-28 08:17:19

"คุณ!?" ทีแรกคิดว่าข้าวปุ้นเดินตามมา แต่พอได้ยินเสียงปิดประตูแล้วไม่ใช่ข้าวปุ้นแน่ ทรงอัปสรเลยหันกลับไปมองพอเห็นว่าเป็นใครเธอก็รีบถอยไปจนหลังชนกับโต๊ะทำงาน "ถอยออกไปนะ"

พอไม่มีทางถอยต่ออีกฝ่ายก็เดินมุ่งตรงเข้ามาหา จนร่างหนาเบียดเข้ากับร่างของเธอที่พิงอยู่กับโต๊ะทำงานเกือบจะเป็นท่านั่ง

"ผมไม่เข้าใจทำไมคุณต้องทำให้ผมเสียอารมณ์ตลอดเลย"

"คุณถอยออกไปก่อนสิ" มือเรียวผลักแผ่นอกอีกฝ่ายที่โน้มลำตัวเข้ามาใกล้ให้ออกไป แต่ครั้นจะขยับออกก็ถูกมือเขาล็อกไว้ทั้งซ้ายและขวาของโต๊ะทำงาน

"เราจะคุยกันดีๆ ไม่ได้เลยหรือไง คุณก็เห็นความสามารถของคนที่ผมหามาแล้ว คลับของเราต้องรีบปรับเปลี่ยนเพื่อเรียกลูกค้า"

"แต่ฉันยังไม่เห็น" เขาเคยบอกว่าไม่เห็นความสามารถในตัวอลิส ทรงอัปสรเลยเอาคืนบ้าง

"ผมไม่รู้ว่าคุณหลงใหลอะไรในตัวเด็กคนนั้นนักหนา คุณมองไม่เห็นเลยเหรอว่าเธอไม่มีความสามารถพิเศษอะไรเลย"

"คนที่คุณพามามีความสามารถพิเศษว่างั้น"

"วันนี้ผมจะคุยกับคุณรู้เรื่องไหม"

"คนของคุณก็ไม่ได้มีประสบการณ์ในการทำงาน แล้วทำไมคุณถึงมองเห็นความสามารถล่ะ"

"เพราะเธอ.." นเรศวรหยุดพูดไว้แค่นี้ มันยิ่งทำให้ทรงอัปสรเชื่อในความคิดของตัวเอง

"เพราะเธอคือเด็กของคุณใช่ไหมล่ะ"

"เด็ก?"

"ฉันไม่รู้หรอกนะว่าคุณเลี้ยงเด็กไว้กี่คน แต่ฉันคิดว่าเด็กของคุณไม่จำเป็นต้องมาทำงานก็ได้มั้ง"

นเรศวรเพิ่งเข้าใจความคิดของเธอ "คุณพูดเหมือนกำลังหึงผมเลย"

"ใครจะไปหึงคุณ!"

"อย่าบอกนะว่าผมตกคุณสำเร็จแล้ว" ชายหนุ่มไม่พูดเปล่ายังยื่นริมฝีปากเข้าไปใกล้จนแทบจะสัมผัสถึงลมหายใจของอีกฝ่าย

จังหวะนั้นทรงอัปสรกำลังจะกำจัดจุดอ่อนเขาอีกรอบ แต่ก็ไม่ง่ายเพราะร่างของเขาอยู่ติดกับร่างเธอเกินไป

"นี่ขนาดยังไม่ได้จัดนัดกระชับมิตร คุณยังมีท่าทีหึงหวงในตัวผมแล้ว"

ไอ้บ้าเอ้ย มั่นหน้ามั่นโหนกขนาดนั้นเลยเหรอ

ก๊อกๆ "คุณหนูคะ คุณหนูเปิดประตูให้ข้าวปุ้นหน่อยค่ะ" ทีแรกข้าวปุ้นคิดว่าคุณหนูยังไม่จบการประชุม แต่พอเห็นอลิสออกมาเลยถามหาคุณหนู ได้ความว่าเธอออกมาจากห้องประชุมพร้อมกับเสี่ยนเรศ

"ข้าวปุ้น" ห้องผู้บริหารและห้องประชุมเป็นห้องเก็บเสียง ถ้าไม่ตะโกนใกล้ประตูจริงๆ ด้านในจะไม่ได้ยินเสียง ส่วนคนที่อยู่ด้านในตะโกนออกไปให้ตายคนด้านนอกก็ไม่ได้ยิน เพราะเสียงที่ดังอยู่แล้วแถมยังเป็นห้องเก็บเสียงอีก "ปล่อยนะ" จังหวะที่ทรงอัปสรดิ้นรนก็ถูกอีกฝ่ายจับกดลงกับโต๊ะทำงาน

"ปากหายแล้วนี่ คงจูบได้แล้วใช่ไหม"

"คนเลว ไอ้คนฉวยโอกาส ไปตายซะ!" หญิงสาวพยายามเบือนหน้าหลบริมฝีปากอีกฝ่ายที่โน้มลงมาเหมือนจะจูบ แต่เขาก็ดูไม่ค่อยจริงจังนัก ถ้าเขาคิดจะจูบจริงๆ มีหรือแรงแค่นี้จะหยุดเขาได้

ชั่วขณะเดียวกันคนที่อยู่ด้านบนก็ขยับตัวออก เพราะวันนี้เขาอยากจะคุยกับเธอแบบจริงจัง

"คุณหนูแบบคุณคงถูกตามใจจนเคยชินสินะ ถึงไม่ยอมฟังความคิดเห็นของใครเลย"

"คุณก็คงเคยใช้แต่กำลังจนเคยชิน ไม่สนว่าใครเขาจะยอมหรือไม่ยอม" หญิงสาวรีบลุกขึ้นแล้วก็เดินถอยออกมาให้ห่างจากตัวอันตรายแบบเขา

"คุณหนูคะถ้าคุณหนูไม่เปิดประตูข้าวปุ้นจะโทรเรียกตำรวจแล้วนะคะ" คิดอะไรไม่ได้ก็เอาตำรวจนี่แหละมาขู่ ป่านนี้คุณหนูจะเป็นยังไงบ้าง

ได้ยินว่าคนข้างนอกจะเรียกตำรวจแล้วนเรศวรเลยเดินไปเปิดประตู เพราะเขาไม่อยากให้ตำรวจเข้ามาวุ่นวายกับที่นี่

"คุณหนูเป็นยังไงบ้างคะ" ข้าวปุ้นกำลังจะเข้ามาดูแต่ถูกคนที่ยืนอยู่หน้าประตูขวางไว้

"ฉันกำลังคุยกับคุณหนูเธออยู่​ ไม่ต้องเข้ามาวุ่นวาย"

"คุณหนูคะ" ข้าวปุ้นยังคงชะโงกหน้ามองเข้าไปดูโดยที่ไม่สนใจคำพูดของคนที่ยืนขวางประตูอยู่เลย

"ถ้าอีกสิบนาทีฉันไม่ออกไปก็เรียกตำรวจได้เลยนะ" เธอให้เวลาเขาพูดสิบนาทีถ้ารีบออกไปตอนนี้เดี๋ยวเขาหาว่ากลัว

"ค่ะ" ข้าวปุ้นยังคงยืนอยู่หน้าประตู รอเวลาให้ถึงสิบนาที

"สิบนาทีจะคุยอะไรกันรู้เรื่อง ผมคุยกับคุณมานี่กี่เดือนแล้ว"

"นั่นหมายความว่าคุณก็ไม่มีความสามารถ"

"ก็ได้ถ้าโปรเจคนี้คุณไม่ยอมรับผมจะให้รดาร่างโปรเจคใหม่ขึ้นมา"

"โปรเจคเก่ายังทำไม่สำเร็จเลยจะรีบทำใหม่ไปไหน" จริงๆ ทรงอัปสรก็สนใจงานของรินรดาแต่เพียงแค่เธออยากจะเอาชนะ

"ตกลงคุณจะเอายังไงกันแน่"

"ก็ลองให้ผู้หญิงของคุณทำโปรเจคเดิมไปก่อนสิ"

"คุณไม่กลัวว่ามันจะเป็นงานก๊อปคนอื่นเหรอ"

"ฉันได้ยินว่าผู้หญิงของคุณจะทำให้แตกต่าง แค่ยกตัวอย่างฉันอนุญาตให้ทำต่อก็ได้"

นเรศวรยกนาฬิกาข้อมือราคาแพงขึ้นมาดูเหลือเวลาอีกแค่สองนาที เขาเลยหันกลับไปแล้วเปิดประตู ..อีกฝ่ายที่ยืนรออยู่หน้าประตูจับโทรศัพท์แน่นเลย แถมหน้าจอของโทรศัพท์โชว์หมายเลขที่ต้องการจะกดโทรออกไว้ด้วย

"คุณหนูคะ" หลังจากที่ประตูเปิดออกข้าวปุ้นก็รีบเข้ามาด้านใน "คุณหนูเป็นยังไงบ้างคะ"

"ฉันไม่เป็นอะไรขอบใจข้าวปุ้นมากนะ"

"ข้าวปุ้นขอโทษที่ไม่ได้อยู่กับคุณหนูตลอดเวลานะคะ"

"มันไม่ใช่ความผิดของข้าวปุ้นหรอก"

"มึงยืนทำอะไรอยู่ทำไมไม่จัดการวะ" นเรศวรอารมณ์เสียกับคนของทรงอัปสรมาก พอออกมาก็ตำหนิทันน์ที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตู

"จะให้ผมจัดการยังไงครับ"

"ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกมึงจะลากไปทำอะไรก็เอาไป เสียอารมณ์!"

ทันน์และตุนท์เป็นฝาแฝดกันก็จริงแต่นิสัยคนละเรื่องเลย ทางด้านทันน์จริงจังกับงานมาก และไม่เคยอ่อนข้อให้ใคร ถ้าเจ้านายสั่งอะไรมาก็จะได้แบบนั้น ส่วนตุนท์เป็นผู้ชายที่สาวๆ หลายคนชอบ

"อะไรนะคะ" รินรดาถูกเรียกตัวเข้ามาหาในห้องทำงานของผู้บริหาร "ทำไมตอนอยู่ในห้องประชุมเหมือนคุณอัปสรจะไม่ชอบงานรดาเลยล่ะคะ"

"กลัวเสียหน้าน่ะสิ"

"กลัวเสียหน้า? สองคนมีอะไรกันหรือเปล่าคะเนี่ย"

"จะมีอะไรล่ะ"

"แน่ใจนะคะ"

"ไปทำงาน!"

"ทำไมต้องดุด้วย" ก่อนจะเดินออกไปรินรดาปิ๊งไอเดียอะไรขึ้นมาอย่างหนึ่ง เธอหัวไวแบบนี้แหละนเรศวรถึงได้เรียกตัวให้กลับมาช่วยงานนี้

"คุณหนูจะกลับแล้วหรอคะ" ข้าวปุ้นเห็นว่ายังเหลืออีกเกือบสองชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาเลิกงาน แต่คุณหนูเก็บของจะกลับแล้ว

"ช่วงนี้ฉันต้องกลับเร็วหน่อย" ถ้าเธอกลับพร้อมกับอีกฝ่ายเปอร์เซ็นต์สูงมากที่จะเจอกันอยู่คอนโด ทรงอัปสรเลยชิงกลับก่อน เพราะถ้าจะกลับทีหลังคงต้องทิ้งเวลาอีกเป็นชั่วโมง

"ให้ข้าวปุ้นไปพักด้วยไหมคะ"

"ไม่ต้องหรอกอยู่บ้านนั่นแหละดีแล้ว จะได้คอยเป็นหูเป็นตาให้ฉันด้วย" เพราะมีข้าวปุ้นอยู่บ้านนั่นแหละเธอถึงไม่เป็นห่วงพ่อมากนัก

"เอาแบบนั้นก็ได้ค่ะ" เพราะมันเป็นคำสั่งข้าวปุ้นถึงยังกล้ำกลืนฝืนทนอยู่ที่บ้านหลังนั้น การงานและเงินที่เก็บไว้ก็พอจะมีออกมาตั้งหลักปักฐานใหม่แล้ว แต่เพราะคำสั่งของคุณหนูเธอเลยต้องยอมอยู่ที่นั่นต่อ​ ถึงแม้ว่าคนที่บ้านหลังนั้นจะไม่ชอบหน้าเธอเลย

กลับเข้ามาในห้องทรงอัปสรก็มีเวลามากกว่าเดิมเพราะเธอกลับก่อนเวลา เลยใช้เวลานี้มาร์คหน้าบำรุงผิว แช่น้ำนมก่อนจะเข้านอน

"ไม่ต้องตามขึ้นไป พวกมึงกลับเถอะ" หลังจากที่ลูกน้องมาส่ง นเรศวรก็สั่งให้กลับไป ที่จริงเขาไม่ได้พักที่นี่ตลอดเพราะเป็นแค่ที่ที่ซื้อไว้เพื่อทำอะไรบางอย่าง ที่ที่เขาพักจริงๆ คือ safe house

ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปในห้อง นเรศวรไม่ลืมที่จะชำเลืองมองไปดูประตูของห้องข้างๆ ก่อนหน้านี้ที่จะเข้าห้องเขาต้องคอยระวัง ไม่ให้ห้องข้างๆ เห็น แต่ช่วงหลังมากลับกันอีกห้องต้องคอยระวังไม่ให้เขาเห็น

วันต่อมาที่คลับ..

"คุณหนูคะห้องประชุมรอคุณหนูอยู่ค่ะ"

"วันนี้มีประชุมอะไร"

"เป็นโปรเจคของคุณรินรดาค่ะ"

"เสร็จแล้วเหรอ"

"ไม่รู้เหมือนกันค่ะ"

ทรงอัปสรส่งของในมือให้กับข้าวปุ้นเอาไปเก็บในห้องทำงานก่อน แล้วเธอก็เดินไปทางห้องประชุม

นเรศวรยังนั่งทำมาดขรึมอยู่เมื่อเห็นอีกฝ่ายเดินเข้ามา เขาเคยพูดเชิญเธอนั่งแล้วแต่ก็ถูกตอกกลับ เลยไม่พูดดีกว่า

"เชิญคุณนั่งก่อนสิคะ" แต่ทันใดนั้นคนที่เชิญนั่งก็คือรินรดา

สายตาของนเรศวรรีบตวัดมองไปดู ว่าเธอจะพูดเหมือนที่พูดกับเขาไหม เพราะวันนั้นเธอบอกว่าเธอคงไม่ยืนคุยงานให้เมื่อยหรอก

แต่ทรงอัปสรก็ไม่ได้พูดอะไร เธอขยับเก้าอี้ออกแล้วก็นั่งลง

"ฉันจองโต๊ะอาหารที่โรงแรมไว้ให้พวกคุณสองคนแล้วนะคะ"

"จองโต๊ะอาหาร?//จองทำไม" ทั้งสองถามแทบจะพร้อมกัน

"คลิปวีดีโอสั้นๆ พวกคุณอาจจะมองไม่เห็นภาพ ฉันอยากให้พวกคุณไปสัมผัสด้วยตัวเองค่ะ"

"โรงแรมนั้นฉันเคยไปมาแล้ว" ทรงอัปสรพูดแบบเย็นชา หรูกว่านั้นที่ต่างประเทศเธอก็เคยไปใช้บริการมาแล้ว

"คุณอาจจะเคยไปค่ะ แต่คุณคงไปทานข้าวเฉยๆ แต่ครั้งนี้ฉันอยากให้คุณไปสังเกตตามข้อมูลที่ฉันเขียนไว้"

"ทำไมฉันต้องไปกับเขาด้วย" เพราะเรื่องแค่นี้เธอไปคนเดียวก็ได้

"พวกคุณเป็นหุ้นส่วน เป็นผู้บริหาร เป็นคนที่จะตัดสินใจเรื่องนี้ เหตุผลนี้เพียงพอหรือยังคะ"

"ฉันต้องไปวันไหน"

"วันนี้ค่ะ"

"วันนี้?"

_______________________

Set มาเฟียมีทั้งหมด 5 เรื่องค่ะ

(๑) สิงขร [มาเฟียร้ายรัก]

(๒) สมิงดำ [มาเฟียร้ายรัก]

(๓) นเรศวร [มาเฟียร้ายรัก]

(๔) เจ้าเวหา [มาเฟียร้ายรัก]

(๕) นรสิงห์ [มาเฟียร้ายรัก]

เลือกอ่านคู่ไหน ก็ได้นะคะเพราะว่าแยกคู่พระนางชัดเจน แต่เรื่องแรกเริ่มที่สิงขรค่ะ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • นเรศวร [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 97 ตอนจบ

    ขุนราม [มาเฟียร้ายรัก] บทที่ 97 ตอนจบเธอไม่รู้หรอกว่าท่านให้มาบริษัททำไม แต่รินรดาก็แต่งตัวเรียบร้อยให้ดูเป็นหน้าเป็นตาของสามีตอนที่เขาพาเธอเดินเข้ามาพนักงานต่างก็ทำความเคารพกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา"เข้ามาด้วยกันสิคะ" หญิงสาวเห็นว่าพนักงานยืนรอลิฟต์กันหลายคน พอเธอกับสามีเดินเข้ามาพนักงานก็ไม่กล้าเข้ามาด้วย"เอ่อ..""เข้ามาสิ" จริงๆ ตอนที่เขาใช้ลิฟต์ไม่มีใครกล้าใช้ด้วย แต่พอท่านรองประธานอนุญาตให้เข้าพนักงานก็เข้าไปแต่ก็เข้าไม่กี่คนรินรดาขยับให้พนักงานยืนกันจนหลังเธอพิงเข้ากับร่างของขุนราม เขาเลยเอื้อมมือมาโอบเอวเธอไว้ พนักงานไม่ได้หันไปมองหรอกแต่มองผ่านผนังของลิฟต์ที่เป็นกระจก เห็นภาพนั้นแล้วต่างก็อมยิ้มไปตามๆ กันจนลิฟต์มาเปิดที่ชั้นผู้บริหาร ส่วนพนักงานออกไปก่อนหน้านั้นแล้ว"ไปห้องทำงานผมก่อน" เขาคิดว่าห้องประชุมคงยังไม่เรียบร้อย ค่อยพาเธอไปทีหลังแล้วกันแต่พอเข้ามาในห้องทำงานไม่นานเลขาก็มาตามให้เข้าห้องประชุมห้องประชุมใหญ่ของบริษัทณโยดม.."มานั่งนี่สิ" รัตติกาลที่นั่งตำแหน่งประธานบริษัทแทนสามีที่เสียไป เรียกให้ลูกชายมานั่งประจำที่ของนาง"ครับ?" ทุกครั้งที่เขาจะนั่งตรงนั้นก็ตอนท

  • นเรศวร [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 96

    คืนนั้นที่บ้านณโยดม..ก๊อกๆ "ที่รักครับ เปิดประตูให้ผัวหน่อย""คุณไปนอนห้องอื่นเลยค่ะฉันจะนอนกับลูก""คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ" ชายหนุ่มไม่ได้พูดเสียงดังเพราะกลัวแม่จะได้ยินว่าเธอไม่ให้เขาเข้าห้องด้วย"ถ้าคุณยังพูดอยู่แบบนี้เดี๋ยวลูกก็ตื่น" ขุนเขาเข้ามารอแม่ตั้งแต่เล่นกับคุณย่าเสร็จแล้ว จนตอนนี้แกนอนหลับรออยู่ในห้อง พี่เลี้ยงที่ดูแลก็ออกไปตอนที่เห็นคุณผู้หญิงกลับมา พอเข้ามาในห้องเธอก็จัดการล็อกห้องไม่ให้เขาตามเข้ามาได้"ไหนเราเคลียร์กันรู้เรื่องแล้วไง เปิดประตูให้ผมหน่อยนะ""รู้เรื่องแค่คุณน่ะสิคะ จำไว้ว่าอย่าทำแบบนี้อีก" ตอนที่รู้ว่าพี่ชายเปลี่ยนยาคุมกำเนิดเป็นยาบำรุงให้กับทรงอัปสรเธอก็รู้สึกโมโหมากพออยู่แล้ว พอมาเจอกับตัวยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ดุด่าว่ากล่าวเขามากมายแต่เธอต้องดัดนิสัยเขาบ้าง จะได้ไม่มีความคิดแผลงๆ แบบนี้อีก"คุณเมียครับ พรุ่งนี้ผัวต้องไปทำงาน""ก็ไปนอนห้องอื่นสิคะ" ในใจก็แอบรู้สึกสงสาร เพราะเขาต้องรับผิดชอบบริษัทที่ใหญ่โต ผ่านไปสักพักรินรดาก็รู้สึกว่าด้านนอกเงียบไปแล้ว เธอเลยเดินมาเปิดประตูดู "อุ้ยคุณ"เธอประเมินความอดทนของเขาต่ำไป เขารู้ว่าถ้าเงียบเธอต้องม

  • นเรศวร [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 95

    "ดูเหมือนคุณจะตกใจจังเลยนะคะ มีอะไรหรือเปล่า""ปะเปล่าา ผมจะมีอะไรล่ะก็นั่นน้องสาวผม""ไม่มีอะไรแน่นะคะ" เธอรู้ว่าเขาเป็นคนเจ้าแผนการ แถมสายตาที่มองเพื่อนดูมีพิรุธมันต้องมีอะไรแน่"อีกสามวันก็เป็นวันเกิดหุ้นส่วนอีกคนแล้ว" นเรศวรรีบเปลี่ยนเรื่องคุย เพราะถ้าไม่งั้นเขาคงถูกจับได้แน่ว่ามีส่วนร่วมแต่มีหรือที่ทรงอัปสรจะปล่อยไป เธอคิดว่ามันต้องมีอะไรสักอย่างแน่ ฉับพลันนั้นทรงอัปสรก็คิดอะไรขึ้นมาได้ เพราะเธอยังไม่ได้จัดกระเป๋าใหม่ แสดงว่าเจ้าสิ่งนั้นมันยังคงอยู่ในกระเป๋า"อยู่ไหนนะ""คุณอัปสรหาอะไรเหรอคะ""ลิปสติกน่ะสิคะว่าจะเติมสักหน่อย" เธอแสร้งทำเป็นค้นหาของในกระเป๋าแต่ระหว่างนั้นคนในห้องก็คุยเรื่องวันเกิดของหุ้นส่วนอีกคนเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจไปเรื่องอื่น"ปีนี้มันจะจัดวันเกิดเหรอ" พวกเขาไม่ค่อยให้ความสำคัญกับวันเกิดมากนักนอกจากครอบครัวจะเป็นคนจัดให้ แต่สำหรับคนที่ไม่มีครอบครัวก็ชวนเพื่อนมาดื่มกินที่บ้านหรือไม่ก็นัดกันที่ร้านอาหาร"มันบอกว่าจะมาสังสรรค์กันที่นี่แหละ""จะปิดร้านเลี้ยงวันเกิดเหรอ""ไม่ได้ปิดแต่มันบอกว่าถ้าลูกค้าคนไหนมาใช้บริการคืนนั้นมันจะเป็นคนเลี้ยงเอง""ไอเดียเจ๋งนี่""

  • นเรศวร [มาเฟียร้ายรัก]   บทท่ 94

    "ที่คุณพูดหมายความว่ายังไงคะ" หญิงสาวตามเขาขึ้นมาข้างบน แต่ยังไม่ถึงห้องทำงานเลยด้วยซ้ำเธอก็อดถามเรื่องนี้ไม่ได้"สวัสดีค่ะท่านรอง" แต่ก่อนที่เขาจะตอบเธอก็ได้ยินเสียงนี้ก่อน"?" ทั้งสองที่เดินตามกันมาหยุดแล้วก็มองคนที่กล่าวสวัสดีเมื่อครู่ ก่อนที่ขุนรามจะหันไปมองดูสายตารินรดา "คุณเป็นใคร""ชะเอมเป็นเลขาคนใหม่ที่มาแทนคุณเอวาค่ะ""เธอไปทำงานแผนกอื่น เปลี่ยนเลขาคนใหม่มา""แต่ชะเอมสอบสัมภาษณ์ผ่านแล้วนะคะ""ตกลงใครเป็นเจ้าของบริษัท""เอ่อ.."เขาไม่รอฟังคำอธิบายก็พาเธอเข้าไปในห้องทำงานก่อน"คุณยังไม่บอกฉันเลย""ผมไม่ได้หาเลขาเองเลยไม่รู้ว่าเขาส่งใครมา""ฉันไม่ได้หมายถึงผู้หญิงคนเมื่อกี้""อ้าวแล้วคุณหมายถึงอะไรล่ะ""เรื่องที่คุณบอกว่าเลขาคนเก่าอยู่โรงพักไงคะ""ไม่ใช่แค่เลขาคนเก่าหรอกที่อยู่โรงพัก ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นตอนนี้อยู่โรงพักทั้งหมด""อะไรนะคะ คุณส่งพวกนั้นให้กับตำรวจเหรอคะ""ข้อหาพยายามฆ่า""พยายามฆ่า?""ใช่ ผมแจ้งความจับทั้งหมดเลย ผมจะไม่ให้ใครทำร้ายคุณได้อีก""อย่าบอกนะคะว่าที่คุณรับสมัครพนักงานใหม่?""อืม" ชายหนุ่มตอบเธอไปโดยการเปล่งเสียงออกมาจากลำคอเบาๆ สายตามองดูผู้หญิ

  • นเรศวร [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 93

    "อื้อ" สะโพกงามเด้งรับเรียวลิ้นที่ตวัดเลียวนอยู่กึ่งกลางร่อง "อ่ะอ่ะอ่ะมะไม่ไหวแล้วค่ะ"ยิ่งได้ยินเสียงครวญครางมันก็ยิ่งทำให้เขาเร่งความเร็วที่กำลังทำอยู่ เพราะเขาต้องการเห็นเธอเสร็จก่อนโดยที่ยังไม่สอดใส่และเขาก็ทำได้สำเร็จ ชายหนุ่มค่อยๆ ชักนิ้วออกมาก่อนจะขยี้นิ้วให้เธอเห็นว่าเขาเก่งไหมที่ทำให้เธอหลั่งได้โดยที่ยังไม่เจอไม้เด็ด"ทำบ้าอะไรของคุณ""แต่ก่อนชอบแบบนี้ไม่ใช่เหรอ""ยังจำได้อยู่เหรอ นึกว่าจำแต่เรื่องผู้หญิงคนอื่นได้""ผู้หญิงคนอื่นที่ไหนไม่มีหรอก" ขณะที่เอ่ยร่างหนาก็ขยับขึ้นมา ก่อนจะคว้ามือเล็กมาโอบอุ้มความแข็งแกร่งเพื่อให้เธอวัดขนาด และในเวลาเดียวกันเขาก็จับมือเธอรูดชักขึ้นและลง"พูดเหมือนฉันจะเชื่อ"ใบหน้าหล่อคมเผลอเผยรอยยิ้มออกมา แต่ก็รีบซ่อนอาการนั้นไว้"ปล่อยนะ!" ถึงแม้จะรู้ว่าเขาคงไม่เก็บร่างกายตัวเองไว้ใช้แค่กับเธอ แต่ก็อยากได้ยินเขาพูดอะไรออกมาบ้าง แม้ว่ามันจะเป็นคำโกหก"จะจบเกมคนเดียวได้ยังไง แบบนี้ผมก็เคว้งคว้างน่ะสิ""คุณก็ไปปล่อยกับผู้หญิงพวกนั้นสิ""หึงผัวเหรอ""อึบ!" รินรดากัดฟันใช้แรงที่อุ้งมือ"ซี๊ดดดอ๊อยย ถ้ามันขาดจะมีใช้ไหม" ชายหนุ่มถึงกับสะดุ้ง"ไม่มีก็ไม่ใ

  • นเรศวร [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 92

    "ถึงแบบนั้นก็เถอะค่ะ ข้อหาพยายามฆ่ามันไม่รุนแรงเกินไปเหรอคะ" เอวาก็เป็นลูกของผู้มีฐานะท่านหนึ่ง ไม่ยอมเจอข้อหาอะไรแบบนี้ง่ายๆ อยู่แล้ว"รุนแรงเกินไป? เธอจะให้ฉันรอจนเมียกับลูกฉันเป็นอะไรไปงั้นเหรอ" ชายหนุ่มหันหน้ามาประชันกับผู้หญิงที่เขาไม่เคยเห็นค่าเลย"แต่ก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่ ถึงยังไงฉันก็ไม่ยอมรับข้อหานี้" ในขณะที่พูดใบหน้าเอวาก็เชิดขึ้นแบบหยิ่งผยอง"แสดงว่าเธอยอมรับแล้วว่าเป็นตัวบงการ คุณตำรวจได้ยินหรือยังครับ""เชิญคุณเอวาไปที่โรงพักด้วยครับ""ฉันยอมรับตอนไหน! คุณแม่คะช่วยเอวาด้วยค่ะ" เอวาที่ถูกตำรวจพาออกไปตะโกนเข้ามาขอให้แม่ของเขาช่วย "ถึงยังไงเอวาก็ไม่ยอมถูกจับ""และก็เชิญพนักงานทุกท่านขึ้นรถด้วยนะครับ" ตำรวจหันมาบอกพนักงานที่อยู่ในที่นี้ทั้งหมด และรถที่ตำรวจเตรียมมาก็คันใหญ่พอที่จะขนคนพวกนี้ไปได้"พวกเราไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะคะ เราไม่ได้แตะตัวภรรยาของท่านรองเลยค่ะ" ในคลิปกล้องวงจรปิดก็ไม่เห็นว่าคนพวกนี้ทำอะไร แค่มีแต่คำพูดที่วิพากษ์วิจารณ์"นั่นแหละมันคือข้อหาของพวกเธอ เห็นคนถูกทำร้ายร่างกายทำไมไม่ช่วย แถมยังยืนพูดให้ร้าย" เขาไม่คิดจะปล่อยใครไปง่ายๆ แน่ ยิ่งคนยืนมุงนี่แหละสำคัญเล

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status